ตอนที่ 2
ตอบแทนแม้หัวใจจะยังเจ็บปวด
“วันนี้เสี่ยอุดมเดินทางมาหาผมถึงที่บริษัทคงต้องเป็นข่าวดีแน่ ๆ ใช่ไหมครับ”
ศิลาเสี่ยหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงไม่มีใครรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นใครมาจากไหนรู้แค่เพียงว่าเขาเป็นลูกชายบุญธรรมของเสี่ยขจรผู้มีธุรกิจหลายอย่างและมีอิทธิพลเป็นมาเฟียแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาซึ่งตอนนี้เสี่ยขจรได้จากไปพร้อมกับทิ้งมรดกพันล้านไว้ให้ลูกชายนอกสายเลือด
“แน่นอนครับแต่ผมแค่ต้องการมาคุยข้อตกลงของเราพร้อมทำสัญญาให้แน่ชัดก่อนว่าถ้าลูกสาวของผมแต่งงานกับคุณแล้วบ้านกับที่ดินจะต้องกลับมาเป็นของผมทันที”
อุดมเองด้วยความที่เขาก็เป็นคนที่ร้อยเล่ห์เขาจึงไม่ไว้ใจและเชื่อใจในตัวศิลาจึงต้องการที่จะทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเพราะการแต่งงานครั้งนี้เขาต้องการสมบัติทุกอย่างกลับคืนมา
“ผมเตรียมสัญญาไว้แล้วลองอ่านดูนะครับ”
ศิลาเองก็ต้องการทำทุกอย่างให้มีหลักฐานเป็นที่แน่นอนเขาจึงเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วสัญญาฉบับนี้มันต้องเป็นประโยชน์กับเขามากที่สุดเขาจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายที่เขียนมันขึ้นมาด้วยตัวเอง
“ทำไมให้เวลาน้อยแบบนี้ สายป่านเองก็ยังเรียนไม่จบเหลืออีกแค่ปีเดียวแต่ในสัญญาคุณระบุไว้ชัดเจนว่าทุกอย่างต้องเกิดขึ้นภายในปีนี้ซึ่งมันก็เหลือเวลาอีกแค่สองเดือนเท่านั้น”
อุดมอ่านสัญญาอย่างละเอียดเขาโวยวายขึ้นมาทันทีเพราะเหลือเวลาอีกแค่สองเดือนที่เขาจะต้องจัดการให้สายป่านยอมแต่งงานซึ่งตอนนี้เขายังไม่ได้เริ่มเอ่ยปากกับลูกสาวเลยสักคำจึงกลัวว่าเวลาที่ศิลาให้อาจจะน้อยเกินไปและมันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาต้องสูญเสียบ้านและที่ดินให้เสี่ยคราวลูกซึ่งเขาจะไม่มีทางยอมเด็ดขาด
“ความจริงแล้วผมมีสิทธิ์ยึดทุกอย่างที่คุณเอามาจำนองไว้ตั้งแต่ต้นปีแต่นี่ผมก็ยืดเวลาให้ถึงปลายปีแล้วนะถ้าคุณยังไม่พอใจก็ฉีกสัญญาทิ้งแล้วก็กลับไปเก็บข้าวเก็บของย้ายออกจากบ้านและที่ดินที่มันกำลังจะเป็นของผมได้เลย”
มาเฟียหนุ่มไม่แสดงท่าทางยินดียินร้ายใด ๆ ทั้งสิ้นเพราะตอนนี้เขากำลังถือไพ่เหนือกว่าสมบัติทั้งสองชิ้นไม่ใช่สิ่งที่ชายหนุ่มอยากได้แต่สิ่งที่ศิลาต้องการจะเห็นคือความย่อยยับสิ้นเนื้อประดาตัวของเสี่ยอุดมผู้ที่ทำให้แม่ของเขาต้องอับอายจนตรอมใจตาย
ศิลาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนารีซึ่งเมื่อครั้งที่เขายังอายุได้แค่เพียงไม่กี่ปีแม่ของเขาถูกอุดมส่งลูกน้องมาเพื่อจะขืนใจและถ่ายรูปไว้เพื่อเป็นหลักฐานให้แม่ของเขายอมขายที่ดินซึ่งกำลังจะมีถนนตัดผ่านให้ในราคาที่ถูกแต่ลูกน้องของอุดมกลับเลือกที่จะแค่ทำร้ายและไม่ขืนใจตามที่เจ้านายต้องการแต่ก็ไม่มีใครเชื่อสังคมต่างประณามว่านารีถูกข่มขืนจึงทำให้แม่ของเขาตรอมใจและจากไปอย่างไม่มีวันกลับในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ซึ่งหลังจากนั้นชีวิตของศิลาก็เหมือนดังในละครเมื่อเสี่ยขจรตัดสินใจรับเขาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเป็นลูกบุญธรรมและนับจากนั้นชายหนุ่มก็ตั้งใจมาตลอดว่าจะต้องล้างแค้นให้กับแม่ของเขาให้ได้
“ผมขอเลื่อนไปอีกสัก 2 เดือนได้ไหมอย่างน้อยก็ให้สายป่านได้สอบก่อน”
“ถ้ามีปัญหามากผมว่าคุณกลับไปย้ายทุกอย่างออกจากบ้านและไปให้ไกลจากผมจะดีกว่า ลูกสาวของคุณจะได้แต่งงานกับคนดี อย่างผมไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องลังเลรับรองว่าคุณจะมีแต่ได้ เป็นพ่อตาคงจะดีกว่าเป็นลูกหนี้แน่นอนคุณจะเซ็นสัญญานี้หรือจะย้ายออกจากบ้าน ผมให้เวลาคุณตัดสินใจห้านาที”
อุดมไม่ได้เป็นห่วงลูกสาวเรื่องสอบแต่เขาแค่คิดว่าถ้าให้ผ่านพ้นช่วงที่สายป่านสอบไปก่อนหญิงสาวอาจจะมีเวลาได้คิดทบทวนว่าสิ่งที่เขาต้องการให้เธอทำมันคือการตอบแทนพระคุณแต่ถ้าต้องมาบีบในเวลากระชั้นชิดแบบนี้เขากลัวว่าสายป่านอาจจะรู้สึกไม่พอใจและอาจตัดสินใจที่จะไม่ยอมทำตามแต่ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะหาหนทางไหนมาทำให้ลูกสาวยอมเพราะเท่าที่คิดออกตอนนี้ก็มีแต่คำว่าตอบแทนพระคุณเท่านั้น
“ก็แค่นี้ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรมากผมจะรอฟังข่าวดีนะคะคุณพ่อตา”
ศิลาหัวเราะในคออย่างสะใจที่ในที่สุดแล้วแผนของเขาก็ใกล้จะสำเร็จ การที่เขาจะแต่งงานกับสายป่านเพราะศิลาคิดว่ามันจะสามารถทำให้อุดมเจ็บปวดได้เหมือนที่เขาเคยเจ็บปวดเพราะพ่อแม่ย่อมไม่อยากเห็นลูกมีความทุกข์ไม่อยากเห็นลูกต้องเสียใจเขาจึงคิดว่าการที่เขาจะใช้สายป่านเป็นเครื่องมือย่อมสร้างผลที่เลวร้ายได้มากกว่าแค่การยึดสมบัติแน่นอน
“สายป่านกินข้าวก่อนเลยนะลูก พ่อกินอะไรไม่ค่อยลงจะขอขึ้นไปพักข้างบนดีกว่า”
ทันทีที่ถึงบ้านอุดมก็เล่นตามแผนที่วางไว้ เขาเดินเข้าบ้านด้วยสายตาที่เศร้าหมองเหมือนคนกําลังหมดแรงหันไปพูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือหลบหน้าหลบตาเหมือนว่ามีความลับซ่อนอยู่
“คุณพ่อเป็นอะไรกันแน่คะ ป่านไม่เห็นรู้เลยว่าคุณพ่อป่วย”
สาวน้อยลุกจากโต๊ะกินข้าวเดินมากอดอุดมผู้เป็นพ่อด้วยความห่วงใยถึงแม้ว่าภายในจิตใจจะรู้สึกสับสนว่าความจริงแล้วเธอควรจะรู้สึกกับคนตรงหน้าอย่างไรกันแน่แต่นาทีนี้เธอเลือกที่จะอยากรู้ความจริงมากกว่าเพราะถ้าบิดาของเธอกำลังป่วยเธอก็อยากที่จะได้รู้ความจริงและดูแลคนตรงหน้าให้เหมือนกับที่ผ่านมาที่พ่อของเธอเคยดูแลเธอเมื่อยามเจ็บป่วย
“อย่ารู้เลยลูกมันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วชีวิตของพ่ออยู่มาได้ถึงปัจจุบันก็ถือว่าเกินคุ้มกลับไปนั่งกินข้าวกับแม่เถอะอย่าเอาเรื่องของพ่อมาทำให้ลูกต้องหนักใจอีกเลย”
นอกจากสีหน้าแววตาและน้ำเสียงที่ดูสมบทบาทเหมือนนักแสดงตัวจริงอุดมยังใช้คำพูดที่บีบคั้นหัวใจคนเป็นลูกได้อย่างเชี่ยวชาญเพราะเขาได้เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว
“เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าพ่อไม่บอกป่าน ป่านจะไม่ไปเรียนและจะไม่กินข้าวจนกว่าจะรู้ความจริงว่าตอนนี้คุณพ่อป่วยเป็นอะไรกันแน่”
“บอกลูกไปเถอะค่ะว่าตอนนี้คุณเป็นมะเร็งระยะที่สามแล้ว”
ผกาได้โอกาสจึงรีบพูดแทรกขึ้นมาเพราะเธอได้ตกลงกับสามีไว้แล้วว่าอุดมจะไม่เป็นคนบอกเรื่องนี้เพราะถ้าเขาเป็นคนบอกจะดูไม่สมบทบาทจึงให้ภรรยาเป็นคนพูดแทรกขึ้นมาเหมือนกับว่าเธอเองก็อยากให้ลูกสาวรู้ความจริงเหมือนกัน
“เรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมถึงไม่มีใครบอกลูกเลย”
ความแค้นความโกรธที่สายป่านคิดว่ามันอยู่ภายในหัวใจของเธอแต่ตอนนี้มันถูกความรู้สึกเสียใจเข้ามากลบจนหมดเธอไม่อยากสูญเสียครอบครัวที่เธอคิดว่าในชีวิตนี้ เธอมีแค่เพียงพ่อและแม่เท่านั้นถึงแม้ทั้งคู่จะไม่ใช่สายเลือดแต่หญิงสาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าไม่มีทั้งคู่อยู่แล้วเธอจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงก่อนหน้านี้เธอพยายามคิดหาทางที่จะไปจากที่นี่และเลือกที่จะตอบแทนพระคุณทั้งสองโดยวิธีการอื่นแต่ตอนนี้เธอขอแค่เพียงให้พ่อของเธอหายป่วยก็พอ
“พ่อไม่อยากให้ลูกรู้ไม่อยากให้ลูกเครียดปัญหาของบ้านเรามีมากกว่านี้อีกเยอะแต่พ่อกับแม่เลือกที่จะรู้กันแค่สองคน ลูกทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุดดีกว่า”
อุดมแกะมือเล็กที่กอดเขาไว้แน่นชายวัยเกินหกสิบรีบพาตัวเองขึ้นไปยังห้องนอนเพราะนับจากนี้เป็นหน้าที่ของผกาแล้วที่จะบอกเล่าเรื่องราวที่ศิลายื่นข้อเสนอมา
“คงถึงเวลาแล้วที่แม่ต้องเล่าความจริงทุกอย่างให้ลูกฟังถึงแม้ว่าพ่อจะขอแม่ไว้แต่ในเมื่อเราทั้งคู่ต่างก็เป็นห่วงคุณพ่อและสายป่านก็เป็นคนเดียวที่สามารถช่วยคุณพ่อได้”
ผกาเริ่มเล่าตั้งแต่เรื่องที่อุดมกำลังป่วยจนไปถึงเรื่องของความเครียดทั้งหมดก็คือเรื่องที่อุดมเอาบ้านและที่ดินไปจำนองกับศิลาแต่คนเป็นแม่เลือกที่จะโกหกว่าสาเหตุเกิดจากอุดมเอาเงินทั้งหมดมาใช้ในการรักษาตัวและส่งเสียให้สายป่านเรียนจนไปถึงข้อตกลงที่ศิลาต้องการให้สายป่านแต่งงานด้วยเพื่อที่จะคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้เพราะทั้งคู่ไม่มีเงินไปไถ่จนถึงเวลาที่เจ้าหนี้สามารถยึดทุกอย่างได้แล้วตามสัญญา
สายป่านขอเวลามารดาคิดทบทวนเพื่อจะตัดสินใจเรื่องนี้ให้ดีที่สุดและเช้านี้เธอก็สามารถให้คำตอบกับคนเป็นแม่ได้ว่าเธอยินยอมที่จะแต่งงานกับศิลาเพื่อจะเอาบ้านและที่ดินคือแต่นอกจากเหตุผลในเรื่องของสมบัติเธอต้องการให้พ่อของเธอมีเงินไปรักษาตัวและที่สำคัญเธออยากไปจากบ้านหลังนี้เพราะความรู้สึกตอนนี้เธอทั้งรักทั้งโกรธในตัวอุดมที่เป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอต้องเสียชีวิตแต่เขาเองก็เป็นคนที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เล็ก สายป่านคิดว่าการที่ได้ไปจากที่นี่เธอจะสามารถค่อย ๆ คลายความรู้สึกที่มันทุกข์และอัดอั้นอยู่ภายในหัวใจออกไปได้ตามกาลเวลาและเธอก็จะไม่ต้องกลายเป็นคนที่เนรคุณ
“ขอบคุณลูกมาก ๆ ที่ยอมเสียสละเพื่อคุณพ่อ”
ผกาโอบกอดลูกสาวลูบหัวไปมาอย่างเอ็นดูภายใต้เสียงขอบคุณนั้นมีแววตาที่เจิดจรัสซ่อนอยู่เพราะเธอได้คิดดูแล้วว่านอกจากทรัพย์สมบัติที่จะได้คือการได้ลูกเขยเป็นถึงมาเฟียชื่อดังชีวิตของเธอกับอุดมคงไม่ต้องลำบากเหมือนทุกวันนี้
ตอนที่ 11เติมเต็ม ดาวิกาก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้ในครอบครัวของทรงธรรมอย่างเต็มตัวและเต็มใจ เธอเป็นที่รักของยมโดยอย่างมาก เพราะหญิงสาวทำกับข้าวได้ถูกปากแม่สามี วันนี้เป็นวันที่ทรงธรรมจะได้กลับบ้านหลังจากที่ต้องไปนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบสองเดือน ในส่วนของคดีก็ยังดำเนินต่อไป โดยที่ทรงธรรมปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เพราะมันทำให้เขาเจ็บปวด หลานสาวทั้งสองคนที่เป็นลูกของผจญ ทรงธรรมในฐานะลุงได้ยกที่ดินให้คนละสองไร่ ซึ่งราคาตอนนี้ก็ไร่ละเป็นล้าน พร้อมเงินในบัญชีที่ทั้งคู่จะเบิกไปใช้ได้ก็ต่อเมื่ออายุยี่สิบปีบริบูรณ์อีกคนละห้าแสนบาท “ที่พ่อทำแบบนี้ พ่อไม่ได้คิดจะให้ผจญมันสำนึกได้ แต่เพราะหลานทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าผจญต้องติดคุก จะได้มีที่ดินเอาไว้ขายเอาเงินมาใช้จ่ายกัน เราโตแล้ว ต้องแยกให้ออกว่าเรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทุกคน” ปองภพชื่นชมในการตัดสินใจของบิดา คนดี ๆ แบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาคิดร้ายด้วยเลย เพราะท่านมีแต่ให้จริง ๆ ยมโดยเรียกลูกชายและลูกสะใภ้เข้ามาใกล้ๆ เธอมีบางอย่างอ
ตอนที่ 10ความจริงที่เจ็บปวด ยมโดยโอบกอดลูกชายด้วยความดีใจและเรียกดาวิกาเข้ามากอดด้วย เธอร้องไห้แต่เหมือนยังมีสติ “ฟังแม่นะพล พ่อถูกทำร้าย แม่คิดว่าเมื่อครั้งที่แล้วก็ใช่ แต่ครั้งนี้มันคงหวังให้พ่อพิการหรือไม่ก็ตายเองจากอาการสาหัส และแม่ก็พอเดาออกว่าใคร” ปองพลฟังด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่บุญธรรมของเขามีศัตรู “ใครกันครับ” “น้องชายของพ่อ เพราะวันที่ลูกมาหาแม่และกลับไป เราสองคนได้พูดถึงเรื่องการทำพินัยกรรม พ่อกับแม่จะยกเงินและหุ้นในอู่ต่อเรือของครอบครัวพ่อคืนให้พี่น้องเขา ส่วนทรัพย์สินที่พ่อกับแม่สร้างกันขึ้นมาเอง เราจะยกให้ลูก และวันที่เราพูดเรื่องนี้ก็มีเพียงแม่บ้านที่อยู่ด้วย แต่อีกวันน้องชายคนเล็กของพ่อก็พาหลาน ๆ มาหา” ปองพลตกใจมาก เพราะในบรรดาพี่น้องของพ่อบุญธรรมเขา มีน้องชายคนเล็กเพียงคนเดียวที่ยังไปมาหาสู่กันตลอด “คุณผจญ ท่านดูเป็นคนอ่อนโยนและดูเป็นห่วงพ่อมาก มันจะเป็นเรื่องจริงเหรอครับ” “เขามาที่นี่พร้อมหลาน ๆ และถามพ่อกับแม่เรื่องอู่ที่พ่อกับแม่มีอยู่ เขาพยายามพูดให้เห็นว่าพลเป็นเพียงแค่ล
ตอนที่ 9อุบัติเหตุ ปองภพดีใจที่สุดที่วันนี้มาถึง วันที่เขาได้พูดความจริงและดาวิกาก็ยอมที่จะแต่งงานตามคำขอของเขา ข่าวเรื่องที่ปองภพไม่สบายทำให้ทรงธรรมร้อนใจมากจึงได้รีบเดินทางมาหา โชคดีที่จังหวัดที่เขาอยู่มีสนามบินอยู่ไม่ไกล จึงไม่ใช่เรื่องยากในการเดินทาง “ปองภพลูก” ดอมพาทรงธรรมมาหาปองภพที่ห้องเช่าของเขา ภาพห้องเช่า ข้าวของที่ใช้สำหรับทำกับข้าวขาย และดาวิกากับน้อง อดทำให้ทรงธรรมรู้สึกสงสารไม่ได้ “พ่อได้ข่าวว่าไม่สบาย แม่เขาก็ร้อนใจสั่งให้พ่อมาดูด้วยตาตัวเอง” ปองภพดีขึ้นแล้ว พยายามทรงตัวขึ้นมานั่งคุยกับบิดาที่เดินทางไกลมาด้วยความเป็นห่วง “ไข้ลดตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วครับพ่อ” คนป่วยพูดจบก็หันไปทางดาวิกา เพราะทั้งสองคนยังไม่ได้รู้จักกันเลย “ดา พ่อของพี่” หญิงสาวยกมือไหว้ หัวใจของเธอมันสั่นอย่างบอกไม่ถูก บุคลิกท่าทางของทรงธรรมมีความเป็นทั้งผู้ใหญ่และผู้ดี จนเธอรู้สึกต่ำต้อยเกินไปที่จะไปเป็นสะใภ้ของเขา “น่ารักกว่าที่ฉันคิดไว้นะ เห็นพลเล่าให้ฟังว่าทำกับข้าวเก่งมาก ไว้แต่งงานกันแล้ว ไปหาทำเลเปิดร้
ตอนที่ 8เจ้าของอู่..สู่..พ่อค้าขายแกง “พ่อกับแม่ชักอยากจะเห็นหน้าอนาคตลูกสะใภ้คนนี้จัง แก้เกมได้ทันคนจริง ๆ ” ทรงธรรมฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากปากของลูกชาย เขารู้สึกเห็นด้วยกับดาวิกา การที่ปองภพยืนยันว่าเขาคือคนเดิม เขาก็ต้องกลับไปลำบากอีกครั้งให้ได้ แล้วเวลาหนึ่งเดือน ไม่ใช่เรื่องที่จะฝืนทนกันได้ถ้าไม่เต็มใจ “ปองภพแล้วลูกล่ะคิดว่าทำได้ไหม” ชายหนุ่มถามคำถามนี้กับตัวเองมาทั้งคืนแล้ว และเขาก็มีคำตอบเดียวในหัวใจ “บ้านไม่มีอยู่ นอนใต้ต้นไม้ ขอข้าววัดกิน ผมก็ผ่านมาแล้ว เพิ่งจะได้เป็นคุณปองภพแค่ไม่กี่ปี ผมว่าตัวเองยังคุ้นชินกับความจนมากกว่าความรวยเสียอีก” พ่อกับแม่ได้ยินลูกชายบุญธรรมพูดแบบนี้ก็ทั้งสบายใจและดีใจ เพราะทั้งสองคนตั้งใจจะยกสมบัติทั้งหมดที่เขาสองคนหามาได้ให้กับปองพล ส่วนสมบัติที่ได้จากบรรพบุรุษ ทั้งคู่จะคืนให้กับคนในตระกูล ยมโดยหันไปพูดกับสาวมี ด้วยน้ำตานองหน้า จนทรงธรรมตกใจรีบเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วกอดภรรยา “เราเลือกคนไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ ภพไม่เคยลืมตัว ถึงเขาจะไม่ใช่สายเลือดแต่เขาคือผู้ให้ชี
ตอนที่ 7 เสียความรู้สึก “เป็นอะไรวันนี้ กลับบ้านทำหน้าตาเหมือนเบื่อโลก” ดาวิกาเห็นหน้าน้องชายแล้วอดถามไม่ได้ เพราะปกติกลับมาจากที่ทำงานจะร่าเริงและจะต้องมาอวดว่าวันนี้ทำงานได้เงินเท่าไหร่ แต่วันนี้กลับเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเศร้า ๆ เหมือนมีความกังวลอยู่ในใจ “พี่ดาวันเสาร์นี้ที่อู่จัดงานเลี้ยง เจ้านายผมบอกให้พี่ไปด้วย ตกลงนะ” ดอมถามเองตอบเอง และไม่ยอมมองหน้าพี่สาว ด้วยกลัวตัวเองจะเผลอแสดงพิรุธอะไรไป “พี่ไม่รู้จักใครแล้วจะให้พี่ไปทำไม” หญิงสาวเดินตามน้องชายเพื่อต้องการอยากรู้เหตุผล เพราะเธอไม่ใช่พนักงานที่นั่น “เขากินกับข้าวพี่กันทุกคน เขาก็รู้จักพี่กันทั้งนั้นและ เพื่อนผมก็ไอ้พวกที่มาช่วยยกของ ล้างของบ่อย ๆ ไปเถอะ หาซื้อชุดสวย ๆ ใส่ไปด้วยนะ งานเริ่มหนึ่งทุ่มเสาร์นี้” ดาวิกาไม่อยากขัดใจน้องชายและเห็นดอมดูอารมณ์ไม่ค่อยดีจึงไม่อยากถามต่อ ดอมปิดไฟได้เวลาเข้านอน ห้องเช่าสี่เหลี่ยมที่ไม่เล็กมาก พอให้สองพี่น้องมีมุมแยกกันส่วนตัว แต่ก็มองเห็นกันได้ ชายหนุ่มนอนมองพี่สาวที่เอาแต่เฝ้าจับโทรศัพท์ตลอด เ
ตอนที่ 6บอกผู้ใหญ่ ยมโดยแม่บุญธรรมของปองภพมีอาการไม่ค่อยดี เพราะเธอเดินไม่ได้แต่ยังพยายามที่จะลุก จนล้มหน้าคว่ำกับพื้น ทรงธรรมมีเรื่องยุ่ง ๆ เกี่ยวกับการสั่งเครื่องจักรเข้ามาในอู่ที่ใต้ ขาจึงต้องเดินทางไปจีน จึงให้ปองภพลงมาดูแลยมโดยแทนเขา “เมื่อคืนแม่ก็อยู่คนเดียวได้ ไม่เห็นต้องยุ่งยากให้ภพมาดูแม่เลย” ยมโดยเป็นผู้หญิงเก่ง เธอมาจากครอบครัวที่ยากจนเป็นชาวประมงและมาพบรักกับทรงธรรมที่เป็นลูกชายเจ้าของอู่ต่อเรือ แต่ทรงธรรมไม่ใช่ลูกชายคนโปรดเพราะดันไปรักกับผู้หญิงจน ๆ อย่างยมโดย จึงได้สมบัติมาแค่เพียงหยิบมือและมาเริ่มต้นสร้างฐานะกันใหม่ “อยู่ได้ผมเชื่อ แต่แม่ไม่อยากให้ผมมาอยู่ด้วยเหรอ” ปองภพก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขารู้จักกับครอบครัวนี้แค่ไม่กี่ปี แต่ทำไมเขารู้สึกผูกพันกับทั้งสองคนมากและเขาก็คิดว่าทั้งสองคนก็รักเขาเหมือนลูกจริง ๆ “แม่เหงาจังเลย เกิดมาก็ดันมีกรรมไม่มีลูกอย่างใครเขา เมื่อไหร่ภพจะมีเมียแม่อยากอุ้มหลาน” สายตาที่เว้าวอนของคนที่เดินไม่ได้ มันทำให้หัวใจของปองภพรู้สึกใจหาย “คุณแม่ครับ คือตอนนี้ผมมีแฟน