ศิลา **หนุ่มใหญ่ในวัยใกล้ 40เขาต้องสูญเสียมารดาไปเพราะนักเลงเก่ารุ่นพ่อ เขาก็กลับมาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพล สายป่าน **สาวน้อยอายุ23 ลูกสาวอุดมนักเลงเก่าเธอถูกเลือกเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้ ศิลากลับมาครั้งนี้เพื่อแก้แค้นแต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงที่เขาเลือกใช้เป็นเครื่องมือ เธอก็คือคนที่ถูกทำร้ายจากศัตรูของเขาเหมือนกัน ทุกอย่างมันไม่จบง่ายอย่างที่คิดเพราะผลพวงจากความแค้นก่อให้เกิดอีกชีวิตหนึ่งขึ้นมาด้วย...............
View Moreตอนที่ 1
บุญคุณหรือความแค้น
ครอบครัวของอุดมอดีตเสี่ยใหญ่แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นครอบครัวที่มองภายนอกแล้วหลายคนอาจเฝ้าอิจฉาโดยเฉพาะชีวิตของสายป่านลูกสาวเพียงคนเดียวของเสี่ยอุดมกับผกา เธอถูกเลี้ยงดูมาเหมือนไข่ในหินไม่ว่าใครแม้แต่คนในละแวกนั้นยังไม่ค่อยมีใครได้มีโอกาสพูดคุยกับสาวน้อยคนนี้เพราะทั้งพ่อและแม่ต่างเก็บตัวลูกสาวเพียงคนเดียวไว้แต่ภายในบ้านไม้สักหลังใหญ่นอกจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยสายป่านเองแทบจะไม่มีโอกาสปรากฏตัวเพียงลำพังเลยสักครั้ง
“คุณคิดว่าสายป่านจะยอมหรือเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่สมัยก่อนที่คุณจะมาใช้บุญคุณมาอ้างแล้วคิดว่าจะคลุมถุงชนใครก็ได้นะ”
ผกาไม่เห็นด้วยกับความคิดของสามีที่จะให้สายป่านแต่งงานกับเจ้าหนี้ที่ทั้งคู่นำที่ดินและบ้านไปจำนองไว้เมื่อครั้งที่อุดมไปเล่นการพนันที่บ่อนต่างประเทศซึ่งครั้งนั้นเขาเสียจนหมดแล้วได้มีนักธุรกิจชาวไทยเข้ามาเสนอให้เขาเอาบ้านและที่ดินมาจำนองเพื่อนำเงินก้อนใหญ่ไปใช้เล่นต่อ
“มันต้องยอมสิ สายเลือดเราก็ไม่ใช่ เราทั้งให้ชีวิตดูแลมันมาเป็นอย่างดีมันคงไม่เนรคุณหรอก”
อุดมเผลอตัวพูดเสียงดังออกมาโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ประตูห้องนอนของเขาปิดไม่สนิทและสายป่านสาวน้อยผู้ไม่รู้ความจริงอะไรเลย เธอผ่านมาได้ยินข้อความทั้งหมดก็ถึงกับทรุดเข่าร่วงลงไปนั่งอยู่หน้าประตูห้องนอนของพ่อและแม่ที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าทั้งคู่ไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ ของเธอ
“คุณจะตะโกนไปถึงไหนอยากให้สายป่านมันรู้ใช่ไหมว่าเราไม่ใช่พ่อกับแม่มัน คุณไม่กลัวหรือว่าสักวันไข่ในหินที่คุณคิดว่าเลี้ยงดูมันมาอย่างดีที่สุดมันจะรู้ความจริงว่าคุณคือคนที่ฆ่าพ่อของมัน”
