ท่าทางของเฉินมู่ในปัจจุบันไม่ได้ด้อยกว่าแม่ของเธอที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเด็กเลย บางทีเฉินมู่อาจเป็นลูกที่ดีที่สุดของตระกูลเฉินก็ได้ เขาจะเธอรีบออกจากบ้านไปได้ยังไงกันล่ะ?เฉินมู่ยิ้ม “คุณปู่เป็นคนตัดสินใจเองเถอะค่ะ”“เสี่ยวมู่ มานี่ กลับบ้านกับปู่ ปล่อยให้ทั้งคู่จัดการเรื่องเลอะเทอะนี่ไปเถอะ!” คุณปู่พูดอย่างหงุดหงิดเฉินมู่ไม่ได้ปฏิเสธ เธอเดินไปหาคุณปู่ แต่ทันทีที่ผ่านหน้าเฉินชิงเสวี่ย เฉินมู่ก็ยิ้มเยาะเล็กน้อย “จะประกาศสงครามไม่ใช่เหรอ? วันเกิดนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น! แกพอใจกับมันไหม?”เฉินชิงเสวี่ยตัวสั่นจนควบคุมไม่ได้ ขาของหล่อนอ่อนแรงลง และเกือบจะล้มลงกับพื้นคืนนี้คนที่ต้องถูกทำลายควรจะเป็นเฉินมู่ แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังชี้เป้าไปที่เฉินชิงเสวี่ยเธอแพ้ และแพ้อย่างไม่น่าให้อภัยด้วย!ลู่ซีเจ๋อมองไปที่แผ่นหลังของเฉินมู่ที่มีผมยาวสยายถึงเอว อีกทั้งยังมีรูปร่างผอมเพรียว แต่เธอได้แสดงออร่าที่กล้าหาญและเฉียบขาดออกมาให้พวกเขาได้เห็นแล้วตั้งแต่เมื่อไรกัน เฉินมู่ไม่ใช่เด็กกำพร้าแม่ที่แสนโด่ดเดี่ยวอีกต่อไป เธอทั้งมีความภูมิใจ มีอำนาจ และยังมีเสน่ห์จนน่าอิจฉามีเสน่ห์เหรอ? ลู่ซีเ
ทันทีที่เฉินมู่พูดจบ ไม้เท้าของคุณปู่ก็กระแทกกับพื้นอย่างแรง“เธอกำลังจะหมั้นอยู่แล้ว! ยังจะใช้ความอายุน้อยของเธอเป็นข้ออ้างอีก เพราะความประพฤติผิดของเธอ ยังคิดเพ้อเจ้อที่จะแต่งงานกับตระกูลลู่อีก! แล้วยังคิดที่จะเข้าวงการบันเทิงตามชิงโหรวงั้นเหรอ! หน้าฉันคงไม่เหลือที่ว่างให้อับอายแล้ว!”“พ่อครับ ชิงเสวี่ยเธอ…” เฉินลี้ซานคงต้องการพูดอะไรบางอย่างกับลูกสาวตัวน้อยของเขา“หุบปาก!” คุณปู่ดุ “ถ้าเธอไม่เอาแต่ใจจนเคยตัว เธอจะคิดแผนที่ชั่วร้ายแบบนี้ออกมาได้ไหม?”“ระหว่างพี่น้อง แค่มีปัญหาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มันก็พอฟัง แต่นี่เธอต้องการทำลายความบริสุทธิ์ของพี่สาวตัวเองจริง ๆ! หักเงินค่าขนมของเธอซะ เธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกในช่วงวันหยุดนี้ จงพิจารณาตัวเองอยู่ที่บ้าน! ถ้าสร้างปัญหาอีก ก็ให้ส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศเลย แล้วคืนนี้ก็ไปคุกเข่าสำนึกผิดที่ห้องโถงบรรพบุรุษด้วย!”เฉินชิงเสวี่ยร้องไห้โฮ เมื่อปู่พูดออกมาแบบนี้ เธอจึงต้องไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษและคุกเข่าสำนึกผิด ซู่หรูหลานรู้สึกเสียใจต่อลูกสาวของเธอ ดังนั้นเธอจึงไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษด้วยเฉินลี้ซานนั่งบนโซฟา พลางถามอย่างไม่พอใจ
ฮานเฉิงแอบเช็ดเหงื่อออกจากหน้าอย่างเงียบ ๆ เขาติดตามฮั่วหยุนเซียวหลายปีแล้ว อีกทั้งยังคงรู้จักฮั่วหยุนเซียวเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเดาความคิดของบอสตัวเองได้เลย!เขาไม่สามารถเก็บซ่อนสายไม่จากคุณเฉินได้ ร่างสูงทำท่าทีเฉยเมย แต่ลึก ๆ แล้วกลับไม่มีความสุขอยู่สินะ?หัวใจผู้ชายนี่ยากจะเข้าถึง ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก…เฉินมู่วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว แล้วหันไปนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือชาตินี้ เธอก็ไม่เคยเกลี้ยกล่อมคนได้สำเร็จ ก็เธอเป็นนักฆ่านี่หน่า จะเกลี้ยกล่อมคนได้อย่างไร?เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินมู่ลงไปทานอาหารเช้าที่ชั้นล่าง เหล่าคนรับใช้ต่างก็เปลี่ยนพฤติกรรมจากหน้ามือเป็นหลังมือ พร้อมทั้งกล่าวทักทายเธอด้วยความเคารพ “คุณหนูใหญ่ สวัสดีตอนเช้าค่ะ!”ทันทีที่เฉินมู่นั่งลง คนรับใช้ก็วิ่งเข้ามาพลางส่งการ์ดเชิญให้เธอ หล่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหนู ใหญ่ นี่คือการ์ดเชิญที่ส่งมาจากคุณนายลู่ ขอเชิญคุณไปงานเลี้ยงตระกูลลู่ในตอนบ่ายค่ะ”เฉินมู่รับการ์ดเชิญ พลางชำเลืองมองดู แน่นอนว่ามาจากตระกูลลู่จริง ๆเธอแปลกใจเล็กน้อย เมื่อวานเธอตบหน้าตระกูลลู่ท่ามกลางสาธารณชนแบบนั้น แ
ประโยคนี้คงจะแทงใจดำเฉินชิงเสวี่ยอย่างไม่ต้องสงสัย!หลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืน ลู่ซีเจ๋อก็รีบออกจากงานไปทันที เฉินชิงเสวี่ยโทรไปหลายรอบ แต่ไม่มีใครรับสายจนถึงตอนนี้ลู่ซีเจ๋อก็ไม่ได้ติดต่อกลับมานานกว่าสิบชั่วโมงแล้ว!ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก็ไม่เคยแยกจากกันเลย! ทว่าครั้งนี้ ลู่ซีเจ๋อคงโกรธมากจนไม่อยากคุยกับเธอ!เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองไปที่เฉินมู่ “หุบปาก! มันเป็นเพราะเธอนั่นแหละ!”เฉินมู่เยาะเย้ย “เพราะฉันงั้นเหรอ? เฉินชิงเสวี่ย แกหาคนมาลักพาตัวและใส่ร้ายฉัน ตอนนี้ยังจะมาตำหนิฉันอีก หน้าแกนี่ทำมาจากอะไรเหรอ? ทำไมถึงหนาได้ขนาดนี้นะ?”“หุบปาก หุบปาก!” เฉินชิงเสวี่ยผลักเฉินมู่ออกไป “นั่นเป็นเพราะเธอ! ถ้าเธอออกจากบ้านตระกูลเฉินไป ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น! เฉินมู่...ทำไมเธอไม่ตายไปพร้อมกับแม่ของเธอห๊ะ!”ปกติแล้วเฉินชิงเสวี่ยจะแสร้งทำเป็นสุภาพและใจดี แต่ตอนนี้เธอถูกกระทบกระเทือนจากการละเลยของลู่ซีเจ๋อ เธอจึงดุด่าเฉินมู่โดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของตัวเอง เธอผลักเฉินมู่อย่างแรงเหมือนผู้หญิงบ้าแต่เฉินมู่ไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เคยถูกรังแกอีกต่อไป เธอผลักเฉินชิงเสวี่ยคืนจนอีกฝ่ายล้มเสียงดังลั่น!
“ฉันตบเธองั้นเหรอ?” เฉินมู่มองเฉินชิงเสวี่ยที่ทำตัวน่าสงสารบนโซฟา เจ้าตัวค่อย ๆ เผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะบนใบหน้าที่ซีดขาวนั่นหล่อนรู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ยังอยากบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งมันเป็นความพิเศษของน้องสาวคนนี้เฉินมู่เดินเข้าไปพร้อมยักไหล่ด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม “ถ้าฉันอยากจะทำอะไรกับเธอจริง ๆ ตอนนี้เธอคงจะอยู่ในหอผู้ป่วยหนักหรือไม่ก็...ห้องเก็บศพ”“เฉินมู่!” เฉินลี้ซานพูดด้วยความโกรธ “อย่าให้มันเยอะเกินไป!”ลู่ซีเจ๋อก็ดูผิดหวังเช่นกัน เขายืนขึ้นเดินไปใกล้เฉินมู่ แล้วพูดอย่างไม่พอใจ “เฉินมู่ ผมรู้ว่าแม่ของผมส่งการ์ดเชิญให้คุณในวันนี้ ผมจะบอกคุณให้ชัดเจนว่า คุณล้มเลิกความตั้งใจนี้ซะเถอะ!”“แม้ว่าแม่ของผมจะชอบคุณ! และแม้ว่าเสวี่ยเอ๋อจะทำผิดพลาดไปบ้าง แต่ผมก็จะไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่ใจร้ายอย่างคุณ!”ลู่ซีเจ๋อเคยมีความประทับใจที่ดีต่อเฉินมู่ แต่หลังจากที่เฉินมู่เสียโฉม เขาก็รู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรกับเขาต่อให้เฉินมู่จะร้องไห้ขี้มูกโป่งขนาดไหน ก็มีแต่จะทำให้เขาเบื่อมากยิ่งขึ้นหลังจากรู้จักกันมาหลายปี เขาเริ่มรู้สึกเคยชินกับการไล่ติดตามของเฉินมู่ดั่งเช่นครั้งที่เขาสั่งสอนเฉินมู่อ
เฉินชิงเสวี่ยที่อาศัยพ่อแม่และแฟนของเธอเป็นโล่กำบัง ก็ทำทีแสร้งทำว่าถูกพี่สาวตนทำร้ายด้วยวาจา ก่อนจะย่อตัวลงข้าง ๆ แม่อย่างอ่อนแรง “ฉันก็แค่หวังดีเองนะ…”ซู่หรูหลานรีบปลอบโยนเฉินชิงเสวี่ย จากนั้นพูดว่า “เสี่ยวมู่ มันไม่มีประโยชน์หรอก เธอไม่ต้องมาทำเป็นตื่นตูมเอาตอนนี้ บริษัทนั่นถูกขายไปนานแล้ว…”เฉินมู่ผงะไปครู่หนึ่ง “ขายแล้ว? ขายให้ใคร? ไหนพ่อบอกว่าภายในสามวันไม่ใช่เหรอ? หนูก็บอกไปแล้วว่าจะรวบรวมเงินมาให้!”เฉินลี้ซานตอบกลับอย่างหงุดหงิด “ใครที่ให้ราคาสูงกว่า แน่นอนว่าฉันต้องรีบต้องขายให้คนนั้น คิดว่าครอบครัวเราจะรอเงินจากเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ จากแกงั้นเหรอ?”เฉินลี้ซานหยิบเอกสารจากกระเป๋าเอกสารออกมาและโยนให้เธอ “ฉันไม่ได้โกหกแก เมื่อคืนนี้ ฉันขายมันไปแล้ว เป็นผู้ซื้อนิรนาม เขาจ่ายมาในราคาห้าสิบล้าน ซึ่งแน่นอนว่าฉันจะต้องเปลี่ยนใจในทันทีแบบไม่ต้องคิด”เฉินมู่รับสัญญา นัยย์ตาคมเหลือบมองดู พลันเห็นว่าผู้ซื้อไม่ได้ระบุชื่อไว้จริง ๆ!เป็นไปได้อย่างไร? ซิงอวี่มีเดียเป็นบริษัทที่มีหนี้สินมาก อีกอย่างก็ไม่เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิง ใครกันที่ซื้อมันได้ในราคาสูงอย่างรวดเร็วเช่นนี้!เฉินมู
เฉินมู่ปัดมืออีกฝ่ายออกอย่างหมดความอดทน “ฟังนะลู่ซีเจ๋อ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ส่วนเรื่องระหว่างเฉินชิงเสวี่ยกับฉันที่เธอใช้ให้ใครซักคนลักพาตัวและใส่ร้ายฉัน หรือแม้แต่พยายามทำลายความไร้เดียงสาของฉัน คุณจะให้ฉันหยวนหยวนงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!”เฉินมู่หันหลังเดินออกจากประตูไป ทว่าเมื่อกำลังจะถึงประตู เธอกลับจำบางอย่างได้ จึงหยุดและหันกลับไปเอ่ย “ฝากกลับไปบอกแม่ของคุณด้วยนะ ขอบคุณสำหรับคำเชิญของท่าน ต่อให้ทั้งโลกไม่มีผู้ชายเหลืออยู่ ฉันก็จะไม่แต่งงานกับตระกูลลู่เด็ดขาด!”ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่เยาะเย้ยระรัวไม่หยุดจนเขาไม่มีจังหวะตอบโต้เฉินมู่แต่อย่างใดเมื่อเขามีสติขึ้นมา หัวใจก็ลุกโชนขึ้นด้วยความโกรธทันที เฉินมู่เป็นอะไรไป ทำไมเธอถึงกล้าวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นด้วยท่าทางเหยียดหยามเช่นนี้?คู่หมั้นที่เขาเลือกเป็นผู้หญิงที่ใจดีและอ่อนโยนที่สุดในโลกนี้แล้ว แม้แต่เฉินมู่ก็อิจฉา! เขาจะรอดูวันที่เฉินมู่เสียใจจนต้องหลั่งน้ำตา!เวลานี้ เฉินมู่ไม่มีเจตนาจะเข้าไปพัวพันกับคนอย่างตระกูลลู่ อย่างไรก็ตาม เธอมีเงินถึงสามสิบล้านแล้ว เธอต้องการหาที่พักส่วนตัวและไม่ถูกรบกวนจากคนนอก เพื่อให้ตัวเองได้จั
ทางฝั่งฮั่วหยุนเซียวก็มีเสียงเตือน “ดิ๊งด่อง”เหมือนกัน เขาขมวดคิ้ว พร้อมทั้งเปิดสถานที่ต้นทางของสัญญาณอีกฝ่ายในเมืองปินไห่ขึ้นมาดูส่วนฮานเฉิงที่ได้ยินเสียงนั้นก็วิ่งไปมาอย่างตื่นเต้น “พบแล้วเหรอครับ อะไรจะเร็วขนาดนั้น? มันอยู่ในสหรัฐอเมริกาใช่ไหม? ผมจะรีบส่งคนไปจับมัน!”ฮั่วหยุนเซียวส่ายหัว มือหนาปิดคอมพิวเตอร์ พร้อมกล่าว “จองเที่ยวบินที่เร็วที่สุดและกลับไปที่ปินไห่”ฮานเฉิงเบิกตากว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นตำแหน่งสัญญาณบนคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็รีบไปจองตั๋วทันทีทางด้านอพาร์ทเมนท์เพนต์เฮาส์ในเมืองปินไห่เฉินมู่หมอบลงกับพื้นเพื่อเก็บเศษมันฝรั่งทอดของตน จากนั้นก็ตบหน้าผากเกลี้ยงไปหนึ่งที เป็นฮั่วหยุนเซียวไปได้อย่างไรเนี่ย!ฮั่วหยุนเซียวซื้อบริษัทซิงอวี่มีเดียของเธอ! และเธอก็ไม่สามารถเอาเงินไปหมุนแลกบัญชีอื่นได้! ไม่เช่นนั้นฮั่วหยุนเซียวจะติดตามเงินของเธออย่างแน่นอน!เฉินมู่กอดมันฝรั่งทอดพร้อมร้องไห้น้ำตาซึม สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีความสุขได้ในตอนนี้คือบริษัท มันจะไม่มีอะไรผิดพลาดใช่ไหม?เธอล็อคประตูอพาร์ทเมนท์ ก่อนจะกลับไปที่บ้านตระกูลเฉินกว่าจะกลับถึงบ้านก็ค่ำมืดแล้ว ทันทีที่เปิดประตูก