ไป๋ซู่ฮวาค่อยๆขับเกวียนวัวไปยังทางหมู่บ้านฝั่งตะวันตก ชาวบ้านที่เห็นนางขับเกวียนผ่านไปก็ตะลึง เด็กคนนี้เมื่อก่อนทำไร่ไถนาเก็บผักป่าให้หมู เสื้อผ้าไม่เคยได้ใส่ดีๆรองเท้ายังแทบจะไม่มีใส่ แล้วตอนนี้เล่า
ชุดกระโปรงสีเขียวตัดกับเสื้อแขนยาวสีขาว ใบหน้าเนียนละเอียดศรีษะเกล้ามวยต่ำทรงสตรีออกเรือนแล้ว ยังมีดอกไม้ป่าดอกเล็กๆแล้วแซมตามร่องมวยผม ดูแล้วเหมือนเทพธิดาก็ไม่ปานช่างงดงามนัก
"เสี่ยวฮวา จะไปไหนหรือวันนี้แต่งตัวงามเชียว"
"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านป้า อรุณสวัสดิ์ทุกคนข้าจะไปบ้านท่านน้าฮวนเจ้าค่ะ พอดีจะเก็บเกี่ยวแล้วจะขอซื้อกระสอบเจ้าค่ะ"
"เฮ้อ ระวังหน่อยนะแม่หนู ได้ข่าวว่าย่าเจ้าน่ะตามพี่ชายเจ้ากลับมา ให้พาลูกน้องที่ร้านเมียเขากับร้านเถ้าแก่เขามาด้วย คงตั้งใจมาแย่งเจ้านั่นแหละ" ชาวบ้านที่นี่ไม่ได้เลวร้ายทุกคนคนส่วนมากจิตใจดี
"เฮ้อ พูดก็พูดเถอะนะ ไม่รู้จางชุนคนนั้นเหตุใดถึงตาต่ำนักเจ้างามถึงก็เพียงนี้ยังไม่พอใจอีกถอนหมั้นดีๆก็ได้ไยต้องสร้างเรื่องให้คนเขาเสียหาย"
"ทุกท่านอย่ากล่าวอีกเลย ข้ากับเขาไร้วาสนา ตอนนี้ข้ามีชีวิตที่ดีแล้ว สามีข้าท่านหมอบอกว่าปีหน้าก็เดินได้คล่องถึงเวลานั้นก็สามารถลงสอบได้แล้วเจ้าค่ะ ว่าไปต้องขอบคุณจางชุนคนนั้นหากเขาไม่ให้ร้ายข้าวางยาสามีข้าเพื่อให้เสื่อมเสียจนไปสอบไม่ได้ ข้าคงไม่ได้เจอท่านพี่อาจต้องแต่งงานกับเขาซึ่งไม่รู้ว่า...."
ไป๋ซู่ฮวากลั้นสะอื้นชาวบ้านยิ่งเกลียดจางชุนหนักเข้าไปอีกคนมีการศึกษาอะไรอิจฉาคนอื่นเกรงว่าเขาจะเก่งกว่าถึงขนาดใช้คู่หมั้นตัวเองเป็นเครื่องมือ
"อย่าร้องๆ เจ้าสี่ยวฮวาเจ้าหลุดพ้นคนเช่นนั้นมาก็ดีแล้ว ส่วนเรื่องเสบียงนั่นพวกข้าจะช่วยเองไม่ให้คนบ้านย่าเจ้ามาเอาเปรียบหรอก"
"ฮือๆขอบคุณป้าเจ้าค่ะ ข้าแค่อยากรักษาที่ดินไว้เป็นสมบัติอนาคตซูหยางแต่งงานได้มีสินสอดบ้างจะได้มีภรรยาที่ดี ยังไงเขาก็แซ่ไป๋ถึงแม้ว่าจะถูกรังเกียจแต่ในตัวก็มีสายเลือดสกุลไป๋ไหลเวียนอยู่ ข้าๆ...."
ไป๋ซู่ฮวาวันนี้นางแต่งหน้าอ่อนๆ จงใจใส่เสื้อผ้าสีอ่อนให้ดูน่าทะนุถนอม ยามน้ำตาหยดลงมาช่างดูน่าปลอบประโลมอย่างมากชาวบ้านเห็นเช่นนี้ก็พากันปลอบใจ นางร้องไห้ดั่งดอกสาลี่ต้องสายฝนไหล่บางสะท้านขึ้นลงกลั้นสะอื้นเต็มที่
"โถๆๆไม่ร้องๆเด็กดี ไปเถอะเดี๋ยวสายแดดจะร้อนเอา มีพวกเราอยู่จะไม่ให้ใครรังแกเจ้าพี่น้องแน่ๆตอนจิงถิงอยู่ก็มีน้ำใจกับชาวบ้านนัก"
ไป๋ซู่ฮวาใช้นิ้วเรียวสวยค่อยๆปาดน้ำตา ช่างเป็นภาพที่น่าสงสารสำหรับคนที่พบเห็นนัก ไป๋ซู่ฮวากล่าวขอบคุณก่อนจะเคลื่อนเกวียนไปต่อ จางชุนที่ได้ยินเสียงชาวบ้านเอ่ยชื่อเขาก็เดินมาดู
ทันทีที่เห็นไป๋ซู่ฮวาเหมือนถูกมนต์สะกด นั่นนางหรือเหตุใดงามเยี่ยงนี้ นางเป็นคู่หมั้นเขามาก่อน ไอ้หน้าอ่อนหยางหนิงเฉิงคนนั้นได้นางไปก็แค่คืนเดียว
ไม่เป็นไรเขารับได้ตอนนี้นางมีที่ดินมีเงินและยังมีเสบียงมากมาย อีกทั้งนางงามนักเมื่อก่อนเขาไม่ใส่ใจตอนนี้เขาต้องการนางคืน จางชุนทำทีเดินออกมาจึงถูกเกวียนชนล้มลงไป
"โอ๊ย ใครขับเกวียนชนข้าผู้ใดกัน อ้อน้องซู่ฮวาเองหรือ พี่ก็นึกว่าใครคนดีของพี่เจ้าเจ็บหรือไม่"
จางชุนแสร้งพยุงตนเองลุกขึ้นมา ชาวบ้านมองดูเขา จางชุนจึงทำท่าเซถลาจะไปกอดไป๋ซู่ฮวาที่นั่งอยู่บนเกวียนเพื่อให้ชาวบ้านเป็นพยานว่านางคิดถึงเขาทนไม่ได้จึงมาหาเพื่อพรอดรัก หากชาวบ้านเห็นต้องเข้าข้างเขาแน่ๆ
นางเป็นคู่หมั้นเขามาก่อนนางอาลัยอาวรณ์เขาจึงไม่แปลก ทันทีที่ถลามาไม่ทันได้ถึงตัวก็หงายท้อง กระเด็นไปสามจั้งมองไปเห็นเพียงไป๋ซู่ฮวายืนขึ้นยกเท้าขึ้นมาใช้ผ้าเช็ดหน้าของเขาปัดรองเท้าผ้าสีขาวที่ปักดอกเหมยสีแดงนางค่อยบรรจงเช็ด
"อืม...สกปรกจริงๆดูสิทำเท้าข้าเลอะหมด สามีข้าเพิ่งจะซื้อให้ด้วยคู่นี้"
จากนั้นก็ปาผ้าเช็ดหน้าคืนก่อนจะขับเกวียนออกไป
"ฮ่าๆๆเมื่อกี้เจ้าเห็นอะไรกันไหม แหม่ยายหนูนี่เท้าหนักดีจังถีบทีเดียวกระเด็นสามจั้ง"
"ใช่ๆ คนอะไรน้องเสี่ยวฮวาอย่างนี้อย่างนั้นเฮอะบัณฑิตจอมปลอมถุยหน้าไม่อาย"
"ใช่ ใส่ร้ายเขาแล้วจะมาทำเป็นขอคืนดีเพ้ย"
ชาวบ้านมองจางชุนหยามเหยียด เขาเองก็โกรธจนหน้าเขียวนั่งโง่นี่รู้จักตอบโต้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ดูท่าทางคงตั้งใจถอนหมั้นกับเขานานแล้วสิหึรู้อย่างนี้ไม่ให้เจ้าสมหวังหรอก จากนั้นก็พาร่างที่จุกค่อยๆเดินกลับบ้าน ไป๋ซู่ฮวาเคยอยู่ค่ายทหารฝึกความอดถึงสามปี เวลาเดินป่าจำเป็นต้องมีทักษะลูกถีบเมื่อกี้แค่น้ำจิ้มเอง
หยางหนิงเฉิงจัดการกองทัพเข้าที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้ห้าปีแล้ว ไป๋ซู่ฮวาคลอดบุตรชายให้เขาอีกสองคนบุตรสาวอีกหนึ่งคนตอนนี้ผลผลิตจากแดนใต้ราคาดีมาก โดยเฉพาะกุ้งแห้งกับผงปรุงรสที่ทำจากปลาและกุ้งตากแห้งนำมาบดผสมกับเครื่องเทศเป็นสินค้าขายดีจริงๆ ส่งเข้าเมืองหลวงและเหลาอาหารต่างๆ ชาวประมงที่ตอนนี้ลืมตาอ้าปากได้ไป๋ซู่ฮวาตามหาต้นปาล์มจนเจอ ในที่สุดก็ปลุกต้นปาล์มได้กว่าสองพันต้น ตามพื้นที่ต่างๆ ต้นไหนโตแล้วให้ผลผลิตแล้วนางก็ปล่อยไว้ตอนนี้ผลผลิตของจวนอ๋องก็คืออาหารทะเลแบบแห้ง ผงปรุงรส น้ำมันปาล์ม นางเสาะหาพื้อที่น้ำเค็มจนเจอ แคว้นอู่ไม่ขาดแคลนเกลือแล้ว เพราะพระชายาหนิงอ๋องรู้วิธีทำเกลือได้ไป๋ซู่ฮวากำลังคำนวณบัญชีอยู่ นางเพิ่งให้นมเจ้าตัวเล็กไป ตอนนี้หยางหยางได้แปดเดือนแล้ว สวามีไม่มีทีท่าจะหยุดทำลูกเลยจริงๆ เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย"คนงามของพี่ สมบัติไม่รู้กี่ร้อยล้านตำลึงทองนับไม่ไหว หากลูกน้อยอีกหน่อยใครจะรักษาเล่าทูนหัว""แล้วลูกไม่ออกเรือนแต่งงานหรือเพคะ พระองค์ถึงจะขยันทำอยู่คนเดียว อื้อ"หยางหนิงเฉิงจูบนางเรียกร้อง ปลดสายรัดเอวก่อนจะฝังใบหน้าหล่อเหลาลงเต้าอวบอิ่
จนมื้อค่ำเรียบร้อย ไป๋ซู่ฮวาที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ่างอาบน้ำ กำลังนั่งหลับตาผ่อนคลายนางเหนื่อยมาก จนกระทั่งน้ำกระเพื่อม นางจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นคนตัวโตลงมานั่งในอ่างกับนาง พร้อมเนื้อตัวล่อนจ่อน"ท่านอ๋อง ยิ่งนับวันยิ่งหน้าด้านหรือไม่เพคะ""สองเดือนแล้วเด็กดี ยังไม่ได้รักเจ้าเลยนะคืนนี้ไม่ยอมแล้ว มาพี่ช่วยอาบน้ำดีกว่าจะได้เสร็จไวๆ""อย่ามาเจ้าเล่ห์พระองค์ทรง อื้ออออ" หยางหนิงเฉิงไม่ฟังรั้วนางมาจูบดูดดื่ม กดท้ายทอยนางไว้ไม่ให้หนีเขา มือหนากอบกุมทรวงอกขยำรุนแรงเพราะอารมณ์คิดถึงก่อนจะดันแผ่นหลังนางขึ้นก้มลงมาดูดปลายถันสีหวานจนไป๋ซู่ฮวาที่ตอนแรกดุเขาเสียงเข้ม ตอนนี้กลับกลายเป็นครางเสียงหวานรัญจวน"อ๊าๆๆๆ ท่านอ๋องเมียเสียว อื้อดูดเบาๆสิเพคะ หัวนมจะหลุดติดปากแล้ว""ไม่ไหวแล้วคิดถึงเหลือเกินคนดี ฮวาเอ๋อร์ยืนขึ้นให้พี่หน่อย หันหลังมาโน้มตัวไปข้างหน้าเอามือเกาะขอบอ่างไว้"ไป๋ซู่ฮวาทำตามที่เขาบอก หยางหนิงเฉิงจับแก่นกายร้อนผ่าวถูไถกลีบบอบบางที่มีน้ำหวานใสๆหลั่งออกมาเคลือบจากนั้นก็กดลงไปในร่องสีชมพูสวย"อื้อ แน่นจังเด็กดี เสียวจังฮวาเอ๋อร์พี่รักเจ้าเหลือเกิน""อื้อ ท่านแม่ทัพทวนของท่านช่างใหญ่โตนัก
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ซ่งไทเฮากับสกุลกัวหาเด็กทั้งสามเลิกแล้วมคนไม่เจอ งานเลี้ยงเลิกแล้วเรียบร้อย ทุกคนต่างกลับไปเพื่อพักผ่อน วันพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางไกล เมื่ออยู่ในห้อง หยางหนิงเฉิงที่นอนให้เมียรักหนุนแขนอยู่มืออีกข้างลูบไหล่มนเบาๆ ไปซู่ฮวาเอ่ยถามเขาเพราะอยากรู้ถึงดินแดนทางใต้"ท่านอ๋อง ดินแดนทางใต้ติดทะเลหรือเพคะ""อืม อยากไปดูหรือ น้องหญิงของพี่รู้จักทะเลด้วยหรือ ที่นี่อยู่ไกลที่นั่นตั้งสองพันลี้นะ""เอ่อ เคยได้ยินคนคุยกันนะเพคะ ว่าทะเลสวยมากแต่เวลามีพายุก็น่ากลับมากเช่นกัน หม่อมฉันอยากเห็นสักครั้งเพคะ""ได้ พี่จะพาเจ้าไป ตอนนี้นอนก่อนเถอะคนงามของพี่ดึกมากแล้วนะ"ไป๋ซู่ฮวาที่กระเถิบเข้าหาอ้อมกอดสามี หยางหนิงเฉิงกอดนางแนบแน่นสตรีที่เขาไม่เคยคิดว่าจะรัก สตรีที่ได้มาด้วยเล่ห์กลของผู้อื่น สุดท้ายนางคือสตรีที่คู่ควรกับเขาที่สุด ลมหายใจของนางสม่ำเสมอหยางหนิงเฉิงจุมพิตเรือนผมนาง กระซิบเบาๆก่อนจะหลับตามไป"ฮวาเอ๋อร์พี่รักเจ้า"ยามซื่อทุกคนมารวมตัวกันที่ลานกลางหมู่บ้านเพื่อเตรียมออกเดินทาง ไป๋เข่อซินร้องไห้กอดบิดากับมารดาแน่น หยางตงชิงกอดไป๋จิงถิงกับโจวซิ่วเหม่ยร้องไห้"เสี่ยว
ไป๋ซู่ฮวาที่ถูกเขาเคี่ยวกรำทุกคืนตั้งแต่วันที่นางยอมให้เขาคืนนั้น ตอนนี้ไม่มีแรงจะสั่งงานบ่าวไพร่แล้ว หยางหนิงเฉิงเดินผิวปากมาหาแต่เมียนั่งบนเตียงมองมาตาเขียวปั้ด "ทูนหัว เมื่อคืนพี่ไม่ตั้งใจจะกวนจริงๆนะ สงสัยจะมาจากสุราสมุนไพรที่เสด็จพี่ให้ชิม แค่สองจอกเท่านั้นเอง ยังดีที่พี่ไม่ชิมเยอะ""อย่ามาหาข้ออ้างหยางหนิงเฉิง ท่านหื่นกามเช่นนี้ต้องแยกเรือนแล้ว ตั้งแต่ยามไฮ่จนยามเหมามีใครเขาลามกหื่นกามเท่าท่านบ้าง ข้าปวดเอวไปหมดแล้วคนบ้า งานการไม่ต้องทำแล้ว หากคู่แฝดไม่ถึงขวบแล้วข้าตั้งครรภ์อีกล่ะก็แยกห้องนอนถาวรจนกว่าพวกเขาจะสิบขวบ""ไม่ได้สิเมียจ๋าต่อไปขอคืนละหนึ่งชั่วยามพอไม่มากกว่านั้นแล้วคนดี นะๆ น้องหญิงพี่สัญญาวันหลังจะไม่ดื่มสุรานั่นอีก""หนิงอ๋อง ออกไปเลยนะคนบ้า นี่แน่ะ"ตุ๊บๆ เสียงวัตถุตกกระทบพื้น หยางหนิงเฉิงโดดหลบทันที เมียปาหมอนใส่เขาแทบจะทุกใบที่อยู่เตียง ก่อนจะตัดสินใจรวบนางกักไว้ในอ้อมกอด พลิกนางลงใต้ร่างจูบนางดูดดื่ม ไป๋ซู่ฮวารักเขามากนางรักเขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะรักคนๆหนึ่งได้ อยู่ด้วยกันมาปีกว่าเขาไม่เคยให้นางเจ็บช้ำน้ำใจสักครั้ง นอกจากเรื่องนี้เรื่องเดียวเขากินเก่งก
วันต่อมาไม่นานรถม้าก็เคลื่อนที่จนมาถึงอารามที่ฉินกุ้ยเฟยถือศิลบวชอยู่ ฮ่องเต้ให้คนไปแจ้งว่ามีคาราวาสมาขอพบนาง ไม่นานแม่ชีคนนึงก็เดินออกมา นางเดินหลังตรงแต่ยังคงสำรวมมีความเป็นคนสูงศักดิ์แม้จะอยู่ในชุดนักบวชทันทีที่ทั้งคู่พบกันหยางตงอวี้ยิ้มให้นาง ฉินกุ้ยเฟยไม่คิดว่าจะเจอกับเขาที่นี่จึงทำความเคารพ แต่เขาจับข้อศอกนางไว้ก่อนจะพูดคุย"ซวงเอ๋อร์ไม่พบเจ้าหลายปีสบายดีหรือไม่""ซวงเอ๋อร์สบายดีเพคะ ฝ่าบาททรงมาไกลถึงเพียงนี้ไทเฮาจะทรงทำเรื่องลับหลังตอนไม่ประทับอยู่วังหรือไม่เพคะ""วางใจเถอะ นางชดใช้กรรมแล้วล่ะ วันนี้ข้าพาคนๆนึงมาพบเจ้าด้วย ชิงเอ๋อร์มาพบเสด็จแม่เจ้าได้แล้ว"หยางตงอวี้หันไปเรียกหยางตงชิงไม่นานเขาก็ดินออกมาจากห้องรับรอง ทันทีที่ฉินกุ้ยเฟยเห็นหน้าเขานางก็ร้องไห้ เดินไปกอดเขาแน่น"ชิงเอ๋อร์ๆลูกแม่ เจ้ายังสบายดี แม่กังวลว่าพวกเขาจะพบเจอเจ้าหรือไม่ เพราะเจ้าคล้ายฝ่าบาทมากนัก ฮืฮๆๆลูกแม่""ส เสด็จแม่ อย่าร้องไห้เลยพ่ะย่ะค่ะ ลูกสบายดีท่านพ่อท่านแม่เลี้ยงดูอย่างดีไม่เคยให้ลำบากพ่ะย่ะค่ะ""แม่รู้ๆ พวกเขาผัวเมียเป็นคนดียิ่งนัก แม่เองก็คิดว่าฝากไม่ผิดคน"หยางตงอวี้อยากให้แม่ลูกได้คุยกันมา
ยามเฉินทุกคนต่างเตรียมรถม้าวันนี้ฮ่องเต้กับรัชทายาทจะเสด็จไปเยี่ยมหมู่บ้านกันดารหาทางแก้ปัญหาอีกหลายที่ เมื่อเสร็จธุระแล้วก็ขึ้นรถเตรียมออก รถม้าวิ่งมาไกลมากแล้ว ไป๋ซูหยางนึกถึงคำพูดบิดามารดาและพี่สาว จึงตัดสินใจไปเข้าเฝ้าพระบิดาก่อนจะตกลงไปเยี่ยมมารดาผู้ให้กำเนิด"พี่ใหญ่ ข้าอยากปรึกษาท่านเรื่องมารดาของข้าขอรับ""ทำไมหรือ เสี่ยวหยางเจ้าสับสนว่าตนเองอยากไปเยี่ยมนางหรือไม่ ควรไปดีหรือเปล่าใช่ไหม""ขอรับ ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่เสียใจ แต่ใจหนึ่งก็อยากไปเห็นนางสักครั้งขอรับ""เสี่ยวหยาง นางเป็นมารดาให้กำเนิดนับว่ามีบุญคุณ อีกอย่างนางใช้ทั้งชีวิตปกป้องเจ้าจนได้มาเจอท่านพ่อกับท่านแม่ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาบ้านใหญ่จะทำไม่ดีกับเจ้าไว้มาก แต่อย่างน้อยก็คงดีกว่าเจ้าต้องถูกคนพยายามฆ่าทุกวัน ควรไปขอบคุณนางด้วยตนเองสักครั้ง ให้นางได้เห็นว่าเจ้าเติบใหญ่เพียงใดในตอนนี้""ขอรับพี่ใหญ่ ข้าจะไปบอกท่านพ่อกับท่านแม่ก่อน""อืม ท่านแม่พ่อกับท่านแม่จิตใจโอบอ้อมไม่มีทางขัดขวางเจ้าหรอก ไปเถอะ"้ไป๋ซูหยางออกไปแล้ว เขารู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับพี่สาว ไม่รู้ว่าไปอยู่วังหลวงจะเป็นเช่นไร แม้จะมีพี่เข่อซินจะไปอยู่