ผกาถึงเธอจะไม่ได้รักสายป่านเหมือนสายเลือดแท้ ๆ แต่เธอก็มีความผูกพันให้กับเด็กน้อยที่เธอเฝ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่เดือนเพราะตัวเธอเองไม่สามารถมีลูกได้แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอรัก หญิงสาวเหมือนลูกแท้ ๆ แค่เพียงว่าเธอหวังจะพึ่งสายป่านเมื่อครั้งที่เธอแก่ตัวลงก็เท่านั้นจึงไม่อยากให้สามีเสียงดังไปเพราะถ้าวันนึง สายป่านรู้ความจริงสุดท้ายเธออาจจะไม่เหลือใครไว้ให้พึ่งเมื่อยามชราลง
“พูดเหมือนคุณเป็นคนดีกว่าผมเสียอย่างนั้นที่ดวงแม่ของสายป่านต้องฆ่าตัวตายไม่ใช่เพราะคุณหรอกหรือไม่ต้องทำมาโยนความผิดให้ผมคนเดียว”
อุดมรู้สึกไม่พอใจภรรยาที่พูดเหมือนว่าเขาเป็นคนผิดในเรื่องของพ่อแม่ของสายป่านเพียงคนเดียวทั้งที่ความจริงผกาเองก็มีส่วนทำให้แม่ของสายป่านต้องคิดสั้นจากโลกนี้ไปทั้งที่ตอนนั้นทารกน้อยยังอายุได้ไม่กี่เดือน
เด็กสาวในวัยกำลังเรียนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเธอไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เธอกำลังได้ยินมันจะเป็นเรื่องจริงตลอดเวลาหญิงสาวไม่เคยรู้ระแคะระคายมาก่อน เธอมั่นใจและคิดมาตลอดว่าเธอคือลูกแท้ๆของครอบครัวนี้ถึงแม้ความจริงทุกอย่างจะถูกเปิดเผยโดยที่คนในห้องไม่ตั้งใจแต่สำหรับสายป่านมันคือความจริงที่เธอไม่กล้าแม้แต่จะยอมรับด้วยซ้ำ
“สายป่านทำไมยังไม่ลงมากินข้าวพ่อกับแม่มานั่งรอที่โต๊ะอาหารนานแล้วนะ”
ผกาเดินขึ้นมาเรียกลูกสาวที่ห้องนอนเมื่อได้เวลาอาหารเย็นแต่กลับไม่พบว่าสายป่านไปนั่งรอเหมือนเช่นทุกวันทั้งที่แม่บ้านได้จัดกับข้าวไว้เรียบร้อยแล้ว
“คุณพ่อคุณแม่กินก่อนเลยค่ะ ป่านไม่ค่อยสบายขอนอนพักสักพักถ้าหิวแล้วจะไปหากินในครัวเองค่ะ”
ความจริงที่เพิ่งได้ยินเมื่อช่วงบ่ายไม่สามารถทำให้หญิงสาวบังคับให้ตัวเองปั้นหน้ายิ้มแย้มสดชื่นเหมือนเช่นทุกวันต่อหน้าพ่อและแม่ที่ไม่ใช่สายเลือดของเธอและนอกจากนั้นทั้งคู่ยังเป็นคนทำให้บุพการีของเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับอีกด้วย
“เป็นอะไรลูกไปหาหมอไหม”
คนเป็นแม่ทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเดินเข้ามาใกล้พร้อมใช้หลังมือแตะลงที่หน้าผากของลูกสาว
“ป่านไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะคุณแม่ไปกินข้าวเถอะเดี๋ยวคุณพ่อจะรอ”
สาวน้อยไม่อยากพูดจาอะไรกับคนตรงหน้ามากไปกว่านี้เธอจึงเลือกที่จะเดินถอยหลังเข้าห้องและรีบปิดประตูห้องนอนทันที
ผกาในฐานะแม่ที่เลี้ยงดูเด็กน้อยมาตั้งแต่ยังแบเบาะเธอสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงจึงพยายามบอกกับสามีแต่อุดมกลับมองว่าเวลานี้สายป่านกำลังเป็นสาวคงแค่ต้องการใช้เวลาส่วนตัวไม่อยากสุงสิงกับพ่อกับแม่เหมือนอย่างเช่นสาว ๆ ทั่วไปมากกว่า
“คุณอุดมแน่ใจใช่ไหมว่าลูกไม่ได้รู้อะไรเพราะถ้าลูกรู้ ความจริงตอนนี้รับรองว่าไม่มีทางที่สายป่านจะยอมแต่งงานและเราคงไม่มีโอกาสได้บ้านกับที่ดินคืนมาแน่ ๆ”
บ้านและที่ดินเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ตอนนี้ทั้งผกาและอุดมมีอยู่เพราะตั้งแต่อุดมหันหน้าให้กับการพนันความร่ำรวยของครอบครัวนี้ก็เริ่มลดน้อยลงจนในที่สุดก็แทบจะหมดตัวโชคดีที่ยังมีสมบัติเก่าให้พอขายได้กินไปวัน ๆ และนับจากนี้ทั้งคู่ก็หวังพึ่งลูกสาวที่เหลืออีกแค่เพียงหนึ่งปีก็จะเรียนจบ
“อย่าคิดมาก พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปคุยกับไอ้ศิลาเรื่องข้อตกลงที่มันต้องการแต่งงานกับลูกสาวเรา”
อุดมตัดสินใจที่จะยอมทำตามที่ศิลาเจ้าหนี้ที่เขาเอาสมบัติชิ้นสุดท้ายไปจำนองไว้โดยที่ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับสายป่านเลยแต่คนเป็นพ่อมั่นใจว่าเขาสามารถหาวิธีทำให้ลูกสาวยอมทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการได้แน่นอน
“คุณมีแผนใช่ไหมถึงได้มั่นใจว่าทุกอย่างจะสำเร็จตามที่คุณต้องการ”
ผกาไม่คิดว่าทุกอย่างจะง่ายถ้าอุดมพูดความจริงเรื่องที่เขาติดการพนันจนหมดตัวแบบนี้กับสายป่านเธอเลยคิดว่าสามีคงต้องมีแผนการอะไรบางอย่างอยู่ในใจที่จะใช้เรียกคะแนนสงสารจาก ลูกสาว
“คุณฟังผมให้ดีนะหลังจากพรุ่งนี้แผนที่ผมวางไว้จะเริ่มทันที”
สามีบอกเล่าแผนการทุกอย่างให้ภรรยาฟังโดยที่ครั้งนี้อุดมไม่ลืมที่จะใช้น้ำเสียงที่เบาจนฟังแล้วคล้ายกับกระซิบเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ที่โต๊ะอาหารกลางบ้านถึงแม้ว่าจะไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นก็ตามแต่อุดมก็ไม่ไว้ใจเพราะถ้าแผนนี้รั่วไหลไปมีหวังบ้านและที่ดินคงต้องโดนยึด
“คุณพ่อออกไปไหนแต่เช้าคะ”
วันนี้สายป่านต้องไปที่มหาวิทยาลัยเธอจึงตื่นแต่เช้าและพบว่าบิดาของเธอได้ออกไปตั้งแต่เช้ามืดหญิงสาวจึงถามคนเป็นแม่ด้วยความสงสัย
“พ่อเขาไปโรงพยาบาล”
ผกาตอบด้วยน้ำเสียงคล้ายกับคนกำลังจะร้องไห้และเธอทำท่าจะเดินหนีลูกสาวเหมือนกับว่ามีเรื่องอะไรปิดบังและไม่อยากให้อีกฝ่ายซักไซ้ถามเธอไปมากกว่านี้ทั้งที่ความจริงเธอรอให้อีกฝ่ายถามอย่างจดจ่อ
“ป่านไม่เห็นรู้เลยว่าคุณพ่อไม่สบาย”
ความจริงที่เธอเพิ่งรู้ทำให้เธอเสียใจแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกรักในตัวพ่อและแม่น้อยลงเพราะชีวิตของสายป่านพบเจอกับทั้งคู่มาตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ถึงแม้ทั้งคู่จะไม่ใช่สายเลือดแต่มันมีความผูกพันที่เป็นสายใยที่ตัดไม่ขาดและมันคือความเจ็บปวดที่ทำให้เธออยากไปจากที่นี่
“ไม่มีอะไรหรอกลูก แม่ไม่อยากพูดอะไรมากลูกตั้งใจเรียนไม่ต้องมาสนใจเรื่องของคุณพ่อหรอก”
ผกาตีหน้าเศร้าทำถ้าไม่อยากพูดอะไรต่อปลากัดไม่ยอมเดินหนีไปจริงๆมองสบตาลูกสาวเหมือนต้องการให้อีกฝ่ายเห็นน้ำใสๆที่ไหลคอที่เธอต้องใช้เวลาทำ อารมณ์อยู่นานกว่าที่มันจะไหลออกมาได้
“คุณพ่อเป็นอะไรกันแน่คะ ทำไมคุณแม่ทำเหมือนว่าป่านไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องของคุณพ่อทั้งที่ความจริงป่านเป็นลูกของพ่อกับแม่ไม่ใช่หรือไงคะ”
คำพูดที่เหมือนดั่งมีดโกนที่กรีดลงไปในหัวใจของคนพูดถูกพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่ทั้งเป็นห่วงและทั้งเจ็บกับความจริงที่เธอเพิ่งมีโอกาสได้รู้แต่ความห่วงใยบุพการีที่เลี้ยงดูเธอมามีมากกว่าความรู้สึกทั้งหมดเธอจึงอยากรู้ว่าตอนนี้บิดาของเธอกำลังป่วยเป็นอะไรกันแน่
“อย่าถามอะไรแม่อีกเลยได้ไหมแค่นี้แม่ก็เจ็บมากพอแล้วถ้าลูกอยากรู้อะไรก็ไว้ค่อยถามคุณพ่อเอง”
ครั้งนี้ผการีบเดินหนีทันทีเพราะแผนที่นัดหมายไว้ เธอมีบทพูดแค่เพียงเท่านี้จึงไม่อยากให้สายป่านบีบคั้นคำตอบจากเธอ ผกาอดกลัวไม่ได้ว่าเธอจะเผลอทำพิรุธให้ถูกจับได้จึงเลือกที่จะรอให้อุดมมาเป็นคนเล่นแผนต่อไปเองดีกว่า
สาวน้อยไปมหาวิทยาลัยด้วยความรู้สึกที่เป็นกังวล เธอเป็นห่วงพ่อพี่แม้ไม่ใช่สายเลือดแต่เป็นพ่อที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้และจากท่าทางของคนเป็นแม่ทำให้สายป่านกลัวว่าตอนนี้บิดาของเธอคงกำลังป่วยหนักแต่ช่วงแว็บหนึ่งของความคิดถ้อยคำที่ผกาพูดว่าความจริงแล้วอุดมเป็นคนฆ่าบิดาแท้ ๆ ของเธอก็ย้อนเข้ามาในหัวใจ สายป่านสับสนทุกอย่างไปหมดระหว่างบุญคุณความแค้นอะไรกันแน่เป็นสิ่งที่เธอควรรู้สึกตอนนี้
ตอนที่ 11เติมเต็ม ดาวิกาก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้ในครอบครัวของทรงธรรมอย่างเต็มตัวและเต็มใจ เธอเป็นที่รักของยมโดยอย่างมาก เพราะหญิงสาวทำกับข้าวได้ถูกปากแม่สามี วันนี้เป็นวันที่ทรงธรรมจะได้กลับบ้านหลังจากที่ต้องไปนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบสองเดือน ในส่วนของคดีก็ยังดำเนินต่อไป