แชร์

เมียนิตินัย (100%)

ผู้เขียน: พราวนภา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-13 19:50:32

ตอนแรกเซซาเรคิดว่าไอ้หมอหน้าอ่อนนั่นแค่อยากจะกวนประสาทเขา จึงตกปากรับคำว่าจะมาทานข้าวเย็นด้วย แต่ที่ไหนได้มันดันมาจริงๆ           

“เอาล่ะ…ย่าว่าเราย้ายไปที่โต๊ะอาหารกันดีกว่า ป่านนี้แม่บ้านคงจัดกับข้าวกับปลาใกล้จะเสร็จแล้วมั้ง มาพ่อเซต ชวนแขกของเรามากินข้าวด้วยกัน”

ครั้นสนทนากันพอหอมปากหอมคอคนแก่ก็เอ่ยขึ้น รายหลังสุดนางสอางค์ไม่ได้อยากจะเชื้อเชิญนักหรอก แต่ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านจึงไม่อาจไปไล่ตะเพิดแขกเป็นเด็กๆ ทำได้เพียงลอบสังเกตการกระทำของอีกฝ่ายอยู่เงียบๆ หากมีอะไรเกินพอดีก็อาจจะต้องมีการตักเตือนกันบ้าง        

หลังจากจูงมือหนูน้อยอัปสรสวรรค์เดินไปยังโต๊ะอาหารตามหลังผู้เป็นย่าซึ่งมีคุณหมอหนุ่มประคองทุกย่างก้าว อ้อนรักก็ขอตัวไปในครัวเพื่อยกอาหารออกมาช่วยแม่บ้าน เสร็จแล้วก็เดินไปล้างมือในห้องน้ำ ครั้นจะหมุนตัวกลับเข้าไปยังโต๊ะอาหาร ร่างอ้อนแอ้นก็ชนเข้ากับใครบางคนตรงหน้าห้องน้ำ   

“อุ๊ย!” เสียงหวานใสหลุดอุทานด้วยความตกใจ วินาทีถัดมาดวงตากลมโตก็มองสำรวจแผ่นอกกว้างตรงหน้า ไม่บอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือสามีของเธอ 

“หึ…ขวัญอ่อนจริงเชียว” น้ำเสียงห้าวห้วนมีแววเหน็บแนมในทีจนคนฟังเผลอชักสีหน้าด้วยความไม่ชอบใจ แค่หมุนไปชนเขาจำเป็นต้องหาเรื่องเธอด้วยหรือ คนอะไรขี้หงุดหงิดจนน่าหมั่นไส้     

“หลีกทางด้วยค่ะ”

“จะรีบไปหาไอ้หมอหน้าอ่อนนั่นหรือไง”

“คงใช่มั้งคะ พอดีว่าช่วงนี้ฉันเบื่อคนแก่ เพราะคนแก่ชอบทำตัวงี่เง่า เอาแต่ใจ ไร้เหตุผล” สาวน้อยเชิดคางขึ้น แล้วเอ่ยตอบโต้อย่างฉะฉานทั้งที่ในใจเต้นโครมคราม ด้วยนึกหวาดหวั่นกับการคุกคามของพ่อตัวโต และท่าทีอวดดีของแม่สาวเรียบร้อยผู้ซุกซ่อนความแสบสันไว้ภายในก็ทำให้คนที่ยืนค้ำหัวอยู่ขบกรามแน่น    

“เธอว่าใครแก่!” เซซาเรเค้นเสียงดุกร้าวลอดไรฟัน   

“ใครที่ยืนคุยกับฉันก็คนนั้นแหละค่ะที่แก่”

“รวนเก่งแบบนี้พ่อจะปราบพยศให้ครางเป็นลูกหมา”

การเชิดหน้าเอ่ยท้าทายอย่างไม่กริ่งเกรงของแม่ตัวดีทำให้เขาหมดสิ้นความอดทน พ่อหนุ่มมาดดิบเดินย่างสามขุมเข้าหา ทำเอาสาวน้อยถอยกรูดพร้อมละล่ำละลักห้ามปรามเสียงหลง     

“อย่านะ!”

