อิธานกำลังขะมักเขม้นกับการอ่านหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยไม่ได้ชอบวิชานี้นัก แต่พรุ่งนี้มีเรียน หนุ่มสิบเจ็ดจำต้องอ่านผ่าน ๆ เผื่ออาจารย์จะถาม
ในโปรแกรมแช็ตบนคอมพิวเตอร์ เพื่อนทักมาชวนไปดูเด็กชมรมนาฏศิลป์ซ้อมรำ นัยว่ามีเด็กคนหนึ่งที่เพื่อนแอบเล็งอยู่ หากมีคนหล่อ ๆ อย่างเขาไปด้วย สาว ๆ ในชมรมจะได้ไม่ไล่ตะเพิดออกมา
อิธานตั้งใจจะชวนสนานไปด้วย อาจเพราะมีน้องสาวสนานจึงเข้ากับผู้หญิงได้ดี เป็นมิตรกับทุกคน จนบางครั้งเขาก็คิดว่าเพื่อนกึ่งคนงานสนิทบ้าหรือเปล่า ทำไมชอบยิ้มและทำดีกับทุกคน
นึกถึงสนานแล้วคิดขึ้นได้ ยายพลวงให้เพื่อนเอาองุ่นจากในสวนมาแช่ไว้ในตู้เย็นถุงใหญ่ มื้อเย็นคุณย่าอิสรีกินไปนิดเดียว เกล้ากมลก็กินลูกสองลูก อ่านหนังสือใช้พื้นที่สมองเยอะเขาจึงหิว เลยออกจากห้องตัวเองลงครัวหวังไปเปิดตู้เย็น
ขณะกำลังจะแง้มประตู ตาก็เห็นร่างหนึ่งผ่านห้องตนไป ทีแรกคิดว่าผี แต่พอปรับสายตาให้ค่อยชินกับความมืดจึงได้เห็นว่าเป็นเกล้ากมล เธอทำลับ ๆ ล่อ ๆ หน้าประตูบ้าน
ร่างสูงของหนุ่มสิบเจ็ดค่อยย่องตามไป จนเห็นเธอนั่งลงข้างพุ่มไม้ ยื่นมือไปควานหาอะไรสักอย่าง ก่อนผงะล้มก้นจ้ำเบ้า
“โอ๊ย!”
มือเกล้ากมลไปโดนอะไรสักอย่างที่ลื่น ๆ เย็น ๆ หูได้ยินเสียงขู่ฟ่อ หลังมือเจ็บแปลบ ทำให้ชักมือออกมาตกใจจนล้ม มีร่างสัตว์ยาว ๆ ตัวเป็นมันเลื่อมเลื้อยออกมาจากพุ่มไม้
“งู!” สาวน้อยสั่นไปทั้งตัว ยกหลังมือตนดู ปรากฏรอยเขี้ยวของอสรพิษร้าย
“เป็นอะไร” อิธานออกจากจากที่ซุ่ม เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ไม่ปรกติ
“งู...เกล้าโดนงูกัด”
ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกลัวอะไรมากกว่ากัน ระหว่างงูกับโดนจับได้ว่าขโมยเงิน คนมากวัยกว่าจับหลังมือเล็กดู เมื่อเห็นรอยเขี้ยวปากก็พึมพำ
“ต้องไปหาหมอ แล้วเธอมาทำอะไรดึก ๆ แบบนี้เนี่ย”
“เกล้า...เกล้า”
เด็กหญิงรู้สึกติดอ่างกะทันหัน ลมหายใจติด ๆ ขัด ๆ อิธานกระชากเสื้อนอนตนผูกไว้ที่แขนเธอ เพื่อยับยั้งไม่ให้พิษงูแล่นเข้าสู่หัวใจเร็วนัก
“เกล้าขอโทษ...เกล้าเป็นเด็กไม่ดี”
น้ำในตาไหลเผาะ เกล้ากมลคิดว่าตนเองกำลังจะตาย งูตัวนั้นคือการลงโทษที่บังอาจเป็นเด็กขี้ขโมย บังอาจหวังลิ้มลองในสิ่งที่ไม่สมควร
“ตั้งสติไว้ รออยู่นี่”
อิธานพาเธอมานั่งหน้าบันได เขาในสภาพเปลือยท่อนบนเข้าไปในตัวบ้าน สักครู่ คุณย่าอิสรีก็ออกมา และหน้าบ้านมีแสงไฟฉายของตาไสว
“เร็ว! รีบพาเกล้าไปโรงพยาบาล” คุณย่าอิสรีสั่งด้วยใบหน้าซีดเผือก
“ย่าไม่ต้องไปหรอกครับ เดี๋ยวผมไปดูเกล้าเอง”
