สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
ร่างระหงที่กำลังลากกระเป๋าเดินออกมาจากประตูทางออกของผู้โดยสารขาเข้าเรียกสายตาคนมองอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตาของเธอก็ล้วนแต่เป็นที่สะดุดตาจนเหล่าแฟนคลับที่มารอต้อนรับดารานักร้องที่ตนชื่นชอบแอบเก็บภาพของเธอเอาไว้ด้วย หญิงสาวไม่ได้สนใจต่อสายตาของผู้คนที่จับจ้องมองมาที่เธอ เธอเยื้องย่างไปที่เคาน์เตอร์ของบริการซิมการ์ดบริษัทดัง แล้วยื่นเอกสารให้พนักงานเพื่อลงทะเบียนซิมการ์ดให้แก่เธอ
หลังจากเปลี่ยนมาใช้ซิมการ์ดของประเทศไทยแล้วหญิงสาวจึงมุ่งตรงไปยังชั้นใต้ดินเพื่อแลกเงินดอลลาร์จำนวนหนึ่งที่พกมาให้เป็นเงินไทย ดีที่มารดาเปิดบัญชีธนาคารไทยให้เธอ เธอจึงมีเงินไทยที่อยู่ในบัญชีไทยมากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ลำพังในประเทศที่แสนอบอุ่นนี้ได้สบายๆ ไปจนแก่ ไหนจะบัตรเครดิตสีดำของสามีในนามนี้อีก ริมฝีปากอิ่มฉีกยิ้มออกมา
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นดารานางแบบหรือเปล่าครับ”
ผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยสูทหรูที่เพิ่งจะแลกเงินเยนคืนหลังจากไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นมาตัดสินใจเอ่ยถามสาวสวยตรงหน้าด้วยความสนใจ
“อ่า..ไม่ใช่ค่ะ”
เธอไม่ได้ตอบเขาเป็นภาษาไทย แต่ทว่าเลือกตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษแทน ชายหนุ่มยิ้มเก้อเขินก่อนที่จะขอโทษเธอแล้วเดินจากไป หญิงสาวส่ายหน้าไปมาก่อนที่เดินเข้าไปที่จุดแลกเงิน
เมื่อได้เงินไทยแล้วร่างระหงจึงเยื้องย่างไปยังบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปชั้นหนึ่งที่มีบริการรถรับส่งอยู่ ทุกย่างก้าวของเธออยู่ในสายตาของชายหนุ่มสองคนที่ได้รับคำสั่งมาให้แอบดูแลเธออยู่ห่างๆ โดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว
“เพิ่งมาเที่ยวไทยเหรอครับ” ลุงที่ขับรถแท็กซี่เอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงไทย
“ใช่ค่ะ”
หญิงสาวจึงตอบเขากลับเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน ลุงคนขับแท็กซี่พยายามชวนผู้โดยสารคนสวยคุยเพื่อไม่ให้เธอเบื่อระหว่างเดินทางไปยังโรงแรมหรูในใจกลางเมืองกรุง ที่รถติดมากจนผู้โดยสารที่เคยมาไทยบ่อยๆ หลีกเลี่ยงที่จะไปพักที่นั่นกัน
กว่าจะเดินทางไปถึงโรงแรมห้าดาวใจกลางกรุงก็ถึงกับเย็นย่ำ หญิงสาวที่มีใบหน้าสวยคม ผมสั้นประบ่าสีน้ำตาลธรรมชาติ จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีส้มก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ก่อนที่จะยืนตรงมองดูโรงแรมตรงหน้า พนักงานยกกระเป๋าของโรงแรมเข้ามาต้อนรับและรับกระเป๋าเดินทางของแขกที่มาเข้าพักแล้วเชิญเธอไปยังเคาน์เตอร์ที่มีพนักงานต้อนรับรอคอยอยู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ความสวยของหญิงสาวทำให้ทั้งพนักงานและแขกที่มาเช็กอินเข้าพักมองมาเป็นตาเดียวกัน
“ยินดีต้อนรับสู่กรุงเทพฯ ค่ะคุณผู้หญิง คุณผู้หญิงได้สำรองห้องพักไว้แล้วใช่ไหมคะ”
พนักงานต้อนรับยกมือไหว้ทักทายพร้อมกับเอ่ยออกมาเป็นภาษาอังกฤษ สาวสวยลูกครึ่งที่ไม่เคยลืมความเป็นไทยยกมือรับไหว้อย่างน่ามอง
“สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ... ฉันชื่อ อลินา อารอน อ่า...ขอโทษค่ะ อลินา วินเทอร์ค่ะ”
เธอทักทายกลับพร้อมกับเอ่ยชื่อและนามสกุลของเธอเองออกมา แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอเปลี่ยนนามสกุลไปแล้วจึงรีบพูดแก้ไขชื่อและนามสกุลของเธอกับพนักงานต้อนรับในทันที จากนั้นเธอจึงยื่นพาสปอตให้พนักงานต้อนรับตรงหน้าที่ส่งยิ้มกว้างมาให้เธอ
“คุณผู้หญิงจองห้องสวีตเตียงคิงไซซ์เอาไว้ทั้งหมดสามคืนนะคะ” พนักงานต้อนรับสาวเอ่ยถามเพื่อยืนยัน
“ใช่ค่ะ”
พนักงานตรวจสอบข้อมูลและบันทึกการเข้าพักของแขก จากนั้นจึงแนะนำกฎระเบียบของการเข้าพักอยู่ครู่หนึ่ง
“ขอให้มีความสุขในวันพักผ่อนค่ะ หากมีปัญหาเกี่ยวกับห้องพักหรือต้องการรูมเซอร์วิส คุณผู้หญิงสามารถติดต่อเข้ามาทางแผนกต้อนรับได้เลยค่ะ”
พนักงานส่งพาสปอตคืนให้กับหญิงสาวตรงหน้า พนักงานต้อนรับสาวอีกคนเป็นผู้นำทางอลินาขึ้นไปยังห้องพักของเธอที่อยู่ชั้นสิบห้าของโรงแรมหรูใจกลางกรุงแห่งนี้
“ดารานางแบบจากต่างประเทศเหรอ... สวยจัง สวยจนเราเป็นผู้หญิงยังมองได้แบบไม่อยากละสายตาเลย” พนักงานต้อนรับอีกคนที่รับแขกอีกคนอยู่เอ่ยถามเพื่อนที่เพิ่งจะต้อนรับแขกสาวสวย
“ไม่ใช่หรอก ดูเหมือนจะเป็นลูกครึ่งไทยแต่คงไปโตที่ต่างประเทศแหละ ตอนแรกเธอบอกนามสกุลอารอน แต่ในพาสปอตคือวินเทอร์ไง แล้วดูเหมือนเธอจะนึกขึ้นได้เลยรีบบอกฉันว่าวินเทอร์ ฉันว่าเธอคงแต่งงานแล้วล่ะ”
“สวยขนาดนี้โสดก็คงแปลก” และสองสาวพนักงานต้อนรับก็ต้องหยุดบทสนทนาเอาไว้เพียงแค่นั้นเพราะมีแขกที่เดินทางเข้ามาเช็กอินเข้าพักใหม่ถึงสามราย
พนักงานต้อนรับที่พาแขกสาวขึ้นมาส่งแนะนำการใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ภายในห้องเสร็จจึงออกจากห้องไปทิ้งให้แขกของโรงแรมอย่างเธอได้พักผ่อน อลินาจึงเดินสำรวจไปรอบๆ ห้องอีกครั้งห้องพักห้องนี้มีระเบียงพอให้ได้ออกไปสูดอากาศ หญิงสาวจึงเดินออกไปนั่งที่เก้าอี้ด้านนอกแล้วชื่นชมบรรยากาศในยามเย็นของกรุงเทพฯ จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่หญิงสาวเหม่อมองออกไปโดยไร้จุดหมายอยู่อย่างนั้น รถราที่วิ่งสวนทางกันอยู่บนท้องถนนในยามนี้นั้นไม่ได้มากมายเช่นเดียวกับตอนที่เธอเดินทางมาแล้วมือบางหยิบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังรุ่นใหม่ล่าสุดออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนที่เธอจะยกมันขึ้นมาเพื่อใช้ถ่ายภาพเมืองหลวงของประเทศไทย ในค่ำคืนแรกของการได้มาเยือนในรอบสิบกว่าปีที่ได้มาเยือน เมื่อเก็บภาพจนเป็นที่น่าพอใจหญิงสาวจึงเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วตรงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำก่อนที่จะออกไปหาอะไรรับประทานในมื้อเย็นทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกร่างระหงของลูกครึ่งสาวที่มีส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรก็ก้าวออกจากลิฟต์และเดินออกไปจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว อลินาเดินไปตามทางเดินที่มีร้านค้าอยู่สองข้างทาง หญิงสาวมองเห็นจากระเบียงห้องพัก
หลังจากชั่งใจอยู่นานหนึ่งวันอลินาจึงตัดสินใจติดต่อหาโมเดลลิ่งตามนามบัตรที่ได้รับมาในวันแรกที่มาถึงประเทศไทย มือบางกดเบอร์โทรออกสิบหลักที่แสดงอยู่บนนามบัตร อลินาใจเต้นแรงขณะที่กำลังรออีกฝ่ายรับสายของเธอ อลินานั้นเพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรีมาด้วยวัยเพียงยี่สิบปี งานที่เคยทำส่วนใหญ่ก็จะเป็นพาร์ทไทม์ตามร้านกาแฟเธอทำเช่นนั้นแม้บิดาจะให้เงินใช้ไม่ขาดมือ เป็นเพราะมารดาสอนเธอเสมอว่าไม่ให้รอใช้เงินจากใคร แม้คนคนนั้นจะเป็นพ่อหรือแม่เธอเองก็ตาม เพราะถ้าวันหนึ่งหากพวกเชาไม่อยู่กับเธอแล้ว เธอจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ อลินายึดคำสอนของมารดาเสมอมาจึงไม่เคยที่จะรอแต่เงินของผู้เป็นบิดาหลังจากมารดาจากไปลูซี่ : สวัสดีค่ะ ลูซี่ ผู้จัดการฝ่ายจัดหานายแบบและนางแบบ อเดลโมเดลลิ่งพูดสายค่า ไม่ทราบว่าต้องการติดต่อเรื่องอะไรคะอลินา : สวัสดีค่ะ ดิฉันคือคนที่พี่ให้นามบัตรที่ตลาดนัดกลางคืนเมื่อวันก่อนน่ะค่ะลูซี่ : อ๋อ...คุณน้องที่เป็นลูกครึ่งไทยอเมริกันใช่ไหมคะอลินา : ใช่ค่ะ เอ่อ....เรียกหนูว่าฮาน่าก็ได้ค่ะ พอดีว่าฮาน่าสนใจเรื่องงานเดินแบบที่พี่บอกน่ะค่ะ แต่ว่าฮาน่าไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อนลูซี่ : อุ๊ย!!ไม่เป็นไรเลยจ
พนักงานในทีมดูแลนายแบบและนางแบบถึงกับเสียดายที่ไม่ได้เห็นรูปของว่าที่นางแบบคนใหม่ที่พี่ลูซี่เอ่ยปากชมนักชมหนา ทุกคนลุกจากที่นั่งแล้วเดินออกจากห้องประชุมไปทำงานของตนเองเช่นกัน“ถ้าระดับพี่ลูซี่ไปตามจีบมาด้วยตัวเองคงจะสวยน่าดู ชักอยากจะเห็นแล้วสิ” ธัญญ่าที่ทำหน้าที่ดูแลนางแบบชื่อดังของโมเดลลิ่งนี้หลายคนเอ่ยออกมา“ว่าแต่ถ้าน้องเค้าตกลงเป็นนางแบบของโมเดลลิ่งเราแล้ว งานดูแลน้องเค้าจะตกเป็นของใครล่ะ” อาคมเอ่ย เขามีหน้าที่ดูแลพวกนายแบบชายของโมเดลลิ่ง“ก็คงแล้วแต่พี่ลูซี่จะแจกงานให้แหละ แต่แค่ในมือของพี่ตอนนี้ก็เยอะแล้วล่ะ แต่ละนางธรรมดาที่ไหนกัน มีน้องอิงค์คนเดียวที่ยังไม่เปลี่ยนไป เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด” ธัญญ่าตอบพลางบ่นออกมาเล็กน้อย ยิ่งมีชื่อเสียงก็ยิ่งเรื่องเยอะเรื่องมากสองหนุ่มสาวที่ถือว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเหล่านายแบบนางแบบของอเดลโมเดลลิ่งแห่งนี้แยกย้ายกันไปจัดการงานของตน เพราะเชื่อว่าทั้งคู่ไม่มีใครจะได้งานเพิ่มแน่นอน“ถ้าอย่างนั้นก็เหลือเจ๊พุดซ้อน กับเจ๊จีจี้แล้วล่ะ” ผู้ช่วยสาวที่เดินตามหลังของเจ้าของชื่อทั้งสองมาเอ่ยขึ้น“ฉันยังไงก็ได้ นางแบบที่ฉันดูแลอยู่ก็ไม่ได้มีงานมากมายเหมื
หลังจากที่อลินาตัดสินใจเซ็นสัญญาเป็นนางแบบใหม่ของอเดลโมเดลลิ่ง เจ๊ลูซี่จึงมอบหน้าที่ให้กับพุดซ้อนในการเป็นผู้จัดการคอยดูแลนางแบบใหม่ อลินานั้นแจ้งกับทางโมเดลลิ่งตามความจริงว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงโสด แต่เป็นผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรสแล้ว ตอนแรกที่ได้ยินแม้เจ๊ลูซี่และพุดซ้อนจะรู้สึกตกใจกับความลับของหญิงสาว แต่พอเธออธิบายให้ฟังว่าเป็นการแต่งงานกันแค่เพียงในนาม และสามีของเธอก็เป็นคนอเมริกันจึงไม่มีปัญหาที่ไทยแน่นอน แถมยังเป็นสามีที่ยังไม่เคยพบหน้ากันอีก ซึ่งการพูดคุยก็เป็นไปด้วยดี เพราะเจ๊ลูซี่ก็ไม่อยากปล่อยเพชรเม็ดงามอย่างสาวสวยคนนี้ให้หลุดมือไปเมื่อเซ็นสัญญาเรียบร้อยหญิงสาวจึงขอให้เจ๊ลูซี่หาคอนโดให้เพราะตอนนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรม ซึ่งราคาที่เธอตั้งเอาไว้คือไม่เกินยี่สิบล้านบาท ทั้งเจ๊ลูซี่และพุดซ้อนต่างรู้สึกอึ้งอยู่ไม่น้อยกับราคาของคอนโดที่หญิงสาวต้องการ เพราะสามารถหาซื้อคอนโดหรูได้สบาย ทั้งสองเลยคิดว่าสาวสวยลูกครึ่งคนนี้นั้นคงจะไม่ใช่คนที่ขาดแคลนเรื่องเงินทองมากนัก“ที่นี่สวยใช้ได้ไหมคะน้องฮาน่า”พุดซ้อนเริ่มทำหน้าที่ดูแลนางแบบหน้าใหม่ของอเดลโมเดลลิ่งด้วยการพามาดูคอนโดตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ที่ไ
ความโหดของเอเดน วินเทอร์นั้นคนเป็นเพื่อนสนิทอย่างฮิวโก้รู้ดี แม้จะรู้สึกถึงความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแต่เพราะเพื่อนคนนี้มีพระคุณต่อเขา เขาจึงต้องตอบแทนมันดยการดูแลภรรยาในนามของมันให้ระหว่างที่มันยังยุ่งอยู่กับการจัดการธุระส่วนตัวก๊อก....ก๊อก....ก๊อก....เสียงเคาะประตูจากทางด้านนอกดังขึ้นสองหนุ่มจึงจบบทสนทนากันแต่เพียงเท่านั้น บอสหนุ่มส่งเสียงอนุญาตออกไปประตูจึงถูกผลักเข้ามา เป็นร่างอวบอัดของผู้จัดการฝ่ายจัดหานางแบบและนายแบบของอเดลโมเดลลิ่ง“ว่ายังไงครับลูซี่ เธอตกลงจะซื้อคอนโดต่อผมไหม”“ตกลงค่ะบอส เดี๋ยวลูซี่จะเอาสัญญาซื้อขายกับใบมอบอำนาจในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องนั้นมาให้บอสเซ็นต์นะคะ ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูซี่เองค่ะ” เจ๊ลูซี่รายงานออกมาอย่างฉะฉาน“เยี่ยมมาก....สิ้นปีผมเพิ่มโบนัสให้” เจ๊ลูซี่ถึงกับตาลุกวาว ทำงานที่ไหนก็ไม่เปย์พนักงานดีเท่าที่นี่ก็อย่างว่ามีผู้ถือหุ้นเป็นชาวต่างชาติอยู่อีกคน“ขอบคุณมากค่ะบอส ว่าแต่....บอสจะให้พาน้องฮาน่ามาถ่ายแบบเปิดตัวนางแบบในโมเดลลิ่งของเราเลยหรือเปล่าคะ”“ถ้าทางเราพร้อมแล้วก็ติดต่อนางแบบได้เลย อืม...ถ้าหากเธอไม่คล่องก็ให้หาครูมาสอนเธอนะ
ภาพของนางแบบหน้าใหม่ถูกโปรโมทในทุกช่องทางของอเดลโมเดลลิ่ง แบรนด์ต่างๆ ที่ยังไม่โด่งดังมากนักต่างพากันมาติดต่อนางแบบที่ตรงกับผลิตภัณฑ์ของตัวเองเพื่อไปถ่ายแบบกับสินค้าที่กำลังจะเปิดตัวใหม่เช่นกัน โดยเฉพาะอลินาที่มีหลายแบรนด์ติดต่อจองตัวเธอเข้ามาจนผู้จัดการส่วนตัวต้องคัดเลือกงานให้อย่างจริงจัง“ไม่คิดเลยนะคะว่าผลตอบรับนางแบบน้องใหม่จะดีขนาดนี้” คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของนางแบบที่มีชื่อเสียงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วไม่ค่อยรื่นหู“น้องเขามีของก็แบบนี้แหละจ้ะ เจ๊บอกแล้วว่าเจ๊น่ะดูคนไม่ผิด ทีนี้ก็เหลือแค่ดูตอนทำงานกับตอนมีชื่อเสียงแล้วล่ะว่าจะเปลี่ยนไปไหม แต่เจ๊ว่าพุดซ้อนเอาอยู่ใช่ไหมจ๊ะ งานมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนก็ขยันเข้านะ หนูจะได้โบนัสพิเศษจากบอส”เจ๊ลูซี่กล่าวดักคอออกมาเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยพอใจที่นางแบบใหม่มีคนสนใจมากกว่านางแบบนายแบบที่ตนดูแลอยู่“ใหม่ๆ ก็หนิมๆ ติ๋มๆ ดูสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ว่านอนสอนง่ายแบบนี้ทุกคนแหละเจ๊ พอมีชื่อเสียงขึ้นมาหน่อย พวกฉันต้องดูแลพวกนางยิ่งกว่านางฟ้าเทวดาเสียอีก”เจ๊ลูซี่ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับอีกฝ่าย เพราะธัญญ่าเองก็ธรรมดาซะที่ไหนกัน พอได
หลังจากออกกำลังกายตามเวลาที่เธอกำหนดเอาไว้เสร็จ หญิงสาวก็กลับขึ้นห้องพักของตน เมื่อเข้าไปในห้อง เธอก็เดินไปหยิบน้ำดื่มออกมาจากตู้เย็นหนึ่งขวด แล้วเดินไปเปิดประตูด้านหลังเพื่อออกไปนั่งพักที่เก้าอี้ด้านนอกห้องก่อนที่จะกลับเข้ามาอาบน้ำ วันนี้เธอต้องไปถ่ายแบบภาพนิ่งชุดคอลเลคชั่นใหม่ที่พี่พุดซ้อนรับงานเอาไว้ให้รถตู้ของบริษัทถูกส่งมารับนางแบบสาวที่คอนโดหรูแห่งนี้ ภายในรถมีเมริสาที่พี่พุดซ้อนแวะไปรับมาก่อนหน้านั้นนั่งรออยู่แล้ว อลินายกมือไหว้ทักทายผู้จัดการส่วนตัวและคนขับรถ แล้วหันไปทักทายเพื่อนนางแบบวัยเดียวกัน“ดูฮาน่าสิ แค่เดินออกมาจากคอนโดคนก็มองตามคอแทบเคล็ดละ” เมริสาเอ่ยแซวเพื่อนสาวยิ้มๆ อลินาไม่เคยสังเกตเลยว่าตัวเธอเองนั้นค่อนข้างโดดเด่น เพราะตอนอยู่ที่อเมริกาเธอก็ไม่ได้โดดเด่นเกินใคร“เขาก็มองเพราะเรามาอยู่ใหม่ไง หน้าแปลกไรงี้” อลินาตอบออกมาแต่ใช้คำพูดไม่ถูกทำให้ทั้งผู้จัดการสาวและเพื่อนสาวพากันหัวเราะออกมาแล้วแก้ไขเป็นคำที่ถูกให้“คิกๆๆ เค้าไม่ได้เรียกว่าหน้าแปลกจ้ะ เค้าเรียกว่าแปลกหน้า” คนฟังถึงกับอายขึ้นมาทันที“อ๋า....แปลกหน้า”อลินาแก้คำที่เธอพูดผิดให้ถูกต้องแล้วหัวเราะออกมาเบา
เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกาเสียงปืนหลายนัดดังขึ้นภายในห้องลับของกาสิโนแห่งนี้ ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำสนิทนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ สายตาคมราวกับสายตาของเหยี่ยวปราดมองไปยังร่างที่นอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ที่ปลายเท้า วัตถุสีดำที่ถูกใช้เมื่อสักครู่ถูกส่งให้กับลูกน้อง ก่อนที่เขาจะหยิบผ้าเปียกที่ลูกน้องเตรียมมาให้เพื่อใช้เช็ดมือ“คนที่มันหักหลังตระกูลของเรา ก็ต้องพบจุดจบแบบนี้ทุกคนแหละ” เสียงทุ้มคำรามดังออกมาจากริมฝีปากหนาสีกุหลาบ“จัดการให้เรียบร้อย อย่าให้สุนัขได้กลิ่นเป็นอันขาด”สุนัขที่ว่าคือพวกตำรวจ แน่นอนว่าพวกตำรวจกับพวกมาเฟียนั้นไม่ถูกกัน เพราะอีกฝ่ายนั้นเป็นผู้รักษากฎหมาย และมาเฟียเป็นผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย“ครับนาย”ลูกน้องคนสนิทรับคำก่อนที่จะสั่งให้ลูกน้องที่เหลือลากชายร่างโตที่เพิ่งหมดลมหายใจออกไปจากห้องลับที่ถือว่าเป็นห้องเชือดของกาสิโนแห่งนี้“ยังมีเรื่องที่ฉันต้องจัดการอีกไหมบุ๊ซ” เสียงทุ้มเย็นชาดังขึ้นหลังจากที่ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากริมฝีปากหนาสีกุหลาบ“ทุกเรื่องที่นายกังวล จัดการเรียบร้อยหมดแล้วครับ” ชายหนุ่มร่างโตที่ทำหน้าที่เป็นทั้งเลขาและบอดี้การ์ดส่วนตัวของมาเฟียห
เมื่อรถตู้คันหรูไปถึงหน้าเพ้นส์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ อลินาถึงกับตกตะลึงในความร่ำรวยของสามี เพราะคนที่จะมีเพ้นส์เฮ้าส์ในพื้นที่กว้างขนาดนี้ในเมืองชิคาโก้ได้ย่อมเป็นคนที่มีฐานะทางการเงินมากพอสมควร“ยินดีต้อนรับจ้ะหนูฮาน่า” มาดามเอวาน่ารีบออกมาทักทายต้อนรับลูกสะใภ้คนเล็ก“นี่แม่ผมเอง มาดามเอวาน่า” เอเดนกระซิบบอกภรรยา อลินาจึงเดินเข้าไปจับมือทักทายและสวมกอดกับแม่ของสามี“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นนะคะ”“เรียกแม่สิลูก ต่อไปนี้หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ ถ้าเอเดนรังแกหนูหรือทำตัวไม่ดีกับหนูบอกแม่ได้เลย แม่จะจัดการให้” มาดามเอวาน่ายิ้มออกมาอย่างพอใจพลางให้ท้ายลูกสะใภ้คนสวย“แม่... นี่ผมลูกแม่นะ”มาเฟียหนุ่มทักท้วงก่อนที่สองสาวต่างวัยจะจับจูงพากันเดินเข้าไปนั่งภายในห้องรับแขกของเพ้นส์เฮ้าส์โดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก เอเดนหันไปมองหน้าบุ๊ซกับเกริก สองหนุ่มพยายามกลั้นขำพลางส่ายหน้าไปมา“ไม่ทันไรแม่ฉันก็ยึดเมียฉันซะแล้ว” เขาบ่นออกมาก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวตามสองสาวเข้าไปภายในเพ้นส์เฮ้าส์ของตนอลินาได้รับการต้อนรับจากครอบครัววินเทอร์เป็นอย่างดี ทั้งพ่อแม่สามีและพี่ชายทั้งสองของสามีปฏิบัติกับเธอราวกับเจ้าหญิง หลั
เช้าวันต่อมาอลินาและเอเดนก็ได้เดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลวินเทอร์ ฮิวโก้ เมริสา เจ๊ลูซี่ และพุดซ้อนได้เดินทางมาส่งทั้งสองขึ้นเครื่อง ความสัมพันธ์ของเมริสากับฮิวโก้ได้พัฒนาขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครในบริษัทรู้ แต่อลินานั้นรู้ดีว่าทั้งเพื่อนและเจ้านายกำลังปลูกต้นรักกัน“ขอให้หนูโชคดีนะคะน้องฮาน่า ดีใจที่ได้พบเจอและได้ร่วมงานกัน” เจ๊ลูซี่เอ่ยลาอดีตนางแบบสาวที่เธอเอ็นดูและมองว่าอนาคตก็คงจะไปได้ไกลกว่านี้หากเธอยังไม่มีพันธะอะไร“พี่ดีใจนะที่ได้ดูแลฮาน่า ขอบคุณที่เป็นเด็กที่น่ารักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลับมาเที่ยวหากันบ่อยๆ นะจ๊ะ” พุดซ้อนเอ่ยน้ำตาซึม แม้จะเป็นเวลาไม่นานที่ได้ดูแลเด็กสาวในฐานะผู้จัดการส่วนตัว แต่ความผูกพันกลับมีให้อีกฝ่ายไม่น้อย“ขอบคุณพี่ลูซี่และพี่พุดซ้อนมากๆ เลยนะคะที่ใจดีกับฮาน่ามาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน ฮาน่าจะไม่มีวันลืมพวกพี่และจะกลับมาเที่ยวหาบ่อยๆ ค่ะ” สามสาวต่างวัยเข้าสวมกอดลากันก่อนที่จะผละออกจากกัน อลินาจึงหันไปกอดลาเพื่อนสนิทบ้าง“เมย์ขอให้ฮาน่ามีความสุขในชีวิตคู่นะ ขอให้ทั้งสองรักกันไปนานๆ ถ้าเป็นไปได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกทีเ
หลังจากที่ทั้งสองสามีภรรยาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็พากันไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ก่อนที่จะได้ไปดำน้ำดูปะการังตามแผนการที่วางเอาไว้ ทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวและพนักงานอยู่ไม่น้อยเพราะเพิ่งจะมีข่าวออกไป ยิ่งไปกว่านั้นบอดี้การ์ดสองคนของมาเฟียหนุ่มก็ดูหล่อเหลาน่าสนใจไม่แพ้กัน“ดูท่าทางบุ๊ซกับเกริกจะได้สาวไทยเป็นแฟนแล้วล่ะ” อลินาเอ่ยออกมาขณะมองไปยังสองหนุ่มที่มีสาวๆ เข้ามาทักทาย“เจ้าสองคนนั้นเห็นหน้าตานิ่งๆ แบบนี้สาวๆ ชอบยิ่งกว่าผมอีกนะ” เอเดนบอกภรรยาก่อนที่จะตักไข่ม้วนในจานใส่ปาก“ไม่จริงมั้งคะ ฮาน่าว่าคุณหล่อกว่าพวกเขาอีก”อลินากระซิบบอกก่อนที่จะยิ้มหวานออกมา ได้ยินคนอื่นชมมาก็ตั้งมากมายกลับไม่รู้สึกอะไร แต่พอมาได้ยินภรรยาชมเท่านั้นมาเฟียหนุ่มถึงกับเสียอาการ มือหนาวางมีดและส้อมลงพร้อมเอ่ยถามเธอออกมา“เราไม่ไปดำน้ำแล้วดีไหมที่รัก”“ทำไมคะ เราจองไว้แล้วนี่คะ” อลินาละสายตาจากจานอาหารตรงหน้าแล้วมองใบหน้าของสามี“ก็คุณทำให้ผมอยากจะพาคุณกลับขึ้นห้องไปทำอย่างอื่นแทนการไปดำน้ำน่ะสิ”เขาตอบเธอยิ้มๆ หญิงสาวจึงส่งค้อนน้อยๆ ไปให้สามี ภาพของสองสามีภรรยาหยอกล้อพูดคุยกั
ภาพความงดงามของท้องทะเลในยามที่พระอาทิตย์ตกดิน ทำให้จิตใจที่เหนื่อยล้าของใครหลายๆ คนรู้สึกผ่อนคลาย ในอ่างน้ำจากุซซี่ภายในห้องพักสุดหรูที่ทอดยาวออกไปทางทะเล มีร่างสูงใหญ่ผิวขาวเนียนนั่งพิงอ่างอยู่ด้านหน้ามีร่างระหงในชุดว่ายน้ำทูพีชสีดำสุดเซ็กซี่นั่งพิงแผงอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาอยู่ มือหนาลูบไล้ไปมาบริเวณหัวไหล่ขาวเนียนก่อนที่เขาจะก้มลงจุมพิตบนไหล่งาม“อืม.... หอมจัง”“ดะ...เดลคะ เราอยู่ข้างนอกห้องนะ คุณคงไม่ได้คิดกำลังทำเรื่องอย่างว่าใช่ไหม” ถึงแม้ที่พักแห่งนี้จะดูเหมือนมีความเป็นส่วนตัว แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ กันไว้ก็ดีกว่าแก้ไม่ใช่หรอกหรือ“หึๆ คุณลืมไปแล้วเหรอที่รัก... ว่าผมไม่ใช่คนที่จะมาล้อเล่นด้วยง่ายๆ น่ะ ไม่ต้องกังวลนะไม่มีใครกล้ามาแตะต้องเราหรอก” คำพูดของเขาทำเอาคนเป็นภรรยาอย่างเธอรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา แต่ก่อนที่จะได้ต่อความให้ยืดยาว มือหนาของสามีก็ดึงกระตุกปลดสายบราบิกินีตัวจิ๋วของเธอออกเสียแล้ว“ว๊าย!!!”อลินาอุทานออกมาพลางยกมือขึ้นมาปิดบังเต้างามทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะถูกฝ่ามือหนาของสามีจับปลายคางของเธอให้หันมารับจูบที่แสนวาบหวาม จนร่างกายรู้สึกอ่อนระทวยให้อ้
ภายในสตูดิโอถ่ายภาพของบริษัทอเดลโมเดลลิ่งมีบรรดานายแบบและนางแบบกำลังนั่งรอถ่ายภาพกันอยู่ เมื่ออลินาเดินเข้าไปก็เรียกสายตาจากทุกคนและความเงียบก็เกิดขึ้นในทันที แต่แล้วรอยยิ้มต้อนรับก็ปรากฏบนใบหน้าของทุกคน“สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกคน วันนี้ฮาน่าจะมาลา” หญิงสาวยกมือไหว้พลางเอ่ยออกมา“สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ น้องฮาน่า” ทุกคนทักทายหญิงสาวกลับ"น่าเสียดายที่น้องฮาน่าตัดสินใจลาวงการ พี่ว่าเธอยังดังได้กว่านี้อีกนะ” อินทัชบอกกับหญิงสาวขึ้นมาเป็นคนแรก“นั่นสิ พี่ก็คิดแบบนั้น คุณเอเดนไม่ได้บังคับน้องฮาน่าใช่ไหมคะ” อิงค์ อิงวรากระซิบถามเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าสวยเฉี่ยวของอลินาได้เป็นอย่างดี เธอส่ายหน้าไปมาเบาๆ แทนคำตอบ“พี่อิงค์ มองข้ามเรื่องถูกบังคับไปได้เลยค่ะ เพราะคุณเอเดนทั้งรักและตามใจฮาน่าจะตายไป” เพื่อนสนิทอย่างเมริสาตอบแทน อลินารู้สึกเขินจนหน้าแดง ที่เพื่อนของเธอพูดนั้นไม่ผิดนัก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอตัดสินใจด้วยตัวเอง“พวกพี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะน้องฮาน่า กลับมาเที่ยวหาพวกเราบ้างนะ” บรรดาพี่ๆ พนักงานในบริษัทเอ่ยออกมา“ค่ะ เดี๋ยวฮาน่าจะบินมาเยี่ยมบ่อยๆ”อลินายิ้มออกมาทั้งน้ำตา เพียงเวลาไม่กี่เดือนท
ข่าวการลาวงการของนางแบบสาวดาวรุ่งเรียกความสนจากแฟนๆ ที่ติดตามเธอทั่วทั้งประเทศ ต่างพากันรู้สึกเสียดายที่ต่อไปจะไม่มีโอกาสได้เห็นนางแบบสาวก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง แต่หลายๆ คนก็รู้สึกยินดีที่ได้รับรู้ว่าหญิงสาวได้พบกับผู้ชายที่เธอรักและรักเธอจนได้ตัดสินใจกลับไปแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน“เจ๊ลูซี่ นี่มันเรื่องจริงเหรอคะที่ว่าสามีของน้องฮาน่าเป็นมาเฟียน่ะ”ธัญญ่า ผู้จัดการส่วนตัวของอิงวราเอ่ยถามเจ๊ลูซี่ออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ เพราะที่ผ่านมาเธอนั้นไม่ได้ญาติดีกับเด็กสาวมากนัก เพราะรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับเด็กเส้นที่เข้าวงการโดยไม่ต้องพยายามอะไร“จริงสิยะ อีกอย่างตอนนี้เธอก็ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่สองรองจากท่านประธานแล้วด้วย เพราะสามีของเธอก็คือเพื่อนสนิทของท่านประธานที่ได้ร่วมทุนกันก่อตั้งบริษัทนี้มา"บรรดาผู้จัดการส่วนตัวของเหล่านายแบบนางแบบในบริษัทต่างพากันตกตะลึง จากที่เมื่อวาน อลินานั้นยังเป็นแค่เพียงนางแบบสาวดาวรุ่งธรรมดา วันนี้กลับกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นที่มีมากเป็นลำดับสองของหุ้นทั้งหมด“น้องก็ไม่เคยปิดนะว่าน้องมีสามีแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านั้นน้องยังไม่เคยเจอกับสามีมาก่อนก็เท่านั
เขานั่งไขว่ห้างมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าสายตาของพวกผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่ต่างมองภรรยาของเขาด้วยสายตาที่แสดงออกว่าสนใจในตัวเธอ จนทำให้เขาอยากจะสั่งให้ลูกน้องไปควักลูกตาคนพวกนั้นแล้วเอาไปโยนให้สิงโตในกรงที่พ่อของเขาเลี้ยงเอาไว้ดูเล่น ไม่ได้มีเพียงอลินาเท่านั้นที่ได้รับความสนใจจากสายตาของหนุ่มๆ ภายในงาน เพราะเอเดนเองก็เป็นจุดสนใจของบรรดาสาวๆ ที่มาร่วมงานในวันนี้เช่นกัน โดยเฉพาะพวกนางแบบด้วยกันที่ไม่รู้จักฝรั่งหนุ่ม“อุ๊ย!!! ฝรั่งคนนั้นที่เคยไปที่บริษัทเราใช่ไหมอะ” นางแบบสาวคนหนึ่งในสังกัดของพีพีโมเดลลิ่งเอ่ยถามเพื่อนนางแบบด้วยกันขึ้นมา“อืมใช่... ว่าแต่เขามาดูใครอะ”อลินาเหลือบมองตามสายตาของสองสาวไปก็พบว่าสามีนั่งอยู่ในกลุ่มของผู้ร่วมงาน และเป็นฝรั่งในบทสนทนาของสองสาว หญิงสาวเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัยว่าสามีไปที่บริษัทพีพีโมเดลลิ่งทำไม และไปตอนไหนกัน“นายครับ ดอกไม้ที่สั่งเอาไว้ได้แล้วครับ”ดอกกุหลาบสีแดงช่อโตถูกส่งมาจากมือหนาของบอดี้การ์ดหนุ่ม เอเดนรับมาสายตาคมจ้องมองไปยังด้านหลังของเวที ที่มีบรรดานางแบบยืนมองมาทางเขาอยู่เช่นกัน แต่ทว่าสายตาคมกลับมองผ่านสองนางแบบสาวด้านหน้าไปยังร่างระหงของภรรยาท
หลังจากผ่านเรื่องราวที่เกือบจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตของตัวเอง แทนนางแบบสาวรุ่นพี่ที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่เพียงข้ามคืน อลินาก็ได้กลับมาขบคิดถึงเส้นทางชีวิตของเธอในหน้าที่การงานในวันข้างหน้า การเป็นนางแบบไม่ใช่อาชีพที่เธอใฝ่ฝันอยากจะทำ แต่ที่ทำเพียงเพราะอยากจะใช้เวลาว่างตอนที่อยู่ประเทศไทยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน บางทีหากเธอไม่มาทำงานตรงนี้ คนอื่นที่มีความฝันอยากจะทำอาชีพนี้อาจจะมีโอกาสก็ได้“ที่รัก คุณกำลังคิดอะไรอยู่หืม....” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เขากำลังนอนกอดเธออยู่จากทางด้านหลัง“เดลคะ งานของคุณอันตรายมากใช่ไหมคะ” มือบางยกขึ้นมาลูบท่อนแขนแข็งแรงที่โอบรัดช่วงเอวขอดของเธออยู่“อืม... ก็เป็นเรื่องปกติของพวกเรา มันก็มีทั้งอันตรายและไม่อันตราย” เขาตอบออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ รับไม่ได้ที่มีสามีทำอาชีพที่อันตราย“ถ้าฮาน่าบอกว่า ฮาน่าอยากจะอยู่เคียงข้างคุณ ฮาน่าทำแบบนั้นได้ใช่ไหมคะ”“แน่นอนสิ คุณเป็นภรรยาของผม และเป็นผู้หญิงคนที่สองรองจากแม่ที่ผมรัก” เขาพลิกร่างบางให้หันกลับมาก่อนที่จะค่อมร่างงามของเธอเอาไว้“เรา...มามีลูก มีหลานให้พ่อกับแม่กันดีไหม
น้ำหวาน : ฮัลโหลเกรซ : พี่น้ำหวาน นี่เกรซเองค่ะน้ำหวาน : อือ... ว่าไงเกรซเกรซ : ที่พี่เคยเตือนเกรซ พี่รู้มาก่อนแล้วใช่ไหมว่ายัยนั่นมีคนคอยสนับสนุนเธออยู่น้ำหวาน : ใช่สิ พี่ถึงได้เตือนเธอไง... แต่ดูท่าทางคงจะไม่ฟังสินะ ถึงได้เกิดเรื่องขึ้นมาเกรซ : เอ๊ะ!!! พี่น้ำหวาน ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะน้ำหวาน : เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกนะ ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็ล้มเลิกความคิดที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับเธอคนนั้นซะ พี่บอกเธอได้แค่นี้ โชคดีนะเกรซ...ปลายสายวางไปหลังพูดจบ อดีตนางแบบสาวน้ำตาไหลพรากเพราะคิดว่าสิ่งที่สร้างมาต้องพังพินาศเพียงเพราะความอิจฉาริษยาอีกฝ่าย ถึงว่าพี่น้ำหวานถึงได้เลิกเกลียดชังอีกฝ่าย เพราะว่าเธอไม่อยากมีจุดจบแบบนี้นี่เองและข่าวเกี่ยวกับบริษัทจิวเวลลี่ของตระกูลไฮโซลักกำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้ก็อาจจะเป็นเพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังของนางแบบสาวคนนั้นก็ได้“กรี๊ด!!!! ฮือๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย”เกรซกรีดร้องทรุดลงกับพื้นและปล่อยโฮทันที เห็นทีประเทศนี้คงจะไม่มีที่ให้เธอยืนอีกต่อไปแล้ว อดีตนางแบบสาวหยุดร้องไห้ฟูมฟายและตัดสินใจค้นหาของแบรนด์เนมของตนที่มีอยู่ภายในห้อง เพื่อเอา