Share

Chapter 7

โลภ!อะไรทำให้คนเรากลายเป็นคนโลภ? ความหวังที่จะมีเงินทองและความมั่งคั่งถือเป็นความโลภหรือเปล่า? หรือการเห็นแก่ตัวในบางสิ่งเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองนับเป็นความโลภหรือไม่?

สำหรับฉัน คนที่หัวเราะเยาะกับปัญหาคนอื่น แน่นอนว่าเป็นช่วงเวลาดีๆให้กับตัวเองเพราะพวกเขาได้หลีกหนีออกมาจากตารางงานที่ยุ่งๆ และสามารถมาหัวเราะเยาะคนอื่นในใจได้ การมีส่วนร่วมในการทำให้คนอื่นต้องอับอายและเป็นทุกข์ ฉันถือว่าคนเหล่านั้นโลภ เพียงเพื่อความสนุกชั่วครู่ แต่คุณเลือกที่จะทำลายช่วงเวลาและความทรงจำของใครบางคน คุณคิดว่าคุณไม่ได้โลภหรอกหรือ?

ฉันมองไปที่ผู้หญิงผมบลอนด์คนนั้น คนเดียวกันที่พยายามรังแกฉันกำลังรังควานเอซ ผู้ซึ่งคอยช่วยฉันตั้งแต่วันแรก ช่วยตอบข้อสงสัยของฉันโดยไม่เคยร้องขออะไรตอบแทน เธอเทน้ำผลไม้ใส่เขา ทำแว่นตาของเขาหัก เด็กชายที่ไม่ได้สูงขนาดนั้นเมื่อเทียบสาวผมบลอนด์ แต่ฉันก็หวังว่าอย่างน้อยเขาจะยืนหยัดขึ้นเพื่อตัวเองหรือบางทีเขาอาจจะร้องไห้เพื่อทำให้พวกเขารู้สึกแย่ แต่แล้วสาวผมบลอนด์กลับยืนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เธอถุยหมากฝรั่งใส่หัวเขาและแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา

ณ จุดนั้น ฉันหวังว่าเอซจะยืนหยัดป้องกันตัวเองได้ แต่สิ่งที่เขาทำคือตรวจดูผมของเขา จากนั้นเขาก็หยิบแว่นตาที่หักและหนังสือเดินออกจากตรงนั้น เขาเดินตรงมาทางฉันและมองมาทางฉันสักครู่ ไม่มีอะไรอยู่ในตัวเขา ไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวหรือความโกรธใดๆ เขาเดินผ่านฉันไปที่ไหนสักแห่ง และฉันก็มองย้อนกลับไปที่ไอ้คนผมแดงที่แปะมือไฮไฟว์ให้สาวผมบลอนด์ดังนั้น คนเหล่านี้จึงสนุกกับการกลั่นแกล้งผู้อื่น

น่าสนใจ! ฉันสงสัยว่าพวกเขาเคยรับรู้ถึงความรู้สึกที่ถูกทำร้ายบ้างไหม

แต่ฉันรู้สึกประทับใจ ประทับใจเอซเด็กเนิร์ดคนนั้น ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนอื่นที่มีความอดทนอดกลั้นและเงียบขนาดนี้มาก่อน พ่อของฉันมักจะใจเย็นและมีความอดทนสูง แต่ฉันสงสัยว่าเขาจะสามารถต้านทานพวกคนพาลได้เหมือนที่เอซทำหรือเปล่า เพราะพ่อของฉันจะต้องเป่าหัวของพวกมันแน่ๆ...

ฉันมองกลับไปทางที่เอซเพิ่งเดินผ่านไป คนพวกนี้กำลังใช้ประโยชน์จากความอดทนของเขาอย่างแท้จริง และเขาก็แค่ปล่อยให้พวกมันทำอย่างนั้น

ฉันถอนหายใจขณะจับสายกระเป๋าขึ้นมาสะพายที่ไหล่ขณะหันหลังเดินจากไป

“เธอเห็นไหมว่าปฏิกิริยาของเขาเปลี่ยนไปเลยนะเมื่อรู้ว่ามีหมากฝรั่งอยู่บนผมของเขา” สาวผมบลอนด์พูดอย่างร่าเริงและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และฉันมองดูเธอสำลักลมหายใจ ขณะที่เธอเท้าเอวและหัวเราะ "คุ้มค่าแก่การชมเป็นอย่างยิ่ง!" คนผมแดงพูดว่า"ทำได้ดีมาก เชลซี" พวกเขายืนอยู่ที่นั่น ในกลุ่มที่สนุกสนานขณะที่ฉันเฝ้าดูพวกเขาจากที่ไกลๆ พวกเขาคงรู้สึกถึงชัยชนะที่เป็นคนที่ถูกเลือกเข้ามาอยู่ในกลุ่ม

“ทำได้ดีมาก...เชลซี” รอยยิ้มผุดขึ้นบนริมฝีปากของฉันขณะมองดูสาวผมบลอนด์ก่อนจะหันหลังและจากไป

เสียงกริ่งสุดท้ายของวันดังขึ้น ทุกคนเก็บกระเป๋าและเตรียมตัวกลับบ้าน ฉันมองไปทางขวาเพื่อหาที่นั่งที่เอซมักจะนั่งและพบว่ามันว่างเปล่า ผู้ชายเกาหลีที่เขามักจะนั่งด้วยก็ไม่ได้มา อาจเพราะกำลังอยู่กับเขา ฉันนั่งดูสมุดบันทึกบนโต๊ะมันคือสมุดบันทึกของเอซ ฉันไม่สามารถทำงานให้เสร็จทันเวลาและฉันก็ยังไม่ได้ส่งคืนให้เขา แต่เขาไม่เคยขอมันคืน ผ่านไปสองสัปดาห์แล้วแต่เขาไม่เคยขอให้ฉันคืนมันกลับเลย นิ้วของฉันลากไปตามลายมือของเขา มันช่างสวยงามและชัดเจนมาก ตัวอักษรแต่ละตัวมีความชัดเจนและมีลากหางสวยงามแล้วกลับมามองดูลายที่แสนจะไก่เขี่ยของฉัน

“ได้เวลาตอบแทนแล้ว” ฉันพึมพำขณะเก็บหนังสือและสมุดบันทึกทั้งหมดไว้ในกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปที่ล็อกเกอร์เพื่อเก็บหนังสือบางเล่มในนั้น ขณะที่ฉันกำลังเดินข้ามโถงทางเดิน ฉันได้ยินคนพูดและฉันก็หยุดเดินเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

จุงและอีกคนคือเอซ ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาของฉันเบิกกว้างเมื่อมองดูเขา เขาโกนผมออกจากศีรษะแล้ว เป็นเพราะหมากฝรั่งนั่นหรือเปล่า? เขามีรอยเสี้ยนบนหัวเขาพร้อมกับมีแว่นตาอันใหม่เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีแดงตัวใหญ่ กำลังพยายามยัดหนังสือทั้งหมดของเขาจากล็อกเกอร์เข้าไปในกระเป๋า

“เอซ นายแน่ใจหรือว่าต้องการกลับบ้าน เรามีสอบสัปดาห์หน้านะ” จุงพูดและเดินไปรอบๆ ขณะที่เอซกำลังยุ่งกับการจัดหนังสือ

“ฉันไม่รู้! ฉันแค่ต้องการเวลาพัก ยิ่งกว่านั้น ฉันไม่ได้ไปเยี่ยมครอบครัวนานและคิดถึงพวกเขามากจริงๆ ฉันจะกลับมาก่อนสอบ” เอซพูดอย่างเฉยเมยและยืนถือกระเป๋าอยู่ตรงนั้น เขาดูแตกต่างไปจากเดิมมากเมื่อโกนผม แต่ดวงตาของเขาเศร้ามาก “เอาน่า เอซ ฉันรู้น่าว่าทำไมนายถึงทำแบบนี้ เชื่อฉันสิ นายดูดีกับทรงผมทรงนี้นะเพื่อน” จุงจับไหล่ของเขาเอซเพียงแค่สะบัดมือออกขณะที่เขาเดินจากไปพร้อมกับที่จุงเดินตามและพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาอยู่ต่อ

ฉันยืนอยู่ที่นั่นซักพักแล้วเดินไปที่ล็อกเกอร์ของฉัน ใส่หนังสือทั้งหมดแล้วเดินไปที่ห้องน้ำหญิง ทันทีที่ฉันเปิดประตู เธอก็อยู่ที่นั่น เชลซีแม่สาวผมบลอนด์ เธอกำลังล้างหน้าอยู่ ส่วนฉันก็เดินเข้าไปที่อ่าง ฉันเคยเห็นเธอทุกวันหลังเลิกเรียน เธอจะเดินไปที่ห้องน้ำ ล้างหน้าและแต่งหน้า ฉันแค่เดาว่าเธอจะอยู่ที่นั่นและเธอก็อยู่จริงๆ

ฉันมองดูเธอผ่านกระจกในขณะที่เธอเปิดน้ำล้างใบหน้าของเธอโดยไม่สนใจฉันอย่างชัดเจน แต่แล้วจู่ๆเธอก็มองมาในกระจกแล้วหันกลับมามองฉัน

"เธอมาทำอะไรที่นี่?" เธอถามและฉันก็ยักไหล่ "ทำไมล่ะ นี่เป็นทรัพย์สินของเธอหรือไง" ฉันถามและเธอก็หรี่ตามองฉันและยืนตัวตรง ฉันมองดูเธอลืมหมุนปิดก๊อกน้ำและน้ำยังคงไหลต่อไป ช่างเปลืองน้ำอะไรอย่างนี้นะ!

“เธอนี่ท่าจะปากจัดนะ ยัยเด็กใหม่” เธอพูด ในขณะที่ฉันเอามือกอดอกไว้ “เวโรนิกา” ฉันแก้ชื่อตัวเอง และนั่นทำให้เธอเลิกคิ้ว “เธอกล้าต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ ยัยเด็กใหม่-”

“เวโรนิกา เวโรนิกา” ฉันเน้นย้ำพูดชื่อตัวเองอีกครั้งอย่างชัดเจนขณะที่เอนตัวพิงลงบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และมองดูเธอที่กำลังเดือดพล่านด้วยความโกรธ “เธอกล้าดียังไงมาขวางทางฉัน แกไม่รู้จักฉันเหรอ ฉันทำให้แกใช้ชีวิตในนรกได้นะ” เธอยิ้มเยาะและนั่นทำให้ฉันหัวเราะเบาๆ “จริงเหรอ?” ฉันถามและในนาทีต่อมาเธอก็ต่อยเข้าที่ตัวฉัน ซึ่งฉันป้องกันตัวด้วยมือเดียวอย่างง่ายดายไม่ปล่อยให้เธอมาทำร้ายและไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระเช่นกัน

“รู้ไหมตั้งแต่วันที่ฉันเข้าโรงเรียนนี้ ฉันเห็นเธอรังแกคนอื่นๆ รบกวนความสงบสุขของชีวิตพวกเขา พวกเขามาที่นี่เพื่อเรียนหนังสือ และพวกโง่อย่างเธอ คิดว่าไม่เป็นไรที่จะรังแกข่มขู่คนอื่นทำให้ชีวิตพวกเขาต้องย่ำแย่เพียงเพราะพวกเขาไม่สู้กลับ” ฉันพูดขณะที่ทำเสียงเดาะลิ้น “แต่การที่เธอเข้าใจผิดว่าฉันเป็นพวกนั้น” ฉันบิดมือของเธอยกขาขึ้นแล้วเตะตรงหน้าอกของเธอขณะที่เธอลอยถอยหลังและล้มลงกระแทกประตูด้วยความเจ็บปวด “ฉันเลือดร้อนขึ้นมาแล้วสิ” ฉันพูดจบและมองไปที่เธอด้วยความพึงพอใจ และหักหักข้อนิ้วตัวเองไปด้วย

“เธอทำบ้าอะไรน่ะ” เธอไอและร้องคร่ำครวญ แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นมาจะตีฉัน แต่นั่นดูเหมือนเธอจะคิดผิด เมื่อฉันต่อยหน้าเธออย่างจัง คราวนี้เธอล้มไปโดนประตูห้องน้ำ ประตูเปิดออกทำให้เธอกลิ้งล้มลงบนโถส้วม “ดูสิ ยัยผมบลอนด์” ฉันจับคางของเธอยกคางเงยหน้าขึ้นมองฉันขณะที่น้ำตาเริ่มไหลอาบใบหน้าของเธอ และทันใดนั้นเธอก็ถ่มน้ำลายใส่หน้าฉัน ฉันเช็ดออกแล้วตบหน้าเธออย่างแรง ขณะที่เธอจับแก้มแล้วร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด “ถ้าฉันเห็นเธอรังแกคนอื่นอีกครั้งละก็ จำวันนี้ไว้ให้ดีนะ” ฉันจับคางของเธอแล้วทำให้เธอมองมาที่ฉัน “เวโรนิกา ซัลลิแวนจะฆ่าเธอและฝังศพเธอไว้กลางสนามเด็กเล่นของ และจะไม่มีใครหาเธอเจออีก” ฉันเตือนแล้วเธอก็เบิกตากว้าง รอยฟกช้ำเกิดขึ้นบนใบหน้าของเธอขณะที่เธอสะอื้นไห้และอ้าปากพูด "ฉันจะฟ้องเรื่องแกกับคณบดี" เธอเอ่ยกระซิบและนั่นทำให้ฉันหัวเราะ

