อาเฟยกระพริบตาปริบๆ อย่างซาบซึ้งใจ ยกแขนขึ้น แล้วก้าวมาข้างหน้า...อ๋องสี่นึกดีใจ คิดว่าอาเฟยจะมากอดตน ก็อ้าแขนรอรับ...แต่อาเฟยผลักแขนอ๋องสี่ออกไม่ให้ขวางทาง แล้วเข้าไปกอดหลี่ชิง เรียกซ้ำไปซ้ำมาว่า "เกอเกอๆ..."
ชิบหาย...ไท่ชินอ๋องร้องลั่นในใจ
แต่ก่อน...อี๋เหนียง (เมียน้อย) สองคนของเขาก็รักกันเอง แล้วขอลาออกจากตำแหน่งอนุชายาไท่ชินอ๋องไปอยู่กินด้วยกัน
มาวันนี้...อาเฟยเมียของน้องก็เข้ามากอดชิงชิงเมียของพี่จนกลมดิ๊ก!
ไท่ชินอ๋องหันขวับไปสบตาอ๋องสี่...ทั้งสองพยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจ แล้วต่างเข้าไปแยกคนของตนเองออกมาโดยเร็ว
"ชิงชิง...ใจเย็นๆ ทุกอย่างย่อมต้องมีทางออก" ไท่ชิงอ๋องกอดหลี่ชิงเอาไว้แน่น พลางกล่าวปลอบโยน
"ท่านอ๋องปล่อยข้า แล้วไปตกลงกับน้องชายของท่านว่าจะเอาอย่างไร? ถ้าไม่คืนความเป็นธรรมให้แก่น้องชายของข้า ข้าไม่ยอม!"
น้ำเสียงดุดันของหลี่ชิง ทำให้ไท่ชินอ๋องจำต้องรับคำว่า "ได้ๆๆ..." แล้วคลายอ้อมกอดออก หันไปคว้าแขนอ๋องสี่ พากันไปปรึกษาหารือยังอีกห้องหนึ่ง...
"พี่ใหญ่...ทำไมวันนี้พี่สะใภ้ถึงได้ดุอย่างนี้?" อ๋องสี่ถามไท่ชินอ๋อง เมื่ออยู่กันลำพังในห้องพักผ่อนห้องหนึ่ง
ไท่ชินอ๋องมองหน้าน้องชายแล้วกล่าวเสียงจริงจังว่า "ชิงชิงเห็นอาเฟยเป็นน้องแท้ๆ แล้วตอนแรกที่เจ้าขออาเฟย ชิงชิงก็ไม่ยินยอมยกให้ ข้าต้องเปลืองสมองเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่าชิงชิงจะยอมยกอาเฟยให้เจ้า แล้วอยู่ๆ เจ้าก็เล่นสนุกจนชิงชิงโกรธ ทีนี้ข้าจะทำอย่างไรได้ล่ะ!"
"อย่างไรก็ตาม...พี่ใหญ่ต้องช่วยข้านะ ข้ารักอาเฟยจริงๆ ข้าเสียอาเฟยไปไม่ได้" อ๋องสี่โอดครวญ
"มีอยู่ทางเดียว..." ไท่ชินอ๋องกล่าว "น้องสี่เจ้าไปง้อขอโทษอาเฟย ถ้าอาเฟยใจอ่อน ชิงชิงก็คงไม่ขวาง"
"อืมม์" อ๋องสี่พยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วย
ไท่ชินอ๋องกับอ๋องสี่ พากันกลับมาที่ห้องน้ำชาที่หลี่ชิงกับอาเฟยนั่งอยู่
พอมาถึง...อ๋องสี่ก็ตรงเข้ากอดอาเฟย พลางเอ่ยว่า "อาเฟย...ข้าขอโทษ..."
อาเฟยรีบใช้สองมือยันอกอ๋องสี่แล้วผลักออกเต็มแรง พร้อมกับกล่าวว่า "ท่านอ๋องมีอะไร...พูดเฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องมากอดข้า ข้าจั๊กจี้"
อ๋องสี่จำใจต้องปล่อยอาเฟย
"ข้าผิดไปแล้ว..." อ๋องสี่กล่าว ทำเสียงหดหู่ให้น่าสงสาร "อาเฟยได้โปรดอภัยให้แก่ข้า แล้วพวกเราสองคนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่?"
อาเฟยเม้มริมฝีปากจนรอยลักยิ้มเด่นชัด แล้วตอบเสียงเรียบๆ ว่า
"ไม่"
"หา...!!!"
อ๋องสี่อุทานดังลั่น หน้าซีดเป็นไก่ต้ม
"อาเฟย..." เสียงของอ๋องสี่งอนง้อขอร้องอย่างเด่นชัด...นี่ถ้าไม่ติดว่าไท่ชินอ๋องและไท่หวางเฟยอยู่ในห้องนี้ด้วย เขาคงลงไปกอดขาอ้อนวอนอาเฟยแล้ว
"ข้า..." อาเฟยอึกๆ อักๆ
"อาเฟย..." หลี่ชิงเรียกเสียงนุ่มนวล "บอกเกอเกอได้ไหมว่าเพราะเหตุใดจึงไม่อภัยให้อ๋องสี่?"
"เพราะว่าข้าไม่มีเงินแล้ว" อาเฟยเสียงอ่อย
"ไม่มีเงินเกี่ยวข้องอันใดกับไม่ให้อภัย?" หลี่ชิงถาม
อ๋องสี่พยักหน้าหงึกๆ...เขาเองก็อยากรู้
"เกี่ยวข้องกันอย่างมากเลยขอรับเกอเกอ" อาเฟยถอนหายใจเฮือก ก่อนจะกล่าวต่อว่า "ไม่มีเงิน ข้าก็ไม่สามารถเลี้ยงดูภรรยา ไม่สามารถออกค่าใช้จ่ายของตำหนักของครอบครัว..."
อาเฟยกล่าวไม่ทันจบ...อ๋องสี่ก็รีบแทรกขึ้นว่า "ไม่เป็นไร...ข้าจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง"
"ไม่ได้หรอก...เป็นสามีให้ภรรยาออกค่าใช้จ่ายให้ มันน่าอาย"
"เช่นนั้น...เจ้ากลับมาเป็นภรรยา แล้วข้าเป็นสามี...ข้าจะคืนม้าคืนแกะคืนเงินทองทั้งหมดให้เจ้า" อ๋องสี่รีบเสนอ
แต่อาเฟยไม่สนอง...ส่ายหน้าเดี๊ยะ
"กว่าข้าจะได้เป็นสามีลำบากลำบนแทบแย่ ให้กลับไปเป็นภรรยาอีก...ข้าไม่เอาหรอก"
หลี่ชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วดึงอาเฟยไปกระซิบถามว่า "เพราะเรื่องบนเตียงหรือ?"
"เรื่องบนเตียง?" อาเฟยกระซิบถามด้วยทีท่างงๆ
"อืมม์..." หลี่ชิงเอ่ยถามต่อ "เป็นสามีผิดกับการเป็นภรรยาหรือ?"
"ไม่นี่..." อาเฟยส่ายหน้า "เป็นสามีหรือเป็นภรรยาก็เหมือนๆ กัน หรือเกอเกอว่าไม่เหมือนกัน?"
หลี่ชิงยังไม่ทันได้ตอบว่าอะไร...ทั้งไท่ชินอ๋องและอ๋องสี่ก็แนบหูมาฟังอย่างใกล้ชิด
"อะแฮ่ม" หลี่ชิงกระแอม...ไท่ชินอ๋องกับอ๋องสี่รีบกระจายตัวทันที
"อาเฟย...บอกเกอเกอได้ไหมว่าเจ้าคิดจะทำอะไร จึงต้องเปลี่ยนสถานะเป็นสามี?" หลี่ชิงถามขึ้น เพราะคาดเดาว่าอาเฟยจะต้องมีเหตุผลในการกระทำแน่ๆ
และก็เป็นจริงตามคาด...
"ในตอนแรก ข้าตั้งใจว่าพอได้เป็นสามีแล้ว จะนำเงินทองที่มีไปลงทุนเปิดร้านน้ำชาสักแห่ง" อาเฟยตอบ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสีหน้าหม่นหมองว่า "แต่ตอนนี้ข้าไม่มีเงินแล้ว!"
ทั้งหลี่ชิง ไท่ชินอ๋อง และอ๋องสี่ ต่างเข้าใจในบัดดล...ร้านน้ำชาคือความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กของอาเฟย
"ทำไมไม่บอกข้าตรงๆ?" อ๋องสี่ถาม
"เหล่าซือ (ท่านอาจารย์...อาจารย์ที่สอนหนังสือ) ว่า...ภรรยาที่ดีไม่ออกไปลอยชายนอกบ้านเรือน" อาเฟยกล่าว
"เจ้าเลยจำต้องเปลี่ยนสถานะเป็นสามี?" หลี่ชิงถาม
"ขอรับ" อาเฟยพยักหน้า "แล้วอีกอย่าง...ข้าเป็นลูกผู้ชาย ข้าอยากยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง!"
"เอ๋...ท่านพูดราวกับว่าท่านเคยพบท่านน้ามาก่อน" "ใช่แล้ว...เคยพบตอนข้ายังเด็ก" เอ่ยแล้ว...เขาก็อึ้ง! ตอนนั้น...เขายังเด็ก เขากับอาเฟยอาบน้ำอุ่นในอ่างใบใหญ่ด้วยกันอย่างสนุกสนาน หลังอาบน้ำก็ทาตัวด้วยน้ำมันหอมบำรุงผิว ซ้ำยังวางแผนการกันว่า...จะสร้างห้องอาบน้ำที่สวยงามที่สุด ที่มีสระอาบน้ำขนาดใหญ่ เอาไว้เล่นน้ำด้วยกัน! แต่ตอนนี้เขาโตแล้ว สระน้ำก็สร้างแล้ว ทว่าไม่มีอาเฟย อีกฝ่ายจะยังเหมือนเดิมอยู่หรือว่าเปลี่ยนไป? "ไม่รู้ว่า...ท่านน้าของเจ้าหน้าตายังเหมือนเดิมหรือไม่?" "คงไม่แล้วละ...ท่านแม่ของข้าบอกว่า ยิ่งนานวัน ท่านน้าก็ยิ่งงดงามขึ้น!" พอดี...คนรับใช้นำอาหารที่สั่งมาส่งให้ มีกับข้าวหลายอย่าง และข้าวสวยร้อนๆ หอมกรุ่น "โอ้โห...ที่นี่มีข้าวสวยด้วยหรือ?" หญิงสาวส่งเสียงอย่างยินดี "ข้าเดินทางมาหลายวัน พอถึงภาคเหนือของหนานหยาง หาข้าวสวยนุ่มๆ หอมๆ อย่างนี้กินยากมาก ส่วนใหญ่เป็นหมั่นโถวกับแป้งย่าง" "นี่เป็นอาหารที่อาเฟยชอบ" ชายหนุ่มบอก แล้วถามหญิงสาวตรงหน้าว่า "เจ้าชื่ออะไรหรือ?" "ข้าชื่อลั่วซือ เรียกซือซื
พระชายาอาเฟยให้เสี่ยวโก่วไปรับครอบครัวตระกูลเหอกลับมายังเมืองหลวง ที่เขาซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ไว้รอต้อนรับ เหอผิงนั้นสูงวัยมากแล้ว อาเฟยจึงไม่อยากให้เขาไปตรากตรำทำงานอีก แต่ให้เหอทงดูแลร้านขายข้าวสาร และเหอกวงดูแลร้านขายสมุนไพร ลั่วซวงก็พาสามีและลูกๆ มาต้องรับท่านทวด ท่านปู่ ท่านย่า และญาติผู้ใหญ่ผู้น้อยแล้วอาเฟยก็สั่งอาหารจากหอสุราหวงหลงมาเตรียมกินฉลองกันทั้งครอบครัว...แต่เพิ่งยกตะเกียบคีบไก่ผัดห้ารสขึ้นมา เสียงท่านอ๋องสี่ก็ดังขึ้นว่า "อาเฟยน้อยของข้า!" อาเฟยเด้งตัวลุกพรวดจากเก้าอี้ราวแมวน้อยถูกเหยียบหาง!!!เงารักวัยเยาว์ ที่เมืองหลวงแคว้นต้าเหลียว... บนหลังคาของเหลาน้ำชาอาเฟย...บุรุษหนุ่มหน้าตาคมคายเข้มแข็ง รูปร่างสูงใหญ่กำยำ นั่งดื่มสุราอย่างสบายอกสบายใจอยู่บนนั้น... ขณะกำลังปล่อยใจให้คิดถึงความหลังครั้งเก่า ก็ปรากฏเสียงเอะอะและเสียงกรีดร้องดังมาจากถนนเบื้องล่าง ชายหนุ่มมองลงไป...เห็นสาวน้อยนางหนึ่งอายุประมาณ 15-16 ปี ขี่อยู่บนหลังม้า และม้ากำลังพยศเพื่อสลัดนางให้ตกลงจากหลังของมันชายหนุ่มพุ่งทะยานลงจากหลังคารวดเร็
ทำเอาไท่ชินอ๋องเกือบสำลักน้ำชา "ขอบพระคุณเสด็จลุงที่แนะนำ" "เด็กเจ้าเล่ห์" ไท่ชินอ๋องว่า "หมดเรื่องแล้วใช่หรือไม่?" "ยังขอรับ" "อะไรอีก?" "ที่เสด็จลุงเคยพูดไว้" "หือ?" "ว่าถ้าหลานโตเป็นหนุ่มจะดมแก้มเสด็จป้าได้!" "แค็กๆๆๆ..." ไท่ชินอ๋องสำลักน้ำชา ก่อนจะตวาดลั่น "ไม่ได้" "เสด็จลุงไม่รักษาคำพูด" "อืมม์...ข้าเป็นทรราชไม่ใช่ธรรมราช" ไท่ชินอ๋องกล่าว "เจ้าอยากดมแก้ม ก็แต่งตั้งฮองเฮาสักคนสิ แล้วไปดมให้พอใจ" "หลานอยากแต่งตั้งฉีเอ๋อร์เป็นฮองเฮา แต่เกรงเสด็จป้าจะไม่ยินยอม" "ข้ามีข้อแม้ ถ้าฮ่องเต้รับได้ ข้าก็จะยกฉีเอ๋อร์ให้" หลี่ชิงที่ฟังอยู่ในห้อง เดินออกมากล่าวแล้วเดินมานั่งร่วมโต๊ะ "เสด็จป้ามีข้อแม้อะไรขอรับ?" ฮ่องเต้ถาม สีหน้ายินดี "หากฮ่องเต้แต่งฉีเอ๋อร์เป็นฮองเฮา ฮ่องเต้จะมีสัมพันธ์สวาทกันคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด ฮ่องเต้ให้สัญญาได้หรือไม่?" "ได้ขอรับ" ฮ่องเต้หนุ่มรับคำหนักแน่น และต่อท้ายว่า "หลานจะไม่รับนางสนมเลย" "ต้องรับตามความเหมาะสม แต่อย่าให้นางใดปรนนิบัติ" ไท่ชินอ๋องกล่าว "เพราะถ
เหล่าองครักษ์ของอาเฟยรีบเข้ามายืนบังอาเฟยเอาไว้ทันทีเตรียมปกป้อง "ท่านฆ่าพยานปิดปากหรือ?" พระชายาอาเฟยเอ่ยพลางสะบัดแขนเสื้อ "คนผู้นี้เป็นคนทรยศของซีเซี่ย ข้าแค่ฆ่าคนทรยศเท่านั้น มิใช่เรื่องใหญ่โตอันใด" ท่านทูตซีเซี่ยเอ่ยด้วยอาการฮึดฮัด "ท่านเถียงข้างๆ คูๆ" พระชายาอาเฟยเอ่ย "เอาละ..." ไท่ชินอ๋องเอ่ยขึ้น ขณะเดียวกันทหารก็เข้ามาเก็บศพคนตายออกไป "องค์หญิงหลิงหลิงปลอดภัยก็ดีแล้ว แต่ว่านางถูกขังร่วมห้องค้างอ้างแรมอยู่ด้วยกันกับบุรุษอื่น จึงไม่สมควรอภิเษกขึ้นเป็นพระสนมเอกกุ้ยเฟย แต่เพื่อสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างหนานหยางกับซีเซี่ย ฮ่องเต้จะโปรดรับองค์หญิงหลิงหลิงเป็นพระขนิษฐา (น้องสาว) บุญธรรม เป็นองค์หญิงของหนานหยางแทน และเพื่อมิให้องค์หญิงเสื่อมเสียเกียรติยศ ฮ่องเต้จะประทานสมรสพระราชทานให้หวงหมิงกับองค์หญิงหลิงหลิงสมรสกัน...มีผู้ใดจะคัดค้านหรือไม่?" ไท่ชินอ๋องจงใจเพ่งมองท่านทูตซีเซี่ย ซึ่งรู้สึกผิดแผนจนมึนไปหมด...ตอนแรกที่รู้ข่าวว่า องค์หญิงหลิงหลิงหนีพิธีอภิเษก เขาก็ส่งคนไปจับตัวเพื่อเรียกค่าไถ่จากหนานหยาง แต่ก็ผิดพลาด แล้วอย่างนี้เขาจะกล้าเสนอหน้าค
หลิงหลิงหนีอภิเษกหลังจากเกิดเรื่องไท่ชินอ๋องโบยฮ่องเต้...หลี่ชิงก็เกลี้ยกล่อมไท่ชินอ๋องให้เปลี่ยนวิธีฝึกสอนฮ่องเต้เสียใหม่ โดยให้เหตุผลว่า "คนเรามีความสามารถไม่เท่าเทียมกัน...ในเมื่อฮ่องเต้ไม่ชอบฝึกวรยุทธ์ ท่านอ๋องก็สอนหลักการปกครองและพิชัยสงครามให้แก่ฮ่องเต้ ส่วนการฝึกวรยุทธ์ก็เอาแค่ให้ร่างกายแข็งแรงก็พอ แล้วหาองครักษ์ยอดฝีมือที่จงรักภักดีจำนวนหนึ่งตั้งเป็นหน่วยพิเศษคอยอารักขาฮ่องเต้โดยเฉพาะ...ดีหรือไม่ขอรับ?" "อืมม์" ไท่ชินอ๋องพยักหน้า "เอาตามที่เจ้าว่า"นับจากนั้น...ฮ่องเต้หนุ่มน้อยก็ต้องออกนั่งบัลลังก์ว่าราชการพร้อมไท่ชินอ๋องทุกเช้า ท่องตำราการปกครองและพิชัยสงครามทุกบ่าย ตกเย็นก็ฝึกปรือร่างกายพร้อมไท่ชินอ๋องและท่านอ๋องสี่... ทำให้พออายุสิบหก ฮ่องเต้ก็มีร่างกายสูงสง่าแข็งแรง... ..... ที่ท้องพระโรงของแคว้นหนานหยาง... คณะทูตจากซีเซี่ยมาเข้าเฝ้า เพื่อเร่งให้ทางหนานหยางอภิเษก (แต่งตั้ง) องค์หญิงหลิงหลิงเป็นฮองเฮา "อืมม์...องค์หญิงหลิงหลิงอายุสิบหกแล้วหรือ? นับเป็นอายุที่เหมาะสมจะแต่งงานจริงๆ" ไท่ชินอ๋องตอบคณะทูตจากซีเซี่ย แล้วหันไปกล่าวกับเจ้า
ฮ่องเต้ถูกโบย ท่านหญิงหานเลี้ยงดูเอาใจใส่หลี่ฉีเป็นอย่างดี จนเติบโตเป็นเด็กหญิงที่สวยงามมาก เพียบพร้อมด้วยกิริยามารยาทที่นุ่มนวลอ่อนโยน วาจาอ่อนหวาน ช่างฉอเลาะ จนฮ่องเต้โปรดปรานอย่างยิ่ง ฮ่องเต้นั้นถูกไท่ชินอ๋องสั่งให้ฝึกฝนวรยุทธ์อย่างหนัก แต่ฮ่องเต้ไม่โปรดวรยุทธ์ จึงแอบอู้อยู่บ่อยๆ จนผู้ฝึกสอนอ่อนใจ และเรื่องรู้ไปถึงไท่ชินอ๋อง ทำให้ไท่ชินอ๋องโมโหเป็นที่สุด จึงทำโทษฮ่องเต้ที่มีวัยเพียงสิบสามปี ให้วิ่งลากท่อนซุงไปรอบสนามฝึกซ้อมห้าสิบรอบ แต่ฮ่องเต้วิ่งไปได้เก้ารอบก็ประท้วงไม่ยอมวิ่งต่อ ไท่ชินอ๋องที่คุมการฝึกซ้อมด้วยตนเอง ก็สั่งให้นำหวายมาจะโบยฮ่องเต้ด้วยตนเอง หลานกงกงเห็นท่าไม่ดี จึงรีบไปบอกหลี่ชิง หลี่ชิงรีบวิ่งไปยังสนามฝึกในวังหลวง เห็นไท่ชินอ๋องกำลังโบยฮ่องเต้อยู่ ฮ่องเต้ก็ทรงดื้อรั้น ร้องตะโกนว่า "โบยเราให้ตายไปเลยๆๆๆ..." "หยุดมือ!" หลี่ชิงตะโกนลั่น แต่ไท่ชินอ๋องกำลังโกรธจัด ก็ไม่ยอมหยุด หลี่ชิงตัดสินใจกระโดดเข้าไปกอดร่างฮ่องเต้ไว้ จึงถูกปลายหวายเข้าที่กลางหลังไปหนึ่งที "หลิวยี่ ฉีจื่อ เอาตัวไท่หวางเฟยออกไป" ไท่ชินอ๋องตว