ชายหนุ่มชาวสวนนิ่งไปตอนที่ธามเกริ่นให้ฟังว่าเขากับไข่มุกมีความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันเรื่องลูก ธามจึงจะหาทางออกด้วยการหาคนมาอุ้มบุญ
"...แต่คุณเพิร์ลก็ไม่ยอมให้แกทำอย่างนั้นเช่นกัน" "ใช่" "ถ้าอย่างนั้น ทางออกตรงกลางมันคืออะไรวะนั่น" ปีขาลถึงกับเกาหัว เขาเองก็ยังโสด ไม่มีประสบการณ์ที่ซับซ้อนเรื่องความรักความสัมพันธ์ "นั่นล่ะปัญหาใหญ่ ระหว่างฉันกับเพิร์ล เราหาตรงกลางไม่ได้ สำหรับเพิร์ล ฉันก็คือผู้ชายเห็นแก่ตัวที่จะเอาให้ได้ทุกอย่างในชีวิตนี้ ผู้หญิงบริสุทธิ์ก็จะเอา แม่ของลูกก็จะเอา เมียที่คอยปรนเปรอบนเตียงก็จะเอา..." ธามทวนประโยคที่เพิ่งโดนไข่มุกบริภาษมาอย่างครบถ้วน "และเขาจะฉันไม่ยอมให้ฉันสมหวังอะไรเลยสักอย่างเดียว เขาว่าอย่างนั้น" หนุ่มเจ้าของไร่อ้าปากค้าง ขณะที่ธามสีหน้าชาเฉย... "นี่แกโดนเมียด่าจนด้านชาไปแล้วสินะ ไอ้ธาม" "ก็ไม่เชิง ฉันแค่ยอมรับว่าที่เพิร์ลพูดมามันถูกต้องแล้ว ฉันเห็นแก่ตัวจริง ๆ แต่ไม่ว่าเขาจะว่ายังไง ฉันก็ยังยืนยันความต้องการของฉัน ต่อให้เพิร์ลไม่ร่วมมือ ฉันก็จะหาทางมีลูกของฉันเอง" "...นั่นแปลว่าแกต้องฟ้องหย่า" ปีขาลคาดเดาทางออกของเพื่อนสนิท และธามก็พยักหน้า "ถูกต้อง เพราะฉันจะไม่ยอมให้คนที่จะมาอุ้มบุญโดนตราหน้าว่าเป็นชู้ของฉันเด็ดขาด..." "แต่ถ้าแกฟ้องหย่าสำเร็จ ยังจะต้องหาคนอุ้มบุญอีกทำไม ทำไมไม่แต่งเมียใหม่ไปเลย หาคนที่ต้องการจะมีลูกเหมือนกัน เรื่องมันจะได้ไม่ซับซ้อน..." หนนี้ธามกลับนิ่ง เพื่อนเขาพูดถูก แต่ถ้าเขาเป็นอิสระ ศีตลาจะยอมมาเป็นภรรยาของเขาอย่างนั้นหรือ... ใบหน้าไร้เดียงสาที่บ้าบิ่นนิด ๆ ของสาวน้อยคนหนึ่งลอยขึ้นมา ธามไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสีหน้าของตัวเองลึกซึ้งขึ้นเมื่อเอ่ยถึงใครคนนั้น แต่ปีขาลทันสังเกตเห็น และเขาอดจะถามไม่ได้ "พอจะบอกฉันได้ไหม ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร... ไปไงมาไงเขาถึงมาอยู่ในความสัมพันธ์ที่ชวนปวดหัวของแกกับคุณเพิร์ลได้..." ธามลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมบอกเพราะเขาวางใจในตัวเพื่อนสนิท "น้องสาวของศักดิ์สยาม..." ปีขาลนิ่งไปเหมือนกัน เรื่องมันชักจะอีรุงตุงนังจนเขาเริ่มคิดตามไม่ทัน ให้เขาไปคิดคำนวณกำไรขาดทุนหรือคิดโปรเจกต์ธุรกิจใหม่ ๆ ยังจะง่ายกว่านี้หลายร้อยเท่า ธามก็คงจะอ่านสีหน้าของเพื่อนสนิทออก "ฉันขอโทษที่เรื่องไร้สาระพวกนี้มาคุยกับแก" "เฮ้ย! ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าไร้สาระ ถ้าลองคนอย่างแกเลือกจะพูดออกมา แสดงว่าแกคงหาทางออกไม่ได้แล้วจริง ๆ ฉันยินดีรับฟังแกทุกเรื่อง ถึงฉันจะยังไม่มีเมียและยังนึกไม่ออกว่าจะช่วยแกยังไงดีก็เถอะ" "ขอบใจแกว่ะเสือ ฉันแค่อยากทบทวนความคิดของตัวเองด้วยการคุยกับคนที่ไว้ใจได้อย่างแกเท่านั้นก็พอ... อย่างน้อยความคิดพวกนั้นมันจะได้ไม่ต้องวนไปเวียนมาอยู่ในหัวของฉันคนเดียว" "ดี แกทำถูกแล้ว และฉันก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้วคนอย่างท่านรองฯ จะหาทางออกได้" ธามหัวเราะเบา ๆ เพราะรู้ว่าเพื่อนชอบเรียก 'ท่านรองฯ' เป็นการหยอกเย้า อย่างน้อยวันนี้เขาก็หัวเราะออกมาได้เพราะไม่รู้ว่าครั้งสุดท้ายนั่นมันเมื่อไหร่แล้ว * * * * * คืนนั้นปีขาลก็พักที่เมทราแกรนด์ตามระเบียบ เพราะไม่เพียงมีธามเป็นเจ้าของแต่ตัวเขาเองยังถือหุ้นอยู่ 2% สองหนุ่มนั่งดื่มและคุยกันอยู่จนดึกดื่นก่อนธามจะปล่อยให้เพื่อนได้พักผ่อนและตัวเขาเองก็ขึ้นรถกลับบ้านโดยมีธงไชยขับรถให้เช่นเคย "ลุงธง ก่อนกลับช่วยแวะไปที่แยกห้วยขวางก่อน" ท่านรองฯ หนุ่มที่คืนนี้ดื่มไปหลายแก้ว เอ่ยกับคนขับรถประจำตัว ธงไชยคิดว่าตัวเองฟังผิด "แยกห้วยขวางหรือครับ" "ใช่ ในซอยที่เราเคยไป...ที่หอพักนั้นนั่นแหละ" "เอ่อ ครับ" แยกห้วยขวางก็แยกห้วยขวาง แวะก็แวะ ธงไชยนึกในใจขัน ๆ แม้ว่ามันจะคนเส้นทางกับทางกลับบ้านธนกิจเลยก็ตาม * * * * * แม้จะตีหนึ่งตีสอง แต่แยกห้วยขวางไม่เคยหลับใหล ตรงกันข้าม ยิ่งดึกก็ยิ่งคึกคักทั้งนักท่องเที่ยว คนทำงาน และคนที่อยู่อาศัยอยู่แถวนั้นเพราะมีทั้งโรงแรม อพาร์ทเม้นท์ หอพัก ตั้งอยู่ทุกซอกทุกมุม รถหรูของธามค่อย ๆ แล่นเข้าไปซอยช้า ๆ สองข้างถนนคือบรรดารถเข็นขายอาหาร เสื้อผ้า เครื่องประดับ พอเข้ากลางซอยไปแล้วก็เริ่มโล่งแต่ก็ยังมีร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ชั่วโมงอยู่กลางซอย ที่นี่จึงไม่เคยมีคำว่าเปลี่ยว "จอดแถวนี้แหละ" ธามสั่ง ธงไชยจึงชะลอและหยุดรถในบริเวณที่พอจะจอดได้ เขาเคยพาเจ้านายมาในซอยนี้แล้วหนนึงจึงรู้ว่าท้ายซอยมีที่ให้วนออกมาทางเดิม ไม่ต้องห่วงเรื่องกลับรถ คนรถวัยกลางคนคิดว่าประเดี๋ยวเจ้านายอาจโทรศัพท์หาใครสักคน หรืออาจมีใครสักคนเดินมาหาตามที่นัดหมายไว้ แต่ธามกลับนั่งเฉย เหม่อมองไปยังหอพักกลางเก่ากลางใหม่ที่อยู่อยู่ติดกับร้านสะดวกซื้อที่ไฟสว่างโร่... คนทำงานและวัยรุ่นเดินขึ้นเดินลงเป็นปกติ แต่ไม่มีคนไหนที่มีทีท่าว่าเป็นคนที่เจ้านายของธงไชยรอคอย "ลงไปหาอะไรกินก่อนก็ได้นะลุง ฉัขออยู่นี่อีกซักพัก" "เอ่อ ครับ" ธงไชยรับคำงง ๆ ไม่รู้จะซื้ออะไรเพราะปกติก็ไม่ใช่คนชอบกินของว่างจุบจิบ แต่เพราะธามสั่งแถมยังยื่นแบงค์สีเทาส่งมาให้ เขาจึงรับมาแล้วลงจากรถ คิดว่าเข้าไปซื้อขนมกับของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ฝากแม่บ้านคนงานที่พักที่เรือนเดียวกันก็แล้วกัน เมื่ออยู่ลำพัง ธามก็ถอนหายใจในความไร้สาระของตัวเอง หนแรกที่เขาเข้ามาในซอยนี้เพราะมาส่งเด็กสาวคนนั้นที่หอพักที่เธออยู่ ตอนนั้นเขาทำไปด้วยน้ำใจแต่ตอนนี้เขาจะกลับมาอีกทำไม แถมยังมานั่งเฉย ๆ อย่างกับว่าเธอจะโผล่มาอย่างสุดแสนบังเอิญอย่างนั้นแหละ
ธามคิดว่าประเดี๋ยวเมื่อคนรถกลับออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ก็ได้เวลากลับบ้าน หมดเวลาทำตัวเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ชอบทำอะไรที่หาคำอธิบายดี ๆ ไม่ได้เสียที
กระทั่งมีเด็กวัยรุ่นสามคนเดินลงมาจากหอพัก ธามก็ยืดตัวขึ้นทันที ใจเต้นแรง... ศีตลาเดินมากับเพื่อนผู้หญิงและอีกคนเป็นผู้ชาย อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ไกลเกินกว่าจะได้ยินเสียงพวกเขาแต่สีหน้าก็บอกได้ว่าสามคนกำลังหัวเราะเรื่องตลกอะไรบางอย่างอยู่ ก่อนที่เด็กสาวอีกคนจะโบกมือให้ศีตลา ท่าทางเหมือนกำลังจะกลับบ้าน ส่วนเด็กหนุ่มอีกคนนั้นแม้จะเดินกลับออกมาพร้อมกันกับเด็กสาว แต่ก็เห็นชัดว่ายังไม่อยากกลับ ยังคงโบกมือเอื่อย ๆ ให้ศีตลาอย่างอาลัยอาวรณ์'แฟนเหรอ'
ธามนึกขึ้นมาแล้วก็รู้สึกหงุดหงิด
และชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกขุ่นมัวเมื่อไม่กล้าแม้แต่จะถามตัวเองว่า...หากน้องสาวของศักดิ์สยามมีแฟนแล้วจริง ๆ ตามประสาวัยรุ่น... แล้วเขาจะหงุดหงิดไม่พอใจด้วยเหตุผลอะไร...ชายหนุ่มชาวสวนนิ่งไปตอนที่ธามเกริ่นให้ฟังว่าเขากับไข่มุกมีความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันเรื่องลูก ธามจึงจะหาทางออกด้วยการหาคนมาอุ้มบุญ"...แต่คุณเพิร์ลก็ไม่ยอมให้แกทำอย่างนั้นเช่นกัน""ใช่""ถ้าอย่างนั้น ทางออกตรงกลางมันคืออะไรวะนั่น"ปีขาลถึงกับเกาหัว เขาเองก็ยังโสด ไม่มีประสบการณ์ที่ซับซ้อนเรื่องความรักความสัมพันธ์"นั่นล่ะปัญหาใหญ่ ระหว่างฉันกับเพิร์ล เราหาตรงกลางไม่ได้ สำหรับเพิร์ล ฉันก็คือผู้ชายเห็นแก่ตัวที่จะเอาให้ได้ทุกอย่างในชีวิตนี้ ผู้หญิงบริสุทธิ์ก็จะเอา แม่ของลูกก็จะเอา เมียที่คอยปรนเปรอบนเตียงก็จะเอา..."ธามทวนประโยคที่เพิ่งโดนไข่มุกบริภาษมาอย่างครบถ้วน"และเขาจะฉันไม่ยอมให้ฉันสมหวังอะไรเลยสักอย่างเดียว เขาว่าอย่างนั้น"หนุ่มเจ้าของไร่อ้าปากค้าง ขณะที่ธามสีหน้าชาเฉย... "นี่แกโดนเมียด่าจนด้านชาไปแล้วสินะ ไอ้ธาม""ก็ไม่เชิง ฉันแค่ยอมรับว่าที่เพิร์ลพูดมามันถูกต้องแล้ว ฉันเห็นแก่ตัวจริง ๆ แต่ไม่ว่าเขาจะว่ายังไง ฉันก็ยังยืนยันความต้องการของฉัน ต่อให้เพิร์ลไม่ร่วมมือ ฉันก็จะหาทางมีลูกของฉันเอง""...นั่นแปลว่าแกต้องฟ้องหย่า"ปีขาลคาดเดาทางออกของเพื่อนสนิท และธามก็พยักหน้า"ถูกต้อง เ
ห้องนอนของธามกับไข่มุกนั้นแยกกันตั้งแต่ตอนแต่งงาน แต่จะมีประตูเชื่อมให้เดินไปมาหากันได้ ตั้งแต่ธามจับได้ว่าภรรยานอกกายไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ประตูเชื่อมระหว่างสองห้องก็ปิดตาย...คืนนี้เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปหาไข่มุก หญิงสาวที่กำลังนั่งทาครีมอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง จึงหันกลับมามองเขาอย่างแปลกใจแกมยิ้มเยาะ“ตายแล้ว สงสัยบุญของคุณแม่จะได้ผลเร็วทันใจ ถึงกับทำให้พระอภัยมณีที่แสนใจร้าย ยอมเปิดห้องมาหานางยักษ์...”“ผมมีเรื่องจะคุย...จริงจัง”ธามไม่มีแก่ใจจะล้อเล่น ไข่มุกหัวเราะเบา ๆ ก่อนหันไปสนใจกระปุกครีมตรงหน้าต่อ“ก็ว่าไปสิ”“เรื่องลูก...ผมอยากถามคุณอีกครั้ง ว่ามันจะเป็นไปได้ไหม...”“ไม่ได้! ถ้าคุณจะถามว่าฉันจะยอมตั้งท้อง หรือยอมให้ใครมาอุ้มท้องแทนหรือไม่ ฉันยืนยันคำเดิมว่าไม่ ถ้าคุณอยากมีลูกใจจะขาด ก็ต้องรอให้ฉันตายเท่านั้นแหละ”“เพิร์ล คุณทำแบบนี้ไปทำไม...”น้ำเสียงของเขาท้อแท้สิ้นหวังมากกว่าจะเย็นชาห่างเหินเหมือนอย่างเคย“ผมทำอะไรให้คุณโกรธถึงขนาดนั้นเลยหรือเพิร์ล คุณถึงได้ทำเหมือนจงใจแกล้งผมให้ไม่มีทางออกทางไหนเลย”ไข่มุกนิ่งไปนิด ก่อนหันกลับมา แววตาหยอกล้อหายไปกลายเป็นค
“ของคุณหญิงรับแค่สลัดก็พอนะน้า ตอนอยู่วัดท่านถือศีลแปด งดกินอาหารหลังเที่ยงมาเป็นเดือนจนเริ่มจะชินแล้ว กลับมากินอะไรเบา ๆ ก่อนก็พอ”“ได้ค่ะคุณวีณา”รำพึงรับคำเมื่อผู้ช่วยส่วนตัวของคุณหญิงธัญญาเดินมาสั่ง วีณาทำงานกับคุณหญิงมาตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีด้วยทุนของมูลนิธิธนกิจการศึกษาจนตอนนี้เธอก็อายุ 35 ปีแล้ว ถ้าเป็นงานของบริษัท คุณหญิงธัญญาในฐานะประธานกรรมการของธามเอนเตอร์ไพรซ์จะมีจำรัสเป็นเลขานุการและทีมผู้ช่วยอีกสามคนแต่ถ้าเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไปตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ คนเดียวที่รับจบก็คือวีณาคนนี้ เรียกได้ว่าเป็นคนที่รู้ใจและได้รับความไว้วางใจจากคุณหญิงธัญญามากที่สุด แม้แต่การไปปฏิบัติปีละครั้งก็ยังต้องให้วีณาตามไปด้วย“แต่ว่าอาหารอย่างอื่นของคุณธามกับคุณเพิร์ล ก็จัดเหมือนเดิมเลยนะ เคยทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น”“ค่ะคุณวีณา”“อืม...” หญิงสาวมองไปรอบ ๆ พลางนึกไปด้วยว่ายังมีอะไรที่หล่อนต้องกำชับอีกหรือไม่ ห้องครัวในบ้านธนกิจมีถึงสามห้อง แบ่งเป็นครัวไทย ครัวฝรั่ง และครัวเบเกอรี่ แต่ละห้องมีอุปกรณ์ทำอาหารเพียบพร้อมไม่ต่างจากครัวของโรงแรมใหญ่ ๆ วันดีคืนดีก็จะจ้างเชฟนานาชาติมาทำอาหารให้ แต่ปกติลำ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ แวน รุ่นสปรินเตอร์ 419 สีดำเป็นมันเงาแล่นผ่านลานน้ำพุมาจอดหน้ามุขประตูบ้านธนกิจ เหล่าแม่บ้าน คนครัว คนสวน คนรับใช้ เกือบสิบชีวิต มายืนออรอรับผู้เป็นนายอย่างพร้อมเพรียง ประตูรถแวนเลื่อนออกอย่างอัตโนมัติ ที่ก้าวลงมาโดยมีผู้ช่วยคนสนิทยื่นมือให้ช่วยจับคือหญิงวัยประมาณ 60 เศษ ๆ ที่ยังแข็งแรง บุคลิกงามสง่า หน้าสะสวยอ่อนกว่าวัยเสื้อและผ้านุ่งสีขาวทั้งชุดนั้นดูเรียบง่ายแต่เป็นคนที่มีความรู้ด้านแฟชั่นจะรู้ว่าทั้งเนื้อผ้าและการตัดเย็บไม่ธรรมดา อย่างน้อยต้องมาจากห้องเสื้อชั้นสูงของไทยไม่แบรนด์ใดก็แบรนด์หนึ่ง“เป็นยังไงกันบ้าง ฉันไม่อยู่ตั้งเป็นเดือน ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”คุณหญิงธัญญา ธนกิจ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด ละอองที่มีอาวุโสที่สุดเป็นคนตอบ“ปกติเรียบร้อยดีค่ะคุณท่าน พวกอิฉันขอกราบอนุโมทนาสาธุด้วยนะคะคุณท่าน กลับจากปฏิบัติธรรมหนนี้ หน้าตาคุณท่านอิ่มเอิบผ่องใสมากเลยค่ะคุณท่าน”“ขอบใจ ตอนอยู่ที่วัดฉันก็อธิษฐานทำบุญเผื่อพวกเราทุกคนเหมือนกัน...”