แชร์

เหตุเกิดที่งานแสดง

ผู้เขียน: นาดียา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-19 04:37:00

          ฮิโรยูกิ กระตุกยิ้มที่มุมปาก ดวงตาคมกริบจ้องนิ่งไปยังดวงหน้าขาวใส ใบหน้าที่ปราศจาก สิ่งแต่งแต้มใด ๆ มีแต่เครื่องหน้าที่เป็นธรรมชาติ ตั้งแต่คิ้วบาง ดวงตาที่ดูเศร้า จมูกเล็กรั้นอย่างคนดื้อดึงอยู่ในที ริมฝีปากบาง ใบหูเล็กนั่นที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ กับผมสีน้ำตาลที่ถูกรวบเป็นหางม้า ไว้ด้านหลังเผยให้เห็นใบหน้ากระจ่างใสได้ชัดเจน

 

      หึ..ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยจริง ๆ หวังว่าหล่อนคงไม่ใช่หญิงไทยที่ท่านปู่ให้ตามหาหรอกนะ เพราะเท่าที่ฟังมา ผู้หญิงคนนั้นน่าจะมีอายุสักแปดสิบปีได้แล้ว ถ้าอย่างนั้น..หล่อนเกี่ยวข้องอะไรกับแหวนวงนี้ล่ะ? ไม่แน่เขาอาจจะได้ข้อมูลมากมายจากหล่อน หญิงสาวผู้นี้ต้องเกี่ยวข้องอย่างใดอย่างหนึ่ง กับหญิงไทยที่ท่านปู่ให้ตามหาอย่างแน่นอน เห็นทีว่าเขาจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว ขืนปล่อยให้หล่อนลอยนวลอยู่อย่างนี้ ไม่ได้การแล้ว ดีไม่ดีหล่อนอาจไหวตัว หนีไปจะทำยังไง ชายหนุ่มลดกล้องส่องทางไกลที่มีศักยภาพสูง ราคาแพงลง พลางหันไปสั่งบอดี้การ์ดคู่กาย และยังเป็นบุคคลที่รู้จักเขามากที่สุดคนหนึ่ง

   

 “ ทานากะ ช่วยสืบหาข้อมูลโดยละเอียด ของผู้หญิงไทยคนนี้ให้ที” พลางส่งกล้องให้บอดี้การ์ดหนุ่ม

   “ เอาให้ละเอียดยิบเลยนะ ห้ามขาดตกแม้แต่นิดเดียว” ไม่มีคำตอบใด ๆ กลับมาจากร่างสูงใหญ่บึกบึน ของการ์ดหนุ่ม เพียงแต่พยักหน้ารับแค่พอเข้าใจเท่านั้น 

           กลับจากกิจกรรมในช่วงเช้า น้ำรินออกมาเดินเล่นริมชายหาด พกเอาหนังสืออ่านเล่นติดมือมาด้วย หล่อนเช่าเตียงผ้าใบมานอน ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ริมชายหาด อากาศเย็นสบายทำให้เผลอหลับยาวไปนาน มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็บ่ายคล้อยแล้ว หญิงสาวจึงเดินกลับห้องพักเพื่อหาอะไรลงท้องเสียหน่อย น้ำรินกลับเข้ามาในตัวโรงแรมหรู ในช่วงที่กำลังรอลิฟท์ รู้สึกเหมือนมีคนคอยจับจ้องอยู่ แต่พอหันไปมอง กลับไม่เห็นมีใคร ก่อนจะส่ายหัวไปมากับอาการคล้ายจะเป็นโรคแพนิคเข้าไปทุกที เมื่อมาถึงห้องพัก กลับรู้สึกหนักหัวเหมือนจะไม่สบาย    จึงตัดความคิดที่ว่าลงไปหาอะไรอร่อย ๆ ทาน ก็เปลี่ยนเป็นสั่งขึ้นมาที่ห้องแทน ตามด้วยยาลดไข้เพื่อกันไว้ก่อน สักพักก็ผล็อยหลับไป

         เกือบทุ่มแล้วนี่นา มือบางควานหาโทรศัพท์มือถือ เช็คเวลาให้แน่ใจอีกที อาการปวดหัวในตอนแรกค่อยทุเลาเบาบางลงแล้ว จึงตัดสินใจลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย เผื่อจะสดชื่นขึ้นมาบ้าง เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็พาตัวเอง ออกมาจนกระทั่งถึงบริเวณชั้นลอยของโรงแรม จากนั้นก็เดินลงบันไดมายังชั้นหนึ่ง

อันที่จริง ร้านอาหารสุดหรูอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม แต่สถานที่ ที่น้ำรินมุ่งไปก็คือ ร้านอาหารใกล้ ๆ กับคอฟฟี่ช็อปที่หล่อนมานั่งทานกาแฟเมื่อเช้าต่างหาก หญิงสาวเดินมาเรื่อย ๆ ไปยังร้านที่หมายตาไว้ตั้งแต่แรก พลางทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาหนานุ่ม ก่อนจะสั่งอาหารง่าย ๆ สำหรับคนเดียวมาทาน อาหารที่นี่นับว่าใช้ได้อยู่ ไม่จำเป็นต้องไปกินร้านแพง ๆ ที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมก็ได้ อีกอย่าง เสียดายตังค์เปล่า ๆ 

             ในห้องจัดแสดง มีผู้มาร่วมงานค่อนข้างหนาตา คนที่มีชื่อสียงในแวดวงเศรษฐกิจ และแวดวงดาราก็เดินกันให้ขวักไขว่ วันนี้มีแค่แขกรับเชิญ ยังมีคนมาเยอะขนาดนี้ แล้วถ้าหากว่าเป็นวันที่เปิดให้บุคคลทั่วไป เข้าชมได้ในวันรุ่งขึ้น จะเป็นยังไง.. ทำให้ทานากะค่อนข้างปวดหัวไม่น้อย เมื่อตัวเขาและเหล่าบอดี้การ์ด รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทางโรงแรมจัดมาช่วยดูแล คงสอดส่องดูแขกไม่ได้ทั้งหมดแน่นอน เครื่องเพชรของ คัทซึฮิโกะ ฮิโรยูกิ ถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างแน่นหนา ในตู้โชว์ที่ทำจากกระจกกันกระสุน มันต้องปลอดภัยแน่นอน แต่ถึงกระนั้น 

      ทานากะรู้สึกสังหรณ์ในใจว่าวันนี้อาจเกิดเรื่องขึ้น แต่ลางบอกเหตุของคนเรานั้นบางทีก็เป็นเรื่องของการคิดหมกมุ่น วิตกกังวลสารพัดเสียมากกว่า และถ้าหากบังเอิญ เกิดมีเรื่องขึ้นก็เหมาเอาว่ามันเป็นจริง อย่างที่มีลางสังหรณ์ก่อนหน้าแน่นอน สักพักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนุ่มคนหนึ่ง เห็นทานากะ ก็รีบวิ่งปราดเข้ามาหน้าตาตื่น

 “คุณเปรมศักดิ์ รัฐมนตรีฯ กระทรวงวัฒนธรรมมาถึงแล้วครับ”

“อืมม์..ถ้าอย่างนั้นไปเรียกกำลังมาเพิ่มตรงทางเข้าให้มากที่สุด เพราะตอนนี้พวกช่างภาพ และนักข่าวคงแห่กันมาแล้วแน่ ๆ”

“ครับ” หลังจากเจ้าหน้าที่นายนั้นจากไป ทานากะก็หันมากวาดสายตาหาความผิดปกติ ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีคนใหญ่คนโตเข้ามาในงาน ขณะเดียวกันนั้นก็พลันมีเสียงอื้ออึงบริเวณทางเข้าห้องจัดแสดง

 “ เกิดอะไรขึ้น..” ทานากะที่อยู่มุมในสุดของห้องจัดแสดง พยายามเขย่งปลายเท้ามองข้ามหัวผู้คนเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นเวลาเดียวกับที่บรรดานักข่าวจากหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ พากันกรูกันเข้ามาจากทางเข้าพอดี 

      ทางด้านน้ำริน เมื่อทานมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย เลยออกไปเดินย่อยรับลมเย็น ๆ ด้านนอกและอ้อยอิ่งกับธรรมชาติยามค่ำคืนได้สักพัก ก็เดินกลับเข้ามายังตัวตึก เพื่อกลับเข้าไปเตรียมตัวสำหรับโปรแกรมทัวร์ของทางโรงแรมในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหล่อนได้รับข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ มาเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กำลังรอลิฟท์บริเวณชั้นลอย หญิงสาวได้ยินเสียงอึกทึก ดังมาจากทางเข้าห้องจัดแสดงอัญมณีเพชรพลอยของนาย ฮิโรยูกิ ซึ่งอยู่ถัดไปทางด้านขวามือ น้ำรินหันไปมองด้วยความสนใจใคร่รู้ และโดยไม่รู้ตัว ขาทั้งสองข้างก็พามาหยุดยืนอยู่บริเวณหน้าห้องจัดแสดงอันโอ่อ่านั้นเสียแล้ว

