Share

10 จำใจซื้อดอกไม้

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-19 17:45:27

“วันนี้คุณเอนัดมินไปกินข้าวกลางวัน” หล่อนบอก เห็นคุณมารศรีหันขวับมาโดยเร็ว รู้ได้ว่ากับเรื่องแบบนี้จะต้องรายงานปิดบังเอาไว้ไม่ได้เป็นอันขาด และก็เห็นสีหน้าแวบๆ ราวกับจะฉายชัดถึงความไม่พอใจให้หล่อนรับรู้

“เขานัดแก หรือแกนัดเขากันแน่”

“โธ่! แม่ มินจะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงข้าวเขา...เงินมินหมดแล้ว”

“อ้อ...แกหมดเงินเพราะจ่ายค่าโต๊ะนี่ใช่ไหมล่ะ แกจะโทษว่าแม่เอาเงินแกอีกใช่หรือเปล่า”

มินตาได้แต่ครางอย่างอ่อนใจอยู่ในใจ หล่อนพูดผิดไปอีกแล้ว สาบานได้ว่าหล่อนไม่คิดดังเช่นที่คุณมารศรีกำลังตีโพยตีพายอยู่เลย เธอคิดไปเองทั้งนั้น และที่ดีที่สุดก็คือเงียบเฉยเสียไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วยเป็นดีที่สุด

“ก็ได้ ยายมิน ฉันจะหาเงินมาใช้คืนแก จะได้ไม่มาลำเลิกเบิกประจานกัน”

“มินไม่ได้คิด” หล่อนแย้งเบาๆ อ่อนใจนักหนา...เคยหลายครั้งที่มินตานึกถึงโลกภายนอกบ้าน นึกถึงการโบยบินจากบ้านไปสู่อิสระ และความโล่งสบายภายนอกปราศจากเสียงพูดเหน็บแนม ดุด่าว่าทำนองนี้ เพียงแต่หล่อนจะใจแข็งสักหน่อยเท่านั้น แต่หล่อนใจแข็งไม่พอ หล่อนยังใจอ่อนยังมีห่วงใยต่อพ่อแม่อยู่โดยเฉพาะกับพ่อ...ที่ห่วงใยมากกว่าแม่หลายเท่าตัว

“คุณเอนัดมินไปเพราะอยากรู้เรื่องพี่มิ่ง”

นั่นทำให้คุณมารศรีชะงักไปได้บ้างเหมือนกัน สีหน้าค่อยๆ ดีขึ้นจนเห็นได้ถนัด และมินตาก็รีบรายงานต่อโดยเร็ว

“มินว่าคุณเอคงจะรอให้พี่มิ่งกลับ แล้วอาจจะขอพี่มิ่งแต่งงานก็ได้”

“นั่นซิ” เธอเห็นด้วยคล้อยตามเกือบจะทันที “พ่อแม่เขาก็เคยพูดเกริ่นเอาไว้บ่อยครั้ง แม่เองก็เห็นความเหมาะสม...มิ่งกับตาเอนี่เหมือนกิ่งทองใบหยกจริงๆ” เธอไม่ทันสังเกตเห็นแววตาหมองๆ ของมินตาเลย “แล้วแกว่าไงล่ะ”

“มินก็บอกว่าพี่มิ่งกำลังจะกลับมา”

“ตาเอคงจะดีใจซินะ...แม่ก็คิดอยู่เหมือนกัน” เธอเปิดประตูห้องของมิ่งขวัญเข้าไป “เรื่องจะทลายรั้วบ้านเป็นรั้วเดียวกันซะ เป็นทองแผ่นเดียวกัน มิ่งแต่งงานไปแม่จะได้หมดห่วง...แต่ให้ไวๆ ก่อนที่ทางโน้นจะรู้ว่าเราเหลือแต่เปลือกสวยๆ”

คิ้วของมินตาขมวดเข้าหากัน

ไม่ชอบใจนักในสิ่งที่ได้ยิน

“เราก็เป็นเรา จะมาวัดกันที่ฐานะได้หรือคะ”

“แกนี่ไม่รู้อะไร” เธอเอ็ดแต่น้ำเสียงไม่บอกอารมณ์ร้ายๆ อีกแล้ว นอกเสียจากครุ่นคิดวิตกกังวลในเรื่องใหม่ “ผู้หญิงยากจนใครจะอยากได้เป็นเมียเป็นสะใภ้กันเล่า มิ่งกลับมา แม่จะต้องพยุงรักษาหน้าตามิ่งเอาไว้”

“ความรักไม่มีฐานะเข้ามาปะปนหรอกค่ะ คุณเอรักพี่มิ่งและพี่มิ่งรักเขาก็เพียงพอแล้ว”

“แม่จะต้องเตรียมพร้อมให้มากกว่านี้...ไง...แกดูซิ” เธออวดโต๊ะแต่งตัวใหม่นั้น งดงามสมราคาที่แพงลิบ...มันแพงเกินไป...และมินตาก็รู้ว่าเมื่อมิ่งขวัญกลับมาแล้ว ค่าพยุงรักษาหน้าตามิ่งขวัญย่อมจะแพงระยับ มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่จะทำให้หล่อนขนลุกได้ด้วยความหวาดเสียว

ว่าคงจะไม่พ้นหล่อนแน่นอน...มินตาไม่กลัวการทำงานหนัก หากจะได้เงินตอบแทนมา...หล่อนกลัวแต่ว่าจะไม่มีงานให้หล่อนทำเพื่อปั๊มเงินเก็บเอาไว้ให้แม่ ยามที่แม่ต้องการเงิน นั่นละสิ่งที่หล่อนหวาดกลัวเป็นนักหนา แต่ก็ยังไม่เคยปริปากบอกออกมาสักคำ หล่อนจะต้องมีเงินเสมอทุกยามที่แม่ต้องการ นั่นถึงจะทำให้แม่อารมณ์ดีขึ้นมา และทำให้หล่อนกับแม่เข้ากันได้

และหล่อนก็พอใจหากจะเป็นเช่นนั้น หล่อนปรารถนาที่จะให้มีสันติเกิดขึ้นในบ้านระหว่างหล่อนกับแม่เสมอ ไม่ต้องการความหมางเมินและเข้าใจผิดต่อกันเลย

“สวยไหม”

“ค่ะ สวย”

แต่ใจของหล่อนแย้งว่ามันจะไม่สวยได้อย่างไรกันในเมื่อราคาหมื่นสอง...เรียกว่าแพงระยับไปเลย

“มิ่งคงจะชอบ”

เสียงโทร. ศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน คุณมารศรีผลักมินตาออกห่าง กระวีกระวาดไปรับสายเอง

“มิ่งหรือลูก...” เสียงอ่อนหวานนัก มินตาตามมาหยุดอยู่ข้างหลัง เพราะรู้ว่ามิ่งขวัญต้องการจะพูดกับหล่อน

“จ้ะ...จ้ะ ยายมินกลับมาแล้ว จะพูดกับมินใช่ไหม”

เธอส่งกระบอกโทร. ศัพท์มาให้ “เอ้า...พี่เค้าจะพูดด้วย”

“มินเหรอ พี่มิ่งนะจ๊ะ มีเรื่องอยากไหว้วานเธอหน่อยด่วนจี๋ด้วยนะจ๊ะ”

ไม่ประหลาดใจเลย กับประโยคแรกที่ได้รับการไหว้วาน มิ่งขวัญมักจะมีเรื่องทำนองนี้มาเสมอ “ขอร้องเธอให้ทำแทนพี่ด้วย”

“ค่ะ”

มินตาได้แต่รับคำ ทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามิ่งขวัญจะสั่งให้ทำอย่างไรและรอฟังอยู่ น้ำเสียงของมิ่งขวัญยังดังมาเข้าหูอีกต่อไป และทำให้มินตาอึ้งไปได้นานโขเมื่อรับรู้ว่ามิ่งขวัญต้องการให้หล่อนทำอะไร

“วันเกิดหนุ่มสุดหล่อของพี่น่ะซิ อีกสามวันนี่เอง...พี่ก็เพิ่งจะรู้มาหยกๆ อยากให้เขาเซอร์ไพรส์...จัดดอกไม้ไปอวยพรเขา”

ฟังจากน้ำเสียงของมิ่งขวัญก็ได้รู้ว่าผู้ชายคนล่าสุดนี้มีความสำคัญมากมายเหลือเกิน

และหล่อนก็คงจะได้เห็นตัวตนของเขาในเร็ววันนี้

“พี่มิ่งโทร.  ไปร้านดอกไม้เลยไม่ดีกว่าหรือคะ ใช้บริการโดยตรงแล้วมินจะจัดการเรื่องชำระเงินเอง”

“แหม...ร้านดอกไม้จะส่งเด็กแบบไหนไปก็ไม่รู้ เขาเป็นคนพิเศษมากสำหรับพี่นะ มิน...พี่อยากทำให้ดีหน่อยเธอจะทำให้พี่หน่อยไม่ได้เชียวหรือ ถ้าพี่อยู่กรุงเทพก็คงไม่ต้องอาศัยไหว้วาน”

“ค่ะ...มินทำได้” หล่อนรีบตัดบทก่อนที่มิ่งขวัญจะตัดพ้อมากความไปกว่านี้อีก “พี่มิ่งบอกมาเลยว่าจะให้มินเอาดอกไม้ไปให้ใครที่ไหน...มินมีกระดาษปากกาพร้อมอยู่แล้ว”

“จ้ะ...จ้ะ...จดเลยนะ น้อง” มิ่งขวัญบอกชื่อบอกสถานที่มาให้ พร้อมกับรายละเอียดเพิ่มเติม “วันเกิดเขาน่ะพี่รู้มาว่าเขามักจะอยู่บ้านไม่ไปไหน เธอไปตอนค่ำๆ นะ ยายมิน...ซื้อดอกไม้สวยที่สุด ถือไปเองหาการ์ดสวยๆ สักใบ ใส่ชื่อพี่...แล้วบอกเขาว่าพี่แฮปปี้เบิร์ธเดย์ด้วย แล้วพี่จะโทร. ไปหาเขา...กะเวลาดีๆ นะ...พี่อยากให้เขาเซอร์ไพรส์เต็มที่”

หล่อนวางโทร. ศัพท์ลงแล้ว รู้สึกเพลียใจ หล่อนรู้ว่าหากละเลยในเรื่องนี้มิ่งขวัญกลับมาถึงกรุงเทพแล้ว บ้านจะร้อนเป็นไฟ เหมือนระเบิดเพลิงลงไม่มีผิด...ดอกไม้สวยช่อหนึ่งราคาคงจะสักห้าร้อยบาท...หรืออาจจะกว่านั้น แถมยังต้องบุกบั่นไปถึงบ้านผู้ชายอีกด้วย กลางวี่กลางวันมิ่งขวัญก็ไม่ยอมให้หล่อนไป ให้ไปตอนหัวค่ำก็คงจะมืดแล้วนั่นแหละ

“พี่มิ่งนะพี่มิ่ง...ใช้มินราวกับจะให้มินไปผจญภัย แต่ก็ดีเหมือนกัน มินอยากเห็นเจ้าชายในฝันคนนี้ของพี่มิ่งนักว่าจะวิเศษเลิศเลอสมกับที่คุยไหม”

“มิน...”

คุณมารศรีร้องเรียก

“นั่นจดอะไร พี่มิ่งสั่งให้แกทำอะไรรึ”

“ซื้อดอกไม้ไปอวยพรวันเกิดเพื่อนน่ะค่ะ”

“ทำให้พี่เขาล่ะ...อย่ารับคำแล้วลืม พี่มิ่งจะโกรธเอาได้”

“ค่ะ มินไม่ลืม...”