โดยที่ทรงธรรมปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เพราะมันทำให้เขาเจ็บปวด หลานสาวทั้งสองคนที่เป็นลูกของผจญ ทรงธรรมในฐานะลุงได้ยกที่ดินให้คนละสองไร่ ซึ่งราคาตอนนี้ก็ไร่ละเป็นล้าน พร้อมเงินในบัญชีที่ทั้งคู่จะเบิกไปใช้ได้ก็ต่อเมื่ออายุยี่สิบปีบริบูรณ์อีกคนละห้าแสนบาท “ที่พ่อทำแบบนี้ พ่อไม่ได้คิดจะให้ผจญมันสำนึกได้ แต่เพราะหลานทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าผจญต้องติดคุก จะได้มีที่ดินเอาไว้ขายเอาเงินมาใช้จ่ายกัน เราโตแล้ว ต้องแยกให้ออกว่าเรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทุกคน” ปองภพชื่นชมในการตัดสินใจของบิดา คนดี ๆ แบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาคิดร้ายด้วยเลย เพราะท่านมีแต่ให้จริง ๆ ยมโดยเรียกลูกชายและลูกสะใภ้เข้ามาใกล้ๆ เธอมีบางอย่างอ
ตอนที่ 10ความจริงที่เจ็บปวด ยมโดยโอบกอดลูกชายด้วยความดีใจและเรียกดาวิกาเข้ามากอดด้วย เธอร้องไห้แต่เหมือนยังมีสติ “ฟังแม่นะพล พ่อถูกทำร้าย แม่คิดว่าเมื่อครั้งที่แล้วก็ใช่ แต่ครั้งนี้มันคงหวังให้พ่อพิการหรือไม่ก็ตายเองจากอาการสาหัส และแม่ก็พอเดาออกว่าใคร” ปองพลฟังด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่บุญธรรมของเขามีศัตรู “ใครกันครับ” “น้องชายของพ่อ เพราะวันที่ลูกมาหาแม่และกลับไป เราสองคนได้พูดถึงเรื่องการทำพินัยกรรม พ่อกับแม่จะยกเงินและหุ้นในอู่ต่อเรือของครอบครัวพ่อคืนให้พี่น้องเขา ส่วนทรัพย์สินที่พ่อกับแม่สร้างกันขึ้นมาเอง เราจะยกให้ลูก และวันที่เราพูดเรื่องนี้ก็มีเพียงแม่บ้านที่อยู่ด้วย แต่อีกวันน้องชายคนเล็กของพ่อก็พาหลาน ๆ มาหา” ปองพลตกใจมาก เพราะในบรรดาพี่น้องของพ่อบุญธรรมเขา มีน้องชายคนเล็กเพียงคนเดียวที่ยังไปมาหาสู่กันตลอด “คุณผจญ ท่านดูเป็นคนอ่อนโยนและดูเป็นห่วงพ่อมาก มันจะเป็นเรื่องจริงเหรอครับ” “เขามาที่นี่พร้อมหลาน ๆ และถามพ่อกับแม่เรื่องอู่ที่พ่อกับแม่มีอยู่ เขาพยายามพูดให้เห็นว่าพลเป็นเพียงแค่ล
ตอนที่ 9อุบัติเหตุ ปองภพดีใจที่สุดที่วันนี้มาถึง วันที่เขาได้พูดความจริงและดาวิกาก็ยอมที่จะแต่งงานตามคำขอของเขา ข่าวเรื่องที่ปองภพไม่สบายทำให้ทรงธรรมร้อนใจมากจึงได้รีบเดินทางมาหา โชคดีที่จังหวัดที่เขาอยู่มีสนามบินอยู่ไม่ไกล จึงไม่ใช่เรื่องยากในการเดินทาง “ปองภพลูก” ดอมพาทรงธรรมมาหาปองภพที่ห้องเช่าของเขา ภาพห้องเช่า ข้าวของที่ใช้สำหรับทำกับข้าวขาย และดาวิกากับน้อง อดทำให้ทรงธรรมรู้สึกสงสารไม่ได้ “พ่อได้ข่าวว่าไม่สบาย แม่เขาก็ร้อนใจสั่งให้พ่อมาดูด้วยตาตัวเอง” ปองภพดีขึ้นแล้ว พยายามทรงตัวขึ้นมานั่งคุยกับบิดาที่เดินทางไกลมาด้วยความเป็นห่วง “ไข้ลดตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วครับพ่อ” คนป่วยพูดจบก็หันไปทางดาวิกา เพราะทั้งสองคนยังไม่ได้รู้จักกันเลย “ดา พ่อของพี่” หญิงสาวยกมือไหว้ หัวใจของเธอมันสั่นอย่างบอกไม่ถูก บุคลิกท่าทางของทรงธรรมมีความเป็นทั้งผู้ใหญ่และผู้ดี จนเธอรู้สึกต่ำต้อยเกินไปที่จะไปเป็นสะใภ้ของเขา “น่ารักกว่าที่ฉันคิดไว้นะ เห็นพลเล่าให้ฟังว่าทำกับข้าวเก่งมาก ไว้แต่งงานกันแล้ว ไปหาทำเลเปิดร้
ตอนที่ 8เจ้าของอู่..สู่..พ่อค้าขายแกง “พ่อกับแม่ชักอยากจะเห็นหน้าอนาคตลูกสะใภ้คนนี้จัง แก้เกมได้ทันคนจริง ๆ ” ทรงธรรมฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากปากของลูกชาย เขารู้สึกเห็นด้วยกับดาวิกา การที่ปองภพยืนยันว่าเขาคือคนเดิม เขาก็ต้องกลับไปลำบากอีกครั้งให้ได้ แล้วเวลาหนึ่งเดือน ไม่ใช่เรื่องที่จะฝืนทนกันได้ถ้าไม่เต็มใจ “ปองภพแล้วลูกล่ะคิดว่าทำได้ไหม” ชายหนุ่มถามคำถามนี้กับตัวเองมาทั้งคืนแล้ว และเขาก็มีคำตอบเดียวในหัวใจ “บ้านไม่มีอยู่ นอนใต้ต้นไม้ ขอข้าววัดกิน ผมก็ผ่านมาแล้ว เพิ่งจะได้เป็นคุณปองภพแค่ไม่กี่ปี ผมว่าตัวเองยังคุ้นชินกับความจนมากกว่าความรวยเสียอีก” พ่อกับแม่ได้ยินลูกชายบุญธรรมพูดแบบนี้ก็ทั้งสบายใจและดีใจ เพราะทั้งสองคนตั้งใจจะยกสมบัติทั้งหมดที่เขาสองคนหามาได้ให้กับปองพล ส่วนสมบัติที่ได้จากบรรพบุรุษ ทั้งคู่จะคืนให้กับคนในตระกูล ยมโดยหันไปพูดกับสาวมี ด้วยน้ำตานองหน้า จนทรงธรรมตกใจรีบเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วกอดภรรยา “เราเลือกคนไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ ภพไม่เคยลืมตัว ถึงเขาจะไม่ใช่สายเลือดแต่เขาคือผู้ให้ชี
ตอนที่ 7 เสียความรู้สึก “เป็นอะไรวันนี้ กลับบ้านทำหน้าตาเหมือนเบื่อโลก” ดาวิกาเห็นหน้าน้องชายแล้วอดถามไม่ได้ เพราะปกติกลับมาจากที่ทำงานจะร่าเริงและจะต้องมาอวดว่าวันนี้ทำงานได้เงินเท่าไหร่ แต่วันนี้กลับเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเศร้า ๆ เหมือนมีความกังวลอยู่ในใจ “พี่ดาวันเสาร์นี้ที่อู่จัดงานเลี้ยง เจ้านายผมบอกให้พี่ไปด้วย ตกลงนะ” ดอมถามเองตอบเอง และไม่ยอมมองหน้าพี่สาว ด้วยกลัวตัวเองจะเผลอแสดงพิรุธอะไรไป “พี่ไม่รู้จักใครแล้วจะให้พี่ไปทำไม” หญิงสาวเดินตามน้องชายเพื่อต้องการอยากรู้เหตุผล เพราะเธอไม่ใช่พนักงานที่นั่น “เขากินกับข้าวพี่กันทุกคน เขาก็รู้จักพี่กันทั้งนั้นและ เพื่อนผมก็ไอ้พวกที่มาช่วยยกของ ล้างของบ่อย ๆ ไปเถอะ หาซื้อชุดสวย ๆ ใส่ไปด้วยนะ งานเริ่มหนึ่งทุ่มเสาร์นี้” ดาวิกาไม่อยากขัดใจน้องชายและเห็นดอมดูอารมณ์ไม่ค่อยดีจึงไม่อยากถามต่อ ดอมปิดไฟได้เวลาเข้านอน ห้องเช่าสี่เหลี่ยมที่ไม่เล็กมาก พอให้สองพี่น้องมีมุมแยกกันส่วนตัว แต่ก็มองเห็นกันได้ ชายหนุ่มนอนมองพี่สาวที่เอาแต่เฝ้าจับโทรศัพท์ตลอด เ
ตอนที่ 6บอกผู้ใหญ่ ยมโดยแม่บุญธรรมของปองภพมีอาการไม่ค่อยดี เพราะเธอเดินไม่ได้แต่ยังพยายามที่จะลุก จนล้มหน้าคว่ำกับพื้น ทรงธรรมมีเรื่องยุ่ง ๆ เกี่ยวกับการสั่งเครื่องจักรเข้ามาในอู่ที่ใต้ ขาจึงต้องเดินทางไปจีน จึงให้ปองภพลงมาดูแลยมโดยแทนเขา “เมื่อคืนแม่ก็อยู่คนเดียวได้ ไม่เห็นต้องยุ่งยากให้ภพมาดูแม่เลย” ยมโดยเป็นผู้หญิงเก่ง เธอมาจากครอบครัวที่ยากจนเป็นชาวประมงและมาพบรักกับทรงธรรมที่เป็นลูกชายเจ้าของอู่ต่อเรือ แต่ทรงธรรมไม่ใช่ลูกชายคนโปรดเพราะดันไปรักกับผู้หญิงจน ๆ อย่างยมโดย จึงได้สมบัติมาแค่เพียงหยิบมือและมาเริ่มต้นสร้างฐานะกันใหม่ “อยู่ได้ผมเชื่อ แต่แม่ไม่อยากให้ผมมาอยู่ด้วยเหรอ” ปองภพก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขารู้จักกับครอบครัวนี้แค่ไม่กี่ปี แต่ทำไมเขารู้สึกผูกพันกับทั้งสองคนมากและเขาก็คิดว่าทั้งสองคนก็รักเขาเหมือนลูกจริง ๆ “แม่เหงาจังเลย เกิดมาก็ดันมีกรรมไม่มีลูกอย่างใครเขา เมื่อไหร่ภพจะมีเมียแม่อยากอุ้มหลาน” สายตาที่เว้าวอนของคนที่เดินไม่ได้ มันทำให้หัวใจของปองภพรู้สึกใจหาย “คุณแม่ครับ คือตอนนี้ผมมีแฟน
ตอนที่ 5การให้ที่ยิ่งใหญ่ วันนี้ปองพลนัดดาวิกามาเจอทั้งที่ไม่ใช่วันหยุด หญิงสาวจึงต้องทำกับข้าวมาขายให้น้อยกว่าเดิมเพื่อที่จะได้หมดไวขึ้น “มีอะไรด่วนเหรอคะ พี่พลถึงต้องนัดดามาเจอวันนี้” ปองพลยื่นซองสีน้ำตาลให้กับหญิงสาว พร้อมกับซอง สีขาวเล็กอีกซองหนึ่ง “มสธ. กำลังใกล้จะปิดรับสมัครและนี่เงินลงทะเบียน เรียนต่อนะ” “เพื่ออะไรคะ พี่พลจะให้ดาเรียนต่อด้วยเงินของพี่เพื่ออะไร” ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของคนรัก ด้วยท่าทีที่จริงจังและแววตาที่มั่นคง “เพื่อเรา พี่อยากสร้างครอบครัวกับดา อย่างน้อยถ้าดาเรียนจบปริญญาตรี ลูกเราจะได้ไม่ลำบาก ทำเพื่อเรานะ” ปองพลไม่รอให้อีกฝ่ายได้คิดและปฎิเสธ เขาก็ขึ้นรถรับจ้างออกไปทันที ดาวิกามองซองทั้งสองซองด้วยความไม่เข้าใจ ตอนนี้เธออายุยี่สิบกว่าแล้ว อยู่ดี ๆ ทำไมปองพลเขาถึงอยากให้เธอเรียนต่อ แต่ในเมื่อคนรักต้องการ เธอก็จะทำให้ดีที่สุด “นั่งเขียนอะไรพี่ดา เห็นทำหน้าจริงจังเชียว” ดอมถามเพราะวันนี้เขาทำโอทีแค่สองทุ่มกลับมาก็เห็นพี่สาวนั่งเขียนอะไรบางอย่างถึงขั
ตอนที่ 4ความในใจ ดาวิกากลับมาถึงบ้าน ภาพที่เธอเห็นคือข้าวของทุกอย่างที่ดอมเอาไปถูกล้างอย่างเรียบร้อย ตอนแรกเธอคิดว่าต้องกลับมาล้างเอง เพิ่งจะเคยเห็นเหมาไปแล้วยังล้างมาให้อีก หญิงสาวคิดขึ้นมาได้ว่าลืมบอกปองภพว่า หัวหน้ายามที่นี่ก็บ่นหาอยู่ อยากให้แวะมาหาเขาบ้าง เธอจึงลองโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์ที่ชายหนุ่มโทรมา แต่ปรากฏว่าปิดเครื่อง “อะไร แยกกันได้ไม่ถึงชั่วโมงปิดเครื่อง” คนโทรได้แต่บ่นกับตัวเอง มีด้วยเหรอคนเราจะออกจากบ้านเดินทางไปที่อื่นจะปล่อยให้แบตเตอรี่หมด ดอมกลับมาจากทำงานพอดี แต่นี่ไม่ใช่เวลาเลิกงาน ดาวิกาสงสัยว่าน้องชายทำไมกลับมาก่อน “กลับมาเอาอะไร ยังไม่ใช่เวลาเลิกงานนี่” “กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เย็นนี้นายจะให้ทำโอทีคงกลับประมาณห้าทุ่มให้ชั่วโมงละ300เลยนะ ลองคิดสิตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงห้าทุ่ม 1500เลย เดือนนี้ได้เงินจ่ายค่าห้องไม่ต้องควักเงินเดือนแล้ว แต่ทำสองวันติดเลยนะพี่” หญิงสาวฟังน้องชายและคิดตาม แค่เงินเดือนตอนนี้ดอมก็ได้ถึงหมื่นสาม ยังจะมีโอให้อีกสามพัน มันดูมากไปสำหรับพนักงานใหม่
ตอนที่ 3ลองใจ นับจากวันนั้น วันที่ปองภพมาหาดาวิกา เธอก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเขาอีกเลย ทุกวันเธอจะเหลือเมนูที่เขาชอบไว้ เพราะกลัวว่าถ้าเกิดวันใดที่ปองภพมาเขาจะไม่ได้กิน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลกที่หญิงสาวไม่ได้บันทึกเบอร์ไว้ เธอภาวนาขอให้ใช่คนที่เธอรอคอย “สวัสดีค่ะขอสายพี่นกค่ะ” “ไม่มีค่ะ คุณคงโทรผิดเบอร์” หญิงสาวถอนหายใจ ให้กับฝันสลายที่หายวับไปทันใด สุดท้ายเป็นแค่เพียงคนโทรผิด ดอมกลับมาที่ร้านทั้งที่เขาเพิ่งจะออกไปทำงานไม่ถึงสองชั่วโมง “พี่ดา นายให้มาเหมากับข้าวให้หมดเลย วันนี้นายจะเลี้ยงอาหารกลางวันลูกน้องและถ้าเหลือจะให้แบ่งกันกลับบ้าน” ดาวิกายืนงงด้วยความแปลกใจทำอะไรไม่ถูก ดอมและเพื่อนช่วยกันขนหม้อขึ้นรถ ปล่อยให้แม่ค้าคนสวยยืนงงอยู่คนเดียว “แล้วข้าวของพี่จะได้คืนเมื่อไหร่ พรุ่งนี้พี่ต้องทำกับข้าวแต่เช้ามืดนะ” “บ่ายนี้ผมจะเอาไปไว้ที่ห้องเอง ไม่ต้องเป็นห่วง” กับข้าวถูกขนไปหมดแล้ว ดาวิกาจึงเก็บร้าน เพราะจะได้กลับไปทำงานบ้านต่อ โชคดีของเธอที่มีคนมาเหมาจะได้มีเวลาทำงานบ้านบ้าง
Comments