"จริงเหรอ?" ฉันถามและมองไปที่โถส้วม นาทีถัดมาฉันจับผมของเธอและบังคับให้เธอก้มหน้าลงไปในส้วม และฉันก็อัดวิดีโอไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือ เธอกรีดร้องและฟาดมือไปมาด้วยความอยากที่จะหลุดเป็นอิสระ แต่ยิ่งเธอทำอย่างนั้นฉันก็ยิ่งบังคับให้หน้าเธอก้มหน้าลงไปในโถส้วมอีก ฉันรู้สึกสนุก ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนี้มานานมากแล้วและนั่นทำให้ฉันรู้สึกดีมาก ต้องขอบคุณนายนะ เอซ

“ใครเห็นเราบ้างล่ะ” ฉันถามขณะที่ผลักเธอลงไปกับพื้น เครื่องสำอางของเธอหลุดไปหมดแล้วและอายไลเนอร์ก็เลอะไปทั่วทั้งหน้าใบหน้าเธอเต็มไปด้วยน้ำจากโถส้วม

“ต่อให้เธอไปฟ้อง ใครจะเชื่อ หรือใครจะมาเป็นพยานให้เรื่องนี้ได้” ฉันเช็ดมือด้วยกระดาษชำระ “แต่จำไว้นะว่าสิ่งที่เธอเคยทำมาทั้งหมดมีคนเห็นเธอทำตั้งกี่คน” ฉันนั่งลงบนที่ของฉันแล้วมองเธอเปิดโทรศัพท์ให้เธอดูว่ามันง่ายแค่ไหนที่จะทำให้ภาพเหล่านี้แพร่กระจายออกไปให้ทุกคนเห็น เธออยากจะเป็นตัวตลกให้คนอื่นๆหัวเราะไหมล่ะ ฉันแน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องพยายามหาเหตุผลเบื้องหลังคลิปวิดีโอนี้แน่ๆ และและมันจะทำให้พวกเขาได้รับรู้เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งที่มีทั้งหมดนั้น” ฉันถอนหายใจยืนขึ้นขณะที่เตะท้องของเธออีกครั้ง ทำให้เธอร้องไห้ออกมาดังๆ “งั้นก็ทำตัวดีๆดีกว่า อย่าให้ฉันต้องทำอะไรที่ฉันไม่อยากทำเลย อืม เป็นเด็กดีนะ ต่อจากนี้ไปอย่ารังแกใครอีกล่ะ” ฉันยิ้มขณะเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกง

เมื่อฉันเดินออกไป ฉันก็หันกลับมามองสภาพของเธออีกครั้ง นั่นเป็นเพียง 0.1% ของสิ่งที่ฉันทำจริงๆแล้วฉันทำสิ่งที่แย่กว่านั้นอีก

“นี่คือสิ่งที่สามที่ฉันไม่ชอบ อย่างแรก อย่ารบกวนฉันขณะทานอาหาร สอง อย่ารบกวนหรือขวางทางฉัน สาม อย่ามาทำตัวกล้าดีกับฉัน เห๊ะ?” ฉันหัวเราะในตอนท้ายและเธอก็มองมาที่ฉันในขณะที่สะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวด "ฉันหวังว่าเธอจะจำสิ่งนี้เอาไว้นะเพราะว่า...ฉันอาจเป็นคนที่อันตรายสุดๆไปเลย ฉันบอกเธอขณะปิดก๊อกน้ำ

“ฉันนี่ดูเจ้าคิดเจ้าแค้นมากใช่มั้ย” ฉันบอกเธอ น้ำเสียงของฉันเย็นชาไม่มีการพูดเล่นหลงเหลืออยู่ในขณะที่ฉันพูดกับเธอ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status