หล่อนถือกระดาษที่จอชื่อที่อยู่ของหนุ่มนั่นเข้าไปในห้องด้วย...พับกระดาษใส่ในกระเป๋าเงิน อีกสามวันจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จ...

///////////////////////////

เสียงดุว่านั่นเล็ดลอดออกมา แม้จะไม่ถึงกับหยาบคายแต่ก็เจ็บแสบ..เขาหยุดรีรอนิดหนึ่งว่าจะเดินเข้าไปหรือเลี่ยงขึ้นข้างบนไปดี แต่แล้วเขาก็เดินเข้ามา...เห็นแม่ของเขายืนอยู่กลางห้องครัว กำลังดุว่าสาวใช้คนใหม่ที่เขาไปรับตัวมาจากบ้านคุณยาย พอหันมาเห็นเขาก็ทักทายอ่อนหวาน

“กลับแล้วหรือ เอ...เหนื่อยไหม ลูก...” เขาไม่เหนื่อยเพราะอีกเช่นเคยในระยะนี้ที่มือขึ้น ดวงขึ้น เล่นแล้วไม่เคยขาดทุนมีแต่จะได้และทำให้เขารื่นเริง กลับบ้านดึกๆ แต่กลับมาด้วนสีหน้าเริงรื่นดวงตาเป็นประกายระยับ

เพียงแต่แม่เขาไม่เคยรู้ว่าทำไมเขากลับดึก นอกจากเรื่องที่เขากุขึ้น...ว่าเพราะหน้าที่การงานที่รัดตัว และเธอก็เชื่อในคำพูดเขาทุกสิ่ง คุณสีดาหยุดชั่วครู่เดินมาหาเขา “กินอะไรมาหรือยังจ๊ะ”

“เรียบร้อยแล้วฮะ”

“งานน่ะเพลาๆ ลงบ้านเถอะ ห่วงสุขภาพตัวเองไว้บ้าง เราก็พอมีเงินทองเหลือใช้ ไม่จำเป็นต้องทำงานล่วงเวลา”

“ผมยังทำไหว”

เขายืนยัน แน่ละเขากลับดึกและตื่นเช้าออกไปทำงานยังแข็งแรงกระฉับกระเฉง เพราะเขารู้ว่ามีสิ่งท้าทายรอคอยเขาอยู่...มันเหมือนเข้าสิงสู่อยู่ในกายเขาอยู่ในสายเลือดวิ่งวนไปมา เป็นสิ่งที่ทำให้เขามีพลัง ทำงานหนักกลางวันให้ผลงานออกมาดี ไม่มีที่ติและพอตกเย็น เขาก็วิ่งไปหาความเพลิดเพลินท้าทายใส่ตัวอีก...มันให้รสชาติชีวิตที่ดีเหลือล้นซึ่งเขารู้ว่าอธิบายให้คนอื่นฟังไม่ได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   137 (อวสาน) มินตา-ศิลา รักเราดีที่สุดในโลกเลย

    “ไม่ใช่ห้องนี้”มินตาตัวแข็ง เมื่อเขาเปิดประตูห้องที่หล่อนเป็นคนตกแต่งเพื่อเป็นห้องหอของเขากับมิ่งขวัญหล่อนพยายามจะถอยกลับ แต่ศิลาผลักหล่อนออกเดินไปข้างหน้า“ฉันยอมมาที่นี่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ห้องนี้” หล่อนยังเสียงแข็งและมีท่าทีปฏิเสธ ไม่ยอมรับ“คุณแต่งมันเอง...ก็ใช้เสียเองซิ” เขาบอกนุ่มๆ “ที่ทางของคุณเอง“ฉันทำเพื่อพี่มิ่ง” หล่อนยืนยัน หล่อนรักมิ่งขวัญไม่เคยเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น“แต่มันเป็นสิ่งที่คุณชอบ” เขาดักคอ “ผมรู้ว่ารสนิยมของมิ่งขวัญเกิดจากตัวคุณเป็นหลัก...ลืมซะว่าผมเคยสั่งว่าอย่างไร นั่นเป็นข้ออ้างจะเอาตัวคุณมาทำงานต่างหากเล่า ถ้าผมไม่บอกว่าเป็นห้องหอมีหรือที่คุณจะยอมมาทำ ตอนนั้นคุณชังน้ำหน้าผมจะแย่”“ตอนนี้ก็ใช่”“ผมไม่เชื่อ ไม่มีวันเชื่อ...”เขาปิดประตูไว้ข้างหลังแล้วยืนพิงอยู่อย่างนั้น ตอบหล่อนด้วยถ้อยคำหนักแน่นเขาจะไม่ยอมเสียหล่อนไปศิลาบอกตัวเองว่าเขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองสมปรารถนาให้จงได้ ต่อให้ยากเท่ายากก็ตามที“เราจะต้องคุยกันตามลำพังสองต่อสองแล้วละ มินตา”เขาบอกด้วยเสียงนุ่มทุ้ม และแน่นอนว่ามีกังวานของความรักอยู่มากมาย เขาไม้ปฏิเสธใจตัวเอง“ไม่...” หล่อนป

