“กูยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย รีบมาช่วยกูเร็วๆ สิวะ”
จิรายุที่โวยวายอยู่ในห้องน้ำข้างห้องครัว ทุบประตูร้องขอความช่วยเหลือ อิงวิฬาร์ที่รู้ทันและระวังตัวเรื่องการถูกลวนลามอยู่แล้ว บิดาเคยสอนการป้องกันตัวมาบ้างไว้ใช้ยามจำเป็น แต่ก็ไม่คิดว่าจะจำเป็นเร็วขนาดนี้ ขณะที่เธอกำลังยืนล้างแก้วน้ำอยู่ก็มีชายหนุ่มพุ่งมากอดจากทางด้านหลัง จึงเจอท่าศอกกระทุ้งท้องเข้าให้ หนึ่งในเพื่อนของกฤตธวัชลงไปงอตัวเป็นกุ้งอยู่กับพื้น
“แล้วใครจับมึงขังไว้ในนี้วะ”
“เอ่อ…”
จิรายุอยากจะเล่าใจแทบขาดใจแต่ก็ทำได้แค่ปิดปากเงียบ เดิมทีเขาอยากจะลองใจเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลอย่างกฤษธวัช เพราะรู้ดีว่าเพื่อนเป็นคนปากแข็งไม่ตรงกับใจแค่ไหน จึงเข้ามาลองใจเล่นๆ เพราะเห็นสายตาไม่พอใจเวลาเพื่อนคนอื่นเอ่ยปากถึงเด็กสาวหน้าตาน่ารักผมแก้มซาลาเปาคนนั้น
แต่ก็ไม่คิดว่าอาการเมามายจะทำให้สะดุดพรมเช็ดเท้าหน้าห้องครัว พุ่งถลาไปทางหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงอ่างล้างจาน แทนที่เธอจะหันกลับมารับเขาแต่กลับกลายเป็นว่าได้ศอกมากระทุ้งหน้าท้องแทน แถมเธอยังลากเขาเข้าไปขังไว้ในห้องน้ำ และสั่งให้ปิดปากเงียบห้ามบอกใครว่าเธอเป็นคนทำ ไม่อย่างนั้นเธอจะร้องให้คนช่วย และแน่นอนว่าชายหนุ่มอกสามศอกอย่างจิรายุต้องตกเป็นจำเลยสังคมอย่างแน่นอน ถ้าเธอบอกว่าเขาลวนลามเธอ
จิรายุจึงทำได้เพียงร้องเรียก รอคนมาช่วยอย่างที่กฤตธวัชได้ยิน…
“แล้วตกลงมึงเข้าไปทำอะไรในห้องน้ำ”
เมื่อเปิดประตูออกได้ สิ่งแรกที่เจ้าของบ้านทำคือมองหาเด็กสาวที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีในนั้น แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า
“มึงมองหาใคร กูเข้ามาขี้แล้วห้องน้ำบ้านมึงเสือกล็อกเปิดไม่ออก”
“มึงแน่ใจนะ”
กฤษธวัชเลิกคิ้วมองอย่างไม่เชื่อในคำพูดที่ได้ยิน
“เออ มึงไม่ต้องคิดเลย มาถึงกูก็ไม่เจอใครในนี้แล้ว”
จิรายุเดินออกมาพร้อมกับจับหน้าท้องที่โดนกระแทกจนปวดหนึบและคำโกหกโตๆ
“พอๆ มึงไม่ต้องมองกูแบบนั้นเลย กูไม่ได้ทำอะไรเด็กมึงจริงๆ”
…มีแต่กูที่โดนเด็กมึงกระทำเนี่ย…ความในใจที่อยากจะพูดออกไป
“อิงไม่ใช่เด็กกู”
“มึงยอมบอกชื่อแล้ว…น้องอิง กูจะบอกอะไรให้นะน้องอิงของมึงโคตรแสบฉิบหาย”
จิรายุตบไหล่เพื่อนอีกครั้ง เดิมทีเขาสงสารอิงวิฬาร์ที่ได้แต่มองตามเพื่อนของเขาตาละห้อย แต่ตอนนี้เขาสงสารเพื่อนสนิทมากกว่าถ้าต้องเผลอมีใจให้อิงวิฬาร์ขึ้นมาจริงๆ
หรืออาจจะเป็นโชคดีของกฤตธวัชที่กำลังจะไปเรียนต่อเมืองนอก…
“กูขอตัวกลับบ้านก่อนนะ…เออ แล้วก็เลิกมองกูด้วยสายตาแบบนั้นสักที บ้าพลังแบบนั้นกูทำอะไรไม่ลงหรอก”
“หะ มึงว่าอะไรนะ”
“กูบอกว่าขอให้มึงโชคดีแล้วกัน”
แล้วจิรายุก็เดินออกไป ทิ้งกฤตธวัตให้ยืนมองทางเชื่อมของบ้านระหว่างห้องครัวและห้องโถงที่เห็นทางขึ้นบันไดชั้นสองของบ้าน
…คงไม่เป็นอะไรจริงๆ สินะ…
เจ้าของบ้านเดินออกมาพร้อมถังน้ำแข็ง ดูเวลาก็เกือบตีหนึ่งแล้ว บิดาของเขาและบิดาของอิงวิฬาร์แยกตัวไปนอนแล้ว จิรายุก็กลับบ้านไปแล้ว เขาเองก็รู้สึกมึนเมาและไม่มีอารมณ์จะนั่งดื่มต่อจึงขอตัวไปนอนก่อน
“เอานี่ของขวัญของมึง กล้า”
ภาม เพื่อนสนิทตั้งแต่อนุบาลอีกคนส่งข้อมูลรายละเอียดสาวสวยที่จะมาเป็นคู่นอนของเขาในคืนนี้ แต่กฤตธวัชไม่มีอารมณ์จะทำอะไรนอกจากนอน แต่ก็ไม่อยากปฏิเสธเพื่อนเกรงว่าจะเสียน้ำใจ ถ้าของขวัญที่เพื่อนเอ่ยถึงมาถึงหลังเขาหลับก็ให้เธอนอนที่ห้อง เขาจะจัดเตรียมที่นอนไว้ให้ หรือไม่ก็ให้เธอกลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัย กฤตธวัชคิดไว้แล้วว่าจะเป็นแบบนั้น
เขาคว่ำหน้าโทรศัพท์ลงกับโต๊ะกลมตรงกลางที่มีขวดแอลกอฮอล์และเครื่องเคียง หยิบแก้วใส่น้ำสีอำพันขึ้นมากระดกครั้งสุดท้าย ดื่มรวดเดียวจนหมด แล้วขอตัวไปนอน แต่ลืมหยิบโทรศัพท์ติดมือมาด้วย ส่วนเพื่อนที่เหลือยังคงนั่งดื่มต่อให้หมดขวดแล้วค่อยกลับบ้าน บ้างก็ว่านั่งรอให้สร่างเมาจะได้ไม่เป็นภาระของเพื่อนร่วมถนน บางคนก็รอคนรักมารับ
อิงวิฬาร์เหลือบมองนาฬิกาบนหน้าจอโทรศัพท์ก็เห็นว่าเวลาล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากลานสนามหญ้าหน้าบ้านที่ใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์สอดส่องเข้ามาในห้อง เสียงเพื่อนของกฤตธวัชเงียบไปแล้ว หญิงสาวขยับตัวเบาๆ อีกครั้งเกรงว่าบิดาที่นอนหันหลังให้จะตื่น
เสียงกรนสม่ำเสมอทำให้มั่นใจว่าบิดาหลับสนิท อิงวิฬาร์ก้าวเท้าลงจากเตียงนอน เดินตรงไปที่ประตู…ตอนนี้พี่กล้าของเธอจะนอนหรือยังนะ เธออยากจะเห็นหน้าของเขาอีกครั้งก่อนจากกัน อยากเก็บภาพความทรงจำให้ได้มากที่สุด อิงวิฬาร์ค่อยๆ เปิดประตูและคิดในใจว่าถ้ามีใครมาเจอเธอกลางดึกจะบอกไปว่าเธอคอแห้ง เลยลงมาหาน้ำเย็นๆ ดื่ม หรือถ้าโชคร้ายกฤตธวัชอาจจะเข้านอนไปแล้วก็ได้
