แชร์

บทที่สาม สูญสิ้นความจำ

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-20 15:31:17

บทที่สาม

สูญสิ้นความจำ

ได้เวลาสำรวจเรือนร่างของฟางหรูหนิงอย่างจริงจัง

หญิงสาวนางนี้มีรูปร่างที่สมส่วนงดงามสมวัยสาว ทรวงอกอิ่มเต่งตึงใหญ่พอตัว เอวคอดกิ่วเล็กบางรับกับหน้าท้องแบนราบไร้ไขมัน แขนขาเล็กเรียว ผิวกายขาวนวลเนียนละเอียดนุ่มลื่นจนฉันอดจะลูบหลายรอบด้วยความชื่นชม

เมื่อก้มลงเพ่งมองใบหน้าในน้ำ เมื่อคืนฉันมองเห็นเพียงแวบก็รู้สึกได้ว่าร่างนี้มีใบหน้าที่สวยงามมาก แต่เมื่อมีเวลาได้มองชัดๆ ใบหน้าที่สะท้อนมาช่างสมบูรณ์แบบ นางมีใบหน้าที่งดงามน่าหลงใหลเปี่ยมเสน่ห์ของสตรีเพศ ดวงตากลมโตแวววาวรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงยามแย้มยิ้มช่างดูเย้ายวน

เรียกว่างามล่มเมืองก็คงไม่เกินจริง

งามขนาดนี้ อ๋องชิงหนานยังกล้าปฏิเสธได้ ชักอยากเห็นหน้าอีตาอ๋องนี่เสียแล้ว

อันอันเข้ามาช่วยฉันแต่งตัวก่อนจะพยุงเดินออกมาด้านนอกห้องหอ

ฉันหันมองโดยรอบ ตำหนักแห่งนี้ใหญ่โตเสียงจริง ผู้คนเดินกันอย่างมีระเบียบทั้งทหาร นางกำนัลและข้ารับใช้ แต่ไม่มีใครกล้าเดินมาเฉียดใกล้พวกเราสามคน

“พวกเราจะไปที่ใดกันหรือ” ฉันเอ่ยถามประโยคแรกขณะเดินจนเกือบถึงหน้าประตู

อันอันเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ก่อนที่ผิงอันซึ่งตั้งสติได้ดีกว่าจะตอบเสียงเศร้า

“ท่านอ๋องให้พระชายาไปพักฟื้นความจำที่ตำหนักนอกเมืองเพคะ พวกเราต้องนั่งรถม้าไปประมาณหนึ่งชั่วยาม พระชายานอนพักก่อนก็ได้นะเพคะ” ผิงอันช่วยพยุงฉันขึ้นไปนั่งกึ่งนอนบนรถม้าขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก

“เจ้าไม่ต้องเรียกข้าว่าพระชายาแล้ว เรียกข้าว่าคุณหนูเถอะ” ฉันบอกผิงอันซึ่งพยักหน้ารับหงอยๆ

“ท่านอ๋องใจร้าย ส่งคุณหนูไปนอกเมืองได้เช่นไร” อันอันร้องไห้ไปบ่นไปเบาๆ ขณะที่ผิงอันต้องคอยห้ามและปลอบว่า

“ข้าจะรีบแจ้งข่าวให้ฮองเฮาทรงทราบ”

“อย่าเพิ่งแจ้งข่าวบอกผู้ใด” ฉันรีบห้าม “เมื่อคนเราไม่มีความทรงจำ ก็จะไม่ถูกอดีตผูกมัดอีก สามารถก้าวไปสู่ชีวิตใหม่โดยไม่ต้องสนใจสิ่งใด ข้าอยากไปอยู่ในที่ใหม่ที่ไม่ต้องถูกฉุดรั้งอยู่กับอดีตเดิมๆ ดังนั้นการไปอยู่ที่ตำหนักนอกเมืองความจริงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี”

ผิงอันถึงกันชะงักค้างกับคำพูดของฉัน ส่วนอันอันซึ่งผูกพันกับฟางหรูหนิงมากกว่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“ดีเหมือนกันนะเจ้าคะคุณหนู พวกเราไปอยู่ที่อื่นกัน”

รถม้าขับเคลื่อนมาเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วยามจึงหยุดลงที่หน้าตำหนักขนาดกลางแห่งหนึ่ง ฉันค่อยๆก้าวลงมาหยุดยืนมองสำรวจโดยรอบ

