ภายในที่แห่งนั้นดูเงียบสงบแต่กลับมีหมอกควันจาง ๆ ให้ได้สัมผัสถึงความเย็น แสงจันทร์กระทบส่งผิวน้ำระยิบระยับดูสวยงาม ตรงเบื้องหน้าเป็นบ่อน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก และมีทางขึ้นลงอยู่เบื้องหน้าเมื่อมองทอดออกไปยังกำแพงอีกฝั่งมีสายน้ำเป็นเหมือนน้ำตกไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง และมีเสียงของสายน้ำทำให้รู้สึกสงบร่มเย็นแม้พื้นที่แห่งนี้จะไร้แสงสว่างก็ตาม เธอเดินตรงเข้ามาสังเกตว่าตรงกลางมีโต๊ะกลมคล้ายโต๊ะอาหารพร้อมกับแจกันสีสวยที่ประดับไปด้วยดอกไม้เรืองแสงสีม่วง มันทำให้เธอประหลาดใจว่าเขานั้นพาเธอมาที่นี่ทำไม
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไม” กรีนเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อเขานั้นหยุดเดินอยู่ที่ขอบทางลงของบ่อน้ำแห่งนั้น
“อย่าพูดมากตามข้ามา” เสียงหนาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พร้อมกับกวักข้อมือเรียกเธอให้เดินตามมายืนอยู่ข้าง ๆ ตน
ร่างที่อ่อนแรงเดินเข้าไปตามคำสั่งอย่างไร้กังขา เมื่อมาอยู่เคียงข้างเขาเธอหันไปมองใบหน้าคมจากด้านข้าง ใบหน้าที่หล่อเหลาเธอไม่เคยได้มองใกล้ขนาดนี้
“ลงไป…” สิ่งราบเรียบแต่ทรงพลังสั่งให้เธอนั้นเดินลงไปในบ่อน้ำ เพราะบ่อน้ำแห่งนี้สามารถรักษาบาดแผลของเธอได้และจะทำให้เธอดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
“นายว่ายังไงนะจะให้ฉันลงไปในนั้นน่ะหรือ” กรีนถามออกไปด้วยความสงสัยอีกเช่นเคย เพราะไม่แน่เขาอาจจะแกล้งเธออีกก็ได้ เขาอาจจะเหมือนทหารคนอื่นที่ต้องการจะแกล้งเธอ ทำให้เธออยู่ที่นี่ไม่ได้
“พูดมากจริง ๆ” ร่างหนาผลักหญิงสาวให้ตกลงไปในบ่อน้ำ โดยไม่ให้เธอตั้งตัว
“กรี๊ด !!”
ร่างบางร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจเมื่อตัวได้สัมผัสกับน้ำ เพราะเขานั้นผลักเธอโดยไม่ให้เธอนั้นตั้งตัว แถมยังยืนมองเธอด้วยความสะใจแปลก ๆ ต้องการแกล้งเธอนั่นเองเธอได้แต่คิดแบบนั้น
ร่างบางที่อยู่ในบ่อน้ำแห่งนั้นและก่นด่าเขาในใจ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ เธอรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่สัมผัสกับตัวเธอ เธอมองไปรอบ ๆ ตัวก่อนจะพบกับ เส้นแสงบางอย่างกำลังเรืองแสงอยู่ภายใต้น้ำกำลังห้อมล้อมรอบตัวเธอที่เปียกชุ่ม หมอกควันบางที่เคยปกคลุมอยู่เหนือหัวทางลดต่ำลงและลงมาที่ตัวเธอ ร่างกายของเธอสัมผัสความหนาวเย็นเพิ่มมากขึ้น และสัมผัสได้ว่ามีสิ่งผิดปกตินั้นไหลเข้าสู่ร่างกายของเธอ กระแสความเย็นบางอย่างสัมผัสที่แผลที่เกิดจากการต่อสู้และรอยฟกช้ำที่เธอได้รับมานั้นค่อย ๆ เริ่มจางลง
“อย่าคิดแม้จะเดินขึ้นมา” ชายหนุ่มออกคำสั่งด้วยเสียงน้ำเสียงวางอำนาจ ไม่ให้เธอนั้นขึ้นมาจากน้ำเพราะเห็นท่าทีของเธอที่อยากจะขึ้นมาข้างบนเมื่อตกลงไปในน้ำ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมแผลของฉัน...มันถึง... ”
หมอกบาง ๆ ที่ห้อมล้อมตัวเธอเริ่มจางลงและความหนาวเย็นที่ปกคลุมเริ่มจางออกไป ความอ่อนล้าที่เคยมีหายไปอย่างปลิดทิ้ง เหลือแต่เพียงความเจ็บและแสบของแผลอยู่ประปราย เธอเงยหน้ามองคนที่อยู่ด้านบนด้วยความสงสัย เขาก็กลับไม่พูดอะไรออกมา จนเวลาผ่านไปสักพัก ร่างกายของเธอที่มีบาดแผลอยู่เต็มตัวตอนนี้กลับกลายเป็นรอยช้ำเล็กน้อยเท่านั้น
“ขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว”
บาบารัสมองไปที่หญิงสาวที่ตอนนี้ตามเนื้อตัวของเธอได้กลับมาเป็นปกติมีเพียงแค่รอยช้ำเล็กน้อยจากบาดแผล เขาสังเกตว่าหมอกเวทมนตร์นั้นได้จางหายไปพร้อมกับกระแสเวทมนตร์ในสายน้ำที่เรืองแสงอยู่รอบตัวเธอเข้าไปรักษาบาดแผลให้หายหายไป
ร่างบางเดินขึ้นจากน้ำ ก่อนจะมองไปที่ร่างสูงเค้าไม่คิดจะช่วยเธอขึ้นมา เธอทำได้เพียงทำสายตาหงุดหงิดให้เกียรติเขาเมื่อขึ้นมาถึงด้านบนได้เรียบร้อยเธอก็สะบัดน้ำอย่างกับหมาตัวน้อยที่ต้องการให้ตัว ตนนั้นแห้งสนิท
“นี่เจ้า !! แกล้งข้ารึไง”
ร่างสูงตวัดสายตาดุร่างบาง ก่อนที่เค้าจะขึ้นเสียงใส่เธอ พร้อมกับจับไปที่แขนของเธอด้วยความรุนแรงพวกเขาไม่ชอบให้ใครมาทำให้เขาต้องเพิ่มคำ
“โอ้ยฉันเจ็บนะ ! ปล่อย ! ” กรีนสะบัดแขนของตัวเองออกจากการเกาะกลุ่มและขึ้นเสียงใส่เขาเช่นกัน
ทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่ลดละก่อนที่ชายหนุ่มจะเป็นคนปล่อยเธอให้เป็นอิสระแทนความรู้สึกบางอย่างที่เข้ามาปะทะในหัวใจของเขา ทำให้ใจเขานั้นเต้นผิดปกติเขาเลยจำเป็นต้องปล่อยเธอ ร่างสูงแหงนมองขึ้นบนท้องฟ้า พบเข้ากับเจ้าหิ่งห้อยที่กำลังแข่งกันส่งแสงสว่างอย่างสวยงามเค้าไม่เคยเห็นมันมานานมากแล้ว
“จะพาฉันกลับได้หรือยังฉันหนาวจะแย่อยู่แล้ว” ร่างบางเอ่ยก่อนจะรวบผมขึ้นและเดินออกมาจากเขา แต่กลับถูกเขารั้งเอาไว้
“เดี๋ยว…” เขาพูดพร้อมออกแรงกระชากแขนของเธอที่กำลังจะเดินหนี
กรีนหันขวับไปมองด้วยความไม่พอใจ และเพียงได้สบตากัน บาบารัสกลับมองเห็นภาพความทรงจำบางอย่างที่เกี่ยวกับตนเองผ่านแววตาใสซื่อ มันฉายขึ้นมาอย่างไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นทำให้ก้อนเนื้อในอกเต้นระรัว สิ่งที่เห็นยังคงเป็นความทรงจำที่ตราตรึงในใจและไม่คาดคิดว่าจะได้กลับมาเจอกันอีก มันทำให้เขาหวนคิดถึงในช่วงเวลานั้น
ในเสี้ยววินาทีนั้นร่างสูงก็คว้าท้ายทอยของคนตัวเล็กเข้าหาตนและประทับริมฝีปากลงไปบนอวัยวะเดียว ภายในอกของเขายังคงเต้นระรัวด้วยความรู้สึกบางอย่าง เขาครอบครองริมฝีปากเธอบดขยี้ความอ่อนนุ่มอย่างไม่ทะนุถนอม ก่อนกรีนจะใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักอกคนตัวโตให้ถอยห่างจากตน เสียงหายใจหอบของร่างบางตรงหน้าและส่งสายตาที่ฉายแววความสับสน และตกใจมาให้เขา
“นาย…” กรีนร้องขึ้นด้วยความตกใจและสับสนพลางใช้หลังมือเช็ดปากตน
“อย่าพึ่งพูดอะไรตอนนี้ฉันจะพาเธอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน…แล้วไปพบข้าบนดาดฟ้าของคฤหาสน์ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ” เอ่ยอย่างอย่างเย็นชา และปรายตามองดูร่างเล็กที่กำลังสั่นเทาราวกับลูกกระต่ายตัวน้อย ๆ ในใจเริ่มคลายความสงสัยที่มี
ท่ามกลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ใบหญ้าเขียวขจีไหวเอนตามลมที่พัดผ่าน เสียงนกร้องเพลงอยู่ไกล ๆ และแสงแดดที่ส่องกระทบพื้นดินให้เกิดประกายอ่อน ๆ บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุขในวันหยุดที่สมบูรณ์แบบ บาบารัสและกรีนพาลูก ๆ ออกมาเที่ยวในธรรมชาติที่งดงาม และวันนี้ก็เป็นวันที่ทั้งครอบครัวได้มาพักผ่อนในทุ่งหญ้ากว้างที่มีต้นไม้ใหญ่และดอกไม้หลากสีบาบารัสยิ้มอย่างมีความสุขขณะเล่นกับลูก ๆ ของเขา ลูกสาวคนโต บริสตัน วัย 4 ขวบ กำลังวิ่งไล่จับลูกบอลที่เขากลิ้งไปมาในสนาม เธอมีท่าทางฉลาดแฉลบและคล่องแคล่ว ทำให้บาบารัสรู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวมาก ส่วนกราเซีย ลูกสาวแฝดของเธอที่มีอายุเท่ากันกำลังวิ่งตามพี่สาวไป และในขณะเดียวกันลูกชายคนเล็ก บรากัส ที่มีอายุแค่ 3 ขวบก็วิ่งไป ๆ มา ๆ ไม่หยุด เขามักจะล้มตัวลงไปบ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยทำให้เขาหยุดยิ้ม“เร็ว ๆ หน่อย ! บรากัส !” บาบารัสตะโกนด้วยเสียงแหบ ๆ ขณะที่เขาวิ่งตามลูกชายที่ขำ ๆ กระโดดไปชนต้นไม้ จนเสียงดัง “โครม !” บรากัสล้มลงไปกองกับพื้น“โอ๊ะ ! บรากัส !” กรีนที่นั่งอยู่ห่าง ๆ ก็รีบลุกขึ้นมามอง แต่เมื่อเห็นลูกชายหัวเราะอย่างมีความสุขและไม่เป็
ในเมือง Sunthawarm ที่เต็มไปด้วยความสวยงามและความอบอุ่น แสงแดดที่ทอแสงอ่อน ๆ ปล่อยแสงทองสว่างไสวลงมาบนพื้นดินอันเขียวขจี ใบไม้ไหวเอนในลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านมา ทุกสิ่งดูเหมือนจะเปล่งประกายขึ้นด้วยความสุขและความมหัศจรรย์ การแต่งงานระหว่างบาบารัส มีเสน่ห์และความกล้าหาญกับกรีนผู้มีความใจดีและแข็งแกร่ง ทั้งสองเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ และวันนี้พวกเขาจะได้ประกาศความรักและผูกพันไปตลอดกาลในพิธีแต่งงานที่แสนพิเศษครั้งนี้เมือง Sunthawarm เป็นสถานที่ที่ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นเมืองที่มีพลังมหัศจรรย์อันล้ำค่า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า แสงแดดที่สัมผัสกับท้องฟ้าจะเปล่งประกายราวกับมีการเวทมนตร์แฝงอยู่ในนั้น พิธีการทั้งหมดจัดขึ้นในลานกว้างกลางเมือง ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านสาขากว้างขวาง ดอกไม้สีทองอร่ามกระจายทั่วทุกมุม ลมอ่อน ๆ พัดผ่านลอยกลิ่นหอมจากดอกไม้หลากหลายชนิด ขนาบข้างไปกับเสียงร้องของนกที่บินอยู่เหนือท้องฟ้าและเสียงของแม่น้ำใสสะอาดที่ไหลผ่านตามธรรมชาติทุก ๆ คนที่มาร่วมงานในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียง สัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในป่า แพะมังกรปีกสีน้ำเงิน หรือม
ในหลายวันถัดมา ภายในห้องนอนของบาบารัสที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบและอบอุ่น ทั้งสองคนกลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งหลังจากเวลานานที่ห่างหายไป ความรู้สึกหลากหลายที่เคยปะปนกันในใจของบาบารัส ตอนนี้ได้ถูกละลายไปแล้วด้วยอ้อมกอดและสายตาของกรีนที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย ที่แม้กระทั่งบาบารัสยังไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าความอบอุ่นแบบนี้จะเข้ามาทำให้เขารู้สึกอ่อนลงจนแทบจะไม่สามารถต้านทานได้เขาค่อย ๆ ทอดตัวลงบนเตียงที่ถูกจัดวางอย่างสวยงามด้วยผ้าห่มหนานุ่ม มีแสงจันทร์ที่ทอดส่งลงมาอ่อน ๆ ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้ห้องนอนดูสงบและน่าหลงใหลยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่บาบารัสหันไปมองกรีน ความรู้สึกที่ตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความรักจะกลับมาโหมกระหน่ำในหัวใจของเขา กรีนยังคงความงามที่ทำให้หัวใจของเขากระตุกทุกครั้งที่เห็น เธอมีดวงตาที่เปล่งประกายเหมือนดวงดาวในยามค่ำคืน ผมยาวสีดำที่สยายไปบนหมอนกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเธอปลุกความรู้สึกอบอุ่นในตัวเขาให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้งหลายครั้งที่บาบารัสนั่งอยู่ข้าง ๆ กรีน ขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสือหรือนั่งทำอะไรบางอย่าง บาบารัสมักจะมองเธอด้วยความเงียบงัน การมองเธอในทุก ๆ การเคลื่อนไหวท
บรรยากาศในห้องสมุดใหญ่ของปราสาทหลากหลายสีสันยังคงเงียบสงัดเหมือนเคย สองมือของบาบารัสจับแน่นกับตำรามหาวิทยาลัยเก่าแก่เล่มหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่ยอมละสายตาจากหน้าเรียบ ๆ ของมัน แม้จะเป็นตำราที่เต็มไปด้วยตัวอักษรที่ทับซ้อนจนยากจะเข้าใจ ความมุ่งมั่นและความหลงใหลในเป้าหมายของเขายังคงท่วมท้น มันไม่ใช่แค่การค้นหาความรู้ทางเวทมนตร์ แต่เป็นการค้นหาทางสู่คนที่เขารัก และเขาคิดว่าไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เขาก็จะทำเพื่อเธอให้ได้ตั้งแต่วันนั้นที่เขาได้รู้ว่าเธอได้จากไปที่โลกมนุษย์ เขาแทบจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ เขาหมกมุ่นกับการฝึกฝนเวทมนตร์ที่เขาเชื่อว่าจะพาเขากลับไปหากรีนได้ ไม่ว่าโลกนี้จะให้ราคาต่ำกับความพยายามของเขามากแค่ไหน เขาก็จะไม่ยอมแพ้ เพราะเขาเชื่อมั่นว่ามีบางอย่างในเวทมนตร์ที่จะทำให้เขาได้กลับไปหาคนที่เขารักหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย แม้กระทั่งในยามค่ำคืนที่ปราสาทเงียบสงัด เขาก็ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ยกแก้วสุราเข้าปากเพื่อทำให้ความมึนเมาสามารถกลบเสียงในหัวที่กระซิบถึงชื่อของเธอได้บ้าง แต่ก็ทำไม่ได้ ความคิดถึงของกรีนยังคงกัดกร่อนในจิตใจของเขาอยู่เสมอ
“ก็ตามที่ข้าคุยกับเจ้าไว้ว่าเจ้าต้องกลับบ้านแบบที่ไม่ได้กลับจริง ๆ ข้าจะพาเจ้าไปอยู่ที่หนึ่งก่อน เหมือนเจ้าได้หายตัวไปจากพวกเราจริง ๆ” รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยเมื่อได้เวลาเล่นสนุกกับบางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น“จะพาฉันไปไหน” กรีนมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความกลัวเพราะถึงเธอจะดูน่ารักแต่ก็เจ้าแผนการณ์ไม่ใช่น้อย“เชื่อใจข้าเถอะแค่ไปอยู่ที่นั่นเดี๋ยวเดียวก็กลับ” มิสไวท์ลุกขึ้นพร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินออกจากห้องหมากรุกและสั่งเหล่าทหารให้พากันเตรียมตัวออกเดินทางส่งนางเอกกลับโลกมนุษย์โดยที่ยังไม่บอกบาบารัสทุกอย่างเตรียมการณ์อย่างรวดเร็วและทุกอย่างถูกปกปิดไว้ไม่ให้ผู้ปกครองเมืองอย่างบาบารัสให้ได้รู้เพราะตอนนี้มิสไวท์ได้ให้ทหารคอยจับตาดูบาบารัสไว้ เมื่อถึงเวลาที่ได้กำหนดกันไว้ค่อยปล่อยข่าวไปถึงหูสหายของตน“เจ้าพร้อมแล้วใช่ไหม ถ้าพร้อมแล้วก็ขึ้นรถม้าคันนั้นไปได้เลย” มิสไวท์เอ่ยพร้อมพาตัวหญิงสาวมายังรถม้าที่จะออกเดินทาง และมันไม่ได้ไปไกลจากที่นี่มากนักคิดเสียว่าให้หญิงสาวได้ออกมาพักผ่อนจิตใจ“อื้ม...ข้าฝากด้วยนะ” กรีนเดินขึ้นรถม้าที่ไม่เป็นที่สะดุดตาพร้อมเดินทางออกจากคฤหาสน์ไปทางด้านหลังโดยมีทห
กรีนตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ร่างเปลือยเปล่าขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะสัมผัสได้ถึงแขนแกร่งที่ยังคงโอบรัดเธอไว้ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้เธอไม่น่าให้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ หากใจอ่อนแผนที่ได้วางไว้คงได้พังลงแน่ ๆ ความเหนียวหนึบตามตัวทำให้เธอนั้นขยับตัวได้อย่างยากลำบาก ก่อนจะคว้าผ้ามาคลุมตัวไว้เพื่อไปชำระร่างกาย เสียงน้ำที่ตกกระทบทำให้อสรพิษหนุ่มตื่นขึ้น ใบหน้าคมหันมองคนข้างกายแต่กลับไม่พบกายหนาย่างกายไปตามเสียงของน้ำด้วยสภาพเปลือยเปล่า เขามองเห็นกรีนที่กำลังอาบน้ำอยู่ หากแบบนี้อาจจะเรียกว่าถ้ำมองหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่เขาไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือคนรักของเธอคงไม่เป็นอะไร“เจ้า…” บาบารัสเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวล“นาย !!” กรีนร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบคว้าผ้ามาห่อตัวเอาไว้“เจ้าจะอายอะไรข้าอีก เห็นกันมานักต่อนักแล้ว” เสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นแขนแกร่งไปสัมผัสที่หญิงสาวเสียงของชายหนุ่มดูหยอกล้อเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าทางกลัวเขาเห็นของรัก ในเมื่อเห็นมากันทุกซอกทุกมุมแล้วจะไปกลัวอะไร แปลกคนยิ่งนัก “ออกไป...” กรีนเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบเช่นกัน พร้อมกับเห็นสีหน้าที่ทำเขานิ่งอึ้งไป“ไม่...ข้าไม่ไป” อสรพิษหนุ