“ฉันจะทำซะอย่าง ใครจะทำไม” คนโอหังลอยหน้าเอ่ยอย่างกวนๆ 

จากนั้นเขาก็ไล่ต้อนให้เธอไปจนมุมตรงผนังเย็นเยียบโดยปราศจากสายตาของคนในบ้าน ร่างอ้อนแอ้นสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายจงใจทาบฝ่ามือกับผนังแรงๆ เพื่อกักกั้นเธอเอาไว้    

ชั่วพริบตาพ่อเจ้าประคุณก็เคลื่อนกายทรงพลังเข้าประชิด แล้วลดใบหน้าหล่อลากไส้ลงมาหา ลมหายใจผ่าวระอุทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ครั้นจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นผลักไสอีกฝ่ายก็จัดการรวบข้อมือกลมกลึงเอาไว้ แล้วจับตรึงเหนือศีรษะ วูบหน้าลงมาชิดจนปากจะติดกับปากของเธออยู่รอมร่อ

“ถอยออกไปนะ” คนหลับตาปี๋ดิ้นรนขัดขืนพร้อมเอ่ยปากขับไล่  

“เรื่องอะไรจะถอย” พ่อเจ้าประคุณกระซิบยียวน 

“ถ้าไม่อยากถูกแขกมองว่าเสียมารยาทที่ปล่อยให้เขารอนานก็ปล่อยฉัน” อ้อนรักเอ่ยตะกุกตะกักพร้อมพยายามเบี่ยงหน้าหนีจากลมหายใจผ่าวระอุที่คลอเคลียข้างแก้มนุ่ม  

“นึกว่าฉันจะสนไอ้เวรนั่นหรือไง มันอยากคิดยังไงก็ช่างหัวมันสิ” พ่อคนเอาแต่ใจลอยหน้าเอ่ยอย่างไม่แยแส ยิ่งแม่ตัวดีดูเหมือนจะแคร์ไอ้หมอหน้าอ่อนนั่นเขาก็ยิ่งรู้สึกเดือดดาลเป็นเท่าทวี 

“นั่นมันเรื่องของคุณ แต่ไม่ใช่ฉัน เพราะฉันเป็นคนมีมารยาทรู้จักกาลเทศะ” อ้อนรักลืมตาขึ้นมองหน้าอีกฝ่าย แล้วสวนกลับอย่างฉะฉาน   

“หึ…มีมารยาทหรือทนห่างไอ้เวรนั่นไม่ได้กันแน่” เซซาเรเอ่ยเสียงขุ่น 

“ก็แล้วแต่คุณจะคิด” สาวน้อยไหวไหล่เบาๆ อย่างท้าทาย ความจองหองที่ถูกเจ้าตัวซุกซ่อนไว้ภายใต้ท่าทีหน่อมแน้มทำให้พ่อคนเจ้าอารมณ์กัดฟันกรอดๆ      

“เจอกันตอนเช้าคงไม่หนำใจสินะ ถึงได้นัดเจอกันตอนเย็นอีก”

“ฉันจะเจอกับใครทำไมคุณต้องเดือดร้อนด้วยคะ ทีผู้หญิงของคุณยังมาเฝ้าได้ทั้งวันเลย” สาวน้อยเชิดหน้าเอ่ยเสียงแข็งๆ ด้วยท่าทางอวดดี ทั้งที่ในใจเต้นไม่เป็นส่ำกับความใกล้ชิดระคนคุกคามอันน่าหวาดหวั่น  

“เขามาปรึกษาเรื่องธุรกิจ ไม่ได้มาเฝ้า”

“เอาธุรกิจมาบังหน้ามากกว่ามั้งคะ” อ้อนรักไม่รู้ตัวว่าเสียงของตัวเองเจือไว้ซึ่งการประชดประชัน

“อย่ามาทำเป็นหึง เพราะเธอไม่มีสิทธิ์ เธอมันก็เป็นได้แค่เมียตีทะเบียนที่รอวันฉันเขี่ยทิ้งเท่านั้นจำไว้” วาจาเชือดเฉือนหัวใจที่หลุดออกมาจากปากหยักให้เธอหมดสิ้นความอดทน       

“งั้นก็เขี่ยฉันทิ้งซะสิคะ ฉันจะได้ไปให้พ้นๆ หน้าคุณเสียที” คนขี้ใจน้อยเชิดคางขึ้นพร้อมเอ่ยท้า นัยน์ตาไหวระริก

“หึ…คงคิดจะไปซบอกไอ้หมอหน้าอ่อนนั่นสินะ” 

“ฉันจะไปซบอกใครมันก็เรื่องของฉัน” คราวนี้เธอตั้งใจรวนคนพาลบ้าง 

“ถ้าจะปากดีขนาดนี้ก็อย่าหวังว่าฉันจะปล่อยให้เธอไปเสวยสุขกับไอ้หน้าไหนง่ายๆ” เซซาเรประกาศกร้าว ใบหน้าคร้ามคมถมึงทึงชวนขนลุก    

“คนใจร้าย! ฉันเกลียดคุณ!” สาวน้อยตัดพ้อเสียงเครือ    

คำว่า ‘เกลียด’ ที่หลุดออกมาจากกลีบปากนุ่มเรียกเสียงคำรามกระหึ่มให้กระเด็นออกมาจากลำคอแกร่ง  

“อย่าได้บังอาจมาพูดว่าเกลียดผัวตัวเอง” 

“คุณไม่ใช่ผัวฉัน อย่างมากคุณก็เป็นได้แค่ผัวตีทะเบียนเท่านั้น” วาจาอวดดีที่แม่เมียจอมรั้นเอามาย้อนกลับทำให้เซซาเรแทบจะอาละวาดให้ลั่น 

“ต้องให้ฉัน ‘เอา’ เธอก่อนใช่ไหม ถึงจะสำนึกได้ว่าฉันเป็นผัวเธอ” จอมโมโหร้ายเอ่ยด้วยท่าทางกราดเกรี้ยว

“หยาบคาย! คนไร้หัวใจ!”  

เซซาเรของขึ้นทุกทีที่คำด่าทอแสลงหูพรั่งพรูออกมาจากปากจิ้มลิ้ม   

“หุบปาก!” น้ำเสียงกร้าวกระด้างตวาดลั่น

“ไม่!” คราวนี้เธอออกอาการรั้นจนเขาหัวเสียสุดฤทธิ์

“อ้อนรัก! ฉันบอกให้หุบปาก!”

“คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน” ท่าทีถือดีไม่จบไม่สิ้นทำให้ความอดทนเซซาเรขาดสะบั้นลงในบัดดล 

“ปากดีเรียกร้องสิทธิ์ยิกๆ แบบนี้ พ่อจะ ‘ยัดเยียด’ สิทธิ์ให้ฟ้าเหลือง” เขาขยับร่างทรงพลังเข้าบดเบียดร่างเย้ายวนหอมกรุ่น เปลี่ยนมารวบมือของคนตัวเล็กด้วยมือเดียว ส่วนอีกมือก็ลนลานปลดกระดุมเสื้อยัยตัวร้ายที่ยั่วจนเขาของขึ้นแบบกู่ไม่กลับ ครั้นไม่ทันใจก็กระชากจนกระดุมกระเด็นกระดอนไร้ทิศทาง       

“คนลามก! ฉันเกลียดคุณ!” อ้อนรักดิ้นรนขัดขืนขณะร้องประณามอีกฝ่ายน้ำตาคลอ และคำด่าทอที่พรั่งพรูออกมาจากปากอวบอิ่มก็เหมือนทำให้ไฟโทสะของเขายิ่งโหมกระพือขึ้นแบบไร้ขีดจำกัด 

“บอกแล้วไง ว่าอย่าบังอาจพูดว่าเกลียดผัวตัวเอง” เขาเค้นเสียงห้าวกระด้างด้วยความงุ่นง่านเต็มอัตรา ก่อนจะตะปบมือเข้าที่ทรวงสล้างที่ยังมีบราเซียร์ห่อหุ้ม ทำเอาแม่สาวไร้เดียงสาสะดุ้งเฮือก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียนิตินัย (100%)

    ตอนแรกเซซาเรคิดว่าไอ้หมอหน้าอ่อนนั่นแค่อยากจะกวนประสาทเขา จึงตกปากรับคำว่าจะมาทานข้าวเย็นด้วย แต่ที่ไหนได้มันดันมาจริงๆ “เอาล่ะ…ย่าว่าเราย้ายไปที่โต๊ะอาหารกันดีกว่า ป่านนี้แม่บ้านคงจัดกับข้าวกับปลาใกล้จะเสร็จแล้วมั้ง มาพ่อเซต ชวนแขกของเรามากินข้าวด้วยกัน”ครั้นสนทนากันพอหอมปากหอมคอคนแก่ก็เอ่ยขึ้น รายหลังสุดนางสอางค์ไม่ได้อยากจะเชื้อเชิญนักหรอก แต่ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านจึงไม่อาจไปไล่ตะเพิดแขกเป็นเด็กๆ ทำได้เพียงลอบสังเกตการกระทำของอีกฝ่ายอยู่เงียบๆ หากมีอะไรเกินพอดีก็อาจจะต้องมีการตักเตือนกันบ้าง หลังจากจูงมือหนูน้อยอัปสรสวรรค์เดินไปยังโต๊ะอาหารตามหลังผู้เป็นย่าซึ่งมีคุณหมอหนุ่มประคองทุกย่างก้าว อ้อนรักก็ขอตัวไปในครัวเพื่อยกอาหารออกมาช่วยแม่บ้าน เสร็จแล้วก็เดินไปล้างมือในห้องน้ำ ครั้นจะหมุนตัวกลับเข้าไปยังโต๊ะอาหาร ร่างอ้อนแอ้นก็ชนเข้ากับใครบางคนตรงหน้าห้องน้ำ “อุ๊ย!” เสียงหวานใสหลุดอุทานด้วยความตกใจ วินาทีถัดมาดวงตากลมโตก็มองสำรวจแผ่นอกกว้างตรงหน้า ไม่บอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือสามีของเธอ “หึ…ขวัญอ่อนจริงเชียว” น้ำเสียงห้าวห้วนมีแววเหน็บแนมในทีจนคนฟังเผลอชักสีหน้าด้ว

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียนิตินัย (70%)

    เธอจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนตัวเองถูกสามีจูบอย่างดูดดื่ม คราแรกนั้นคนเย็นชาหน้าตายจดๆ จ้องๆ ปากเธออยู่ ก่อนจะวูบหน้าลงมาหาคล้ายหมดสิ้นความอดทนผสมเก็บกด จากนั้นก็บดขยี้เรียวปากสีกุหลาบอย่างเร่าร้อนประหนึ่งอดอยากปากแห้งมาแรมปี ความร้อนแรงระคนตะกละตะกลามในแรกเริ่มเดิมทีค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นดูดดื่ม ละมุนละไม และอ่อนหวาน จนคนครึ่งหลับครึ่งตื่นอย่างเธอคล้อยตาม ยอมเผยอกลีบปากอวบอิ่มแยกแย้มให้ภมรหนุ่มได้เชยชิมความหวานซ่านทรวงจากภายในกระพุ้งแก้มอิ่มอุ่น กว่าพ่อหนุ่มจอมฉกฉวยจะยอมผละห่างก็เมื่อเธอนั้นดิ้นรนขัดขืน เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกสูบลมหายใจออกไปจากร่างเสียสิ้น ในความทรงจำอันเลือนลางนั้นเธอเหมือนได้ยินอีกฝ่ายพึมพำปลอบประโลมให้หลับ แล้วก้มลงจุมพิตเปลือกตาทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยนเป็นการส่งท้าย สรุปทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ใช่ความฝันอย่างนั้นหรือ? สาวหวานรำพันในอกด้วยความกระดากอายสุดฤทธิ์ ใบหน้าสวยหวานแดงแจ๋ แค่คิดว่าโดนอีกฝ่ายขโมยจูบอย่างดูดดื่มเธอก็จั๊กจี้หัวใจเสียแล้ว จากนั้นอ้อนรักก็สะบัดศีรษะขับไล่ความฟุ้งซ่าน แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนด้วยท่าทางเร่งรีบ ห

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียนิตินัย (50%)

