“น่าเสียดายจังนะปูเป้ที่หลินไม่ได้มากับเรา” วิรัลพัชรพูดอย่างเสียดายเมื่อวันนี้หลินหรือนลินภัสไม่ได้เดินทางมาเที่ยวกับเธอตามที่ได้ชวนกันไว้ ทำให้หญิงสาวต้องเดินทางมาเที่ยวเกาะพงันกับพิมพ์วดีและอลันแฟนหนุ่ม
“นั่นสิแบบนี้วิวก็น่าจะเหงาแย่เลยคืนนี้ให้เราไปนอนห้องเดียวกับวิวดีไหม”
“อย่าเลยนานๆ อลันเขาถึงจะกลับมาหาปูเป้สักทีไปนอนกับแฟนเถอะวิวอยู่คนเดียวได้เผลอๆ คืนนี้อาจจะได้หนุ่มกลับมานอนด้วยสักคน”
“พูดเป็นเล่นน่า อย่างวิวน่ะเหรอจะพาใครไปนอนด้วยขนาดแฟนที่คบกันมาเกือบปีวิวยังไม่เคยพาไปค้างที่ห้องเลย” พิมพ์วดีพูดอย่างรู้ทันเพราะเพื่อนของเธอคนนี้ค่อนข้างจะหัวโบราณมากต่างจากเธออย่างลิบลับ
“แหมก็ตอนนั้นวิวยังเรียนไม่จบนี่ปูเป้ แต่ตอนนี้วิวเรียนจบแล้วมีงานทำอายุก็ยี่สิบสี่แล้วนะมีซัมติงกับใครสักคนก็ไม่น่าจะแปลก”
“ขอให้มันจริงเถอะ เดี๋ยวพวกเราเอาของเข้าไปเก็บนะ บ้านพักของวิวอยู่หลังริมสุดนะ ส่วนหลังตรงกลางไม่แน่ใจว่าเป็นของใครของเราอยู่ถัดไปอีกสองหลังถ้ามีอะไรก็ไปเคาะเรียกได้นะ สักทุ่มหนึ่งเราค่อยออกไปกินข้าวกันนะ แล้วปูเป้จะโทรหา”
“ได้จ้ะ” วิรัลพัชรเดินแยกจากเพื่อนเข้ามายังบ้านพักของตนเองหลังริมสุด
การมาเที่ยวครั้งนี้ผิดแผนไปนิดหน่อยเพราะเพื่อนอีกคนที่บอกว่าจะเดินทางมาด้วยเกิดป่วยกะทันหันทำให้คืนนี้วิรัลพัชรต้องค้างอยู่ที่บ้านพักคนเดียว เพราะถ้าจะให้พิมพ์วดีมานอนด้วยก็รู้สึกเกรงใจเนื่องจากเธอพาแฟนชาวต่างชาติมาเที่ยวด้วย วิรัลพัชรคิดว่าการอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ค่อนข้างอิสระและมีความเป็นส่วนตัวมาก เธอคิดว่าการมาเที่ยวครั้งนี้ตนเองจะสนุกอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลอะไร
หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ววิรัลพัชรก็ขอตัวกลับมาที่พักส่วนปูเป้และแฟนหนุ่มก็พากันไปเดินเที่ยวบริเวณชายหาดก่อนจะนัดเจอกันอีกทีในเวลาสี่ทุ่มซึ่งเป็นเวลาที่ปาร์ตี้น่าจะกำลังสนุกเลยทีเดียว
“ปูเป้อยากออกมาเที่ยวตอนไหนก็มาเลยไม่ต้องห่วงวิวหรอกวิวมาคนเดียวได้ ดูท่าทางอลันเขาอยากจะสนุกกับงานนี้มากๆ”
“แต่วิวจะเที่ยวคนเดียวได้เหรอ เท่าที่พวกเราเดินผ่านเมื่อกี้บริเวณที่จัดงานมีผู้ชายค่อนข้างเยอะกว่าผู้หญิงนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกวิวดูแลตัวเองได้ ปูเป้กับอลันไม่ค่อยได้เที่ยวด้วยกันใช้ชีวิตใช้เวลาอยู่ด้วยกันเต็มที่เลยนะ”
“แน่ใจนะว่าคืนนี้จะเที่ยวคนเดียว”
“แน่ใจสิวิวไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะปูเป้สบายใจได้เลย”
“ถ้าเปลี่ยนใจก็ไลน์มาบอกได้ ปูเป้รู้สึกเป็นห่วงวิวยังไงก็ไม่รู้” พิมพ์วดีรู้สึกผิดที่จะปล่อยให้เพื่อนเที่ยวคนเดียวตามลำพังเพราะเป็นคนชวนวิรัลพัชรมาเที่ยว
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกวิวสบายมาก”
วิรัลพัชรบอกพิมพ์วดีเพื่อให้เพื่อนสบายใจอีกอย่างคืนนี้เธอก็คิดเอาไว้แล้วว่าจะเที่ยวให้สนุกอย่างเต็มที่เพราะคงไม่มีโอกาสมาเที่ยวแบบนี้บ่อยๆ อย่างแน่นอน
หญิงสาวกลับเข้ามาที่บ้านพักจากนั้นก็เปลี่ยนชุดจากกางเกงขายาวเสื้อเชิ้ตเป็นกางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อกล้ามสีขาวตามแบบวัยรุ่นชอบใส่ ก่อนจะเดินมาบริเวณริมหาดที่มีการจัดงานฟูลมูลปาร์ตี้
ตอนนี้ทุกคนในงานกำลังสนุกสนานเป็นอย่างมาก หญิงสาวเดินไปซื้อเครื่องดื่มสำหรับตัวเองหนึ่งขวดจากนั้นก็เดินเข้าไปในบริเวณนักท่องเที่ยวกำลังเต้นกันอยู่ เสียงเพลงดังกระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัวเธอดื่มไปด้วยเต้นไปด้วย ไม่นานก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาชวนเราคุยหญิงสาวคุยพักใหญ่แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยโอเคเพราะเขาพูดเหมือนจะชวนเธอไปนอนด้วย วิรัลพัชรจึงขอตัวมาซื้อเครื่องดื่มเพิ่ม ก่อนจะกลับเข้าไปสนุกสนานท่ามกลางเสียงเพลงอีกครั้งเธอดื่มไปหลายขวดจากนั้นก็มีผู้ชายอีกคนหนึ่งเขามาชวนคุย
หญิงสาวรู้สึกสนุกที่ได้คุยกับเขาแต่ไม่ได้ถามชื่อเพราะไม่คิดว่าไม่มีความจำเป็นเนื่องจากคืนนี้ทุกคนก็น่าจะออกมาหาความสุขโดยไม่สนใจว่าใครเป็นใคร เมื่อเต้นจนเหนื่อยก็ขอตัวกลับ แต่เขาก็อาสาเดินมาส่ง
“ดูท่าทางคุณน่าจะเมามากเลยนะ แบบนี้จะกลับที่พักถูกไหม”
“ถูกสิที่พักของฉันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก”
“ดึกแบบนี้มันอันตรายให้ผมเดินไปส่งดีกว่าไหม” หญิงสาวส่ายศีรษะเพราะคิดว่าตัวเองจะเดินกลับได้
“ไม่เป็นไรค่ะฉันเดินกลับเองได้คุณไปสนุกให้เต็มที่เถอะ ยินดีที่ได้เจอกันนะคะ” หญิงสาวยิ้มให้เขาจากนั้นก็เดินกลับ
ระยะทางจากบริเวณจัดงานมายังที่พักของเธอนั้นอยู่ห่างประมาณเกือบหนึ่งกิโลเมตรทำให้ใช้เวลาเดินค่อนข้างนานเธอไม่รู้เลยว่าตลอดเวลานั้นผู้ชายที่เธอคุยด้วยเมื่อครู่เขาเดินตามเธอมาอยู่ข้างหลัง
คุณานนท์สังเกตว่าคืนนี้หญิงสาวมาเที่ยวคนเดียวเขาจึงอยากจะเข้าไปทำความรู้จักเพราะถูกชะตากับใบหน้าเรียวรูปไข่กับและดวงตากลมโต ดูแล้วเธอเหมือนกับเด็กนักศึกษาที่หนีผู้ปกครองมาเที่ยวชายหนุ่มอยากจะรู้จักเธอให้มากขึ้นอยากจะถามว่าเธอชื่ออะไรและที่เดินตามเธอมาก็เพราะอยากจะทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น
ชายหนุ่มคิดว่าเธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่กล้ามากคนหนึ่งเนื่องจากการมาเที่ยวสถานที่แบบนี้คนเดียวมันค่อนข้างอันตรายแต่ดูเหมือนเธอจะไม่กลัวอะไรเลยและเขาก็ชอบผู้หญิงที่กล้าแบบคุณานนท์คิดว่าเธอก็คงเหมือนคนอื่นๆ ที่มาเที่ยวมาสนุกสนานเหมือนกันผู้หญิงที่เขาเคยเจอเมื่อครั้งมาเที่ยวที่นี่เมื่อหลายเดือนก่อน ครั้งนั้นเขากับเธอเจอกันในงานจากนั้นก็ไปต่อกันที่ห้องพอรุ่งเช้าต่างก็แยกย้ายเขายังไม่ได้ถามชื่อเธอด้วยซ้ำ
คุณานนท์เดินตามเธอมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงบ้านพักของเธอซึ่งมันบังเอิญมากว่าอยู่ติดกับบ้านพักของเขา
“บังเอิญจังเลยนะครับที่บ้านพักของเราอยู่ติดกัน”
เสียงที่ดังมาข้างหลังทำให้วิรัลพัชรตกใจก่อนจะรีบหันมามอง
“นี่คุณตามฉันมาเหรอ”
“ผมไม่ได้ตามคุณผมก็บอกอยู่นี่ไงว่ามันบังเอิญมากๆ ว่าผมพักอยู่บ้านหลังนี้”
“ฉันไม่เชื่อหรอก”
“ไม่เชื่อเดี๋ยวผมจะเปิดประตูเข้าไปให้ดูนะ” ชายหนุ่มหยิบกุญแจในกระเป๋ากางเกงเปิดประตูเข้าไปเพื่อให้เธอเห็นว่าเขาเป็นเจ้าของห้องพักห้องนี้จริงๆ
“บังเอิญจริงด้วย”
“ไหนๆ เราก็บังเอิญพักห้องใกล้กันแล้วนั่งคุยกันหน่อยดีไหมคุณง่วงหรือยัง”
“ไม่ง่วงหรอกแค่เมานิดหน่อย” หญิงสาวตอบไปตามความจริงเพราะปกติเป็นคนไม่ค่อยดื่มแต่คืนนี้เธอดื่มมากว่าทุกครั้งเนื่องจากบรรยากาศและเสียงเพลงที่สนุกจนดื่มเพลิน
“เมานิดหน่อยแสดงว่ายังดื่มต่อได้อยากดื่มอะไรไหมล่ะ ในห้องผมมีเครื่องดื่มอยู่หลายอย่างเลย”
“ไม่เป็นไรในห้องฉันก็มีเดี๋ยวฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนแล้วจะออกมาดื่มด้วย”
“ผมก็จะเข้าไปเอาเครื่องดื่มของผมเหมือนกันเดี๋ยวเราออกมานั่งคุยกันตรงมานั่งข้างหน้านะ”
“ค่ะ”
วิรัลพัชรเดินเปิดประตูเข้ามาในห้องตัวเองหยิบเครื่องดื่มให้ในตู้เย็นออกมาหนึ่งขวด พอออกมาด้านนอกห้องก็เห็นเขานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“หนูวิวเข้าไปในห้องผ่าตัดนานหรือยังลูก” คุณสุนันทาถามนันนภัสด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้ว่าจะได้หลานชายเธอก็เปิดใจยอมรับวิรัลพัชรและดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่เห่อหลานในท้องมากกว่าใครทั้งมด“เข้าไปเกือบยี่สิบนาทีแล้วครับแม่” คุณานนท์ที่ยืนจับเวลาอยู่บอกกับมารดา“ต้องใช้เวลาผ่าตัดนานแค่ไหนนัน”“ส่วนใหญ่ก็ประมาณสี่สิบถึงหนึ่งชั่วโมง ชั่วโมงถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน”“อาการแทรกซ้อนอะไรครับพี่นัน แล้ววิวจะมีอาหารแทรกซ้อนไหม” คุณานนท์รีบถามเพราะตอนนี้เขาห่วงคนที่อยู่ในห้องผ่าตัดมากห่วงทั้งคนเป็นแม่และลูกที่กำลังจะเกิดมา“ก็เช่นรกลอกตัวไม่ดีมีเลือดออกเยอะอะไรประมาณนั้น แต่พี่ว่าวิวคงไปไม่เป็นแบบนั้นหรอกนนท์อย่าห่วงไปเลยนะ”“ผมเป็นห่วงวิวกับลูก”“ใจเย็นนะนนท์ ทุกคนก็เป็นห่วงหนูวิวกันทั้งนั้นแหละ” คุณย่าชมนาดที่นั่งมองหลานชายกระวนกระวายใจเดินไปเดินมาก็พูดขึ้น“ถ้านนท์เป็นห่วงมากๆ เดี๋ยวพี่จะไปดูกล้องห้องผ่าตัดให้ก็แล้วกันนะ ว่าตอนนี้ผ่าตัดไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว” นันนเห็นอาการน้องชายแล้วก็ที่ดูกังวลก็เลยอาสาจะไปดูก็ภาพจากกล่องให้เธอหายเข้าไปในห้องที่อยู่ติดกับห้องผ่าตัดไม่นานก็ออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม“ว่ายัง
ตอนนี้อายุครรภ์ของวิรัลพัชรเข้าสัปดาห์ที่สามสิบเก้าแล้วการไปอัลตราซาวด์มาครั้งล่าสุดกับอาจารย์หมอวัลลภอาจารย์หมอบอกให้เธอเตรียมตัวในการผ่าคลอดเพราะดูแล้วการคลอดตามธรรมชาติน่าจะเป็นไปได้ยากเนื่องจากอายุครรภ์เริ่มมากขึ้นแต่ศีรษะเด็กก็ยังไม่ลงมาอยู่ในอุ้งเชิงกราน คุณหมอแนะนำว่าถ้าหากจะผ่าคลอดตอนนี้ก็สามารถผ่านได้เลยแต่เธอก็อยากจะรอให้อายุครรภ์ครบสี่สิบสัปดาห์ก่อนจึงจะตัดสินใจผ่าคลอดช่วงนี้หญิงสาวไม่ได้ไปทำงานที่โรงพยาบาลเพราะคุณานนท์เป็นห่วงส่วนตัวเขาเองก็เอางานกลับมาทำที่บ้านเพราะอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาวเขาก็ว่าเธอจะปวดท้องคลอดระหว่างที่ตัวเองไปทำงาน“วันนี้งานยุ่งหรือเปล่าคะคุณนนท์” หญิงสาวเดินมาถามสามีเมื่อเห็นเขาหน้าเครียดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ค่อนข้างนานแล้วเธอเลยเดินเข้ามาถาม“ยุ่งนิดหน่อยครับแต่ผมคิดว่าจะเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จวันนี้”“ทำไมล่ะคะ”“ก็ผมอยากมีเวลาให้คุณกับลูกอย่างเต็มที่ไงนี่ก็ใกล้ครบกำหนดสี่สิบสัปดาห์แล้วนะวิว คุณตื่นเต้นไหม”“ตื่นเต้นสิวิวทั้งตื่นเต้นทั้งเครียดเลยค่ะ”“ผมเองก็ไม่รู้จะปลอบใจวิวยังไงเลยเพราะนี่มันเป็นลูกคนแรกของเรา ผมก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างมั
วันนี้วิรัลพัชรรู้สึกมีความสุขมากกว่าทุกวันที่ผ่านมาเพราะการแสดงออกของคุณสุนันทาที่มีต่อเธอนั้นมันเปลี่ยนไป ตอนนี้ท่านยอมรับเธอในฐานะลูกสะใภ้ซึ่งเธอไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ หญิงสาวแทบจะหุบยิ้มไม่อยู่ เธอลงมารอคุณานนท์ที่หน้าโรงพยาบาลโดยที่เขายังไม่โทรมาบอกเหมือนกับทุกวันเพราะอยากจะเล่าเรื่องวันนี้ให้กับชายหนุ่มฟัง เมื่อรถเขามาจอดหญิงสาวก็รีบขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็ว“คุณนนท์คะวิวมีเรื่องจะบอกคุณนนท์ด้วยค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความตื่นเต้นหลังจากเปิดประตูรถเข้ามานั่งข้างคนขับ“เรื่องอะไรดูท่าทางน่าจะเป็นเรื่องดีใช่มั้ยล่ะ”“ค่ะเรื่องดีมากๆ วิวไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นแบบนี้”“เล่ามาสิผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องดีๆ ของวิวมันคือเรื่องอะไร”“คุณรู้มั้ยวันนี้วิวได้เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ที่ทำงานด้วยค่ะ”“เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เขามองหน้าคนรักด้วยความไม่เข้าใจเท่าไหร่ เพราะปกติแล้วในทุกบริษัทก็จะมีการเปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ให้กับพนักงานตามอายุการใช้งานอยู่แล้ว“ใช่ค่ะ เพราะเก้าอี้ของวิวมันพิเศษกว่าคนอื่น” หญิงสาวพูดไปยิ้มไปทำให้คุณานนท์ยิ่งอยากจะรู้มากขึ้นว่ามันพิเศษยังไง“มันพิเศษยังไ
เนื่องจากได้หยุดสองวันและพักผ่อนอยู่ที่บ้านกับครอบครัวทำให้วันนี้วิรัลพัชรมาทำงานด้วยความสดชื่น วันนี้หญิงสาวก็มาทำงานตามปกติแต่เมื่อมาถึงที่แผนกบัญชีเธอก็ต้องตกใจเพราะตอนนี้เก้าอี้ทำงานของเธอมันเปลี่ยนไป“พี่นิดคะเกิดอะไรขึ้นทำไมเก้าอี้ทำงานของวิวไม่เหมือนคนอื่นเลย” หญิงสาวถามหัวหน้าแผนกที่มักจะมาทำงานก่อนทุกคนเสมอ“คุณสุนันทาสั่งให้คนเอามาเปลี่ยนให้น่ะ”“อะไรนะคะ พี่นิดบอกว่าใครสั่งให้คนเอามาเปลี่ยนให้นะคะ” เธอไม่แน่ใจกับชื่อที่หัวหน้าแผนกเอ่ยออกมา“คุณสุนันทาแม่คุณนนท์ไงล่ะ”“เป็นไปได้ยังไงเขาจะเอาเก้าอี้มาเปลี่ยนทำไม” วิรัพัชรนึกหาเหตุผลไม่ออกเลยว่ามารดาของคุณานนท์จะทำแบบนี้ทำไม“อย่าเพิ่งนั่งนะวิว ปอนด์ขอนั่งก่อน” นัยนาที่เดินเข้ามาได้ยินก็รีบร้องบอก“ทำไมล่ะปอนด์”“ก็เผื่อเขาทำเก้าอี้ที่นั่งแล้วล้มลงไป วิวจะได้ไม่เป็นอะไรไงล่ะปอนด์ขอนั่งก่อนนะ” หญิงสาวพูดด้วยความเป็นห่วง“คงไม่มีใครทำอะไรแบบนั้นหรอกมั้งปอนด์”“ไม่รู้สิปอนด์ดูละครมาเยอะแม่สามีที่ไม่ชอบลูกสะใภ้ก็อยากจะทำให้ลูกสะใภ้แท้งก็ได้นะ”“คิดมากเกินไปหรือเปล่าปอนด์” พนิดามองหน้าลูกน้องของตัวเองแล้วส่ายศีรษะเพราะคิดว่าคุณสุนั
“มันแน่นมากวิว เสียวใช่ไหม”หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะตามมาด้วยเสียงครางหวานเมื่อสะโพกของคุณานนท์ขยับจังหวะเร็วขึ้น มือหนึ่งช้อนใต้ข้อพับยกขึ้นสูงเพื่อให้ตนเองเข้าได้ลึกสุด อีกมือสอดใต้ร่างมาบีบขยี้หน้าอกของเธอยังไม่ปรานี จังหวะรักไม่รุนแรงแต่เต็มไปด้วยความสุขและความเสียวซ่าน ต่างฝ่ายต่างโหยหาความรู้สึกและอารมณ์แบบนี้มานานหลายเดือน“คุณนนท์...อื้อ....วิวเสียว”“เสียวก็ปล่อยออกมาเลยวิว”ยิ่งได้ยินเขาพูดแบบนี้วิรัลพัชรก็ยิ่งเสียวมากขึ้นฝ่ามือร้อนยังคงหน้าอกอิ่มริมฝีปากจูบไปบนไหล่มน ก่อนจะก้มลงจูบบนริมฝีปากบางที่กำลังหันไปหาเขาอย่างรู้งาน จูบเร่าร้อนหนักหน่วงจนหญิงสาวแทบจะขาดอากาศหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัวที่ ความเสียวซ่านมากยิ่งขึ้นชายหนุ่มผละมือออกจากหน้าอกแล้วลูบฝ่ามือไปตามหน้าท้องนูนเด่นก่อนจะใช้ปลายนิ้วกดเน้นไปบนเกสรสวาททำเอาหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว“อื้อ....อ่า คุณนนท์ขา อย่าทำแบบนั้น”“ไม่ชอบเหรอ ถ้างั้นผมหยุดน่ะ”“เปล่านะ วิวเสียวมากมันจะเสร็จ”หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะกลัวเขาจะหยุดอย่างที่พูด“ผมก็อยากให้วิวเสร็จเพราะตอนวิวเสร็จร่องวิวตอดแน่นมาก ลองก้มดูสิว่าตอนนี้ร่องของว
“วิวผมรู้แล้วว่าคุณยังไม่หลับ”“ก็คุณนนท์ยังคุยอยู่แบบนี้วิวจะหลับล่ะคะ”“เรายังคุยกันไม่จบเลยนะวิว”“แต่วิวคิดว่าวิวจบแล้วค่ะ”“วิวไม่ต้องการจริงเหรอ” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้กอดเธอจากทางด้านหลัง ฝ่ามือลูบไล้บนหน้าท้องของเธอเบาๆ“ลูกจ๋าขอพ่อมีความสุขกับแม่ได้ไหม” เขากระซิบข้างหูจนหญิงสาวรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว“คุณนนท์ใครเขาให้พูดกับลูกแบบนั้นกันคะ”“ผมต้องการคุณนะวิวมันนานแล้วที่เราไม่ได้นอนด้วยกันและผมนอนกับคุณเกือบทุกคืนแต่ก็ได้แค่กอดผมรู้สึกทรมานมากๆ”“คุณนนท์คะ วิวท้องอยู่นะ”“ผมปรึกษาเรื่องนี้กับคุณหมอแล้วนะ”ชายหนุ่มพูดขณะที่ฝ่ามือก็ลูบไปบนต้นขาขาวเนียนและสอดเข้าใต้ชุดนอนแบบกระโปรงไล้ฝ่ามือไปบนหน้าท้องที่โตขึ้นกว่าเดิม“คุณนนท์ไม่นะคะ”“อย่าห้ามเลยผมทรมานมากจริง ให้ผมนะวิว”เขากระซิบแหบพร่าแล้วฝ่ามือร้อนก็กอบกุมหน้าอกอิ่มที่มันขยายขนาดขึ้นกว่าเดิม“คุณนนท์....”เธอครางแผ่วเบาเมื่อสัมผัสจากฝ่ามือร้อยทำให้ร่างกายอารมณ์ปรารถนาของเธอถูกปลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“หน้าอกคุณใหญ่ขึ้นใช่ไหม”“มันก็เป็นอาการปกติของคนท้อง”“ดีจัง”เขาเพิ่มแรงบีบบนอกอิ่มปลายนิ้วสะกิดยอดถันปลุกเร้าอารมณ์ของหญิงสาวจน