"ช่วยข้าหาของอย่างหนึ่ง ข้ารู้ว่านักบุญหญิงอย่างพวกเจ้ามีวิชาลับควบคุมงู แม่ของข้าก่อนหน้านี้ถ่ายทอดวิชานี้ให้ข้า แต่ข้าบังคับงูตัวนั้นไม่ได้เลย ห่างออกมาหน่อยก็ไม่ได้แล้ว"พอได้ยินคำพูดของแม่นางเจี๋ย ไห่ฉางจวิ้นก็อดหัวเราะขึ้นอย่างเย่อหยิ่งไม่ได้"แม่ของเจ้าก่อนหน้านี้เคยเป็นนักบุญหญิงอยู่ครึ่งปี แต่นางไม่รู้หรอกกระมัง? ว่าวิชาลับนี้ยังต้องการของอีกอย่างหนึ่ง นางเอาแต่คิดจะหนี คงจะไม่รู้หรอก เจ้าเองก็ไม่ใช่นักบุญหญิงจึงไม่มีกระดิ่งบังคับงูของพวกเรา แน่นอนว่าต้องใช้ไม่ได้!""ดังนั้นตอนนี้เรื่องนี้เจ้าจะช่วยหรือไม่? ถ้าทำเรื่องนี้เสร็จ ข้าจะส่งคืนงูหลังทองให้เจ้า" แม่นางเจี๋ยเอ่ยขึ้น"เจ้าเอางูหลังทองมาด้วยหรือ?""แน่นอน""เจ้าจะข้าทำอะไร?""ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก็แค่ให้เจ้าใช้งูหลังทองช่วยข้าหาของชิ้นหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าหล่นอยุ่มุมไหนของเมืองหลวง แน่นอน เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกคนขโมยไป จะหาได้ไหม?"แม่นางเจี๋ยรู้สึกคาดหวังมากในใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมา"ไม่ใช่เรื่องที่ยากเท่าไร"ตอนที่ไห่ฉางจวิ้นพูดประโยคนี้ก็อดคิดถึงไหมใจโลหิตไม่ได้ ถ้าหากมีงูหลังทองแล้ว นางเองอาจจะหาไหมใจโลหิตเจอด้วยไ
สืออีกับสือซานปรากฎตัว สบตากันผาดหนึ่ง ลังเลเล็กน้อยท่านอ๋องตอนนี้จะไปไหนกัน?ฟู่จาวหนิงกัดฟัน สิ่งยืนยันนั่นสำคัญกับเขามากนี่ แต่ตอนที่หาสิ่งยืนยันดันกลับจะไปหาซ่งอวิ๋นเหยาเนี่ยนะ?แล้วยังกลางดึกกลางดื่นอีกด้วย ถ้าเขาเข้าไปในห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยา คงจะออกมาให้ทันเวลาได้ยากแน่ซ่งอวิ๋นเหยาทางนั้นก็มีพิษนั่นโน่นนี่เต็มไปหมด เซียวหลันยัยนเองก็รู้นี่นา?"ช่างเขา!"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นมาอย่างกัดฟันหน่อยๆเดิมทีคิดจะหมุนตัวเดินไปแล้ว แต่นางรู้สึกว่าสองเท้าของตนเองหนักอึ้งจนเดินไม่ออก"คุณหนู ท่านอ๋องพาไปไม่กี่คนเท่านั้น และไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรอีกด้วย จะมีอันตรายไหม?" สืออียังรู้สึกกังวล"ก็แค่ไปดอกท้อเท่านั้นนี่? ไม่แน่สาวสวยอาจจะนัดไว้ก็ได้ มีอะไรอันตรายกัน?"อันตรายเสียพรหมจรรย์กระมัง? ไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนยังบริสุทธิ์อยู่ไม่ด้วยนี่สิแม้จะพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ยังหมุนตัว หอบผ้าคลุมเดินตามไปยังทิศทางที่พวกเขาออกไป"คุณหนู..." เร็วขนาดนี้เชียว?ในดวงตาสืออีกับสือซานมีรอยยิ้มปรากฎขึ้น ทั้งสองคนเองก็รีบตามออกไปซ่งอวิ๋นเหยาหลายวันนี้นอนไม่หลับในห้องแม้จะมีไฟเทียนสว่างอยู่ แต่กระจ
