Home / รักโบราณ / เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ / #เป็นเมียผี บทที่ ๒ ชายชู้อันดับหนึ่ง (๒)

Share

#เป็นเมียผี บทที่ ๒ ชายชู้อันดับหนึ่ง (๒)

last update Huling Na-update: 2024-12-30 18:26:52

“ฮื้อออ อะ อ๊ะ พี่ผี บะ... เบากับฉันหน่อย อื้ออออ” เสียงหวานครางสูงในลำคอเมื่อความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย เนื่องจากไม่ประสานี่จึงเป็นสัมผัสแปลกใหม่ แต่ร่างกายกลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยราวกับเธอเคยร่วมรักกับชายตรงหน้าเมื่อยังมีชีวิตมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

แต่ถ้าจะอัดกันเอาๆ เหมือนลูกบาสแบบนี้ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผีนะจะไปรีวิวติดลบในพันติ๊ปให้รู้กันทั่วเลย ผู้ชายยุคกรุงศรีมันรุนแรงกับผู้หญิงทุกคนเลยไหมเนี่ย

“มิคณามือเลยสักนิด มึงมีฤทธิ์เดชเพียงแค่นี้ อย่าได้หวังจักทำให้กูพึงใจได้เลย” เสียงหนั่นเนื้อกระทบกันดังก้องในโสตประสาท พร้อมกับเสียงทุ้มเยือกเย็นที่ส่อแววปรามาสไม่จบไม่สิ้น “มิลองไปเขาโรงรับทำชำเราบุรุษไปเป็นโสเภณีดูหรือไร เผื่อจักมีกลเม็ดพิชิตใจชายได้มากกว่านี้”

โรงรับทำชำเราบุรุษ? โสเภณี?

อ้อ ไอ้ผีหน้าหล่อนี่มันกำลังประชดว่าเธอเด็ดไม่เท่าน้องหรี่ตัวจริงอยู่นี่หว่า

“พะ... พูดแบบนี้ต่อยกันดีกว่า อะ อ๊า!” สิ้นประโยคนั้นความอุ่นร้อนก็โอบล้อมภายในท้องน้อยเมื่อชายร่างแกร่งเหนือตัวเสร็จสมดั่งใจหมาย ผีหนุ่มไม่ได้แสดงท่าทางอดกลั้นใดๆ เนื่องจากเมื่อตายเป็นผีแล้วมันไม่มีความรู้สึกถึงจุดสุดยอดจนหลั่งได้หรอก ที่ทำอยู่ก็ทำด้วยเศษเสี้ยวความคะนึงหาที่หลงเหลืออยู่ลึกๆ เท่านั้น

หรือถ้าให้พูดได้ตรงใจนัก ก็เพราะว่าวิธีเสพสมกับหญิงสาวเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเสกของสกปรกเข้าสู่ร่างกายหล่อนนั่นเอง

ที่อุ่นวาบอยู่ในท้องของนาง นั่นก็คือเลือดจากศพของเขา ที่ปล่อยออกมาจากบาดแผลจนคับคั่งมดลูกหล่อน ไม่ต้องถามหาถึงเชื้อไขอสุจิหรอก ตายไปแล้วจะมีได้อย่างไร ที่พวยพุ่งเข้ากายนาง มีเพียงของสกปรกที่เขาต้องการควบคุมเท่านั้น

ไม่ได้หลั่งไวเพราะเสียดเสียวจนทานทนไม่ได้ แต่มันคือการหลั่งเลือดต่างหาก

เท่านี้ในมดลูกนางก็จะเต็มไปด้วยเลือดของศพ และเศษป่นกระดูกผีตายโหงในนั้น

ฝ่ามือหนาล้วงลึกเข้าไปในอุ้งปากนาง ปล่อยเศษเล็บและผงดินป่าช้าเข้าไปในคอ หญิงสาวเบิกตาโพลง คิดว่าชายตรงหน้าพยายามให้กลืนน้ำอสุจิของเขา

“อะ... อั่ก ค่อก” รสชาติห่วยแตกเหมือนโคลนเลย คงคิดดีแล้วที่ตอนโม๊คให้เขาไม่เลียน้ำใสๆ ที่ปริ่มตรงปลายหัวเข้าไป ถ้ารสชาติอสุจิผู้ชายจะรสชาติแย่ขนาดนี้ รู้งี้ไม่อมให้เปลืองขี้ปาก

“กลืนเข้าไปเสีย” เสียงทุ้มกดต่ำออกคำสั่ง ดวงตาสาวงามเหลือกขึ้นมองเขาทั้งน้ำตาที่ปริ่มจนดวงตาแดงก่ำ รสชาติเกินจะกินแบบนี้ยังจะมาบังคับให้กลืนอีก ไอ้ผีโรคจิต “กูบอกให้กลืน”

อึก

ด้วยไม่มีทางเลือกมากนัก นางสาวบียอมกลืนสิ่งที่คิดว่าเป็นน้ำกามลงไปในลำคอ มันไหลลงผ่านลำคอระหงจนลูกกระเดือกเล็กๆ ของหญิงสาวขยับขึ้นลง ผีขุนแสนคำฉีกยิ้มท่าทางพึงพอใจ ดูเหมือนว่าหญิงสาวที่นอนเปลือยอยู่บนฟูกจะไม่รู้อะไรเลยสินะ

ช้าๆ เดี๋ยวก็ได้ไม่ตายดีแล้ว

“มึงทำได้ดีมาก” ฝ่ายผีบีบคางมนไว้ เชยให้สบตาตนที่อยู่เหนือร่างทั้งที่ร่างกายสาวยังล่อนจ้อน “กลับไปสืบสาวราวเรื่องต่อในตอนตื่นเสีย ค้นหาชู้ทุกคนของเมียกู อย่าให้ใครล่วงรู้ว่าได้เจอกูอีก”

“...”

“แล้วคืนพรุ่ง... จงหลับใหลมาเสพสวาทกับกูในนิมิตแห่งความตายอีกคราเถิด บัวงาม”

ขนาดจะหงี่ยังเรียกชื่อผิดเป็นชื่อเมียเก่า ไอ้ผีขุนแสนคำ ไอ้ผีหน้าหล่อ!

เฮือก!

หญิงสาวตื่นขึ้นมาอีกในช่วงสายของวันต่อมา ฝ่ามือเล็กถูกกำแน่นด้วยฝ่ามือหยาบกร้านของใครสักคน นางสาวบีในร่างกายนางบัวงามปรือตาเบิกโพลง หยัดกายลุกขึ้นอย่างกะทันหัน กวาดสายตากลมโตมองไปยังร่างกายใหญ่โตที่แต่งกายราวกับทาสชายในเรือน ร่างกายกำยำที่ออกสีคล้ำลมแดดนั้นเต็มไปด้วยรอยบาดแผลเป็น ราวกับเคยผ่านการศึกหรือไม่ก็โดนเฆี่ยนตีมาอย่างหนักหน่วง ฝ่ามือเปื้อนดินนั้นกำลังกุมมือเล็กๆ ของหญิงสาว และหลับสนิทในท่าหมอบเอามือข้างหนึ่งขึ้นเอื้อมขึ้นมากุมมือนางอย่างเจียมตน

หมับ!

“แม่เจ้า!” ยังไม่ทันที่นางสาวบีจะชักมือกลับด้วยปฏิกิริยาป้องกันตัวอัตโนมัติ ทาสชายคนนั้นรีบฉวยจังหวะลืมตาตื่น พุ่งพรวดขึ้นมาบนฟูกนอนของหญิงสาว คร่อมทั้งร่างกายอ้อนแอ้นอรชรเอาไว้แทบทันที พร้อมกับยกนิ้วชี้หยาบใหญ่ขึ้นปิดริมฝีปากหยักเมื่อหล่อนสบถออกมาด้วยภาษาประหลาด

“เบาไว้ขอรับ คุณผู้หญิง... มิมีใครรู้ว่ากระผมแอบปีนเข้าเรือนท่าน”

“อึก...” ริมฝีปากเล็กเม้มกลีบปากแน่นเมื่อสัมผัสได้ถึงปลายสันจมูกโด่งและกลิ่นเหงื่อร้อน นี่เพิ่งเจอความอัศจรรย์ใจในฝันอันยาวนานมานะ ทันทีที่ลืมตาตื่นก็จะเจออีกเหรอ แล้วดูจากท่าทางที่กล้าขึ้นมาคร่อมลูกเจ้านายแบบนี้ “หรือนาย... จะเป็นชู้ของฉันงั้นเหรอ?”

เป็นคำถามโง่ๆ แต่ทาสชายคนนั้นกลับเบิกตากว้างราวกับเจอคำพูดแปลกหู ก่อนที่จะฉีกยิ้มกว้างราวกับดีอกดีใจเสียปานนั้น

“กระผมดีใจเหลือเกินที่อย่างน้อยครั้งนี้ท่านก็ยังนับกระผมว่าเป็นชายชู้ของท่าน”

“...”

“ก็กระผมเป็นเพียงแค่ของเล่นของคุณผู้หญิงมิใช่หรือขอรับ?”

ถึงกับอุทานในใจว่า เชี่ยอะไรเนี่ย

นางบัวงามนี่แม่งโคตรจะมั่วและทั่วถึงเลยนี่หว่า ขนาดทาสชายก็ยังเอา!

แต่เอาเป็นของเล่น นี่มันเสือผู้ชายในยุคกรุงศรีชัดๆ

นับว่าเป็นชู้ของท่านคนหนึ่ง?” แต่เมื่อปลาเล็กงับเหยื่อ ยอมปล่อยไก่ออกมาคำโตแบบนี้ มีหรือที่เธอจะไม่ฮุบปลาตัวนั้นเอาไว้เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง อย่างน้อยก็ควรรู้ข้อมูลแรกที่ว่าชายชู้ของนางบัวงามมีมากกว่าหนึ่ง หรือสอง หรือสาม!? “หมายความว่าฉันไม่ได้มีนายเป็นชู้คนเดียวเหรอ?”

“กระผมมิรู้ดอกขอรับ เมื่อคุณผู้หญิงออกคำสั่ง กระผมก็แค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น” ทาสชายกำยำตรงหน้ายังคร่อมอยู่บนร่างกายยามตื่นของหญิงสาวที่ตนหลงรักหัวปักหัวปำ เขาไม่ได้ฉลาดนัก แต่ในเรือนนี้ก็รอดพ้นหูตาเป็นมิได้ แต่ก็พูดออกมากลายๆ ว่านางคงมีชู้คนอื่นอีก ที่วันนี้ปีนขึ้นเรือนมา ก็เพียงคะนึงหาอยากเจอหน้านวลนางเท่านั้น

แต่ดูท่าทางจะล้ำเส้นหล่อนมากไปหน่อย หญิงสาวที่นอนใต้ร่างเลยทำตาเขียวปั๊ดใส่เช่นนี้

“แล้วมาคร่อมทำไม อยากโดนตบเหรอจ๊ะ?” นางสาวบีผู้ไม่คิดคดทรยศต่อเซ็กซ์แรกและผู้ชายคนแรกอย่างขุนแสนคำเลือกที่จะโพล่งขึ้นมา... ก็เปล่า จริงๆ แล้วถ้าอยากมีชีวิตรอด ก็ไม่ควรเอาร่างกายอีหญิงใจทรามนี่ไปเกลือกกลั้วกับใครอ่ะนะ ถึงจะเป็นอดีตคนเคยกอดเคยนอนด้วยกันก็ตาม

ไม่งั้นไอ้ผีขุนแสนคำคงเอาเธอตาย!

ไม่ได้บ้าผู้ชายเหมือนคนที่มาสิงร่าง แต่ก็แอบเสียดายนิดหน่อย ทาสชายบ้านนี้งานดีเป็นบ้า

หุ่นหนากล้ามกำยำ... ยิ่งกว่าไอ้ผีหน้าหล่อนั่นนิดนึง ถึงจะเตี้ยไปหน่อย แต่หน้าตาคมคายดูไม่เลวทีเดียว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเปล่งประกายดูธรรมชาติ ผิวสีแทนเหมือนคนทำงานออกแดดออกกำลังทุกวัน ถือว่างานดี สายพิทบูล เหมาะสำหรับเอามาเป็นของเล่นแก้เหงาจริงๆ

นางบัวงาม... หล่อนใช้บุญกีได้คุ้มมาก ขอนับถือเป็นปรมาจารย์

แต่... ไม่ใช่เวลานี้สิ!

เอาเป็นว่ารู้แล้วว่าข้อมูลแรกคือนางบัวงามมีทั้งชู้... และของเล่นจ้ำจี้ในเรือนนี้ ก็คือชู้มากกว่าหนึ่ง สุดจริงอะไรจริง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๗ หอมกำยานกลิ่นโลหิต (๒)

    หากขุนเเสนคำรู้เล่า? เขาคงได้จบสิ้นในฐานะเพื่อนรักเป็นเเน่ อีกด้านของก้นบึ้งภายในจิตใจที่เขาไม่สามารถทำความเข้าใจมันได้เเม้ว่าจะตนเองจะเป็นหมอที่รักษาผู้ป่วยก็ตาม นั่นก็คือความรู้สึกไร้ความเห็นอกเห็นใจที่ไม่ว่าจะต้องเเย่งชิงเมียรักของเพื่อนเขาก็ไม่ได้สนใจ ชายหนุ่มผู้นี้หาได้มีความหวาดกลัวต่อเลือดเเละศพจึงได้เป็นหมอ อนึ่งเพราะต้นตระกูลของเขาต้องการให้บุตรชายเป็นหมอด้วยส่วนหนึ่ง หมอรักษาทัพผู้อื่นมักมีอาการ ‘โทษใจ’ หรืออารมณ์สะเทือนขวัญหลังจากการรักษาเเผลฉกรรจ์ขั้นรุนเเรงของเหล่าทหารในสนามรบ หรือเมื่อการรักษานั้นทำให้คนไข้ตายอย่างน่าเวทนา เเต่เขานั้นกลับไร้ซึ่งความรู้สึกเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง ความรู้สึกขาดความเห็นอกเห็นใจนั้นอาจสร้างความผิดปกติให้เเก่ภาพลักษณ์ของเขาก็ได้ ยิ่งกับต้นตระกูลที่เข้มงวดเเละคาดหวังในตัวของบุตรชายเพียงคนเดียว หมออินจึงซุกซ่อนความเลือดเย็นไว้ภายใต้หน้ากากหมอยาที่เเสนอบอุ่นเเละพูดน้อย หากเเต่ใครเล่าจะรู้... เบื้องลึกอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงภายในหัวของหมอหนุ่มผู้เต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน นั้นกลับเต็มไปด้วยความกักขฬะหยาบต่ำเสียมากมาย อยากลากทึ้งบัวงามที่เขาหลงใหล

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๗ หอมกำยานกลิ่นโลหิต (๑)

    ภายในตำหนักหลวงของพระมเหสีเทวีรัตน์ กลิ่นกำยานหอมเย็นแผ่วเบาอบอวลตลบอยู่ในห้องทึบแสง ผ้าม่านไหมสีมรกตพลิ้วตามแรงลมอ่อนจากภายนอก ขับเน้นบรรยากาศให้เยียบเย็นน่าหวาดหวั่นยิ่งกว่ายามค่ำ พระมเหสีทรงนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องสำอาง พู่กันถูกจรดลงบนพวงแก้มที่ไม่จำเป็นต้องประดับแต้มใดให้มากความ ใบหน้างามหยาดหยดที่เคยเป็นหนึ่งเดียวในสายพระเนตรขององค์เหนือหัว บัดนี้กลับถูกแบ่งปันให้หญิงอื่นเสียเเล้ว "เมื่อคืน... ทรงทอดพระเนตรนางจนลืมแม้กระทั่งข้า" น้ำเสียงที่เปล่งออกจากเรียวปากแดงฉ่ำของพระนางนั้นเย็นเยียบ แต่แววตาที่สะท้อนอยู่ในกระจกกลับแดงก่ำด้วยเพลิงริษยา ดวงหน้าอันงดงามนั้นยังไม่เปลี่ยนเเปรเเม้อายุจะมากขึ้น หากเเต่หล่อนกลับสู้ความงดงามของพระสนมชั้นต่ำศักดิ์นั่นมิได้อย่างนั้นหรือ “ช้องนาง เจ้ามิคิดงั้นหรือ?” พระมเหสีทรงตรัสเรียกหญิงนางนมคนสนิทที่จรดพู่กันลงบนพวงเเก้มงาม หล่อนรู้ดีว่าตอนนี้พระองค์ทรงเป็นทุกข์เพียงใด สวามีเพียงหนึ่งเดียวมีสนมมากมายนั่นไม่พอให้ทุกข์ทรมานเเสนสาหัส เเต่พระเจ้าสุริยะจักราธิวงศ์มิเคยไว้หน้าพระองค์ในฐานะมเหสีเลยเเม้เเต่น้อย ตั้งเเต่ที่พระสนมจันทร์จรีป่วยหนักเเลเปลี่ยน

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๖ เงาของความตาย และชายผู้เยียวยา (๕) จบตอน

    เมื่อบุตรชายคนโตคล้อยหลังไป แย้มเนืองก็เข้ามาบีบนวดขาของหล่อนอย่างคุ้นชิน ทองผินส่งสายตาไปเพียงครู่เดียว น้องสาวใน้คราบบ่าวรับใช้ผู้รู้ใจก็พยักหน้ารับ ก่อนจะวางห่อผ้าเล็กๆ ไว้เบื้องหน้าหล่อน ‘ผงสังข์ทองล้างกลด’ ผงพิษร้ายแรงซึ่งประกอบด้วยเถ้ากระดูกชายตายโหง ดินเจ็ดป่าช้า และน้ำมันพราย มันมีลักษณะเป็นผงละเอียด สีเทาหม่นปนน้ำตาลดำ คล้ายเถ้าถ่านผสมคราบดินเก่าชื้น มีกลิ่นฉุนบางเบา คล้ายดินเปียก น้ำมันเก่า และควันไฟ หากนำเข้าใกล้จมูกนานๆ เเล้วละก็... จะรู้สึกเหมือนมีกลิ่นเนื้อคนเผาไฟแทรกซึมอยู่ในอากาศ ใช่แล้ว... ผงพิษนี้นางใช้ผสมปะปนในสำรับอาหารของสามีทุกวัน ทั้งของคาวหวาน ไพร่ในโรงครัวเป็นผู้มีหน้าที่ปรุงก็จริง เเต่คนจัดสำรับขั้นสุดท้ายก็หาใช่ใครอื่น นอกจากน้องสาวแท้ๆ ของนางเองอยู่ดี แน่นอน... มือสุดท้ายของคนในเรือนเดียวกัน ไม่มีทางจับมือใครดมได้ “แต่ดูเหมือนไอ้พระยานั่นยังจะมีเรี่ยวแรงดีนัก” แย้มเนืองยังคงไม่วางใจนัก หล่อนเอ่ยอย่างขุ่นเคืองที่ยังคงเห็นพระยาสิงขรดำเนินงานได้ตามปรกติ เเถมเริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้นจากเมื่อก่อนที่เสเพล หากแต่ทองพินกลับกระตุกยิ้มที่มุมปากออกมาพร้อมกับเสีย

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๖ เงาของความตาย และชายผู้เยียวยา (๔)

    “เช่นนั้นข้าก็วางใจ” เขาตอบเพียงเเค่นั้น พลางคลี่ยิ้มบางซ่อนความไม่พึงใจภายใต้รอยยิ้มนั้นไว้ “ข้าได้จัดเรือนรับรองไว้ให้แล้ว ขุนอิน เจ้าพำนักอยู่ที่นี่สักเดือนหนึ่งเถิด จักพอมีเพลาอยู่กับข้าได้หรือไม่่?” ขุนอินยิ้มน้อยๆ เมื่อร่างชายวัยกลางคนชักชวน ดวงตาภายใต้เเว่นกรอบหนาเปี่ยมด้วยไมตรีจิตที่จริงใจ “ครานี้สนามรบหาได้คึกคักไม่ ข้าไม่มีภาระอันใดดอก ข้าจักอยู่เป็นเพื่อนเอ็งเอง จักมิปล่อยให้เอ็งเผชิญความลำบากนี้โดยลำพังเป็นอันขาด” นางสาวบีเผลอประทับใจกับความสัมพันธ์ของชายทั้งสองจนสายตาวาววับเป็นประกาย อย่างน้อยเเม้ไม่มีใครจริงใจกับขุนเเสนคำเลยเเม้เเต่เมียตนเอง เเต่เขาก็ยังมีมิตรเเท้ที่หาได้ยากยิ่งในช่วงเวลานี้อยู่ หญิงสาวฉีกยิ้มบาง ดูเต็มไปด้วยอารมณที่ดีนักหนา โดยที่ไม่เข้าใจตนเองเลยจริงๆ ว่าทำไมถึงต้องดีใจไปกับเรื่องดีๆ ของเขา ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าภาพเหล่านั้นกำลังอยุ่ในสายตาของหมอหนุ่มในทุกอิริยาบถของเธอ “งั้นข้าขอตัวก่อน เสร็จธุระเเล้ว” ขุนอินโพล่งขึ้นมาด้วยรอยยิ้มบาง ซุกซ่อนความรู้สุกบางอย่างไว้ใต้พรมเเห่งความคิด ขุนเเสนคำในร่างพระยาสิงขรจึงฝากฝังให้ข้าไทประจำเรือนรับรองพาชายหนุ่มไ

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๖ เงาของความตาย และชายผู้เยียวยา (๓)

    “เขา... จะไม่ตายใช่หรือเปล่าจ๊ะ?” เธอถามเสียงแผ่ว ขุนอินยังคงสับสนไม่รู้ว่าหล่อนรู้เรื่องชายผู้นี้ที่บาดเจ็บอยู่ในเรือนได้อย่างไร เขายังคงสับสนหลายๆ อย่างเพราะรู้จักขุนเเสนคำมานาน รวมถึงรู้จักบัวงามในฐานะเมียของเพื่อน เเต่ในตอนนี้หล่อนจับพลัดจับผลูมาเป็นเมียของผู้ที่เราทั้งสองเคารพรัก เเละดูเหมือนท่านจะไว้วางใจในตัวนางให้รู้เรื่องราวทุกอย่างเสียงด้วย ขุนอินเหลือบมองหล่อนเพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบก้มหน้ากลับลง “ถ้านี่มิใช่กระสุนอาคมเจาะเนื้อหนัง ก็ตอบได้ทันทีว่าไม่... หากแต่ตอนนี้กระผมตอบไม่ได้” พระยาสิงขรเม้มปากแน่น “กระสุนนี้เป็นกระสุนที่ข้าได้มาเพื่อกำจัดผู้มีอวิชาฟันเเทงมิเข้า” ขุนอินไม่ตอบอะไรเมื่อเขาอธิบาย ชายหนุ่มเพียงหยิบเอาใบยาฝานบางแช่น้ำสมุนไพรที่มีกลิ่นฉุนจากดีปลี ขมิ้นอ้อย และรากขันทองพยาบาท ค่อยๆ วางแนบบริเวณแผล แล้วปิดทับด้วยผ้าขาวสะอาด เขาหยิบแหนบเล็กจากปลอก มีปลายงอนคมเหมือนงาช้าง แล้วล้วงลึกลงไปในแผลที่เป็นรูโดนกระสุนฝังในร่างกายของมัน ร่างของไอ้เหล็กกระตุกเบาๆ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด รวมถึงนางสาวบีที่เเสดงสีหน้าเหยเกเพราะเป็นการรักษาสดๆ ต่อหน้าโดยที่ไร

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๖ เงาของความตาย และชายผู้เยียวยา (๒)

    ทั้งที่พ่อทำให้แม่ต้องตรอมใจถึงเพียงนั้น ยังจะกล้ามองเขาเป็นลูกที่น่าภูมิใจอีกหรือ? ตลกสิ้นดี เผยธาตุแท้ออกมาเถิด ให้เขาได้เห็น ให้ผู้คนทั้งพระนครได้เห็นว่าพ่อก็เป็นเพียงชายผู้มีจิตใจคับแคบ เห็นแก่ตัว มัวเมาในราคะและหลงเชื่อหญิงโง่เง่ามากกว่าคนในครอบครัว ดังที่เคยทำจนชื่อเสียงเสื่อมเสียไปทั้งเมือง พ่อไม่เคยนึกถึงเลยหรือ ว่าตระกูลเราต้องอับอายมากถึงเพียงไหน? เขาเกลียดนัก เกลียดความใจดีเเละเสแสร้งนั่น เกลียดแววตาภาคภูมิใจเวลาที่พ่อมองมาที่เขา ทั้งที่ไม่ต้องการ ใช่... เขาอยากเห็นสีหน้าแบบนี้แหละ หน้าตาเต็มไปด้วยความชิงชัง ริษยา รวมถึงพิษร้ายอย่างความหึงหวง สมแล้วกับหน้ากากของพระยาสิงขรผู้ยิ่งใหญ่ที่เบื้องหลังฟอนเฟะยิ่งกว่ากระไรดี ขอบคุณท่านจริงๆ เจ้าคุณพ่อ... ขอบคุณที่ในที่สุดก็เผยไส้ในให้ลูกได้เห็นเสียที ข้าจะได้ก้าวข้ามท่านโดยไร้ความลังเลอีกต่อไป หนึ่งวันผ่านไป ตกช่วงเย็นใกล้ฟ้ามืด ก็มีเสียงม้าดังเร่งฝีเท้าเข้ามาท่ามกลางความเงียบของเรือนใหญ่ของท่านพระยา บัวงามเปิดม่านเเพรอย่างตื่นเต้น เพราะทันทีที่ขุนเเสนคำส่งข้อความไปถึง ‘ขุนอินเวชะสรรพ์’ หรือหมอหลวงที่เป็นสหายเก่าของขุนเเสนคำ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status