Share

บทที่ 8

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2024-12-23 15:11:29

ท่านผู้นำหมู่บ้านก็รับไว้อย่างเต็มใจ แต่ก่อนที่ต้าหลางจะกลับเขาได้สอบถามเรื่องหาคนสร้างเรือนหลังใหม่ ผู้นำหมู่บ้านก็รับปากว่าจะจัดหาคนให้อย่างเต้มที่ เพราะบุตรชายคนโตของเขารับสร้างเรือนอยู่ ในช่วงนี้ก็ยังว่างพอดีจึงเริ่มสร้างเรือนให้ต้าหลางได้เลย

ต้าหลางเมื่อเสร็จเรื่องที่บ้านท่านผู้นำหมู่บ้านเขาก็ตรงกลับเรือนเพื่อนำเรื่องไปแจ้งให้สองแม่ลูกได้รับรู้ ทั้งสามเดินไปดูที่ดินที่ต้าหลางได้ทำการซื้อไว้เรียบร้อยแล้ว

ซูมี่มองที่สองร้อยหมู่แล้วถอนหายใจ ที่มากเพียงนี้คงต้องหาคนเพิ่มเสียแล้ว 

"ท่านพ่อ ท่านแม่ สร้างเรือนตรงนี้ดีหรือไม่เจ้าคะ" ซูมี่ต้องการสร้างเรือนให้อยู่ไม่ห่างจากแม่น้ำมากนัก เพราะนางอยากดึงน้ำเข้ามาใช้ที่เรือนโดยไม่ต้องเดินไปหาบน้ำอีกแล้ว

ต้าหลางเมื่อมองไปทิศที่บุตรสาวชี้ก็หยุดนิ่งคิด เพราะใกล้แม่น้ำมากไปก็ไม่ดี ช่วงน้ำมากอาจจะท่วมมาถึงเรือนได้ เมื่อได้ฟังและคิดตามที่บิดาพูดก็เห็นจะเป็นจริง เพราะตอนที่นางยังเล็กก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอยู่

เรือนหลังใหม่จึงถูกสร้างด้านหน้าของที่ดิน ด้านหลังก็ปลูกข้าว ผัก ผลไม้ และสมุนไพรแทน จางกุ้ยที่นางไม่ได้แสดงความคิดเห็นเพราะยังตกตะลึงกับจำนวนเงินที่ได้จากการขายโสมอยู่ แล้วยิ่งรู้ว่าต้าหลางซื้อที่ดินไปถึงร้อยยี่สิบตำลึงทอง นางก็ยิ่งอยากจะเป็นลม

วันรุ่งขึ้นเมื่อบุตรชายคนโตของผู้นำหมู่บ้าน ฉินโกว มาที่เรือนตระกูลซู เรื่องที่ต้าหลางซื้อที่ดินผืนใหญ่และกำลังจะสร้างเรือนหลังใหม่ก็รับรู้ไปทั่วหมู่บ้าน

ชิงฉางที่กลับมาจากสำนักศึกษาเมื่อทราบเรื่องเขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เพียงไม่กี่วันตระกูลซูจะโชคดีพบสมุนไพรราคาสูงจนสามารถมีเงินเป็นกอบเป็นกำเช่นนี้ได้

"หากอาฉางยังเป็นคู่หมั้นของมี่เออร์อยู่ก็คงสบายไปแล้ว" ชาวบ้านพูดกับชิงฉางก่อนจะเดินไปดูคนงานที่กำลังขนของเขามาในพื้นที่ของต้าหลาง

ชิงฉางกลับเรือนด้วยใบหน้าหมองคล้ำ เพราะความลำบากที่เขาได้รับจนต้องพึ่งพาตระกูลซูมาหลายปี ทำให้ชาวบ้านคิดมาโดยตลอดว่าเขาโชคดีมากเพียงใด แต่สำหรับเขายิ่งชาวบ้านพูดกันมากเพียงใด เขาก็ยิ่งรู้สึกแย่เท่านั้น เหมือนเป็นการตอกย้ำว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์

ต่อให้ซูมี่นางจะมีเงินทองขึ้นมามากเพียงใดก็เป็นเพียงลูกชาวนา ในเมื่อเขาเป็นถึงซิ่วไฉและในอนาคตเขาก็จะได้เป็นขุนนาง ทำไมต้องมีภรรยาที่มีฐานะเช่นนี้ด้วย แม้แต่ถิงถิงที่เป็นเพียงลูกอนุของพ่อค้าต่อให้มีเงินช่วยเหลือเขา แต่ต่อไปก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะแต่งนางเป็นฮูหยินหรือไม่

ชิงฉางไม่แม้แต่จะจุดเทียนในเรือน เขานั่งเงียบๆและจมอยู่ในความคิดกับความมืด เพราะความรู้ของเขาที่มีมากจึงทำให้มองคนในหมู่บ้านเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น อีกเพียงสองปีเขาก็จะเดินทางไปสอบจวี่เหริน เมื่อสอบผ่านเขาจะได้เข้าเมืองหลวง

และเรื่องภายในหมู่บ้านก็จะเป็นเพียงเรื่องราวในหนหลังเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดให้ควรค่าแก่การนึกถึง เมื่อคิดได้ตกแล้วชิงฉางก็จุดเทียนเริ่มทบทวนตำราอีกครั้ง

ทางด้านของซูมี่เรือนหลังใหม่ก็เริ่มถูกสร้างขึ้นตามแบบที่นางได้มอบให้ฉินโกว เรือนของนางเป็นเรือนสี่ประสาน ที่เรือนหลักมีถึงห้าห้องนอน นางยังให้สร้างห้องน้ำในห้องนอนไว้ทุกห้องและด้านนอกอีกด้วย 

เรือนด้านข้างทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ภายในเรือนมีสามห้องนอน และหนึ่งห้องโถง ด้านหลังยังมีห้องพักคนงานที่ถูกให้สร้างอีกนับสิบห้อง 

ฉินโกวเมื่อเห็นแบบก็อ้าปากค้าง แบบที่ได้มาไม่ได้แตกต่างจากเรือนของขุนนางในเมืองมากนัก แต่ความใหญ่โตจะเรียกเรือนมิได้แล้ว มันคือจวนในหมู่บ้านเสียมากกว่า 

จำนวนคนงานที่ใช้ในการสร้างก็ต้องหามาเพิ่ม ต้าหลางจึงบอกให้จ้างคนในหมู่บ้านที่อยากหารายได้ โดยยังให้ภรรยาของฉินโกวหาคนมาทำอาหารเลี้ยงคนงานที่มาทำงานด้วย

นางจางกุ้ยก็มิได้หวงข้าวสาร แป้งหรือเนื้อ ตอนที่ภรรยาฉินโกว ท่านป้าฝูมาช่วยทำอาหารต่างก็เบิกตากว้างอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นเนื้อและผักสดมาก

"พวกท่านใช้ได้เต็มที่เลยเจ้าค่ะ" จางกุ้ยยิ้มแล้วพูดขึ้น

เมื่อชาวบ้านที่เหลือรู้ว่าตระกูลซูเรื่องอาหารคนงานอย่างใจกว้างก็อยากจะมาทำงานที่เรือนของพวกเขา ซูมี่จึงเสนอความคิดให้ชาวบ้านมาช่วยกันถากถางพื้นที่ที่รกร้าง แล้วกำจัดหินออก โดยให้ค่าแรงวันละสามสิบอิแปะ ข้าวหนึ่งมื้อ แต่หากพบเห็นใครที่กินแรงคนอื่นวันต่อไปก็ไม่ให้มาทำแล้ว

ค่าแรงที่ได้รับเท่ากับไปทำงานในเมืองแถมยังมีข้าวที่มีเนื้อให้กินใครบ้างจะไม่อยากทำ ชาวบ้านจึงเดินมาที่ที่ดินเพื่อขอทำงาน ในวันแรกต้าหลางก็รับทุกคน แต่พอตอนที่จ่ายเงินคนที่ไม่ตั้งใจทำงานต้าหลางก็บอกว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำแล้ว

นับจากวันนั้นชาวบ้านก็ตั้งใจทำงานกันมากขึ้น อาหารที่เลี้ยงทุกวันปริมาณก็ไม่ได้น้อยลง ต้าหลางออกไปซื้อที่เมืองอยู่ทุกวันนั้นคือสิ่งที่ชาวบ้านเห็น แต่ความจริงเขาเข้าเมืองไปในวันแรกเพื่อซื้อรถม้ากับซูมี่เท่านั้น

ระหว่างทางก็ให้ซูมี่นางนำของออกมาจากมิติใส่ไว้ในรถม้า หลังๆต้าหลางกับซูมี่จะเข้าเมืองทุกสามวันแทน แต่พวกเขาก็ไปจอดรถม้าอยู่ในป่าบดบังสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมาแล้วนำของออกมาแทน

เพียงสองเดือนเรือนหลักก็เสร็จเรียบร้อย ต้าหลางจึงเริ่มขนของเขามาไว้ภายในบ้าน ของที่ซูมี่นางเคยนำออกมาจากมิติก็เก็บเข้าไปก่อน ชาวบ้านที่ไปช่วยขนจึงไม่ได้เห็นสิ่งของที่แปลกตา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อีกด้านของนางร้าย   ตอนจบ

    ซูมี่นางส่งฮ่องเต้และฮองเฮาลงแช่น้ำโดยให้ มามาและหยางกงกงคอยดูแลแล้วก็พาองค์รัชทายาทไปที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋"เพราะพระองค์เห็นหม่อมฉันเป็นน้องสาว และหม่อมฉันก็เห็นพระองค์เป็นพี่ชาย จึงได้พามาที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋" ซูมี่นางอธิบายเรื่องการเปลี่ยนไขกระดูกและการฝึกวรยุทธให้องค์รัชทายาทได้เข้าใจอย่างน้อยองค์รัชทายาทก็ต้องมีวรยุทธไว้ปกป้องพระองค์เอง เพื่อเกิดเหตุการณ์เช่นกบฏองค์ชายรองอีกครั้ง"มี่เออร์ เปิ่นหวางไม่เสียทีที่รักเจ้าเหมือนดั่งน้องสาว" องค์รัชทายาทเอ่ยออกมาจากใจ เพราะเขารักนางเหมือนน้องสาวตั้งแต่ครั้งแรกที่นางช่วยเสด็จพ่อของตนไว้ ไม่คิดว่านางจะไว้ใจตนจนมอบเรื่องวิเศษเช่นนี้ให้"พระองค์อดทนให้ได้นะเพคะ" ซูมี่บอกองค์รัชทายาทเมื่อมาถึงด้านในถ้ำของเสี่ยวไป๋"เปิ่นหวางจะอดทน" ซูมี่พยักหน้าให้ฮุ่ยหมิ่นคอยดูแลองค์รัชทายาท ส่วนนางจะกลับไปดูทางฮ่องเต้ ฮองเฮาก่อนเสียงกรีดร้องขององค์รัชทายาทดังออกมาจากนอกถ้ำ เสี่ยวไป๋ส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างดูแคลน"ร้องดังกว่าเจ้าในยามนั้นเสียอีก" ซูมี่อดจะหัวเราะเสียงดังออกมามิได้เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวไป๋เมื่อกลับมาถึงถ้ำของเสี่ยวเฮย ฮ่องเต้ก็ขึ้นจากน้ำมาเรี

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 59

    นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตรงหน้าของตนได้เปลี่ยนไป แปลงสมุนไพรที่มีสมุนไพรหายากมากมาย ผัก ผลไม้ที่ขึ้นเต็มไปหมดเสี่ยวไป๋ในยามนี้ตัวใหญ่จนน่าตกตะลึง แล้วไหนจะหมาป่าสี่ตัวกับหมีควายที่กำลังวิ่งมาทางนี้อีก ฮูหยินไป๋เกือบจะเป็นลมแต่ถูกฮุ่ยหมิ่นประคองไว้เสียก่อนเป่าเปาที่ปรากฏกายด้วยรูปร่างที่แท้จริงบินไปตรงหน้าของนายท่านไป๋ เขาจ้องมองทุกสิ่งอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แม้จะผ่านเรื่องน่าเหลือเชื่อมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้นับว่าเกินเขาจะรับไว้"มี่เออร์นี่เรื่องอันใด" เขาเอ่ยเสียงที่แทบหาไม่เจอออกมาอย่างอยากเย็นซูมี่เล่าเรื่องภายในมิติของนางให้นายท่านไป๋และฮูหยินไป๋ได้ฟัง นางพาทั้งคู่ไปที่ถ้ำของเสี่ยวเฮย เพื่อให้พวกเขาลงไปแช่ในน้ำ เพราะทั้งคู่ไม่ต้องเปลี่ยนไขกระดูกเช่นนางกับฮุ่ยหมิ่นจึงไม่ต้องไปที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋เมื่อทั้งสองลงไปแช่ในน้ำ เพียงหนึ่งชั่วยามเมื่อขึ้นมาจากน้ำต่างก็พบความเปลี่ยนแปลงของตน นายท่านไป๋ที่มีโรคปวดตามข้อตามอายุของตนก็หายเป็นปลิดทิ้ง แม้ก่อนหน้านี้จะกินผักผลไม้ของตระกูลซูแต่ก็ต้องกินเป็นระยะเวลานานถึงจะเห็นผลรูปลักษณ์ของทั้งคู่ก็ดูจะอ่อนเยาว์ขึ้นอ

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 58

    เสี่ยวซานก็จัดการหาฤกษ์มงคล พร้อมทั้งหาแม่สื่อไปพูดคุยกับซูถัง ป้าอวี้ บิดามารดาของโม่ลี่เพื่อสุ่ขอนางตามธรรมเนียม เรื่องสินสอดและสินเดิมซูมี่นางก็จัดการให้อย่างใจกว้างจนบ่าวในเรือนที่ชอบพอกันมาบอกกล่าวนางว่าตนอยากจะแต่งกับคนนั้น คนนี้ ซูมี่ก็ไม่ขัดข้องพร้อมทั้งจัดการให้ทุกคน เพราะทุกคนที่กล้ามาพูดกับนางล้วนอยู่กับนางมาตั้งแต่ที่เมืองเจียงซวนงานมงคลของบ่าวในจวนแม่ทัพจัดขึ้นภายในเรือน แม้แต่จวนอื่นก็ไม่อยากจะเชื่อว่า แม่ทัพไป๋กับฮูหยินจะใจกว้างถึงกับจัดงานในบ่าวของตนด้วยเพียงวันเดียวก็มีคู่แต่งงานในจวนถึงห้าคู่ ซูมี่แบกท้องที่ใหญ่โตของนางไปร่วมงานด้วย ทั้งยังอยู่ร่วมรับประทานอาหารกับทุกคน ต้าหลาง จางกุ้ยก็พาบ่าวในจวนของเขามาร่วมงานด้วยเช่นกัน"ท่านพี่ ข้าคิดว่าข้าจะคลอดแล้วเจ้าค่ะ"ซูมี่ดึงแขนเสื้อของฮุ่ยหมิ่นที่ร่วมดื่มเหล้ามงคล"ตามหมอตำแยประเดี๋ยวนี้" ฮุ่ยหมิ่นตกตะลึง เมื่อดึงสติมาได้ เขาก็ตะโกนเสียงดังภายในจวนจึงได้วุ่นวายไปหมด โม่ลี่ที่อยู่ในห้องหอก็อยากจะออกมาดูนายหญิงของตนใจแทบขาด แต่ก็โดนสั่งห้ามไว้ เพราะมีคนอยู่ในจวนมากมายให้นางวางใจได้ แต่นางก็มิยอมฟังยังออกจากห้องหอมาที่เ

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 57

    คุณหนูหานร้องอย่างตกใจ พร้อมทั้งกระโดดไปที่ฮุ่ยหมิ่น แต่มีหรือที่คนอย่างฮุ่ยหมิ่นจะยอมให้สตรีนางอื่นมาโดนตัว เขาพุ่งหลบไปอีกทางอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะดึงซูมี่ออกห่างมาด้วยคุณหนูหานจึงล้มลงไปกองที่พื้นเสียงดัง สาวใช้ของนางต้องรีบเข้ามาประคองนายของตนอย่างเสียขวัญไหนจะมีเสือขาวที่นอนหมอบจ้องมาทางพวกนางเหมือนจ้องตะครุบเหยื่อ แต่ก็ไม่กล้าที่จะทิ้งนายตนเองมิเช่นนั้นเมื่อกลับจวนไม่รู้ว่าจะโดนลงโทษเช่นใด"ไล่มันออกไปสิเจ้าค่ะ" นางร้องสั่งฮุ่ยหมิ่นให้ไล่เสือขาว"เป็นเจ้าที่ต้องออกไป เสี่ยวไป๋เป็นสัตว์เลี้ยงของมี่มี่" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยเสียงเย็นอย่างไม่ไว้หน้าคุณหนูหานไม่คิดว่าฮุ่ยหมิ่นไม่รับตัวนางไว้ แล้วยังออกปากไล่นางออกจากจวนอีก นางจึงร้องไห้รีบร้อนออกจากจวนท่านแม่ทัพไปอย่างอับอาย"นางเข้ามาได้อย่างไร" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยถามบ่าวเสียงเข้ม"ข้าให้นางเข้ามาเองเจ้าค่ะ อยากรู้ว่านางมาด้วยเรื่องอันใด" ซูมี่ถูกฮุ่ยหมิ่นประคองมายังที่นั่ง"แล้วรู้หรือยังว่านางเข้ามาด้วยเรื่องอันใด" เขาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขากับตระกูลหานไม่ได้สนิทถึงขั้นต้องไปมาหาสู่กัน อีกอย่างฮูหยินรองก็ไม่ถูกกับมารดาของตนอีกด้

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 56

    ฮุ่ยหมิ่นก็ตั้งใจทำเช่นที่เขาพูดจริง นับตั้งแต่วันนั้นมา ฮุ่ยหมิ่นก็เหมือนจะเร่งมือเรื่องทำบุตรทุกค่ำคืน เพราะซูมี่นางกลับไปที่จวนโหวทุกวันเพื่อดูน้องชายบ้างวันฮุ่ยหมิ่นกลับมาจากค่ายทหารยังหาภรรยารักไม่พบ จนต้องตามไปที่จวนท่านพ่อตาเพื่อรับนางกลับจวน"เกิดอันใดขึ้น" ฮุ่ยหมิ่นที่เพิ่งกลับมาถึงเรือน ก็เห็นบ่าววิ่งกันให้วุ่น"ท่านแม่ทัพ ฮูหยินนางกินอันใดมิได้ขอรับ บ่าวในเรือนจึงต้องไปทำใหม่เสียหลายรอบ" พ่อบ้านซานรีบบอกฮุ่ยหมิ่น"ตามหมอหรือยัง" ฮุ่ยหมิ่นเหมือนจะลืมไปว่าซูมี่นางรู้วิชาแพทย์"ฮูหยินมิได้ตามขอรับ" พ่อบ้านซานหลบสายตาของฮุ่ยหมิ่น"ประเสริฐ" เขารีบร้อนเดินไปที่เรือนของตนเพื่อดูอาการของซูมี่ และอยากจะตำหนินางที่ไม่ยอมตามหมอ"มี่มี่ เหตุใด เจ้าถึงไม่ตามหมอ" ฮุ่ยหมิ่นเข้ามาถึงก็เอ่ยถามทันทีแต่เมื่อเห็นโม่ลี่ประคองกระโถนในมือเพื่อให้ซูมี่นางอาเจียนก็รีบร้อนเข้ามานั่งข้างนางทันที"ท่านยังมิรู้อีกหรือว่าข้าเป็นอันใด" ซูมี่เอ่ยถามอย่างอ่อนแรง เสี่ยวไป๋ก็เข้ามาซุกอยู่ที่ท้องของนางอย่างห่วงใย"ดื่มก่อนเจ้าค่ะนายหญิง" เป่าเปาส่งถ้วยน้ำในมือของนางให้ซูมี่ เมื่อนางดื่มเข้าไปอาการอยากอาเจี

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 55

    ภายในห้องโถงเรือนหลักของจวนแม่ทัพ ในยามนี้มีเพียงบิดามารดาของฮุ่ยหมิ่นเท่านั้น เพราะเขาแยกจวนมาอยู่ที่จวนท่านแม่ทัพแล้ว วันนี้นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋เพียงมาพักช่วงรับตัวเจ้าสาวเข้าจวน"คารวะท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าค่ะ" ซูมี่ยกน้ำชาขึ้นเหนือคิ้วของนาง ส่งให้นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋"นับจากนี้เจ้าเป็นบุตรสาวของข้าอีกคนแล้ว" ฮูหยินไป๋จินชาเล็กน้อย ก่อนจะวางโฉนดที่ดินนอกเมืองให้ซูมี่ห้าร้อยหมู่เพื่อรับขวัญลูกสะใภ้"หากมีเรื่องอันใดที่จัดการไม่ได้ ก็บอกแม่สามีของเจ้าแล้วกัน" นายท่านไป๋ก็ชาขึ้นดื่มเล็กน้อยพร้อมทั้งโบ้ยให้ทางฮูหยินไป๋รับเรื่องไว้ฮุ่ยหมิ่นส่ายหัว เมื่อเห็นมารดาทำหน้าเหมือนอยากจะทุบบิดาของตน ซูมี่นำของที่นางเตรียมไว้มอบให้นายท่านไป๋และฮูหยินไป๋ เมื่อทั้งคู่เปิดดูก็ต้องตกตะลึงจนอ้าปากค้าง เพราะนางให้โสมที่นางปลูกไว้ให้ทั้งสองถึงห้าหัวแต่ถ้าทั้งคู่รู้ว่าโสมของนางมีเป็นพันหัวไม่รู้จะแสดงสีหน้าเช่นไร แม้โสมทั้งห้าหัวจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เช่นที่เสี่ยวเฮยนำมาให้ซูมี่ แต่ถ้าเทียบกับที่จวนอื่นมี ในมือของทั้งคู่ตอนนี้ก็ถือว่าใหญ่ที่สุด ฮูหยินไป๋กอดกล่องไม้ไม่ยอมส่งให้สาวใช้ถือ เมื่อทานอาหารเช

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status