    “ส่งหลานมาสิ”ความใกล้ชิดแบบไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้อ้อนรักทำอะไรไม่ถูก หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้เป็นสามีเอ่ยอะไรออกมาบ้าง มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนหน้าไม่อายช้อนฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าใต้รักแร้ของเธอ แล้วยกร่างเพรียวระหงให้ยืนขึ้น ก่อนจะอ้าแขนรับหลานสาวที่โผเข้าหา “อ้าว…มัวยืนบื้ออยู่ทำไมล่ะ ไปเตรียมข้าวเช้าให้คนดีสิ กินข้าวแล้วจะได้กินยา หรือว่าอยากนั่งตักผัวเหมือนหลาน” วาจาเรียบๆ ในตอนท้ายทำให้แก้มเนียนใสขึ้นสีระเรื่อ “คนบ้า! ฉันเปล่าเสียหน่อย” แม่คนขี้อายค้อนน้อยๆ ก่อนจะหันไปเอ่ยขอตัวกับคุณหมอหนุ่ม โดยไม่ลืมที่จะชักชวนให้อีกฝ่ายมาทานข้าวเย็นด้วย เพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาอุตส่าห์สละเวลามาตรวจอาการของหลานสาวถึงไร่ คราแรกนั้นปรเมศตั้งใจจะเอ่ยปฏิเสธ ทว่าพอเห็นสายตาดุกร้าวของเซซาเรเขากลับเลิกคิ้วท้าทาย แล้วตอบตกลงอย่างหน้าตาเฉย ครั้นอ้อนรักเตรียมอาหารเช้าให้หลานเสร็จปรเมศก็กลับไปเสียแล้ว เธอป้อนข้าวให้เด็กอ้วนช่างกินขณะเงี่ยหูฟังบทสนทนาของสามีกับเพชรพริ้งที่นั่งอยู่ตรงชานเรือน เสียงหัวร่อต่อกระซิกทำให้สาวหวานปวดแปลบในอกอย่างมิอาจห้ามได้ ทว่ากลับต้องข่มใจและเตือ

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียนิตินัย (30%)

    วันนี้อ้อนรักไม่ได้ออกไปตรวจงานในไร่ตั้งแต่เช้าตรู่เช่นเคย เนื่องจากว่าเมื่อคืนนี้ตอนเกือบเที่ยงคืนผู้เป็นย่ามาเคาะประตูห้องนอน แล้ววานให้เธอไปเช็ดตัวลดไข้ให้หนูน้อยอัปสรสวรรค์ซึ่งมีอาการไข้ขึ้นในเวลากลางดึก อ้อนรักทำหน้างงนิดๆ ที่หลานตัวน้อยไปนอนกับคนเป็นย่า ก่อนที่คนแก่จะเฉลยว่าตอนประมาณสามทุ่มท่านได้ให้สาวใช้ไปเอาเหลนมานอนด้วย เพราะนึกสงสารหลานเขยที่อยากจะเข้าหอกับหลานสาว หลังจากเฝ้าเช็ดตัวให้คนไข้ตัวน้อยจนไข้ลดอ้อนรักก็นอนกอดร่างจ้ำม่ำแล้วผล็อยหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีในตอนสายๆ เมื่อหนูน้อยอัปสรสวรรค์ขยับตัวยุกยิก ก่อนที่เธอจะใช้หลังมืออังหน้าผากของหลานสาว แล้วก็ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะอุณหภูมิในร่างกายของเด็กอ้วนลดลงจนเกือบจะเป็นปกติแล้ว หากแต่ยังไม่น่าไว้วางใจอยู่ดี ครั้นคิดได้ดังนั้นเธอจึงโทรศัพท์ไปหานายแพทย์ปรเมศ จิรกุล แล้ววานให้อีกฝ่ายมาตรวจอาการของหลานสาวที่ไร่ จากนั้นก็เช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้คนที่พอตื่นมาก็อ้อนขอดูการ์ตูนพี่มินเนี่ยน ครั้นจะพาหลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในชุดน่ารักออกจากห้องเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ก้มลงมองหน้าจอมือถือแล้วทำหน้างงๆ ที่คนโทร

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียแสนชัง (100%)