อืม...ทำเลใช้ได้ ห่างไกลผู้คน ไม่พลุกพล่านวุ่นวาย

“ท่านอ๋องส่งนางกำนัลและข้ารับใช้มาให้สิบกว่าคน พวกเขาจะเข้าไปจัดเตรียมข้าวของกันก่อน พวกเราไปนั่งรอกันที่สวนด้านหน้าดีหรือไม่เจ้าคะ” ผิงอันซึ่งเป็นงานเป็นการกว่ามากจัดแจงความเรียบร้อย

ฉันค่อยๆเดินเล่นสำรวจโดยรอบตำหนัก

ไม่ใหญ่มาก ดูแลง่ายดี เหมาะแก่การพักผ่อนระหว่างค่อยๆ คิดว่าจะทำอะไรต่อไป

ฉันทบทวนข้อมูลที่เพิ่งได้รับ ร่างนี้มีครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ แต่เพราะอะไรกันจึงยอมแพ้ฆ่าตัวตายง่ายๆอย่างนั้น เพียงเพราะผู้ชายคนเดียวเช่นนั้นหรือ ‘อ๋องชิงหนาน’ซึ่งฉันยังไม่เคยเห็นหน้า

“เสี่ยวหนิงงงง” เสียงตะโกนเรียกดังลั่นมาจากหน้าประตู

ฉันหันไปมองชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามาตรงหน้าด้วยชุดที่ดูคล้ายหมอหลวง ชายหนุ่มยืนหอบอยู่พักใหญ่ขณะที่ฉันได้โอกาสพิจารณารูปร่างหน้าตา

อืม...งานดี ผิวขาวเนียน หน้าใสกิ๊ก ตาเรียวตี่ จมูกโด่ง ถึงจะไม่หล่อคมสัน จัดว่าอยู่ในแนวโอปป้าเกาหลี

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้างเสี่ยวหนิง ข้าได้ข่าวมาว่าเจ้าป่วยข้าจึงรีบไปที่ตำหนักอ๋องชิงหนาน แต่คนที่นั่นบอกว่าเจ้าออกเดินทางมาที่นี่แล้วข้าจึงรีบขี่ม้าตามมา เจ้า...เจ้าเป็นอย่างไร” ชายหนุ่มพูดไปหอบไป น่าจะวิ่งมาไกลอยู่มาก

“คุณหนูสูญสิ้นความจำทั้งหมดแล้วเจ้าค่ะ” อันอันเร่งเดินเข้ามาพูดเมื่อฉันมองไปอย่างขอความช่วยเหลือ

“ท่านนี้คือคุณชายไป่ ‘ไป่ฮั่วถิง’ อยู่จวนสกุลไป่ติดกับจวนสกุลฟางของเราเจ้าค่ะ คุณหนูบอกบ่าวว่าคุณชายเป็นเพื่อนเล่นกับคุณหนูตั้งแต่อายุ7หนาว ตอนที่บ่าวมา คุณหนูกับคุณชายสนิทสนมกันมากเจ้าค่ะ” อันอันแนะนำชายหนุ่มตรงหน้า

ฉันหันไปมองหน้าหล่อแบบโอปป้าของชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง อ้อ...เพื่อนเล่นวัยเด็กนี่เอง

                “ไป่ฮั่วถิง” ฉันเรียกชื่อคนตรงหน้าเบาๆ

                “ถิงเกอเกอ” ชายหนุ่มรีบท้วง “ปกติเจ้าจะเรียกข้าว่า’ถิงเกอเกอ’ ส่วนข้าจะเรียกเจ้าว่า‘เสี่ยวหนิง’”

                “ถิงเกอเกอ” ฉันลองเรียกดู

                “ใช่แล้วเสี่ยวหนิง” ชายหนุ่มดูดีใจมาก

                “ให้ข้าลองตรวจดูเจ้าอีกครั้งนะ”

ฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะกลางสวนเพื่อให้ชายหนุ่มได้ลองตรวจสอบอีกครั้งตามที่ร้องขอ จะตรวจอีกกี่หมอ ตรวจอีกกี่คน ฉันก็ไม่มีความทรงจำของร่างนี้หลงเหลืออยู่เลยเช่นเดิม

“เจ้าจดจำผู้ใดไม่ได้เลยเช่นนั้นหรือ” ชายหนุ่มยังพยายามสอบถาม

ฉันได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ พยายามใช้สีหน้าเศร้าสร้อยเพื่อเรียกคะแนนสงสาร อย่าลืมว่าฉันเป็นดาราเจ้าบทบาท เรื่องสีหน้าฉันสามารถเปลี่ยนได้เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้าทีเดียว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อยากเป็นดาราไม่อยากเป็นชายา   บทที่สาม สูญสิ้นความจำ

