Masukวินาทีแรกที่เห็นเจ้าของร่างอรชรอ้อนแอ้นซึ่งอยู่ในชุดน่ารักแฝงความเซ็กซี่เล็กๆ เซซาเรก็เหมือนจะชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะปั้นสีหน้าเรียบสนิทยากจะคาดเดาอารมณ์ความรู้สึก
ครั้นเห็นว่าผู้เป็นสามีไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่มีม่ายสาวพราวเสน่ห์และแสนจะเจนสังคมอย่างเพชรพริ้งยืนเกาะแขนอยู่ไม่หาง อ้อนรักก็นึกอยากจะหันหลังกลับ แต่ไม่กล้าทำอย่างใจคิด ด้วยเกรงว่าพ่อคนอารมณ์ร้อนจะอาละวาดหรือสาดถ้อยคำร้ายๆ ใส่หน้า
“เอ่อ…เราจะไปสวัสดีท่านผู้ว่าฯ กันได้หรือยังคะ อ้อนพร้อมแล้วค่ะ”
อันที่จริงอ้อนรักก็ไม่ได้อยากขัดจังหวะการพูดคุยอย่างถูกคอของคนทั้งคู่นักหรอก อยากไปให้พ้นๆ จากตรงนั้นเสียด้วยซ้ำ เพราะยิ่งมองภาพบาดตาก็ยิ่งเจ็บปวดหัวใจ แต่ในฐานะภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเธอย่อมมีสิทธิ์ดึงสามีออกมาจากหญิงอื่นด้วยวิธีละมุนละม่อม
“ผมขอตัวก่อนนะครับพริ้ง จะพายัยนี่ไปสวัสดีท่านผู้ว่าฯ เสียหน่อย”
“อย่าไปนานนะคะพริ้งคิดถึง” น้ำคำออดอ้อนออเซาะหวานหยดย้อยทำให้สาวหวานผู้เรียบร้อยอดเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ และกิริยาซุกซนที่ซ่อนอยู่ในท่าทีหน่อมแน้มก็ทำให้เซซาเรกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปตอบโต้แม่ม่ายสาวที่มีข่าวฉาวเป็นอาจิณ
“แค่ทักทาย เสร็จแล้วเดี๋ยวผมมาหา”
อ้อนรักเดินตามก้นสามีจอมยโสต้อยๆ ได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หันกลับมากระชากเธอเข้าประชิดตัว แล้วถือวิสาสะโอบเอวอ้อนแอ้น บังคับให้เดินเคียงคู่กันไป ก่อนจะก้มลงกระซิบเสียงดุๆ
“ใครบอกให้เธอแต่งตัวแบบนี้”
“ไม่มีใครบอกหรอกค่ะ แต่อ้อนมีเสื้อผ้าไม่เยอะ และคิดว่าชุดนี้ดีที่สุดก็เลยใส่” หญิงสาวตอบอย่างซื่อๆ
“ดีบ้าอะไรล่ะ!” เซซาเรหลุดคำรามเหมือนโมโหให้เธอนักหนา ท่าทีหงุดหงิดของสามีทำให้สาวหวานขมวดคิ้วน้อยๆ แค่เธอแต่งตัวแบบนี้เขาถึงกับจะของขึ้นเชียวหรือ
“เอ่อ…มันไม่เหมาะเหรอคะ” อ้อนรักเอ่ยถามเพราะเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจ
“ใช่ นอกจากมันจะไม่เหมาะแล้ว มันยังไม่สวย และโป๊มากด้วย”
“โป๊ตรงไหนคะ อ้อนว่าชุดนี้เรียบร้อยจะตาย”
“เรียบร้อยบ้านเธอน่ะสิ เปิดไหล่จนเห็นไปถึงไหนต่อไป คราวหน้าไม่ต้องใส่แล้วนะไอ้ชุดแบบนี้ และถ้าจะให้ดีเอามันไปเผาไฟทิ้งซะ ฉันไม่ชอบ!”
ทันทีที่เขากล่าวจบเธอก็ขืนกายออกจากวงแขนแกร่ง หันไปจ้องใบหน้าหล่อลากไส้ แล้วเอ่ยถามอย่างใคร่รู้
“อาเซตมองยังไงถึงว่ามันโป๊คะ ชุดนี้ออกจะมิดชิดทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ดูสิคะ…”
ยังไม่ทันจะขาดคำเจ้าของร่างเพรียวระหงก็หมุนตัวโชว์ชุดสวย ทำให้ชายกระโปรงพลิ้วสะบัดแลเห็นปลีน่องขาวผ่องรำไร ครั้นเห็นหนุ่มๆ ที่อยู่บริเวณนั้นต่างมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียตาปรอยเซซาเรก็หมดสิ้นความอดทน
“หยุดเถียงผัวเดี๋ยวนี้นะอ้อนรัก! ผัวบอกว่าโป๊ก็โป๊สิ!”
