สวรรค์ของคนทำงานออฟฟิศคือเวลาใกล้เลิกงานเตรียมตัวกลับบ้าน แต่นรกของคนเตรียมเลิกงานก็คือ...
“พี่รจคะ”
หญิงสาวร่างเพรียวระหงชะงักเท้าที่ยังไม่ทันก้าวเหยียบเข้าออฟฟิศที่ติดป้ายฝ่ายประชาสัมพันธ์ค้าง ตาขวาเริ่มกระตุกรัวๆ
“คะน้องปลา มีอะไรหรือเปล่าเอ่ย”
รจนาหันไปฉีกยิ้มหวานให้เด็กฝึกงานสาวน้อยวัยใส แต่ใจนี่สิถึงขั้นสวดภาวนา
อย่าเชียวนะ อย่ามางานเข้าตอนใกล้เลิกงานแบบนี้ โดยเฉพาะวันนี้ที่คนยิ่งรีบๆ อยู่ จะรีบไปเซอร์ไพร์ซฉลองวันเกิดแฟนเสียด้วย วันอื่นได้ไหม อย่ามาวันนี้!
“มีค่ะ”
คนฟังทำหน้าเมื่อย แอบกระแทกลมหายใจหนักหน่วง
นั่นไง ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้บ้างวะ
“เมื่อกี้คุณอ้อยเลขาบอสโทรมาค่ะ บอกว่าถ้าพี่กลับมาแล้วให้รีบไปพบบอสที่ออฟฟิศด่วนเลยค่ะ”
“ด่วนเหรอ มีอะไรหรือเปล่า...”
คำถามนั้นหยุดค้าง เมื่อดวงตาสวยคมที่ถูกเจ้าตัวกรีดจนดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยสมเป็นพีอาร์สาวสวยมือหนึ่งประจำแผนกปรายมองไปทางโต๊ะทำงานที่ติดป้าย ‘ผู้ช่วยฝ่ายประชาสัมพันธ์อาวุโส’ ซึ่งตอนนี้ว่างเปล่าพร้อมกับลางสังหรณ์ที่รุนแรง
“แล้วนี่พี่ดาต้าล่ะ ยังไม่กลับมาจากไปเยี่ยมสื่ออีกหรือ”
“อ๋อ...กลับมาพักใหญ่แล้วค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ออฟฟิศบอส น่าจะกำลังคุยงานสำคัญนะคะ เห็นหายไปตั้งนานเป็นชั่วโมงแล้ว”
“หืม?”
คิ้วงามเลิกขึ้น ปกติถึงเวลาเลิกงาน ยัยนั่นก็เก็บกระเป๋าพร้อมเด้งก่อนเวลาเสียอีก แต่วันนี้เลิกงานช้าได้เนี่ยนะ หรือยัยนั่นกำลังหาเหามาใส่หัวฉันหาเรื่องเลื่อยขาเก้าอี้กันอีกแล้ววะ
สู้ในงานรจนาไม่เคยกลัวใคร แต่ถ้ามาเล่นนอกเกมส์นี่ไม่ไหว ขอบอกว่าเพลียใจมากแม่
แค่วันนี้ที่ต้องวิ่งรอกตามแก้งานทั้งที่ไม่ใช่ความผิดพลาดของตัวเองจนหัวฟูก็น่าโมโหแล้ว ยังไม่ทันได้ชำระความ กลับมาแทนที่จะเจอเจ้าของงานที่ควรอยู่รับหน้าและขอโทษอย่างสำนึกผิด แต่ก็เปล่า ยัยนั่นยังมีหน้าเฉิดฉายตามนายออกไปมอบกระเช้าดอกไม้ในงานครบรอบวันเกิดของทีวีช่องหนึ่งอีกอย่างไม่สะทกสะท้าน ทั้งที่ควรเป็นงานที่เธอต้องไปต่างหากเพราะซีเนียร์กว่า
คิดแล้วก็คันปากอยากด่า!