“ขอบพระคุณมากค่าคุณท่าน” แม่บ้านและเหล่าคนงานพร้อมใจกันยกมือไหว้สาธุ คนรถประจำตัวเปิดประตูด้านหลังรถแวนพลางเรียกให้ทุกคนไปรับขอ
คุณหญิงพลอยสีไม่ได้พูดเล่นตอนที่บอกว่าให้แม่ครัวทำอาหารไว้หลายจานทั้งแกงทั้งผัดจนเต็มโต๊ะรับประทานอาหาร หลายจานเป็นอาหารที่ธามโปรดปรานเป็นพิเศษ ไข่มุกอดค่อนไม่ได้“กินกันแค่สี่คนจริง ๆ หรือคะ หรือว่าพวกพี่ ๆ จะมาด้วย”“วันนี้ก็แค่สี่คนนี่แหละ พวกพี่ ๆ แกติดราชการกันทั้งสามคน ถ้ามาได้แม่คงให้ทำไว้เยอะกว่านี้ โดยเฉพาะพวกขนมนมเนย พวกหลาน ๆ แกน่ะกินทีอย่างกับพายุบุแคม”“ไม่มาน่ะดีแล้ว วิ่งโวยวายกันเป็นลิงเป็นค่าง น่ารำคาญ”หญิงสาวบ่นเบา ๆ แต่ก็ดังพอจะให้คุณหญิงพลอยสีหน้าตึง“นี่หรือเปล่าแกถึงไม่ยอมมีลูกให้ธามเขาสักที เพราะแกเกลียดเด็กหรือยังไง”คนเป็นลูกสาวที่กำลังยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นจิบ ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นแต่แววตาแข็งกระด้าง“คุณแม่อยากรู้เหตุผลจริง ๆ ที่เพิร์ลไม่อยากมีลูกหรือเปล่าล่ะคะ เพิร์ลจะได้บอกว่า...ทำไม”คุณหญิงพลอยสีหน้าตึงทันที ธามเองก็ยังรู้สึกแปลกใจพล.อ.เขมราชรีบเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเข้ม“พอเถอะคุณหญิง มาพูดเรื่องเครียด ๆ ตอนนี้ อาหารจะไม่อร่อยกันพอดี... กินข้าวกันดีกว่า ธาม...คุณหญิงแม่เขาสั่งให้ทำยำถั่วพูไว้ให้ ถั่วพูพ่อปลูกเองอยู่ในสวนข้างบ้านน
ตอนที่ 13 ลูกณ บ้านศศินทร์เดชาคุณหญิงพลอยสีท่าทางดีอกดีใจที่วันนี้ลูกสาวคนเล็กมาหาพร้อมกับลูกเขย นางรีบเดินเข้าไปทักทายธาม แต่กลับแทบไม่ปรายตาไปยังลูกสาวที่มาด้วยกัน“ธาม...เป็นอย่างไรบ้างลูก ทำไมหมู่นี้ไม่ค่อยมาหาแม่เลย”“ผมขออภัยครับ”ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ อย่างสุภาพ เขาไม่อธิบายเพราะไม่อยากจะโกหก... ปล่อยให้แม่ยายเข้าใจไปเองว่าลูกเขยงานยุ่งมากจนไม่มีเวลามาเที่ยวหาไข่มุกปรายตามองอย่างหมั่นไส้แต่ไม่เอ่ยอะไร... เมื่อกลับมาบ้าน บ้านที่มีพ่อกับแม่ของหล่อนอยู่ ดูเหมือนไข่มุกคนเจ้าอารมณ์ก็กลายเป็นผู้เป็นคนเหมือนคนปกติขึ้นมาได้บ้าง“คุณพ่ออยู่ไหมครับ”“อยู่สิจ๊ะ เข้ามาเถอะ พ่อเขารอเจอธามอยู่ที่ห้องหนังสือแน่ะ”“รอเจอแค่ลูกเขยหรือคะ แล้วลูกสาวไม่อยากเจอด้วยหรือไง”ทั้งที่บอกตัวเองว่าจะไม่พูด แต่ไข่มุกก็พูดออกไปจนได้คุณหญิงพลอยสีจึงหันมามอง ทั้งสายตาและวิธีที่มองจิกก็ยังเหมือนกันสมกับเป็นแม่เป็นลูก แต่ไม่รู้ทำไมจึงพูดจากันดี ๆ ไม่ค่อยได้“เธอน่ะฉันจะเจอเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่เหมือนนายธาม... ลูกเขยของฉันเป็นถึงนักธุรกิจใหญ่ นาน ๆ จะปลีกตัวมาหาฉันได้ฉันก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา”ไข่มุกเบ้ปาก ธามจับมือแม
ตอนที่ 12 คำตอบถ้าคนของธามไปช้าอีกนิดเดียว ในห้องที่ศักดิ์สยามพักรักษาตัวอยู่ตอนนั้นคงจะเกิดการนองเลือด เพราะไข่มุกกรีดร้องคลุ้มคลั่งพุ่งใส่ชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวว่ากำลังอยู่ในโรงพยาบาล ศักดิ์สยามยกมือปัดป้องเป็นพัลวันแต่กระนั้นเขาก็ได้รอยเล็บจนเลือดซิบมาหลายแผล ต้องใช้บุรุษพยาบาลกับลูกน้องของธามรวมเป็นสามคนจึงจะรวบมือเท้าแขนขาของไข่มุกเอาไว้ได้เพื่อจะให้พยาบาลใช้เข็มฉีดยาปักเข้าเส้นเลือด ให้เธอสงบและหลับไปภายในเวลาไม่ถึงนาทีเมื่อธามรีบตามมาถึง จึงพบว่าภรรยาของเขานอนหลับไปแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน มีผ้ารัดข้อมือของเธอติดไว้กับราวขอบเตียงทั้งสองข้าง“เป็นยังไงบ้าง... ศักดิ์สยาม”แปลกที่ชายหนุ่มกลับดูจะเป็นห่วงศักดิ์สยามมากกว่าภรรยาตัวเอง ดูเขาไม่ตกใจเลยที่ได้ยินเลขาฯ บอกว่าเมื่อชั่วโมงก่อนไข่มุกมีอาการเช่นไร...ศักดิ์สยามเองเสียอีกที่ยังช็อกไม่หาย“ผม...ผมไม่เป็นไรครับ”“แต่ดูท่านายจะได้แผลเยอะเลยนี่”ธามหมายถึงรอยแผลสดเลือดซิบที่ถูกทายาไปทั่วตัว นักบัญชีหนุ่มฝืนยิ้ม“แค่แมวข่วนน่ะครับ ไกลหัวใจ... แต่ว่า... ผมไม่เคยเห็นคุณเพิร์ลเธอเป็นอย่างนี้เลย เธอคงจะโกรธผมมาก”“เพิร์ลไม่เ
“โดนตบไปแล้วครั้งนึงยังไม่เข็ดใช่ไหมอีนังเด็กนี่” “ก็ลองเข้ามาอีกทีสิ วันนี้ไม่มีผัวป้าคอยห้าม รับรองว่าฉันไม่ยอมให้โดนตบฟรีอีกแน่” ศักดิ์สยามที่ยังตกตะลึง มองหน้าน้องสาวกับอดีตชู้รักสลับไปมา ลืมความเจ็บปวดของตัวเองไปทันที “เดี๋ยว! นี่อะไรกัน ตาลเคยเจอคุณเพิร์ลแล้วเหรอ” ศีตลาไม่ยอมตอบ อีกฝ่ายจึงตอบแทน “แกแกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริง ๆ นายต้น” “ผม...