เขาออกคำสั่งเกือบเป็นตวาดแทนที่จะกระซิบกระซาบดังเช่นก่อนหน้านี้ และถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากหยักก็ทำให้บรรดาหนุ่มๆ ที่ได้ยินถึงกับพากันทำหน้าเสียดาย
ไม่รู้เธอคิดไปเองหรือเปล่าว่าอีกฝ่ายเน้นคำว่าผัวเป็นพิเศษ
“ถ้าคราวหน้าเห็นใส่ชุดโป๊ๆ แบบนี้อีกล่ะก็ พ่อจะจับถอดออกให้หมด”
วาจาประกาศกร้าวทำให้คนฟังแอบย่นจมูก
ชิ…คนอะไรดีแต่สั่งๆๆ ชุดที่เธอใส่มันโป๊ที่ไหนกันล่ะ แค่เปิดให้เห็นไหล่นิดหน่อยเท่านั้นเอง คนที่แต่งตัวโป๊ของจริงคือแม่เพชรพริ้งของเขาโน่น
อ้อนรักนึกหมั่นไส้แต่ยั้งใจไม่ตอบโต้ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเคียงคู่กันไปอย่างเงียบๆ ไม่ว่าจะเยื้องย่างกรายไปทางไหนสาวน้อยใหญ่ต่างมองสามีเธอตาเยิ้ม ส่วนหนุ่มๆ ก็เหมือนจะให้ความสนใจเธอเป็นพิเศษ แวบหนึ่งอ้อนรักรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคำรามจากคนข้างกาย และในวินาทีถัดมาเอวบางก็ถูกร้อยรัดด้วยวงแขนกำยำอีกครา
“อาเซตไม่ต้องโอบเอวอ้อนก็ได้ค่ะ อ้อนเดินเองได้” หญิงสาวเอ่ยท้วงพลางพยายามแกะวงแขนกำยำออกจากเอวคอดกิ่วในขณะที่ทั้งคู่ยังคงก้าวไปข้างหน้า
“ให้ฉันโอบน่ะดีแล้ว เดี๋ยวเธอทำเซ่อซ่าไปชนใครเขาเข้าฉันจะขายหน้า”
“ถ้ากลัวจะขายหน้าขนาดนั้นก็ไม่น่าไปลากอ้อนออกมาจากในครัวเลย” สาวหวานพ้อน้อยๆ พร้อมทำหน้าง้ำ ก่อนที่จะอ้าปากค้างเมื่อได้ยินถ้อยคำโอหังที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา
“ฉันไม่ได้ลากเธอเสียหน่อย เธอเดินออกมาเองต่างหากล่ะ”
“มันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละค่ะ”
“หยุดเถียงคำไม่ตกฟาก แล้วยิ้มหวานๆ” ครั้นทั้งคู่เดินจวนจะถึงจุดที่ท่านผู้ว่าฯ และภรรยากำลังยืนคุยกับนางสอางค์อย่างออกรส เซซาเรก็กระซิบสั่งเสียงเข้ม
หลังจากพาอ้อนรักมาทำความรู้จักกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและภริยา เซซาเรก็ยังไม่ยอมผละห่างจากเธอ ปากบอกจะกลับไปหาเพชรพริ้ง สาวสวยเซ็กซี่ที่เทียวไปเทียวมาหาเขาตลอดระยะเวลาที่เซซาเรมาเยือนเมืองไทย ทว่าเขากลับทำตัวติดกับเมียแสนชังอย่างเธอแจ โดยที่คนยโสอ้างว่ากลัวเธอจะทำให้เขาขายหน้า ยิ่งในจังหวะที่มีหนุ่มๆ เข้ามาทักทายเมียที่เขามักจะประกาศปาวๆ ว่าไม่ปรารถนา เซซาเรก็ยิ่งออกอาการหงุดหงิด โอบเอวอ้อนแอ้นไม่ห่าง
“อ้อน!...ใช่อ้อนหรือเปล่า” เสียงร้องถามผสานความตื่นเต้นที่เจ้าตัวมิอาจเก็บไว้ทำให้คนที่ถูกสามีลากออกมาไกลหูไกลตาหนุ่มๆ กลุ่มใหญ่หันขวับไปมองยังต้นเสียง ก่อนจะเปิดยิ้มกว้าง แกะวงแขนแกร่งที่ร้อยรัดเอวบางออก แล้วโผเข้ากอดเจ้าของร่างสูงใหญ่ทันควัน
“อ้อนคิดถึงพี่กฤษณ์ที่สุดเลยค่ะ นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอหน้าพี่กฤษณ์เสียแล้ว”
หลังจากผละห่างแล้วจ้องหน้าหล่อๆ เจ้าของเสียงหวานใสก็เอื้อนเอ่ยกับผู้ที่เธอไม่ได้เจอมาหลายปีอย่างอ้อนๆ ทำเอาคนที่ถูกเมียลืมหน้าตึง
ตอนแรกเซซาเรคิดว่าไอ้หมอหน้าอ่อนนั่นแค่อยากจะกวนประสาทเขา จึงตกปากรับคำว่าจะมาทานข้าวเย็นด้วย แต่ที่ไหนได้มันดันมาจริงๆ “เอาล่ะ…ย่าว่าเราย้ายไปที่โต๊ะอาหารกันดีกว่า ป่านนี้แม่บ้านคงจัดกับข้าวกับปลาใกล้จะเสร็จแล้วมั้ง มาพ่อเซต ชวนแขกของเรามากินข้าวด้วยกัน”ครั้นสนทนากันพอหอมปากหอมคอคนแก่ก็เอ่ยขึ้น รายหลังสุดนางสอางค์ไม่ได้อยากจะเชื้อเชิญนักหรอก แต่ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านจึงไม่อาจไปไล่ตะเพิดแขกเป็นเด็กๆ ทำได้เพียงลอบสังเกตการกระทำของอีกฝ่ายอยู่เงียบๆ หากมีอะไรเกินพอดีก็อาจจะต้องมีการตักเตือนกันบ้าง หลังจากจูงมือหนูน้อยอัปสรสวรรค์เดินไปยังโต๊ะอาหารตามหลังผู้เป็นย่าซึ่งมีคุณหมอหนุ่มประคองทุกย่างก้าว อ้อนรักก็ขอตัวไปในครัวเพื่อยกอาหารออกมาช่วยแม่บ้าน เสร็จแล้วก็เดินไปล้างมือในห้องน้ำ ครั้นจะหมุนตัวกลับเข้าไปยังโต๊ะอาหาร ร่างอ้อนแอ้นก็ชนเข้ากับใครบางคนตรงหน้าห้องน้ำ “อุ๊ย!” เสียงหวานใสหลุดอุทานด้วยความตกใจ วินาทีถัดมาดวงตากลมโตก็มองสำรวจแผ่นอกกว้างตรงหน้า ไม่บอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือสามีของเธอ “หึ…ขวัญอ่อนจริงเชียว” น้ำเสียงห้าวห้วนมีแววเหน็บแนมในทีจนคนฟังเผลอชักสีหน้าด้ว
เธอจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนตัวเองถูกสามีจูบอย่างดูดดื่ม คราแรกนั้นคนเย็นชาหน้าตายจดๆ จ้องๆ ปากเธออยู่ ก่อนจะวูบหน้าลงมาหาคล้ายหมดสิ้นความอดทนผสมเก็บกด จากนั้นก็บดขยี้เรียวปากสีกุหลาบอย่างเร่าร้อนประหนึ่งอดอยากปากแห้งมาแรมปี ความร้อนแรงระคนตะกละตะกลามในแรกเริ่มเดิมทีค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นดูดดื่ม ละมุนละไม และอ่อนหวาน จนคนครึ่งหลับครึ่งตื่นอย่างเธอคล้อยตาม ยอมเผยอกลีบปากอวบอิ่มแยกแย้มให้ภมรหนุ่มได้เชยชิมความหวานซ่านทรวงจากภายในกระพุ้งแก้มอิ่มอุ่น กว่าพ่อหนุ่มจอมฉกฉวยจะยอมผละห่างก็เมื่อเธอนั้นดิ้นรนขัดขืน เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกสูบลมหายใจออกไปจากร่างเสียสิ้น ในความทรงจำอันเลือนลางนั้นเธอเหมือนได้ยินอีกฝ่ายพึมพำปลอบประโลมให้หลับ แล้วก้มลงจุมพิตเปลือกตาทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยนเป็นการส่งท้าย สรุปทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ใช่ความฝันอย่างนั้นหรือ? สาวหวานรำพันในอกด้วยความกระดากอายสุดฤทธิ์ ใบหน้าสวยหวานแดงแจ๋ แค่คิดว่าโดนอีกฝ่ายขโมยจูบอย่างดูดดื่มเธอก็จั๊กจี้หัวใจเสียแล้ว จากนั้นอ้อนรักก็สะบัดศีรษะขับไล่ความฟุ้งซ่าน แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนด้วยท่าทางเร่งรีบ ห
“ส่งหลานมาสิ”ความใกล้ชิดแบบไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้อ้อนรักทำอะไรไม่ถูก หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้เป็นสามีเอ่ยอะไรออกมาบ้าง มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนหน้าไม่อายช้อนฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าใต้รักแร้ของเธอ แล้วยกร่างเพรียวระหงให้ยืนขึ้น ก่อนจะอ้าแขนรับหลานสาวที่โผเข้าหา “อ้าว…มัวยืนบื้ออยู่ทำไมล่ะ ไปเตรียมข้าวเช้าให้คนดีสิ กินข้าวแล้วจะได้กินยา หรือว่าอยากนั่งตักผัวเหมือนหลาน” วาจาเรียบๆ ในตอนท้ายทำให้แก้มเนียนใสขึ้นสีระเรื่อ “คนบ้า! ฉันเปล่าเสียหน่อย” แม่คนขี้อายค้อนน้อยๆ ก่อนจะหันไปเอ่ยขอตัวกับคุณหมอหนุ่ม โดยไม่ลืมที่จะชักชวนให้อีกฝ่ายมาทานข้าวเย็นด้วย เพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาอุตส่าห์สละเวลามาตรวจอาการของหลานสาวถึงไร่ คราแรกนั้นปรเมศตั้งใจจะเอ่ยปฏิเสธ ทว่าพอเห็นสายตาดุกร้าวของเซซาเรเขากลับเลิกคิ้วท้าทาย แล้วตอบตกลงอย่างหน้าตาเฉย ครั้นอ้อนรักเตรียมอาหารเช้าให้หลานเสร็จปรเมศก็กลับไปเสียแล้ว เธอป้อนข้าวให้เด็กอ้วนช่างกินขณะเงี่ยหูฟังบทสนทนาของสามีกับเพชรพริ้งที่นั่งอยู่ตรงชานเรือน เสียงหัวร่อต่อกระซิกทำให้สาวหวานปวดแปลบในอกอย่างมิอาจห้ามได้ ทว่ากลับต้องข่มใจและเตือ
วันนี้อ้อนรักไม่ได้ออกไปตรวจงานในไร่ตั้งแต่เช้าตรู่เช่นเคย เนื่องจากว่าเมื่อคืนนี้ตอนเกือบเที่ยงคืนผู้เป็นย่ามาเคาะประตูห้องนอน แล้ววานให้เธอไปเช็ดตัวลดไข้ให้หนูน้อยอัปสรสวรรค์ซึ่งมีอาการไข้ขึ้นในเวลากลางดึก อ้อนรักทำหน้างงนิดๆ ที่หลานตัวน้อยไปนอนกับคนเป็นย่า ก่อนที่คนแก่จะเฉลยว่าตอนประมาณสามทุ่มท่านได้ให้สาวใช้ไปเอาเหลนมานอนด้วย เพราะนึกสงสารหลานเขยที่อยากจะเข้าหอกับหลานสาว หลังจากเฝ้าเช็ดตัวให้คนไข้ตัวน้อยจนไข้ลดอ้อนรักก็นอนกอดร่างจ้ำม่ำแล้วผล็อยหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีในตอนสายๆ เมื่อหนูน้อยอัปสรสวรรค์ขยับตัวยุกยิก ก่อนที่เธอจะใช้หลังมืออังหน้าผากของหลานสาว แล้วก็ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะอุณหภูมิในร่างกายของเด็กอ้วนลดลงจนเกือบจะเป็นปกติแล้ว หากแต่ยังไม่น่าไว้วางใจอยู่ดี ครั้นคิดได้ดังนั้นเธอจึงโทรศัพท์ไปหานายแพทย์ปรเมศ จิรกุล แล้ววานให้อีกฝ่ายมาตรวจอาการของหลานสาวที่ไร่ จากนั้นก็เช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้คนที่พอตื่นมาก็อ้อนขอดูการ์ตูนพี่มินเนี่ยน ครั้นจะพาหลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในชุดน่ารักออกจากห้องเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ก้มลงมองหน้าจอมือถือแล้วทำหน้างงๆ ที่คนโทร
ฮึ่ม! ผัวยืนทนโท่อยู่นี่แม่ตัวดียังกล้าไปออดอ้อนออเซาะผู้ชายคนอื่น มันน่านัก! “ยังขี้อ้อนเหมือนเดิมเลยนะเราเนี่ย” กฤษณ์ ฤทธิไกรสร เอ่ยเย้าอย่างยิ้มๆ พลางยีหัวคนตัวเล็กด้วยความมันเขี้ยว เขากับอ้อนรักเป็นญาติห่างๆ แต่มีความสนิทสนมประหนึ่งพี่ชายกับน้องสาว เพียงแต่ระยะสองปีให้หลังมานี้ทั้งคู่แทบจะเรียกได้ว่าขาดการติดต่อ เพราะต่างก็ยุ่งอยู่กับหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ “พี่กฤษณ์มาทำธุระหรือว่าจะย้ายมาอยู่เมืองไทยกับอ้อนคะ” วาจาที่หลุดออกมาจากปากอวบอิ่ม โดยเฉพาะคำว่า ‘กับอ้อน’ ทำให้เซซาเรนึกหงุดหงิดเป็นเท่าทวี“พี่มาทำธุระ และจะมาชวนอ้อนย้ายไปอยู่อเมริกาด้วยกัน ว่าไงจะไปอยู่กับพี่ไหม”คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของไอ้คนที่มันกำลังทำท่าอี๋อ๋อกับเมียเขา ทำให้เซซาเรมิอาจทนเฉยได้อีกต่อไป ทันใดนั้นน้ำเสียงแข็งกร้าวก็โพล่งขึ้นอย่างไม่สนห่าเหวอะไรทั้งสิ้น “อ้อนรักเป็นภรรยาผม และเธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น หากสามีอย่างผมไม่อนุญาต” “อ้าว…ได้ยินมาว่าเธอเป็นภรรยาที่คุณไม่ต้องการไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาทำเป็น ‘หวงก้าง’ ทำไมล่ะครับ ผมว่าปล่อยให้เธอไปมีชีวิตใหม่ดีกว่ามั้ง เธอยังสาวยังสวย
วินาทีแรกที่เห็นเจ้าของร่างอรชรอ้อนแอ้นซึ่งอยู่ในชุดน่ารักแฝงความเซ็กซี่เล็กๆ เซซาเรก็เหมือนจะชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะปั้นสีหน้าเรียบสนิทยากจะคาดเดาอารมณ์ความรู้สึก ครั้นเห็นว่าผู้เป็นสามีไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่มีม่ายสาวพราวเสน่ห์และแสนจะเจนสังคมอย่างเพชรพริ้งยืนเกาะแขนอยู่ไม่หาง อ้อนรักก็นึกอยากจะหันหลังกลับ แต่ไม่กล้าทำอย่างใจคิด ด้วยเกรงว่าพ่อคนอารมณ์ร้อนจะอาละวาดหรือสาดถ้อยคำร้ายๆ ใส่หน้า “เอ่อ…เราจะไปสวัสดีท่านผู้ว่าฯ กันได้หรือยังคะ อ้อนพร้อมแล้วค่ะ”อันที่จริงอ้อนรักก็ไม่ได้อยากขัดจังหวะการพูดคุยอย่างถูกคอของคนทั้งคู่นักหรอก อยากไปให้พ้นๆ จากตรงนั้นเสียด้วยซ้ำ เพราะยิ่งมองภาพบาดตาก็ยิ่งเจ็บปวดหัวใจ แต่ในฐานะภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเธอย่อมมีสิทธิ์ดึงสามีออกมาจากหญิงอื่นด้วยวิธีละมุนละม่อม “ผมขอตัวก่อนนะครับพริ้ง จะพายัยนี่ไปสวัสดีท่านผู้ว่าฯ เสียหน่อย”“อย่าไปนานนะคะพริ้งคิดถึง” น้ำคำออดอ้อนออเซาะหวานหยดย้อยทำให้สาวหวานผู้เรียบร้อยอดเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ และกิริยาซุกซนที่ซ่อนอยู่ในท่าทีหน่อมแน้มก็ทำให้เซซาเรกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปตอบโต้แม่ม่า







