LOGINความทรงจำอันเลวร้ายในอดีต เธอจำฝังใจ และเมื่อเขากลับเข้ามาในชีวิต หญิงสาวที่เคยอ่อนแอ ยอมจำนนทุกอย่าง ลุกขึ้นสู้ชายใจร้าย ใจดำ ให้รู้ว่า เธอไม่ได้อ่อนแอ ไม่ได้เป็นเบี้ยล่างเขาอีกต่อไป เขาต่างหาก ที่ต้องสิโรราบ หมอบกราบแทบเท้าตน ................. "ได้โปรด...อย่าทำเอย เอยกลัวแล้วค่ะคุณยักษ์" ณศรินทร์ ยกมือไหว้ขอความเมตตา กระเถิบตัวหนีร่างสูงใหญ่ที่กำลังถอดเสื้อผ้า นัยน์ตาเขาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย พร้อมฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ "เธอร่านไม่ใช่เหรอ ฉันคงทำให้เธอไม่อิ่ม เธอถึงได้เที่ยวร่านไปแบให้ใครต่อใคร วันนี้ฉันจะทำให้เธอกระอักอิ่มไปหลายวัน" ............... "ต่อให้คุณกราบเท้าฉัน ขอร้องอ้อนวอนฉัน ทำดีกับฉันต่างๆ นานา เพื่อให้ฉันอภัยคุณ บอกไว้นะว่า ต่อให้คุณกราบเท้าฉันจนมือทะลุลงไปใต้ภิภพ ทำดีกับฉันจนตัวตาย ฉันก็ไม่มีวันยกโทษ คุณต้องได้รับโทษที่ทำไว้กับฉัน ฉันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหมาข้างถนน ที่ไม่มีใครต้องการ" ณศรินทร์กล่าวไว้
View More
หนึ่งปีแล้ว...
หนึ่งปีที่เขาทำตัวเหมือนหมา เป็นสุนัขรับใช้ เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ คอยเฝ้า คอยดูแลหล่อนกับลูกอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีสิทธิ์พูดคุย หรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเหมือนอดีต ได้แต่มองดูหล่อนมีความรักครั้งใหม่ด้วยใจชอกช้ำ
หัวใจกรชวิลไม่ต่างกับต้นไม้ ที่ถูกมือหล่อนปลิดใบไม้ออกจากลำต้น จนตอนนี้ไร้ใบไม้สักใบ กำลังกลายเป็นต้นไม้แห้งตายในไม่ช้า
ตอนนี้กรชวิลยังไม่ตาย เขามีลมหายใจ และกำลังเผชิญอยู่กับความเจ็บปวดรวดร้าว อย่างแสนสาหัส ความรู้สึกนี้น้อยกว่าที่หล่อนได้รับจากเขา คล้ายกับว่า ชายหนุ่มกรรมตามสนอง เคยทำอะไรไว้กับณศรินทร์ เวลานี้ย้อนกลับมาหาตัว ชนิดที่ว่า เอาคืนกลับสิบเท่า
หากอดีตกรชวิลไม่ใจร้ายใจดำ ไม่ทำร้ายจิตใจหล่อน และยอมรับความรู้สึกตัวเอง เขาคงไม่ทรมานใจและกายเช่นนี้
แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้องนอน บอกให้รู้ว่า ชีวิตประจำวันเริ่มต้นขึ้นแล้ว หลายคนออกจากบ้านไปทำกิจวัตรของตัวเอง แต่สำหรับณศรินทร์ หล่อนทำเช่นคนอื่นไม่ได้ เพราะตอนนี้หน้าที่ลับๆ ของหล่อนยังไม่เสร็จสิ้น หญิงสาวปล่อยตัว ปล่อยใจให้ชายใจร้ายที่ไม่มีวันได้ความรู้สึกดีดีกลับมาเชยชม
กรชวิลกลับมาถึงบ้านเกือบเช้ามืด มาถึงเขาตรงดิ่งมายังห้องนอนณศรินทร์ ไม่ว่าเวลาไหน สถานที่ใด หากร่างกายเขาพล่านไปด้วยแรงปรารถนา และต้องการปลดปล่อย หล่อนก็ต้องพร้อมรับพายุอารมณ์อย่างไม่เกี่ยงงอน
อารมณ์เขาในแต่ละครั้งต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาวะอารมณ์เขา ณ เวลานั้น แต่ที่หนักและรุนแรงสุดคือ ยามเขาโกรธใครมา ร่างกายณศรินทร์คือที่ระบายอารมณ์
ภารกิจสวาทจบลงในเวลาหกนาฬิกานาที กรชวิลเอนตัวลงนอนข้างณศรินทร์ที่หอบหายใจเหนื่อยอ่อน ต่างกับเขาที่ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางปกติ แม้เพิ่งผ่านกิจกรรมใช้แรงมาหมาดๆ ดึงเครื่องป้องกันออกจากกายชาย โยนทิ้งลงไปในถังขยะ
“ห้องของออยเสร็จหรือยัง” เขาถามขณะลุกขึ้นนั่งริมเตียง หยิบกางเกงยีนส์และบ็อกเซอร์บนพื้นขึ้นมาสวมใส่
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” หล่อนตอบเสียงเบา
“วันนี้ตอนเที่ยงเอาดอกคาร์เนชั่นไปไว้ที่ห้องออยด้วยล่ะ อ้อ...เอาแต่สีชมพูนะ ออยชอบสีนี้ที่สุด” ช่างรู้ใจกันเหลือเกิน ฟังแล้วน้ำตาณศรินทร์ตกใน เป็นความเศร้าเสียใจที่หล่อนเปิดเผยให้ชายใจร้ายใจดำรู้ไม่ได้ “ทำไมไม่ตอบรับ ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งหรือไง”
เสียงตวาดดังลั่น ณศรินทร์ช้อนตามองผู้พูด ที่ชักสีหน้าไม่พอใจ
“ค่ะ” น้ำเสียงแผ่วเบาตอบกลับ “เอยจะทำตามคำสั่งพี่ยักษ์ค่ะ”
กรชวิลพอใจกับคำตอบ เขาลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันทีที่สวมใส่เสื้อผ้าเสร็จ ณศรินทร์มองร่างสูงใหญ่ที่ปักใจรักเขาแน่นมาก ถึงได้ยอมเจ็บช้ำระกำทรวง เป็นนางบำเรอมอบความสุขให้เขามานานร่วมหนึ่งปีครึ่ง โดยไม่สนใจว่า ตัวเองร้าวรานใจมากแค่ไหน
รักคนอื่นได้ แต่ลืมรักตัวเอง...
อาณาจักรไร่ชวนชมไม่ใช่น้อยๆ มีพื้นที่กว่าหนึ่งพันไร่ พื้นที่แบ่งออกเป็นสามส่วน ไร่ดอกไม้นานาพันธ์ ที่มีดอกไม้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ไร่กาแฟขี้ชะมด รายได้หลักของเจ้าของสถานที่ และในส่วนรีสอร์ทที่สร้างบนเนินเขาลูกเตี้ยมีห้องพักราวหกสิบห้อง มีทั้งแบบบ้านเป็นหลัง และในตัวอาคาร ที่ทุกห้องมองเห็นวิวในไร่ รวมถึงโดยรอบได้แบบถนัดตา
ฤดูเหมันต์มาเยือนครั้งใด ไร่ชวนชมมีนักท่องเที่ยวหนาตากว่าทุกฤดู ที่พักถูกจองเต็มจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ยังมีกองถ่ายโฆษณาและละครจองคิวมาถ่ายทำหลายกอง ในส่วนสวนดอกไม้ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะช่วงฤดูนี้ ดอกไม้บานสะพรั่ง แข่งกันเบ่งบาน เหมาะกับการถ่ายรูปและชื่นชมธรรมชาติอันงดงาม
ความที่วันนี้นักท่องเที่ยวมากกว่าทุกวัน เพราะเป็นวันเสาร์ พนักงานและคนงานในไร่ต่างพากันยุ่ง ณศรินทร์ที่ต้องจัดดอกไม้ใส่แจกันไปวางไว้ในห้องนอนอรัญญา น้องสาวต่างบิดา จึงไปเอาดอกไม้ดอกคาร์เนชั่นสีชมพูที่สั่งให้คนงานตัดเตรียมรอไว้เอง
แต่ก่อนไปเอาดอกไม้ ณศรินทร์จัดเตรียมของว่างให้เจ้าของบ้าน ของว่างยามสายวันนี้คือ แซนวิชทูน่ากับชาร้อนกลิ่นมะลิ ขณะกำลังวางทั้งหมดลงบนถาด อ้นกับเภาสองสาวใช้เดินเข้ามาในครัว ในมือแต่ละคนถือถุงอาหารสดและแห้งมาเต็มมือ ทั้งสองวางของลงบนโต๊ะจัดเตรียมอาหาร ก่อนช่วยกันลำเลียงเข้าตู้เย็น
“คุณป้าจะทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าอ้น ซื้อของมาเยอะเชียว” ณศรินทร์ถามอ้น
“ไม่รู้” อ้นตอบเสียงห้วน ไม่มองหน้าคนถาม คล้ายไม่อยากเสวนาด้วย
“ที่อ้นตอบว่าไม่รู้ เพราะคนที่สั่งให้ซื้อของพวกนี้มาคือคุณยักษ์ค่ะ คุณยักษ์จะทำอาหารต้อนรับคุณออยค่ะ” คนให้คำตอบแบบชัดเจนคือเภา ที่ดูเป็นมิตรกับณศรินทร์ที่สุด คนถามยิ้มอ่อน ซ่อนความเจ็บปวดไว้ในใจเต็มกำลัง
“ฉันดีใจมากๆ เลยที่คุณออยกลับบ้าน ไม่ได้กลับมาตั้งหลายเดือน คิดถึงที่สุดด้วย” อ้นจงใจพูดให้ณศรินทร์ได้ยิน “คนสำคัญของบ้านก็งี้แหละ มีแต่คนอยากให้กลับมา ต่างกับอีกคนที่อยากให้ออกไป แต่ก็ไม่ออกไปสักที”
เภามองหน้าคนพูด ตีแขนเพื่อนเบาๆ เชิงปราม เสมองณศรินทร์ที่หน้าเศร้าลงกว่าเมื่อครู่ ณศรินทร์ไม่พูดคำใด แม้วาจาอ้นเสียดทานความรู้สึกตัวเองมาก หล่อนอดกลั้นน้ำตาไว้สุดฤทธิ์ เดินถือถาดของว่างออกจากห้องครัว
“อ้น แกนี่จะร้ายเกินไปแล้วนะ พูดอย่างนี้ต่อหน้าคุณเอยได้ไง รู้ไหมว่าเธอเสียใจน่ะ” เภาตำหนิเพื่อน “คนเราน่ะ ไม่ต้องเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่ออีกคนมากก็ได้ แค่คนในบ้านเย็นชากับคุณเอยก็พอแล้ว อย่าให้ลามมาถึงคนรับใช้อย่างเราเลย ฉันสงสารคุณเอย”
“ฉันพูดความจริงนี่ พวกคุณๆ ไม่ชอบคุณเอย เพราะเป็นลูกเมียน้อย ที่สร้างความร้าวฉานให้ครอบครัวคุณออย บุญหัวเท่าไหร่แล้วที่คุณท่านเลี้ยงดู ส่งเสียให้เรียน ให้อยู่ร่วมบ้านด้วย เป็นฉันล่ะก็ ไม่สนใจหรอก จะส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าด้วยซ้ำไป” อ้นเหมือนนายว่าขี้ข้าพลอย “เลิกพูดถึงคุณเอยดีกว่า ไม่อยากอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ช่วยกันเตรียมของให้คุณยักษ์เถอะ คุณยักษ์มาจะได้ช่วยกันทำกับข้าวรับคุณออยกลับบ้าน”
อ้นให้ความสนใจของสดที่ซื้อมา มากกว่าคนที่ตนเอ่ยถึง เภาถอนหายใจเบาๆ ไม่เข้าใจว่า เหตุใดเจ้านายทั้งสามคนถึงแยกแยะไม่ได้ว่า ณศรินทร์ไม่มีความผิดสักนิดเดียว ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของผู้ใหญ่ ที่เคราะห์กรรมมาตกที่คนเป็นลูก
Chapter 75 “ที่เอยยอมให้เขาเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเอยยังรักเขาอยู่ แต่เพราะต้องการให้เขารู้จักคำว่าเจ็บปวด จากคนที่ตัวเองรัก รู้ซึ้งถึงคำว่า ไม่มีค่าในสายตา แม้พยายามทำดีแค่ไหนก็ตาม” น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวมาก จนคนในห้องมองหน้ากัน รับรู้ได้ว่า งานนี้ไม่ง่าย “และตอนนั้นเอยเต็มใจเจ็บปวดเจ็บช้ำทั้งกายและใจ จากน้ำมือของเขา และการที่เขานำตัวมารับส้อมจนเจ็บตัว เขาก็เต็มใจ เอยไม่ได้ร้องตะโกนให้เขาช่วย เขาก็เหมือนเอยค่ะ เต็มใจยอมรับทุกสภาพ เอยจะแค่ขอบคุณเขาค่ะ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตเอย แค่นี้ค่ะ แค่นี้จริงๆ” ณศรินทร์พูดอีกก็ถูกอีก เถียงไม่ได้เลยสักคำ เรื่องนี้ไม่ใครสั่งหรือบงการณศรินทร์ได้ ทุกคนให้หล่อนเป็นฝ่ายตัดสินใจเองว่า จะยอมให้อภัยกรชวิล หรือเป็นเช่นนี้ตลอดไป ดูทรงแล้ว กรชวิลคงใช้ความพยายามหนักหนาสาหัสกว่านี้อีกหลายสิบเท่าแน่นอน ขณะในห้องรับแขกกำลังพูดคุยเรื่องกรชวิล ในห้องสองพ่อลูกนอนกอดกันบนเตียง เตชธรหอมแก้มบิดาหลายครั้ง มือลูบใบหน้าแล้วส่งยิ้มให้ “คุณพ่อเจ็บไหมฮะ” เตชธรถาม ลุกขึ้นนั่งถลกเสื้อดูแผลตรงท้องกรชวิล “มาฮะ เดี๋ยวเตเป่าให้” ค
Chapter 74“ฉันไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ ฉันพูดความจริง” นันทนาโต้กลับทันที “ตอนที่แกออกมาจากบ้านพี่ยักษ์ แกมีทั้งเงิน มีทั้งรถและมีคอนโด ทุกอย่างที่แกมี เอามาต่อยอดได้สบาย แต่แกก็ไม่ทำ กลับผลาญซะหมด สุดท้ายก็ต้องขายตัว ทำให้ตัวเองตกต่ำเอง ยังมาโทษคนอื่นอีก ถ้าแกคิดว่าฉันเป็นเพื่อนที่ไม่ดี ก็เลิกคบกันไปเลย ฉันก็เบื่อแกเหมือนกัน” ขณะสองเพื่อนรักกำลังแตกหักกัน สายตาสุวรรณีพลันเห็นบางคนกำลังเดินผ่านร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตนนั่งอยู่ หล่อนเพ็งมองจนแน่ใจว่าใช่ จึงเอ่ยบอกอรัญญา “ออย นั่นเอยกับพี่ยักษ์นี่ พี่ยักษ์จูงมือเด็กด้วยนะ ลูกชายเขาหรือเปล่า” ประโยคนี้เรียกความสนใจให้กับอรัญญาทันที หล่อนรีบมองไปยังจุดนั้น ภาพที่เห็นอรัญญาคิดว่า กรชวิลกับณศรินทร์สร้างครอบครัวร่วมกัน มีพยานรักเป็นเด็กชายหน้าตาน่ารัก คนที่หล่อนเกลียดชังมาตลอด เป็นความเกลียดชังฝังใจ ความอิจฉาริษยา ไม่พอใจพลุ่งพล่านจนแทบคุมไม่อยู่ ในขณะที่อรัญญาตกต่ำ ชีวิตย่ำแย่ ณศรินทร์มีความสุขกับกรชวิล ชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสามีตน ความรู้สึกอรัญญาเวลานี้ทับถมยิ่งนัก ที่คิดไว้ว่า ณศริ
Chapter 73 “คนนั้นเหมือนหมาค่ะ พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง ปล่อยเขาไปเถอะ เขารวย อยากซื้อก็ซื้อไป พอพ้นวันเกิดเต เอยจะเอาไปบริจาคที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าค่ะ หรือไม่ก็ส่งต่อขึ้นดอย ให้เด็กด้อยโอกาสได้เล่น เกะกะลูกตา” วราดรหน้าเสีย รูสึกผิดที่ตนชี้นำให้ณศรินทร์คิดกำจัดของเล่นราคาแพงให้พ้นบ้าน “กินกันต่อดีกว่าค่ะ แล้วก็เลิกพูดถึงเขาเสียที แค่เห็นหน้าก็กินแทบไม่ลง”เป็นการหยุดการสนทนาเรื่องกรชวิลไปในที สองหนุ่มไม่พูดคุยถึงกรชวิล มีเพียงการมองไปยังสองพ่อลูกที่นั่งทานอาหารเท่านั้น คงเหมือนกับกรชวิล ที่คอยมองณศรินทร์ตาละห้อยมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ศุภชัยได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวว่า ให้ตนไปรับบิดาที่สนามบิน เขาจึงต้องขอตัวไปทำภารกิจลูกที่ดี แต่ก็ฝากเงินไว้ให้ณศรินทร์พาเตชธรไปซื้อของเล่น เพราะเขาคงไม่มีเวลาพาไปซื้อ เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับไปเชียงราย เที่ยวบินตอนเช้าณศรินทร์เข้าใจเหตุผล หล่อนบอกศุภชัยด้วยว่า จะถ่ายรูปตอนซื้อเสร็จส่งไปให้ หลังจากกินสุกี้เสร็จ ศุภรชัยขอตัวไปรับบิดา เตชธรอยากทานไอศกรีมแบรนด์หนึ่ง กรชวิลจึงพาลูกชายไปกิน โดยที่เขาเป็นคนออกเงิน แต่ไม่เข้าไปนั่งในร้านด้วย ปล่อยให้ณ
Chapter 72“แกจะทำอะไรฉัน อย่านะ อย่า” ความกลัวแน่นจิตใจ “ฉันไปก็ได้ ฉันยอมไปแล้ว แกอย่าทำอะไรฉันเลยนะ”ยิ่งมองเห็นปลายแหลมคัตเตอร์ ความกลัวเพิ่มระดับหลายเท่า“ฉันว่า ฉันจะไม่ทำอะไรแก แต่แกดันมาตบหน้าฉัน คนอย่างแม่เลี้ยงพรพรรณ ไม่มีใครมาตบหน้าง่ายๆ โดยเฉพาะเมียน้อยผัว” น้ำเสียงพรพรรณน่ากลัวมาก “แกต้องโดนฉันสั่งสอน”โย่งกับโยกดตัวอรัญญาให้คุกเข่าลงบนพื้น พรพรรณเดินเข้ามาใกล้“โยจับหน้ามันไว้ให้อยู่นิ่งๆ” โยทำตาม เพราะแค่โย่งคนเดียวก็บังคับร่างอรัญญาได้“ไม่นะ ไม่” อรัญญาพูดเสียงสั่น“หาผ้ายัดปากมันด้วย” โยเอาผ้าเช็ดหน้าตน อุดปากอรัญญา ไม่ให้มีเสียงอันน่ารำคาญลอดผ่าน“อือๆ อือ อ่าย” เสียงอรัญญาก้องในลำคอ มองพรพรรณที่กำลังใช้ปลายอาวุธทำบางอย่าง หัวใจสาวเต้นแรงมาก ยิ่งกว่าความกลัว นัยน์ตาเบิกโพรง “อ่าย”เสียงที่ไม่อาจลอดออกมา แต่รับรู้ได้ว่า เจ้าของเสียงกลัว ตกใจมากแค่ไหน ม่านตาขยายกว้าง ก่อนที่ความเจ็บปวดตามมา จากปลายคัตเตอร์ที่กรีดลงบนแก้มอรัญญา เลือดไหลออกมาจากบาดแผลทันที ไหลอาบแก้มจนถึงลำคอ“อี๊ดดดดดด” อรัญญายังคงส่งเสียงร้อง ดีดดิ้นตัวไปมา สะบัดหน้าร่วมด้วย ความที่หล่อนไม่อยู่นิ่ง ใบ