หลานปรามเมื่อเห็นท่านจะขึ้นเอสยูวีคันโต เป็นครั้งแรกที่อิธานเรียกชื่อเล่นของเกล้ากมล
“หนานฝากดูย่าด้วย” เขาบอกเพื่อนที่มากับพ่อ
“อาการเกล้าเป็นยังไงแล้วจะโทรมาบอก”
ร่างสูงอุ้มสาวน้อยขึ้นประตูหลัง แล้วนั่งข้างเพื่อเป็นเพื่อนไม่ให้หลับ เพราะไม่รู้ว่างูที่กัดเป็นงูอะไร มีหลายชนิดที่มีพิษทำให้ง่วงซึม ต้องกันเอาไว้ก่อน หนุ่มน้อยนึกขอบคุณที่ตัวเองตั้งใจเรียนในวิชาชีววิทยา จึงจำที่อาจารย์สอนเรื่องนี้ได้
เกล้ากมลน้ำตาไหลไป จับแขนเขาแน่น อิธานรู้สึกถึงมือที่สั่นและเย็นจัด
“เกล้าขอโทษ เกล้าจะไม่ขโมยเงินอีกแล้วค่ะ จะไม่อยากกินขนมเค้กแล้วด้วย” ปากคนนั่งข้างก็พร่ำสารภาพ
“เธอขโมยเงินเหรอ”
เขาหรี่ตา นี่สินะพิรุธที่เขาจับได้ ความจริงที่เธอแอบซ่อนไว้
“ค่ะ”
เกล้ากมลพยักหน้ายอมรับหงึก ๆ สารภาพทุกอย่าง ด้วยคิดว่าเป็นนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต สารภาพบาปเสีย เธอจะได้ไม่ตกนรก
“ขโมยเงินใคร”
รถแล่นไปตามเส้นทางหลักของไร่ ตาไสวขับอย่างตั้งใจหูหนึ่งก็เงี่ยฟัง ชายชราแปลกใจอยู่เหมือนกันที่เด็กอายุเท่า ๆ กับลูกสาว จู่ ๆ ก็ถูกงูกัดกลางดึก
“ฮึก...” เกล้ากมลเริ่มเล่าเรื่องพลางสะอื้น
“เกล้าอยากกินขนมเค้กในโรงเรียนคุณอิธ แต่เก็บค่าขนมไม่ได้ วันนี้มีเงินวางอยู่ในครัวยี่สิบบาทของใครก็ไม่รู้ เกล้าเลยขโมยเงินเอามาซื้อขนมเค้ก”
เสียงเล็กขาดหายไปบางช่วงบ้างตอน สองหนุ่มต่างวัยพอจะปะติดปะต่อเหตุการณ์ได้ แต่กระนั้นก็อยากให้เจ้าตัวสารภาพเองดีกว่า
“แต่เกล้าไม่ได้กินนะ แค่ซื้อมา เกล้ากลัวคนอื่นรู้เรื่อง เลยเอามาทิ้งในพุ่มไม้ กะจะแอบเอาไปทิ้งไม่ให้มีคนเห็น แต่โดนงูกัดเสียก่อน”
น้ำตาเด็กเจ็บขวบเปียกเต็มหน้า ถ้าหมอรักษาไม่ได้เธออาจจะต้องตาย หรือถ้าไม่เช่นนั้นคุณย่าอิสรีต้องให้ยายเกดมารับเธอกลับแน่ ...โทษฐานเป็นเด็กขี้ขโมย
“เกล้ากำลังจะตายแล้วใช่ไหมคะ เหมือนที่สวรรค์ลงโทษคนร้ายในละคร”
ตาไสวกับอิธานถึงกับยิ้มขำในความช่างจินตนาการไปไกลของสาวน้อย
“ยัยเด็กบ้า! เธอไม่เป็นอะไรหรอก”
“แต่เกล้าโดนงูกัด” เธอค้านทั้งยังสะอึกสะอื้น
“เดี๋ยวหมอก็รักษาให้เองแหละ ทีนี้อยากกินขนมอะไรให้บอกคุณย่าล่ะ เดี๋ยวท่านก็หาให้ หรือจะให้ฉันซื้อเค้กนั่นให้เธอกินก็ได้ เอาเยอะ ๆ เลย เพราะฉะนั้นอย่าใจเสาะ งูเขียวกัดแค่นี้เอง หยุดร้องไห้ได้แล้ว”
อิธานไม่เคยปลอบผู้หญิง แต่เห็นสนานปลอบเวลาน้องสาวร้องไห้ด้วยการลูบศีรษะ ตอนนั้นไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพื่อนทำไปทำไม แต่ตอนนี้ขอลักวิธีนี้มาใช้บ้าง
มือใหญ่สีคร้ามลูบลงไปบนผมดำสนิท ปรากฏว่านุ่มลื่นเหมือนเส้นไหม
เกล้ากมลและอิธานได้ลูกสาว เด็กหญิงกาญน์เกล้า หรือน้องเอิร์ธ เป็นหนูน้อยลูกเสี้ยวที่สดใส เธอได้จมูกโด่งมาจากผู้เป็นพ่อ และตาโตใสแจ๋วมาจากผู้เป็นแม่ กินรีซื้อทองรับขวัญหลานหลายสิบบาท นางญาติดีกับอิธานหลังจากรู้ว่าให้เงินสิบล้านเป็นสินสอด“ขอโทษที่ช้าไปหน่อยครับคุณแม่”เงินทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นหน่อย แต่ก็ฝากคืนในบัญชีส่วนตัวของเกล้ากมล ผู้เป็นแม่แค่กลัวอิธานจะไม่รัก ทิ้งขว้างลูกสาวเหมือนครั้งหนึ่งที่นางเคยเจอ เมื่อได้เห็นความจริงใจของเขาเป็นเงินนางก็เบาใจลงบ้างอิธานไม่ให้เกล้ากมลทำงานเลย เขาให้เธอเลี้ยงลูกอย่างเดียว แล้วตั้งวรดาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านขายของฝาก แต่กระนั้นหากมีเวลาว่าง เกล้ากมลก็หอบหนูน้อยไปเยี่ยมทุกคนที่ร้านเสมอ ชนันธรกับกรวีคลอดลูกชายที่อเมริกาก่อนลูกสาวเธอไม่กี่สัปดาห์ และพูดเล่น ๆ ว่าอยากให้ลูก ๆ ดองกัน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนหวงลูกสาวอย่างอิธานคุณพ่อหลงหนูน้อยขนาดหนัก ยอมลงทุนโกนหนวดให้เกลี้ยงเกลาทุกวัน หลังจากเอาหน้าไปถูแล้วแก้มลูกสาวเป็นปื้นแดงเพราะรอยหนวดกาญจน์เกล้าก็ติดพ่อ ตอนเช้าส่งเสียงปลุก ให้พ่อป้อนอาหารเช้า โบกมือหย็อย ๆ ส่งจูบให้อิธานตอนไปทำงาน เย็นก็ต้
“คุณอิธออกไปเกล้าอึดอัด”ถัดจากให้ดอกไม้ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเขาก็มานอนรัดเธอเป็นงูเหลือมอยู่บนเตียง“เตียงออกจะกว้าง”อ้อมแขนมีแต่จะยิ่งแน่น หญิงสาวกำลังคิดหาวิธีไล่เขาออกไป แต่ก็ยังคิดไม่ออก“ท้องเกล้าเริ่มใหญ่ ตัวคุณก็โต นอนเบียดกันบนเตียงยิ่งอึดอัด มันไม่ดีต่อลูกนะคะ เดี๋ยวแกไม่โต”เกล้ากมลเอาคนในท้องมาอ้าง เล่นเอาอ้อมแขนที่รัดรอบอยู่ชะงัก เขาเงยศีรษะขึ้น สำรวจหน้าท้องภรรยา“ท้องเธอยังไม่โตขนาดนั้นสักหน่อย”“แต่เกล้าอึดอัดค่ะ ดิ้นไปดิ้นมาลำบาก”ยิ่งเขาขมวดคิ้วกังวลแสดงว่าข้ออ้างเธอได้ผล“พรุ่งนี้จะให้คนหาเตียงไซซ์พิเศษมาให้”“งั้นคืนนี้ คุณอิธให้เกล้านอนคนเดียวนะคะ ลูกจะได้ไม่อึดอัด”“ไม่ได้ ๆ” ดวงตาคมเปล่งแสงไม่ยอมตามที่พูด “เกิดเธอปวดท้อง หรือเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ”“เกล้าท้องแค่สามเดือนเองนะคะ” คุณแม่ท้องสาวทำแก้มป่อง บ่นในใจว่าเขาจะห่วงอะไรหนักหนา“จะกี่เดือนฉันก็ไม่ไว้ใจ”“ถ้าคุณอิธห่วง เกล้าไปนอนกับคุณย่าก็ได้”“อย่านะ!”เขาร้อง ถ้าทำเช่นนั้นต้องตอบคำถามคุณย่านานแน่ แถมด้วยมีสายตาทิ่มแทงจากยายพลวงเป็นของแถม“ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงล่ะ”เกล้ากมลกอดอก รู้สึกตนกำลังเป็นต่อ“ฉันจะนอนพื้น
เกล้ากมลอาศัยจังวะที่อีกฝ่ายอึ้งระบายความในใจต่อ“คุณย่าให้เราแต่งงานกันเพราะความเข้าใจผิด”“แต่เรามีลูกด้วยกัน” เขาพยายามย้ำ“เก๊าะ...ก็คืนนั้นเกล้าปล้ำคุณ”ไม่รู้ใครปล้ำใคร แต่เธอถือว่าตัวเองเป็นคนทำ ยังสบายใจเสียกว่า“มันจะไม่สำเร็จถ้าฉันไม่ใช่ความร่วมมือ เราทำกันทั้งสองคน”ผู้สมรู้ร่วมคิดรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน“แล้วคุณอิธจะเล่าเรื่องของเราให้ลูกฟังแบบไหนล่ะ”ทำนบที่กลั้นสิ่งค้างคาใจกำลังแตกออก เกล้ากมลพรั่งพรูถ้อยคำที่อยากถาม“เพราะมันไม่มีการจีบ ไม่มีการบอกรัก ไม่มีของขวัญ ไม่มีอะไรเลย ยอมรับเถอะค่ะ คุณอิธไม่ได้รักเกล้า แล้วจะทนอยู่อย่างนี้ไปทำไม”“เธออย่ามาพูดเหมือนรู้ดีเลยเกล้า”ในดวงตาสีน้ำตาลนั้น หาได้หวั่นไหวกับคำถามเธอไม่“เกล้าพูดอย่างที่ตาเห็นค่ะ แค่นี้นะคะ วันนี้เหนื่อยแล้ว เกล้าอยากพักผ่อน”เกล้ากมลกลับเข้าห้อง ล็อกมันเสียจากเขา ทิ้งตัวลงนอน...แล้วน้ำตาก็ไหล พูดไปเสียตั้งมากมาย คำว่ารักที่ได้กลับไม่มีหลุดจากปากเขาหากให้คะแนนผู้ชายยอดแย่ ตอนนี้เธอให้กรวีกับอิธานคะแนนเท่ากัน พวกชอบทำร้ายจิตใจผู้หญิง หากคิดพินิจสักนิด หากไตร่ตรองเสียหน่อย แค่คำว่ารักสั้น ๆ คำเดียวก็ท
เป็นรุ่งเช้าที่เกล้ากมลตื่นมาเพียงลำพังในห้องนอน แต่พอเปิดตู้เสื้อผ้าตามความเคยชิน ก็พบว่าเสื้อทุกตัวของเธอจากบ้านมารดามาอยู่ที่นี่แล้ว บนโต๊ะเครื่องแป้งมีถุงยาและสมุดฝากครรภ์จากคลินิกวันดี อิธานเอามันมาได้อย่างไร!อาการโมโหของเธอยังไม่ได้คำตอบ พอดีกับชายหนุ่มในสภาพเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว เดินออกมาจากห้องน้ำ“นอนต่ออีกไหม เดี๋ยวสักเจ็ดโมงฉันจะปลุก”เขาหอมหน้าผากมนของภรรยาที่กำลังตะลึงอยู่“คุณอิธไปเอาของเกล้ามาได้ยังไง”“ก็ให้คนไปเอาที่กรุงเทพ ไม่รู้เธอจะใช้ชิ้นไหนบ้าง เลยเอามาหมด”โดยมีสนานกับคนงานอีกสองคน ติดตามกึ่งขู่ คนขับรถกินรีจนไปถึงบ้านที่กรุงเทพฯ ได้สำเร็จ“บ้าไปแล้วหรือยังไง”“ก็ฉันบอกแล้วว่าให้เธออยู่นี่” เขาไปเปิดอีกตู้หนึ่งเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า“วันนี้เรามีแขกด้วยนะ ซันมันมา”เกล้ากมลเลิกคิ้ว“พี่ซันมาทำไมคะ”อิธานไม่ชอบตงิด ๆ ที่เธอเรียกคู่แข่งตัวฉกาจของเขาแบบนั้น“มารับเมียมันกลับ”ใจเกล้ากมลหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม“พาฉันไปหาพี่ลูกน้ำทีค่ะ คุณอิธนะคุณอิธ ทำให้เรื่องยุ่งเข้าไปอีกทำไม”ภาพในหัวเธอคือชนันธรโดนกรวีทำร้าย ร้องไห้น้ำตานอง แต่ที่ไปเห็นจริง ๆ คือกรกวีโ
“มานี่เลยนะเกล้า”ไม่ยากนักที่ชายหนุ่มจะดันประตูให้เปิดกว้าง แล้วคว้าแขนกึ่งลากเธอไปยังห้องหอของทั้งสอง“เราไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว พรุ่งนี้เกล้าจะไปหย่าให้ ลูกนี่เกล้าก็จะดูแลเอง ไม่ให้ใช้นามสกุลคุณ เกล้าจะไม่เอาอะไรไปสักบาท”เกล้ากมลบอกพลางหอบ เพราะต้องต้านแรงเขาที่ลากเธอไปยังห้องหอได้สำเร็จ“คุณไปมีลูกใหม่กับคนอื่นเถอะ พี่ลูกน้ำนั่นไง”“นั่นเมียคนอื่น ฉันมีเมียเดียวคือเธอ”สมองเกล้ากมลต้องห้ามใจตัวเองอย่างหนัก ไม่ให้เต้นแรงเกินไป บอกว่าไม่ให้เชื่อคำพูดเขา“ไม่ต้องไปเฝ้าคุณย่า นอนให้ห้องนี้กับฉัน” เขากดเธอนั่งลงบนเตียง“เกล้าจะหย่า” หญิงสาวบอกเสียงหอบ หน้าแดงจัด“ฉันไม่ยอมให้หย่า”“ลูกเกิดจากความไม่ตั้งใจของเราทั้งคู่นะ”เธอเตือน หวังว่าเขาจะนึกได้บ้างว่าหลังจากคืนนั้นเขาทำตัวเย็นชากับเธอขนาดไหน“ไม่ว่าลูกจะเกิดจากอะไร ฉันยินดีต้อนรับแก”เขายิ้มกว้าง มือใหญ่หยาบกร้านลูบหน้าท้องเธอไปทั่ว“คุณอิธเป็นผู้ชายที่แย่มาก พอรู้ว่ามีลูกกับเกล้าก็จะทิ้งพี่ลูกน้ำเลยเหรอคะ”“ฉันกับเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกันแล้ว เธอนั่นแหละไปอยู่บ้านแม่ทำไม”หน้าท้องเธออุ่นและเรียบเนียน ส่วนไหนหนอที่เป็นที่อยู่ของเจ้
“คุณท่านไม่สบาย”วรดาส่งข่าวมาในเช้าวันศุกร์หลังกินรีเดินทางไปอเมริกาหนึ่งอาทิตย์“โรคคนแก่ ตั้งแต่เกล้าไปอยู่กรุงเทพ ท่านก็ดูซึม ๆ มาเยี่ยมท่านไหม”ยายพลวงทำปากพะงาบ ๆ บอกบทลูกสาว จนเกล้ากมลบอกว่าจะมาเยี่ยมนั่นแหละนางจึงยิ้มได้“แล้วคุณท่านจะยอมเล่นเป็นคนป่วยเหรอแม่”หลังจบสายเพื่อน วรดาก็ถามผู้เป็นแม่เสียงอ่อย“ยอมสิวะ ท่านก็คิดถึงเกล้าจะตาย”ยายพลวงกำลังวางแผนให้ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกัน เมื่อเจ้านายถือทิฐิกันนัก คนรับใช้อย่างนางนี่แหละจะจัดการทุกอย่างเอง เพื่อให้ไร่สมบูรณ์ดีกลับมาสุขสงบเหมือนเคยเกล้ากมลมาด้วยการนั่งรถยุโรปคันโต เธอผิวขาวนวลขึ้น ใบหน้าผุดผาด วรดาถึงกับห่อปากเพราะเพื่อนดูสวยแม้แต่งหน้าเพียงบางเบา“รัศมีคุณหนูจับมากเลยเกล้า สวยจริง”เธอเลือกใส่ชุดแซกทรงตรง เพื่อพรางรูปร่างที่กำลังขยาย“คุณย่าล่ะ”วรดาพาหญิงสาวไปพบผู้สูงวัยซึ่งนอนดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนอน ยายพลวงต้องรีบสะกิดให้ท่านทำตัวโศกเมื่อเกล้ากมลเข้ามา คุณย่าอิสรีดูผอมลง ผมขาวมีแซมบนศีรษะมากขึ้น หญิงก้มลงกราบที่หน้าอก ท่านเอามือเหี่ยวย่นลูบศีรษะคนที่เลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย“เกล้าสบายดีไหม”“สบายดีค่ะ คุณย่าล่ะคะ”“สุ