Share

เมืองเย่วซาน 1

last update Last Updated: 2025-02-28 20:00:03

“ครั้งหน้ามาฝากไว้บ้านป้าก็ได้ จะได้อยู่เป็นเพื่อนหวังเปา” 

ฟางเหนียงยิ้มรับและกล่าวขอบคุณเสียงเบา

“ขอบคุณท่านป้าหวัง”

การเดินทางในวันนี้ มีป้าหวังกับป้าจางที่อยู่บ้านหลังถัดไปร่วมเดินทางด้วย ส่วนลุงหวังไม่ได้มาด้วย เพราะต้องไปถางหญ้าที่ไร่ให้นางพร้อมคนงานอีกสิบคน ซึ่งตอนเย็นนางจะกลับมาจ่ายค่าแรงให้ นางจ่ายเป็นรายวันจะได้กระตุ้นพวกเขาไปในตัวด้วย และไม่เกินหนึ่งสัปดาห์พื้นที่ก็น่าจะพร้อมเพาะปลูก นางคำนวณแล้วค่าจ้างเจ็ดวันประมาณสองพันหนึ่งร้อยอีแปะ หรือสองตำลึงเงินกับหนึ่งร้อยอีแปะ

 ฟางเหนียงเดินทางพร้อมสำรวจและจดจำเส้นทางเอาไว้ในใจ ใบหน้ามีเหงื่อและรู้สึกเหนื่อยมาก อาจเพราะร่างนี้ไม่เคยทำงานหนักและออกกำลังกายมาก่อน แต่ตลอดระยะทางนางไม่ได้ปริปากบ่นทำให้ป้าหวังกับป้าจางแปลกใจไม่น้อย ทั้งคู่มองนางอย่างเป็นห่วง เอ่ยถามเป็นระยะ จนทำให้นางยิ้มอย่างอ่อนใจ

“ใกล้ถึงแล้ว อดทนอีกนิดนะ” 

ป้าหวังเอ่ยบอกอีกครั้ง ฟางเหนียงได้แต่ยิ้มแหย่ เพราะนางบอกมาหลายรอบแล้ว แต่เพราะนางก็หวังดีนางจึงตอบรับความหวังดีอย่างเต็มใจ

“ข้าไม่เป็นไร เหลือเพียงแค่ห้าร้อยลี้เองเจ้าค่ะ” 

ฟางเหนียงเอ่ยบอกมองไปข้างหน้าที่เริ่มมองเห็นกำแพงเมืองบ้างแล้ว ที่นั่นด้วยสายตาของนาง ทำให้พอมองเห็นผู้คนเข้าแถวรอเข้าเมืองอย่างเป็นระเบียบ หมู่บ้านที่นางอยู่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลเท่านั้น แม้จะเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่นางไม่ลืมที่จะมองดูก้อนแป้งคู่นั้นที่อยู่ในมิติสวรรค์ไปด้วย 

ทั้งคู่กินผลผิงที่นางปลูกไว้นานมากแล้ว มีเพียงสองต้นเท่านั้น แต่กว่าจะได้มานางต้องต่อสู้กับงูยักษ์ที่ใหญ่กว่ารถไฟฟ้าเสียอีก แต่ดีที่ว่ามันเป็นเพียงสัตว์กลายพันธุ์ระดับสองเท่านั้น หากนางเจอราชาซอมบี้ตั้งแต่แรกคงมีชีวิตไม่ได้นานขนาดนั้น ราชาซอมบี้นั้นโหดเหี้ยมและว่องไว มันเร็วมาก จนกระทั่งนางเองก็ไม่ทันหนีเข้ามิติ!

ฟางเหนียงเลิกคิดเรื่องในอดีต ยกมือเช็ดเหงื่อบนหน้า นางหอบหายใจอย่างเหนื่อย ๆ ขณะที่เดินไปเข้าแถว นับว่าเมืองนี้ปกครองด้วยคุณธรรมไม่น้อย เพราะไม่ได้เสียค่าเข้าเมืองเหมือนกับนิยายที่นางอ่านเจอ

“อีกหนึ่งชั่วยามมาเจอกันที่ทางออกก็แล้วกัน” 

ป้าหวังหันมาบอก ฟางเหนียงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ สองชั่วโมงกับการซื้อของจำเป็นก็น่าจะทัน เพราะนางเองก็ไม่ใช่นัก   ช็อปอยู่แล้ว ยิ่งหลังวันสิ้นโลก มีแต่จะหาอะไรกินและเอาชีวิตให้รอดเท่านั้นแหละ

เมื่อทั้งคู่ออกไปซื้อข้าวของจำเป็นของตัวเอง ฟางเหนียงจึงเดินไปสำรวจในเมืองไปด้วย แม้จะบอกว่าในเมืองแต่ก็เป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ หากเทียบกับสมัยที่นางจากมา ก็น่าจะเรียกว่าอำเภอมากกว่า ด้วยประสบการณ์หลายปีทำให้นางมองสิ่งรอบกาย และจดจำได้อย่างรวดเร็ว นางเดินไปยังร้านขายผ้าก่อน

“ผ้าพวกนี้ขายอย่างไร” ฟางเหนียงหยิบผ้าที่ดูจะนิ่มกว่ากองอื่น ๆ

“แม่นางสายตาดีมากเลยขอรับ นี่เป็นผ้าเข้าใหม่วันนี้ เนื้อผ้านุ่มเหมาะสำหรับจะเข้าสารทฤดูพอดีเลย ราคาเพียงหลาละสองตำลึงเงินเท่านั้นขอรับ” 

ฟางเหนียงอึ้งไปกับราคาผ้า หนึ่งหลาก็เพียงแค่เก้าสิบเซนติเมตรเท่านั้นและนางเองต้องตัดชุดให้เด็ก ๆ หลายชุดด้วย 

“แล้วกองนี้ราคาเท่าไหร่หรือ”

“กองนี้อยู่ที่หนึ่งตำลึง ส่วนข้าง ๆ กันก็แปดร้อยอีแปะ แต่ถ้าแม่นางอยากได้ถูกกว่านี้จะอยู่ทางนี้ขอรับ ทางนี้หลาละสามร้อยอีแปะเท่านั้นขอรับ แต่จะมีราคาถูกกว่านี้จะเป็นผ้าบางเนื้อหยาบอยู่ที่หลาละสามสิบอีแปะขอรับ”

ฟางเหนียงเดินดูเนื้อผ้าตามที่แนะนำมา เนื้อผ้าดีจะราคาแพงมาก ตอนนี้นางมีเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินเท่านั้น และยังต้องเก็บไว้จ่ายค่าแรงคนงานอีกทั้งต้องเก็บไว้ฉุกเฉินตอนไม่สบายอีก แต่เมื่อนึกถึงฤดูหนาวที่จะมาถึงทำให้นางกัดฟันซื้อผ้าเนื้อดีเอาไว้เย็บเป็นส่วนในให้เด็ก ๆ และเอาราคากลางมาเย็บของตัวเองด้วย

 ส่วนราคาถูกนั้น เนื้อผ้าหยาบกระด้างเกินไป แค่จับก็ให้รู้สึกไม่สบายมือ แล้วแบบนี้จะให้นางสวมใส่ได้อย่างไร 

แม้นางจะไม่ใช่คนเรื่องมาก แต่ผ้าตรงหน้าก็เกินเยียวยาเกินไป แต่นั่นไม่ใช่สำหรับชาวบ้านธรรมดา เพราะนางก็เคยเห็นคนในหมู่บ้านสวมใส่ผ้าแบบนี้ไปไร่ไปนาเช่นกัน

“งั้นเอากองสามร้อยอีแปะสิบหลาและผ้าสองตำลึงสามหลา”

“ได้ขอรับ แม่นางรับอะไรเพิ่มหรือไม่ขอรับ” 

คนขายกระตือรือร้นเอ่ยถาม ฟางเหนียงมองสำรวจก่อนจะเอ่ยถามเสื้อผ้าสำเร็จ เพราะนางตัดเย็บต้องใช้เวลาหลายวัน 

“พอมีเสื้อผ้าสำเร็จของเด็กขายด้วยหรือไม่”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ภูษณิศา ศิริวุฒิ
น่าสนุก น่าอ่าน อยากรู้แม่ลูกจะทำยังงัยต่อ ไอ้พ่อไปไหนนะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   คลื่นใต้น้ำ 2

    "ไปไหน""สถานที่ล่าสัตว์วันนั้น"ถ้าเป็นเรื่องนี้ละก็นางไม่ปฏิเสธแน่อยู่แล้ว"เอาสิ"การล่าสัตว์ขององค์ชายรองกับองค์ชายรัชทายาทนั้นเกิดขึ้นระหว่างเสด็จเยี่ยมราษฎร ระหว่างรับเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้าน วันหนึ่งพวกเขาก็ชวนกันไปล่าสัตว์ฆ่าเวลาป่านนี้อยู่ระหว่างเมืองหลวงกับเมืองเหวินทางตะวันออก ป่าหนาทึบเป็นอันดับสองจากป่ารอบเมืองทั้งหมดหลี่เจิ้นหัวออกมากับนางสองคน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ใช้รถม้าหรือพาหนะใดเพราะไม่อยากสะดุดตา แม้จะมีคนเชื่อว่าเป็นฝีมือองค์ชายรองแต่พระองค์ยืนกรานว่าไม่รู้เรื่อง หากอยากให้คนร้ายดิ้นไม่หลุดก็ต้องหาหลักฐานมาให้ได้"เจ้าคิดไว้ในใจแล้วหรือยัง!""เรื่องอะไร!" เขาตะโกนถามกลับ การวิ่งฝ่าสายลมทำให้พวกเขาไม่ค่อยได้ยินเสียงกันและกัน"จะสืบอย่างไร…" พูดได้ไม่ถึงครึ่งประโยคฉินหลิวซีก็ส่ายหน้า ทำมือเป็นสัญญาได้ไปคุยกันหลังถึงที่หมาย คุยกันตอนนี้ให้ตายอย่างไรก็ไม่รู้เรื่องเดินทางกันอยู่นานในที่สุดก็ถึงป่าระหว่างสองเมืองเสียที พวกเขาตามร่องรอยมาถึงจุดเกิดเหตุ ทั้งรอยเท้าและของตกหายไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ก

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   คลื่นใต้น้ำ 1

    โจวเมิ่งอิ๋งคร่ำครวญถึงความน่าสงสารราวโชคชะตากลั่นแกล้งของบุตรสาว ไม่มีแก่ใจมารับรองแขกด้วยตัวเองด้วยซ้ำ ดีที่มีอนุคนสนิทอยู่ข้างกายคอยปลอบใจฟังจากน้ำเสียงคงทุกข์ใจเหลือประมาณ หลี่เจิ้นหัวรู้เรื่องที่ตัวเองสามารถทำได้แล้ว"ทีนี้ข้าจะลงมืออย่างไรดีนะ…"บรรยากาศในห้องค่อนข้างอับชื้น พี่หญิงต้อนรับนางเป็นอย่างดีแม้จะหน้าซีดเซียวกว่าปกติก็ตาม"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ พี่หญิงดูผอมลงไปหรือไม่ กินข้าวไม่อร่อยอย่างนั้นหรือ""อยากที่เจ้าเห็น ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์ดังนั้นเลยเชื่อว่าอีกไม่นานคงดีขึ้น"แต่ดูเหมือนความเชื่อของนางจะทรยศนางทีละนิด แต่ละวันที่ผ่านไปขื่นขมนักสีหน้าของหลี่เมิ่งเหยาอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอน ถึงจะบอกว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างไร แต่สถานการณ์แบบนี้คงยิ้มไม่ออก"เรื่องนี้จัดการไม่ได้ง่าย ๆ แต่หากต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรพี่หญิงอย่าได้เกรงใจนะเจ้าคะ""ฉินหลิวซี ถ้าซาบซึ้งน้ำใจเจ้าจริง ๆ" หลี่เมิ่งเหยาน้ำตารื้น พอรู้ว่านางอาจต้องโทษเหล่ามิตรสหายก็พากันหนีหน้า ส่วนหนึ่งก็คงเพราะคำสั่งของบิดามารดามิให้มาข้อง

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   เป็นที่จับตามอง 2

    เหตุการณ์นี้ทั้งสองนัดแนะกันเองโดยไม่ได้บอกผู้ติดตามพวกเขาจึงไม่ได้ถูกลงโทษที่ละเลยหน้าที่ และโชคดีที่แม่ทัพหลี่ซึ่งเดินทางไปด้วยมาช่วยไว้ทันด้วยเหตุนี้จึงบังเกิดความสงสัยขึ้นในหมู่ชาวเมือง ว่าเป็นฉากที่ถูกจัดไว้หรือเปล่า"เพราะอย่างนี้จึงไม่มีใครสนใจเจ้าของร้านเครื่องประทินโฉมแล้วสินะ…"เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่กว่าเห็น ๆ ก็ดี เพราะข้าก็ไม่ได้อยากเป็นจุดสนใจมากนักในตอนนี้ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสกุลหลี่ ยังวางใจไม่ได้"ต้องไปหาเจิ้นหัวหน่อยแล้ว"ฉินหลิวซีไปที่หอกระจายข่าวแล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้นกว่าปกติ นางรู้แล้วว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น แต่ไม่นึกว่าจะส่งผลกระทบถึงสกุลหลี่มากกว่าที่คิด"เพราะพี่หญิงเป็นพระคู่หมั้นขององค์ชายรัชทายาทอย่างนั้นหรือ…?"หรือจะไม่ใช่กันนะคุยกับตัวเองยังไม่จบก็พบว่ายืนอยู่หน้าห้องทำงานของหลี่เจิ้นหัวเสียแล้ว นางเคาะประตูสองครั้งอีกฝั่งก็เอ่ยอนุญาต"หลิวซี~" พอเห็นหน้านางอีกคนก็โอดครวญเสียงอ่อนอย่างน่าสงสาร ท่ามกลางม้วนกระดาษสู่ท่วมหัว"ดูเหมือนเจ้าจะมี

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   เป็นที่จับตามอง 1

    ร้านที่ไม่มีใครรู้ที่มาแน่ชัด รู้แต่ว่าสกุลหลี่เป็นผู้จัดจำหน่ายให้เสมือนคนกลางหลี่ซีเหยาเหยียดยิ้มนึกอยากขัน สินค้านี้มีอยู่ในร้านของบ้านอยู่แล้ว นางเป็นผู้เอามาให้เช่นนี้ช่างน่าขายหน้าจริง ๆ ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยหากสังเกตและไตร่ตรองดูสักนิดจะรู้ว่าบรรจุภัณฑ์นี้ไม่ได้วางขายในปัจจุบัน มันเป็นตลับแบบใหม่ที่ยังไม่ได้วางหน้าร้านที่ไหน"นี่เป็น…สินค้าจากร้านของข้าเอง เป็นกระปุกชาดและตลับแป้งลายใหม่ที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายที่ไหน ข้ามอบมันให้พี่หญิงเป็นคนแรก"ทันทีที่ฉินหลิวซีพูดจบเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย"เป็นไปไม่ได้ สามัญชนชั้นต่ำอย่างเจ้าจะเป็นเจ้าของสิ่งนี้ได้อย่างไร อย่ามาแอบอ้างนะ เจ้าต้องไปแอบซื้อที่ไหนมาแน่ ๆ แล้วไปแอบเปลี่ยนตลับทีหลังใช่ไหมล่ะ" หลี่ซีเหยาอย่างไม่ยอม นางเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนมารดาที่เป็นอนุสั่งให้สาวใช้มาพาตัวออกไปเพราะเริ่มจะทำขายหน้า อีกทั้งแม่ทัพยังมองนางด้วยแววตากรุ่นโกรธอีกด้วย หากไม่รีบจัดการนางก็จะโดนลงโทษหลังจบงานนี้แน่สถานการณ์สงบลงแต่เรื่องของฉินหลิวซียังเป็นที่พูดถึงตัวตนของเจ้าขอ

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   งานวันเกิดพี่หญิงใหญ่ 2

    "บุตรสาวคนเล็กของข้าอยู่ในวัยไล่เลี่ยกับคุณชายหลี่ เรียนรู้งานฝีมือตั้งแต่ยังเล็กจนชำนาญ พิณ หมาก อักษร ล้วนเป็นเลิศ…"เซียนโอสถน้อยรู้สึกกระดากใจเกินจะฟังจึงเดินหนีออกมา รู้หรอกว่าหลี่เจิ้นหัวคงไม่เอาด้วยแต่นางก็ไม่ชอบใจอยู่ดีถึงจะไม่พอใจแต่ถ้านางโวยวายหรืออาละวาดขึ้นมาเพราะเรื่องนี้ รังแต่จะสร้างความไม่พอใจให้ฮูหยินท่านที่มีต่อนางเพิ่มมากขึ้นฉินหลิวซีกลับมานั่งที่โต๊ะ น้าหญิงกับน้าเขยทำตัวไม่ถูกกับงานเช่นนี้จึงเลือกโต๊ะที่ไม่ค่อยโดดเด่น นางเข้าใจว่าทั้งสองคงอึดอัดจึงไม่ห้าม แต่ว่านางร่วมโต๊ะด้วยไม่ได้ ในบัตรเชิญบอกไว้ว่าให้นางนั่งร่วมโต๊ะกับเจ้าของงานโคมไฟแดงประดับต้นไม้สว่างวาบขึ้นจากเดิมพร้อม ๆ กัน ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองหน้าเรือนรับรองที่มีทางเดินหินอ่อนทอดยาวออกมาถึงสวน ฉินหลิวซีเห็นหลี่เมิ่งเหยาออกมาแล้วจึงขอตัวท่านหญิงหลี่ออกมาพร้อมกับสหายท่านหญิงคนอื่น ๆ ฉินหลิวซีรู้สึกคุ้นหน้าพวกนางเกือบทุกคนเพราะเคยเจอกันมาก่อนแล้ว นางรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ถ้าได้ร่วมโต๊ะกับคนที่คุ้นเคยกันมันดีต่อความรู้สึกนางมากกว่าที่ต้องร่วมโต๊ะกับคนแ

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   งานวันเกิดพี่หญิงใหญ่ 1

    "จริงสิ พี่หญิงเชิญเจ้าไปงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของนาง เจ้าพอจะมีเวลาหรือไม่""งานวันคล้ายวันเกิดของพี่หญิงหรือ ต่อให้ข้าไม่ว่างก็จะไปแน่"ฉินหลิวซีได้รับความช่วยเหลือจากพี่หญิงของหลี่เจิ้นหัวมาไม่น้อย แค่ไปร่วมงานแค่นี้ทำไมนางจะทำไม่ได้แล้ว"ถ้าพี่หญิงได้ยินคงดีใจ""งานเริ่มวันไหน""วันมะรืนปลายยามโหย่ว นี่บัตรเชิญของเจ้า น้าหญิงกับน้าเขยเจ้าสามารถมาเข้าร่วมในฐานะผู้ติดตามได้""นางคงตื่นเต้น"ฉินหลิวซีคิดภาพออกเลยว่าชิวหลานจะพูดอะไรหรือแสดงท่าทีประมาณไหนหลังจากได้ยินเรื่องนี้ น้าหญิงของนางร่าเริงมากตั้งแต่มาเมืองหลวง คุ้มค่าแล้วที่พาทั้งคู่มาเปิดหูเปิดตาฉินหลิวซีตั้งใจสร้างชื่อเสียงและตัวตนของตนเอาไว้ที่นี่ ในอนาคตไม่รู้ว่าลูกหลานสกุลชิวกับท่านพ่อท่านแม่จะย้ายมาที่เมืองหลวงหรือไม่ แต่หากพวกเขามาสิ่งที่นางสร้างไว้จะต้องเป็นประโยชน์แน่"ข้าเองก็ตั้งตารอวันนั้น"หลี่เจิ้นหัวมองนาง สายตาแสดงความรู้สึกอย่างไม่ปิดบัง หญิงสาวไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเฝ้ารออะไร แต่แววตาของเขานั้นทำให้นางอยากสร้างความประทับใจที่จะได้พบกันยามค่ำคืนให้พิเศษขึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status