เรื่องเอาหน้าขอให้บอก แต่เรื่องงานกลับไม่ได้เรื่อง แต่งตัวสวยไปวันๆ แต่งานที่ต้องรับผิดชอบกลับผิดบาน กระทั่งภาษาไทยที่ต้องใช้เขียนข่าวง่ายๆ ที่เด็กฝึกงานยังทำได้ แต่เจ้าหล่อนยังอุตส่าห์พิมพ์ผิดวินาศสันตะโรให้เธอต้องตามแก้อยู่บ่อยๆ โดยอ้างว่าตัวเองไปเรียนเมืองนอกมานาน ทำให้ทักษะภาษาง่อย แต่ขอโทษเถอะ ภาษาอังกฤษยังกากอีกนี่สิ จะให้คิดยังไงวะ
สรุปไปเรียนเมืองนอกหรือนอกเมืองกันแน่ก็อยากจะถาม
ครั้นจะไม่ทำก็ไม่ได้เพราะเป็นผลงานของแผนก ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงประเมินผลประจำปี ที่ปีนี้รจนาคาดหวังสูง อย่างน้อยต้องได้โบนัสไม่ต่ำกว่า 10 ไม่สิ 5 เดือนก็ได้ ในยุคข้าวยากหมากแพงค่าแรงแสนถูกแบบนี้ โบนัส 5 เดือนก็หรูหราหมาเห่าแล้ว ไหนจะตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่ใฝ่ฝันมานานอีกล่ะ
ตั้งแต่พี่ตาลผู้จัดการแผนกฯ คนเก่าลาออกไปแต่งงานมีผัว และมีหยอดคำหวานทิ้งท้ายขายฝันว่าเธอในฐานะเด็กปั้นผู้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมสามารถขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกคนต่อไปอย่างไม่มีใครเทียบเทียมอีกล่ะ แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องมาผิดแผนไปหมดเพราะโดนมารผจญที่มาในชื่อของเด็กเส้นที่ผู้ใหญ่ฝากมาเสียก่อน...
‘นี่คือคุณดาริกา หรือดาต้า ต่อไปจะมาทำงานกับบริษัทเราในตำแหน่งผู้ช่วยพีอาร์อาวุโสนะครับ เธอเพิ่งกลับจากเมืองนอก ยังไงผมฝากคุณรจช่วยดูแลด้วยนะครับ’
นั่นถือว่าไว้หน้าคนเก่าแก่อย่างเธอที่กำลังคั่วตำแหน่งหัวหน้าแผนก จีเอ็มคนใหม่ที่เพิ่งมาแทนคนเก่าได้ไม่ถึงปีถึงกับพามาแนะนำด้วยตัวเอง แปลว่าย่อมไม่ธรรมดา
แล้วยัยนั่นก็ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเธอได้ยินข่าววงในมาว่าดาริกาเป็นถึงหลานสาวเพื่อนเมียของเมียเจ้าของบริษัท
แม่งเอ๊ย! แค่ให้ลำดับญาติก็งงแล้ว เอาเป็นว่ายัยนี่เส้นใหญ่พอดู แต่การจะเป็นเด็กเส้นเด็กฝากอะไรเธอไม่สนหรอกหากมีฝีมือทำงานเก่งจริง ไม่ใช่เอะอะโบ้ยงานตลอด มาสาย ชอบเลียขานาย แถมกลับบ้านไว ความผิดไม่รับรับแต่ความชอบ ไม่นับขี้ฟ้องบรรลัยทุกสิ่งอีก แค่คิดก็ไมเกรนจะขึ้นแล้ว มาทำงานไม่กี่เดือน ทำผมเธอหงอกไปหลายเส้นแล้วเนี่ย ขืนร่วมงานกันไปซักปีสองปี เธอคงกลายเป็นนางพญาผมขาวแน่
แต่ที่รจนาจำต้องทนก็เพื่อสิ่งที่หวัง งานสมัยนี้ก็ใช่จะหากันง่ายๆ เสียด้วย บริษัทนี้เธออยู่ตั้งแต่ฝึกงาน ค่อยๆ ไต่เต้าพัฒนาฝีมือจนถึงวันนี้กับตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ อีกก้าวเดียว ก้าวเดียวเท่านั้น เธอจะยอมให้พังเพียงเพราะเพื่อนร่วมงานกากๆ คนเดียวไม่ได้
ไม่มีทาง! ไม่มีทางแน่นอน แต่...
