"ดังนั้น ยาก็อาเจียนออกมาเกือบหมดแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะฝังเข็มให้กับท่าน แล้วก็ขับเหงื่อออกมาอีกสักหน่อย พอคุณสมบัติยาที่ตกค้างอยู่ถูกขับออกมาพร้อมเหงื่อ นางก็ไม่เป็นไรแล้ว"ฟู่จาวหนิงมองอันชิง "วันนั้นเสี่ยวเถาช่วยเจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้า คนที่มาช่วยด้วยยังมีสาวใช้ของฟางซือฉิงแก้วตายาใจของผู้เฒ่าฟางจากนอกเมือง"อันชิงปิดปากร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่อยู่"ฮือๆ ดังนั้น ข้ายังไม่เป็นไรสินะ?""ไม่เป็นไร ช่วยเอาไว้ทันเวลาพอดี ยาเองก็ขับออกมาแล้ว เพียงแต่ว่า ช่วงนี้ท่านจะรู้สึกว่าอวัยวะภายในไม่ค่อยสบายนัก ร่างกายเองก็จะไม่ค่อยมีแรง นี่ล้วนเป็นปฏิกิริยาปกติ พักฟื้นหลายวันหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว"ฟู่จาวหนิงตอนที่พูดคุยกับคนไข้ น้ำเสียงจะอ่อนโยนขึ้นมากอย่างชัดเจนจุดนี้ขนาดอันเหนียนเองก็ยังสังเกตเห็น เขารู้สึกว่าฟู่จาวหนิงพอเทียบกับเมื่อครู่ ทำให้คนเกิดความรู้สึกปลอดภัยอย่างมากอันชิงอุดปากร้องไห้พูดว่า "ใช่ๆๆ ใช่เลย หลายวันนี้ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนัก ข้า ข้าไม่กล้าบอกพี่ชาย ข้าคิดว่า"นางยังคิดว่านี่เป็นเพราะตนเองเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วเสียอีก เพราะก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่า ตอนเพิ่งเสียความบริสุทธิ์ไ
"เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่เป็นไรแล้ว" ฟู่จาวหนิงตบลงบนหลังอันชิงเบาๆเซียวหลันยวนมองนางไม่คิดว่าฟู่จาวหนิงจะอดทนต่ออันชิงขนาดนี้นางดีกกับคนอื่นเช่นนี้เลยหรือ?อย่าเฮ่อเหลียนเฟยคนนั้น แล้วก็ยังอันชิงคนนี้หรือว่าขอแค่ไม่ใช่เขา จะใครก็ได้นางล้วนปฏิบัติด้วยอย่างโยนหรือ? นางรู้สึกไปกับเขาไม่ได้เลยกระมัง?"อย่างไม่ปิดบังท่านอ๋อง พระชายา ด้านนอกมีคนกำลังกระจายข่าวลือแย่ๆ ของเสี่ยวชิง หลายคนก็พูดแตกต่างกันออกไป"ที่อันเหนียนพูดมาเพราะเขาไปสืบมาแล้ว"คนหนึ่งก็บอกว่าอันชิงกินยาลงไป ยาชนิดนี้ชื่อว่าใจละเมอ ด้านนอกเหมือนจะสืบหามาได้ ยาชนิดนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่"ใจละเมอ?"ข้าเคยได้ยิน"ฟู่จาวหนิงประคองอันชิงให้นั่งลง หงจั๋วพอเห็นว่าบ่าของนางถูกน้ำตาจนชื้นไปหมด ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แม่นางอันทำไมถึงร้องไห้จนเสื้อผ้าพระชายาเปียกไปหมดเช่นนี้?ฟู่จาวหนิงไม่ใส่ใจอะไรเฝิ่นซิงจึงได้ยกของหวานเข้ามา วางไว้ข้างๆ ฟู่จาวหนิง"พระชายา ขนมพุทราแดงเจ้าค่ะ"ฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนด้วยสัญชาตญาณผู้ชายคนนี้ คงจะไม่ยกขนมพุทราแดงของนางให้คนอื่นอีกแล้วกระมัง?"พระชายา ท่านกินเถิด จานี้เองให้ท่านด้วย"
ชายคนหนึ่งถูกทหารจวนอ๋องเจวี้ยนหิ้วเข้ามา โยนลงไปบนพื้นมืเท้าของดูบิดเบี้ยวอย่างประหลาดจากสายตาเฉพาะทางของฟู่จาวหนิง มือเท้าของเขาน่าจะถูกคนหักทิ้งตรงๆอันชิงพอเห็นหน้าตาของเขาสีหน้าก็เปลี่ยนไป หดตัวลงมาด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงกุมมือนางไว้มั่น"ไม่ต้องกลัว"ถูกต้อง นางเองก็มองออกแล้ว ว่าชายคนนี้คือผู้ชายที่จะลงมือกับอันชิงบนเขาเมฆอรุณวันนั้น เจ้าคนปากแหลมหน้าตอบตอนนั้นเซียวหลันยวนแค่โยนเขาทิ้งไปข้างๆ นาเองก็คิดว่าต่อมาคงไม่มีใครไปสนใจเขาแล้วว่าจะเป็นหรือตาย คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนยังเอาคนไปลากตัวเขากลับมาด้วย"ท่านพี่ เป็นเขา เป็นเขา" อันชิงพูดกับอันเหนียนอันเหนียนหน้าเปลี่ยนสี มองไปทางเซียวหลันยวน"ยาเป็นเขาที่กรอกลงมา" เซียวหลันยวนให้คนไต่สวนมาจนชัดเจนแล้ว "แต่ว่า เขาไม่ได้เอ่ยถึงอี้ไห่ ข้าให้คนไปตรวจสอบ คนผู้นี้เป็นลูกลับๆ ของบ้านตระกูลต้วน บ้านตระกูลต้วนไม่ยอมรับเขา ไม่ยอมให้เขากลับไป พอเขาไปอยู่กับอี้ไห่ ตระกูลต้วนถึงรับตัวเขากลับ""เขารู้ว่าถ้าโพล่งชื่ออี้ไห่ออกมา ชีวิตเขาหลังจากนี้คงอยู่ต่อไม่ได้แล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ทั้งหมดจึงจะแบกไว้เอง""อี้ไห่ไม่ได้แตะใจละเมอ
เรื่องนี้ เป็นไปได้มากว่าเบื้องหลังองค์จักรพรรดิอาจจะสมรู้ร่วมคิดอยู่องค์จักรพรรดิ หลายปีมานี้ความลำเอียงดื้อรั้นขององค์จักรพรรดิหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงไม่ชอบ ขุนนางที่ไม่ค่อยจะเชื่อฟังเขาอย่างอันเหนียนอยู่แล้วน้ำตาอันชิงพรั่งพรูออกมา"พระชายา" อันเหนียนมองไปทางฟู่จาวหนิง "ถึงตอนนั้นก็ยังต้องให้พระชายาออกหน้า เพื่อยืนยันเรื่องการถอนพิษใจละเมอ"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า"ได้"ยืนยันความบริสุทธิ์ให้แก่สาวน้อยตัวเล็กอย่างอันชิง นางยินดีทำอยู่แล้วให้เจ้าขยะกำเริบอย่างอี้ไห่ประสบความสำเร็จ นางเองก็ทนดูไม่ได้เหมือนกันดูเอาเถอะ นางดีกับคนนอกเสียเหลือเกิน เรื่องอะไรก็รับปากเขาไปหมดเซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง เอ่ยขึ้นว่า "เจ้าคิดว่าพอเจ้าพูดคนอื่นก็จะเชื่อหรือ?"พี่น้องตระกูลอันตกตะลึงไปฟู่จาวหนิงสายตาเหลี่ยมจัด เม้มฝีปากยิ้มขึ้นมา"จะทำให้คนเชื่อไม่ง่ายหรือ? พวกท่านแค่ไปทำตามแผนของพวกท่านก็พอ ส่วนเรื่องที่พิสูจน์ว่าใจละเมอสามารถถอนพิษได้ ยกให้ข้ามา"นางตบลงที่หน้าอกตัวเองพอเห็นท่าทางนี้ของนาง เซียวหลันยวนก็อดไอขึ้นมาไม่ได้หลังจากพี่น้องตระกูลอันจากไป ฟู่จาวหนิงก็เตรียมจะกลับแล้
เซียวหลันยวนมีหญิงในดวงใจหรือไม่ ฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ได้อยากรู้นางจับชีพจรให้เขา ความคิดก็เปลี่ยนไปที่อาการป่วยของเขา"พิษนี้ของท่านต้องรีบขจัดออกให้ไวแล้ว""เลือดกวาง เจ้าทำเสร็จแล้วหรือ?"เซ๊ยวหลันยวนดูอึดอัด "เจ้าลืมไปหรือเปล่าว่าข้ากำลังรอเจ้าสกัดยามาให้?"ตอนนั้นที่ได้เลือดกวางมาก็ส่งไปให้นางจัดการเขายังคิดว่าหลังจากกลับเมืองหลวงนางจะรีบจำเลือดกวางมาให้เขาเสียอีก ผลลัพธ์คือรอมาหลายวันแล้วก็ยังไม่เห็นแม้เงาคนข่าวที่ได้รับมาจากตระกูลฟู่ คือเจ้าวันวันเอาแต่คอยรักษาอาการป่วยของท่านผู้เฒ่ากับหู่จือเฮ่อเหลียนเฟยผู้เฒ่าฟู่ยังว่าไปอย่าง ถึงอย่างไรก็เป็นปู่ของนาง นางจะเครียดและดูแลก็เรื่องปกติ แต่ว่าหู่จือล่ะ? เฮ่อเหลียนเฟยล่ะ?คนหนึ่งก็คนใช้ อีกคนหนึ่งก็คนนอกที่เก็บกลับมาจากภูเขา ล้วนจัดอยู่หน้าเขาทั้งหมด!เขารอมาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีเลือดกวางส่งกลับมา!"เลือดวางคงไม่ได้ถูกเจ้าวางไว้จนเน่าเสียแล้วหรอกใช่ไหม?" เซียวหลันยวนมองนางเห็นได้ชัดว่านางรู้สึกผิดขึ้นมาแล้ว!ฟู่จาวหนิงรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กๆ จริงๆ พอผ่านเรื่องของจ้าวหรูจ้าวเฉินมา นางจู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนเองยังเตรียมตัวไม่
ฟู่จาวหนิงกลับบ้านตระกูลฟู่ จัดการดูแลคนเจ็บคนป่วยในบ้านเหล่านั้นเสียก่อน แล้วจึงนำเอาวัตถุดิบยาบางส่วนกลับมาจวนอ๋องเจวี้ยนวันนั้นนางเอาเลือดกวางที่จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยกมาไว้เบื้องหน้าเซียวหลันยวน"ในนี้ข้ายังใส่ตัวยาลงไปอีกส่วนหนึ่ง หลังจากดื่มแล้วท่านอาจจะรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่างด้วย และมีเหงื่อออกไม่น้อยทีเดียว"ฟู่จาวหนิงพูดกับเขาอย่างชัดเจน"เนื่องจากสภาพร่างกายของท่านไม่ปกติ ต่อให้เหงื่อไหลออกมามากก็ห้ามอาบน้ำ ใช้ผ้าแห้งเช็ดก็พอ จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้า""และเป็นไปได้ว่าจะมีอาการมึนหัว สาเหตุมาจากคุณสมบัติของยา ไม่ต้องกังวล ดื่มน้ำเยอะๆ"ฟู่จาวหนิงพูดพลางมองไปทางชิงอี"ชิงอีละเอียดหน่อยก็พอแล้ว คืนนี้อย่านอนด้วยชุดเหงื่อท่วมก็แล้วกัน"ชิงอีมองท่านอ๋อง รีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า "พระชายา ข้าน้อยเป็นคนหยาบลวก แล้วก็ไม่เข้าใจเรื่องการแพทย์ด้วย เกรงว่าจะดูแลท่านอ๋องได้ไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้อากาศก็เย็นแล้ว พอถึงตอนกลางคืนลมก็จะพัด ถ้าท่านอ๋องเหงื่อร้อนจนอึดอัด ข้าเองก็ไม่มั่นใจอีกว่าต้องเปิดหน้าต่างไหม หรือเปิดมากน้อยเพียงใด"ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างพูดไม่ออก"ดังนั้น ข้าน
ความสนใจของฟู่จาวหนิงตกอยู่บนบาดแผลเป็นบนหน้าเซียวหลันยวนเมื่อครู่ที่เขาขยับตัวไม่ได้ นางก็ยื่นมือมือเขามาเชิดหน้าเขาขึ้นอย่างไม่คิด เอ่ยขึ้นอย่างเข้มงวดว่า "อย่าขยับ!"เซียวหลันยวนนิ่งไปแล้วชิงอีปิดปากแน่น ถอยออกไปเงียบๆ จากนั้นก็ปิดประตูลงเบาๆหลังจากออกไปก็เห็นว่าหงจั๋วกำลังรออยู่ด้านนอกหงจั๋วพอเห็นเขาออกมาคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังปิดประตูอีก ดวงตาก็เปล่งประกายมองเขา เอ่ยขึ้นเเล็กน้อย "ท่านพี่ชิงอี ท่านอ๋องกับพระชายา?"นิ้วชี้นางสองนิ้วจิ้มไปเบาๆ ดวงตาเล็กกระพริบตาปริบ ดูดีใจอย่างคาดหวังพอเห็นนางเป็นเช่นนี้ ชิงอีก็ลากเธอเดินห่างออกมาหน่อยมายืนอยู่ที่ประตูคุยกันทำไม? เดี๋ยวก็ถูกท่านอ๋องได้ยินเข้าหรอก"หญิงสาวอย่างเจ้า ข้าพบว่าเจ้ากับเฝิ่นซิ่งเอาแต่หวังให้คุณหนูฟู่กลายเป็นพระชายาของพวกเราอย่างแท้จริงเสียเหลือเกิน"ชิงอีรู้สึกไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ และไม่รู้ว่าสาวใช้สองคนนี้เกิดอะไรขึ้น ไม่ได้สนิทกับฟู่จาวหนิงเสียหน่อย แต่ตั้งแต่แรกก็ยืนอยู่ข้างกายนาง ยิ่งไปกว่านั้นยังหนักแน่นไม่หนีไปไหนด้วย"ทำไมถึงมาบอกพวกเราว่าเอาแต่หวัง? นางเองตอนนี้ก็เป็นพระชายาของพวกเราแล้วนี่"หงจ
พอนางถอยออก เซียวหลันยวนก็ได้สติกลับมา"ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ..."เซียวหลันยวนไอขึ้นมาอีกครั้ง คลายเสื้อออกเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกร้อนนัก"ร่างกายข้าอ่อนแอมาตลอด ของที่กินทุกวันก็ล้วนละเอียดถี่ถ้วนมาก อาหารธรรมดาทั่วไป เนื้อไก่เนื้อหมู บางครั้งก็ได้กินเสื้อกระต่ายกับไข่ไก่และปลา แต่ปริมาณไม่เยอะมาก ผลไม้ปกติไม่กินเลย"ถ้าเป็นช่วยปกติ เซียวหลันยวนคงจะไม่พูดชัดเจนขนาดนี้ รายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้เขาเองก็ขี้เกียจจะอธิบายแต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวร้อนวูบวาบ ที่คอหอยก็แห้งผาก จึงพูดมาออกมาเยอะหน่อยตามสัญชาตญาณ คิดจะผ่อนคลายมันลงบ้าง"ชาที่ดื่มล่ะ? ยังเป็นไป๋ซวงกับจินเสวี่ยต้มมาให้ท่านอย่างละเมียดละไมหรือเปล่า?" ฟู่จาวหนิงเองก็ถามออกมาอย่างชัดเจนเซียวหลันยวนชะงักไป จ้องมองนางเขาจู่ๆ ก็อธิบายขึ้นมาคำหนึ่ง"เจ้าคิดว่าข้าให้พวกนางอยู่เพราะว่าทิ้งพวกนางไม่ลงหรือ?""แล้วไม่ใช่หรือไรกัน?"ฟู่จาวหนิงร้องเชอะ "แต่ว่าก็อธิบายได้อยู่ สาวใช้ที่ปรนนิบัติได้ละเอียดขนาดนั้น ติดตามท่านมาตั้งหลายปี ไม่ใช่ใครจะบอกว่าไม่เอาก็ไม่เอาได้นี่นะ""พวกนางรู้ความสัมพันธ์ของเจ้ากับข้า และรู้สภาพร่างกา
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม