ログインทิพย์ธารามาที่คอนโดของอแมนดา ในตอนเช้าของวันถัดมาเพื่อทำงานตามหน้าที่ของเธอ ทุกเช้าหากอแมนดาอยู่ที่นี่ไม่มีงานเดินแบบต่างเมือง ทิพย์ธารามีหน้าที่ทำอาหารให้อแมนดาทานทุกเช้า ก่อนที่จะเริ่มทำงานบ้านและดูแลเรื่องเสื้อผ้าของนางแบบสาว
เสียงเคาะประตูหน้าห้องพักดังขึ้นหลายครั้ง ทำให้ทิพย์ธาราจำต้องละมือจากการทำอาหารเช้า และวางอุปกรณ์ที่อยู่ในมือ เพื่อไปเปิดประตูให้ผู้มาเยือน ทันทีที่บานประตูเปิดออกหญิงสาวอยากจะปิดประตูลงทันที เมื่อเห็นหน้าผู้มาเยือน หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตาคมเข้มที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ โดยมีลูกน้องคนสนิทสามคนยืนอยู่ด้านหลัง
“สวัสดีแม่ลูกแมวน้อยของฉัน” อเล็สซานโดรจงใจเน้นคำว่าของฉันอย่างชัดเจน ก่อนจะเดินแทรกร่างบางที่ยืนอึ้งอยู่ที่ประตู เข้าไปภายในห้องพักของอแมนดา กลิ่นกายสาวหอมกรุ่น โชยเข้ามาในโพรงจมูก เขาสูดกลิ่นนั้นเข้าไปในปอดอย่างแรง ซึมซับความหอมรัญจวนใจแฝงไว้ด้วยแรงกระตุ้นทางอารมณ์ ให้คุกรุ่นขึ้น ทิพย์ธาราเมื่อเห็นสายตาของเขา จึงรีบเดินหนีเข้าไปในครัวทันที ก่อนที่ตัวเธอจะเป็นอาหารเช้าของเขาแทน
อเล็สซานโดรหายเข้าไปในห้องนอนของอแมนดา นานนับชั่วโมง แต่ไร้วี่แววที่ทั้งสองจะออกมาจากห้อง ทิพย์ธาราเห็นว่าลูกน้องทั้งสามของชายหนุ่ม ยังไม่ได้ทานอะไร จึงตักข้าวต้มกุ้งฝีมือเธอให้กับลูกน้องของอเล็สซานโดรตามด้วยกาแฟอีกคนละหนึ่งแก้ว ก่อนจะนั่งคุยกันอย่างออกรส เสียงพูดคุยที่ดังมาจากห้องครัว ทำให้อเล็สซานโดรที่เดินออกมาจากห้องนอนของอแมนดา ชะงักฝีเท้าลง และเดินไปที่ห้องครัวอย่างช้าๆ โดยที่ทั้งหมดในห้องครัวไม่รู้ตัว
ภาพที่เห็นทำให้หัวใจของผู้ที่แอบมองสั่นคลอนอย่างไม่รู้ตัว หัวใจของเขาเต้นแรงและเร็ว เสียงของหัวใจดังกว่าทุกครั้งที่เขาอยากลิ้มลองอาหารจานใหม่ รอยยิ้มที่เขาเห็นเต็มใบหน้างาม เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เธอดูโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น ริมฝีปากบางที่คลี่ยิ้มหวานบนใบหน้า ซี่ฟันสวยที่เรียงเป็นระเบียบ สีของฟันขาวดั่งไข่มุก ใบหน้าหวานดูเปล่งปลั่งงดงาม สะกดชายทุกคนให้หลงรักรอยยิ้มนี้อย่างไม่ยากเย็น แต่ที่ทำให้เขาหงุดหงิดคือ ลูกน้องคนสนิททั้งสามของเขา พูดคุยกับหญิงสาวนางนี้อย่างสนิทสนม
“ทำอะไรกัน” เสียงของอเล็สซานโดร ขัดจังหวะการสนทนาของทุกคนเสียสนิท
“ทานข้าวต้มกุ้งกับดื่มกาแฟครับ” โรแบร์โตเอ่ยตอบก่อนจะยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบ
“ฉันกับอแมนดาจะทานอาหารเช้าที่ระเบียงห้องนอน ไปจัดให้ด้วย ส่วนพวกแกลงไปคอยที่รถ” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม จ้องมองใบหน้านวลเขม็งด้วยความไม่พอใจ ทั้งสามรีบรุดลงรอเจ้านายหนุ่มทันทีเมื่อสิ้นเสียง เพราะดูจากท่าทางและแววตาแล้ว พวกเขาเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมาทีละนิด
ทิพย์ธาราจัดอาหารเช้าด้วยมืออันสั่นเทา เมื่อร่างของอสูรร้ายสวมเพียงชุดคลุมสีขาวเท่านั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าภายใต้เสื้อคลุมนั้นไม่ได้สวมอะไรเลย ยืนกอดอกพิงประตูมองดูเธออยู่
“ขอทางหน่อยค่ะ” ทิพย์ธาราบอกชายร่างสูงหนาที่ยืนขวางประตูอยู่ ซึ่งเขาเบี่ยงตัวให้เธอเดินได้อย่างสะดวก ทิพย์ธาราเดินถือถาดใส่อาหารเข้ามาภายในห้องนอน ก่อนจะเดินไปนอกระเบียง อาหารถูกจัดวางไว้ที่โต๊ะสีขาว เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเธอจึงเดินกลับเข้ามาในห้องนอน และเดินไปที่ประตูห้องเพื่อออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เพราะสายตาของเขาจับจ้องที่ร่างของเธอนิ่ง ทิพย์ธาราเดินได้เพียงไม่กี่ก้าว ร่างบางเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาทันที ตามแรงกระชาก ทิพย์ธาราเริ่มดิ้นรนออกจากร่างสูงหนา หากแต่เสียงร้องของเธอไม่สามารถเล็ดลอดออกมาได้ เพราะมือหนาปิดอยู่ที่ปากของเธอแน่น
“อย่าดิ้น!! อย่าร้อง!! ไม่งั้นฉันปล้ำเธอตรงนี้แน่” เสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างใบหูขาว ทิพย์ธาราหยุดดิ้นรนทันที ลมหายใจร้อนผ่าวของชายหนุ่มที่กระทบกับใบหู ทำให้ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ ร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
“ปะ ปล่อยเถอะค่ะ อย่าทำอะไรฉันเลย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ชายหนุ่มหมุนร่างของเธอให้มาเผชิญหน้ากับเขา พร้อมทั้งเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นด้วยปลายนิ้ว
“ไม่ต้องร้องไห้แม่ลูกแมวน้อยของฉัน ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก แค่จะสั่งสอนให้เธอรู้ว่าอย่าบังอาจขัดคำสั่งของฉัน” ประโยคแรกที่เขาพูดช่างแสนหวานดูนุ่มนวล อบอุ่น หากแต่ตอนท้ายเสียงของเขาเข้มและเน้นหนักจนน่ากลัว เหมือนไม่ใช่คำพูดของคนคนเดียวกัน
“ฉัน ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้ขัดคำสั่งของคุณ” ทิพย์ธาราเถียงเสียงเบา
“ทำไมเธอจะไม่ได้ทำ ฉันสั่งเธอแล้วใช่ไหม ว่าเธอเป็นของฉันฉัน ห้ามยุ่งกับคนอื่น แต่เธอทำเป็นหูทวนลม ไม่ฟังคำพูดของฉันแม้แต่คำเดียว”
“ฉันยังไม่ได้ยุ่งกับใครเลย” เธอพยายามค้าน
“ไอ้โทมัสไง เมื่อคืนฉันทำให้เธอรู้ว่า ถ้าหากยังยุ่งกับมันอีก คราวหน้าไม่ใช่แค่รถของมันแน่ที่เป็นรอยกรีด แต่เป็นหน้าของมัน” ทิพย์ธาราตื่นตกใจเมื่อรู้ว่ารถยนต์ของโทมัส ที่ถูกกรีดรอบคัน เป็นฝีมือของ
อเล็สซานโดร ที่โทมัสต้องพบเจอเรื่องเลวร้ายเป็นเพราะเธอเองหรือนี่
“โทมัสเป็นเพื่อนฉัน เป็นเพื่อนอแมนดาด้วย”
“ฉันไม่สนใจว่าใครจะเป็นเพื่อนกับใคร แต่ถ้าฉันสั่งว่าไม่ให้ยุ่งก็คือไม่ เพราะฉะนั้นเธอต้องโดนทำโทษ ลูกแมวน้อย” บทลงโทษของเขาเริ่มทันที เมื่อเรียวปากหนาหยักสวยทาบทับเรียวปากบางอิ่ม ดูดซับความหวานด้วยเรียวลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดหยอกเย้าในโพรงปากของเธอ รัดเร้าและรุกรานจนร่างบางเริ่มอ่อนแรงกับบทลงโทษที่วาบหวามนี้ อ้อมแขนที่รัดเอวคอดกิ่วเริ่มแน่นขึ้น ก่อนจะรั้งร่างบางให้แนบชิดยิ่งขึ้น ทรวงอกอวบอิ่มแนบสนิทกับแผงอกกว้าง
Chapter 72“ทาร่าง่วงนอนจัง อยากนอน” หญิงสาวรู้สึกอ่อนเพลียหลังจากบทรักอันร้อนแรง ดวงตาคู่สวยเริ่มปิด นึกแปลกใจตัวเองว่าเป็นคนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไหร่ อยากจะนอนท่าเดียวไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น“ลูกแมวน้อยของฉันขี้เซาจังเลยนะ ง่วงก็นอนนะที่รัก ฉันกลับมาจากอเมริกามีอะไรจะให้เธอ” เขาพูดชิดเรียวปากบาง อดใจไม่ไหวจูบหนักๆ ซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายครั้ง ชายหนุ่มถอดถอนร่างกายของเขาออก ลงมานอนเคียงข้างหญิงสาวใช้ลำแขนหนาให้เธอหนุนต่างหมอน ทิพย์ธาราเบียดกระแซะร่างหาไออุ่นจากเรือนกายแข็งแกร่ง ที่ให้ทั้งความอบอุ่นทางร่างกายและจิตใจมาตลอดหลายเดือน นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอจะไม่ได้รับไออุ่นและความร้อนที่ระเหยออกมาจากเรือนกายของเขาอีกแล้ว ทิพย์ธาราจะจดจำความอบอุ่นนี้ไว้ในใจ ใช้ความรู้สึกและความทรงจำ จดจำเรื่องราวดีๆ ของเขาและเธอไว้ ตราบสิ้นลมหายใจอเล็สซานโดรเดินทางออกจากบ้านในตอนสาย ซึ่งเลยเวลาที่กำหนดไว้ไปหลายสิบนาที เนื่องจากชายหนุ่มอ้อยอิ่งอยู่กับเรียวปากนุ่มเนิ่นนาน กว่าจะตัดใจได้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ทิพย์ธาราไม่ได้เดินลงมาส่งเขาอย่างเช่นทุกครั้ง อ้างว่าไม่สบายเวียนหัว อยากพักผ่อน แมวตัวใหญ่เห็นลูกแม
Chapter 71เริ่มจากริมฝีปากบางแตะที่เรียวปากหนาสวยได้รูปแผ่วเบา เสมือนทักทายก่อนจะบดเบียดอย่างนุ่มนวล ปลายลิ้นไล้ไปตามฟันซี่สวยเป็นระเบียบ ก่อนจะสอดแทรกเข้าไปภายใน รุกเร้าเกี่ยวพันลิ้นหนาอย่างกล้าหาญ เพิ่มน้ำหนักแรงบดเคล้ามากยิ่งขึ้น พร้อมกับดูดดึงลิ้นหนาเข้าไปในอุ้งปากที่หอมหวานของเธอ อเล็สซานโดรส่งเสียงครางเล็กๆ ในลำคอ ฝ่ามือบางนุ่มเริ่มไต่สำรวจไปตามเรือนกายที่แข็งแรง หยุดนิ่งที่แผงอกกว้างแสนอบอุ่น ใช้ปลายนิ้วปัดไปมาที่ตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลอย่างนุ่มนวล ร่างของเขาสะดุ้งเฮือกฝ่ามือใหญ่รัดร่างบางให้แนบกับเรือนร่างหนามากยิ่งขึ้น ลูบไล้ฝ่ามือแกร่งไปทั่วแผ่นหลังเปล่าเปลือย เลื่อนต่ำมายังสะโพกผายหญิงสาวผละจากเรียวปากหนาอย่างอ้อยอิ่ง แทะเล็มไปตามสันแก้มที่มีไรเคราขึ้นเขียวครึ้ม ติ่งหู ลำคอแข็งแรง เคลื่อนตัวต่ำลงพร้อมกับริมฝีปากที่ครอบครองตุ่มสีน้ำตาลนั้นแทนที่นิ้วมือ“ทาร่า” อเล็สซานโดรร้องครางเหมือนจะขาดใจ น้ำเสียงของเขาขาดห้วง ดวงตาฉ่ำปรือ ปลายลิ้นที่ดูดกลืนตุ่มเม็ดเล็กอยู่นั้น สร้างความกระสันซ่านให้กับเขาเป็นอย่างมาก ขนในกายลุกชัน เลือดหมุนเวียนไปทั่วร่างด้วยกำลังแรงสูง ไหลวนดั่งลาวาที่ไหล
Chapter 70อเล็สซานโดรเดินเข้ามาในห้องเวลาประมาณสี่ทุมเศษ ชายหนุ่มปรายตามองกระเป๋าเดินทางที่ถูกวางไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า มองเลยผ่านไปที่เตียงกว้าง ใจของเขาหายวาบ เมื่อไม่เห็นร่างของทิพย์ธาราอยู่บนเตียง เท้าหนากำลังจะก้าวออกไปจากห้อง เพื่อไปที่ห้องของเดชดวง หากแต่บานประตูห้องน้ำถูกเปิดออกเสียก่อน ชายหนุ่มจึงหันมาตามทิศทางของเสียงเปิดประตูทันที“นึกว่าจะหนีไปนอนที่ห้องรอซซี่เสียอีก” อเล็สซานโดรอยากจะตบปากของตัวเองนักที่พูดประโยคแดกดันนี้ออกไป หญิงสาวระบายลมหายใจเพียงนิด ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา คิดว่าการที่เราจะจากใครสักคนน่าจะจากกันด้วยดี จะได้เก็บความทรงจำครั้งสุดท้ายไว้ในใจ เธอจึงเดินเลี่ยงไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดนอนไปสวมใส่ที่ห้องแต่งตัว แต่ถูกร่างหนาของเขาขวางไว้“เดี๋ยวสิ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้ผลตรวจออกมาว่ายังไง” ทิพย์ธาราเงยหน้ามองคนถาม เขาจะมาถามเธอทำไมทั้งๆ ที่รู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว“รู้ค่ะ อแมนดาบอกทาร่าแล้ว วันนี้คุณสองคนก็ไปเลี้ยงฉลองครอบครัวใหม่ไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวอดที่จะประชดเขาไม่ได้“หึงเหรอ” เขาถามยิ้มๆ เมื่อเห็นแววตาของเธอ ได้ยินน้ำเสียงที่ประชดประชันของลูกแมวน้อย
Chapter 69“ได้ ฉันจะไปจากที่นี่ พรุ่งนี้คุณซานโดรจะไปต่างประเทศ ฉันจะไปหาห้องเช่า ฉันจะไม่ให้เขาพบหรือเจอฉันอีกเลยตลอดทั้งชีวิต ฉันสัญญา” อแมนดาลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินคำสัญญาจากศัตรูหัวใจ ใบหน้าสวยเฉี่ยวเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส เมื่อแผนการขั้นที่หนึ่งสำเร็จ“ฉันขอบใจเธอมากนะ แต่เธออย่าบอกใครเรื่องที่ฉันมาขอร้องเธอในวันนี้นะ” อแมนดากำชับ“รู้แล้ว ฉันจะไม่บอกใคร” ทิพย์ธารารับคำทั้งน้ำตา การสนทนาทุกอย่างจบสิ้นลงเมื่อร่างของบุคคลที่สาม ก้าวเข้ามาภายในห้องครัว“คุณอแมนดาครับ คุณซานโดรรออยู่ที่รถครับ” โรแบร์โตเดินเข้ามาหานางแบบสาวที่ห้องครัว หลังจากที่ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มรอที่รถนานพอสมควร“ไปก่อนนะทาร่า เดี๋ยวคุณซานโดรจะคอยนาน” อแมนดาแย้มยิ้มให้คนที่อยู่ในครัว หมุนตัวเดินเฉิดฉายตรงไปที่รถยนต์คันงามที่จอดคอยอยู่ โรแบร์โตหันไปมองทิพย์ธาราที่มีน้ำตาไหลรินลงมาเป็นทาง เขาไม่รู้ว่าอแมนดามาพูดอะไรให้หญิงสาวที่แสนดีคนนี้เสียใจ ไม่เข้าใจเจ้านายของตัวเองเลยว่าเหตุใดเห็นก้อนกรวดดีกว่าเพชรเม็ดงาม แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรเจ้านายหนุ่มของเขามีเหตุผลกับการกระทำนั้นเสมอหลังจากรับประทานอาหารเย็นสามคนพี่น้อ
Chapter 68ทิพย์ธาราตื่นขึ้นมาอีกทีเกือบห้าโมงเย็น หญิงสาวรีบก้าวลงจากเตียงเพื่อไปทำอาหารเย็นให้ทุกคนรับประทาน พอเธอก้าวเท้าออกมาจากห้อง ภาพของอเล็สซานโดรและอแมนดาเดินออกมาจากห้องส่วนตัวของนางแบบสาว ทั้งสองเดินคุยกันเลยผ่านร่างของเธอไป โดยไม่มีใครสนใจหรือถามไถ่เลยสักคน ทิพย์ธารารอให้ทั้งสองเดินลงไปถึงชั้นล่างก่อน จากนั้นเธอจึงเดินตามลงไป“ขอโทษที่นะคะวันนี้ลงมาช้าหน่อย” หญิงสาวก้าวเข้าในห้องครัว มือนุ่มเอื้อมมาหยิบผ้ากันเปื้อนสีขาวขึ้นมาสวม กำลังเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบอาหารสดมาปรุงแต่งเป็นอาหาร หากแต่เสียงของอาเธอร์ทำให้มือบางชะงักลงทันที“วันนี้คุณซานโดรกับคุณอแมนดาไม่รับประทานอาหารเย็นที่นี่ครับ ท่านทั้งสองจะไปทานอาหารที่โรงแรม” มือที่กำลังเอื้อมไปจับประตูตู้เย็นสั่นเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเปิดบานประตูตู้เย็นตามเดิม หยิบผักและเนื้อสัตว์สองสามอย่างออกมา“ค่ะ ทาร่าจะทำอาหารให้เฉพาะเราสามคนพี่น้องก็แล้วกัน ขอบคุณนะคะที่บอกจะได้ไม่ต้องทำเยอะเสียของหมด” มือบางที่จับมีดอยู่สั่นเช่นเดียวกับน้ำเสียงที่สั่นไม่แพ้กัน อาเธอร์มองหญิงสาวร่างเล็กด้วยความรู้สึกสงสาร ไม่ทราบถึงเหตุผลที่เจ้านายหนุ่
Chapter 67“ยินดีด้วยนะ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ” ปลายสายปากไม่ตรงกับใจ ต้องการให้ผลตรวจออกมาตรงกันข้ามมากกว่า อดแปลกใจเรื่องที่อเล็สซานโดรระหองระแหงกันไม่ได้ เพราะเห็นท่าทางของชายหนุ่มยามที่แสดงออกกับสาวชาวไทยแล้ว ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าเขารักผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด“กำจัดนังทาร่าน่ะสิ พรุ่งนี้ซานโดรจะไปอเมริกาหนึ่งอาทิตย์ มันเป็นโอกาสของเราที่จะจัดการกับนังทาร่าได้อย่างสะดวก” อเล็สซานโดรต้องเดินทางไปอเมริกาเพื่อเจรจาเรื่องธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง เพราะไม่มีใครตัดสินใจแทนได้ มันจึงเป็นโอกาสทองและโอกาสเดียวของอแมนดาที่จะจัดการกับทิพย์ธารา“เธอมีแผนหรือยัง” อีกฝ่ายถาม“ยังเลย แล้วเธอล่ะ”“พอมีแต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า เอาเป็นว่าเรารอให้ซานโดรไปต่างประเทศก่อนดีกว่า แล้วค่อยคิดหาทาง” เจนนิเฟอร์ออกความเห็น“ก็ดีเหมือนกัน แค่นี้นะมีข่าวอะไรคืบหน้าแล้วจะโทรไปบอก”“อืม บายจ้ะ” เจนนิเฟอร์ตัดสายทิ้ง โยนโทรศัพท์ลงไปที่เตียงอย่างหงุดหงิด“ใครทำให้อารมณ์เสียจ๊ะคนสวย เดี๋ยวฉันจะทำให้อารมณ์ดีเองนะ” ฟิลิปโปลุกขึ้นนั่ง สวมกอดเจนนิเฟอร์ทางด้านหลัง มือใหญ่กอ