รจนาเลยไม่ใช่แค่หนู แต่เธอเป็นโครตของโครตหนูที่ตกบ่อเพชร หลังแต่งงานหญิงสาวก็ย้ายไปอยู่ที่กระท่อมกลางไร่กับสามีสองคน ระหว่างที่รอเรือนหอที่เจ้าบ่าวทุ่มทุนสร้างให้ใหม่เสร็จ เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังอยู่ในท้องแม่สาวขี้อ้อนอีกสองหน่อนี่ยังไม่นับสมาชิกลูกหมาพันธุ์บีเกิ้ลผสมพันธุ์ทางอีกโขยงที่เธอและสามียังทะเลาะกันเรื่องตั้งชื่อไม่เสร็จ และคงทะเลาะกันไปจนกระทั่งลูกแฝดในท้องของรจนาคลอดไร่ของสาธุเริ่มมีชื่อเสียงไปทั่วเพราะสองผัวเมียช่วยกัน รจนาคืออดีตพีอาร์มือโปรเก่า เธอทำงานดีเยี่ยมจนทำให้ไร่ของสามีโด่งดังไปไกล จนเพื่อนที่ทำงานเก่าพลอยอิจฉาพอพูดถึงที่ทำงานเก่า ข่าวล่าสุดที่รจนาได้รับคือ...เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องอย่างดาริกาถูกจับได้ว่าแอบกิ๊กกับอดีตเจ้านายหัวงูในที่ทำงาน เพราะเมียของอีกฝ่ายบุกมาหาพร้อมด้วยของกำนัลเป็นน้ำกรดอย่างดี แต่คนให้ดันมือไม่แม่น แทนที่จะสาดหน้าชู้รักของผัว แต่ดันสาดผิดไปโดนเป้าของผัวตัวเองแทนจนต้องตัดทิ้งทั้งพวง!ตอนเห็นข่าวแรกๆ รจนาตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันว่าควรสงสารหรือสมน้ำหน้าคนเจ้าชู้พรรค์นั้นดีส่วนดาต้าก็ถูกไล่ออกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องแต่ใช้เต้าไต่เพื่อแย่
“พี่สาจ๋า...มันจะเจ็บมากไหม รจกลัว”โอ๊ย...ทำไมน่ารักแบบนี้วะเมียกู! แค่นี้ก็รักจนจะคลั่งตายแล้วมั้ยเนี่ย แบบนี้เขาจะไปไหนรอดวะ ต่อให้ไปได้ก็ไม่ไปแล้วสาธุคุณส่งยิ้มหวานปลอบขวัญสาวเวอร์จิ้น เขาพอรู้ว่าครั้งแรกนั้นยอมมีเสียเลือดเสียเนื้อกันบ้าง ชายหนุ่มกดจูบเธอที่แก้มและหน้าผากก่อนมาหยุดที่ริมฝีปากช่างเจรจา ก่อนมอบคำหวานที่มาจากหัวใจและความรู้สึกที่มอบให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น“พี่รู้ว่ารจกลัว และรู้ด้วยว่านี่เป็นครั้งแรก แต่พี่จะพยายามไม่ทำให้รจเจ็บมากนักดีไหมครับ แต่ถ้ารจเจ็บหรืออยากจะหยุดก่อนก็ค่อยบอกพี่ พี่รับปากว่าจะไม่หักหาญน้ำใจรจ จะรอให้รจเป็นของพี่ด้วยความเต็มใจดีไหม”รจนาฟังแล้วน้ำตาคลอ ก่อนพยักหน้าข่มความกลัวเมื่อตัดสินใจแล้ว และอีกฝ่ายก็น่ารักกับเธอขนาดนี้เป็นไงเป็นกัน! จัดมาเลยพี่ เจ็บหน่อยแต่ฟินก็เอาวะนาทีนี้หญิงสาวกัดฟันแน่นเมื่อถูกความใหญ่โตของเขากดเข้ามาภายใน แต่ความคับแคบทำให้สาธุคุณต้องค่อยๆ ใจเย็น และปลุกเร้าอารมณ์เธอให้ผ่อนคลายไม่เกร็งเพื่อให้ความเจ็บทุเลาเบาบางและเปลี่ยนเป็นความฟินในที่สุดเสียงหวานคลอเคล้ากับเสียงพร่ากระเส่าขับขานเป็นห้วงทำนองรักที่สอดรับประสา
“ขวัญเอ๊ย ขวัญมา...”เสียงหวานกระซิบก่อนจะเงยหน้าสบตา “หายหรือยังจ๊ะ”สาธุคุณแกล้งส่ายหน้า “ยังไม่หาย”พอขาดคำหญิงสาวก็กดจูบที่ปากเขาไปอีกที คราวนี้ทำใจกล้าใช้ปลายลิ้นละเลงและแกล้งดูดดึงกลีบปากล่างของเขาเล่นเบาๆ อีกที“แล้วแบบนี้ล่ะ หายไหม”สาธุคุณใจเต้นแรง ลมหายใจสะดุดเบาๆ ก่อนส่ายหน้า“ไม่หาย”“ทำไมขวัญอ่อนจังล่ะสาจ๋า...” หญิงสาวยิ้มพลางยื่นริมฝีปากไปจูบอีกครา คราวนี้เขารีบเผยอปากรอรับ และเมื่อเธอทำใจกล้าสอดลิ้นเข้าไปในปากเขา ชายหนุ่มก็ครางเบาๆ อย่างชอบใจในความน่ารักของแฟนสาว ก่อนที่จะโต้ตอบกลับมาให้เธอหลงเขาหัวปักหัวปำบ้างรจนาถูกรสจูบหวานครอบงำจนใจกระเจิง ยามที่เขาพรมปลายลิ้นเข้าหาและจุมพิตเธอแบบสูบวิญญาณทั้งเป็นนั่น หญิงสาวก็เริ่มจะหายใจไม่ทันทำให้ต้องวิงวอนเขาทางสายตาสาธุคุณจึงยอมผ่อนแรงจูบให้เธอได้หายใจหายคออีกครั้ง ชายหนุ่มโอบกอดเธอเข้ามาจนชิดใกล้“เราแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลยไหม พี่ไม่อยากโสดแล้ว อยากมีรจเป็นเมีย อยากให้เมียจูบรับขวัญแบบนี้ทุกวันทุกคืนเลย”จะน่ารักไปไหนวะแฟนฉัน หลงจนหัวจะทิ่มแล้วเนี่ย“ดีเหมือนกัน พี่รีบไปขอรจกับพ่อแม่สิ หอบสินสอดไปเยอะๆ ล่ะจะได้ตบปากพวกชอบนินทา
“รจจะทิ้งพี่ได้ลงคอจริงเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเว้าวอน“ใครทิ้งใครกันแน่ โอ๊ย! ช่างเถอะ เอาเป็นว่าต่างคนต่างอยู่แล้วกัน เรายังเป็นเพื่อนบ้านกันได้”“แต่พี่ไม่อยากเป็นเพื่อนบ้านกับรจแล้วนี่”รจนาถอนหายใจพรืด อะไรวะ ขนาดสถานะเพื่อนบ้านเขาก็ไม่อยากให้ งกอะไรขนาดนั้น“งั้นเป็นศัตรูเลยดีไหม จะได้จบๆ ไม่ต้องเห็นหน้า ตายไปไม่ต้องเผาผี จะเอาแบบนี้ก็ได้นะ” บอกว่าจะพูดจาดีๆ แต่ไหงอินเนอร์มาเต็มอีกแล้วนี่“รจพูดจบหรือยัง”“อืม...จบแล้ว งั้นก็แยกย้ายเนอะ” หญิงสาวเอ่ยพลางจะตรงไปอุ้มหมากลับบ้าน แต่ยังไม่ทันเดินไปไหน ก็ถูกอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้นเสียก่อน“นี่! จะทำอะไร”“ทำน้ำปลาหวานให้เมียกินไง”“ไปทำให้ยัยนางเอกปากแดงนั่นกินสิไป เขาอาจจะชอบ ปล่อยฉันลงนะ”“พี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด!”“ก็เรื่องของคุณสิ มาบอกฉันทำไม...เอ๊ะ! เมื่อกี้คุณว่าไงนะ” หญิงสาวชะงักกึก หน้าตาเหรอหราอย่างน่าเอ็นดูในสายตาชายหนุ่ม“พี่บอกว่าพี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด ไม่มีทางกลับไปคบเขาด้วย เลิกแล้วเลิกเลยลาขาด” รจนาขมวดคิ้วแน่น“แล้วรูปที่คุณไปกอดแฟนเก่านั่นล่ะคืออะไร”“เขาขอให้พี่ช่วยเรื่องงานในวงการ พี่ก็ช่วยไปตามประสาคนเคยรู้จั
รจนาฟังแล้วอยากจะกรี๊ด เธอหรืออุตส่าห์ไม่ไปที่นั่น แล้วนี่อะไรกัน เจ้าเอริบ้านี่ ดันมาทำเสียเรื่อง แล้วทีนี้จะยังไง ถ้าไปที่นั่นก็ต้องเจอเขา หรืออาจเจอแฟนเก่าที่กลายเป็นแฟนใหม่เขาอีกครั้งล่ะสิเอาไงดีวะเนี่ย ตัดหางปล่อยวัดเสียดีไหม ไอ้หมาไม่รักดีนี่“เมรีว่างไหม พี่วานไปดูเจ้าเอริที่ท้ายซอยหน่อยสิ”“เมรีก็อยากไปให้นะพี่รจ แต่ต้องทำงานที่อาจารย์สั่งน่ะสิ เยอะเสียด้วย ทำทั้งคืนจะเสร็จไหมไม่รู้ ทำไมพี่ไม่ลองโทรถามเจ้าของไร่ทางนั้นเขาดูล่ะว่าเห็นหมาเราไหม”โทรไปให้เขาได้ใจน่ะสิ เรื่องอะไรเธอจะทำให้โง่“เออๆ พี่ไปเองก็ได้ คอยดูนะ ถ้าเจอจะตีให้ ไม่ได้สิมันท้องอยู่ตีไม่ได้ งั้นให้อดขนมสามวันละกัน” หญิงสาวบ่นอุบ ก่อนคว้าจักรยานปั่นออกไป พอคล้อยหลังพี่สาว คนที่บอกต้องทำงานส่งอาจารย์ก็เงยหน้าตาวาว หันไปคว้าโทรศัพท์มากดส่งไลน์รัวๆ“ขอโทษนะพี่รจ น้องทำเพื่อพี่ อโหสิให้กันเถอะนะ” ไร่ของเขาก็ยังคงเป็นเหมือนครั้งสุดท้ายตอนวันที่เธอจากมา รจนามองบ้านของเจ้าของไร่ที่วันนี้ปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ เจ้าของไร่คงไปทำงานในไร่ หรือไม่แน่ว่าอาจจะกำลังพาแฟนไปเปิดตัวให้คนงานรู้จักในฐานะว่าที่นายหญิงคนใหม
พอไปถึงหน้าบ้านสาวที่คิดถึง ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม บ้านปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ ชายหนุ่มชะเง้อคอยาวมองเข้าไปในบ้านหวังจะเห็นใครออกมาเปิดประตูให้“มีใครอยู่ไหมครับ”“โฮ่ง!” ชายหนุ่มหันขวับไปทางเสียงทักทายจากใต้แคร่ไม้ไผ่ก็เห็นเจ้าหมาบีเกิ้ลของเธอนอนพังพาบอยู่ ดูเหมือนมันจะอ้วนขึ้นกว่าตอนที่เห็นครั้งสุดท้ายจนแปลกตาสาธุคุณขมวดคิ้วคำนวนเวลาในใจ หรือว่า...หมาของเธอจะท้องลูกเจ้าวายของเขาเสียแล้ว“เอริ...มานี่มา”เพราะความคุ้นเคยที่มุดรั้วเข้าบ้านเขาอยู่เป็นเดือนๆ ทำให้เจ้าหมาน้อยยอมเดินมาหาชายหนุ่มอย่างดีใจ หากพูดได้มันคงถามหาแฟนหนุ่มที่นอนเหงาซึมกระทืออยู่ที่บ้านเขาเป็นกระบุงไปแล้ว“คิดถึงเจ้าวายล่ะสิ ไม่ได้เจอกันกี่วันแล้วเนี่ย”“โฮ่งๆ!” ชายหนุ่มเผลอยิ้ม ก่อนที่ทำหน้าเซ็ง“ฉันก็คิดถึงเจ้านายแกเหมือนกัน แกรู้ไหมว่าเขาหายไปไหน”“รู้สิ!”คราวนี้ไม่ใช่เสียงหมา แต่เป็นเสียงของ...“น้องเมรี...”คนถูกเรียกยืนหน้าบึ้งไม่ยิ้มแย้มให้เขาเหมือนเคยเอาล่ะสิ ไม่ใช่แค่แฟน กระทั่งน้องสาวแฟน หรือพ่อแม่ของเธอก็คงจะโกรธเขาเหมือนกัน งานเข้าแล้วไอ้สาธุ!“พี่สาธุมาทำอะไรที่นี่เหรอ มาหาใคร” เมรีถามเสียง