LOGINสำหรับเภา ณศรินทร์คือคนดีมาก คิดดี ทำดี มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี ดูแลคนในบ้านแม้ว่าจะถูกรังเกียจก็ตาม จนบางครั้งเภาแอบสงสัยว่า ณศรินทร์ทนอยู่ที่นี่ทำไม ทั้งที่ไปจากบ้านหลังนี้ได้ทุกเมื่อ โดยไม่มีใครเหนี่ยวรั้ง หากเป็นหล่อน คงเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ไปใช้ชีวิตโดยไม่มีความเกลียดชังโอบล้อมรอบตัว คงมีความสุขมากกว่านี้แน่นอน
ณศรินทร์วางถาดไม้ลงบนโต๊ะรับแขก ยกถ้วยชาวางลงตรงหน้าปนัดดา พร้อมของว่าง ปนัดดาเจ้าของอาณาจักรไร่ชวนชม ไม่แม้แต่มองหน้าคนยกของมาให้ นางยกถ้วยชาร้อนขึ้นมาจิบ เมื่อวางลงบนจานรอง นางถึงได้มองหน้าณศรินทร์
“เรื่องห้องออย แกจัดการเสร็จหรือยัง” เป็นคำถามเดียวกับกรชวิลที่ถามณศรินทร์เมื่อเช้านี้ คนถูกถามหน้าเศร้า แต่ก็ฝืนความรู้สึก ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ
“เสร็จเรียบร้อยตามคำสั่งแล้วค่ะ เหลือที่พี่ยักษ์สั่งเพิ่ม ให้เอาดอกคาร์เนชั่นจัดใส่แจกันไปวางในห้องออยค่ะ เอยเอาของว่างให้คุณป้าเสร็จก็จะไปเอาดอกไม้ที่สวนค่ะ”
“แหม ยักษ์นี่รู้ใจออยเหลือเกิน” ปนัดดาพูดยิ้มๆ “อยากให้ลงเอยกันเร็วๆ จัง ฉันจะได้มีหลานสักที”
หัวใจณศรินทร์สั่นไหวคล้ายมีพายุความเจ็บปวดก่อตัว พัดพาความร้าวรานใจให้อยู่ในนั้น หาทางออกไม่ได้ จำต้องกล้ำกลืนความรู้สึกไว้ในหัวใจแสนช้ำสุดกำลัง เจ็บแค่ไหน เผยออกมาให้ใครรู้ ใครเห็นไม่ได้
“เอยขอตัวไปเอาดอกไม้ก่อนนะคะ” การเลี่ยงไปจากตรงนี้คือทางเดียว เพราะเกรงว่าจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
“จะไปก็ไปสิ ฉันก็ไม่อยากให้แกอยู่ตรงนี้นักหรอก เกะกะลูกตา” ณศรินทร์ใจเศร้าหนักขึ้นหลายเท่า “อ้อ...เย็นนี้ไม่ต้องเสนอหน้ามาร่วมโต๊ะอาหารนะ ฉันไม่อยากเสียบรรยากาศ นานๆ ออยจะกลับมาบ้าน ฉันอยากมีความสุข”
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ณศรินทร์ไม่ได้นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับเจ้าของบ้าน หล่อนถูกจำกัดพื้นที่ ไม่ให้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมใดใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานวันคล้ายวันเกิด ช่วงเทศกาลสำคัญ หรืองานวันรวมญาติ หล่อนเป็นคนนอกแม้อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน
“ค่ะคุณป้า” น้ำเสียงตอบแสนเบา ขยับตัวเดินออกไปจากห้องโถงใหญ่ หัวใจกลัดหนอง เศร้าโศกเหลือแสน พอพ้นประตูบ้านน้ำตาที่กลั้นไว้นาน ไหลรินผ่านแก้มหล่อนรีบปาดมันทิ้ง ราวกับกลัวว่าจะมีใครมาเห็น แล้วหล่อนจะตอบคำถามไม่ได้ว่า ร้องไห้ทำไม
