Share

บทนำ 2/2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-05 13:30:34

"จะรู้ได้อย่างไรเจ้าไม่ต้องสนใจไปหรอก รีบบอกที่ซ่อนของโสมพันปีมาซะทีเถิด! แล้วเจ้าก็ดื่มยาพิษนี่เพื่อชดเชยความผิดที่สวมหมวกเขียวให้กับข้า"

สามีของนางก้าวขึ้นมาบีบปลายคางจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บปวด ใบหน้างามพลันบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน แต่นี่เทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดทางใจ นี่สินะคือสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุด!

โสมพันปีและชีวิตของนาง!!

"ถุย! ข้าไม่มีวันบอกคนชั่วช้าเช่นพวกเจ้าหรอก ต่อให้ข้าตายข้าก็จะไม่ยอมบอกที่ซ่อนของโสมพันปีเป็นอันขาด!!"

มู่เสี่ยวชิงพ่นน้ำลายใส่ใบหน้าของสามี ตอนนี้ความรู้สึกของนางมันได้แตกสลายไปหมดแล้ว ความรักความเชื่อใจที่นางมีให้ต่อสามีได้มลายหายไปสิ้นจนไม่เหลือชิ้นดี

"ถ้าเจ้าไม่พูด ตระกูลของเจ้าก็จะถูกท่านอ๋องป้ายความผิดจนถูกตัดสินโทษประหารอยู่ดี เจ้าเลือกเอานะว่าจะตายไปแต่เพียงผู้เดียว หรือจะให้คนทั้งตระกูลมาแบกรับความผิดของเจ้าไปด้วย"

"ท่านอ๋อง? หมายความว่าอย่างไร เหตุใดท่านอ๋องถึงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย"

"เพราะเรื่องทุกอย่างล้วนเป็นแผนการของท่านอ๋อง โสมพันปีนี้จะเป็นบันไดไปสู่อำนาจของท่านอ๋องอย่างไรเล่า เจ้าควรรู้นะว่าจะต้องทำอย่างไร มิเช่นนั้นจะไม่ใช่แค่เจ้าที่จะต้องตาย แต่ยังเป็นทุกคนในตระกูลของเจ้าด้วย"

"สารเลว! ชั่วช้ายิ่งนัก!!"

มู่เสี่ยวชิงด่าทอออกมาด้วยความแค้นใจ เป็นนางที่โง่เขลาไปจริง ๆ เสียด้วย นางน่าจะเชื่อคำเตือนของพี่ชายท่านนั้น แต่เมื่อรู้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว

"บอกมาเดี๋ยวนี้ ข้าไม่อยากจะมาสาวความยาวกับเจ้าแล้ว"

สามีตะคอกใส่มู่เสี่ยวชิงอย่างไร้เยื่อใย ท่านอ๋องทรงต้องการโสมพันปีจนมากดดันกับเขาแล้ว หากยังชักช้าเกรงว่าจะเป็นตระกูลเฉิงของเขาที่จะต้องรับโทสะจากท่านอ๋องเอง

"หากข้าบอก ท่านจะละเว้นครอบครัวของข้าใช่หรือไม่"

"ใช่! ข้าสัญญา"

มู่เสี่ยวชิงสะกดกลั้นความเจ็บใจเอาไว้ นางรู้ดีว่าตอนนี้นางไม่สามารถเลือกทางอื่นได้แล้ว หากอยากให้ตระกูลมู่รอดก็มีแต่ทางนี้เท่านั้น หวังเพียงว่าสามีที่นางร่วมผูกผมจะรักษาคำพูดของตน

"ทะเลสาบชิงชาง ใต้ต้นดอกท้อ... ข้าฝังเอาไว้ที่นั่น!"

"ดีมาก เช่นนั้นเจ้าก็ดื่มยาพิษแล้วเขียนหนังสือลาตายซะ บอกว่าตัวเองเสียใจที่รักษาลูกไม่ได้จึงขอตายตามลูกไป นี่ข้าถือว่าไว้หน้าเจ้ามากเลยนะ"

มู่เสี่ยวชิงมองหน้าสามีด้วยสายตาที่เจ็บปวดเจียนตาย มองไปทางสหายที่ยืนยิ้มหวานด้วยความรู้สึกโกรธแค้น และมองไปทางพ่อสามีกับแม่สามีที่ยืนกอดอกมองดูนางราวกับเป็นเพียงคนไร้ค่าด้วยความรู้สึกสมเพชในตัวเอง มืออันสั่นเทาเขียนจดหมายลาตายเพียงประโยคสั้น ๆ

'ข้า... มู่เสี่ยวชิง ช่างไร้ความสามารถ ไม่สามารถปกป้องดูแลบุตรในครรภ์ได้ และข้าได้สูญเสียของ 'ล้ำค่า' ไปแล้ว ฉะนั้นข้าขอเอาชีวิตของตัวเองเป็นการเซ่นสังเวยให้กับดวงวิญญาณที่ข้าได้ทำผิดพลาดไปเพราะความโง่เขลาของตัวเอง ลาก่อน... ท่านพ่อ อาหราน ลูกนี้ผิดต่อท่าน!'

มู่เสี่ยวชิงนำจดหมายโยนใส่หน้าของสามี แล้วรับถ้วยยาพิษมาดื่มจนหมด จากนั้นร่างกายของนางก็ร้อนผ่าวเพราะถูกยาพิษกัดกร่อนอวัยวะภายในจนแหลกลาญ เพียงไม่ถึงครึ่งเค่อนางก็สิ้นลมไปทั้งอย่างนั้น ดวงตาทั้งสองข้างจับจ้องทุกคนที่อยู่ตรงนี้ด้วยความโกรธแค้น... แค้นในความโง่เขลาของตน และแค้นที่เชื่อใจคนผิด

นางขอสาบาน! แม้นางตาย นางก็จะทำให้ทุกคนที่ทำชั่วกับนางต้องรับกรรมไปด้วยเช่นกัน!!

"จบสิ้นกันเสียทีนะเจ้าคะ ต่อไปข้าก็จะได้แต่งเข้ามาเป็นฮูหยินเอกของท่านพี่ได้เสียที"

"ใช่แล้ว... ที่เหลือก็แค่ไปนำโสมพันปีมอบให้กับท่านอ๋อง"

"แล้วที่ท่านพี่สัญญาว่าจะปล่อยคนตระกูลมู่เล่าเจ้าคะ มิใช่ว่าท่านอ๋องต้องการกำจัดแม่ทัพมู่ที่ซื่อสัตย์เกินไปด้วยมิใช่หรือ"

"ข้าบอกว่าจะปล่อย แต่ก็ใช่ว่าท่านอ๋องจะปล่อยไปนี่น่า"

"ท่านพี่ช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก ฮ่าฮ่าฮ่า"

ทั้งสองหัวเราะให้แก่กันอย่างมีความสุข โดยมีบิดามารดาของเขามาร่วมยินดีกับเรื่องนี้ด้วย ต่อไปนี้ตระกูลเฉิงของพวกเขาก็จะมีแต่เจริญรุ่งเรืองสืบไป!!

การตายของมู่เสี่ยวชิงกลายเป็นการจุดชนวนความแค้นของคนผู้หนึ่งและคนตระกูลมู่ หลังจากได้รับจดหมายบิดาของมู่เสี่ยวชิงอ่านเพียงครั้งเดียวก็รับรู้ถึงความนัยที่ซ่อนอยู่ ที่บุตรสาวของเขาดื่มยาพิษเพื่อฆ่าตัวตายเพราะเสียใจเรื่องลูกนั้นไม่จริงเลย แท้จริงแล้วนางถูกคนตระกูลเฉิงบีบคั้นต่างหากเล่า เรื่องโสมพันปีที่ตระกูลเขาได้ครอบครองได้ถูกคนพวกนั้นล่วงรู้เสียแล้ว ฉะนั้นเพื่อไม่ให้การตายของบุตรสาวต้องสูญเปล่า คนตระกูลมู่จึงได้ชิงนำโสมพันปีที่เก็บไว้ในห้องลับของจวนไปมอบให้กับคนผู้หนึ่ง

หลังจากนั้นการตายของมู่เสี่ยวชิงก็ได้รับการสอบสวน พวกเขาได้คืนความยุติธรรมให้แก่นางพร้อมกับนำร่างของนางมาฝังยังสุสานตระกูลมู่

คนตระกูลเฉิงรวมถึงสหายของนางที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ถูกลงโทษสถานหนัก นี่คือผลจากความโลภของพวกเขาทั้งสิ้น!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 3 งานเลี้ยงตระกูลมู่ 2/2

    งานเลี้ยงจวนตระกูลมู่หลังจากที่ตระกูลมู่เดินทางมายังเมืองหลวงได้เกือบ 1 เดือน มู่อู๋ซวนก็ได้จัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองให้กับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ประจำเมืองหลวงที่เขาได้รับแต่งตั้งจากฝ่าบาท งานเลี้ยงในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ทว่ายังคงให้ความหรูหราในเรื่องของอาหาร น้ำชา และสุราที่เอามารับรองแขก ทุกอย่างล้วนเป็นของชั้นเลิศทั้งสิ้น สิ่งนี้เองที่ทำให้ชนชั้นสูงในเมืองหลวงต้องมองตระกูลมู่ในสายตาที่เปลี่ยนไป"คารวะท่านแม่ทัพใหญ่มู่ ยินดีด้วยนะขอรับ"รองเสนาบดีกรมคลังนำของขวัญมามอบให้กับมู่อู๋ซวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สายตาที่มากเล่ห์เลยมองไปทางด้านหลังยังตำแหน่งของมู่เสี่ยวชิง เขาเห็นว่าอายุของนางใกล้เคียงกับบุตรชายของตน ภายในใจจึงกำลังดีดลูกคิดรางแก้วว่าควรจะเกี่ยวดองกับตระกูลมู่เลยดีหรือไม่"ขอบคุณ ๆ เชิญท่านรองเสนาบดีชุนด้านใน"มู่อู๋ซวนยิ้มรับทว่าหางคิ้วกับกระตุกไปมา เขาที่เห็นสายตามากเล่ห์ของอีกฝ่ายจะไม่รู้เลยหรือว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใด แม้เขาจะเอาแต่กรำศึกในสนามรบ แต่ใช่ว่าเรื่องการเมือง เรื่องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในราชสำนักเขาจะไม่รู้เรื่องเลย เพียงแต่เขายังตั้งตนอยู่ตรงกลาง ไม่ได้อยู่ฝ่ายใดทั้

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 3 งานเลี้ยงตระกูลมู่ 1/2

    บทที่ 3งานเลี้ยงตระกูลมู่ทันทีที่มู่เสี่ยวชิงกลับมาถึงเรือนหยกงาม นางก็ปิดประตูเรือนขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้ามาเป็นอันขาดแม้แต่ชงเหยาก็ยังต้องรออยู่ด้านนอก"ชงเหยา พี่ใหญ่เล่า" มู่ห่าวหรานเอ่ยถามสาวใช้ที่ยืนกระสับกระส่ายไปมาด้วยความสงสัย"คุณหนูอยู่ในเรือนเจ้าค่ะ บ่าวรู้สึกไม่ดีเลยเหมือนคุณหนูกำลังปิดบังอะไรอยู่เลย แววตาของคุณหนูก็น่ากลัวมากเจ้าค่ะ" "เช่นนั้นเจ้าก็ไปทำอย่างอื่นก่อนเถิด""เจ้าค่ะ"คล้อยหลังที่ชงเหยาเดินจากไปแล้ว มู่ห่าวหรานมองไปยังประตูที่ยังปิดสนิทด้วยความกังวลใจ เพียงไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงร่ำไห้ที่ดังเล็ดลอดออกมา แม้จะเบาบางแต่เพราะเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์จึงได้ยินอย่างชัดเจน "พี่ใหญ่... เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับท่านกันแน่ เหตุใดในแววตาของท่านถึงได้มีความเศร้าหมองแฝงเอาไว้อยู่ตลอดเวลา" มู่ห่าวหรานเอ่ยกับตัวเอง แล้วจึงเดินล่าถอยออกไปอีกคน เขาคิดมานานแล้วว่าตั้งแต่มาถึงเมืองหลวงพี่สาวของเขาก็เปลี่ยนไป ทุกคนต่างสังเกตได้โดยเฉพาะท่านพ่อที่ถึงกับเรียกเขาไปพบในห้องส่วนตัว"แววตาของเสี่ยวชิงและอุปนิสัยที่ร่าเริงอ่อนโยนของนางเปลี่ยนไปราวกับมีเรื่องอะไรในใจ เจ้าที

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 2 แม่ทัพใหญ่ผู้กระหายเลือด 2/2

    "ทะ ท่านแม่ทัพ ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ โปรดไว้ชีวิตของข้าด้วย ฮือ ๆ ข้ายอมท่านทุกอย่างเลย ขอเพียงปล่อยน้องชายที่อายุแค่ 5 หนาวของข้าไปก็พอเจ้าค่ะ" นางเอ่ยต่อรองด้วยสีหน้าที่ชวนให้ผู้คนรู้สึกสงสารจับใจ"เจ้าไม่ต้องคิดมาใช้แผนหญิงงามกับข้า ตัวเจ้าหาได้งดงามจนข้ารู้สึกพิศวาสไม่ เอาตัวนางไปขังคุก!!""ทะ ท่านแม่ทัพ..."สตรีผู้นั้นผงะไปด้วยความตกตะลึง นางงามไม่พอหรือ... เหตุใดเขาถึงไม่แม้แต่จะชายตาแลนางเลยสักนิด หรือว่าเขามีสตรีในดวงใจเสียแล้ว?ซานเย่ที่รู้ดีว่าท่านแม่ทัพกำลังจะเกิดโทสะ เขาจึงรีบลากตัวสตรีผู้นั้นออกไปทันที นางทำได้แต่มองแม่ทัพใหญ่ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาด้วยความเสียดายและเสียใจ การเป็นอนุของเขาย่อมดีกว่าการต้องเป็นเชลยที่มิอาจจะรู้ได้ว่าชีวิตของนางจะไปยังจุดไหน อาจจะต้องตกต่ำอย่างถึงขีดสุด จนแม้แต่ตัวนางเองอยากตายก็เป็นได้...คล้อยหลังที่สตรีนางนั้นจากไปแล้ว ท่านแม่ทัพใหญ่จึงได้ถอดชุดเกราะอันหนักอึ้งของตนออกไป ใบหน้าที่เคยสุขุมเย็นชาพลันยกยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปอย่างช้า ๆ'รอข้าก่อน... แล้วข้าจะรีบกลับไปหาเจ้า เสี่ยวชิงของพี่...'คิ้วกระบี่ที่รับกับดวงตาคมกริบดั่งใบมีดหลับ

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 2 แม่ทัพใหญ่ผู้กระหายเลือด 1/2

    บทที่ 2แม่ทัพใหญ่ผู้กระหายเลือดครอบครัวตระกูลมู่ได้เข้าไปสำรวจในเรือนหลังใหม่ด้วยความตื่นเต้น มู่อู๋ซวนพักยังเรือนหลักอันเป็นเรือนของท่านประมุขตระกูล ส่วนมู่ห่าวหรานนั้นได้พักยังเรือนฝั่งขวาข้างเรือนหลักของบิดา ทว่ามู่เสี่ยวชิงที่ควรจะพักเรือนฝั่งซ้ายกลับขอไปพักยังเรือนที่อยู่เกือบหลังจวน เนื่องจากนางไม่ต้องการจะเดินซ้ำรอยกับอดีตของตน นางจึงคิดจะเริ่มใหม่ตั้งแต่การเลือกเรือนพักของตน ซึ่งเรือนนี้ถือว่าใหญ่โตโอ่อ่ามิต่างกัน ทั้งยังมีแมกไม้ล้อมรอบเรือนที่ให้ความร่มรื่นเป็นอย่างมาก ถือว่าสงบเป็นอย่างยิ่ง"เสี่ยวชิง เจ้าแน่ใจหรือที่จะพักเรือนหลังนั้น" มู่อู๋ซวนเอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง "เจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกชอบเรือนหลังนั้นมาก ทั้งสงบและร่มรื่นเป็นที่สุดเลยเจ้าค่ะ" มู่เสี่ยวชิงเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"แต่พ่อคิดว่ามันไกลจากเรือนหลักมากไปนะ ให้พ่อจ้างช่างมาต่อเติมเรือนฝั่งซ้ายดีหรือไม่""หรือพี่ใหญ่จะเอาเรือนของข้าก็ได้นะขอรับ" มู่ห่าวหรานเอ่ยขึ้นมาบ้าง"ข้าพอใจเรือนหลังนี้เจ้าค่ะ และข้าก็ตั้งชื่อเรือนว่าเรือนหยกงามแล้วเจ้าค่ะ" มู่เสี่ยวชิงหันมาลูบศีรษะน้องชายด้วยความเอ็นดู "เรือนฝั่งขว

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 1 เกิดใหม่อีกหน 2/2

    'การเกิดใหม่หนนี้ของข้าจะไม่ยอมให้เสียเปล่าเป็นอันขาด ทุกคนที่ทำชั่วจะต้องได้รับผลกรรมนั้น และข้าขอสาบานต่อสวรรค์ว่าข้ามู่เสี่ยวชิงจะไม่ขอแต่งงานร่วมผูกผมกับเฉิงอี้เทาเป็นอันขาด แม้ตายก็ไม่ยอม!!'เปรี้ยง เปรี้ยง!"กรี๊ดดด! เหตุใดถึงมีฟ้าผ่าลงมาได้กันเจ้าคะ น่ากลัวยิ่งนัก" ชงเหยาหดคอหลบด้วยความหวาดกลัว ขนกายของนางขนลุกซู่ด้วยความขลาดกลัวทั้งที่ท้องฟ้าด้านนอกยังคงสว่างไสว ไม่มีแม้แต่เมฆฝนเลย ทว่ากับมีฟ้าผ่าลงมาเสียได้ ไม่รู้ว่ามีผู้ใดทำให้ฟ้าพิโรธหรือไม่"แค่ฟ้าผ่าไม่น่ากลัวเท่าใจคนหรอกชงเหยา" น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นจากร่างบอบบางของมู่เสี่ยวชิงนางหลับตาลงอีกครั้งเพื่อพักผ่อน ในเมื่อได้มีชีวิตใหม่เป็นครั้งที่สองแล้ว แน่นอนว่านางย่อมไม่ทำให้สวรรค์ต้องผิดหวังเป็นอันขาด!!ขบวนรถม้ากว่าห้าสิบคันของจวนตระกูลมู่ได้มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง สร้างความสนใจให้กับชาวเมืองหลวงเป็นอย่างมาก ด้วยขบวนรถม้าที่มีขนาดใหญ่ และทหารที่สวมชุดเกราะเหล็กที่ให้ความน่าเกรงขามนี้ มองอย่างไรขบวนรถม้านี่จะต้องเป็นคนใหญ่คนโตเป็นแน่แท้"รถม้าผู้ใดกันหรือพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง ใหญ่โตยิ่งนัก"'เฉิงอี้เทา' บุตรชายเพียงคนเดียวของ

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 1 เกิดใหม่อีกหน 1/2

    บทที่ 1เกิดใหม่อีกหนดวงวิญญาณของมู่เสี่ยวชิงล่องลอยอยู่ในอากาศโดยที่ไม่มีผู้ใดรับรู้ นางมองดูทุกอย่างที่เป็นไปพร้อมกับร้องไห้โฮออกมาด้วยความยินดียิ่ง ชีวิตนี้ของนางได้รับความยุติธรรมแล้ว ทั้งบิดาและน้องชายรวมถึงพี่ชายท่านนั้นได้ทวงแค้นกับนาง ฉะนั้นนางจึงสามารถจากไปโดยไร้ซึ่งความทุกข์ใจอีก "ขอบคุณเจ้าค่ะ ขอบคุณจริง ๆ เจ้าค่ะ" มู่เสี่ยวชิงร่ำไห้ออกมาอย่างมีความสุข ในตอนนั้นเองที่ดวงวิญญาณได้ถูกดูดออกไปจากภพนี้!"คุณหนูเจ้าคะ... ใกล้ถึงเมืองหลวงแล้วเจ้าค่ะ" น้ำเสียงดีใจที่ฟังดูคุ้นหูเรียกให้มู่เสี่ยวชิงลืมตาตื่นขึ้นมาจากนิทราอันแสนยาวนานของตน"เฮือก!"นางสะดุ้งเฮือกตกใจกับสิ่งรอบข้าง ดวงตาคู่สวยกวาดตามองโดยรอบอย่างพิจารณา และเพราะการกระทำนี้นี่เองที่ทำให้ 'ชงเหยา' สาวใช้ข้างกายมองดูคุณหนูของตนด้วยความฉงน"คุณหนูเป็นอะไรไปเจ้าคะ เหตุใดถึงเหงื่อแตกเช่นนี้"ชงเหยารีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่หน้าผากมนของเจ้านายสาวด้วยความกังวลใจ "ข้าไม่เป็นอะไร แต่ว่า... ที่นี่คือที่ใดงั้นหรือ""เข้าสู่เมืองหลวงแล้วเจ้าค่ะ เราใช้เวลาเดินทางจากเมืองเหลียงซานมาเมืองหลวงก็หนึ่งเดือนกว่าเลยเจ้าค่ะ คุณหนูค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status