ในสมองเซียวหลันยวนมีภาพเด็กหญิงตอนที่เขาถูกโจมตีบนถ้ำภูเขาตอนนั้นขึ้น คิดถึงฉากที่นางหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาพันแผลให้กับเขา เม้มปาก ยกเท้าเดินเข้าไปซ่งอวิ๋นเหยาแง้มประตูไว้เบาๆ "ข้าไม่ปิด เหลือร่องทิ้งไว้ร่องหนึ่ง ไม่เช่นนั้นลมจะแรงเกินไป" ซ่งอวิ๋นเหยาอธิบายหลังจากนางเห็นเซียวหลันยวนเข้ามาก็เดินตรงไปทางหน้าต่างตามที่คาดไว้ อยู่ตรงจุดที่อยู่ใกล้หน้าต่างมากๆ ประกายทึมในดวงตาเปล่งวาบถ้าหากจะเลี่ยงความสงสัย เขาจะยืนให้อยู่ห่างจากเตียงมากที่สุด และข้างหน้าต่างก็ออกไปได้สะดวกที่สุดนี่คือสิ่งทางคิดไว้ก่อนหน้า ตอนนี้ดูแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆแต่พอคิดดู ซ่งอวิ๋นเหยาในใจก็รู้สึกอึดอัด เขาป้องกันนางขนาดนี้เว้นระยะห่างกับนางขนาดนี้มันอธิบายได้ถึงอะไรกัน?นางเดินเข้าไป คิดจะเทน้ำให้เซียวหลันยวน ยังไม่ทันขยับ เขาก็เอ่ยขึ้นว่า"เอาสิ่งที่ควรพูดพูดออกมาเสีย"เย็นชาไร้ความรู้สึกขนาดนี้เลยหรือ?ซ่งอวิ๋นเหยารุ้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาทันทีตอนเด็กๆ ที่พบหน้ากันครั้งนั้น เขาบอกกับนางว่า หลังจากนี้ที่ไหนที่ต้องการเขาเขาก็จะมาช่วย เขาพูดเองแท้ๆ ว่าจะจดจำนางไว้ตลอด"หลันยวน ตอนที่ท่านถามเรื่องเหล่
ถ้าลือกลับไปในวัง นางคงได้เดือดร้อนแน่!ยิ่งไปกว่านั้นฮองเฮาเองก็คงจะไม่เชื่อนางไม่เอ็นดูนางอีกแต่ตอนที่นางสลบไปชั่วยามหนึ่ง หลังจากตื่นมาหยินหลิ่วก็บอกนางว่า รอยนั่นหายไปแล้ว! เหล่าภิกษุคิดว่าตนเองคงตาฝาดมองผิดไปเรื่องครั้งนั้นทำให้นางรู้สึกมหัศจรรย์มาตลอด จะคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อมาภิกษุของวัดคุ้มครองแคว้นยังมาบอกในวังอีกว่า น่าจะเพราะนางได้รับการคุ้มครองจากพระพุทธเจ้าไทเฮาตอนนั้นดีใจมาก ยังมอบสร้อยข้อมือมรกตให้กับนางอีกชิ้นหนึ่งด้วย"ข้าทำตามคำสัญญาในครั้งนั้น"เซียวหลันยวนนับออกมาไม่น้อย ซ่งอวิ๋นเหยาน้ำตาคลอเบ้า"ข้า ข้าไม่รุ้เลยว่าท่านคอยปกป้องข้าเงียบๆ มาตลอด หลันยวน"ฟู่จาวหนิงถอยออกมาทีละก้าวเบาๆ ห่างจากเรือนนี้หน่อย ที่กลั้นหายใจไว้ตลอดถึงได้โล่งขึ้นมานางเข้าไปในจวนซ่งพร้อมเซียวหลันยวน ซ่งอวิ๋นเหยาน่าจะเพื่อให้เซียวหลันยวนเข้ามาได้สะดวก จึงโยกย้ายทหารด้านนอกออกไปตอนที่นางลอบเข้ามาเซียวหลันยวนกำลังเล่าเรื่องที่เขาไปเป็นเทพคุ้มครองให้กับซ่งอวิ๋นเหยาในอดีตพอฟังไปฟังมา ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าตนเองจะเป็นห่วงมากเกินไป นางถึงกับกังวลว่าอาการเขาจะกำเริบ
