แชร์

บทที่ 3 ทำไมเป็นเขา

ผู้เขียน: ฮาลาปัญ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-23 20:09:05

เดมี่ทำหน้าหงิกงอใส่อีกฝ่าย ปากขมุบขมิบสบถด่าไอ้ลูกครึ่งผมสีเงินในใจ "ไม่สวยแต่รวยด้วยล้ำแข้งก็แล้วกัน ไอ้หัวขาวเอ้ย"

วินาทีที่หญิงสาวคิดจะหลีกเลี่ยงที่ ๆ คนจอแจพลุกพล่าน และหลีกจากสายตาแน่นิ่งของเขา ทว่านักข่าวที่ทยอยสัมภาษณ์คนดังรายอื่น ๆ เสร็จก็ดันยกทัพแห่กันเข้ามาหาเธอแทน 

"คุณเดมี่ครับเชิญทางแบล็คดรอปหน่อยครับ ขอสัมภาษณ์หน่อยครับ"

เป็นจังหวะเดียวกับดาราเด็กสองคนวิ่งโร่เข้ามาหา ด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ เด็กทั้งสองจึงได้แต่ยืนดูห่าง ๆ เพราะบรรดานักข่าวที่รุมสัมภาษณ์เจ้าของสถาบันด้านศิลปะและการเต้นรำคนดังผลัดกับรับผลัดกันส่งไมค์กันจ้าละหวั่น

"คุณเดมี่คะช่วยแจ้งกำหนดการแสดงภาพวาด 4D ที่จะผสานการเต้นรำแต่ละแบบเข้าไปด้วยหน่อยได้ไหมคะ"

"อ๋อค่ะ กำหนดการแสดงจะมีเดือนหน้านี้ค่ะ รอชมได้เลย ทีมงานของฉันเต็มที่กับงานนี้มากๆ ค่ะ"

"พวกเราขอให้งานประสบความสำเร็จนะคะ"

"ขอบคุณพี่ๆ นักข่าวทุกท่านมากค่ะ แล้วก็เราสองคนมาทางนี้สิจ๊ะ" 

เธอกวักมือเรียกดาราเด็กสองคนที่ยืนจด ๆ จ้อง ๆอยู่นานสองนาน เพราะสังเกตุเห็นอยู่ก่อนแล้วว่าแฟนคลับตัวน้อยต้องการเข้ามาถ่ายรูปด้วย แต่เพราะคนจำนวนมากที่ล้อมวงเข้ามาทำให้ยากที่จะแหวกฝูงสื่อออกมาหาเด็กทั้งสอง

หลังจากกระหืดกระหอบตอบคำถามนับสิบและถ่ายรูปกับเหล่าแฟน ๆ เรียบร้อยดีแล้วลำคอสวยก็รีบร้อนกรอกค๊อกเทลรสเยี่ยมที่เด็กเสริฟ์เดินมาบริการให้หลายรอบ เดมี่จึงดื่มอักอักลงคอไปหลายแก้วไม่ให้เขาเสียแรงที่เขามีน้ำใจ

แม้ว่าจะรู้สึกคอแห้งเผือด แต่ค่ำนี้ถือว่าเธอโชคดีมากแล้วที่ไม่มีสำนักข่าวไหนเอ่ยถามเรื่องอิตาเด็กหัวหงอกคนนั้นกับเธอเหมือนเมื่อเช้าอีก

"พี่ ๆ พี่เดมี่ เกิดเรื่องแล้วค่ะ"

กุ๊กไก่วิ่งหอบชายกระโปรงยาวกรุยกรายเข้ามาหาเจ้านายสาวพร้อมส่งโทรศัพท์สายด่วนให้กับเดมี่

"มีอะไรกุ๊กไก่...วิ่งมาแบบนี้เดี๋ยวก็สะดุดล้มหน้าคะมำหรอก"

"น้าพี่อ่ะ....น้าดิวโทรมาอาละวาดใหญ่เลย แต่แกวางสายไปแล้ว หนูนี่โดนด่าหูแทบพังเลยพี่"

"อีกแล้วเหรอ" 

"พี่จะเอาไงคะงานก็จะเริ่มแล้วนะ"

"เอางี้เธอไปเป็นตัวแทนร่วมงานของพี่นะกุ๊กไก่ พี่จะกลับบ้านก่อน เป็นห่วงแม่อ่ะ"

"หนูเข้าใจค่ะ งั้นพี่รีบไปเถอะ"

"อ้ออีกอย่าง....งานที่นี่น่าจะเลิกดึก ซอยแมนชั่นที่เธออยู่ก็เปลี่ยว พี่ว่าเธอขับรถพี่กลับบ้านก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่นั่งแท็กซี่ไปเอง"

"โอเคค่ะ ยังไงพี่เดมี่ก็ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรแจ้งตำรวจเลยนะพี่"

"อึ้ม"

หญิงสาวโบกมือบ๊ายบายแล้วรีบเดินลงบันไดไปอย่างรีบร้อน โดยมีสายตาของชายหนุ่มชำเลืองมองตามด้วยความสงสัย และเป็นเหตุให้ปล่อยเท้าส้นแหลมสีดำของเขาก้าวตามไปอย่างไม่รู้ตัว

รถแท็กซี่จอดเทียบท่าบ้านสไตล์อเมริกันคันทรี่สีฟ้าสดใสที่เดมี่ซื้อไว้ให้แม่ของเธอเมื่อสองปีที่แล้ว

เพื่อให้แม่มีชีวิตที่สุขสบายมากขึ้นไม่ต้องเช่าอพาร์ทเม้นต์ขนาดเท่ารูหนูอยู่อีก แต่แม่ก็ดันยังดันทุรังเอาน้าสาวที่ขี้เกียจตัวเป็นขนเที่ยวเก่งสุรุ่ยสุร่ายมาอาศัยอยู่ด้วย 

ไหนจะมีคดีที่ทำครอบครัวอาเวนชี่แตกหัก ทว่าข้อครหานี้กลับไม่ส่งผลต่อชีวิตของน้าแม้แต่น้อย แต่ส่งผลกลับตัวเธอผู้เป็นหลานแท้ ๆ เสียมากกว่า

พักหลัง ๆ ธุรกิจร้านอาหารไทยในย่านซิลิคอนวัลเล่ย์ของแม่เริ่มมีลูกค้าเยอะขึ้น แต่ว่าชีวิตหลังเลิกงานของเธอก็คือทาสของน้าอยู่ดี

สองขาที่รีบวิ่งเข้าบ้านไปเพราะได้ยินเสียงปาข้าวของที่มาพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายของคนขี้เมาเจ้าเดิม

ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เขม็งมองฝ่ามือของน้าสาวที่ง้างขึ้น ในมือของน้าขี้เมามีรองเท้าบู๊ทเป็นอาวุธ

เมื่อเห็นแบบนั้นร่างกายของเธอก็พุ่งเข้ารับแรงฟาดจากรองเท้าบู๊ทเข้าเต็มๆ

ปั้บ!!!

ใบหน้าฉาบเครื่องสำอางที่อุตส่าห์แต่งแต้มเพื่อร่วมงานที่ลินคอร์นเซ็นเตอร์สะบัดหันไปอีกข้าง

"เดมี่!!!!!"

ดุสิตาแม่ของเธอร้องพลางกระชับกอดลูกสาวเอาไว้ไม่ให้เธอโดนทำร้ายอีกเป็นครั้งที่สอง

"ปล่อยหนูเถอะค่ะ....หนูไม่เป็นไร แม่ไปอยู่ทางโน้นก่อน"

เธอบอกให้แม่หลบอยู่ที่มุมเสาอีกฟาก ขณะที่ใบหน้าแสดงออกอย่างเหยเก เพราะแรงฟาดจากฝีมือของน้าสาวที่สิ้นสติ ทำให้ใบหน้าเกิดรอยครูดถลอกเป็นทางยาวและค่อย ๆ เห่อเป็นปื้นนูนแดงเด่นชัดขึ้นภายในเสี้ยววินาที

"น้าดิวจะเอาอะไรอีกคะ"

"เงิน ฉันต้องการเงิน รีบส่งมาเซ่"

เดมี่ยอมควักเงินสดในกระเป๋าเท่าที่มีส่งให้ น้าสาวรับมาแล้วนับแบงค์อย่างกระสับกระส่าย

"มันน้อยไปเอามาอีก"

"แต่หนูมีแค่นี้"

"แกโกหก!!!!"

ตวาดแล้วกระชากแขนเธออย่างแรง ใช้หลังมือตบลงมาที่ใบหน้าของเดมี่อีกสองฉาดใหญ่จนหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวล้มกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ

"พอแล้วดิวอย่าทำหลานเลย พี่ขอร้อง"

ปลายนิ้วโป้งปาดเช็ดคราบเลือดที่ฉาบอยู่บนริมฝีปากของตัวเองแล้วพยายามหยัดตัวลุกขึ้นมา

"ถ้าแกไม่มี....ฉันจะฆ่าแกทั้งแม่ทั้งลูกเลย"

เดมี่เหลือบมองแม่ของเธอ แล้วส่ายหน้าบอกแม่ว่าอย่าเข้ามา เพราะครั้งก่อนแม่โดนมีดปอกผลไม้บาดแขนมารอบนึง เธอจะไม่ยอมเห็นแม่เจ็บตัวเพราะน้าเฮงซวยของเธออีกแล้ว

"เอาอย่างงี้นะคะ.....หนูจะไปกดเงินมาให้แต่น้าดิวต้องสงบสติอารมณ์ก่อนนะคะ"

"แกจะตุกติกใช่ไหม!!!"

ตะคอกใส่เสียงดัง คว้าขวดเหล้าที่อยู่บนโต๊ะกินข้าวเตรียมที่จะฟาดลงที่หัวของเธอ เดมี่ยกแขนขึ้นรับแรงปะทะ ดวงตาปิดสนิด

"แกเป็นใคร!!"

ขวดเหล้าในมือของหญิงขี้เมาถูกแย่งไป เปลือกตาลึกสองชั้นรีบลืมขึ้นดู 

สิ่งที่เธอเห็นตรงหน้าช่างน่าตกใจยิ่งกว่าเห็นผีซะอีก

ทำไมเป็นเขาไปได้ล่ะ ....วินาทีนี้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นจนรู้สึกสับสนและหวิว ๆ พิกล 

อาการนี้เป็นเพราะว่ากลัวขวดเหล้าที่น้าเตรียมฟาดลงมาหรือเปล่า หรือเพราะเขา 'แม็กนัส อาเวนชี่' มาช่วยเธอไว้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 57 อพยพหลบหนี

    แม็กนัสวิ่งออกไปตามโถงทางเดินอย่างไม่คิดชีวิต เขาไม่ได้วิ่งหนี แต่กำลังวิ่งล่อเหยื่อ การหายใจของเขาหนักหน่วงและรุนแรงไม่ต่างจากเสียงฝีเท้าของคิทซ์ โอซัลลิแวนที่วิ่งตามมาติด ๆ ชายผู้บุกรุกฉายานักแฮ็กเกอร์ขององค์กรใต้ดินผู้มีพละกำลังที่มหาศาล และความแค้นที่สั่งสมมานานหลายปีทำให้เขากลายเป็นสัตว์ร้ายที่น่ากลัวกว่าเดิม“แกจะหนีไปไหนไม่รอดหรอก แม็กนัส! ส่งเมียแกมา!” อีกฝ่ายตะโกนลั่นอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับยิงปืนพกกระบอกสำรองเข้าใส่ผนังใกล้ ๆ แม็กนัสเพื่อกดดันให้เขาจนมุมแม็กนัสไม่ตอบโต้ เขาทิ้งตัวลงสไลด์ไปตามพื้นโถงทางเดินที่ปูด้วยพรมขนสั้น แล้วใช้ช่วงเวลานั้นในการเตะขาโต๊ะไม้แกะสลักมูลค่ามหาศาลให้ล้มลงขวางทาง คิทซ์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงชนเข้ากับโต๊ะอย่างจัง ทำให้การไล่ล่าชะงักไปชั่วขณะติ๊ด... ติ๊ด...“แอ็กเซล รายงาน ทางเข้าปล่องระบายอากาศจะปลดล็อกในอีก 30 วินาที คุณแม็กต้องถึงจุดรวมพลชั้น B ภายใน 1 นาที”“ฉันกำลังไป! ดูแลเดมี่ให้ดี!” แม็กนัสตอบกลับทางไมค์ที่ซ่อนอยู่ใต้ปกเสื้อ ก่อนจะหักเลี้ยวเข้าสู่บันไดหนีไฟ แล้วเริ่มวิ่งลงบันไดไปทีละสองสามขั้น ถ้าตอนนี้ฮัลค์อยู่กับเขาด้วยก็คงจะดี เพราะเข

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 56 สมาร์ทวอชเมียถูกแฮ็ก

    แม็กนัสคลายอ้อมกอดจากภรรยา แล้วใช้มือข้างหนึ่งกุมมือของเธอไว้แน่นขณะจ้องมองไปยังใบหน้าของสมาชิกทีมที่ปรากฏบนจออย่างจริงจังอีกครั้ง ทุกคนรู้ว่าคำสั่งของเขาไม่ใช่เรื่องเล่น และนี่เป็นเรื่องที่ต้องเอาชีวิตเข้าแลก“แอ็กเซล มานี้หน่อย" แม็กนัสหันไปกวักมือเรียกให้หัวหน้าบอดี้การ์ดเข้ามาข้างใน"ว่าไงครับบอส""ฉันอยากให้นายดูแลเรื่องเส้นทางหลบหนี ส่วนเคน จัดการเรื่องการสื่อสารและซุ่มโจมตีที่คาดไม่ถึง ผมต้องการชุดอำพรางที่ดีที่สุดสำหรับเดมี่” แม็กนัสออกคำสั่งรัวเร็ว ราวกับเครื่องจักรที่ทำงานด้วยความแม่นยำสูงบอดี้การ์ดหนุ่มคู่หูทั้งสองคนที่ปกติจะประจำอยู่ที่ซิลิคอลวัลเล่ย์ ถูกเรียกมากระทันหันเพราะพวกเขาฝีมือดีสุดในทีมบอดี้การ์ฺดที่เขาเคยจ้างมา หลังจากฟังคำสั่งเจ้านายเสร็จ ทั้งคู่จึงพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น “เข้าใจแล้วครับคุณแม็ก แต่การเคลื่อนย้ายภายใน 24 ชั่วโมงนั้นบีบมาก และปีกตะวันตกกำลังมีปัญหา เราสงสัยว่าคนที่มาใหม่คือกลุ่มสอดแนมจากองค์กรคู่แข่ง พวกมันกำลังพยายามเข้าถึงฐานข้อมูลหลัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องเรา” เคนเอ่ยดารินธิราที่กำลังนั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างสามีรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่แผ่ซ่

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 55 ความเสี่ยงและสัญญาณเตือน

    แม็กนัสค่อย ๆ ประคองดารินธิราให้ลงจากตักแล้วจัดเสื้อคลุมคาร์ดิแกนให้เธออย่างเบามือ ราวกับว่าการสัมผัสแรงไปกว่านี้จะทำให้เธอแตกสลายเขาวางเธอไว้บนโซฟาตัวยาวที่แสนสบาย และเลื่อนไอแพดที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟเข้ามาใกล้ “เดี๋ยวผมขอคุยกับเดอะแก๊งไม่นานนะครับ” เขากระซิบที่ข้างหู ก่อนจะกดปุ่มเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ทันทีที่ใบหน้าของสมาชิกทีมปรากฏขึ้นเต็มจอ บรรยากาศอบอุ่นเมื่อครู่ก็สลายหายไป กลายเป็นความเคร่งเครียดที่แผ่ออกมาทางหน้าจอ แม้แต่ฟิลิกซ์ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองที่ปกติจะดูผ่อนคลายที่สุด ก็ยังมีคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน“สถานการณ์ล่าสุด...?” แม็กนัสไม่รอช้า เริ่มการประชุมด้วยน้ำเสียงที่กลับสู่ความจริงจังและเด็ดขาดทันทีทุกคนเริ่มรายงานสถานการณ์ที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของกลุ่มอาชญากรที่พวกเขาแทรกซึมเข้ามา แม็กนัสพยายามอย่างยิ่งที่จะจดจ่อ แต่สายตาของเขาก็ลอบมองไปยังดารินธิราที่นั่งเท้าคางมองเขาด้วยรอยยิ้มอยู่บ่อยครั้ง“...สรุปคือ เป้าหมายหลักยังไม่มีการเคลื่อนไหว แต่มีสัญญาณแปลก ๆ ที่ปีกตะวันตก ดูเหมือนพวกเขาจะได้รับแขกที่ไม่คาดคิดมาเพิ่ม” เสียงของฟิลิกซ์ดังขึ้นจากลำโพง ก่อนที่เขาจะ

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 54 ทาสคนใหม่ของปาตาโกไททัน

    เรียวขาเล็กกระชับแน่นถูกฝ่ามือร้อนคลั่งรักคลั่งคะนึงหาของสามีปลดออกอย่างเร่งรัด ไม่ทันที่เธอจะเอ่ยถามเหตุการณ์ต่าง ๆ กับเขา ใบหน้าคมขาวก็ก้มลงมาปิดปากของเธอแนบสนิท และยังไม่ได้เตรียมตักตวงออกซิเจนเลยด้วยซ้ำจูบที่สูบแก่นวิญญาณและพลังงานในร่างกายที่อ่อนเพลียมาทั้งวันไปจนเกือบหมด ไหนจะปลายลิ้นที่ควานหาลิ้นของเธอแล้วเกี่ยวรัดไว้จนเธอแทบสำลักรสจุมพิตที่หนักหน่วงนี้ สุดท้ายเธอก็หัวหมุนตาลายแต่ก็ยังอยากตักตวงความสุขนี้กับเขาต่อไป ติ๊ดดดดดด ติ๊ดดดดดดเสียงร้องจากสมาร์ทวอชที่เดมี่ฝังดวลออร่าชิฟเอาไว้ที่หลังคอทำให้มันส่งสัญญาณมาที่เครื่องของเขาและเธอพร้อมกัน ใบหน้าตื่นตระหนกผละจูบออกด้วยความตกใจและรีบยกข้อมือดูสัญญาณเตือนประหลาดที่ขึ้นเป็นรูปเด็กทารก เขาจ้องนิ่งดวงตาไม่กระพริบ "นี่มัน...." แม็กนัสก้มลงหอมแก้มของเดมี่เพื่อปลอบประโลมเธอทันที แล้วยิ้มให้กับใบหน้าที่ซีดเป็นไก่ต้มของภรรยาด้วยความดีใจ "มีอะไรคะคุณแม็ก" "สงสัยว่าคุณกำลังจะมีทาสคนใหม่ให้ไอ้เจ้าปาตาโกไททันมาโยรัมซะแล้ว" "คะ.....หมายความว่าฉะ... ฉันท้อง" "อืม คุณท้อง ถึงว่าคุณต้านแรงจูบของผมไม่ได้เลย ทั้งที่ปกติคุณจะรุกกลับจนผมเสี

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 53 ความคิดถึงอันแสนเร่าร้อน

    เดมี่ได้ยินพวกคิสท์ โอซัลลิแวนคุยกันเรื่องแผนที่ และแผนฆ่าสามีของเธอ ซึ่งความจริงเรื่องแผนที่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไปพราะทุกๆ เส้นทางแทบจะปรากฏเด่นชัดอยู่ในรอยหยักสมองเรียบร้อยแล้ว เรื่องสำคัญกว่าที่เธอต้องกังวลคือจะปกป้องสามียังไงดีในสถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้ผู้หญิงอย่างเธออาจจะไม่ได้ดีพร้อมและเก่งไปหมดทุกเรื่อง แต่บางเรื่องก็จำเป็นแม้จะไม่เก่งและพร้อมก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะขอเป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่จะดึงความสนใจของศัตรูสามีมาเป็นเธอแทน เธอไม่ลังเลเลย แต่เลือกด้วยความเด็ดขาด ในชีวิตนี้เธอเคยสูญเสียพ่อไป และก็เคยเสียศูนย์จากการไร้พ่อมานานหลายปี รวมทั้งเสียเวลากับการไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคนที่เธอรัก และกว่าจะเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน ก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมานับไม่ถ้วน วินาทีที่เธอก้าวมายังจุดที่อันตรายสุดขีดแล้ว จะถอยหลังกลับไปยังจุดเริ่มต้นก็คงจะป่วยการเสียแล้ว ถ้าแม็กนัสจะโกรธเธอเพราะความบุ่มบ่ามใจร้อนและเข้ามายุ่งกับงานของเขา เธอก็จะยอมรับ เพียงแต่ว่าขอให้เธอมีโอกาสช่วยเขาบ้างก็พอ ในห้องพักหรูวีไอพีชั้นสุดของโรงแรมซึ่งห้องของเดมี่อยู่ห่างกับห้องที่แม็กนัสอยู่เพียงสองห้อ

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 52 ตามล่าสามีกลับบ้าน

    ฮัลค์ผู้ที่กุมความลับทุกอย่างไว้รีบวิ่งตามภรรยาของเจ้านายไปด้วยความเป็นกังวล เพราะเขากลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องราวบานปลายใหญ่โต ทางที่ดีเปิดเผยความจริงกับเธอก่อนดีกว่า แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันอีกที“พาฉันไปร้านอาหารของแม่หน่อยได้ไหมคะ?”“คือว่า....ก่อนที่คุณเดมี่จะไป ผมขอให้คุณเดมี่ไปที่ๆ หนึ่งด้วยกันก่อนได้ไหมครับ”หญิงสาวรีบเช็ดน้ำหูน้ำตาที่เลอะเปื้อนเต็มดวงหน้า แล้วพยักหน้ารับเกือบสี่สิบนาทีบอดี้การ์ดหนุ่มจึงได้พาดารินธิรามาส่งที่บ้านทรงเอเฟรมของเธอ ดารินธิราหันไปมองหน้าเขาอย่างสับสนงุนงง“รีบเข้าบ้านก่อนเถอะครับ เพราะผมไม่รู้ว่ามีหูตาสัปปะรดที่ไหนคอยมองดูพวกเราอยู่หรือเปล่า”“ทำไมล่ะคะ?”เอ่ยถามพลางรีบร้อนลงจากรถก่อนจะยืนมองบ้านของตัวเองที่ไม่ได้กลับมาพักใหญ่ หญิงสาวหากุญแจบ้านที่ซ่อนไว้ใต้กระถางต้นไม้แล้วไขกุญแจ ทว่าไขเท่าไหร่ก็ไขไม่เข้า“เอ้…..หรือมันจะเสียแล้ว”“มันไม่ได้เสียหรอกครับ”ชายหนุ่มตัวโตยิ้มแล้วหยิบเอากุญแจอีกดอกที่อยู่ใต้กระถางต้นดอกคาเมเลียหน้าบ้านของดารินธิราออกมา แล้วหันซ้ายหันขวาดูท่าทีก่อนจะรีบไขเข้าไปในตัวบ้าน เขาก็ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างออกมาหลังจากที่สับคัทเอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status