ร่างบางค่อยๆ ก้าวเท้าลงมาตามบันไดอย่างระมัดระวังและให้เงียบที่สุด จุดมุ่งหมายคือประตูของห้องครัวที่เห็นพื้นที่สนามหญ้าหน้าบ้านได้อย่างชัดเจน แต่ก็มีพื้นที่พอให้หลบหลีกสายตาจากผู้คนที่กำลังสังสรรค์ แต่ต้องเดินผ่านห้องน้ำที่เธอขังหนึ่งในเพื่อนของกฤตธวัชไว้ในนั้น
…ก็ใครใช้ให้พุ่งตัวเข้ามาหาเธอแบบนั้นกัน เป็นใครก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา ถือเป็นการป้องกันตัวไม่ใช่ความผิด และอีกอย่างเพื่อนคนนั้นของกฤตธวัชก็ทำท่าจะขย้อนสิ่งที่เพิ่งทานเข้าไปออกมาทางปาก เธอจำเป็นต้องลากเขาเข้าไปไว้ในห้องน้ำ ก่อนจะเป็นภาระที่ต้องให้มาเช็ดถูจนเสียเวลานอน อิงวิฬาร์ไม่ได้ตั้งใจจะขังเขาไว้ในห้องน้ำทั้งคืน เธอตั้งใจจะมาเปิดประตูให้ด้วย
“น้อง น้อง…น้องนั่นแหละ”
คนที่ตั้งใจจะมาแอบดูเจ้าของบ้านหันไปตามเสียงเรียก เสียงผู้ชายเมามายแต่ก็ยังพอมีสติไม่ได้ยานคล้อยขนาดฟังไม่รู้เรื่อง แต่ที่ไม่ได้หันไปในทันทีเพราะไม่แน่ใจว่าเรียกเธอหรือเปล่า
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ”
เธอเห็นผู้ชายสามคนกอดคอกันๆ ล้ม ทั้งสามคนเป็นเพื่อนของกฤตธวัช จำได้ดี กำลังเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนเอาโทรศัพท์ขึ้นไปให้กฤตธวัชที่บนห้องนอน
“น้องที่แอบยืนมองกล้าบ่อยๆ ใช่ไหม พี่ฝากเอาโทรศัพท์ไปคืนให้กล้าหน่อยสิ มันนอนอยู่บนห้อง”
“คะ…”
“พี่ฝากหน่อย…ขอบคุณครับ”
โทรศัพท์ถูกยัดเข้ามาในมือ อิงวิฬาร์รับโทรศัพท์มาแบบงงๆ ก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินจากไป เสียงข้อความเข้า…โทรศัพท์ในมือสั่นเล็กน้อย พร้อมแสงไฟที่หน้าจอสว่างวาบในความมืด เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบดู แต่ข้อความที่ปรากฏขึ้นมานั้นแสดงเนื้อหาทันทีโดยไม่ต้องเปิดอ่าน
คนที่ส่งข้อความเข้ามาต้องการจะบอกกฤตธวัชว่ามาหาไม่ได้แล้ว และจากชื่อน่าจะเป็นผู้หญิง เพราะชื่อ‘น้ำหวาน’
…พี่กล้ามีคนรักแล้วหรือ…
อิงวิฬาร์กำโทรศัพท์ในมือแน่นก่อนจะเดินกลับขึ้นไปด้านบน แต่ไม่ได้เข้าไปในห้องนอนของเธอ เดินเลยตรงไปยังห้องนอนข้างๆ ที่ประตูเปิดแง้มไว้เพียงเล็กน้อย ราวกับเชื้อเชิญ ไม่ได้ปิดสนิท
“พี่กล้าคะ…”
เธอส่งเสียงเรียกเบาๆ ก่อนจะแง้มประตูให้กว้างพอให้แสงสอดส่องเข้าไปด้านในห้อง เห็นคนตัวโตนอนคว่ำหน้า กำลังหลับสนิท อิงวิฬาร์ไม่อยากปลุกกฤตธวัชให้ตื่นขึ้นมา คิดเพียงแต่ว่าแค่วางโทรศัพท์ให้เขาบนโต๊ะหัวเตียงแล้วกลับออกมา
“อือ…”
ขณะที่เธอกำลังจะกลับออกไป กฤตธวัชก็พลิกตัวกลับมานอนหงาย มือหนาคว้าข้อมือของเธอไว้
“มาแล้วเหรอ…”
เดิมทีกฤตธวัชตั้งใจจะนอนหลับสนิท แต่แสงไฟที่สอดส่องเข้ามาแยงตาทำให้สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาพร้อมอาการเมามาย อิงวิฬาร์ได้เห็นใบหน้าเนียนอย่างใกล้ชิด เพียงแค่เขากระตุกข้อมือ เธอก็ล้มลงไปนอนพิงบนอกแกร่งเสียแล้ว
หัวใจของเธอเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะราวกับมีคนมาตีกลองข้างใน ประโยคที่ว่าถ้ามีความรักจะทำให้รู้สึกเบาหวิวเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัวมาบินอยู่ในท้อง ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าอาการที่ว่านั้นเป็นอย่างไร
มันเบาหวิว โหวงวาบด้านใน ราวกับจะลอยได้ เลือดสูบฉีดทั่วใบหน้า ถ้าแสงไฟชัดกว่านี้คงเห็นว่าเธอกำลังหน้าแดงไม่ต่างจากผลมะเขือเทศที่กำลังสุกงอมเต็มที่
“พี่กล้าคะ” “อื้อ…หอมจังเลย” กฤตธวัชไม่เคยจูบหรือหอมคู่นอนคนไหนมาก่อน แต่กับผู้หญิงคนนี้…ทำไมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของเธอถึงทำให้เขารู้สึกหลงใหลอย่างไม่อาจห้ามใจได้ อยากจะกกกอด สูดดมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับไม่เคยพอ มือหนาเลื่อนไปตามเรือนร่างบอบบาง ผ่านเนื้อผ้านุ่มอย่างไม่รู้ตัว แม้จะประหลาดใจอยู่ลึกๆ ที่เธอเลือกสวมชุดนอนเรียบง่ายแทนที่จะเป็นชุดเดรสเซ็กซี่ยั่วยวนอย่างที่เขาคุ้นเคย แต่กลับทำให้เขาหลงใหลยิ่งในเสน่ห์ที่ไม่ถูกปรุงแต่งมากนัก จากเดิมที่เธอนอนพิงอยู่บนตัวเขา กฤตธวัชใช้จังหวะเพียงเล็กน้อยพลิกตัวเธอให้มาอยู่ใต้อาณัติ เขาโน้มเข้ามาจูบโดยไม่ทันให้อิงวิฬาร์ได้ตั้งตัว ริมฝีปากร้อนแนบสนิทก่อนจะส่งปลายลิ้นเข้าไปเกลี่ยไล้สัมผัสภายในเบาๆ จนร่างบางที่แข็งทื่อเผยอริมฝีปากรับสัมผัสชุ่มฉ่ำอย่างลืมตัว ส่วนบนของชุดนอนเลิกขึ้นมากองอยู่เหนืออกอิ่มโดยไร้สิ่งใดปิดบัง สองเต้างามชูยอดสีชมพูระเรื่อชวนให้น่าลิ้มลอง อิงวิฬาร์ผู้หญิงที่ภายนอกดูเรียบร้อยใส่เสื้อยืดหลวมๆ หรือเดรสยาวคลุมเข่า เมื่อเปลื้องอาภรณ์ออกกลับเผยให้เห็นสัดส่วนซ่อนร
“กูยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย รีบมาช่วยกูเร็วๆ สิวะ” จิรายุที่โวยวายอยู่ในห้องน้ำข้างห้องครัว ทุบประตูร้องขอความช่วยเหลือ อิงวิฬาร์ที่รู้ทันและระวังตัวเรื่องการถูกลวนลามอยู่แล้ว บิดาเคยสอนการป้องกันตัวมาบ้างไว้ใช้ยามจำเป็น แต่ก็ไม่คิดว่าจะจำเป็นเร็วขนาดนี้ ขณะที่เธอกำลังยืนล้างแก้วน้ำอยู่ก็มีชายหนุ่มพุ่งมากอดจากทางด้านหลัง จึงเจอท่าศอกกระทุ้งท้องเข้าให้ หนึ่งในเพื่อนของกฤตธวัชลงไปงอตัวเป็นกุ้งอยู่กับพื้น “แล้วใครจับมึงขังไว้ในนี้วะ” “เอ่อ…” จิรายุอยากจะเล่าใจแทบขาดใจแต่ก็ทำได้แค่ปิดปากเงียบ เดิมทีเขาอยากจะลองใจเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลอย่างกฤษธวัช เพราะรู้ดีว่าเพื่อนเป็นคนปากแข็งไม่ตรงกับใจแค่ไหน จึงเข้ามาลองใจเล่นๆ เพราะเห็นสายตาไม่พอใจเวลาเพื่อนคนอื่นเอ่ยปากถึงเด็กสาวหน้าตาน่ารักผมแก้มซาลาเปาคนนั้นแต่ก็ไม่คิดว่าอาการเมามายจะทำให้สะดุดพรมเช็ดเท้าหน้าห้องครัว พุ่งถลาไปทางหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงอ่างล้างจาน แทนที่เธอจะหันกลับมารับเขาแต่กลับกลายเป็นว่าได้ศอกมากระทุ้งหน้าท้องแทน แถมเธอยังลากเขาเข้าไปขังไว้ในห้องน้ำ
“เหม่ออะไรหนูอิง” มือเหี่ยวย่นของแม่บ้านที่รับหน้าที่ทำอาหารในวันนี้ แตะที่ไหล่บางของหญิงสาว จะเรียกว่าหญิงสาวก็ได้ไม่เต็มปากนักแม้เธอจะอายุสิบแปดปีบริบูรณ์ แต่ด้วยรูปร่างที่ผอมบาง ไร้สัดส่วนอย่างที่หญิงสาวควรจะเป็น กับทรงผมที่ตัดสั้นประบ่า ไว้ผมหน้าม้า ยิ่งทำให้อิงวิฬาร์ดูเด็กเข้าไปอีก ไหนจะแก้มกลมๆ คล้ายซาลาเปานั่นอีกบิดาของเธอพามาส่งเตรียมตัวเข้าหอพักต้อนรับการเปิดเทอมแรกของชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย อิงวิฬาร์สอบติดมหาวิทยาลัยในเมืองหลวงที่มีวิทยาเขตอยู่จังหวัดนครปฐม เด็กสาวละลายสายตาจากสิ่งที่มองอยู่หันกลับไปหาคนที่สะกิดไหล่เมื่อสักครู่ “เปล่าค่ะ อิงแค่มองไปเรื่อย ดูว่าอาหารเพียงพอสำหรับแขกของพี่กล้าหรือเปล่า” เย็นวันนี้ที่บ้านของไกรดิษ ผู้ซึ่งเป็นเจ้านายของบุพการีและยังใจดีให้เธอกับบิดามาอาศัยนอนในคืนนี้ จัดงานเลี้ยงส่งลูกชายเพียงคนเดียวอย่าง ‘กฤตธวัช’ หรือ ‘พี่กล้า’ ของเธอไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ ไกรดิษเป็นเจ้าของไร่ส้มในจังหวัดเล็กๆ แห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ซึ่งบิดาของเธอเป็นผู้ช่วยบุกเบิกและดูแลมาตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม