Masuk“แล้วเราล่ะ ชอบเขารึเปล่า” พิริมาถามออกไปพร้อมกับมองหน้าหลานสาวของตัวเองอย่างอยากรู้ แต่ดูจากอาการเธอก็พอจะเดาออก
“เฮ้อ น้าไม่อยากให้เราต้องเจ็บ จะทำอะไรก็เผื่อใจไว้บ้างนะ น้ากับน้าพิมจะอยู่ข้างเราเสมอ” โจเซฟพูดบอกไปก็มองหลานสาววอย่างสงสาร เพราะตอนนี้เขามั่นใจว่าหลานสาวของเขาคงจะหวั่นไหวกับหนุ่มคนนั้นไปแล้ว เขาจึงอยากเตือนไว้ “ค่ะ พิชรู้ค่ะว่าระหว่างพิชกับเขา มันก็แค่หนึ่งเดือนเท่านั้น หลังจากนั้นพิชก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติของพิช พิชไม่มีทางชอบเขาแน่นอนค่ะ น้าพิมกับน้าโจสบายใจได้เลย งั้นพิชไปขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะคะ ไข้ยังไม่หายดีเลย” พิชชาภาบอกไป เพราะเธอไม่อยากให้น้าทั้งสองถามอะไรมาก แค่นี้มันก็แทงใจดำเธอมากพออยู่แล้ว “อืม ได้สิลูก ถ้าไม่ไหวก็บอกน้านะ จะได้พาไปหาหมอ” พิริมาบอกไปก็นั่งมองหลานสาวเดินออกไปจากห้อง ก่อนจะหันมามองหน้าสามีแล้วปล่อยโฮออกมา “คุณคะ อือๆ” พิริมาพูดไปก็กอดสามีอย่างเสียใจที่เธอไม่สามารถดูแลหลานสาวของตัวเองได้ “ไม่เป็นไรนะคุณ มันพลาดไปแล้วเราก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ต่อไปเราก็ช่วยกันดูแลยัยพิชก็พอ ส่วนเงินนี่ผมจะเอาไปคืนไอ้เสี่ยนั่นให้หมด จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างกันอีก ส่วนร้านผมจะเปลี่ยนมาเป็นผับแทน เราจะได้มีรายได้มากกว่าร้านนวด” โจเซฟเอ่ยพูดบอกไปเมื่อตอนนี้เขากำลังมีลู่ทางใหม่ในการทำธุรกิจ “ก็ดีค่ะ ฉันไม่อยากเห็นยัยพิชต้องทำแบบนี้อีกแล้ว” พิริมาบอกไปก็กอดสามีอย่างเสียใจ หลังจากนั้นพิชชาภาก็ไปอยู่กับฟรานติโน่ที่บ้านของเขาแบบลับๆ แต่ยิ่งนานวันเข้าความสัมพันธ์ของทั้งสองมันก็ยิ่งถลำลึกเข้าไปมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ฟรานติโน่เองก็ติดพิชชาภาจนเขาพาเธอไปญี่ปุ่นด้วย แถมยังพาเธอเที่ยวต่ออีกจนกลายเป็นข่าวใหญ่ในโลกโซเชี่ยว ด้านแฟรงก์ที่เห็นข่าวของพี่ชายก็เรียกเมทีเข้ามาพบเป็นการส่วนตัวที่ห้อง เพราะอยากจะรู้ว่าผู้หญิงในภาพนี้เป็นใครทำไมถึงไปอยู่กับพี่ชายของเขาที่ญี่ปุ่นได้ เพราะปกติฟรานติโน่ไม่เคยเอาผู้หญิงมายุ่งเกี่ยวกับงานเลยสักครั้ง แต่พอเข้าดูภาพของผู้หญิงคนนี้เขาก็รู้สึกคุ้นๆแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน เพราะภาพมันเห็นเพียงด้านหลังของผู้หญิงเท่านั้น แถมพี่ชายของเขายังจูงมือของเธออีก แบบนี้ไม่ให้เขาอยากรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร “คุณแฟรงก์เรียกผมมาทำไมครับ มีอะไรให้ผมทำหรือเปล่า” เมทีเอ่ยถามออกไปก็นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับแฟรงก์อย่างเป็นกันเอง “ผมอยากรู้ว่าทำไมพี่ไม่ไปประชุมกับพี่ฟราน แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันทำไมถึงไปกับพี่ฟรานได้ อย่าโกหกผมนะพี่ที”แฟรงก์พูดไปก็ยื่นโทรศัพท์ของเขาให้กับเมทีดู พร้อมกับทำสีหน้าจริงจังใส่เมทีไม่ได้เล่นเหมือนก่อน “อ่อคือ คุณฟรานให้ผมคอยต้อนรับลูกค้าอยู่ที่นี่น่ะครับผมก็เลยไม่ได้ไปด้วย ส่วนผู้หญิงนี่ผมก็ไม่รู้นะครับ สงสัยจะเป็นเด็กคุณฟรานมั้งครับคุณแฟรงก์ ทำไมไม่ลองโทรไปถามเอาเองล่ะครับจะได้รู้ๆกันไป” เมทีบอกไปอย่างโกหก เพราะเขารู้ว่าฟรานติโน่ไม่ต้องการให้เปิดเผยเรื่องของพิชชาภากับใคร โดยเฉพาะแฟรงก์เขาก็ไม่ควรบอกว่าผู้หญิงคนนั้นคือพิชชาภา และตอนนี้เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าระหว่างแฟรงก์กับพิชชาภามันคืออะไร “แน่ใจนะว่าพี่ทีไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้จริงๆ” แฟรงก์พูดไปก็จ้องหน้าเมทีอย่างจับผิด เพราะเขารู้ว่าเมทีนั้นซื่อสัตย์กับพี่ชายของเขาขนาดไหน แต่ผู้หญิงคนนี้ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้น เหมือนเด็กที่เพื่อนเขาแนะนำมาเป็นนางแบบเลย แต่จะว่าไปพี่ชายของเขาจะไปรู้จักกับพิชชาภาได้ไง แฟรงก์คิดในใจอย่างสับสน “แน่ใจสิครับ ถ้าคุณแฟรงก์ไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” เมทีบอกปก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องทำงานของแฟรงก์ไป ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก “เฮ้อ น่ากลัวทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ” เมทีพูดไปก็เดินออกไปทันที เขาคิดว่าฟรานติโน่กับแฟรงก์นั้นมีความร้ายไม่ต่างกัน เพียงแต่ฟรานติโน่จะดูเงียบๆต่างจากแฟรงก์ที่ดูเฮฮาเฟรนลี่แต่พอเข้าโหมดโหดก็น่ากลัวไม่ต่างกัน ส่วนแฟรงก์ก็นั่งทำงานต่อจนเกือบเย็น เขาก็ออกไปพบกับลูกค้าที่ร้านอาหารพอเสร็จเขาก็ขับรถสปอตคันหรูออกมา แล้วโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเพราะปาลมีโทรเข้ามา เขาก็มองแล้วจะกดรับแต่พอหันกลับมามองถนนอีกทีเขาก็เห็นผู้หญิงกำลังจะข้ามถนน เขาจึงรีบหักรถหลบอย่างรวดเร็ว “แม่ง ซวยอะไรแบบนี้วะ” แฟรงก์พูดอุทานออกไปก็รีบเปิดประตูไปหาคนที่เขาชนอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าเมื่อกี้จะชนเธอเข้า “โอ้ย” พลอยลดาร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อเธอล้มลงที่พื้นเพราะหลบจากรถที่กำลังจะพุ่งเข้ามาชน โชคดีที่รถคันนี้หักหลบไปก่อน ไม่งั้นเธอคงโดนรถชนไปแล้ว “เป็นอะไรรึเปล่าครับ” แฟรงก์รีบเข้าไปหาหญิงสาวที่เขาขับรถเชี่ยวทันที ก่อนจะค่อยๆช่วยประคองเธอให้นั่งที่ฟุตบาท แล้วต้องสะดุดกับใบหน้าหวานที่สวยได้รูปอย่างธรรมชาติ ก่อนจะสบตากับเธออย่างถูกใจ ด้านพลอยลดาพอหันหน้ามามองคนที่เข้ามาเอ่ยถามเธอ เธอก็มองเขาอย่างอึ้งๆ เพราะเธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน แถมผู้ชายตรงหน้ายังเป็นฝรั่งแล้วก็หล่อเอามากๆ จนเธอคิดว่าเขาหลุดออกมาจากนิตยสารนายแบบอย่างไรอย่างนั้น “อ่อ ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ” พลอยละพูดไปอย่างตะกุกตะกะก่อนจะดิ้นขลุกขักอยู่ในอ้อมกอดของชายตรงหน้า จนเขารู้สึกตัวแล้วปลดมือที่โอบกอดเธอไว้ “อ่อ ขอโทษครับ ผมขับรถไม่ระวังเอง ไปโรงพยาบาลดีกว่าน่ะครับ เผื่อคุณมีปัญหาอะไรผมจะได้รับผิดชอบ” แฟรงก์เอ่ยพูดไปอย่างจริงใจ เพราะเขาผิดจริงๆที่ขับรถเชี่ยวเธอ “อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก โอ้ย” พลอยลดาพูดบอกไปก็ลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง แต่ก็เกือบล้มลงไปเมื่อเธอเจ็บข้อเท้า โชคดีที่ชายหนุ่มตรงหน้าช่วยโอบกอดเธอไว้อีกครั้ง จนเธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากตัวเขาที่หอมจนเธอเกือบจะเคลิ้ม คนอะไรหล่อก็หล่อ แถมกลิ่นตัวก็ห้อมหอมอย่างกับผู้หญิง ส่วนแฟรงก์ก็สัมผัสได้ถึงขนาดหน้าอกของเธอที่เขาเอามือประคองเธอไว้ก็คิดว่าเด็กสาวคนนี้น่าจะโตแล้วในระดับนึง อยากจะรู้จริงๆว่าเธออายุเท่าไหร่กันทำไมหน้าเด็กขนาดนี้ “ไปโรงพยาบาลเถอะครับ เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบเอง ขออนุญาตอุ้มนะครับ” แฟรงก์บอกไปก็อุ้มหญิงสาวตรงหน้าขึ้นอย่างง่ายดาย ก่อนจะเอามีคนมาช่วยเขาเปิดประตูรถ เขาก็อุ้มเธอนั่งลงที่เบาะ แล้วหันกลับมาขอบคุณคนที่เปิดประตูให้ ก่อนจะเดินไปเก็บกระเป๋าของหญิงสาวมา แล้วเดินกลับขึ้นรถไปแล้วส่งมันให้กับเธอ “นี่ของคุณครับ” แฟรงก์บอกไปก็ยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อยๆ เพราะเขารู้สึกชอบหญิงสาวคนนี้เข้าแล้วสิ ดูสวยน่ารักแบบธรรมชาติดี ไม่ต้องแต่งเติมอะไรก็ดูมีเสน่ห์น่าค้นหา “ขอบ ขอบคุณค่ะ” พลอยลดาบอกเสียงตะกุตะกะก็รับกระเป๋ามาพร้อมกับหัวใจเต้นอย่างแรงจนแทบจะหลุดออกมา แต่เธอก็ต้องตั้งสติไม่ให้เธอทำตัวโก๊ะๆใส่ชายหนุ่มตรงหน้า แล้วท่องไว้ในใจว่าเธอยังเด็กอยู่ เธอยังไม่พร้อมที่จะแรดในเวลานี้ “ก๊อกๆ ก๊อกๆ” เสียงคนเคาะกระจกรถของแฟรงก์รัวๆ จนเขาและเธอต้องหันไปดูก็เจอกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้า เขาจึงกดกระจกรถลงไป “มีอะไรรึเปล่าน้อง ทำไมมาเคาะกระจกรถพี่แบบนี้” แฟรงก์พูดภาษาไทยออกไปอย่างชัดเจนจนเด็กหนุ่มที่มองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ถอนหายใจออกมาแล้วพูดกับเขาว่า“เออจริง ฉันว่าแกไปตรวจเถอะพลอย ตรวจมันสามอันไปเลย จะได้รู้ผลชัดๆ” เจสสิก้าเอ่ยเสริมไป แล้วเข้าไปหาเพื่อนสาว ก่อนจะหยิบเอาที่ตรวจครรภ์ทั้งสามอันไปด้วย แล้วจูงมือพลอยลดาไปที่ห้องน้ำ“ถ้าฉันท้องล่ะแก ทำไงดีอ่ะ” พลอยลดาพูดไปอย่างตื่นเต้น เพราะเธอเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ตรวจคนไข้มาก็เยอะแต่กับตัวเองทำไมเธอโง่แบบนี้นะ แค่อาการข้างต้นของเธอมันก็เป็นคนท้องไปแล้วด้วยซ้ำ แต่เธอจะท้องได้ยังไงในเมื่อเธอก็ให้เจสสิก้าช่วยฉีดยาคุมกำเนิดให้เธอมาโดยตลอด“ลืมไปรึเปล่าจ้ะ ว่าแกน่ะแต่งงานมาสองปีแล้วนะ แล้วตอนนี้ก็จบแล้วด้วย ถ้าแกไม่ท้องนี่สิแปลก” เจสสิก้าบอกไปก็ยิ้มมุมปากออกไป เพราะเธอเองแหละที่ทำให้พลอยลดาท้อง“แต่แกก็ฉีดยาคุมให้ฉันเมื่อเดือนก่อนเองนะ ฉันจะท้องได้ยังไงล่ะ ฉันว่าฉันคงจะเครียดอ่ะ ไม่ได้ท้องหรอก” พลอยลดายังคงฝืนไป เพราะเธอมั่นในยาอันมีประสิทธิภาพที่เธอใช้มาตลอดสองปีมานี้“หึๆ คือฉันไม่ได้ฉีดยาคุมให้แกหรอก พี่แฟรงก์เขาบอกว่าถ้าฉันหยุดช่วยแกฉีดยาคุม เขาจะให้ตั๋วไปเที่ยวไอซ์แลนด์แล้วก็มีที่พักให้ฉันฟรีตั้งหนึ่งอาทิตย์ ฉันก็เลยฉีดยาบำรุงไข่ให้แกแทน ถ้าจะโกรธอ่ะ ไปโทษผัวแกนู้นนะที่เอาของมาล่อ
“โอว์ พลอย ซี๊ด อ่าส์ เร็วอีกคนดี เร็วกว่านี้ อ่าส์ ซี๊ด โอ้ ฟัก เพี๊ยะ เพี๊ยะ” แฟรงก์ร้องครางลั่นห้องน้ำ ก่อนจะตบก้นงอนจนแดงเผือด ไม่นานน้ำในอ่างก็เริ่มเต็มยิ่งพลอยลดาขย่มใส่ท่อนเอ้นของแฟรงก์ถี่เท่าไหร่ น้ำในอ่างก็ยิ่งไหวกระเพื่อมออกมา“โอ๊ย เฮีย อ่าส์ พลอยไม่ไหวแล้ว มันเสียว อ้ะ อ้ะ อ้ะ โอ๊ย โอว์ อ้าย” พลอยดลาร้องครางลั่นพร้อมกับเกร็งกระตุกอย่างแรงๆจนแฟรงก์ต้องอุ้มเธอลุกขึ้นแล้วจับเธอสอดใส่ในท่าลิงอุ้มแตงอีกครั้ง แล้วพาเธอไปที่เตียงที่อยู่ด้านนอกทันที“อ่อย เฮีย ซีด อืม” พลอยลดากัดฟันข่มความเสียว ก่อนจะถูกจับวางลงบนเตียงแล้วแฟรงก์ก็ยังคงสอดใส่เข้ามาในร่องสาวของเธอ เธอมองเขาเปิดกล่องสีแดงนั่น แล้วเขาก็หยิบเอาเครื่องสั่นจิ๋วออกมา มันเป็นเซ็กส์ทอยนี่เอง ไม่น่าล่ะ หน้าเขาถึงได้หื่นขนาดนั้น“เล่นนี่สักหน่อยเป็นไง จะได้น้ำแตกหลายๆรอบ” แฟรงก์พูดบอกไปก็ยิ้มมุมปากแบบร้ายๆ ก่อนจะเปิดเครื่องสั่นแล้วมามาจ่อที่ปุ่มสวาทของเธอ จากนั้นเขาก็เริ่มกระแทกตัวเองเข้าใส่พลอยลดาเบาๆแล้วค่อยเพอ่มจังหวะเร็วขึ้น“โอ๊ย ซี๊ด อย่า เฮีย อ้ะ อ้ะ เฮีย อ้ะ อ้ะ” พลอยลดาครางไม่ได้ศัพท์ ก่อนจะถูกเอาแบบรัวๆจนเตีย
จากนั้นก็มีเสียงโห่ร้องเรียกให้ทั้งสองขึ้นมาบนเวที แฟรงก์ก็เดินจูงมือพลอยลดาไปหาพิธีกร ก่อนจะรับไมโครโฟนมาแล้วทำท่าจะพูดออกไป“ผมต้องขอขอบคุณแขกทุกๆท่านนะครับที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่งงานของผมกับพลอยลดาในวันนี้นะครับ ขอให้ทุกท่านสนุกไปกับงานของผมด้วยนะครับ” แฟรงก์พูดบอกไปก็ยิ้มออกไป ก่อนจะหันมามองพลอยลดาด้วยสายตาหวานเชื่อม จนพลอยลดามองหน้าเขาแบบงงๆ ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไรต่อ“และผมก็ต้องขอขอบคุณเจ้าสาวของผมครับ ที่เธอยอมตกลงใช้ชีวิตร่วมกับผม ทั้งที่ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย วันนี้ผมไม่มีอะไรจะให้กับผู้หญิงที่ผมรัก นอกจากความรักของผม” แฟรงก์พูดจบก็จับมือของพลอยลดาขึ้นมาจูบที่หลังมือของเธอ“พลอยก็ขอบคุณนะคะเฮีย ที่รักคนเอาแต่ใจแบบพลอย” พลอยลดาพูดออกไปก็โผล่เข้ากอดแฟรงก์ด้วยความรักทันที แต่อยู่ๆไฟในงานก็ดับลง และมีภาพแสงสว่างขึ้นตรงทางเข้างานซึ่งอยู่ตรงกับเวที ส่วนแฟรงก์ก็รีบวิ่งลงเวทีไป ปล่อยให้พลอยลดายืนอยู่ตรงนั้นกับพิธีกร“นี่เป็นวิดีโอที่ผมตั้งใจจะทำให้กับผู้หญิงคนหนึ่งครับ มันเป็นความในใจของผมที่อยากจะบอกให้เธอได้รู้มานานแล้ว ผมเริ่มรู้จักกับเธอตั้งแต่เธอยังเรียนจบมอปลาย ผมยอมรับเ
หลังจากนั้นสองอาทิตย์งานแต่งงานของแฟรงก์และพลอยลดาก็ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุงเทพ โดยมีตรีมงานการแต่งงานสามแบบ โดยตอนเช้าจะหมั้นแบบไทย และตอนบ่ายจะแต่งงานแบบคริสต์ โดยจะมีเพียงคนสนิทและญาติเท่านั้น และก็ไม่อนุญาตให้นักข่าวสำนักไหนเข้ามาทำข่าวทั้งนั้น ส่วนตอนเย็นก็เป็นงานเลี้ยงใหญ่เพราะจะมีแขกของฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาร่วมด้วย“พลอยใส่ชุดแบบนี้แล้วสวยมากเลยรู้ไหม พี่ชอบจัง” แฟรงก์เอ่ยพูดไปอย่างชื่นชมกับความสวยของพลอยลดาที่ใส่ชุดไทยสีแดงทองได้สวยสง่าจนเขาตกหลุมรักเธอแล้วตกหลุมรักเธออีก“เฮียก็หล่อค่ะ” พลอยลดาพูดไปก็แอบยิ้มอย่างเขินๆ เพราะเธอไม่เคยใส่ชุดเจ้าสาวทั้งสามชุดให้เขาดูเลย พอเขาชมแบบนี้แล้วเธอก็รู้สึกเขิน“มัวแต่หยอกกันอยู่ได้ เขาจะเริ่มพิธีแล้ว นั่งกันดีๆสิลูก” พิริมาเอ่ยบอกทั้งสองคนที่พูดคุยกันอย่างออกนอกหน้าจนคนที่นั่งมองอยู่ด้านล่างเวทีมองมาอย่างมีความสุขที่เห็นทั้งสองรักใคร่กันดี จากนั้นก็ทำพิธีต่างๆจนมาถึงเวลาที่เจ้าสาวต้องกลับเจ้าบ่าวต้องกลับไปเปลี่ยนชุดเพื่อไปแต่งงานที่โบสถ์ต่อ“เหนื่อยชะมัดเลยอ่ะพี่พิช พลอยไม่คิดเลยว่าการแต่งงานมันจะเหนื่อยขนาดนี้” พลอยลด
“กูว่าแล้ว กูไม่น่ามากับมึงเลยไอ้แฟรงก์” ฟรานติโน่กระซิบว่าใส่น้องชายเบาๆ เพราะตอนนี้เขาได้แต่นั่งตัวเกร็งมองดูเมียของเขาจัดกรกับสาวตรงหน้าอย่างเงียบๆ“ใครจะไปรู้ล่ะเฮีย พี่น้องคู่นี้โหดชิบ” แฟรงก์เอียงหน้ากระซิบพูดกับพี่ชายเบาๆ ก่อนจะกลับมาทำหน้าปกตินิ่งๆต่อไป“พวกแก คิดเหรอว่าฉันจะยอมง่ายๆ ฉันจะแจ้งความจับพวกแกให้เข้าคุกให้หมด” มลทินีเอ่ยร้องบอกไปอย่างโกรธจัด เธอจะไม่ยอมให้ผู้หญิงสองคนนี้มาทำอะไรเธอแบบนี้แน่ๆ“เอาสิ งั้นขอตบอีกสักฉาดนะ จะได้ให้คุ้มกับเงินที่จะเสียไป เพี๊ยะ เพี๊ยะ พลอยไม่ต้อง เดี๋ยวพี่เอง” พิชชาภาพูดไปเพราะไม่อยากให้น้องสาวของเธอมีคดีความอะไร เพราะน้องขอเธอยังต้องเป็นหมอ เธออยากให้ประวัติของน้องสาวขาวสะอาด ก่อนจะเอามือตบหน้าของมลทินีและขวัญนภาคนละทีอย่างพอใจ“แก อ้าย” ขวัญนภาและมลทินีลุกขึ้นมาสู้แต่ก็มีพลเมืองดีมาห้ามสองคนนั้นไว้ เพราะอยู่ทีมเมียหลวงกันเป็นแถว“ปล่อยฉัน อ้าย พวกแกรอหมายจับได้เลย ฉันไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่” ขวัญนภาพูดด้วยเสียงเข้ม ก่อนจะเดินออกไปด้วยสภาพสะบักสบอม พร้อมกับมลทินีเลขาของเธอพลอยลดาจำได้ว่าเธอสั่งให้คนขับรถจอดรถขวางรถของสองคนนี้ไว้ก
ด้านแฟรงก์และฟรานติโน่ก็มาถึงร้านอาหารที่นัดกับออแกไนท์เซอร์ชื่อดังเอาไว้ ก็เจอกับสองสาวที่นั่งยกมือโบกมือมาทางเขา ทั้งสองก็เดินไปหาด้วยท่าทางสุภาพ“สวัสดีค่ะคุณแฟรงก์ คุณฟรานติโน่ ดิฉันขวัญนภาค่ะ แล้วนี่มลทินีเลขาของฉันค่ะ” ขวัญนภาลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยแนะนำตัวกับสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะแอบเสียดายที่ทั้งสองหนุ่มมีเจ้าของหัวใจแล้ว เพราะคนพี่เธอได้ข่าวว่าแต่งงานไปแล้ว ส่วนคนน้องก็กำลังจะแต่งในอีกไม่ช้า“ครับ เชิญนั่งเถอะครับ เราจะได้คุยธุระให้เสร็จ ผมต้องรีบกลับไปดูลูกที่บ้าน” ฟรานติโน่พูดออกไปอย่างรำคาญสายตาของเลขาสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา สวยน่ะสวยจริง นมใหญ่ก็ใหญ่จริง แต่เขาไม่ชอบอะไรที่มันมาเสนอขนาดนี้“ตรงจังเลยนะคะ น่าอิจฉาภรรยาของคุณนะคะที่มีสามีน่ารักแบบนี้” มลทินีเอ่ยพูดออกไปอย่างเกินหน้าเกินตา จนขวัญนภาถึงกับเอามือกระตุกมือของเลขาสาวที่ออกตัวแรดอ่อยแขกของเธอ ทั้งที่เธอควรจะมีสิทธิได้อ่อยก่อน“ครับ ผมว่ารีบคุยงานเถอะ” ฟรานติโน่เอ่ยย้ำออกไป เพราะรำคาญสองสาวเต็มทนแล้วด้านสองสาวพอเดินมาสายตาก็ไปโฟกัสหนุ่มๆที่กำลังเดินเข้าไปในร้านอาหารอย่างคุ้นตา เพราะมันดูคล้ายๆกับสามีของพวก