“ มีอะไรกันนะ”  หญิงสาวยืนอยู่นอกห้องจัดแสดง พยายามเขย่งปลายเท้า เพื่อมองหาตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดไทยมุง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ ถึงได้มีคนมามุงดูกันขนาดนี้ มีช่างภาพด้วย หรือว่า..หรือว่ามีคนมาขโมยอัญมณีของอีตานั่นไปแล้ว ในขณะที่เท้าก็เขย่งไป ตาก็สอดส่ายไปมาอย่างอยากรู้อยากเห็น เป็นเวลาเดียวกับบรรดาช่างภาพและนักข่าวพากันกรูเข้าไปภายในงาน ตัวน้ำรินเอง ก็ไม่ทันได้ตั้งตัว เลยโดนผลักดันให้หลงเข้าไปในงาน อย่างไม่ได้ตั้งใจ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   จบบริบูรณ์

    การกระทำของทั้งสองได้เรียกน้ำตาให้กับคนที่พบเห็น บริเวณห้องฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ชั่ววินาทีนั้นราวกับว่าได้หยุดทุกสิ่งทุกอย่างให้หยุดอยู่กับที่ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ป่วยที่ร้องโอดโอย เพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลบริเวณหน้าขา เพิ่งถูกเข็นผ่านเข้ามาภายใน ต้องหยุดชะงักงันไปชั่วขณะ เหลือบมองมายังคู่หนุ่มสาวทั้งสองด้วยความงุนงงสงสัย ลืมความเจ็บปวดเมื่อครู่ไปเลยทีเดียว ทางด้านผู้สูงอายุทั้งสาม ถึงกับอึ้งไปกับการกระทำของทั้งสองหนุ่มสาว ความรู้สึกตื้นตัน และเห็นความตั้งใจจริงของทั้งสอง แสดงให้รู้ว่าพวกเขารักกันมากมายขนาดไหน ฝ่ายชายถึงกับสามารถตัดขาดจากสมบัติและวงศ์ตระกูลได้เลย เพื่อแลกกับการได้ครองรักกับหญิงสาวร่างเล็กบอบบางข้างกาย ลี ฮาซันถึงกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่หางตา มองไปทางด้านผู้เป็นสามีคล้องวงแขนเข้ากับลำแขนของอีกฝ่ายซุกหน้ากับอกของสามี ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ ทางด้านลี จางชีก็มีอาการไม่ต่างจากกันนัก จึงแตะที่แขนของภรรยาอย่างปลอบประโลม ชายชราหนึ่งเดียวนั้นก็ไม่ได้มีอาการแตกต่างจากคนอื่นเท่าใดนัก ร่างที่ค่อนข้างค้อมเล็กน้อย ไขว้มือที่เหี่ยวย่นไว้ด้านหลังข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างวางอยู่บน

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   ผ่านการทดสอบ

    น้ำรินพยายามลืมตาตื่น รู้สึกมึนงงไปหมด อาการคลื่นไส้ จะเป็นลม หายเป็นปลิดทิ้งหลังจากที่ได้ให้น้ำเกลือ และนอนพักเต็มอิ่มแล้ว ดวงตาที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำอุ่น ๆ เค็ม ๆ ถูกเช็ดออกจากดวงหน้าด้วยนิ้วเรียวใหญ่อย่างเบามือของผู้เป็นสามี“ตื่นแล้วหรือ? เป็นไงบ้าง? ยังเวียนหัวอยู่หรือเปล่า?” คำถามรัวถี่ติด ๆ กันจนคนถูกถามแทบตอบไม่ทัน จึงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ หล่อนไม่อยากให้เขาเป็นกังวลมากนัก“ไอ้หมอหัวล้านกับเจ้ายูมันให้เธอกลับบ้านได้ แต่ฉันว่าเธอยังไม่แข็งแรงดีเลย ยังไงนอนพักดูอาการที่นี่สักคืนดีไหม” ผู้เป็นภรรยาส่ายหัวดิกเมื่อ ได้ยินผู้เป็นสามีบอกให้นอนพักที่นี่สักคืน“ไม่เอาค่ะ หายดีแล้ว ไม่เวียนหัว ไม่คลื่นไส้ ไม่มีอาการอะไรทั้งนั้นแล้ว ฉันหายดีแล้วจริง ๆ นะคะ” อยากจะบอกเหลือเกินว่า แค่ตื่นขึ้นมาแล้วได้เจอหน้าเขา มาอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้อาการต่าง ๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้งทันทีเลยล่ะ“จริงนะ ห้ามโกหก เป็นพยาบาลอะไรไม่ชอบโรงพยาบาลเฮ้อ!” ชายหนุ่มชะโงกหน้า มองเสี้ยวหน้าภรรยาตัวน้อยด้วยความมันเขี้ยว มือใหญ่วางแปะที่ศีรษะเล็กนั้น เขย่าเบา ๆ อย่างเอ็นดู“กลับบ้านกันเถอะนะคะ” คนไข้ตัว

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า    “ฉันอยู่นี่แล้วที่รัก..ไม่ต้องกลัวนะ”

    “ดี..แล้วก็เอาหัวล้าน ๆ ของไอ้หมอคนเมื่อกี้ออกไปห่างเมียกันหน่อยได้ไหม กันไม่ชอบขี้หน้ามันเลยว่ะ” ฮิโรยูกิหันมากระซิบข้างหูเพื่อนรักทันทีที่หันไปเห็นแพทย์คนเมื่อสักครู่ เดินเลี่ยงออกไปทางด้านซ้ายของเตียงคนไข้ นั่นก็เรียกรอยยิ้มให้ยูอิจิได้เป็นอย่างดี ขี้หึงจริง ๆ นะเพื่อนเรา แม้แต่หมอแก่ร่างท้วม กับหัวที่มีผมทางตอนหน้าเหลือน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ไปหาว่าเขาหัวล้านซะนี่ ร้ายจริง ๆ“ออกไปก่อนเถอะเพื่อน ไม่ต้องห่วงทางนี้ กันจะช่วยดูให้อีกแรงหนึ่ง” คำยืนยันของยูอิจิ บอกว่าภรรยาของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างสูงจึงยอมถอยห่างออกมาแต่ไม่ได้ไปไหนไกล เขายังคงปักหลักยืนอยู่ห่าง ๆ ในมุมห้องแคบนั้น พลางกอดอกมองแพทย์และพยาบาลตรวจร่างกายหล่อนเงียบ ๆ“ฮีโร่..ฮีโร่..ตื่นเถอะ”“อ๊ะ! ฮ๊ะ! ยู..เมียฉันล่ะเมียฉันเป็นไงบ้าง!” ร่างสูงผวาตกใจตื่น เมื่อได้ยินเสียงยูอิจิปลุกให้ตื่น เขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“หึ..ตื่นขึ้นมาก็โวยวายเลยนะ คุณน้ำรินปลอดภัยแล้ว หมอให้น้ำเกลือ แล้วย้ายเธอไปนอนพักดูอาการที่ห้องข้าง ๆ โน่นแล้ว”“เหรอ? แล้วอยู่ไหนล่ะ?”“เดี๋ยวสิเพื่อน นี่นายไม่อ

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   น้ำรินท้อง

    “อือ ๆ ก็ว่าอย่างนั้นล่ะ” แล้วก็มีเสียงงึมงำจากคนรอบข้าง ที่บ่งบอกว่าเห็นด้วยกับความเห็นของเขา และนั่นก็ให้คุณคิม เซยอนชักสีหน้าอย่างไม่พอใจให้สามีทันที“เอาอย่างนี้สิ อะไรที่เป็นฝีมือของเธอ เราก็ชิมอันนั้นก็แล้วกัน..เรามาวัดกันที่รสชาติเป็นไง” และก็เป็นท่านปู่อีกตามเคยที่เอื้อมมือมาช่วยหล่อนไว้ ทำให้น้ำรินลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก การทดสอบเรื่องอาหารผ่านไปด้วยดี ผลที่ออกมาหล่อนได้คะแนนเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าสูงมากเลยทีเดียว และสุดท้ายก็คือการชงชาที่ถูกต้อง ขณะที่กำลังนำถาดน้ำชาไปเสิร์ฟให้ผู้หลักผู้ใหญ่นั้นเอง วูบหนึ่งหล่อนรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนจนแทบล้ม แต่ก็พยายามข่มใจไว้ พลางยืดอกขึ้นสูดลมหายใจเพื่อเอาออกซิเจนเข้าปอดลึก ๆ เฮือกหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเรื่องที่หญิงสาวไม่ต้องการให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้“อุ๊บ! อ๊ะ!” เพล้ง! จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อกลิ่นของชาชั้นดีโชยมาแตะเข้าที่จมูก กลิ่นของมันทำให้แก๊สในกระเพาะอาหารปั่นป่วนจนวิ่งมาจุกอยู่ที่ลำคอ แทบอ้วกออกมา เท่านั้นเองโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว หล่อนเผลอยกมือขึ้นมาปิดปาก ทำให้น้ำหนักถูกเทไปที่มืออีก

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   บททดสอบสุดหิน

    สามวันแล้วสินะที่หล่อนโดนการทดสอบแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณอาหญิง วันแรกเธอให้หล่อนขัดถูเครื่องใช้โบราณที่อยู่ในครัว ทำอยู่เป็นวันกว่าจะเสร็จก็เล่นเอามือถลอกไปเลยทีเดียว ถัดมาอีกวันหนึ่งหล่อนถูกทดสอบการทำอาหารซึ่งหล่อนถนัดนักล่ะ ไม่ว่าเธอจะสั่งให้ทำอะไรหล่อนก็ทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ทำให้คุณลี ฮาซัน เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับหล่อนดีขึ้น วันนี้เธอช่วยสอนวิธีชงชาที่ถูกวิธีให้กับหล่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฮีจินมาเยี่ยมหล่อนเมื่อช่วงบ่าย ก่อนจะกลับหล่อนได้ยื่นของสิ่งหนึ่งมาให้ นั่นก็คือหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีในแต่ละยุคสมัย คุณลีบอกว่าอีกสองวันจะมีการประชุมผู้อาวุโสของตระกูล ให้หล่อนเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อถึงวันนั้นเธอบอกว่าจะคอยช่วยหล่อนอีกแรงหนึ่ง น้ำรินรู้สึกดีใจเหลือเกิน ที่สามารถเอาชนะใจคุณลี ฮาซันได้ เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน พ่อบ้านเก่าแก่ ต่างก็ให้ความเป็นกันเองกับหล่อนมากขึ้นผิดกับวันแรก ๆ ที่หล่อนมาถึงที่นี่ลิบลับ หญิงสาวกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งในช่วงเย็น หลังจากร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก้าวเข้าไป

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   เดินทางสู้อุปสรรคอีกขั้น

    ช่วงเดือนพฤษภาคมที่เกาหลีแลดูสดชื่นนัก ความสวยงามของดอกไม้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ผลิดอกบานสะพรั่งก่อนที่จะมีใบสีเขียวชอุ่มตามมา ไกด์จำเป็นอธิบายให้หล่อนฟังว่า ริมทางที่รถวิ่งผ่านมาส่วนมากจะเป็นต้นเมเปิลต้นอึนแฮง ( ต้นแป๊ะก๊วย) ต้นบอทือ ( ต้นหลิว) ต้นบอช ( ต้นซากุระ) ต้นชัน (คล้ายต้นสน) ส่วนที่อยู่บนเนินเขาจะมีดอกจิลดัลแล สีชมพูอมม่วง ดอกแคนารีสีเหลือง และดอกซากุระ หรือดอกชนามู สีขาวอมชมพู ต่างผลิดอกออกมาประชัน เปรียบเสมือนสีผ้าต่าง ๆ พืด ปูประดับประดาไว้อย่างสวยงาม ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ยืนเรียงรายริมถนนเริ่มผลิใบอ่อนบ้างแล้ว ตามกิ่งก้านจะมีนกเจบีตัวเล็ก ๆ สีดำส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง รถคันจิ๋ววิ่งลัดเลาะผ่านภูเขาที่ดูคดเคี้ยว จากกรุงโซลออกมาแถวชานเมือง ได้สักพักใหญ่ ๆ คนขับกิตติมศักดิ์ของหล่อนก็หักพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวขวาขึ้นไปบนเนินสูงเบื้องหน้า วิ่งผ่านรั้วกำแพงสูงใหญ่เข้าไปด้านใน ก่อนจะจอดนิ่งสนิทหน้าลานกว้าง น้ำรินก้าวลงจากรถพลางเหม่อ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status