สืออีกับสือซานตกตะลึงเพราะความเร็วของคนชุดเขียวนี้รวดเร็วมาก ตอนที่เขาพุ่งมาหา พวกเขากลับรู้สึกเพียงตาลาย เกือบจะขวางไว้ไม่ทัน!"คุณหนูออกไปก่อน!"สืออีร้องขึ้นมาทันที เข้าขวางสุดชีวิตแต่ว่าเขากับคนชุดเขียวพอประฝ่ามือกัน เสียงปึงก็ดังขึ้น รู้สึกว่าเลือดลมหลั่งทะลัก มุมปากมีเลือดไหลออกมาทันที"คุณหนูท่านโปรดออกไปก่อน!" สืออีพอเห็นฟู่จาวหนิงจะเข้ามา ก็ร้อนรนจนกระอักเลือดออกมาอีกครั้งฟู่จาวหนิงพอเห็นวิชาของคนชุดเขียวร้ายกาจขนาดนี้ ก็ทำได้แค่กัดฟันหมุนตัวจะวิ่งเขาบุกมาหาตนเอง ขอแค่ตนเองออกจากที่นี่ เขาก็น่าจะไม่พัวพันกับสืออีสือซานต่อ และถ้าห่างจากเรือนตระกูลซ่งหน่อยก็จะตัดเรื่องลูกมือของเขาได้ด้วย"คิดจะหนีหรือ?"คนชุดเขียวคิดจะไล่ตามทันที สืออีชักกระบี่แทงไปที่ข้อมือเขา บีบให้เขาต้องหยุดลง"ข้าจะไปเรียกท่านอ๋อง!"วิทยายุทธ์ของสือซานด้อยกว่าสืออีพอควร เขารู้สึกร้อนรน รู้สึกว่าเพื่อความปลอดภัยของพระชายา ตอนนี้ต้องไปเรียกท่านอ๋อง ถึงอย่างไรต่อให้ท่านอ๋องไม่ออกมา เขาก็ยังพาองครักษ์เงามาด้วย องครักษ์เงาข้างกายท่านอ๋องวิทยายุทธ์ก็อยู่เหนือพวกเขาเสียงปึงดังขึ้น คนชุดเขียวฟาดเข้
ครั้งนี้ จับตัวฟู่จาวหนิงมา แล้วค่อยจับเฮ่อเหลียนเฟยที่อยู่ในบ้านตระกูลฟู่นั่นจับมัดเป็นผ้านวมไปด้วยกันเลย ถึงตอนนั้นถ้าประกาศตัวตนฐานะของเฮ่อเหลียนเฟยออกไป คงได้ฮือฮากันทั้งเมืองหลวงฮองเฮาเกลียดชังคนจากตระกูลเฮ่อเหลียนขนาดไหน ฟู่จาวหนิงในฐานะพระชายาของราชวงศ์ กลับเก็บคนของตระกูลเฮ่อเหลียนเอาไว้ ถ้าหากยังพบว่านอนอยู่ร่วมเตียงเดียวกับนางล่ะก็..."เจ้าหนีไม่รอดหรอก สิ่งที่ท่านหญิงต้องการ ข้าจะช่วยนางทำให้เป็นจริงเอง"คนชุดเขียวไม่ได้ยินเสียงเท้าของฟู่จาวหนิงเลย เข้าใจทันทีว่าหลังจากที่นางเข้ามาในซอยก็ซ่อนตัวไปแล้วดังนั้นหลังจากที่เขาเข้ามาในซอยก็ไม่ได้ใช้วิชาตัวเบาอีก แต่ค่อยๆ เดินเข้าไปด้านใน แล้วก็ค้นหาตัวฟู่จาวหนิงที่น่าจะซ่อนตัวไปแล้วขึ้นมา"เจ้าขวางทางของท่านหญิง ทำร้ายท่านหญิงจนต้องทรมานขนาดนี้ เจ้าสมควรตาย""อ๋องเจวี้ยนเดิมทีควรจะอภิเษกกับท่านหญิง ใครให้เจ้าที่เป็นหญิงยากจนสอดเท้าเข้ามากัน? ถือดีอย่างไร?"คนชุดเขียวพูดไปด้วย และรู้ว่าฟู่จาวหนิงได้ยิน ซอยนี้แม้จะยาว แต่เขาก็รู้ว่านางไม่ได้วิ่งหนีออกไป จะต้องซ่อนอยู่ในนี้แน่ด้านซ้ายขวาของซอยมีคนเอาของมาวางไว้ระเกะระกะ พวก
"คุณหนู!"สืออีในที่สุดก็ตามมาทัน อันที่จิรงก็ไม่ได้นานนักคำนวณดูแล้วเขาก็มาช้าแค่นิดเดียว เพราะก่อนหน้านี้ถูกเล่นงานจนบาดเจ็บภายใน ตอนที่ใช้งานกำลังภายในจึงมีอุปสรรคอยู่บ้างตอนที่เข้ามาเขาก็เห็นฟู่จาวหนิงกำลังใช้ปลายเท้าเตะไปที่คนชุดเขียว นี่มันน่าตกตะลึงเสียเหลือเกิน"ไม่เป็นไร เขาแค่สลบไปน่ะ น่าจะหลับไปสักสองวันถึงตื่นขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงดูมั่นอกมั่นใจกับยาที่ตนเองสกัดขึ้นมาก"อาวุธลับที่ท่านใช้หรือ?" สืออี ตกตะลึงอย่างมากเขากับสือซษนล้วนรับมือคนชุดเขียวนี้ไม่ไหว ฟู่จาวหนิงคนเดียวกลับรับมือเขาไว้แล้ว อาวุธลับของนางร้ายกาจขนาดนี้เลยหรือ?"ใช่แล้ว"ฟู่จาวหนิงโค้งตัวลงดึงเข็มยาชาบนแผ่นหลังคนชุดเขียวโยนเข้าไปในห้องมิติเรียบร้อยต้องกลบร่องรอยให้มิด"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นมา ค้นยาออกมาเม็ดหนึ่งยื่นออกไป "กินลงไป"สืออีไม่ลังเลแม้แต่น้อย รับแล้วกลืนลงไปทันทีพอยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งลงไป เพียงไม่นานในตันเถียนก็มีความอุ่นวาบ ทำให้เขาอบอุ่นขึ้นมาซู๊ดยานี้ของคุณหนูดีต่ออาการบาดเจ็บภายใน ฤทธิ์ของยานี้ดีมากจริงๆ!แม้เวลาสถานที่จะไม่ถูกต้อง แต่สืออีก็อดถามขึ้นมาไ
ชายหนุ่มคนนี้มีวรยุทธ์ทั้งตัว แต่กลับยอมเป็นทหารอยู่ข้างกายซ่งอวิ๋นเหยา สวมเครื่องแต่งกายก็ไม่ใช่องครักษ์ของจวนตระกูลซ่งนางเดาว่าคนผู้นี้ยอมติดตามมาคุ้มครองข้างกายซ่งอวิ๋นเหยาเอง สิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่ ก็ยกซ่งอวิ๋นเหยาเหมือนเป็นนางฟ้าในสายตาไปแล้ว ต่อให้จะชอบนางหลงนาง แต่ก็แค่คิดจะทำให้ความปรารถนาของนางเป็นจริงเท่านั้น ช่วยนางทำสิ่งที่อยากทำทั้งหมดคนเช่นนี้ อาจจะรู้ความลับขอซ่งอวิ๋นเหยาอยู่ไม่น้อย ซ่งอวิ๋นเหยาเองจะต้องเชื่อใจตัวเขาอย่างแน่นอนดังนั้น คนผู้นี้ส่งมาหน้าประตูแล้ว ก็อย่าเห็นว่าข้าไม่เกรงใจนางก็แล้วกัน จะต้องง้างของจากปากเขาออกมาให้ได้!จวนซ่งหลังจากซ่งอวิ๋นเหยาบอกเรื่องราวที่ตนเองรู้ออกมาจนหมดแล้ว เซียวหลันยวนก็เตรียมจะออกไป"หลันยวน"ซ่งอวิ๋นเหยาเรียกเขาอย่างร้อนรนในใจนางร้อนราวกับไฟสุม เห็นๆ อยู่ว่าพูดอะไรไปตั้งมากมาย เขาเองก็ยืนอยู่ตรงหน้าต่างนั่นพักหนึ่งแล้ว ทำไมเขาจึงไม่รู้สึกมึนหัวหรืออะไรเลย?"ข้าเคยบอกกับเจ้าแล้ว พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ดังนั้นเจ้าอย่าเรียกชื่อข้าตรงๆ อีก ข้ากลัวว่าพระชายาจะหึงหวงเอา"คำพูดของเซียวหลันยวนทำให้ซ่งอวิ๋นเหยาเหมือนถูก
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม