공유

บทที่ 3

작가: เฉียวเหมย
“คุณหนูใหญ่...คุณกลับมาแล้ว...” คนรับใช้เห็นเฉินมู่ที่ประตูด้วยท่าทางหงุดหงิดก็เอ่ยเรียก

เฉินมู่พยักหน้า ยกเท้าขึ้น และก้าวเดินเข้าไปข้างใน แต่คนรับใช้ก็วิ่งไปดึงตัวเฉินมู่มาอย่างแรงจนร่างนั่นเดินโซเซ หล่อนตะโกนว่า “คุณเข้าไปไม่ได้!”

ใบหน้าของเฉินมู่เย็นชาจนน่ากลัว “หลีกไปให้พ้น”

เธอรู้ว่าตอนที่เฉินมู่อยู่ในตระกูลเฉินมีแต่คนรังแก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าคนรับใช้ที่กวาดน้ำอยู่จะกล้าทำเช่นนี้กับเธอ!

จู่ๆ คนรับใช้ก็ยกมือขึ้นชี้หน้าเฉินมู่เชิงไม่ยอมให้เธอก้าวเข้าไป “คุณหนูใหญ่ถูกคุณหนูสามสั่งห้ามไว้แล้ว คุณเข้าไปไม่ได้!”

พลันคนรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ อีกคนก็เอ่ยหัวเราะเยาะ “ปล่อยเธอเข้าไปเถอะ! ยังไงซะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเรื่องแบบนี้ คนในตระกูลของคุณชายลู่ไม่ต้องการเธอ เธอคงรีบเข้าไปใกล้ชิด!”

“โห มอง ๆ ดูแล้วมันน่าเกลียดมาก ถ้าเป็นเราตอนที่ยังเด็กล่ะก็ เราคงต้องโดนคนด่าลับหลังกันแน่!”

“นี่จำไม่ได้จริง ๆ เหรอว่าคุณหญิงที่เสียชีวิตได้สั่งสอนเธอว่ายังไงบ้าง ท่านสอนเธอไปแล้ว ทำไมยังไร้ยางอายอยู่อีกล่ะ?”

คนรับใช้เหล่านี้ที่ทำงานในตระกูลเฉินมาหลายปีและคุ้นเคยกับพวกเขามานาน เวลาที่พวกหล่อน ๆ เบื่อมักจะชอบพูดเหน็บแนมเฉินมู่

อย่างไรก็ตาม เฉินมู่อ่อนแอ และมักจะถูกรังแกโดยไม่โต้ตอบ

เมื่อเห็นลักษณะท่าที่ปากสว่างที่ดูเหมือนเรื่องปกติของคนพวกนี้ เฉินมู่ก็รู้ว่าพวกหล่อนมักพูดถึงแม่ของเจ้าของร่างเดิมเสมอ เธอยกมือขึ้นตบหน้าคนรับใช้ที่อยู่ตรงหน้าทันที!

“อะไรเนี่ย!” ยายแก่ถูกตบล้มลงกับพื้น ตัวสั่นระริกปนตกใจ “นี่คุณ...คุณ...”

เฉินมู่ผู้อ่อนแอและถูกรังแกในอดีต ยืนอยู่กลางแดดด้วยคิ้วที่เฉียบคมและดวงตาที่กรีดแทง “ฉันจะพูดเพียงครั้งเดียว ให้พวกเธอจะเข็ดหลาบ แล้วจำใส่หัวไว้นะ เข้าใจไหม?”

“ฉันเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฉิน และแม่ของฉันที่ตายไปแล้วเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย คราวหน้าถ้าพวกเธอกล้าใช้คำพูดต่ำ ๆ อีก ฉันจะตบอีกรอบ จนกว่าพวกเธอจะจำได้! จำได้หรือยังห๊ะ?”

เธอแข็งแกร่งมากจนทำให้คนรับใช้หลายคนกลัวที่จะรังแกและกลัวความลำบากในภายหลัง พวกหล่อนพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “จำได้แล้ว...จำได้แล้ว…”

“หลีกทางไป!”

เฉินมู่ตะโกนปุ๊บ คนรับใช้ก็รีบก้าวออกไปทันควัน แถมยังไม่กล้าที่จะหยุดเธออีกเลย

ทันทีที่เดินเข้าไปในคฤหาสน์ เธอก็พบชายหญิงสองสามคนในห้องนั่งเล่น

ไม่มีใครอื่น เป็นน้องสาวที่ดีของเธออย่างเฉินชิงเสวี่ย และผู้ชายที่เป็นคนรักเดิมของเธอ ลู่ซีเจ๋อ

เมื่อพวกเขาเห็นเฉินมู่ เฉินชิงเสวี่ยไม่ได้มีความเขินอายแม้แต่น้อย ร่างบางสัมผัสได้ถึงการยั่วยุของน้องสาวตัวดีที่แวบเข้ามาในดวงตาของเธอ

ใบหน้าหล่อนหยิ่งยโส ไม่ได้สนใจการปรากฏกายของเธอเลยด้วยซ้ำ ชิงเสวี่ยทำทีตื่นตระหนกลุกขึ้นยืน ก้มศีรษะทักทายด้วยท่าทางเชื่อฟังว่า “พี่สาว พี่กลับมาแล้ว ฉันกับซีเจ๋อ เราไม่ได้เป็นแบบที่พี่เห็นนะ ฉัน เรา…”

คำอธิบายที่ดูลุกลี้ลุกลน น้ำเสียงแห่งความคาดหวังที่ดูสั่นเครือ ราวทำผิดกับสวรรค์จนเธอกลายเป็นเหยื่อ

เฉินมู่ดูการแสดงของเฉินชิงเสวี่ยอย่างเสียดสี และความเงียบในห้องนั่งเล่นทำให้เฉินชิงเสวี่ยดูเขินอายเล็กน้อย

เธอวิ่งจากโซฟาไปหาเฉินมู่ จับมือเฉินมู่ และอธิบายอย่างเร่งด่วนทันที “พี่สาว อย่าเข้าใจฉันผิด ที่พี่เห็นมันไม่ใช่แบบนั้นจริงๆ...”

พลันการสนทนาก็หยุดลงกะทันหัน เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ขึ้น ๆ ลง ๆ และปิดปากของเธอด้วยความตื่นตระหนก “พี่สาว ทำไมพี่ถึงกลับมาสภาพนี้ล่ะ เมื่อคืนไปไหนมาเหรอ?”

จากนั้นลู่ซีเจ๋อก็มองเฉินมู่อย่างระมัดระวัง เธอสวมชุดสูทผู้ชายที่มีชุดนอนสั้นที่น่ากลัวอยู่ข้างใน ด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้า เธอดูเหมือนผู้หญิงที่ใช้เวลากลางคืนไปมีความสุขอยู่ข้างนอกบ้าน

ความยะโสในตนเองของชายผู้นี้เพิ่มขึ้นอย่างทันที เฉินมู่ยังคงเป็นคู่หมั้นในนามของเขา แต่เขาต้องมาเจอเธอไปมั่วสุมลับหลัง!

“เฉินมู่! เมื่อคืนคุณไปไหนมา!” ลู่ซีเจ๋อถามหน้าเขียว

ดวงตาของเฉินมู่ไม่แยแส เธอไม่ได้ตอบคำถามของลู่ซีเจ๋อเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่เธอเลือกถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาแทน “ช่างน่าแปลก ฉันยังไม่ได้ถามเธอสองคนเลยว่าเมื่อคืนไปไหนมา แล้วมายุ่งอะไรเรื่องของฉันล่ะ”

“พี่สาว เมื่อคืนฉันไม่สบาย ลู่ซีเจ๋อพาฉันไปส่งไปโรงพยาบาล ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเราจริง ๆ อย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดนะ!”

เฉินชิงเสวี่ยจับมือเฉินมู่ และอธิบายด้วยเสียงสั่น

เฉินมู่ผลักเธอออกไป

“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน สกปรก”

“อ๊ะ!” เฉินชิงเสวี่ยโดนมือของเฉินมู่ผลัก ล้มลงบนพื้น

“เสวี่ยเอ๋อ!” ลู่ซีเจ๋อช่วยประคองร่างบางของเฉินชิงเสวี่ยขึ้นมาทันที พร้อมพูดอย่างโกรธเคือง “เฉินมู่! ทำไมคุณถึงใจร้ายได้ขนาดนี้! คุณไม่พอใจอะไรผมเหรอ!”

เฉินชิงเสวี่ยซ่อนตัวอยู่ข้างหลังลู่ซีเจ๋อ สะอื้นไห้อย่างเจ็บปวด “พี่ แม้ว่าพี่จะโกรธฉัน พี่ก็ควรจะทะนุถนอมตัวเองบ้าง! พี่…พี่จะเอาแต่ใจแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน?”

ดูเหมือนน้องสาวตัวดีกำลังเสียใจกับสิ่งที่ทำผิดพลาดต่อพี่สาว น่าเสียดายที่การแสดงนี้ไม่ได้ถูกทำเป็นละคร

เฉินมู่เยาะเย้ย “ต่อให้ฉันจะเอาแต่ใจแค่ไหน คงเทียบไม่ได้กับเธอที่ชอบจับคู่หมั้นคนอื่น!”

ลู่ซีเจ๋อโอบกอดหญิงสาวที่เจ็บปวดในอ้อมแขนของเขา ชายหนุ่มจ้องตาเขม็งไปที่เฉินมู่ “พอเถอะ! เฉินมู่ ผมจะบอกคุณให้รู้ไว้นะ ในชีวิตนี้ผมจะไม่มีวันแต่งงานกับเสวี่ยเอ๋อหรอก! คุณไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป!

และถ้าคุณมีเวลาพูดคุยกับครอบครัวของผมให้ชัดเจน เราจะได้ยกเลิกสัญญาการแต่งงานนี้ซะหลังจากนี้เราจะได้ไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก”

หัวใจของเฉินมู่รู้สึกหดหู่อย่างควบคุมไม่ได้ และเธอก็ขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่ามันเป็นอารมณ์ของเจ้าของร่างเดิม

เธอมองไปยังชายที่เธอรักมากในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมก่อนถาม “เหตุผลล่ะ?”

ลู่ซีเจ๋อเค้นเสียงอย่างเย็นชา “เป็นแบบนี้แล้วจะมีเหตุผลอะไรอีก? ระหว่างเรามันเป็นแค่การรักข้างเดียว”

“ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลลู่เป็นตระกูลที่มั่งคั่ง ภรรยาที่ผมจะแต่งงานด้วยต้องเป็นหญิงสาวที่งดงามด้วย แต่แผลเป็นที่หน้าของคุณมันน่าเกลียดมาก คุณจะทำให้ตระกูลลู่อับอายขายหน้ากันทั้งหมดเหรอ?”

เฉินมู่เยาะเย้ยในใจ หากจำไม่ผิดแน่นอนว่ารอยแผลเป็นนี้ เกิดจากการที่เจ้าของร่างเดิมไปช่วยขวางลู่ซีเจ๋อในอุบัติเหตุทางรถยนต์ และถูกกระจกบาด

ในเวลานั้น ลู่ซีเจ๋อพูดอยู่เสมอว่าเขาไม่เคยเกลียดเฉินมู่เลย ทว่าชั่วพริบตาเขาก็เปลี่ยนไปมุ่งมั่นกับความสัมพันธ์ของเฉินชิงเสวี่ยอย่างแน่นแฟ้น

“ซีเจ๋อ คุณอย่าทำแบบนี้กับพี่เลย...”

เฉินชิงเสวี่ยโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของลู่ซีเจ๋ออย่างมีชัย และมองเฉินมู่อย่างยั่วยุ เธอสามารถจินตนาการได้จากบุคลิกที่หลงใหลและยากเย็นของ เฉินมู่ หากวันนี้จะไม่ร้องไห้คงไม่ใช่เรื่องแปลก!

ทุกคนในเมืองปินไห่รู้ ผู้หญิงที่น่าเกลียดของตระกูลเฉินอยากจะมีความรักอย่างลึกซึ้งต่อลู่ซีเจ๋อ และเธอยินดีที่จะทำทุกอย่างตราบเท่าที่เธอสามารถอยู่กับลู่ซีเจ๋อได้!

แต่สำหรับลู่ซีเจ๋อ สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือการที่ต้องมาพัวพันกับเฉินมู่ เฉินมู่ร้องไห้ไปครั้งหนึ่ง ทำให้เขาสูญเสียตัวเองไปครึ่งหนึ่ง!

เฉินมู่เหลือบมองทั้งสองคนอย่างแผ่วเบา สายตาของลู่ซีเจ๋อที่มองมาทั้งตกตะลึง ชัดเจน ใสสะอาด เย็นชา...รวมทั้งดูถูกเหยียดหยามเธอ?

เธอพยักหน้า “โอเค งั้นก็ตอนบ่ายนะ ตอนบ่ายฉันไปจะถอนหมั้นกับคุณ”

“พี่อย่าเศร้าไปเลย พี่...พี่กำลังพูดถึงอะไร ถอนหมั้นอะไรเหรอ?”

เสียงของเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินคำตอบที่ไม่เคยคิดฝันว่าพี่สาวจะเอ่ยออกมา แม้เสียงจะแหบแห้งเล็กน้อย แต่นี่ไม่ใช่เป็นปฏิกิริยาของเฉินมู่ที่เธอคิดไว้!

เธอไม่ร้องไห้โวยวายเหรอ? จะไม่ร้องไห้กับความผิดหวังมาหลายปีแล้วเหรอ? ตกลงแล้วเธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า?

เฉินมู่พยักหน้า “ต้องให้ฉันพูดซ้ำอีกรอบไหม? ตอนบ่าย ไปถอนหมั้นกัน ฉันเห็นด้วยกับความคิดนั่น”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status