LOGINบทที่สี่
เพื่อนเล่นวัยเด็ก
ชายหนุ่มหน้าสลดลงเมื่อเห็นสีหน้านั้นของฉัน ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนท่าที
“ไม่เป็นไร พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ข้าจะช่วยเจ้าฟื้นคืนความทรงจำเอง”
วันรุ่งขึ้น ไป่ฮั่วถิงที่นัดจะมารับไปฟื้นความจำมารอฉันด้วยชุดสีน้ำเงินสดใสซึ่งดูหล่อกว่าชุดหมอหลวงที่ดูแก่กว่าวัยแบบเมื่อวานมากนัก
เขาพาฉันนั่งรถม้าเข้าเมืองจนมาหยุดอยู่ที่หน้าจวนใหญ่หลังหนึ่ง แล้วจึงจูงมือฉันเดินอ้อมไปด้านหลัง
“ที่นี่คือจวนสกุลไป่ ท่านพ่อของข้าคือราชครูขององค์ชายใหญ่และองค์ชายรอง ลูกพี่ลูกน้องของเจ้า” ชายหนุ่มเริ่มเล่าเรื่องราว
“อ้อ...ข้าลืมไป เจ้าจำไม่ได้ องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองคือบุตรของฮองเฮาซึ่งเป็นท่านอาหญิงของเจ้า จึงเป็นลูกผู้พี่ของเจ้า”
“ข้าเป็นบุตรชายคนเล็กของท่านพ่อ จึงค่อนข้างซุกซน ตอนที่พวกเราพบกันข้ากำลังปีนกำแพงเพื่อเก็บผลทับทิมของบ้านเจ้า ได้ยินเสียงร้องไห้ดังออกมาจากมุมกำแพง ข้าสงสัยจึงกระโดดลงไปทางฝั่งบ้านของเจ้า แล้วก็พบเด็กน้อยคนหนึ่งนั่งร้องไห้หน้าตาดูไม่ได้เลย” ชายหนุ่มเล่าพลางล้อเลียน ขณะที่ฉันทำหน้ายู่ยี่แล้วแกล้งสะบัดหน้างอนไปอีกทาง
“โอ๋...เสี่ยวหนิง เจ้าอย่างอนเลยนะ”ชายหนุ่มขยับมาตรงหน้าอย่างง้องอน
“ตอนนั้นเจ้าตัวเล็กนิดเดียว พวกเราคุยกันอยู่นาน จนข้ารู้ว่าแม่ของเจ้าเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ท่านพ่อของเจ้าตั้งฮูหยินรองขึ้นเป็นฮูหยินใหญ่แทน ส่วนเจ้าก็โดนทอดทิ้งไม่มีผู้ใดสนใจ เจ้าจึงเสียใจหลบมาร้องไห้อยู่ตรงนี้ทุกวัน จนกระทั่งข้ามาพบเข้า”
“นับตั้งแต่วันนั้น ข้าจึงให้เจ้าเรียกข้าว่า’ถิงเกอเกอ’ ข้าบอกเจ้าว่า ไม่มีใครสนใจเจ้าก็ไม่เป็นไร เจ้ามีข้าคนนี้ ข้าจะคอยดูแลเจ้าเอง พวกเรานัดพบกันทุกวันที่ใต้ต้นทับทิมด้านหลังจวน ข้ามักจะนำอาหารและขนมอร่อยๆมาให้เจ้า เพราะคนในจวนไม่มีใครสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าเลย พวกเราวิ่งเล่นกันที่ด้านหลังจวนนี่จนกลายเป็นสวนหลังบ้านของพวกเราไปแล้ว เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปดูเผื่อเจ้าจะจำได้” สิ้นคำนั้น ชายหนุ่มก็โอบเอวพาฉันลอยไปบนกำแพง ก่อนจะพาลอยข้ามมาอีกฝั่ง
โอ้โฮ...วิชาตัวเบานี่ลอยกันง่ายๆอย่างนี้นี่เอง
“นี่อย่างไรต้นทับทิม แล้วก็ตรงนี้ที่เจ้ามานั่งร้องไห้อยู่” ชายหนุ่มเดินไปชี้ตรงโน้นตรงนี้อย่างพยายามทบทวนความจำให้ฉัน
ฉันหันมองไปรอบๆ อยู่ๆก็มีภาพเด็กน้อยสองคนวิ่งเล่นกันแวบๆเข้ามาในหัว นี่คงจะเป็นพรที่ยมทูตเบนให้ไว้ว่าหากมีผู้เปิดความทรงจำ ฉันจะจดจำเรื่องราวนั้นได้
“ส่วนนี่ คือ’เรือนหรู’ เรือนของเจ้า ภายหลังจากที่เจ้าโดนทิ้งขว้างอยู่ในเรือนข้างไม่มีผู้สนใจอยู่หลายปี เจ้าจึงเอ่ยขอสร้างเรือนของตนเองอยู่ที่ห่างไกลท้ายจวน ฮูหยินใหญ่ในตอนนั้นเห็นดีเห็นงามเพราะจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเจ้าให้รกหูรกตาอีก ท่านพ่อของเจ้าจึงสร้างเรือนนี้ให้เมื่อเจ้าอายุได้10หนาว อันอันมาอยู่รับใช้เจ้าตั้งแต่ตอนนั้น” ชายหนุ่มจูงมือฉันมาหยุดที่หน้าเรือนขนาดเล็กเก่าโทรม
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองป้ายเก่าสีซีดจางแผ่นนั้น แล้วอ่านชื่ออีกครั้ง’เรือนหรู’
แหม... ร่างเก่าเป็นคนจีนอาจไม่รู้สึก แต่คนไทยแท้อย่างฉันอดคิดไม่ได้ว่าช่าง ‘หรู’ สมชื่อจริงๆ
“พวกเรามักจะใช้เวลาที่นี่ด้วยกัน เจ้าเขียนบทกลอน ข้าท่องตำรา เจ้าดีดพิณ ข้าเป่าขลุ่ย เจ้าปักผ้า ข้าฝึกวิชา พวกเราผ่านวันเวลากันมาตั้งหลายปี เจ้าจำไม่ได้เลยเชียวหรือ” ประโยคสุดท้ายของชายหนุ่มออกอาการน้อยใจ
ฉันมองสิ่งต่างๆที่เขาพยายามชี้ชวนแล้วไม่มีภาพใดแวบเข้ามาในหัวอีก จึงไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จริงทั้งหมดหรือไม่ แต่ก็ทำท่าทางเหมือนพยายามนึกคิดและสุดท้ายก็ทำหน้าเศร้าและส่ายหน้าให้ชายหนุ่มเบาๆ
ชายหนุ่มหน้าใสจูงมือฉันไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่งกลางห้อง
“เจ้าชอบนั่งโต๊ะตัวนี้ ตอนนั้นตัวเจ้าเพิ่งจะเลยโต๊ะมาได้นิดเดียว ข้าจึงอุ้มเจ้าให้ขึ้นมานั่งบนโต๊ะ พวกเราวาดภาพกัน ถึงแม้ว่าจะดูไม่ออกว่าเป็นภาพอันใด แต่ข้าก็เก็บทุกภาพที่เจ้าวาดเอาไว้ เดี๋ยวข้าจะแวะไปเอาที่ห้องมาให้เจ้าดู”
ไป่ฮั่วถิงยังพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดด้วยความพยายามที่จะทบทวนความจำของฟางหรูหนิง
อืม...เขามีความทรงจำวัยเด็กกับร่างนี้มากมายทีเดียว ช่างเป็นเพื่อนวัยเด็กผู้แสนดี ฉันคงจะถามข้อมูลในช่วงวัยก่อนที่จะเข้าวังจากเขาได้มากกว่าอันอัน
ฉันแสดงสีหน้าครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เขารู้สึกว่าฉันกำลังทบทวนความจำอยู่
“แล้วเจ้าจำคำสัญญาก่อนที่เจ้าจะเข้าวังได้หรือไม่”จู่ๆ ชายหนุ่มก็ปรับสีหน้าเป็นจริงจังก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้า
ฉันเงยหน้าไปมองหน้าขาวใสของเขาซึ่งก้มลงมาใกล้เสียจนแทบจะเห็นขนตา
ว้าว...ผิวขาวใสจริง เนียนกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก นี่ถ้าอยู่ในยุคที่ฉันจากมา คงโดนทาบทามไปเป็นไอดอล นักร้องเคป๊อป หรือนักแสดงหนุ่มน้อยแน่นอน
บทที่ยี่สิบแปดความทรงจำฉันถามด้วยความหมั่นไส้ ด้วยตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องที่เขาเล่าไม่ได้ส่งสัญญาณการโกหกใดมาให้สัมผัสได้เลย “ข้ามิได้กลั่นแกล้งรังแกเจ้าแต่อย่างใด” ชายหนุ่มพยายามจะแก้ตัว “ถ้าเช่นนั้นท่านก็ห้ามเข้ามารังแกข้าในยามค่ำคืนอีก” ฉันพูดด้วยสีหน้าหมั่นไส้ แล้วเดินเชิดออกจากประตูโดยไม่สนใจเขาอีกเลยคืนนั้นชายหนุ่มไม่กล้าย่องเข้ามาตามที่ฉันข่มขู่ไว้ ฉันนอนด้วยความกระสับกระส่าย จะบอกว่าคิดถึงก็บอกไม่ถูก ติดใจหรือก็พูดยาก เป็นความรู้สึกที่ตัวฉันเองก็ไม่สามารถเข้าใจได้ แต่เรื่องราวต่างๆที่เขาเล่ามามันช่างซับซ้อนจนฉันปวดหัวไปหมด&
บทที่ยี่สิบเจ็ด บอกความจริงมาหลังจากนอนครุ่นคิดรวบรวมข้อมูลต่างๆที่ได้มา ฉันก็ยังมีเรื่องน่าสงสัยอีกหลายเรื่อง อ๋องชิงหนานบอกว่ามีชายหนุ่มหลงใหลในตัวฟางหรูหนิงมากมาย ข้อนี้ฉันเชื่อเพราะร่างนี้งดงามจนบอกได้ว่าล่มเมืองของแท้ แต่ที่ฉันไม่แน่ใจก็คือเขาบอกว่าหนึ่งในนั้นก็คือเขา นอกเหนือจากยามที่เขาเข้ามาคลอเคลียฉวยโอกาสกับเรือนร่างอันงดงามยามค่ำคืนแล้ว เขาก็แทบจะไม่มาให้เห็นหน้าหรือพูดคุยคำหวานให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ ในขณะที่ชายหนุ่มคนอื่นๆ ยังมีคำมั่นสัญญาที่จริงใจชัดเจน ครั้งแรกที่ฉันตื่นขึ้นมาในร่างนี้ ฉันตั้งใจไว้ว่าจะไม่สนใจเรื่องในอดีตของร่างนี้แต่อย่างใด
บทที่ยี่สิบหกขอผ่อนคลายกับเจ้าวันนี้เขาเร่งร้อนมาก เพียงไม่นานฉันก็ถึงฝั่งฝันไปหนึ่งรอบ เขายังไม่ยอมหยุดมือ ขยับมือและลิ้นโดยฉันไม่สามารถหยุดเสียงครางกระเส่าได้ ฉันสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่แข็งแกร่งถูไปมาที่เรียวขา ฉับพลันฉันก็ตัดสินใจโดยไม่หยุดคิด ฉันเอื้อมมือไปสัมผัสแก่นกายที่แข็งตึงของเขา ขยับมือขึ้นลงช้าๆก่อนที่จะเพิ่มความเร็วจนเขาหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วร้องครวญครางจนสุดกลั้น “ให้หม่อมฉันช่วยนะเพคะ” ฉันพูดขณะที่มือยังเร่งความเร็วไม่หยุด “เจ้าทำเช่นนี้ ข้า...ข้า....” เขาร้องออกมาจนฟังแทบไม่ออก ก่อนที่น้ำสีขาวขุ่นจะไหลล้นจนเลอะเต็มมือ&nbs
บทที่ยี่สิบหกขอผ่อนคลายกับเจ้า“แล้วท่านมาลอบทำร้ายเขาทำไม” ฉันถามขึ้นบ้าง “เพราะเจ้า” เขาตอบด้วยคำที่ทำให้ฉันถึงกับตะลึง “เพราะข้า หมายความว่าอย่างไร” “เจ้าเกลียดเขา ยามข้าลอบเข้ามาดู เจ้ามีสีหน้าเศร้าสร้อยเมื่ออยู่ที่นี่ เจ้าดูไม่มีความสุข ข้าจึงคิดว่าฆ่าเขาทิ้งเสีย เจ้าก็จะเป็นอิสระ ถึงตอนนั้นเจ้าจะสามารถตัดสินใจเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร” ฉันสบตามองหาความจริงหรือคำโกหกแต่ไม่มีสัญญาณว่าคำพูดนี้ของเขาโกหก 
บทที่ยี่สิบห้าลอบฆ่าทำไม ถัดจากวันนั้นฉันก็ไม่พบหน้าอ๋องหนุ่มอีกเลย เขาหลบลี้หนีหน้าโดยให้ไป่ฮั่วถิงมาดูแลฉันทั้งวัน ฉันไม่คิดจะสนใจเขา แต่ก็มีแอบคิดถึงค่ำคืนสุขสมของฉันคนเดียวไม่ได้ ไป่ฮั่วถิงสมกับเป็นเพื่อนรักวัยเด็กที่แสนดี เขาสรรหาเรื่องมาเล่า สรรหาขนมอร่อย และกิจกรรมยามว่างมาให้ฉันแก้เหงาได้ทุกวัน ฉันไม่มีความรู้สึกเตือนมาว่าเขาโกหกใดใด จึงวางใจและเชื่อใจในทุกสิ่งที่เขาเล่าจนได้รับรู้เรื่องราวต่างๆอีกมากมาย ทหารและองครักษ์ที่ส่งออกไปตามไล่ล่าคนร้ายกลับมาโดยไม่สามารถจับคนร้ายได้แม้แต่คนเดียว&
บทที่ยี่สิบสี่ฝันหรือจริง เช้านี้ฉันตื่นสายมาก เมื่อคืนรู้สึกว่าฝันอีกแล้ว เป็นฝันที่ยาวนานกว่าคืนก่อนๆ ชายหนุ่มคนเดิมมาเริงรักกับฉันอย่างอ้อยอิ่ง ฉันสัมผัสได้ถึงความเหมือนจริงมากจนไม่อยากจะเชื่อ เมื่อตื่นขึ้นก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนออกกำลังกายมาทั้งคืน อันอันเข้ามาช่วยฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันขอผ้ามาเช็ดเนื้อตัวด้วยตนเองเพราะเริ่มสงสัยบางอย่างจนสายตาสะดุดกับรอยมือบนทรวงอกทั้งสองข้าง เมื่อคืนฉันจำได้ว่าชายหนุ่มขยำขยี้นมของฉันอยู่เนิ่นนานจนฉันแทบขาดใจ คราวนี้ฉันไล่สายตาอย่างละเอียด ส่วนสงวนของฉันยังมีน้ำฉ่ำค้างอยู่ และอาการบวมที่น่าจะเกิดจากการลูบไล้หนักมือ ฉันแน่







