Share

เมียนิตินัย (30%)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-13 19:36:56

วันนี้อ้อนรักไม่ได้ออกไปตรวจงานในไร่ตั้งแต่เช้าตรู่เช่นเคย เนื่องจากว่าเมื่อคืนนี้ตอนเกือบเที่ยงคืนผู้เป็นย่ามาเคาะประตูห้องนอน แล้ววานให้เธอไปเช็ดตัวลดไข้ให้หนูน้อยอัปสรสวรรค์ซึ่งมีอาการไข้ขึ้นในเวลากลางดึก อ้อนรักทำหน้างงนิดๆ ที่หลานตัวน้อยไปนอนกับคนเป็นย่า ก่อนที่คนแก่จะเฉลยว่าตอนประมาณสามทุ่มท่านได้ให้สาวใช้ไปเอาเหลนมานอนด้วย เพราะนึกสงสารหลานเขยที่อยากจะเข้าหอกับหลานสาว           

หลังจากเฝ้าเช็ดตัวให้คนไข้ตัวน้อยจนไข้ลดอ้อนรักก็นอนกอดร่างจ้ำม่ำแล้วผล็อยหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีในตอนสายๆ เมื่อหนูน้อยอัปสรสวรรค์ขยับตัวยุกยิก ก่อนที่เธอจะใช้หลังมืออังหน้าผากของหลานสาว แล้วก็ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะอุณหภูมิในร่างกายของเด็กอ้วนลดลงจนเกือบจะเป็นปกติแล้ว หากแต่ยังไม่น่าไว้วางใจอยู่ดี ครั้นคิดได้ดังนั้นเธอจึงโทรศัพท์ไปหานายแพทย์ปรเมศ จิรกุล แล้ววานให้อีกฝ่ายมาตรวจอาการของหลานสาวที่ไร่ จากนั้นก็เช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้คนที่พอตื่นมาก็อ้อนขอดูการ์ตูนพี่มินเนี่ยน 

ครั้นจะพาหลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในชุดน่ารักออกจากห้องเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ก้มลงมองหน้าจอมือถือแล้วทำหน้างงๆ ที่คนโทรมาคือบุปผาสวรรค์ กดรับสายถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังนั่งรถไปสนามบินกับสามี ทั้งคู่มีแพลนไปฮันนีมูนที่เกาะมัลดีฟส์เป็นเวลาสิบวัน และที่โทรมาก็เพื่อจะฝากฝังลูกสาวตัวน้อย ซึ่งเธอก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลหลานให้เป็นอย่างดี ก่อนจะยื่นมือถือไปให้คนที่กำลังมองตาแป๋ว หนูน้อยคุยเจื้อยแจ้วกับแม่จ๋าและพ่อจ๋าอยู่พักใหญ่ ก่อนจะร้องเฮเพราะก่อนวางสายพ่อจ๋าบอกว่าฝากตุ๊กตาพี่มินเนี่ยนไว้กับคุณลุง  

“ยุงจ๋า! ยุงจ๋าอยู่หนาย!” ทันทีที่ก้าวขาพ้นห้องนอนเด็กอ้วนก็ออกวิ่งพร้อมตะโกนหาผู้เป็นลุง ทำเอาอ้อนรักต้องรีบก้าวยาวๆ ตามหลังพร้อมเอ่ยห้ามปราม   

“คนดีขา ไม่เอา ไม่วิ่งนะคะ เดี๋ยวหกล้มค่ะ”

เจ้าของร่างอ้วนน่าฟัดไม่สนคำห้ามปรามของผู้เป็นป้า ขาป้อมๆ วิ่งมายังชานเรือนเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยแว่วมา ก่อนจะเรียกผู้เป็นลุงเสียงดัง

“ยุงจ๋า!”

ร่างอ้วนจ้ำม่ำถลาเข้าไปแทรกระหว่างผู้เป็นลุงและเพชรพริ้ง จนแม่ม่ายสาวชักสีหน้าใส่ หากแต่หนูน้อยไม่สนใจที่จะมองหรือว่ากล่าวทักทาย เพราะจิตใจกำลังจดจ่ออยู่กับเรื่องตุ๊กตา 

“ยุงจ๋าตุ๊กตาพี่มินเนี่ยนของคนดีอยู่หนายคะ”

“ถ้าคนดีอยากได้ต้องหอมแก้มลุงจ๋าก่อนค่ะ”

ยังไม่ทันจะขาดคำคนที่ตื่นเต้นอยากเห็นตุ๊กตาก็โผเข้าหาคุณลุงตัวโต แล้วหอมแก้มซ้ายขวา ตบท้ายด้วยการจุ๊บปากของอีกฝ่ายอย่างประจบเอาใจ

“หนายคะพี่มินเนี่ยนของคนดี” แม่หนูน้อยเอ่ยทวงถามยังไม่ทันจะขาดคำก็ร้องกรี๊ดกร๊าดด้วยความยินดี เมื่อผู้เป็นลุงดึงผ้าคลุมออกจากเจ้ามินเนี่ยนตัวยักษ์ที่วางอยู่ข้างๆ 

จากนั้นเด็กอ้วนก็ทั้งกอดทั้งหอมตุ๊กตาสุดโปรด บ้างมีเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากหลุดออกมาจากปากจิ้มลิ้ม เรียกรอยยิ้มละมุนจากผู้เป็นลุงได้เป็นอย่างดี ส่วนอ้อนรักนั้นยืนมองอยู่ห่างๆ ด้วยความเอ็นดู 

ไม่นานรถสปอร์ตสีดำทะมึนก็แล่นมาจอดตรงหน้าเรือนไทยหลังใหญ่ ครั้นเห็นว่าเจ้าของร่างสูงสง่าที่ก้าวลงจากรถเป็นคนที่ตนรออยู่อ้อนรักก็หันไปเรียกหลานตัวน้อยเสียงหวาน

“คนดีขา ลุงหมอมาแล้ว ไปสวัสดีลุงหมอกันค่ะ”

ขาดคำเจ้าของร่างจ้ำม่ำก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่าย ไม่มีทีท่าว่าจะงอแงเพราะตอนแต่งตัวอ้อนรักได้อธิบายให้หลานฟังแล้วว่าลุงหมอจะมาตรวจวัดไข้ อีกทั้งเด็กน้อยคุ้นหน้าคุ้นตากับหมอหนุ่มอยู่พอสมควร เพราะตอนที่อัปสรสวรรค์ป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลปรเมศมักจะแวะมาเยี่ยมคนไข้ตัวน้อยอยู่บ่อยครั้ง       

“สวัสดีค่ะพี่เมศ” อ้อนรักยกมือไหว้พร้อมกล่าวทักทายคุณหมอหนุ่มเสียงหวาน

“หวัดดีครับ เอ๊ะ…นั่นใครเอ่ยหลบอยู่หลังป้าอ้อน ใช่คนไข้ตัวน้อยของลุงหมอหรือเปล่านะ” ปรเมศกล่าวทักทายอ้อนรัก ก่อนจะทำทีมองหาเจ้าของร่างน่าฟัดที่หลบอยู่หลังคนเป็นป้าพร้อมเอ่ยเย้าอย่างยิ้มๆ ไม่นานแม่หนูน้อยก็ค่อยๆ เอียงหน้าออกมา ครั้นปรเมศเหลือบเห็นก็เอ่ยเป็นเชิงหยอกเอิน   

“จ๊ะเอ๋!”

การทักทายของผู้มาใหม่ทำให้เด็กน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความชอบใจ ก่อนจะขยับตัวออกมาจากหลังคนเป็นป้า แล้วยกมือไหว้อีกฝ่ายด้วยท่าทีเอียงอาย      

“ซาหวัดดีค่ายุงหมอ”

“สวัสดีค่ะลูกหมูน้อย ไหนมาให้ลุงตรวจหน่อยเร็วคนเก่งตัวร้อนไหมเอ่ย”

ปรเมศเอ่ยทักทายเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุนพร้อมคลี่ยิ้มอบอุ่น ถึงเขาจะไม่ใช่หมอเด็กแต่ก็สามารถตรวจอาการเบื้องต้น และรับมือกับเด็กตัวเล็กๆ ได้ไม่ยาก จากนั้นคุณหมอสุดหล่อใจดีก็ทรุดกายลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าร่างอ้วนจ้ำม่ำ แล้วยกหลังมือขึ้นอังหน้าผากนูนเกลี้ยง    

“ตัวม่ายร้อนค่า” เด็กหญิงอัปสรสวรรค์เอ่ยปฏิเสธพร้อมส่ายหน้าหวือ ทำเอาคนถามอมยิ้มด้วยความเอ็นดู

จากนั้นอ้อนรักก็เชื้อเชิญให้คุณหมอหนุ่มไปนั่งที่โซฟาชุดรับแขกตรงโถงเรือน โดยเธอจูงมือหลานสาวตัวน้อยเดินนำหน้าในฐานะเจ้าบ้าน ทันทีที่ก้นแตะโซฟาร่างอ้วนกลมก็ปีนขึ้นไปนั่งบนตักเธอ ปรเมศเห็นว่าคนไข้ตัวน้อยพร้อมตรวจจึงทรุดกายลงนั่งข้างร่างอ้อนแอ้นซึ่งมีหลานสาวนั่งอยู่บนตัก  

ภาพความใกล้ชิดสนิทสนมเกินควรทำให้คนที่นั่งจิบกาแฟและพูดคุยกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนมีสีหน้าบึ้งตึง ก่อนจะเอ่ยขอตัวกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพ แล้วเดินลิ่วไปยังโซฟาชุดรับแขกทันควัน  

“ให้คนดีนั่งเองดีกว่าไหมจะได้ตรวจสะดวก”

เสียงกระด้างที่เอ่ยขึ้นทำให้คุณหมอหนุ่มซึ่งกำลังจะตรวจชีพจรของคนไข้ตัวน้อยๆ ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนที่จะเงยขึ้นมองเจ้าของใบหน้าเรียบสนิทที่ยืนจังก้าค้ำหัวอยู่  

“ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว” ปรเมศไหวไหล่ แล้วเอ่ยอย่างสบายๆ ก่อนจะลอบกระตุกยิ้มตรงมุมปาก ท่าทางมองเขาตาขวางหน้าตึงแบบนี้ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังหวงก้าง 

“เอาหลานวางลงตรงโซฟาสิ”

ครั้นออกคำสั่งไปแล้วอีกฝ่ายยังคงนิ่งเฉยพ่อคนเจ้าอารมณ์ก็ชักหงุดหงิด 

“อ้อนรัก! ฉันบอกให้เอาหลานวางลงตรงโซฟาไม่ได้ยินหรือไง”

คราวนี้เสียงของเซซาเรแข็งขึ้น ทำให้คนที่เผลอเตลิดเพราะลมหายใจร้อนๆ ที่เป่าราดรดต้นคอจากทางด้านหลังสะดุ้งเฮือก หลุดออกจากภวังค์    

“คนดีนั่งเองนะคะ เดี๋ยวป้าอ้อนนั่งข้างๆ”

“ม่ายเอา คนดีจะนั่งตักคุงป้าอ้อน คนดีกลัวเข็ม” หนูน้อยส่ายหน้ารัวๆ ขณะเกาะอีกฝ่ายเป็นลูกลิง

“ลุงหมอไม่ฉีดยาหรอกครับลูกหมูน้อย วันนี้ลุงหมอลืมเอาเข็มมา” ปรเมศเอ่ยหลอกล่อเสียงนุ่มละมุน ทว่าแม่หนูน้อยกลับกอดคนเป็นป้าไม่ยอมปล่อย  

“งั้นคนดีมานั่งตักลุงจ๋าดีกว่านะคะ ป้าอ้อนจะได้ไปเตรียมอาหารเช้าให้คนดี” เซซาเรตัดปัญหาหงุดหงิดใจด้วยการเสนอตัวเป็นคนให้หลานสาวนั่งตัก   

จากนั้นเจ้าของร่างทรงพลังก็เดินอ้อมมายืนตรงหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเมีย แล้วอ้อนรักก็ต้องหลับตาปี๋เมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนใบหน้าหล่อลากไส้ลงมาหา ปัดจมูกคมสันเฉียดปลายจมูกรั้นคล้ายไม่ได้ตั้งใจ แล้วเลยไปหอมแก้มนุ่มๆ กรุ่นกลิ่นแป้งเด็กของหลานสาวฟอดใหญ่ ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูบอบบาง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียนิตินัย (100%)

    ตอนแรกเซซาเรคิดว่าไอ้หมอหน้าอ่อนนั่นแค่อยากจะกวนประสาทเขา จึงตกปากรับคำว่าจะมาทานข้าวเย็นด้วย แต่ที่ไหนได้มันดันมาจริงๆ “เอาล่ะ…ย่าว่าเราย้ายไปที่โต๊ะอาหารกันดีกว่า ป่านนี้แม่บ้านคงจัดกับข้าวกับปลาใกล้จะเสร็จแล้วมั้ง มาพ่อเซต ชวนแขกของเรามากินข้าวด้วยกัน”ครั้นสนทนากันพอหอมปากหอมคอคนแก่ก็เอ่ยขึ้น รายหลังสุดนางสอางค์ไม่ได้อยากจะเชื้อเชิญนักหรอก แต่ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านจึงไม่อาจไปไล่ตะเพิดแขกเป็นเด็กๆ ทำได้เพียงลอบสังเกตการกระทำของอีกฝ่ายอยู่เงียบๆ หากมีอะไรเกินพอดีก็อาจจะต้องมีการตักเตือนกันบ้าง หลังจากจูงมือหนูน้อยอัปสรสวรรค์เดินไปยังโต๊ะอาหารตามหลังผู้เป็นย่าซึ่งมีคุณหมอหนุ่มประคองทุกย่างก้าว อ้อนรักก็ขอตัวไปในครัวเพื่อยกอาหารออกมาช่วยแม่บ้าน เสร็จแล้วก็เดินไปล้างมือในห้องน้ำ ครั้นจะหมุนตัวกลับเข้าไปยังโต๊ะอาหาร ร่างอ้อนแอ้นก็ชนเข้ากับใครบางคนตรงหน้าห้องน้ำ “อุ๊ย!” เสียงหวานใสหลุดอุทานด้วยความตกใจ วินาทีถัดมาดวงตากลมโตก็มองสำรวจแผ่นอกกว้างตรงหน้า ไม่บอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือสามีของเธอ “หึ…ขวัญอ่อนจริงเชียว” น้ำเสียงห้าวห้วนมีแววเหน็บแนมในทีจนคนฟังเผลอชักสีหน้าด้ว

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียนิตินัย (70%)

    เธอจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนตัวเองถูกสามีจูบอย่างดูดดื่ม คราแรกนั้นคนเย็นชาหน้าตายจดๆ จ้องๆ ปากเธออยู่ ก่อนจะวูบหน้าลงมาหาคล้ายหมดสิ้นความอดทนผสมเก็บกด จากนั้นก็บดขยี้เรียวปากสีกุหลาบอย่างเร่าร้อนประหนึ่งอดอยากปากแห้งมาแรมปี ความร้อนแรงระคนตะกละตะกลามในแรกเริ่มเดิมทีค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นดูดดื่ม ละมุนละไม และอ่อนหวาน จนคนครึ่งหลับครึ่งตื่นอย่างเธอคล้อยตาม ยอมเผยอกลีบปากอวบอิ่มแยกแย้มให้ภมรหนุ่มได้เชยชิมความหวานซ่านทรวงจากภายในกระพุ้งแก้มอิ่มอุ่น กว่าพ่อหนุ่มจอมฉกฉวยจะยอมผละห่างก็เมื่อเธอนั้นดิ้นรนขัดขืน เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกสูบลมหายใจออกไปจากร่างเสียสิ้น ในความทรงจำอันเลือนลางนั้นเธอเหมือนได้ยินอีกฝ่ายพึมพำปลอบประโลมให้หลับ แล้วก้มลงจุมพิตเปลือกตาทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยนเป็นการส่งท้าย สรุปทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ใช่ความฝันอย่างนั้นหรือ? สาวหวานรำพันในอกด้วยความกระดากอายสุดฤทธิ์ ใบหน้าสวยหวานแดงแจ๋ แค่คิดว่าโดนอีกฝ่ายขโมยจูบอย่างดูดดื่มเธอก็จั๊กจี้หัวใจเสียแล้ว จากนั้นอ้อนรักก็สะบัดศีรษะขับไล่ความฟุ้งซ่าน แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนด้วยท่าทางเร่งรีบ ห

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียนิตินัย (50%)

    “ส่งหลานมาสิ”ความใกล้ชิดแบบไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้อ้อนรักทำอะไรไม่ถูก หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้เป็นสามีเอ่ยอะไรออกมาบ้าง มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนหน้าไม่อายช้อนฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าใต้รักแร้ของเธอ แล้วยกร่างเพรียวระหงให้ยืนขึ้น ก่อนจะอ้าแขนรับหลานสาวที่โผเข้าหา “อ้าว…มัวยืนบื้ออยู่ทำไมล่ะ ไปเตรียมข้าวเช้าให้คนดีสิ กินข้าวแล้วจะได้กินยา หรือว่าอยากนั่งตักผัวเหมือนหลาน” วาจาเรียบๆ ในตอนท้ายทำให้แก้มเนียนใสขึ้นสีระเรื่อ “คนบ้า! ฉันเปล่าเสียหน่อย” แม่คนขี้อายค้อนน้อยๆ ก่อนจะหันไปเอ่ยขอตัวกับคุณหมอหนุ่ม โดยไม่ลืมที่จะชักชวนให้อีกฝ่ายมาทานข้าวเย็นด้วย เพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาอุตส่าห์สละเวลามาตรวจอาการของหลานสาวถึงไร่ คราแรกนั้นปรเมศตั้งใจจะเอ่ยปฏิเสธ ทว่าพอเห็นสายตาดุกร้าวของเซซาเรเขากลับเลิกคิ้วท้าทาย แล้วตอบตกลงอย่างหน้าตาเฉย ครั้นอ้อนรักเตรียมอาหารเช้าให้หลานเสร็จปรเมศก็กลับไปเสียแล้ว เธอป้อนข้าวให้เด็กอ้วนช่างกินขณะเงี่ยหูฟังบทสนทนาของสามีกับเพชรพริ้งที่นั่งอยู่ตรงชานเรือน เสียงหัวร่อต่อกระซิกทำให้สาวหวานปวดแปลบในอกอย่างมิอาจห้ามได้ ทว่ากลับต้องข่มใจและเตือ

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียนิตินัย (30%)

    วันนี้อ้อนรักไม่ได้ออกไปตรวจงานในไร่ตั้งแต่เช้าตรู่เช่นเคย เนื่องจากว่าเมื่อคืนนี้ตอนเกือบเที่ยงคืนผู้เป็นย่ามาเคาะประตูห้องนอน แล้ววานให้เธอไปเช็ดตัวลดไข้ให้หนูน้อยอัปสรสวรรค์ซึ่งมีอาการไข้ขึ้นในเวลากลางดึก อ้อนรักทำหน้างงนิดๆ ที่หลานตัวน้อยไปนอนกับคนเป็นย่า ก่อนที่คนแก่จะเฉลยว่าตอนประมาณสามทุ่มท่านได้ให้สาวใช้ไปเอาเหลนมานอนด้วย เพราะนึกสงสารหลานเขยที่อยากจะเข้าหอกับหลานสาว หลังจากเฝ้าเช็ดตัวให้คนไข้ตัวน้อยจนไข้ลดอ้อนรักก็นอนกอดร่างจ้ำม่ำแล้วผล็อยหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีในตอนสายๆ เมื่อหนูน้อยอัปสรสวรรค์ขยับตัวยุกยิก ก่อนที่เธอจะใช้หลังมืออังหน้าผากของหลานสาว แล้วก็ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะอุณหภูมิในร่างกายของเด็กอ้วนลดลงจนเกือบจะเป็นปกติแล้ว หากแต่ยังไม่น่าไว้วางใจอยู่ดี ครั้นคิดได้ดังนั้นเธอจึงโทรศัพท์ไปหานายแพทย์ปรเมศ จิรกุล แล้ววานให้อีกฝ่ายมาตรวจอาการของหลานสาวที่ไร่ จากนั้นก็เช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้คนที่พอตื่นมาก็อ้อนขอดูการ์ตูนพี่มินเนี่ยน ครั้นจะพาหลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในชุดน่ารักออกจากห้องเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ก้มลงมองหน้าจอมือถือแล้วทำหน้างงๆ ที่คนโทร

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียแสนชัง (100%)

    ฮึ่ม! ผัวยืนทนโท่อยู่นี่แม่ตัวดียังกล้าไปออดอ้อนออเซาะผู้ชายคนอื่น มันน่านัก! “ยังขี้อ้อนเหมือนเดิมเลยนะเราเนี่ย” กฤษณ์ ฤทธิไกรสร เอ่ยเย้าอย่างยิ้มๆ พลางยีหัวคนตัวเล็กด้วยความมันเขี้ยว เขากับอ้อนรักเป็นญาติห่างๆ แต่มีความสนิทสนมประหนึ่งพี่ชายกับน้องสาว เพียงแต่ระยะสองปีให้หลังมานี้ทั้งคู่แทบจะเรียกได้ว่าขาดการติดต่อ เพราะต่างก็ยุ่งอยู่กับหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ “พี่กฤษณ์มาทำธุระหรือว่าจะย้ายมาอยู่เมืองไทยกับอ้อนคะ” วาจาที่หลุดออกมาจากปากอวบอิ่ม โดยเฉพาะคำว่า ‘กับอ้อน’ ทำให้เซซาเรนึกหงุดหงิดเป็นเท่าทวี“พี่มาทำธุระ และจะมาชวนอ้อนย้ายไปอยู่อเมริกาด้วยกัน ว่าไงจะไปอยู่กับพี่ไหม”คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของไอ้คนที่มันกำลังทำท่าอี๋อ๋อกับเมียเขา ทำให้เซซาเรมิอาจทนเฉยได้อีกต่อไป ทันใดนั้นน้ำเสียงแข็งกร้าวก็โพล่งขึ้นอย่างไม่สนห่าเหวอะไรทั้งสิ้น “อ้อนรักเป็นภรรยาผม และเธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น หากสามีอย่างผมไม่อนุญาต” “อ้าว…ได้ยินมาว่าเธอเป็นภรรยาที่คุณไม่ต้องการไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาทำเป็น ‘หวงก้าง’ ทำไมล่ะครับ ผมว่าปล่อยให้เธอไปมีชีวิตใหม่ดีกว่ามั้ง เธอยังสาวยังสวย

  • อ้อนรักจอมวายร้าย   เมียแสนชัง (60%)

    วินาทีแรกที่เห็นเจ้าของร่างอรชรอ้อนแอ้นซึ่งอยู่ในชุดน่ารักแฝงความเซ็กซี่เล็กๆ เซซาเรก็เหมือนจะชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะปั้นสีหน้าเรียบสนิทยากจะคาดเดาอารมณ์ความรู้สึก ครั้นเห็นว่าผู้เป็นสามีไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่มีม่ายสาวพราวเสน่ห์และแสนจะเจนสังคมอย่างเพชรพริ้งยืนเกาะแขนอยู่ไม่หาง อ้อนรักก็นึกอยากจะหันหลังกลับ แต่ไม่กล้าทำอย่างใจคิด ด้วยเกรงว่าพ่อคนอารมณ์ร้อนจะอาละวาดหรือสาดถ้อยคำร้ายๆ ใส่หน้า “เอ่อ…เราจะไปสวัสดีท่านผู้ว่าฯ กันได้หรือยังคะ อ้อนพร้อมแล้วค่ะ”อันที่จริงอ้อนรักก็ไม่ได้อยากขัดจังหวะการพูดคุยอย่างถูกคอของคนทั้งคู่นักหรอก อยากไปให้พ้นๆ จากตรงนั้นเสียด้วยซ้ำ เพราะยิ่งมองภาพบาดตาก็ยิ่งเจ็บปวดหัวใจ แต่ในฐานะภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเธอย่อมมีสิทธิ์ดึงสามีออกมาจากหญิงอื่นด้วยวิธีละมุนละม่อม “ผมขอตัวก่อนนะครับพริ้ง จะพายัยนี่ไปสวัสดีท่านผู้ว่าฯ เสียหน่อย”“อย่าไปนานนะคะพริ้งคิดถึง” น้ำคำออดอ้อนออเซาะหวานหยดย้อยทำให้สาวหวานผู้เรียบร้อยอดเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ และกิริยาซุกซนที่ซ่อนอยู่ในท่าทีหน่อมแน้มก็ทำให้เซซาเรกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปตอบโต้แม่ม่า

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status