เสียงฮือฮาเกิดขึ้นภายในคฤหาสน์ เพราะการกระทำของผู้เป็นนายนั้นสร้างความตกใจให้กับผู้คนในที่แห่งนี้ร่างกำยำกำลังเดินขึ้นไปยังชั้นสองและพาหญิงสาวแปลกหน้าไปยังห้องรับรองตลอดทางเดินสาวใช้ก็มองด้วยความตกตะลึงบางคนก็ถึงกับเอามือทาบอก หรือบางคนก็เอามือป้องปาก
“นะ…นายท่าน” สาวใช้อุทานออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบากับภาพตรงหน้า
ร่างกำยำมองไปที่สาวใช้ก่อนที่พวกเธอจะหลบสายตาคมดุของเขาภายในห้องรับรองมีเตียงกว้างอยู่กลางห้อง และดูมืดมิด มีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์ที่ส่องเข้ามาเพียงเล็กน้อยกรีนถูกร่างหนาวางลงอย่างนุ่มนวลใบหน้าของเธอยังเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโคลนและเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตลอดการเดินทางจนถึงตอนนี้ ร่างของเธอนั้นสั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บเพราะอุณหภูมิในร่างกายของใครบางคนนั้นไม่ได้อบอุ่นแม้แต่น้อย
“จัดการพานางอาบน้ำให้เรียบร้อย อีกครึ่งชั่วโมงข้าจะกลับมา”
บาบารัสเดินออกจาห้องรับรองไปพร้อมกับหยิบเสื้อคลุมตัวโปรดมาสวมใส่ร่างหนาเดินออกมาจากห้องรับรองและเดินลงไปยังชั้นสอง เพื่อไปเอาของบางอย่างที่ห้องทำงานหลังจะทำงานเสร็จ ร่างหนาเปิดประตูเข้าไปหยิบดาบคู่ใจที่ติดอยู่บนกำแพงออกมาเพื่อออกไปที่ลานประลอง สายตามคมมองออกไปยังหน้าต่างที่มองเห็นลานประลองได้อย่างชัดเจนและกำลังมีเหล่าทหารยืนรอตนอยู่เป็นจำนวนมาก
เสียงของเหล่าทหารกำลังโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับสถานที่ที่กำลังรอเตรียมการประลอง ทหารหลายนายกำลังร้องเล่นอย่างครึกครื้นร่างแกร่งกำยำเดินลงมาที่ลานประลองอย่างไม่รอช้าพร้อมกับดาบสีเงินคู่ใจซึ่งเป็นดาบที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นมีการลงอักขระเพื่อเพิ่มความแข่งแกร่งให้กับเจ้าของดาบท่ามกลางความมืดและแสงจันทร์ที่สาดส่อง
ปลายดาบปักลงที่พื้นจนเกิดประกายไฟ เสียงโห่ร้องเงียบลงทันทีเมื่อเจ้าเมืองมาถึงที่ลานประลอง บาบารัสถอดเสื้อคลุมทิ้งลงสู่พื้น เผยให้เห็นแผงอกกำยำและร่างกายแข่งแกร่งที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี
แผ่นหลังแกร่งมีรอยแผลเป็นของดาบขนาดใหญ่อย่างเด่นชัด บ่งบอกได้ว่าเขาผ่านสงครามมาอย่างหนักเพื่อขึ้นปกครองเมือง
“นายท่าน ไวน์ครับ” วิลล์เดินเข้ามายื่นแก้วไวน์ให้กับผู้เป็นนายพร้อมกับยืนมองเขาดื่มจนหมด
“ขอบใจ” บาบารัสดื่มไวน์จนหมดพร้อมกับโยนแก้วในมือลงพื้นจนแตกกระจาย
ร่างหนามองไปยังทหารผู้นั้นด้วยสายตาเรียบนิ่งพร้อมกับแกว่งดาบชี้ไปที่เขา ทหารนายนั้นเดินเข้ามาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ พร้อมกับคุกเขาลงต่อหน้าเขาด้วยอาการสั่นเทาเพราะรู้ถึงชะตากรรมของตัวเอง
“เจ้ารู้ถึงความผิดของตัวเองหรือไม่”
สายตาแข็งกร้าวเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีวางอำนาจก่อนจะใช้ดาบช้อนคางทหารนายนั้นเพื่อสบตา
“รู้ครับท่าน...ข้า...น้อย..ให้อภัยข้าน้อยด้วย”
เสียงสั่นเครือเอ่ยอย่างร้องขอ เพราะการที่มาที่แห่งนี้เพื่อประลองกับท่านผู้นำมีแต่เขาเองที่จะเจ็บตัวและนี่ไม่ใช่ครั้งแรก
“ข้าเคยบอกพวกเจ้าแล้วใช่ไหมว่าอย่างทำเสียเรื่องไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ตาม”
สายตาคมเอ่ยและมองไปยังเหล่าทหารที่ยืนอยู่รายรอบและกำลังหลบตาเขา
“ท่านครับ...ช่วยออมมือให้ข้าน้อยด้วย”
ทหารนายนั้นก้มลงพร้อมกับกอดขาขอร้องผู้เป็นนายแต่เขาได้เพียงการสะบัดให้หลุดออกจากการเกาะกุม
“ข้าไม่เคยออมมือให้ใคร” ขาแกร่งยันไปที่อกของคนตรงหน้าพร้อมกับใช้ดาบจ่อไปที่คออย่างไม่ปราณีลูกน้องใต้อำนาจไม่รอช้าเพื่อการเอาตัวรอดเขาใช้ขาแกร่งตวัดเกี่ยวขาผู้เป็นนายแต่เขากลับหลบได้ทัน
ทหารที่อยู่โดยรอบส่งดาบให้กับเพื่อนของตัวเองเมื่อรับรู้ว่าการประลองได้เริ่มขึ้นแล้วเสียงโห่ร้องดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ
แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาที่ลานประลอง พร้อมความระอุของคบเพลิงเริ่มแรงขึ้นผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามายังลานประลองเสียงดาบกระทบกันอย่างบ้าคลั่งสลับกับการใช้ทุกสัดส่วนของร่างกายในการต่อสู้เสียงของหมัดที่กระทบไปยังใบหน้าของผู้น้อยทำให้เขานั้นถึงกับหงายหลังไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
เสียงเชียร์กระหึ่มไปทั่วลานประลองก่อนจะตามด้วยเสียงกลองที่ดังขึ้นอย่างไม่มีที่มาทำให้บรรยายกาศดูน่าตื่นเต้นไปอีกหลายเท่าตัวเมื่อเวลาผ่านไปแสงของประกายไฟจากดาบเด่นชัดในยามค่ำคืน
พร้อมกับเสียงของคมดาบที่ยังคงไม่มีแววจะเลิกลา นัยน์ตาคมของผู้เป็นนายหาจังหวะที่เป็นจุดบอดก่อนจะใช้ข้อศอกอัดเข้าที่สันกรามของลูกน้องเข้าเต็มแรงจนร่างลูกน้องนั้นลอยกระเด็นขึ้นไปในอากาศก่อนจะตกลงไปนอนที่พื้น
เสียงสันกรามกระทบกันอย่างแรงจากการปะทะของผู้เป็นนายซึ่งมาพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทั่วทั้งปากผู้น้อยมองเจ้าเมืองอย่างไม่ละลดจากสายตาที่ดูหวาดกลัวตอนนี้มีเพียงแค่ต้องการจะเอาชนะแต่ทุกอย่างกลับต้องหยุดลงเพียงเท่านั้นเพราะวิลล์องค์รักษ์ของผู้นำวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อนเพื่อรายงานบางอย่าง
“ท่านครับ ท่านหญิงคนนั้นฟื้นแล้ว” เสียงของวิลล์ที่เอ่ยขึ้นทำให้เหล่าทหารโดยรอบต้องเงียบเสียงลง
“ขัดจังหวะ” บาบารัสกำลังจะตะหวัดดาบไปที่ทหารผู้น้อยกลับชะงักไปพร้อมกับหันไปมององค์รักษ์ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจ
“ขอโทษครับนายท่าน…” วิลล์โค้งคำนับขอโทษผู้เป็นนายเพราะด้วยความโง่เขลาที่มาขัดจังหวะในเวลานี้
ทหารร่างกำยำของผู้น้อยใช้จังหวะที่ผู้เป็นนายเผลอเตะเข้าที่ต้นขาแกร่งทำให้ผู้เป็นนายนั่นเข่าทรุดลงกับลงกับพื้นแต่สิ่งที่เขาทำนั้นเหมือนเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพราะสายตาของร่างสูงที่มองมาพร้อมจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว
เสียงฮือฮาเกิดขึ้นอีกครั้งเพราะการกระทำของคนผู้น้อยดวงตาหลายคู่ที่ยังคงดูตกใจ และเริ่มวิตกกังวล และรอดูท่าทีของผู้เป็นนายอย่างใจจดใจจ่อเสียงปลายดาบที่ปักลงดินสะท้านไปทั่วพื้นที่เสียงทุกอย่างกลับมาเงียบสะงัดอีกครั้งแม้กระทั่งเสียงกลองที่เคยดังครึกครื้น
ดวงตาคมสีเหลืองทองเรืองแสงเปล่งประกาย ท่ามกลางความมืดไอร้อนที่แผ่ซ่านออกมาจากลำตัวทำให้ทหารหลายนายที่อยู่ใกล้ ๆ ถึงกับพากันถอยออกมา
ท่ามกลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ใบหญ้าเขียวขจีไหวเอนตามลมที่พัดผ่าน เสียงนกร้องเพลงอยู่ไกล ๆ และแสงแดดที่ส่องกระทบพื้นดินให้เกิดประกายอ่อน ๆ บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุขในวันหยุดที่สมบูรณ์แบบ บาบารัสและกรีนพาลูก ๆ ออกมาเที่ยวในธรรมชาติที่งดงาม และวันนี้ก็เป็นวันที่ทั้งครอบครัวได้มาพักผ่อนในทุ่งหญ้ากว้างที่มีต้นไม้ใหญ่และดอกไม้หลากสีบาบารัสยิ้มอย่างมีความสุขขณะเล่นกับลูก ๆ ของเขา ลูกสาวคนโต บริสตัน วัย 4 ขวบ กำลังวิ่งไล่จับลูกบอลที่เขากลิ้งไปมาในสนาม เธอมีท่าทางฉลาดแฉลบและคล่องแคล่ว ทำให้บาบารัสรู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวมาก ส่วนกราเซีย ลูกสาวแฝดของเธอที่มีอายุเท่ากันกำลังวิ่งตามพี่สาวไป และในขณะเดียวกันลูกชายคนเล็ก บรากัส ที่มีอายุแค่ 3 ขวบก็วิ่งไป ๆ มา ๆ ไม่หยุด เขามักจะล้มตัวลงไปบ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยทำให้เขาหยุดยิ้ม“เร็ว ๆ หน่อย ! บรากัส !” บาบารัสตะโกนด้วยเสียงแหบ ๆ ขณะที่เขาวิ่งตามลูกชายที่ขำ ๆ กระโดดไปชนต้นไม้ จนเสียงดัง “โครม !” บรากัสล้มลงไปกองกับพื้น“โอ๊ะ ! บรากัส !” กรีนที่นั่งอยู่ห่าง ๆ ก็รีบลุกขึ้นมามอง แต่เมื่อเห็นลูกชายหัวเราะอย่างมีความสุขและไม่เป็
ในเมือง Sunthawarm ที่เต็มไปด้วยความสวยงามและความอบอุ่น แสงแดดที่ทอแสงอ่อน ๆ ปล่อยแสงทองสว่างไสวลงมาบนพื้นดินอันเขียวขจี ใบไม้ไหวเอนในลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านมา ทุกสิ่งดูเหมือนจะเปล่งประกายขึ้นด้วยความสุขและความมหัศจรรย์ การแต่งงานระหว่างบาบารัส มีเสน่ห์และความกล้าหาญกับกรีนผู้มีความใจดีและแข็งแกร่ง ทั้งสองเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ และวันนี้พวกเขาจะได้ประกาศความรักและผูกพันไปตลอดกาลในพิธีแต่งงานที่แสนพิเศษครั้งนี้เมือง Sunthawarm เป็นสถานที่ที่ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นเมืองที่มีพลังมหัศจรรย์อันล้ำค่า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า แสงแดดที่สัมผัสกับท้องฟ้าจะเปล่งประกายราวกับมีการเวทมนตร์แฝงอยู่ในนั้น พิธีการทั้งหมดจัดขึ้นในลานกว้างกลางเมือง ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านสาขากว้างขวาง ดอกไม้สีทองอร่ามกระจายทั่วทุกมุม ลมอ่อน ๆ พัดผ่านลอยกลิ่นหอมจากดอกไม้หลากหลายชนิด ขนาบข้างไปกับเสียงร้องของนกที่บินอยู่เหนือท้องฟ้าและเสียงของแม่น้ำใสสะอาดที่ไหลผ่านตามธรรมชาติทุก ๆ คนที่มาร่วมงานในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียง สัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในป่า แพะมังกรปีกสีน้ำเงิน หรือม
ในหลายวันถัดมา ภายในห้องนอนของบาบารัสที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบและอบอุ่น ทั้งสองคนกลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งหลังจากเวลานานที่ห่างหายไป ความรู้สึกหลากหลายที่เคยปะปนกันในใจของบาบารัส ตอนนี้ได้ถูกละลายไปแล้วด้วยอ้อมกอดและสายตาของกรีนที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย ที่แม้กระทั่งบาบารัสยังไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าความอบอุ่นแบบนี้จะเข้ามาทำให้เขารู้สึกอ่อนลงจนแทบจะไม่สามารถต้านทานได้เขาค่อย ๆ ทอดตัวลงบนเตียงที่ถูกจัดวางอย่างสวยงามด้วยผ้าห่มหนานุ่ม มีแสงจันทร์ที่ทอดส่งลงมาอ่อน ๆ ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้ห้องนอนดูสงบและน่าหลงใหลยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่บาบารัสหันไปมองกรีน ความรู้สึกที่ตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความรักจะกลับมาโหมกระหน่ำในหัวใจของเขา กรีนยังคงความงามที่ทำให้หัวใจของเขากระตุกทุกครั้งที่เห็น เธอมีดวงตาที่เปล่งประกายเหมือนดวงดาวในยามค่ำคืน ผมยาวสีดำที่สยายไปบนหมอนกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเธอปลุกความรู้สึกอบอุ่นในตัวเขาให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้งหลายครั้งที่บาบารัสนั่งอยู่ข้าง ๆ กรีน ขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสือหรือนั่งทำอะไรบางอย่าง บาบารัสมักจะมองเธอด้วยความเงียบงัน การมองเธอในทุก ๆ การเคลื่อนไหวท
บรรยากาศในห้องสมุดใหญ่ของปราสาทหลากหลายสีสันยังคงเงียบสงัดเหมือนเคย สองมือของบาบารัสจับแน่นกับตำรามหาวิทยาลัยเก่าแก่เล่มหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่ยอมละสายตาจากหน้าเรียบ ๆ ของมัน แม้จะเป็นตำราที่เต็มไปด้วยตัวอักษรที่ทับซ้อนจนยากจะเข้าใจ ความมุ่งมั่นและความหลงใหลในเป้าหมายของเขายังคงท่วมท้น มันไม่ใช่แค่การค้นหาความรู้ทางเวทมนตร์ แต่เป็นการค้นหาทางสู่คนที่เขารัก และเขาคิดว่าไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เขาก็จะทำเพื่อเธอให้ได้ตั้งแต่วันนั้นที่เขาได้รู้ว่าเธอได้จากไปที่โลกมนุษย์ เขาแทบจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ เขาหมกมุ่นกับการฝึกฝนเวทมนตร์ที่เขาเชื่อว่าจะพาเขากลับไปหากรีนได้ ไม่ว่าโลกนี้จะให้ราคาต่ำกับความพยายามของเขามากแค่ไหน เขาก็จะไม่ยอมแพ้ เพราะเขาเชื่อมั่นว่ามีบางอย่างในเวทมนตร์ที่จะทำให้เขาได้กลับไปหาคนที่เขารักหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย แม้กระทั่งในยามค่ำคืนที่ปราสาทเงียบสงัด เขาก็ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ยกแก้วสุราเข้าปากเพื่อทำให้ความมึนเมาสามารถกลบเสียงในหัวที่กระซิบถึงชื่อของเธอได้บ้าง แต่ก็ทำไม่ได้ ความคิดถึงของกรีนยังคงกัดกร่อนในจิตใจของเขาอยู่เสมอ
“ก็ตามที่ข้าคุยกับเจ้าไว้ว่าเจ้าต้องกลับบ้านแบบที่ไม่ได้กลับจริง ๆ ข้าจะพาเจ้าไปอยู่ที่หนึ่งก่อน เหมือนเจ้าได้หายตัวไปจากพวกเราจริง ๆ” รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยเมื่อได้เวลาเล่นสนุกกับบางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น“จะพาฉันไปไหน” กรีนมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความกลัวเพราะถึงเธอจะดูน่ารักแต่ก็เจ้าแผนการณ์ไม่ใช่น้อย“เชื่อใจข้าเถอะแค่ไปอยู่ที่นั่นเดี๋ยวเดียวก็กลับ” มิสไวท์ลุกขึ้นพร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินออกจากห้องหมากรุกและสั่งเหล่าทหารให้พากันเตรียมตัวออกเดินทางส่งนางเอกกลับโลกมนุษย์โดยที่ยังไม่บอกบาบารัสทุกอย่างเตรียมการณ์อย่างรวดเร็วและทุกอย่างถูกปกปิดไว้ไม่ให้ผู้ปกครองเมืองอย่างบาบารัสให้ได้รู้เพราะตอนนี้มิสไวท์ได้ให้ทหารคอยจับตาดูบาบารัสไว้ เมื่อถึงเวลาที่ได้กำหนดกันไว้ค่อยปล่อยข่าวไปถึงหูสหายของตน“เจ้าพร้อมแล้วใช่ไหม ถ้าพร้อมแล้วก็ขึ้นรถม้าคันนั้นไปได้เลย” มิสไวท์เอ่ยพร้อมพาตัวหญิงสาวมายังรถม้าที่จะออกเดินทาง และมันไม่ได้ไปไกลจากที่นี่มากนักคิดเสียว่าให้หญิงสาวได้ออกมาพักผ่อนจิตใจ“อื้ม...ข้าฝากด้วยนะ” กรีนเดินขึ้นรถม้าที่ไม่เป็นที่สะดุดตาพร้อมเดินทางออกจากคฤหาสน์ไปทางด้านหลังโดยมีทห
กรีนตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ร่างเปลือยเปล่าขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะสัมผัสได้ถึงแขนแกร่งที่ยังคงโอบรัดเธอไว้ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้เธอไม่น่าให้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ หากใจอ่อนแผนที่ได้วางไว้คงได้พังลงแน่ ๆ ความเหนียวหนึบตามตัวทำให้เธอนั้นขยับตัวได้อย่างยากลำบาก ก่อนจะคว้าผ้ามาคลุมตัวไว้เพื่อไปชำระร่างกาย เสียงน้ำที่ตกกระทบทำให้อสรพิษหนุ่มตื่นขึ้น ใบหน้าคมหันมองคนข้างกายแต่กลับไม่พบกายหนาย่างกายไปตามเสียงของน้ำด้วยสภาพเปลือยเปล่า เขามองเห็นกรีนที่กำลังอาบน้ำอยู่ หากแบบนี้อาจจะเรียกว่าถ้ำมองหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่เขาไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือคนรักของเธอคงไม่เป็นอะไร“เจ้า…” บาบารัสเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวล“นาย !!” กรีนร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบคว้าผ้ามาห่อตัวเอาไว้“เจ้าจะอายอะไรข้าอีก เห็นกันมานักต่อนักแล้ว” เสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นแขนแกร่งไปสัมผัสที่หญิงสาวเสียงของชายหนุ่มดูหยอกล้อเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าทางกลัวเขาเห็นของรัก ในเมื่อเห็นมากันทุกซอกทุกมุมแล้วจะไปกลัวอะไร แปลกคนยิ่งนัก “ออกไป...” กรีนเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบเช่นกัน พร้อมกับเห็นสีหน้าที่ทำเขานิ่งอึ้งไป“ไม่...ข้าไม่ไป” อสรพิษหนุ