    ฮึ่ม! ผัวยืนทนโท่อยู่นี่แม่ตัวดียังกล้าไปออดอ้อนออเซาะผู้ชายคนอื่น มันน่านัก! “ยังขี้อ้อนเหมือนเดิมเลยนะเราเนี่ย” กฤษณ์ ฤทธิไกรสร เอ่ยเย้าอย่างยิ้มๆ พลางยีหัวคนตัวเล็กด้วยความมันเขี้ยว เขากับอ้อนรักเป็นญาติห่างๆ แต่มีความสนิทสนมประหนึ่งพี่ชายกับน้องสาว เพียงแต่ระยะสองปีให้หลังมานี้ทั้งคู่แทบจะเรียกได้ว่าขาดการติดต่อ เพราะต่างก็ยุ่งอยู่กับหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ “พี่กฤษณ์มาทำธุระหรือว่าจะย้ายมาอยู่เมืองไทยกับอ้อนคะ” วาจาที่หลุดออกมาจากปากอวบอิ่ม โดยเฉพาะคำว่า ‘กับอ้อน’ ทำให้เซซาเรนึกหงุดหงิดเป็นเท่าทวี“พี่มาทำธุระ และจะมาชวนอ้อนย้ายไปอยู่อเมริกาด้วยกัน ว่าไงจะไปอยู่กับพี่ไหม”คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของไอ้คนที่มันกำลังทำท่าอี๋อ๋อกับเมียเขา ทำให้เซซาเรมิอาจทนเฉยได้อีกต่อไป ทันใดนั้นน้ำเสียงแข็งกร้าวก็โพล่งขึ้นอย่างไม่สนห่าเหวอะไรทั้งสิ้น “อ้อนรักเป็นภรรยาผม และเธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น หากสามีอย่างผมไม่อนุญาต” “อ้าว…ได้ยินมาว่าเธอเป็นภรรยาที่คุณไม่ต้องการไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาทำเป็น ‘หวงก้าง’ ทำไมล่ะครับ ผมว่าปล่อยให้เธอไปมีชีวิตใหม่ดีกว่ามั้ง เธอยังสาวยังสวย

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียแสนชัง (60%)

    วินาทีแรกที่เห็นเจ้าของร่างอรชรอ้อนแอ้นซึ่งอยู่ในชุดน่ารักแฝงความเซ็กซี่เล็กๆ เซซาเรก็เหมือนจะชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะปั้นสีหน้าเรียบสนิทยากจะคาดเดาอารมณ์ความรู้สึก ครั้นเห็นว่าผู้เป็นสามีไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่มีม่ายสาวพราวเสน่ห์และแสนจะเจนสังคมอย่างเพชรพริ้งยืนเกาะแขนอยู่ไม่หาง อ้อนรักก็นึกอยากจะหันหลังกลับ แต่ไม่กล้าทำอย่างใจคิด ด้วยเกรงว่าพ่อคนอารมณ์ร้อนจะอาละวาดหรือสาดถ้อยคำร้ายๆ ใส่หน้า “เอ่อ…เราจะไปสวัสดีท่านผู้ว่าฯ กันได้หรือยังคะ อ้อนพร้อมแล้วค่ะ”อันที่จริงอ้อนรักก็ไม่ได้อยากขัดจังหวะการพูดคุยอย่างถูกคอของคนทั้งคู่นักหรอก อยากไปให้พ้นๆ จากตรงนั้นเสียด้วยซ้ำ เพราะยิ่งมองภาพบาดตาก็ยิ่งเจ็บปวดหัวใจ แต่ในฐานะภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเธอย่อมมีสิทธิ์ดึงสามีออกมาจากหญิงอื่นด้วยวิธีละมุนละม่อม “ผมขอตัวก่อนนะครับพริ้ง จะพายัยนี่ไปสวัสดีท่านผู้ว่าฯ เสียหน่อย”“อย่าไปนานนะคะพริ้งคิดถึง” น้ำคำออดอ้อนออเซาะหวานหยดย้อยทำให้สาวหวานผู้เรียบร้อยอดเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ และกิริยาซุกซนที่ซ่อนอยู่ในท่าทีหน่อมแน้มก็ทำให้เซซาเรกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปตอบโต้แม่ม่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status