ผมต้องรู้เรื่องอะไร” “ก็เรื่องที่น้องสาวแกคนนี้มันแร่ดเอาตัวไปเสนอให้ธามถึงบ้าน เพื่อแลกกับการยอมความ ให้แกไม่ต้องติดคุกไง” ศักดิ์สยามหันกลับมามองหน้าน้องสาว ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ ผู้หญิงใจดำอย่างไข่มุกย่อมจะพูดอะไรก็ได้... แต่ศีตลากลับไม่ยอมสบตาเขา เธอเอาแต่มองไปทางอื่น... “ตาล ลูกตาล...” “จะอ้ำอึ้งทำไมนังเด็กแร่ด ยอมรับไปสิว่าแกจะขายตัวเพื่อแลกกับการยอมความจริง ๆ” “หนูเปล่าขายตัว อย่าพูดอะไรมั่ว ๆ นะป้า” “ขืนเรียกฉันว่าป้าอีกคำเดียว ฉันจะเอาแกหน้าแหกแน่” ไฮโซสาวลูกสาวนายพลลืมกิริยาผู้ดีไปสิ้น กางมือร่าเตรียมจะโผเข้าหาเด็กสาวที่ยืนตั้งรับอยู่อีกฟากของห้อง แต่ทนายกับผู้ช่วยสาวที่มาด้วยกันนั้นรีบสะกิดห้ามไว้เสียก่อน “เอ่อ คุณเ
ศีตลาตื่นแต่เช้า แต่งตัวชุดนักศึกษาแล้วก็สะพายกระเป๋าออกจากหอ แต่สถานที่ที่จะไปยังไม่ใช่วิทยาลัย เด็กสาวพิมพ์ส่งข้อความไปบอกลลิตาทางแชตไลน์ - วันนี้จะไปสาย คาบแรกฝากลาอาจารย์ด้วย –ไม่ถึงสามวินาที ลลิตาก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับมา เป็นตัวการ์ตูนชูนิ้วว่า - OK- นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ศีตลาคบหาเป็นเพื่อนกับลลิตาหรือลิลลี่ได้ยาวนานมาเกินเกือบสิบปี เพราะเพื่อนคนนี้ไม่ใช่คนชอบซักไซ้ซอกแซก นอกจากไม่ใช่คนชอบจับผิด ลลิตาก็ยังเป็นคนสดใส ใจกว้าง เธอจึงสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ ๆศีตลาโดดเรียนวิชาแรกของเช้านี้ เพราะจะไปหาศักดิ์สยามที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง...ทนายความของธามโทรศัพท์มาบอกเธอตั้งแต่เมื่อวานว่าย้ายโรงพยาบาลให้พี่ชายของเธอ และเพื่อความปลอดภัยของเขา ก็ห้ามเธอไม่ให้บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ โดยเฉพาะคุณไข่มุกถ้าไม่เพราะโดนฝ่ามือของนางปีศาจนั่นมาแล้วรอบนึง ศีตลาก็คงนึกไม่ออกเลยว่าผู้หญิงสวยสง่า ภาพลักษณ์ภายนอกดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไข่มุก เนื้อแท้จะเป็นคนโหดร้ายใจดำได้ขนาดไหน ก็คงไม่แปลกที่แม้แต่ทนายความฝั่งสามียังไม่อยากเปิดเผยที่อยู่ของศักดิ์สยามให้นางรู้ คงกลัวพี่ชายของเธอจะไม่ปลอดภัยเสียล่ะกระม