Share

ตอนที่ 2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-22 22:36:31

ดวงตาคมกวาดมองชุดนักศึกษาที่เปียกปอนไปครึ่งตัวก่อนถามอีกรอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่ากำลังสะกดอารมณ์เต็มที่

                “ไปเรียนใช่ไหม...ที่ไหน?”

                พนิตนันท์เอ่ยชื่อมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบายิ่งกว่าเดิมเมื่อจับคลื่นบางอย่างได้จากคำถามเมื่อครู่

                คนบนรถเอ่ยสวนทันควันโดยไม่ต้องคิดว่า

                “ขึ้นมา...เดี๋ยวไปส่ง”

                “เอ่อ...”

                “จะรอให้เปียกทั้งตัวหรือไง” เจอน้ำเสียงดุของอีกฝ่ายเข้า พนิตนันท์ก็ตาลีตาเหลือกเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับแล้วขึ้นไปนั่ง

                แต่แล้วก็กังวลเมื่อตระหนักว่าเบาะรถนั้นเป็นเบาะหนังแท้สีครีมสะอาดสะอ้าน

                “เอ่อ...ตัวหนูเปียก กลัวเบาะจะ...เปียก...”

                “เปียกก็เปียก เดี๋ยวก็แห้ง แต่เราน่ะตัวเปียกขนาดนี้ จะไปเรียนยังไง ให้วกรถกลับไปไหม เปลี่ยนชุดใหม่แล้วเดี๋ยวฉันไปส่ง”

                “ไม่ค่ะ!” น้ำเสียงที่ปฏิเสธนั้นแข็งจนคนฟังจับสังเกตได้ คิ้วเข้มหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย กวาดตามองดวงหน้าของเด็กสาวเร็วๆ คราบน้ำตาที่ค้างอยู่บนดวงหน้าจึงมิได้รอดสายตาคมปลาบ

                “รีบหรือเปล่า มีเรียนกี่โมง” เขาถอนสายตากลับพลางเคลื่อนรถออก

                “เรียนบ่ายค่ะ”

                “เรียนบ่าย? แล้วออกไปทำไมแต่เช้า ไม่รอให้ฝนหยุดก่อน” เขาเปรยด้วยความสงสัย ครั้นเห็นท่าทางอ้ำอึ้งเหมือนอึดอัดใจของเด็กสาว กับคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลือก็เลยพอประมวลได้ว่าเจ้าหล่อนคงมีปัญหาบางอย่างกับทางบ้าน “ไว้ใจฉันไหม?”

                จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมา พนิตนันท์หันไปมอง ดวงตากลมโตมีแววแปลกใจ...และไม่เข้าใจ

                “เอ่อ...”

                “ฉันจะพาไปคอนโดของฉัน ที่นั่นอยู่ไม่ไกลจากที่ที่เธอเรียนเท่าไร มีทั้งเครื่องซักผ้าเครื่องอบผ้า จะได้จัดการกับชุดเปียกๆ นี่ก่อน ไปเรียนทั้งตัวเปียกๆ แบบนี้ไม่ไหวหรอก รับรองพรุ่งนี้เธอป่วยแน่”

                พอได้ยินเหตุผลของเขา พนิตนันท์ยิ่งตอบไม่ถูก ถึงจะรู้จักเขา แต่หล่อนก็ไม่ได้รู้จักเขามากพอที่จะตอบได้เต็มปากว่า...ไว้ใจเขา หล่อนจึงอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไร

                “หนู...”

                “เอาเถอะ เอาเป็นว่าไว้ใจฉันได้” เขาตัดบทแล้วก็จบการสนทนาเพียงเท่านั้น ในรถจึงมีแต่ความเงียบ

                พนิตนันท์ผินหน้ามองออกไปนอกรถตลอดทาง หญิงสาวจมอยู่กับความคิดตนเองจนไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกจับตามองเงียบๆ

เสียงทอดถอนลมหายใจอย่างลืมตัวดังมาจากร่างบอบบางหลายครั้งหลายครา จนคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยลอบชำเลืองมองบ่อยครั้ง

                ฤทธิเคยเห็นเด็กสาวมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิงตัวผอมบางอายุเพียงแปดหรือเก้าขวบ แม่ของเจ้าหล่อนมาขอทำงานที่บ้าน ทว่าทำได้ไม่นานก็ลาออกไป ตอนนั้นเขากลับมาบ้านช่วงซัมเมอร์

                เด็กหญิงตัวเล็กท่าทางขี้กลัวไม่ได้อยู่ในสายตาหนุ่มวัยเบญจเพศหรอก ทว่าวันหนึ่งเขาขับรถจะออกไปเจอเพื่อนๆ แล้วผ่านชุมชนที่เด็กหญิงอยู่ เห็นร่างผอมบางนั่งชันเข่าอยู่บนพื้นสองมือยกบังศีรษะไว้ขณะที่มีเด็กโตกว่ารุมล้อมตะโกนร้องอะไรสักอย่างด้วยท่าทางสนุกสนาน

            เขาจอดรถเลียบฟุตบาธได้ ก็เปิดประตูเดินไปยังกลุ่มเด็กๆ ที่มีกันราวห้าหกคน ต่างก็ร้องตะโกนด้วยประโยคซ้ำๆ

            ‘อีไม้เสียบผี’

อีไม้เสียบผี’

อีไม้เสียบผี’

แกล้งเพื่อนแบบนี้ไม่น่ารักเลย’

แค่ได้ยินเสียงผู้ใหญ่ห้าม กลุ่มเด็กที่โตกว่าก็แตกกระจายหนีหายกันไปหมด เหลือเพียงเด็กหญิงตัวเล็กผอมบางที่นั่งร้องไห้น้ำตานองหน้า

เขายื่นมือไปรั้งแขนเล็กๆ ให้ลุกขึ้นยืน ช่วยปัดฝุ่นออกจากกางเกงขายาวเก่าซอมซ่อที่มีรอยปะชุนหลายแห่ง แล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยน

ทีหลังเจอแบบนี้ห้ามร้องไห้ ยิ่งร้องเขาก็ยิ่งสนุกกัน ไม่อยากโดนแกล้งก็ต้องลุกขึ้นสู้ เถียงกลับไปเลยให้เขารู้ว่าเราไม่กลัว’

แต่...หนูก...กลัว’

จำได้ว่าเด็กน้อยตอบกลับมาแบบนั้น เล่นเอาเขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ หลังจากถามไถ่หาแม่ของเด็กหญิงจนรู้ว่าออกไปทำงาน ทิ้งให้เด็กหญิงอยู่บ้านเลี้ยงน้องเพียงลำพัง เขาก็เลยพาไปส่งที่บ้าน ไม่ได้เข้าไปส่งถึงบ้านหรอกก็แค่หน้าปากซอยเข้าบ้านเท่านั้น

นับจากวันนั้นทุกครั้งที่ขับผ่านชุมชนเขาก็มักจะมองหาเด็กหญิงตัวเล็กผอมบางอยู่เสมอ กระทั่งเขากลับไปเรียนต่อ...และกลับมาในอีกสามปีถัดมา ก็ได้ยินข่าวว่าเด็กหญิงถูกส่งไปอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดเสียแล้ว

วันนี้เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งเดินออกมาจากซอยย่อย แล้วเดินไปตามฟุตบาธทั้งที่ฝนตกหนักจนร่มคันเล็กที่เจ้าหล่อนกางแทบจะกันฝนไม่ได้ ฤทธิก็ประหวัดถึงเด็กหญิงเมื่อสิบปีก่อนทันที ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันอีกเลยนับแต่เขาเรียนจบกลับมาจากต่างประเทศ

เค้าหน้าเจ้าหล่อนไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไร แม้ว่ารูปร่างจะเปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตา จากเด็กตัวเล็กผอมบางกลายเป็นเด็กสาวรูปร่างสูงโปร่งราวนางแบบ

เห็นคนในชุดนักศึกษาเปียกปอนไปครึ่งตัวแบบนั้น เขาก็เลยขับตาม พยายามบีบแตรเรียกทว่าเจ้าหล่อนเหมือนตกอยู่ในภวังค์ส่วนตัว จึงไม่ได้ยิน

เขาลองบีบแตรอีกครั้ง...ดังๆ จนหล่อนสะดุ้งตกใจ นั่นแหละหล่อนจึงได้มานั่งอยู่บนรถเขา

ฤทธิเหลือบมองเด็กสาวอีกครั้ง...ความที่ผ่านโลกมามากกว่า จึงทำให้เดาได้ว่าเจ้าหล่อนคงเพิ่งจะผ่านเรื่องอะไรบางอย่างมา...อาจจะทะเลาะกับที่บ้านกระมัง

ดวงตาคมเลื่อนผ่านเสี้ยวหน้าด้านข้างมายังลาดไหล่ที่ห่อน้อยๆ คล้ายเจ้าตัวกำลังหนาวสั่น แน่สิ...เสื้อเปียกขนาดนั้น แล้วมาเจอแอร์เย็นๆ ในรถอีก

“หนาวเหรอ...เดี๋ยวนะ” เขาปรับแอร์ฝั่งที่นั่งข้างคนขับให้อุณหภูมิสูงขึ้น แล้วอาศัยจังหวะที่รถติดไฟแดงเอื้อมไปเบาะหลัง เขามีกระเป๋าใส่ชุดกีฬาเตรียมไว้เผื่อไปฟิตเนสติดรถไว้เสมอ และในกระเป๋าก็มีผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ใหม่เอี่ยมผืนหนึ่ง

คว้าผ้าเช็ดตัวออกจากกระเป๋าได้ ฤทธิก็ยื่นไปให้เด็กสาว

“ขอบคุณค่ะ” หล่อนเอ่ยขอบคุณแล้วรับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่มเนื้อตัวที่เปียกปอนหนาวสั่น

“ฉันก็ลืมไปว่าตัวเธอเปียกพอเจอแอร์แล้วหนาว” ไม่มีคำตอบจากเด็กสาว เขาจึงเอ่ยต่อ “ได้ยินว่าไปอยู่กับยาย”

“ค่ะ ยายเสีย...หนูก็เลยต้องกลับมาอยู่นี่...กับแม่”

“ฉันเสียใจด้วย เรียนมหาวิทยาลัยแล้วเหรอ คณะอะไร”

“บริหาร บัญชีค่ะ”

“อืม เก่งนี่” เขาชม นึกทึ่งไม่น้อยก่อนจะหันไปบอกเมื่อตีไฟเลี้ยวเข้าซ้าย “ใกล้ถึงแล้วล่ะ”

ฤทธิได้รับคอนโดมิเนียมแห่งนี้เป็นของขวัญจากพ่อในวันที่เขาเรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐ เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ

กระทั่งพ่อประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตไปเมื่อสี่ปีก่อน จึงได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านเพื่อดูแลแม่ หลังจากแต่งงานเขาคิดจะขายที่นี่ทิ้ง แต่สุดท้ายก็เก็บไว้ นอกจากไม่ขายแล้ว เขาก็ไม่คิดจะให้ใครเช่าด้วย บางวันถ้าเลิกงานดึกก็มักจะแวะมานอนค้าง ยิ่งระยะหลัง...เขาแวะมาบ่อยครั้งเมื่อเคร่งเครียดกับหลายเรื่อง เรื่องภรรยาก็เป็นหนึ่งในนั้น!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อุ้มรักเจ้าหนี้หัวใจ   ตอนที่ 32

    มันยากเหลือเกินที่จะยอมรับในสิ่งที่เพิ่งตระหนักแน่แก่ใจตนเอง นี่เขา...หึงหล่อน!เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึงหึงหวงเด็กคนนั้นกับเพื่อนชายจนหน้ามืดตามัว แต่บทรักเมื่อเช้านั่น...ให้ตายเถอะ!ยิ่งกว่าสุดยอด!และนั่นก็ทำให้เขาเอ่ยปากบอกหล่อนขณะที่ต่างก็นอนหอบหายใจอยู่บนเตียงหลังบทรักเร่าร้อนผ่านไป‘เย็นนี้จะพาไปเที่ยว ทำรายงานเสร็จรีบกลับมานะ’พรุ่งนี้เขาต้องเดินทางไปภูเก็ตเพื่อเช็กความคืบหน้าของงานที่นั่น เลยคิดจะพาเด็กสาวไปด้วย แต่ไม่ได้บอกเจ้าหล่อนหรอกว่าจะพาไปต่างจังหวัด แค่บอกว่าจะพาไปเที่ยวเท่านั้นเมื่อไปถึงออฟฟิศเขาจึงเรียกหาเลขานุการส่วนตัวเพื่อให้จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบิน แม้จะฉุกละหุกไปนิดแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ ไม่ถึงสิบนาทีถัดมาเลขาฯ ก็พรินต์ตั๋วเครื่องบินอิเล็กทรอนิกส์ออกมาให้เขาสองใบ เป็นเที่ยวบินสุดท้ายของวันนี้ฤทธิมองตั๋วในมือแล้วยิ้มอย่างพอใจ เขาอยากพาเด็กสาวไปเปิดหูเปิดตา ส่วนเรื่องเปลี่ยนบรรยากาศนั้นถือว่าเป็นผลพลอยได้แล้วกันหลังจากนั้นชายหนุ่มก็ทำงานเคลียร์เอกสารที่เลขาฯ ใส่แฟ้มวางไว้บนโต๊ะทำงาน จนกระทั่

  • อุ้มรักเจ้าหนี้หัวใจ   ตอนที่ 31

    พอวางสาย เงยหน้าจากโทรศัพท์ สายตาพนิตนันท์ก็ปะทะกับสายตาคมดุที่จดจ้องมองนิ่ง“ยังติดต่อกับหมอนั่นอยู่เหรอ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยก็จริง แต่ทำไมคนฟังจึงใจเต้นโครมครามก็ไม่รู้“เอ่อ...ก็ ยังเรียนด้วยกันบางวิชา เลยต้องติดต่อกันอยู่ค่ะ แต่ก็เฉพาะเรื่องเรียน” ตอบไปแล้วก็นึกไปถึงวันที่อาชว์ตามไปห้องสมุดด้วย วันนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องเรียนเหมือนกันใช่ไหม...“ยังจำที่บอกได้ใช่ไหม?”คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถาม ...อะไรล่ะ เขาบอกตั้งเยอะตั้งแยะนี่นา ใครจะไปจำได้ว่าหมายถึงเรื่องไหน...สีหน้าครุ่นคิดวุ่นวายเพราะนึกไม่ออกนั่นทำให้ฤทธิหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ตั้งใจว่าจะออกไปทำงานแล้วแท้ๆ แต่หล่อนก็ทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจชายหนุ่มย่างสามขุมกลับมาหาสาวน้อยที่ก้าวถอยหลังเมื่อรู้สึกถึงการคุกคามจากอีกฝ่าย“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม...หนึ่ง...”“เอ่อ...เรื่องที่คุณคุยวันนี้ ว่าจะให้หนูท้อง...ใช่ไหมคะ?”เขาส่ายหน้า แต่คำตอบของหล่อนกำลังทำให้เขาเกิดความ ‘ต้องการ’ ขึ้นมาเนี่ยสิ“ไม่ใช่! แต่ในเมื่อเธอพ

  • อุ้มรักเจ้าหนี้หัวใจ   ตอนที่ 30

    เช้ารุ่งขึ้นหลังจากล่ำลาคนป่วยและบอกกล่าวเรื่องที่เขาจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดช่วงเสาร์อาทิตย์ ฤทธิก็ออกไปทำงาน ทว่าออฟฟิศไม่ใช่ที่แรกที่เขาไปเขาโทรศัพท์บอกพนิตนันท์ตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะแวะมาหาหล่อนตอนเช้า และมีเรื่องจะคุยด้วย ที่จริงก็เป็นการบอกเจ้าหล่อนกลายๆ นั่นแหละว่าเขาจะไม่เข้าไปค้างที่นั่นหล่อนจะได้ไม่รอชายหนุ่มก็ไม่ได้คาดหวังว่าเด็กสาวจะรอหรอก...หล่อนอาจจะดีใจก็ได้ที่เขาไม่ไปหาหลังจากเมื่อคืนเขาก็รู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลินินดูเหมือนจะมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากทุกข์โศกโรคภัยโหมกระหน่ำเข้ามาอย่างไม่ยั้ง นี่คงเป็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ที่ทำให้หล่อนมีหวังเรื่องลูกขึ้นมาอีกครั้งนั่นทำให้ฤทธิตัดสินใจเด็ดขาด...เขาจะไม่ยื้อเวลาระหว่างตัวเองกับเด็กสาวออกไปอีกแล้ว เขาต้องทำให้หล่อนท้องโดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ยุติความสัมพันธ์นี้ตามสัญญาที่ตกลงกันไว้เขาก้าวมาหยุดหน้าประตูพอดี มือที่เอื้อมแตะแป้นเพื่อจะกดรหัสเข้าประตูชะงักค้างก่อนจะดึงมือตัวเองกลับแล้วซุกลงกระเป๋ากางเกง แล้วมองประตูตรงหน้านิ่งนานด้วยสายตาครุ่นคิดไตร่ตรอง

  • อุ้มรักเจ้าหนี้หัวใจ   ตอนที่ 29

    ค่ำวันนั้นฤทธิแวะไปเยี่ยมภรรยาที่โรงพยาบาล แม่ยายของเขากลับไปแล้ว สองสามีภรรยาจึงมีเวลาอยู่กันตามลำพังท่าทางของลินินบ่งบอกว่าร้อนใจ เจ้าหล่อนคงเจอแรงกดดันจากผู้เป็นแม่ไม่น้อย เพราะคุณแพรพรรณนั้นขึ้นชื่อเรื่องความละเอียดรอบคอบและเจ้ากี้เจ้าการ“ลินินไม่น่าเลย...ไม่น่าพลั้งปากออกไปเลยค่ะฤทธิ” หล่อนบ่นออกมาเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ผู้เป็นสามีได้แต่ปลุกปลอบด้วยการตบไหล่บอบบางของภรรยาเบาๆ“ช่างมันเถอะ มาคิดหาทางแก้กันดีกว่า นี่แม่คุณโทรบอกแม่ผมเรียบร้อย ตอนนี้แม่เลยรู้เรื่องไปด้วย แต่กับแม่น่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะแม่เคยเห็นและก็พอจะรู้จักนันท์”“ลินินขอโทษนะคะฤทธิ พลอยทำให้คุณต้องลำบากไปด้วย แล้วคุณแม่ว่าอย่างไรบ้างคะ?”“ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก...บ่นๆ ทำนองน้อยใจนั่นแหละ ว่าไม่เห็นหัวแม่ ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ แต่แม่กลับไม่รู้เรื่องเลย” ฤทธิเล่า...แต่เว้นเรื่องที่มารดารู้ว่าเขากับพนิตนันท์นอนด้วยกันไว้เสีย“แล้วนันท์รู้เรื่องหรือยังคะ?”“ยัง ผมยังไม่ได้บอกอะไรเด็กนั่น”“ยังไม่ต้องบอกหรอกค่ะ เดี๋ยวเรื่องคุณแม่ลินินจะหาทางจัด

  • อุ้มรักเจ้าหนี้หัวใจ   ตอนที่ 28

    คิ้วเข้มเหนือดวงตาคมขมวดเข้าหากันทันทีหลังฟังปลายสายบอกเล่าความประสงค์ของผู้เป็นแม่ยายให้ฟัง แม้ลินินจะไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรเท่าไร แต่เขาก็รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่า ภรรยาซุกซ่อนความกังวลใจบางอย่างเอาไว้ฤทธิพอจะรู้จักผู้เป็นแม่ยายอยู่บ้างว่ารายนั้นรักและห่วงลูกสาวอย่างมาก เพราะเป็นลูกคนเดียวความห่วงใยนี่แหละที่ทำให้บางครั้งก็เจ้ากี้เจ้าการโดยไม่รู้ตัว ส่วนภรรยาของเขาก็คงอยากปฏิเสธ แต่ก็น้ำท่วมปาก ไม่รู้จะปฏิเสธแม่อย่างไร...ก็ประสาลูกสาวหัวอ่อนที่ไม่เคยมีปากมีเสียงกับแม่นั่นแหละแต่ประเด็นอยู่ที่...ฤทธิคิดว่าพนิตนันท์ก็ไม่พร้อมที่จะพบเจอผู้ใหญ่ทางฝ่ายลินิน กับมารดาของเขานั้นเจ้าหล่อนคุ้นเคยเพราะเคยเจอมาตั้งแต่เด็กๆ และแม่เขาก็ยังไม่รู้เรื่องอุ้มบุญอะไรนี่ด้วยแต่คุณแพรพรรณซึ่งรู้เรื่องจากปากลูกสาวแล้ว ย่อมต้องมองพนิตนันท์ด้วยสายตาอีกแบบที่ฤทธิมั่นใจว่า เด็กสาวคงเกิดความรู้สึกประหม่าทีเดียวเหมือนตอนที่เขาจีบลินินใหม่ๆ และต้องไปพบเจอพ่อแม่ของหล่อนครั้งแรกนั่นแหละครั้งนั้นคุณแพรพรรณก็มองเขาด้วยสายตาพิเคราะห์และจับผิดจนเขาแทบไม่เป็นตัวขอ

  • อุ้มรักเจ้าหนี้หัวใจ   ตอนที่ 27

    ร่างผ่ายผอมบนเตียงคนไข้นั้น นับวันก็ยิ่งผอมลงจนหนังแทบจะหุ้มกระดูก โรคร้ายที่รุมเร้าพรากความสดใสและสวยงามไปจากหญิงสาวไปจนแทบจะไม่เหลือคุณแพรพรรณผู้เป็นมารดาซึ่งแวะมาเฝ้าลูกสาวเป็นประจำทุกวันถึงกับถอนใจออกมาเบาๆ“ยายหนู...กินอะไรสักหน่อยไหมลูก เดี๋ยวแม่ไปชงอาหารเสริมมาให้ไหม ถ้ากินข้าวไม่ลง” นางเสนอ...เมื่อสำรับอาหารที่พยาบาลนำมาเสิร์ฟ ยังมิได้รับการแตะต้อง“ค่ะ แม่”ได้ยินดังนั้นคุณแพรพรรณจึงกุลีกุจอไปชงอาหารเสริมมาให้คนที่นอนบนเตียง ความรักของแม่ที่มีต่อลูกทำให้นางสะท้อนใจไม่น้อยเมื่อต้องมาเห็นลูกเจ็บป่วยแบบนี้ นับแต่รู้ว่าลูกสาวป่วย นางแทบไม่เคยนอนหลับอย่างเป็นสุขด้วยหวงห่วงสารพัด“พอออกจากโรงพยาบาล แม่ว่าหนูกลับไปอยู่บ้านเราก็ดีเหมือนกันนะ อยู่ใกล้ๆ แม่ก็หายห่วง จะได้ดูแลกันได้ถนัดถนี่”ริมฝีปากแห้งผากของคนป่วยคลี่ออกเป็นรอยยิ้มเมื่อได้ยินผู้เป็นแม่เปรย“ไหนตอนแรกแม่ไม่เห็นด้วย หาว่าหนูทิ้งฤทธิไว้คนเดียว”“ก็ตอนแรกแม่ก็ห่วงนายฤทธิเขา ผัวเมียกันน่ะลูก อยู่ห่างกันมากก็ไม่ดี แต่พอเห็นหนูเป็นแบบนี้แล้ว ถ้านายฤทธิเขายังมีแ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status