    บทที่สาม สูญสิ้นความจำได้เวลาสำรวจเรือนร่างของฟางหรูหนิงอย่างจริงจังหญิงสาวนางนี้มีรูปร่างที่สมส่วนงดงามสมวัยสาว ทรวงอกอิ่มเต่งตึงใหญ่พอตัว เอวคอดกิ่วเล็กบางรับกับหน้าท้องแบนราบไร้ไขมัน แขนขาเล็กเรียว ผิวกายขาวนวลเนียนละเอียดนุ่มลื่นจนฉันอดจะลูบหลายรอบด้วยความชื่นชมเมื่อก้มลงเพ่งมองใบหน้าในน้ำ เมื่อคืนฉันมองเห็นเพียงแวบก็รู้สึกได้ว่าร่างนี้มีใบหน้าที่สวยงามมาก แต่เมื่อมีเวลาได้มองชัดๆ ใบหน้าที่สะท้อนมาช่างสมบูรณ์แบบ นางมีใบหน้าที่งดงามน่าหลงใหลเปี่ยมเสน่ห์ของสตรีเพศ ดวงตากลมโตแวววาวรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงยามแย้มยิ้มช่างดูเย้ายวนเรียกว่างามล่มเมืองก็คงไม่เกินจริงงามขนาดนี้ อ๋องชิงหนานยังกล้าปฏิเสธได้ ชักอยากเห็นหน้าอีตาอ๋องนี่เสียแล้วอันอันเข้ามาช่วยฉันแต่งตัวก่อนจะพยุงเดินออกมาด้านนอกห้องหอฉันหันมองโดยรอบ ตำหนักแห่งนี้ใหญ่โตเสียงจริง ผู้คนเดินกันอย่างมีระเบียบทั้งทหาร นางกำนัลและข้ารับใช้ แต่ไม่มีใครกล้าเดินมาเฉียดใกล้พวกเราสามคน“พวกเราจะไปที่ใดกันหรือ” ฉัน

  • อยากเป็นดาราไม่อยากเป็นชายา   บทที่สอง เป็นชายา2

    บทที่สอง เป็นชายาฉันเริ่มเห็นภาพเล่ห์กลในการจับผู้ชายสมัยนี้“เมื่อวานเป็นพิธีสมรสของคุณหนูเจ้าค่ะ แต่เมื่อคืนท่านอ๋องไปอยู่ที่เรือนของอนุจินทั้งคืนไม่ได้มาที่ห้องหอนี้เลย บ่าวเห็นคุณหนูนอนร้องไห้อีกทั้งยังดื่มยาชามนั้นลงไปจึงเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องไม่กล้าจากไปไหน จนกระทั่งเมื่อเช้านี้เจ้าค่ะ” บ่าวน้อยเล่ามาถึงตอนนี้ก็เอ่ยถาม“ยาชามนั้นคือสิ่งใดเจ้าคะ”ฉันมองหน้าสงสัยของบ่าวน้อย ก่อนจะตอบด้วยคำพูดที่คิดว่าน่าจะต้องใช้ไปอีกนาน“ข้าไม่รู้ ข้าจำไม่ได้”สาวน้อยอีกนางที่เห็นเมื่อเช้าเดินถือชามยาเข้ามา “พระชายา ดื่มยานะเพคะ”อันอันเข้ามาช่วยประคองฉันลุกขึ้น ขณะแนะนำสาวน้อยอีกนาง“พี่ผิงอันเจ้าค่ะคุณหนู พี่ผิงอันเป็นนางกำนัลที่ฮองเฮาส่งให้มารับใช้ข้างกายคุณหนูตั้งแต่สามปีที่แล้ว พวกเราอยู่ในวังกันสามคนมาโดยตลอดเจ้าค่ะ”ฉันหันไปมองหน้าผิงอันอืม..ดูมีความเรียบร้อยนุ่มนวลกว่าอันอันอยู่มากสมกับเป็นนางกำนัลในวัง“หม่อมฉันส่งข่าวไปแจ้งฮองเฮาและท่านอ๋องแล้วนะเพคะ อีกสักครู่ฮองเฮาจะส่งหมอหลวงมาตรวจอีกครา”ฉันพยักหน้า เอาสิ ตรวจให้แน่ใจว่าฉันจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆหลังจากส่งหมอหลวงอีกหลายชุดเข้ามาตรวจ ท

  • อยากเป็นดาราไม่อยากเป็นชายา   บทที่สอง เป็นชายา

    บทที่สอง เป็นชายา“ช่วยด้วย...กรี๊ด...ตามหมอเร็ว... คุณหนู... พระชายา..เร็วเข้า...“ เสียงร้องตะโกนโวยวายดังขึ้นในตำหนักของอ๋องชิงหนานตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง พร้อมกลุ่มคนที่วิ่งสับสนวุ่นวายอยู่ในห้องหอของพระชายาที่เพิ่งแต่งเข้ามาฉันรู้สึกตัวได้สักพักแล้ว แต่ยังนอนนิ่งเฉยฟังเสียงความอลหม่านเพราะต้องการเก็บข้อมูล ความทรงจำในร่างนี้ตอนนี้ว่างเปล่ามาก ฉันจำไม่ได้แม้กระทั่งว่าร่างนี้ชื่ออะไร“ท่านหมอ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”“พระชายากินสิ่งใดเข้าไป พวกข้ายังไม่สามารถตรวจสอบได้ ตอนนี้พบเพียงร่างกายอ่อนเพลียแต่ไม่คล้ายถูกพิษ เจ้าต้มยาให้พระชายาดื่มสักไม่กี่วันน่าจะดีขึ้น” เสียงชายสูงอายุคนหนึ่งตอบมาเบาๆหลังจากนั้นก็มีเสียงคนเดินออกไปจากห้องฉันค่อยๆลืมตามองรอบห้องช้าๆ“คุณหนู...พระชายา...ท่านฟื้นแล้ว” สาวน้อยคนเดิมวิ่งมาจับมือฉันอย่างดีใจ“บ่าวคิดว่า...ฮือ ฮือ ฮือ” พูดไปปาดน้ำตาไปอย่างน่าสงสารฉันคิดถึงตอนแสดงละครเรื่องหนึ่งที่เล่นเป็นคนความจำเสื่อม จึงพยายามแสดงสีหน้าเฉยชาออกมา ก่อนจะเอ่ยถามแบบไม่รู้จักกัน“เจ้าเป็นใคร”สาวน้อยเงยหน้ามองฉันอย่างพิจารณา “คุณหนู บ่าว...อันอันอย่างไรเล่าเจ้าคะ”“อ

  • อยากเป็นดาราไม่อยากเป็นชายา   เจ้าจะได้ตามที่เลือก

    บทที่หนึ่ง ฉันคิดก่อนจะตัดสินใจ“ได้ ฉันยินยอม แต่...” ฉันยื่นข้อเสนออย่างมีเงื่อนไข“ยมทูตท่านนี้ทำผิด ต้องคอยดูแลและทำตามที่ฉันร้องขอ ได้หรือเปล่า” ฉันชี้ไปทางยมทูตหน้าอ่อนที่ยังยืนทำหน้าบิดเบี้ยวอยู่ด้านข้าง“เจ้าร้องขอมากเกินไป” ยมทูตหน้าอ่อนตอบทันที“ข้าไม่สามารถทำตามที่เจ้าร้องขอได้ แต่ข้าจะหาเวลามาดูแลเจ้า หากมีสิ่งใดที่พอจะช่วยเหลือได้ข้าจะพยายาม”“ได้” ฉันตอบตกลงทันที เพราะคิดอยู่แล้วว่าร้องขอมากไป แค่ได้แกล้งยมทูตหน้าเบี้ยวคนนี้สักนิด ฉันก็ดีใจแล้วโทษฐานนำวิญญาณฉันผิดจนฉันต้องกลายมาเป็นใครก็ไม่รู้!“ถ้าเช่นนั้น เจ้าเข้าไปในร่างของหญิงสาวนางนี้ได้เลย รุ่งขึ้นเจ้าจะตื่นมาเป็นนาง” ยมทูตมีอายุรีบสรุปฉันก้าวเข้าไปยังร่างที่นอนคว่ำหน้าบนเตียงช้าๆ“อ้อ...เกือบลืม มีกฎข้อหนึ่งที่ข้าสามารถอนุญาตให้เจ้าเลือกได้ ปกติเมื่อเจ้าเป็นนางแล้ว เจ้าจะต้องลืมความทรงจำในร่างที่แล้วและเหลือเพียงความทรงจำของหญิงสาวนางนี้เท่านั้น แต่ข้าให้เจ้าเลือกได้ว่า เจ้าจะใช้ชีวิตในร่างนี้ด้วยความทรงจำของนาง หรือเจ้าจะเก็บความทรงจำเดิมของเจ้าเอาไว้ แต่หากเจ้าเก็บความทรงจำเดิมไว้ ร่างนี้ก็จะสูญเสียความทรงจำท

  • อยากเป็นดาราไม่อยากเป็นชายา   บทที่หนึ่ง เป็นดารา2

    บทที่หนึ่ง เป็นดารายมทูตเบนทำหน้ายุ่งยากใจ หันมามองสีหน้าที่ยังมึนงงของฉัน“เป็นถึงดาราดัง ทำไมสวดแค่สามวันแล้วรีบเผาเลยล่ะ” เสียงซุบซิบนินทาจากแขกที่มาร่วมงานดังขึ้นข้างๆฉันรีบพุ่งตัวลอยไปฟังใกล้ๆ“ก็พ่อแม่นางอยู่ต่างประเทศ ต่างคนต่างมีลูกใหม่กันแล้ว ไม่มีใครยอมบินมาจัดงาน ปล่อยให้พวกเราจัดการกันเอง ผู้ชายทั้งหลายของนางก็หลบหน้าหลบตาไม่อยากแสดงตัว ทีมงานละครก็กำลังโดนตำรวจสอบสวนสาเหตุการตายกันอยู่ ทุกคนต่างไม่มีเวลา ก็เลยรีบสวดรีบเผาให้เสร็จๆไป” ทีมงานละครคนหนึ่งที่ฉันคุ้นหน้าตอบไขข้อข้องใจ“ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ไม่มีใครสนใจฉันเลยหรือนี่” ฉันก้มหน้าน้ำตารื้นไหลด้วยความเศร้าใจ ใช่แล้ว พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ฉันเพิ่งอายุ17ปี พ่อย้ายไปอยู่ออสเตรเลียมีครอบครัวและลูกใหม่ที่นั่น2คน ส่วนแม่ย้ายไปอยู่อเมริกากับสามีตาน้ำข้าว มีลูกใหม่อีก2คน ฉันจึงอยู่ที่นี่คนเดียว ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวด้วยอาชีพนักแสดงซึ่งหาเพื่อนแท้ได้ยาก แม้แต่ชายหนุ่มที่เคยคบหาก็ไม่มีใครมาช่วยจัดงานให้ฉัน“เจ้าไม่ต้องร้องไห้ แม้ร่างของเจ้าจะเผาไหม้ไปแล้ว แต่ข้ามีหนทางมาเสนอ” เสียงยมทูตมีอายุซึ่งโผล่มาปรากฏกายอยู่เค

  • อยากเป็นดาราไม่อยากเป็นชายา   บทที่หนึ่ง เป็นดารา

    บทที่หนึ่งเป็นดารา“คัท”เสียงตะโกนดังจากผู้ช่วยผู้กำกับราวกับเสียงสวรรค์ ฉันที่กลิ้งขลุกฝุ่นอยู่รีบลุกขึ้นจากพื้น ใช้มือปัดตามเนื้อตามตัวขณะเดินไปหาผู้กำกับใหญ่“คุณฟ้า ฉากนี้เล่นได้ดีมาก” ผู้กำกับเอ่ยชม ฉันยิ้มนิดๆขณะเอ่ยขอบคุณ“เดี๋ยวเปลี่ยนชุดแล้วถ่ายฉากขี่ม้าต่อเลย” ผู้ช่วยหันมามองฉัน พยักหน้าให้เดินตามเข้าไปเปลี่ยนชุดในกระโจมที่ตั้งเรียงกันเป็นแนวฉันชื่อ ‘หยาดฟ้า’เป็นดาราที่แม้อายุถึง30ปีแล้วแต่ยังมีชื่อเสียงโด่งดัง ฉันเข้าวงการมาตั้งแต่ยังอยู่ในวัยใส เริ่มเล่นละครเรื่องแรกแนววัยเรียนวุ่นรัก ก่อนจะเปลี่ยนแนวมาเรื่อยตามอายุที่เพิ่มขึ้น ทั้งละครรักโรแมนติก ดราม่าตบจูบ ครอบครัวว้าวุ่น แต่เรื่องที่ทำให้ชื่อเสียงของฉันโด่งดังจนได้รับรางวัลกลับเป็นแนวบู๊ล้างผลาญ หลังจากนั้นฉันก็ได้รับการเสนอบทบู๊ต่อมาอีกหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องที่กำลังถ่ายทำในตอนนี้ด้วย“เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่ต่อ” ฉันก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าของผู้กำกับใหญ่เพื่อเตรียมตัวถ่ายทำฉากต่อไป“เอาล่ะ ฉากนี้เป็นตอนที่นางเอกขี่ม้าหนีคนร้าย ‘ฟ้า’ ขี่ม้าวนไปเรื่อยๆเดี๋ยวกล้องจะวิ่งตาม ส่วนสีหน้าใกล้ๆเดี๋ยวเราไปถ่ายในสตูแล้วมาตัดต่อใส่เ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status