Share

เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า
เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า
Author: กะปอมพ่นไฟ

บทนำ 1/2

last update Last Updated: 2025-09-05 13:30:25

บทนำ

ภายใต้ศาลาไม้ที่อยู่ใจกลางสวนของตระกูลเฉิง สายฝนได้ตกลงมาอย่างหนักหน่วง จนมีเม็ดฝนบางส่วนตกลงมากระทบกับใบหน้าอันงดงามของมู่เสี่ยวชิง หญิงสาวที่อยู่ในชุดสีขาวอันบริสุทธิ์ทว่ากลับมีเลือดสีแดงฉานเปรอะเปื้อนไปทั่วหว่างขา นางทรุดกายลงนั่งกับพื้นพร้อมเงยหน้ามองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีที่อยู่กินกันมากว่า 2 ปี ด้วยหัวใจอันเจ็บปวดร้าวราน กระบอกตาทั้งสองข้างร้อนผ่าวจากการร้องไห้อย่างหนักหน่วงด้วยความเสียใจอย่างถึงที่สุด

"อือ ๆ ท่านพี่... เหตุใดท่านถึงทำกับข้าและลูกเช่นนี้กัน เหตุใดท่านถึงไม่อยากให้เขาเกิดมาเล่า นี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านเลยนะ" นางตะโกนถามออกไปทั้งน้ำตา

"จะให้ข้าพูดอีกกี่ครั้งว่าเด็กในท้องของเจ้าไม่ใช่ลูกของข้า เจ้ามันนังแพศยาที่ลอบสวมหมวกเขียวให้กับข้า"

บุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีชี้หน้าใส่ผู้เป็นภรรยาด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด นางยังมีหน้ามาต่อว่าเขาได้อีกหรือ ทั้งที่ตัวนางเองหาใช่สตรีที่ดีไม่

"ท่านพูดอันใด นี่คือลูกของท่าน และข้าก็หาได้ทำเรื่องงามหน้าเช่นนั้นไม่ ข้าเป็นภรรยาของท่านมานานถึง 2 ปี ท่านยังมิเชื่อใจข้าอีกหรือไร" มู่เสี่ยวชิงมองผู้เป็นสามีด้วยความผิดหวัง

"หึ ๆ เจ้าไม่ต้องมาพูดจาโย้เย้ไปมา อย่างไรโทษของเจ้าก็คือความตาย ตระกูลเฉิงของข้าไม่ยอมให้สตรีเช่นเจ้ามาทำลายชื่อเสียงอันดีงามไปได้หรอก เจ้าควรจะขอบคุณในความเมตตาสุดท้ายของข้านะเสี่ยวชิง เจ้าตายไปเงียบ ๆ เพื่อรักษาเกียรติของตัวเองไม่ดีกว่าหรือ ข้าสัญญาว่าข้าจะจัดงานศพของเจ้าอย่างดีเลยล่ะ" เขาเอ่ยอย่างมีน้ำใจ ทว่าในน้ำเสียงนั้นกลับไม่มีความจริงใจเลยสักนิดเดียว

"อันใดคือเมตตา อันใดคือเกียรติ ท่านกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านมันไร้หัวใจสิ้นดี ข้าไม่น่าหลงผิดรักคนเช่นท่านได้เลย"

"ชิงเอ๋อร์... เจ้าคิดช้าไปหรือไม่ คิกคิก"

สตรีนางหนึ่งที่มู่เสี่ยวชิงคุ้นเคยก้าวขึ้นมาด้านหน้า บัดนั้นมู่เสี่ยวชิงจึงรู้ว่าภายในที่แห่งนี้ไม่ได้มีแค่นางกับเขา แต่ยังมีสหายสนิทและด้านหลังยังเป็นพ่อสามีและแม่สามีที่นางเคยให้ความเคารพจากใจจริงด้วย

"เจ้า! เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน" มู่เสี่ยวชิงผินหน้าไปมองสหายด้วยความไม่เข้าใจถึงการปรากฏกายของนาง

"เพราะข้าต้องการมาดูให้เห็นกับตาว่าท่านพี่ตัดขาดเจ้าอย่างไรเล่า ชิงเอ๋อร์... เห็นแก่ความเป็นสหายของเรา และข้าเองก็เคยช่วยเหลือเจ้ามานานหลายปี เจ้าก็ควรจะตอบแทนข้าบ้างสิ"

นางก้าวเข้ามาใกล้พร้อมกับถือถ้วยยาที่ผสมยาพิษมอบให้กับมู่เสี่ยวชิง ใบหน้างามแสยะยิ้มหวานอย่างโหดเหี้ยม

"จะ เจ้า... หมายจะพูดว่าอะไร"

"ข้ากับท่านพี่รักกันมานานแล้ว เจ้าที่เป็นฮูหยินเอกและยังทำเรื่องงามหน้าสมควรจะหลีกทางให้ข้าเสียที ฉะนั้นจงดื่มยาพิษนี่ซะเถอะ!!" สุ้มเสียงแว่วหวานทว่ากลับบาดลึกไปถึงใจคนฟังอย่างเจ็บปวด

"จะ เจ้าเป็นชู้กับสามีของข้าหรือ ทั้งที่เจ้าเป็นสหายสนิทของข้าแท้ ๆ เหตุใดเจ้าถึงได้ทำเรื่องเช่นนี้ได้กัน" จากความเสียใจแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นเมื่อรู้ว่าตนถูกแทงข้างหลัง

"จะพูดว่าชู้ก็ไม่ถูก เพราะข้านั้นมาก่อนเจ้าต่างหากเล่า นังโง่!"

นางหัวเราะขันกับความโง่เขลาของอีกฝ่าย ก่อนจะเดินไปเกาะแขนบุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของสหายอย่างหน้าชื่นตาบาน

"หึ ๆ ข้าเข้าใจแล้ว เป็นข้าเองที่โง่เขลาเบาปัญญาสินะ" มู่เสี่ยวชิงเงยหน้าร้องไห้อย่างเจ็บปวด

ตอนนี้นางกระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว... ความตายของนางคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ!

"เจ้าคิดถูกแล้วล่ะเสี่ยวชิง ส่วนเรื่องสินเดิมของเจ้าพวกเราจะดูแลให้เอง เจ้าอย่าได้เป็นห่วงไปเลย"

แม่สามีก้าวขึ้นมายืนยิ้มราวกับนี่คือสิ่งที่พวกนางควรทำ ทั้งที่ความจริงแล้วสินเดิมพวกนี้จะต้องส่งคืนให้กับตระกูลเดิมของนางหากนางต้องตายเมื่อไม่มีบุตรสาว

"ใช่แล้ว โสมพันปีที่เจ้าเก็บเอาไว้ พวกเราจะถวายแด่ฮ่องเต้แทนเจ้าเอง เมื่อเจ้าตายไปแล้วย่อมต้องได้รับความดีความชอบจากฮ่องเต้อย่างแน่นอน รีบบอกมาเถิดว่าเจ้าเอาโสมพันปีไปซ่อนไว้ที่ใดกันแน่" พ่อสามีเอ่ยขึ้นพลางแสยะยิ้มเหี้ยม

พวกเขาเบื่อที่จะต้องเล่นงิ้วนี้เต็มทีแล้ว เวลาที่ทอดมายาวนานกว่า 2 ปีสมควรจะสิ้นสุดลงเสียที เป้าหมายที่พวกเขาต้องการก็คือโสมพันปีอันเป็นสมบัติของมู่เสี่ยวชิง พวกเขาต้องการนำโสมพันปีไปถวายให้แด่ฮ่องเต้เพื่อรับความดีความชอบ ในเวลานี้ฮ่องเต้ถูกพิษจำต้องได้รับโสมพันปีเพื่อบำรุงพระวรกายอันล้ำค่า

"พวกท่าน! รู้เรื่องโสมพันปีของข้าได้อย่างไร"

ใบหน้าหวานซีดเผือดด้วยความตกใจ เรื่องโสมพันปีนี้นางไม่เคยกล่าวกับผู้ใดมาก่อน นี่ถือว่าเป็นความลับเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลของนาง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 4 เปิดใจกับสหายคนใหม่ 2/2

    โรงน้ำชาหลังจากพบกันในงานเลี้ยง มู่เสี่ยวชิงก็ได้เขียนจดหมายเชิญหวังลี่จูออกมาพูดคุยกันที่นอกจวน ด้วยในวันนี้จะเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นซึ่งนางต้องการมีหวังลี่จูผู้เก่งวรยุทธ์มาอยู่ข้างกายด้วย ตัวนางแม้ไม่เก่งวรยุทธ์แต่เรื่องการใช้ยาสมุนไพรนั้น นางสามารถพูดได้เลยว่าเก่งกาจไม่แพ้หมอหลวงในวัง"ขอโทษด้วยที่ให้เจ้าต้องรอนาน"หวังลี่จูเข้ามาในห้องรับรองส่วนตัวแล้วทรุดนั่งบนเก้าอี้ทันทีด้วยความเหน็ดเหนื่อย ในตอนขามานี้นางมีเรื่องนิดหน่อยกับสหายผู้นั้น"วันนี้เจ้าแต่งกายดีขึ้นมากเลยนะ"มู่เสี่ยวชิงเอ่ยชมด้วยความจริงใจ ครั้งนี้หวังลี่จูสวมอาภรณ์สีเหลืองอ่อนที่ปักลายดอกไห่ถัง บนมวยผมก็ปั่นปิ่นระย้าที่ทำจากหยก นางจึงดูน่ารักสมวัย งดงามราวกับสตรีแรกแย้ม"เพราะคำแนะนำของเจ้านั่นแหละ แต่ทำไมเจ้าถึงชอบสวมอาภรณ์สีแดงนักเล่า มันไม่ดูฉูดฉาดเกินไปหรือ เมื่อก่อนเจ้าชอบแต่งกายสีขาวกับสีกลีบบัวนี่น่า""ความชอบของข้าได้เปลี่ยนไปแล้วล่ะ" มู่เสี่ยวชิงยกน้ำชาขึ้นมาดื่ม นางเสเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่น "วันนี้ข้าจะไปซื้อเครื่องเขียนให้กับน้องชาย เจ้าช่วยแนะนำร้านให้ข้าได้หรือไม่""ย่อมได้ หากอยากได้เครื่องเขียนชั้นเลิ

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 4 เปิดใจกับสหายคนใหม่ 1/2

    บทที่ 4เปิดใจกับสหายคนใหม่"สหายเช่นนั้นทางที่ดีเลิกคบไปจะดีกว่า นางไม่ได้หวังดีกับเจ้าหรอกนะลี่จู" มู่เสี่ยวชิงเข้ามากระซิบใกล้ ๆ โดยที่ไม่ต้องการให้ผู้ใดได้ยิน "ลูกเพิ่งเจอลี่จู เช่นนั้นลูกขอพานางไปยังที่นั่งเลยนะเจ้าคะ" ประโยคหลังหันมาเอ่ยกับบิดาเสียงหวาน"ได้สิ ๆ ดีเลย พวกเจ้าทั้งสองก็พูดจากันดี ๆ หน่อยเล่า" มู่อู๋ซวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม หวังเจิ้งเทียนเองก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่พวกเขาจะเดินไปแยกคุยกันอีกทางหนึ่ง ส่วนสตรีทั้งสองก็เดินไปคุยไปเช่นกัน"ที่เจ้าพูดออกมาเมื่อครู่หมายความว่าอย่างไร" หวังลี่จูจับแขนของมู่เสี่ยวชิงเอาไว้แน่น นี่คือสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจของนาง นอกจากท่าทางที่ดูเปลี่ยนไปของมู่เสี่ยวชิงจะทำให้นางสงสัยแล้ว อีกฝ่ายยังพูดจาให้นางชวนสงสัยด้วย นางไปรู้อะไรมาเช่นนั้นหรือ"เพราะข้าเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับสหายหน้าเนื้อใจเสืออย่างไรเล่า การแต่งกายของเจ้าเช่นนี้ช่างชวนให้ผู้อื่นขบขันมากกว่าจะชื่นชม เจ้าดูสิว่ามีคุณหนูตระกูลใดแต่งกายเช่นเจ้าบ้างหรือไม่"หวังลี่จูชะงักไปกับคำพูดของมู่เสี่ยวชิง นางค่อย ๆ หันไปมองยังที่นั่งที่มีคุณหนูจากชนชั้นสูงนั่งอยู่อย่างพิจารณา เป็นจริ

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 3 งานเลี้ยงตระกูลมู่ 2/2

    งานเลี้ยงจวนตระกูลมู่หลังจากที่ตระกูลมู่เดินทางมายังเมืองหลวงได้เกือบ 1 เดือน มู่อู๋ซวนก็ได้จัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองให้กับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ประจำเมืองหลวงที่เขาได้รับแต่งตั้งจากฝ่าบาท งานเลี้ยงในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ทว่ายังคงให้ความหรูหราในเรื่องของอาหาร น้ำชา และสุราที่เอามารับรองแขก ทุกอย่างล้วนเป็นของชั้นเลิศทั้งสิ้น สิ่งนี้เองที่ทำให้ชนชั้นสูงในเมืองหลวงต้องมองตระกูลมู่ในสายตาที่เปลี่ยนไป"คารวะท่านแม่ทัพใหญ่มู่ ยินดีด้วยนะขอรับ"รองเสนาบดีกรมคลังนำของขวัญมามอบให้กับมู่อู๋ซวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สายตาที่มากเล่ห์เลยมองไปทางด้านหลังยังตำแหน่งของมู่เสี่ยวชิง เขาเห็นว่าอายุของนางใกล้เคียงกับบุตรชายของตน ภายในใจจึงกำลังดีดลูกคิดรางแก้วว่าควรจะเกี่ยวดองกับตระกูลมู่เลยดีหรือไม่"ขอบคุณ ๆ เชิญท่านรองเสนาบดีชุนด้านใน"มู่อู๋ซวนยิ้มรับทว่าหางคิ้วกับกระตุกไปมา เขาที่เห็นสายตามากเล่ห์ของอีกฝ่ายจะไม่รู้เลยหรือว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใด แม้เขาจะเอาแต่กรำศึกในสนามรบ แต่ใช่ว่าเรื่องการเมือง เรื่องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในราชสำนักเขาจะไม่รู้เรื่องเลย เพียงแต่เขายังตั้งตนอยู่ตรงกลาง ไม่ได้อยู่ฝ่ายใดทั้

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 3 งานเลี้ยงตระกูลมู่ 1/2

    บทที่ 3งานเลี้ยงตระกูลมู่ทันทีที่มู่เสี่ยวชิงกลับมาถึงเรือนหยกงาม นางก็ปิดประตูเรือนขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้ามาเป็นอันขาดแม้แต่ชงเหยาก็ยังต้องรออยู่ด้านนอก"ชงเหยา พี่ใหญ่เล่า" มู่ห่าวหรานเอ่ยถามสาวใช้ที่ยืนกระสับกระส่ายไปมาด้วยความสงสัย"คุณหนูอยู่ในเรือนเจ้าค่ะ บ่าวรู้สึกไม่ดีเลยเหมือนคุณหนูกำลังปิดบังอะไรอยู่เลย แววตาของคุณหนูก็น่ากลัวมากเจ้าค่ะ" "เช่นนั้นเจ้าก็ไปทำอย่างอื่นก่อนเถิด""เจ้าค่ะ"คล้อยหลังที่ชงเหยาเดินจากไปแล้ว มู่ห่าวหรานมองไปยังประตูที่ยังปิดสนิทด้วยความกังวลใจ เพียงไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงร่ำไห้ที่ดังเล็ดลอดออกมา แม้จะเบาบางแต่เพราะเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์จึงได้ยินอย่างชัดเจน "พี่ใหญ่... เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับท่านกันแน่ เหตุใดในแววตาของท่านถึงได้มีความเศร้าหมองแฝงเอาไว้อยู่ตลอดเวลา" มู่ห่าวหรานเอ่ยกับตัวเอง แล้วจึงเดินล่าถอยออกไปอีกคน เขาคิดมานานแล้วว่าตั้งแต่มาถึงเมืองหลวงพี่สาวของเขาก็เปลี่ยนไป ทุกคนต่างสังเกตได้โดยเฉพาะท่านพ่อที่ถึงกับเรียกเขาไปพบในห้องส่วนตัว"แววตาของเสี่ยวชิงและอุปนิสัยที่ร่าเริงอ่อนโยนของนางเปลี่ยนไปราวกับมีเรื่องอะไรในใจ เจ้าที

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 2 แม่ทัพใหญ่ผู้กระหายเลือด 2/2

    "ทะ ท่านแม่ทัพ ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ โปรดไว้ชีวิตของข้าด้วย ฮือ ๆ ข้ายอมท่านทุกอย่างเลย ขอเพียงปล่อยน้องชายที่อายุแค่ 5 หนาวของข้าไปก็พอเจ้าค่ะ" นางเอ่ยต่อรองด้วยสีหน้าที่ชวนให้ผู้คนรู้สึกสงสารจับใจ"เจ้าไม่ต้องคิดมาใช้แผนหญิงงามกับข้า ตัวเจ้าหาได้งดงามจนข้ารู้สึกพิศวาสไม่ เอาตัวนางไปขังคุก!!""ทะ ท่านแม่ทัพ..."สตรีผู้นั้นผงะไปด้วยความตกตะลึง นางงามไม่พอหรือ... เหตุใดเขาถึงไม่แม้แต่จะชายตาแลนางเลยสักนิด หรือว่าเขามีสตรีในดวงใจเสียแล้ว?ซานเย่ที่รู้ดีว่าท่านแม่ทัพกำลังจะเกิดโทสะ เขาจึงรีบลากตัวสตรีผู้นั้นออกไปทันที นางทำได้แต่มองแม่ทัพใหญ่ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาด้วยความเสียดายและเสียใจ การเป็นอนุของเขาย่อมดีกว่าการต้องเป็นเชลยที่มิอาจจะรู้ได้ว่าชีวิตของนางจะไปยังจุดไหน อาจจะต้องตกต่ำอย่างถึงขีดสุด จนแม้แต่ตัวนางเองอยากตายก็เป็นได้...คล้อยหลังที่สตรีนางนั้นจากไปแล้ว ท่านแม่ทัพใหญ่จึงได้ถอดชุดเกราะอันหนักอึ้งของตนออกไป ใบหน้าที่เคยสุขุมเย็นชาพลันยกยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปอย่างช้า ๆ'รอข้าก่อน... แล้วข้าจะรีบกลับไปหาเจ้า เสี่ยวชิงของพี่...'คิ้วกระบี่ที่รับกับดวงตาคมกริบดั่งใบมีดหลับ

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 2 แม่ทัพใหญ่ผู้กระหายเลือด 1/2

    บทที่ 2แม่ทัพใหญ่ผู้กระหายเลือดครอบครัวตระกูลมู่ได้เข้าไปสำรวจในเรือนหลังใหม่ด้วยความตื่นเต้น มู่อู๋ซวนพักยังเรือนหลักอันเป็นเรือนของท่านประมุขตระกูล ส่วนมู่ห่าวหรานนั้นได้พักยังเรือนฝั่งขวาข้างเรือนหลักของบิดา ทว่ามู่เสี่ยวชิงที่ควรจะพักเรือนฝั่งซ้ายกลับขอไปพักยังเรือนที่อยู่เกือบหลังจวน เนื่องจากนางไม่ต้องการจะเดินซ้ำรอยกับอดีตของตน นางจึงคิดจะเริ่มใหม่ตั้งแต่การเลือกเรือนพักของตน ซึ่งเรือนนี้ถือว่าใหญ่โตโอ่อ่ามิต่างกัน ทั้งยังมีแมกไม้ล้อมรอบเรือนที่ให้ความร่มรื่นเป็นอย่างมาก ถือว่าสงบเป็นอย่างยิ่ง"เสี่ยวชิง เจ้าแน่ใจหรือที่จะพักเรือนหลังนั้น" มู่อู๋ซวนเอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง "เจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกชอบเรือนหลังนั้นมาก ทั้งสงบและร่มรื่นเป็นที่สุดเลยเจ้าค่ะ" มู่เสี่ยวชิงเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"แต่พ่อคิดว่ามันไกลจากเรือนหลักมากไปนะ ให้พ่อจ้างช่างมาต่อเติมเรือนฝั่งซ้ายดีหรือไม่""หรือพี่ใหญ่จะเอาเรือนของข้าก็ได้นะขอรับ" มู่ห่าวหรานเอ่ยขึ้นมาบ้าง"ข้าพอใจเรือนหลังนี้เจ้าค่ะ และข้าก็ตั้งชื่อเรือนว่าเรือนหยกงามแล้วเจ้าค่ะ" มู่เสี่ยวชิงหันมาลูบศีรษะน้องชายด้วยความเอ็นดู "เรือนฝั่งขว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status