บ้านหลังนี้รัก เอ็นดู ให้ความเมตตากรุณาอรัญญาหรือออย น้องสาวต่างบิดาของณศรินทร์มาก ประเคนทุกอย่างที่อยากได้โดยไม่ปริปากบ่น ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่มล้วนเป็นของแบรนด์เนม กระเป๋าราคาสามสี่แสนก็ซื้อให้ ของขวัญชิ้นใหญ่มอบให้ในวันเรียนจบพยาบาลคือ รถบีเอ็มดับบลิวรุ่นใหม่ราคาเกือบเจ็ดล้าน คนซื้อให้อรัญญาคือกรชวิล ไม่พอยังได้เงินหนึ่งล้านบาทจากปนัดดา อีกคนที่ให้คือกรชีวิน ลูกชายคนเล็กปนัดดา เขาซื้อกระเป๋าแบรนด์หรูให้หนึ่งชุด
ต่างกับณศรินทร์ลิบลับ หล่อนไม่เคยได้รับของกำนัลจากใครทั้งสิ้น ความรัก ความเอาใจใส่ดูแล ความเมตตาไม่เคยได้รับเช่นกัน บุญเท่าไหร่ที่ปนัดดาส่งเสียให้ร่ำเรียนหนังสือ และให้อาศัยอยู่ที่นี่ ด้วยเหตุผลเดียวคือ อรัญญาขอร้องไว้ ไม่เช่นนั้นหล่อนคงไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้
วันนี้อรัญญากลับมาไร่ชวนชมในรอบหกเดือน ห้องนอนของหล่อนถูกปรับเปลี่ยนใหม่หลายอย่าง เตียงนอน ที่นอน หมอน ผ้าปูที่นอน ทีวี แอร์ แม้กระทั่งผ้าม่านก็ถูกเปลี่ยน ณศรินทร์เป็นคนดูแลเรื่องเครื่องนอน ที่เปลี่ยนตามใจคนสั่ง ทำไปสะท้อนใจไปว่า ห้องนอนห้องนี้ต่างกับห้องนอนของตนราวฟ้าแลเหว
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ณศรินทร์อิจฉาอรัญญา ที่ได้ทุกอย่างมากกว่าตน หล่อนถือว่า เป็นการชดเชยความผิดของพเยาว์ มารดาตนที่ทำให้ครอบครัวน้องสาวร้าวฉาน จนถึงขั้นแตกแยก โดยไม่คำนึงถึงจิตใจตัวเองว่า เจ็บร้าวทรวงในมากแค่ไหน ในความเศร้า เหงาและทุกข์ กลับมีความหวังเล็กๆ เท่าเม็ดทรายว่า คนในบ้านหลังนี้จะหันมองตนบ้าง แค่เพียงเสี้ยวหนึ่งก็ยังดี
ก่อนไปเอาดอกคาร์เนชั่น ณศรินทร์ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งก่อน ที่นั่นคือ ต้นราชาวดีที่หล่อนปลูกไว้เมื่อห้าปีก่อน เป็นดอกไม้ที่หล่อนชอบมากที่สุด มันออกดอกให้ณศรินทร์ชื่นชมเสมอ แล้วทุกครั้งที่มันออกดอก หล่อนจะมาเก็บดอกไม้ไปไว้ในห้อง นอกจากดอกไม้มีรูปทรงสวย กลิ่นหอมยังโดดเด่น หอมมากและหอมนาน เป็นความหอมอันเย้ายวน นำไปวางไว้ตรงชั้นไม้ข้างที่นอน กลิ่นหอมจะคลุ้งไปทั่วห้อง สูดดมแล้วชื่นใจ
จุดที่ณศรินทร์ปลูกต้นราชาวดีที่ชื่นชอบ อยู่ด้านริมซ้ายมือสุดของสวนดอกไม้ ที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาตรงจุดนี้สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะถ่ายรูปกันกลางสวนที่มีจุดให้ถ่ายรูป ใกล้กันมีลำธารสายเล็ก ด้านหลังจะเป็นวิวภูเขา ลมพัดโชยเอื่อย หอบความเย็นของลมหนาวเข้าปะทะกาย
วันนี้ณศรินทร์ตั้งใจตัดดอกไม้ไปไว้ในห้อง แต่เมื่อเดินมาถึงต้นราชาวดี หล่อนยิ้มเมื่อเห็นมันออกดอกบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล ณศรินทร์ยืนสูดดมความหอมเข้าไปเต็มปอด มีความสุขใจอย่างบอกไม่ถูกกับการมายืนอยู่ตรงนี้ ชวนให้รู้สึกว่า ตนอยู่กับตัวเอง อยู่กับต้นไม้ ใบหญ้าที่ไม่มีพิษมีภัย ไม่ทำให้หล่อนเจ็บปวดรวดร้าวจิตใจ
ขณะณศรินทร์กำลังเก็บดอกไม้ บุรุษร่างสูงใหญ่คล้องกล้องถ่ายรูปเดินเข้ามาใกล้หล่อน ยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายภาพสาวสวยชุดเดรสกระโปรงยาวเลยเข่ามาเล็กน้อย ไว้หลายภาพ โดยที่ณศรินทร์ไม่รู้ตัว
“นางแบบคนนี้สวยจัง”
เสียงดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้ณศรินทร์หันมองต้นเสียง หล่อนคลี่ยิ้มกว้าง เมื่อรู้ว่า เจ้าของเสียงคือใคร
“พี่เอ็ม” หล่อนทักทายตามประสาคนคุ้นเคย ก้าวเดินไปหา “กลับมาเมื่อไหร่คะ”
“เมื่อเช้านี้ครับ” พงษ์พัฒนาตอบ “วันนี้เอยสวยมากเลย พี่แอบถ่ายไว้ตั้งหลายรูป”
เป็นคำชมที่เรียกความเขินให้คนฟังมาก เพราะน้อยครั้งหล่อนจะได้ยินประโยคนุ่มละมุนหัวใจ
Chapter 77ความหนักใจเรื่องพาเตชธรไปหาปนัดดายังคงมีอยู่ แม้ว่าวิรัชรับปากว่าจะช่วยพูดกับณศรินทร์ให้ แต่ไม่รับรองว่า สำเร็จหรือไม่ ก็ต้องลุ้นกันว่า วิรัชทำได้หรือไม่ได้ เรื่องเดินหน้าตามง้อณศรินทร์ กรชวิลยังคงทำอยู่ มีความหวังในทุกวันว่า หล่อนจะยอมยกโทษให้เขา และกลับมาสู่อ้อมกอดตนอีกครั้งสามวันที่ไม่ได้เจอหน้าณศรินทร์กับเตชธร กรชวิลรู้สึกเดียวคือ คิดถึงสองแม่ลูกมาก การคุยกับลูกชายผ่านวิดีโอคอล อาจทำให้ความคิดถึงเบาลง แต่ก็ไม่เหมือนได้คุยต่อหน้า ได้กอด ได้หอม และที่สำคัญ เขาคิดถึงใบหน้าหวานๆ ไร้รอยยิ้มของณศรินทร์ ถึงแม้ว่า หล่อนปั้นปึงใส่ตน แทบไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำไป ทว่ากรชวิลก็อยากเห็นหน้าณศรินทร์ทุกวัน แล้ววันนี้เขาจะได้เห็นหน้าหล่อนสมใจคนที่กรชวิลคิดถึงคนหนึ่ง ก็คิดถึงเขาไม่แพ้กัน คนนั้นคือ เตชธร ที่โทรศัพท์หาบิดาวันละไม่ต่ำกว่าหกครั้ง กรชวิลกดรับสายทุกครั้งอย่างไม่มีความรำคาญ หรือแสดงออกว่าไม่อยากรับสาย เขาดีใจด้วยซ้ำไปที่ลูกชายคิดถึงตน“ผมคิดถึงคุณพ่อมากๆ เลยฮะ คุณพ่อรีบกลับมาหาน้องเตนะคับ น้องเตอยากกอดคุณพ่อ อยากหอมแก้มคุณพ่อด้วยฮะ” เสียงอันแสนน่ารักบอกบิดา กรชวิลยิ้มกว้างกับคำร
Chapter 76 หนึ่งเดือนต่อมา บ้านชวนชมยังคงเงียบเหงาเช่นเดิม กรชวิลกับกรชีวันใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพมากกว่าที่นี่ ทั้งสองไม่ห่วงเรื่องธุรกิจทางนี้ เพราะอยู่ตัว และมีกิตติกับวิบูลย์ สองลูกน้องของกรชวิลคอยดูแล ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่ลูกชายจะไม่อยู่ดูแลแม่ มาเป็นครั้งคราว เนื่องจากสองหนุ่มโตมากพอมีชีวิตเป็นของตนเอง อีกทั้งด้วยนิสัยปนัดดา ที่ไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ หยิ่ง จองหอง ถือตนถือดีว่าตนเองถูก นางจึงอยู่ตามลำพังกับสาวใช้ นับแต่วันที่ปนัดดาได้ยินการสนทนาของเภาและอ้น ความคิดนางเริ่มเปลี่ยนไป ยอมรับกับตัวเองว่า ทิฐิมากเกินไป รู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ไม่ยอมรับความจริง สุดท้ายก็ต้องเจ็บปวดใจเดียวดาย ‘พระท่านถึงสอนเสมอไงว่า คนเราต้องปล่อยวาง อะไรที่ทำให้เราเป็นทุกข์ก็ให้ปล่อยไป แล้วเราจะมีความสุข’ ปนัดดานึกถึงคำพูดอ้น มันจริงตามนั้น หากคนเรารู้จักปล่อยวางและปลง ชีวิตก็จะคลายจากความทุกข์ ความเสียใจ พบแต่ความสุข ได้อุ้มชูหลานตามที่นางตั้งใจและใฝ่ฝัน ขั้นแรกเลยคือปนัดดาต้องทำให้ได้ เมื่อจิตใจอมทุกข์ ร้องไห้ตามลำพัง พานกินอะไรไม่ลง ลำ
Chapter 75 “ที่เอยยอมให้เขาเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเอยยังรักเขาอยู่ แต่เพราะต้องการให้เขารู้จักคำว่าเจ็บปวด จากคนที่ตัวเองรัก รู้ซึ้งถึงคำว่า ไม่มีค่าในสายตา แม้พยายามทำดีแค่ไหนก็ตาม” น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวมาก จนคนในห้องมองหน้ากัน รับรู้ได้ว่า งานนี้ไม่ง่าย “และตอนนั้นเอยเต็มใจเจ็บปวดเจ็บช้ำทั้งกายและใจ จากน้ำมือของเขา และการที่เขานำตัวมารับส้อมจนเจ็บตัว เขาก็เต็มใจ เอยไม่ได้ร้องตะโกนให้เขาช่วย เขาก็เหมือนเอยค่ะ เต็มใจยอมรับทุกสภาพ เอยจะแค่ขอบคุณเขาค่ะ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตเอย แค่นี้ค่ะ แค่นี้จริงๆ” ณศรินทร์พูดอีกก็ถูกอีก เถียงไม่ได้เลยสักคำ เรื่องนี้ไม่ใครสั่งหรือบงการณศรินทร์ได้ ทุกคนให้หล่อนเป็นฝ่ายตัดสินใจเองว่า จะยอมให้อภัยกรชวิล หรือเป็นเช่นนี้ตลอดไป ดูทรงแล้ว กรชวิลคงใช้ความพยายามหนักหนาสาหัสกว่านี้อีกหลายสิบเท่าแน่นอน ขณะในห้องรับแขกกำลังพูดคุยเรื่องกรชวิล ในห้องสองพ่อลูกนอนกอดกันบนเตียง เตชธรหอมแก้มบิดาหลายครั้ง มือลูบใบหน้าแล้วส่งยิ้มให้ “คุณพ่อเจ็บไหมฮะ” เตชธรถาม ลุกขึ้นนั่งถลกเสื้อดูแผลตรงท้องกรชวิล “มาฮะ เดี๋ยวเตเป่าให้” ค
Chapter 74“ฉันไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ ฉันพูดความจริง” นันทนาโต้กลับทันที “ตอนที่แกออกมาจากบ้านพี่ยักษ์ แกมีทั้งเงิน มีทั้งรถและมีคอนโด ทุกอย่างที่แกมี เอามาต่อยอดได้สบาย แต่แกก็ไม่ทำ กลับผลาญซะหมด สุดท้ายก็ต้องขายตัว ทำให้ตัวเองตกต่ำเอง ยังมาโทษคนอื่นอีก ถ้าแกคิดว่าฉันเป็นเพื่อนที่ไม่ดี ก็เลิกคบกันไปเลย ฉันก็เบื่อแกเหมือนกัน” ขณะสองเพื่อนรักกำลังแตกหักกัน สายตาสุวรรณีพลันเห็นบางคนกำลังเดินผ่านร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตนนั่งอยู่ หล่อนเพ็งมองจนแน่ใจว่าใช่ จึงเอ่ยบอกอรัญญา “ออย นั่นเอยกับพี่ยักษ์นี่ พี่ยักษ์จูงมือเด็กด้วยนะ ลูกชายเขาหรือเปล่า” ประโยคนี้เรียกความสนใจให้กับอรัญญาทันที หล่อนรีบมองไปยังจุดนั้น ภาพที่เห็นอรัญญาคิดว่า กรชวิลกับณศรินทร์สร้างครอบครัวร่วมกัน มีพยานรักเป็นเด็กชายหน้าตาน่ารัก คนที่หล่อนเกลียดชังมาตลอด เป็นความเกลียดชังฝังใจ ความอิจฉาริษยา ไม่พอใจพลุ่งพล่านจนแทบคุมไม่อยู่ ในขณะที่อรัญญาตกต่ำ ชีวิตย่ำแย่ ณศรินทร์มีความสุขกับกรชวิล ชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสามีตน ความรู้สึกอรัญญาเวลานี้ทับถมยิ่งนัก ที่คิดไว้ว่า ณศริ
Chapter 73 “คนนั้นเหมือนหมาค่ะ พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง ปล่อยเขาไปเถอะ เขารวย อยากซื้อก็ซื้อไป พอพ้นวันเกิดเต เอยจะเอาไปบริจาคที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าค่ะ หรือไม่ก็ส่งต่อขึ้นดอย ให้เด็กด้อยโอกาสได้เล่น เกะกะลูกตา” วราดรหน้าเสีย รูสึกผิดที่ตนชี้นำให้ณศรินทร์คิดกำจัดของเล่นราคาแพงให้พ้นบ้าน “กินกันต่อดีกว่าค่ะ แล้วก็เลิกพูดถึงเขาเสียที แค่เห็นหน้าก็กินแทบไม่ลง”เป็นการหยุดการสนทนาเรื่องกรชวิลไปในที สองหนุ่มไม่พูดคุยถึงกรชวิล มีเพียงการมองไปยังสองพ่อลูกที่นั่งทานอาหารเท่านั้น คงเหมือนกับกรชวิล ที่คอยมองณศรินทร์ตาละห้อยมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ศุภชัยได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวว่า ให้ตนไปรับบิดาที่สนามบิน เขาจึงต้องขอตัวไปทำภารกิจลูกที่ดี แต่ก็ฝากเงินไว้ให้ณศรินทร์พาเตชธรไปซื้อของเล่น เพราะเขาคงไม่มีเวลาพาไปซื้อ เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับไปเชียงราย เที่ยวบินตอนเช้าณศรินทร์เข้าใจเหตุผล หล่อนบอกศุภชัยด้วยว่า จะถ่ายรูปตอนซื้อเสร็จส่งไปให้ หลังจากกินสุกี้เสร็จ ศุภรชัยขอตัวไปรับบิดา เตชธรอยากทานไอศกรีมแบรนด์หนึ่ง กรชวิลจึงพาลูกชายไปกิน โดยที่เขาเป็นคนออกเงิน แต่ไม่เข้าไปนั่งในร้านด้วย ปล่อยให้ณ
Chapter 72“แกจะทำอะไรฉัน อย่านะ อย่า” ความกลัวแน่นจิตใจ “ฉันไปก็ได้ ฉันยอมไปแล้ว แกอย่าทำอะไรฉันเลยนะ”ยิ่งมองเห็นปลายแหลมคัตเตอร์ ความกลัวเพิ่มระดับหลายเท่า“ฉันว่า ฉันจะไม่ทำอะไรแก แต่แกดันมาตบหน้าฉัน คนอย่างแม่เลี้ยงพรพรรณ ไม่มีใครมาตบหน้าง่ายๆ โดยเฉพาะเมียน้อยผัว” น้ำเสียงพรพรรณน่ากลัวมาก “แกต้องโดนฉันสั่งสอน”โย่งกับโยกดตัวอรัญญาให้คุกเข่าลงบนพื้น พรพรรณเดินเข้ามาใกล้“โยจับหน้ามันไว้ให้อยู่นิ่งๆ” โยทำตาม เพราะแค่โย่งคนเดียวก็บังคับร่างอรัญญาได้“ไม่นะ ไม่” อรัญญาพูดเสียงสั่น“หาผ้ายัดปากมันด้วย” โยเอาผ้าเช็ดหน้าตน อุดปากอรัญญา ไม่ให้มีเสียงอันน่ารำคาญลอดผ่าน“อือๆ อือ อ่าย” เสียงอรัญญาก้องในลำคอ มองพรพรรณที่กำลังใช้ปลายอาวุธทำบางอย่าง หัวใจสาวเต้นแรงมาก ยิ่งกว่าความกลัว นัยน์ตาเบิกโพรง “อ่าย”เสียงที่ไม่อาจลอดออกมา แต่รับรู้ได้ว่า เจ้าของเสียงกลัว ตกใจมากแค่ไหน ม่านตาขยายกว้าง ก่อนที่ความเจ็บปวดตามมา จากปลายคัตเตอร์ที่กรีดลงบนแก้มอรัญญา เลือดไหลออกมาจากบาดแผลทันที ไหลอาบแก้มจนถึงลำคอ“อี๊ดดดดดด” อรัญญายังคงส่งเสียงร้อง ดีดดิ้นตัวไปมา สะบัดหน้าร่วมด้วย ความที่หล่อนไม่อยู่นิ่ง ใบ







