ในขณะที่ชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธาม และน้ำหวาน กำลังดำเนินไปอย่างมีความสุขภายใต้แสงแห่งความรักและความสำเร็จ ทิชา ผู้ที่เคยสร้างความวุ่นวายและพยายามทำลายทุกสิ่ง ก็กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับ ผลกรรมจากการกระทำของเธอ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากการสืบสวนอย่างละเอียดของธาม และหลักฐานที่แน่นหนาที่ภาคินัยได้รวบรวมไว้ ทิชาจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำอันเลวร้ายของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เล่ห์เหลี่ยมบ่อนทำลาย "ภาคินัย กรุ๊ป" การพยายามทำลายชื่อเสียงของปลายฝัน หรือการใช้ประโยชน์จากผู้อื่นเพื่อประโยชน์ส่วนตน เส้นทางชีวิตที่เคยหรูหราของเธอ กำลังจะพังทลายลง พร้อมกับการสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยมี ทั้งชื่อเสียง ฐานะทางสังคม และอิสรภาพ
หลังจากที่วิกฤตของ "ภาคินัย กรุ๊ป" คลี่คลายลงอย่างสมบูรณ์ ด้วยความช่วยเหลือจากปลายฝันและธาม ภาคินัยได้นำหลักฐานทั้งหมดที่ธามรวบรวมได้ ไม่ว่าจะเป็นอีเมลการวางแผนการร้าย การบันทึกเสียงบทสนทนา หลักฐานการทำธุรกรรมทางการเงินที่เชื่อมโยงถึงการจ้างวานคนปล่อยข่าวลือ และการเข้าถึงข้อมูลลับของบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต ไปยื่นฟ้องร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
คดีความดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหลักฐานที่ชัดเจนและแน่นหนาเกินกว่าที่ทิชาจะปฏิเสธได้ เธอพยายามที่จะใช้เส้นสายและอำนาจที่มี เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงและหลีกเลี่ยงความผิด แต่ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ความพยายามของเธอกลับไร้ผล
คดีของทิชาได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเพราะเป็นเรื่องของนักธุรกิจสาวผู้มีชื่อเสียง แต่ยังเป็นเรื่องราวของการหักหลังและแผนการร้ายที่ซับซ้อน ผู้คนในสังคมต่างจับตาดูผลการตัดสินอย่างใกล้ชิด
ในตอนแรก ทิชาปรากฏตัวต่อสาธารณชนด้วยท่าทีที่ไม่สะทกสะท้าน เธอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และพยายามสร้างภาพลักษณ์ของผู้บริสุทธิ์ที่ถูกใส่ร้าย แต่เมื่อหลักฐานต่างๆ ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะมากขึ้นเรื่อยๆ ความจริงก็ค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้น
ธามได้รับเชิญให้เป็นพยานสำคัญในการให้การต่อศาล เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เขาได้ประสบมา ตั้งแต่การที่ทิชาพยายามเข้ามาตีสนิทกับเขา การใช้เขาเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงภาคินัย ไปจนถึงการที่ทิชาตีตัวออกห่างเมื่อแผนการไม่เป็นไปตามที่เธอต้องการ คำให้การของธามประกอบกับหลักฐานทางดิจิทัลที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ทำให้ภาพลักษณ์ที่ทิชาพยายามสร้างไว้พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
สื่อมวลชนพาดหัวข่าวเกี่ยวกับความชั่วร้ายของทิชาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชื่อเสียงของเธอเสียหายยับเยินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากที่เคยเป็นนักธุรกิจสาวผู้ทรงอิทธิพล ตอนนี้เธอกลายเป็นบุคคลที่สังคมรังเกียจ ทุกสายตาที่มองมาที่เธอเต็มไปด้วยความรังเกียจและคำตำหนิ
ผลจากคดีความ ทำให้ทิชาต้องเผชิญกับการสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยมี
การดำเนินคดีและการถูกลงโทษ: ศาลได้ตัดสินให้ทิชามีความผิดจริงในข้อหาหมิ่นประมาท พยายามสร้างความเสียหายแก่บริษัท และการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ เธอถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาหลายปี และต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนมหาศาลให้กับ "ภาคินัย กรุ๊ป" และบุคคลที่เกี่ยวข้อง การถูกตัดสินจำคุกเป็นการยุติเส้นทางชีวิตที่เคยหรูหราของเธออย่างสมบูรณ์แบบ
การสูญเสียชื่อเสียงและฐานะทางสังคม: จากเดิมที่เคยเป็นที่ยอมรับและนับหน้าถือตาในวงสังคม ตอนนี้ทิชาได้กลายเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรเลย ชื่อเสียงที่สร้างมาด้วยความพยายามมาตลอดชีวิตพังทลายลงในชั่วข้ามคืน เพื่อนฝูงที่เคยใกล้ชิดต่างก็ตีตัวออกห่าง ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวกับเธออีกต่อไป วงสังคมที่เธอเคยภาคภูมิใจ ก็ไม่ต้อนรับเธออีกแล้ว
ผลกระทบต่อธุรกิจและทรัพย์สิน: บริษัทที่ทิชาบริหารอยู่ประสบปัญหาอย่างหนักจากข่าวฉาว และความไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้าที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจของเธอต้องปิดตัวลงในที่สุด ทรัพย์สินที่เธอเคยสะสมมาถูกยึดเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย ทำให้เธอไม่เหลืออะไรเลย
ในห้องขังแคบๆ ทิชานั่งอยู่คนเดียว ความมมืดมิดและความเงียบงันเข้ามาปกคลุม เธอได้แต่ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด เธอเคยคิดว่าเธอจะสามารถทำลายปลายฝันและภาคินัยได้สำเร็จ เธอเคยคิดว่าเธอฉลาดเหนือกว่าใคร แต่ในที่สุด เธอกลับเป็นคนที่พังทลายลงเสียเอง
ความเย่อหยิ่ง ความอิจฉาริษยา และความแค้น ได้กัดกินจิตใจของเธอมาโดยตลอด ทำให้เธอมองไม่เห็นคุณค่าของความดีงาม และเลือกที่จะเดินไปในเส้นทางที่มืดมิด ตอนนี้เธอต้องเผชิญหน้ากับความโดดเดี่ยว และผลกรรมที่เธอได้ก่อไว้ทั้งหมด
ไม่มีใครเข้ามาเยี่ยม ไม่มีใครส่งข่าว ไม่มีแม้แต่คำปลอบใจ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับความผิดพลาดที่เธอได้ทำลงไป และความเสียใจที่ไม่อาจย้อนคืนได้
เรื่องราวของทิชาเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดสำหรับทุกคน มันแสดงให้เห็นว่าการกระทำที่เลวร้ายย่อมได้รับผลกรรมที่สาสม ไม่ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงหรือบิดเบือนความจริงอย่างไร ในที่สุดความจริงก็จะปรากฏ และผู้กระทำผิดก็จะต้องได้รับผลจากการกระทำของตนเอง
ในขณะที่ทิชากำลังชดใช้กรรมอยู่ในคุก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันก็ดำเนินไปอย่างมีความสุข พวกเขาได้เริ่มต้นสร้างครอบครัวที่อบอุ่น และสานต่อโครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" ให้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ธามและน้ำหวานก็ได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดี และกำลังสร้างอนาคตร่วมกัน
ทุกคนที่เคยได้รับผลกระทบจากทิชา ได้ก้าวข้ามผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาได้ และได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สดใสและเต็มไปด้วยความสุข ความยุติธรรมได้บังเกิด และความดีงามก็ยังคงเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