นายท่านหลิวมองผิงเหอกงที่เหงื่อแตกเต็มหัว รู้สึกว่าสมองตนเองใช้การไม่ไหวแล้ว"นางคือหมอเทวดาฟู่ ลูกชายท่านยังมีลมหายใจอยู่ไหม? ให้หมอเทวดาฟู่ลองรักษาดู บางทีอาจจะช่วยเขากลับมาได้!"ผิงเหอกงในที่สุดก็พูดเป็นประโยคได้ ตอนนี้จึงเพิ่งได้พักหายใจหายคอ"ท่านมาแทงมีดกรีดลงที่ใจข้าอีกครั้งใช่ไหม!"นายท่านหลิวปิดหน้าร้องไห้ "เกาหลินลูกข้าตัวเย็นไปแล้ว จะมีลมหายใจอีกได้อย่างไร..."ผิงเหอกงตกตะลึง มองฟู่จาวหนิงทันทีและชั่วพริบตานี้ ฟู่จาวหนิงก็จัดการเลิกเสื้อคุณชายน้อยหลิวออกและฝังเข็มไปนับสิบเข็มแล้วเรียบร้อยการเคลื่อนไหวนี้มัน...รวดเร็วเหลือเกิน!ฟู่จาวหนิงไม่เงยหน้า ท่าทางการลงเข็มก็ไม่หยุดแต่เสียงนั้นมั่นคงมาก"ยังไม่ตาย ข้ากำลังช่วยอย่างสุดกำลัง""ยัง ยังไม่ตาย?"นายท่านหลิวได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน รีบร้อนปีนตัวขึ้นมา ใช้แขนเสื้อออกแรงเช็ดตา จ้องเขม็งที่ฟู่จาวหนิง"ยังไม่ตาย พวกเข้าถอยออกไปก่อน ที่นี้ห้ามเหลือคนแม้แต่คนเดียว ข้อต้องใช้วิชาลับเฉพาะเพื่อช่วยชีวิต"ฟู่จาวหนิงยังคงไม่เงยหน้าขึ้น หลังจากแทงเข็มลงไปแล้วนางต้องใช้การทุบหน้าอกเพื่อช่วยชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องฉี
ฟู่จาวหนิงไม่สนว่านายท่านหลิวตอนนี้จะคิดอะไรก่อนที่นางจะมาให้เสี่ยวชิ่นกลับไปส่งคำพูดแล้วเรื่องของเด็กพวกนี้ เป็นไปได้มากว่าเกี่ยวข้องกับลัทธิเทพทำลายล้าง ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง เช่นนั้นการเคลื่อนไหวของลัทธิเทพทำลายล้างครั้งนี้จึงไม่เล็กเลย เป็นไปได้มากว่าเด็กเหล่านี้ไปเห็นอะไรเข้าดังนั้น จะต้องแจ้งให้เสิ่นเสวียนรู้ ให้พวกเขาเตรียมตัวป้องกันเซียวหลันยวนเองก็ต้องรู้ด้วยเสิ่นเสวียนกับเซียวหลันยวนพอได้ยินคำพูดของเสี่ยวชิ่น ก็สบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนออกคำสั่งไปทันที ให้เตรียมการป้องกัน และรีบไปตรวจสอบให้ชัดเจนลัทธิเทพทำลายล้างมีความแค้นกับพวกเขาพวกเขาคิดจะร่วมแรงกันขุดรากถอนโคน"ท่านอ๋อง ท่านจะไปไหนหรือ? พระชายาให้ท่านพักผ่อนดีดี" ชิงอีพอเห็นเซียวหลันยวนเปลี่ยนเสื้อผ้า และยังสวมหน้ากากเข้าไปอีก ใจจึงสั่นกึกขึ้นมา"ข้าไม่ได้ไปจัดการเอง แต่ตอนนี้จำเป็นต้องอยู่ข้างกายจาวหนิง"เซียวหลันยวนเป็นห่วงฟู่จาวหนิงในเมื่อเด็กพวกนั้นเป็นไปได้ว่าถูกคนของลัทธิเทพทำลายล้างสังหาร เช่นนั้นคนของลัทธิเทพทำลายล้างก็อาจจะจับจ้องครอบครัวเหล่านี้อยุ่ คอยสังเกตเด็กพวกนี้ว่าตายไปแล้วหรือยังฟู่จ
องค์จักรพรรดิเห็นท่าทีของนาง ความคิดในใจก็เลือนหายไปฝูอวิ้นอยากแต่งงาน อยากเป็นแม่คนเขาเองก็ไม่รู้ว่านางทำไมจึงมีทิฐิขนาดนี้ คอยอยู่แต่ในวังไปทั้งชีวิตมันไม่ดีหรอกหรือ?ถ้าเผ่านางแต่งงานกับคนอื่นไป ไปมีทายาทให้กับผู้อื่น แล้วโชคลาภถูกทำให้เบาบางลงล่ะ ถ้าถูกแบ่งออกไปจะทำอย่างไรกัน?แต่ว่าเขาเองก็ไม่สามารถคันค้านอย่างขึงขังได้ เขาไม่มีทางทำลายความรู้สึกระหว่างพี่น้องของพวกเขาแน่ จะให้ฝูอวิ้นเกิดความไม่ลงรอยกับเขาแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้น ถ้านางไม่ยอมอวยพรให้อย่างเต็มร้อยแล้วจะทำอย่างไรกัน?ดังนั้น เรื่องการขัดขวางการแต่งงานของนาง ยังต้องวางแผนให้ละเอียดอีก"ในคลังส่วนตัวของข้า มีผ้าไหมงามจันทร์พิสุทธิ์ที่สะสมไว้อยู่สองสามม้วน อีกเดี๋ยวให้คนไปนำออกมาแล้วตัดชุดกระโปรงให้เจ้าก็แล้วกัน ผ้าไหมงามจันทร์พิสุทธิ์ทั้งแผ่นดินเหลืออยู่แค่ไม่กี่ม้วนนี้แล้วเท่านั้น เป็นผ้าไหมที่ล้ำค่ามาก สูงสง่ามาก ข้าจะให้เจ้ากลายเป็นแม่นางที่งดงามที่สุดในฟ้าดินนี้ ใครก็เทียบเจ้าไม่ได้"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดวงตาเปล่งประกายเล็กน้อย ดูท่าทางชอบใจมาก"ขอบคุณองค์จักรพรรดิ""ขอบคุณอะไรกัน ฝูอวิ้น เจ้าต
"ช่วยกลับมาได้แล้ว จัดคนเฝ้าเขาไว้ก็พอ อย่าเพิ่งขยับตัวเขา มีเรื่องอะไรตะโกนเรียกข้า"ฟู่จาวหนิงพูดประโยคนี้เสร็จก็ปิดประตูทันที"หมอเทวดาฟู่ ท่านต้องช่วยต๋าเอ๋อร์ของพวกเราให้ได้นะ!"พวกของฮูหยินหลินใหญ่ทั้งสองคนล้วนคุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้น เหล่าสาวใช้ประคองขึ้นมาไม่ได้พวกนางตอนนี้ร่างกายอ่อนไปหมด"ลูกชายข้าช่วยกลับมาได้แล้วจริงหรือ? อ๊า!"นายท่านหลิวไม่สนใจพวกเขาอีก หลังจากได้ยินประโยคนี้ของฟู่จาวหนิงก็ร้องอ๊าพุ่งไปยังห้องของลูกชายทันทีคนรับใช้เองก็ร้องไห้วิ่งตามไปพวกเขาตรงไปข้างเตียง แค่เหลือบมองก็เห็นสีหน้าของหลิวเกาไหลแล้ว"นายท่าน สีหน้าของคุณชายมีสีเลือดแล้ว?" คนรับใช้ถามเสียงสั่นนายท่านหลิวไม่ตอบ ยื่นนิ้วอันสั่นเทาออกไปวัดลมหายใจของลูกชายก่อนหน้านี้วัดลมหายใจของหลิวเกาไหลไม่ได้เลย แม้เขาจะไม่อาจยอมรับความจริงนี้ แต่ตอนที่ผู้ดูแลเขามาถามว่าต้องเตรียมจัดงานศพเลยไหม เขาก็ทำได้แค่พยักหน้าทั้งน้ำตาทั้งจวนหลิวล้วนเตรียมจะจัดงานศพให้กับหลิวเกาไหลแล้วแต่ว่าตอนนี้...ลมหายใจอุ่นร้อน รดลงมาบนนิ้วของนายท่านหลิวนิ้วของนายท่านหลิวสั่นอย่างรุนแรง แต่ก็ยังไม่กล้าจะเชื่อ
"ลูกข้า ลูกชายข้าเขารอดกลับมาแล้ว!" นายท่านหลิวพุ่งออกมาจากในห้อง แทบจะโถมเข้าไปบนตัวผิงเหอกงผิงเหอกงรีบประคองตัวเขา"นายท่านหลิวอย่าเพิ่งตื่นเต้น"อายุตั้งขนาดนี้แล้ว เมื่อครู่คิดจะกระโดดเข้ามาบนตัวเขาอีก ทำเอากระดูกกระเดี้ยวเขากรีดร้องเลยทีเดียว"นายท่านหลิว เกาไหลของบ้านท่านรอดชีวิตแล้วจริงหรือ?" แม่สามีลูกสะใภ้ตระกูลหลินจ้องเขาตาแป๋ว"จริงสิ จริงสิ! ก่อนหน้านนี้ข้าจะให้ผู้ดูแลเอาโคมขาวไปแขวนแล้วด้วยซ้ำ เพราะลูกของข้าเหมือนไม่มีลมหายใจไปแล้ว"นายท่านหลิวปาดน้ำตาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นความตื่นเต้นแทน "ทว่าตอนนี้เขามีลมหายใจขึ้นแล้วจริงๆ มีชีวิตกลับมาแล้วจริงๆ ถึงแม้จะยังไม่ตื่น แต่ว่าข้าเมื่อครู่เพิ่งเห็นหน้าอกเขาพองยุบขึ้นมาแล้ว เขารอดแล้ว!""อามิตตาพุท พระเจ้าคุ้มครองแล้วจริงๆ"ฮูหยินหลินใหญ่กราบไหว้ไปบนฟ้า น้ำตาร่วงผล็อย มองไปทางประตูห้องข้างที่ปิดสนิทนายท่านหลิวเองก็มองไป"หมอเทวดาฟู่จะต้องช่วยหลินต๋ากลับมาได้แน่!"ลูกชายของพวกเขาตอนสามสี่ขวบมักจะมาเล่นอยู่ด้วยกัน ดังนั้นนายท่านเหล่านี้จึงค่อนข้างสนิทกันตอนนี้นายท่านหลิวเองก็หวังว่าหลินต๋าจะรอดกลับมาฟู่จาวหนิงไม
นี่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ตอนที่พิษคงค้างยังไม่ถูกกำจัด ถ้าเขามารอข้างนอกครึ่งชั่วยามในอากาศเช่นนี้คงกลายเป็นเหมือนก้อนน้ำแข็งไปแล้ว ต่อให้กระตุ้นกำลังภายในก็แทบไม่มีประโยชน์แต่ก่อนเขาล้วนระวังสิ่งเหล่านี้ คอยเฝ้ารออยู่ด้านนอกไม่ได้นานนักทว่าตอนนี้เขากระทั่งไม่รู้สึกหนาวด้วยซ้ำ เพราะกำลังภายในที่ลึกล้ำแสดงบทบาทออกมาได้เต็มที่เซียวหลันยวนในที่สุดก็รู้สึกถึงประโยชน์ตอนที่มือของตนเองยังอบอุ่นได้ในช่วงเวลาที่หนาวเย็นเสียที"นายท่าน ข้าทำไมถึงไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวอะไรเลย? พระชายารักษาคุณชายตระกูลหลินอย่างไรกันแน่?"ชิงอีเองก็อดทนมาหนึ่งชั่วยามแล้วก่อนหน้านี้ตอนที่เขาไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวยังคิดว่าฟู่จาวหนิงอาจจะกำลังฝังเข็มมือของนางเบามาก ตอนที่ตั้งสมาธิกลิ่นอายอาจจะเบาบาง ด้วยกำลังภายในของเขาจะไม่ได้ยินก็ไม่แปลกแต่นี่ก็ผ่านไปนานแล้ว ในห้องกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดเลย นี่มันแปลกมากแต่ว่า ชิงอีเองก็แค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่าฟู่จาวหนิงช่วยชีวิตคนอย่างไรกัน"เจ้าอยากจะเรียนวิชาแพทย์หรือ?"เซียวหลันยวนเหลือบมองเขา"อ๋า ไม่ใช่ขอรับ" เขามีพรสวรรค์นั้นที่ไหน"ในเมื่อไม่คิดจะเรียนว
"ระวังหลบเร็ว มีมือสังหาร!"สืออีกระดจนขึ้นยอดหลังคาก่อน แต่เขายังไม่ทันยืนมั่นคง ปราณกระบี่ที่เฉียบคมสายหนึ่งก็พุ่งมาตรงหน้าอกเขาเฉียบคมมิอาจต้าน!สืออีหน้าเปลี่ยนสี เบี่ยงตัวหลบอย่างหวุดหวิด ชิ้นผ้าที่หน้าอกถูกถากออกไปกระบี่ของอีกฝ่ายเป็นกระบี่ล้ำค่าหายาก!เขายังไม่ทันเห็นคนที่ลอบโจมตี ก็เห็นอีกสองคนอีกสองคนกำลังยืนอยู่ยอดหลังคา ขณะเดียวกันก็กระทืบเท้าอย่างรุนแรง ย่ำจนกระเบื้องแตกถ้าหากให้พวกเขาเข้าไปในห้อง พระชายาจะมีอันตราย!ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พระชายากำลังรักษาคนป่วยยังไม่ออกมา ถ้าหากถูกผลกระทบเข้าล่ะ...สืออีพุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจชีวิตตนเองและตอนนี้ ใบไม้กำหนึ่งก็พุ่งแหวกอากาศเข้ามา ซัดไปที่ขาของคนสองคนที่ยกขึ้นกำลังจะเหยียบลงไปพวกเขาเบี่ยงร่าง กลิ้งอยู่บนหลังคาเซียวหลันยวนกับชิงอีกระโจนลงจากต้นไม้สืออีลิงโลด ท่านอ๋องอยู่ด้วยหรือ?"ลงไปคุ้มกัน"เซียวหลันยวนพูดกับเขาคำหนึ่ง ในมือมีใบไม้เหลืองอีกกำ ซัดใส่คนกลุ่มนั้นอีกครั้ง"ขอรับ!"สืออีกกระโจนลงไปอย่างรวดเร็ซ"ใครก็ได้ ใครก็ได้!"นายท่านหลิวรีบร้องหาคนคุ้มครองเรือนเหล่าสาวใช้ประคองแม่สามีลูกสะใภ้ตระกุลหลิ
เสียงดัง "ปึง"ฟู่จาวหนิงไม่ใช่ว่าไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอกแต่เมื่อครู่นางกำลังเย็บแผลให้หลินต๋า จะหยุดกลางคันไม่ได้ตอนนี้ในที่สุดก็ทำขั้นตอนสุดท้ายเสร็จ นางจึงส่งหลินต๋าออกมาจากในมิติ วางไว้บนเตียงบนหลังคามีกระเบื้องหล่นลงมา แตกบนพื้น กระจัดกระจาย"สืออีสือซาน!"ฟู่จาวหนิงกำมีดผ่าตัดไว้ในมือ ยืนอยู่ข้างเตียงคอยคุ้มกันนางใช้เวลาไปหลายชั่วโมงกว่าจะช่วยชีวิตหลินต๋ากลับมาได้ ตอนนี้ไม่มีทางให้คนอื่นเข้ามากวนเด็ดขาด"คุณหนู ไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องออกมา"สืออีกับสือซานกุมกระบี่คุ้มครองอยู่ที่ประตู คอยจับตาการเคลื่อนไหวด้านบนไว้เสียงเคร้งคร้างปะทะกัน รวดเร็วราวห่าฝนแต่ว่าเสียงปึงเมื่อครู่ดังอยู่ด้านนอกเรือนคนคุ้มครองเรือนจวนหลิววิ่งเข้ามาแล้ว แต่พอเห็นการต่อสู้บนหลังคา แสงกระบี่เงาตกค้าง รวดเร็วจนพวกเขามองไม่ชัด"นี่ นี่มันยอดฝีมือจากที่ไหนกัน?""ไม่ใช่คนที่พวกเราจะรับมือไหวเลย!"คนคุ้มครองเรือนหน้าเปลี่ยนสีกันแล้วพวกเขาเป็นกังฟูอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ยอดฝีมือบู๊ลิ้ม วิทยายุทธ์เช่นนี้สูงส่งกว่าพวกเขาอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่ามีมือสังหารอยู่มากเท่าไร พวกเขาเข้าไปคงได้ตายเปล่า
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