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   136 ตื๊อเมีย น่ะครองโลกเสมอ

    พิมสุดามาแล้วกลับไปแล้ว ปล่อยให้มินตาได้ครุ่นคิดตามลำพัง แม้จะมีปรางคอยรับใช้อยู่ใกล้ๆ แต่มินตาก็เหมือนอยู่คนเดียว...หล่อนคิดถึงอนาคตวันข้างหน้าเมื่อไม่มีบ้าน ไม่มีพ่อ ไม่มีสิ่งใดหลงเหลือให้คว้าติดอีกหล่อนจะทำอย่างไรดีนั่นคือสิ่งที่มินตาต้องคิด...มันไม่ใช่เรื่องเล็กเสียด้วย เพราะเท่ากับต้องเอาอนาคตมาเป็นเดิมพัน...อนาคตที่มินตาไม่แน่ใจ และหล่อนก็รู้ว่าเพราะตัวเขานั่นแหละที่ทำให้หล่อนเกิดความรู้สึกเช่นนั้นขึ้นมา/////////////////////////////ผู้ชายสองคนต่างวัยแต่มีสายเลือดส่วนหนึ่งเหมือนกันได้เผชิญหน้ากันอีกครั้ง คนแก่ดูจะยิ่งแก่ ในขณะที่คนหนุ่มก็มิได้ทำท่าลำพองว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ ต่างคนต่างมองกันชั่วอึดใจในความเงียบงันแล้วศิลาก็เป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อน “สาวิตต์เป็นอย่างไรบ้าง”“ก็ยังเหมือนเดิม...เก็บตัวเอง...และไม่พูดไม่จากับใครเลย”“เขาคงจะหายสักวันหนึ่ง“นั่นคือความหวัง”“ผมจะเอาใจช่วยแล้วกัน”คุณทรงศักดิ์ทำท่าเหมือนไม่คาดคิดเมื่อได้ยินเช่นนั้น“ต่อ...ให้อภัยพ่อกับพี่แล้วใช่ไหม”ชายหนุ่มส่ายหน้า นั่นคือความจริง เขายังไม่อาจจะให้อภัย เพียงแต่เขาคิดว่าเขาจะวางมือในส่วนนี้...หลายปีที่เ

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   135 เขารักเธอ มินต่า

    “ไล่ปรางหรือคะ...” มินตาแสนจะตกใจ “ทำไมล่ะคะ ปรางทำผิดตรงไหน”“มันเป็นพวกแกนี่ รับเอาไปซิ นังนั่นมันเลี้ยงไม่เชื่อง หวังว่าที่พูดมานี่แกคงจะเข้าใจนะ”“ค่ะ มินตารับคำ ดวงหน้าสลด ครอบครัวของหล่อนคือซาก...มันคืออดีตที่เหมือนจะเนิ่นนานผ่านมาแล้ว ดวงตาของหล่อนซุ่มไปด้วนน้ำตา ป่วยการจะพูดมากไปกว่านี้อีกเมื่อคุณมารศรีและมิ่งขวัญปั้นปึ่งใส่ มินตามาไหว้พ่อ นั่งพับเพียบอยู่นานจนศิลาต้องเป็นฝ่ายสะกิดหล่อน“กลับดีกว่ามั้ง มินตา...เขาประคองหล่อนลุกขึ้น ท่าทีถนอมเป็นนักหนาบาดตาของมิ่งขวัญสุดขีด หล่อนไม่อาจจะยอมรับออกมาดังๆ ว่าลึกลงไปนั้นหล่อนเจ็บปวดกับการที่ถูกทิ้ง...ทั้งที่หล่อนเคยทระนงในตัวเองมาตลอด ผู้ชายคนนั้นคือชายที่หล่อนรักและเมื่อความจริงเปิดเผยออกมารักกลายเป็นร้าง และขมขื่นที่สุดจะหารสชาติใดมากกว่านี้ ในชีวิตคงจะไม่มีอีกแล้วแน่นอน“แม่คะ...มิ่งตัดสินใจแน่นอนแล้ว พอเสร็จงานพ่อ มิ่งจะไปอยู่เมืองนอก เราไปด้วยกันไหนคะ แม่...เอาบ้านนี้ให้เช่า...ถ้าไม่คิดจะขาย เราคงจะพอมีเงินสักก้อนไปเที่ยวเล่นด้วยกัน พอให้มิ่งหายช้ำใจแล้วค่อยกลับมาใหม่...หรือบางทีเราอยู่ทางโน้นกันเลยก็ได้ มิ่งก็พอจะมีเพื่อนที

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   134 เสียพ่อแล้วยังมาเสียลูก

    ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง และมินตาก็นิ่งงันปราศจากเสียงกรีดร้องจนเขาใจเต้นแรง ไม่รู้ว่าหล่อนเสียใจแค่ไหนกันการรับรู้ในการสูญเสียหนนี้ มือของเขาลูบไล้เส้นผม“มินตา ได้ยินผมหรือเปล่า”“ก็ดีเหมือนกัน” หล่อนพึมพำออกมา “จะได้จบสิ้นกันแท้จริงๆ”“ไม่....” เขาปฏิเสธเสียงลั่น“เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”“อย่าพูดแบบนี้...ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง แล้วเราเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน ที่ผ่านมาผมรู้ว่าผมผิด จะไม่ให้อภัยคนที่รู้สำนึกหรอกหรือ มินตา...ใช่ว่าผมจะไม่เสียใจหรือไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ เพียงแต่ ตอนนั้นความแค้นทำให้ผมบ้าเลือดและลากคุณเข้ามาพัวพันด้วย”“ฉันให้อภัย แล้วก็โยนมันทิ้งเอาไว้ตรงนั้นแหละ...”ศิลากำลังจะพูดอีก แต่เสียงเคาะประตูห้องขัดจังหวะเสียงก่อนและประตูเปิดเข้ามาหลังจากนั้นครรชิตเดินนำหน้าธันวาเข้ามาพร้อมกับกระเช้าดอกไม้ใหญ่ที่บรรจุดอกไม้สวยงามสีสันสดใสชายหนุ่มขยับห่างออกจากเตียงนิดหนึ่ง ครรชิตทักทายและแสดงความห่วงใย ต่อสภาพบาดเจ็บของเขาสักห้านาทีก่อนจะหันไปหามินตา“ไง...มิน หน้าตาเหมือนคนเจ็บหนัก”“เกือบจะตายแต่ไม่ยักจะตาย...”“ประชดใครล่ะนั่น”ถูกดักคอแบบนี้มินตาทำตาวาว “มินไม่มี

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   133 มินตาแท้งลูก

    สาวิตต์นอนอยู่บนเตียง...ขาของเขาข้างหนึ่งที่ถกขากางเกงขึ้นไปถูกพันด้วยผ้าขาวหนาเปอะ แล้วหน้าตาของเขาก็เหมือนไม่ใช่ลูกชายคนเดิมของเธอ มีรอยช้ำปูดโปนนั่นยังทำใจได้ว่ามันจะหาย แต่ดูซิ...ดูสีหน้าและแววตาของเขามันดูเลื่อนลอย...และมองมาทางเธอย่างว่างเปล่า“เอ...”เธอถลาเข้าไปหาเขา แล้วก็หยุดอีกหนหนึ่ง เมื่อสาวิตต์ทำเหมือนไม่รับรู้ด้วย เขายังมองเบิ่งไปทางอื่นที่ไม่ใช่หน้าเธอ คุณสีดาหันขวับมาหาสามี ถามเสียงสั่น“อะไรกันคะนี่ ตาเอเป็นอะไร...ทำไมเขาทำหน้าตาแบบนั้น”คุณทรงศักดิ์โอบบ่าของภรรยาเอาไว้ ร่างแบบบางของเธอสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น“หมอบอกว่าเหมือนเขาจะช็อก พูดกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เป็นพักๆ เหมือนคนสะเทือนใจมากเกินไป”“แล้วแกจะหายไหม”“ต้องอาศัยเวลา แต่ตอนนี้เขาต้องรักษาตัว บางทีอาจจะต้องลางาน...หรืออาจจะต้องถึงขั้นลาออกก็ได้”“ไม่!”เธอร้อง หันมาซบหน้ากับบ่าของสามี นานแล้วที่คนสองคนไม่เคยหันหน้าเข้าหากันอีก ต่างมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเอง ความบาดหมางในเรื่องเล็กน้อยถูกทำให้ใหญ่มากขึ้น และไม่อาจจะเชื่อมต่อติดกันได้อีกเลยแต่ตอนนี้หัวอกของความเป็นพ่อแม่ที่จะต้องรับผิดชอ

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   132 ทุกอย่างเริ่มเข้าที่

    ปืน...มินตาบอกเมื่อเห็นสาวิตต์หยิบมันออกมาวางไว้บนโต๊ะกลมเล็กข้างๆ เก้าอี้ที่เขานั่งลง แววตาที่เขามองดูศิลาทำให้มินตายะเยือกไปตลอดตัว มันบ่งบอกว่าหากเขาจะลั่นไกปืน เขาก็จะทำได้โดยไม่ต้องหยุดคิดชั่งใจอีกเลย มินตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อพูดกับสาวิตต์ดีๆ“คุณเอ ขอให้มินนะ...อย่าถึงกับฆ่ากันเลย...”“บอกแล้วว่าอย่ายุ่ง ไม่ฆ่าเธอด้วยก็บุญเท่าไหร่รึว่าอยากตายตามผัว”“คุณเอจะทำไมได้นะคะ”“ทำไมพี่จะทำไม่ได้ นึกถึงที่มันทำกับพี่ซิ เพราะมัน...” สาวิตต์ชี้มือไปยังศิลาอย่างคั่งแค้น นั่นคือชายที่ร่วมสายเลือดเดียวกัน แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็กึ่งหนึ่งที่เหมือนกัน เขาไม่เคยเชื่อใครพูดอย่างไร เขาก็มักจะหัวเราะขบขันเสียเสมอว่าทุกคนที่พูดนั้น ล้วนแล้วแต่มีอาการทางจิตที่คิดมากเกินการไปเองทั้งนั้น แต่แล้วเขากลับมารู้เป็นคนสุดท้าย รู้เพื่อทำให้โลกที่เคยสวยงามสำหรับเขามันพังทลายลงมาต่อหน้าต่อตาเขาจึงมองหาทางออกใดไม่พบนอกจากทางนี้ ฆ่าศิลาเสีย ก็เท่ากับฆ่าไอ้เด็กเวรคนนั้นด้วย เมื่อหนนั้นมันเลือกรอดได้อาจจะเพราะดวงมันแข็ง แต่คราวนี้ไม่มีวันที่ดวงมันจะแข็งเท่าครั้งนั้นอีก มันจะต้องตายนั่นคือทางที่เขาเลือกให้มั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status