Share

บทที่ 8

Penulis: เฉียวเหมย
โอวจินเห็นการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของเฉินมู่ ก็รีบปิดริมฝีปากของตัวเองเงียบ ๆ อยู่ด้านหลังฮั่วหยุนเซียว “ฉันขอพนันร้อยหยวน เฉินชิงเสวี่ยลูกสาวผู้มีชื่อเสียงที่ได้รับการฝึกฝนเรื่องมารยาท เดิมทีจะไม่มีวันล้ม”

เฉินชิงเสวี่ยไม่ได้ล้ม แต่ชุดของเธอก็หลุดออกไป

เธอชะงักไปครู่หนึ่ง และเสียงกรีดร้องก็ดังก้องไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง!

“กรี๊ด—”

เธอกอดชุดขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก แล้ววิ่งไปที่ประตูหลังผ้าม่านทันที...

ผลลัพธ์ก็คือ เธอบังเอิญเหยียบชายกระโปรงตัวเอง และล้มไปที่เค้กบนโต๊ะอาหารโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ชิงเสวี่ย!” ลู่ซีเจ๋อรีบวิ่งไปหาเธอทันที และมือที่เหยียดออกของเขาหยุดค้างอยู่ในอากาศอย่างเชื่องช้า

ตอนแรกที่มีคนเห็นเฉินชิงเสวี่ย บางคนก็ผิวปากแซว ทว่าไม่นานต่างก็เงียบเสียงลง

ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้ที่ตกลงไปในเค้กงานเลี้ยง ซู่หรูหยุนจ้องมองชุดของเฉินชิงเสวี่ยที่หลุดออกมา ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นกับเฉินมู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมมันถึงกลับกันล่ะ?

เฉินมู่แค่อยากจะทำให้เธออาย ซึ่งเธอไม่คิดว่าเฉินชิงเสวี่ยจะจบลงด้วยครีมและผลไม้บนไหล่ของเธอ ร่างเล็กอ้าปากกว้างอุทานเสียงแผ่ว

ฮั่วหยุนเซียวหันศีรษะเหลือบมองที่โอวจินที่ยื่นมือออกมา เสียงทุ้มว่า “เอามาหนึ่งร้อยหยวน”

โอวจินหยิบเงินออกมาอย่างเงียบ ๆ ยื่นให้ฮั่วหยุนเซียว พร้อมชื่นชมหญิงสาวเจ้าของแผลเป็น “คุณหนูใหญ่เฉินคนนี้ร้ายกาจว่ะ!”

ฮั่วหยุนเซียวยกยิ้มเล็กน้อย ใบหน้าของเขาค่อนข้างภาคภูมิใจ “จริงเหรอ ? ฉันคิดว่ามันตลกดี”

เนื่องจากเกิดเรื่องตลกของเฉินชิงเสวี่ยในงานเลี้ยงตระกูลเฉินที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี ทุกอย่างจึงจบลงอย่างรวดเร็ว เฉินลี้ซานผู้สูญเสียรอยยิ้มไปแล้ว ได้แต่ยืนส่งแขกกลับบ้าน

ฮั่วหยุนเซียวยืนขึ้น ขายาวเดินผ่านเฉินมู่ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “อย่าลืมเรื่องวันพรุ่งนี้นะ”

เฉินมู่กระพริบตาปริบ เธอได้ฟังกลุ่มแขกที่พูดถึงฮั่วหยุนเซียวมาบ้าง บอสบริษัทฮั่วซึ่งเป็นตระกูลที่ร่ำรวย ทำไมถึงกังวลเกี่ยวกับการได้ไปทานอาหารกับเธอขนาดนั้น?

เฉินมู่ยิ้ม “งั้น แค่เลี้ยงข้าวก็ได้ใช่ไหม?”

“อืม ยังไงก็ได้” ฮั่วหยุนเซียวพูดพร้อมพยักหน้า

เฉินมู่ตกลงอย่างเชื่อฟัง “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”

หลังจากส่งแขกออกไป คนรับใช้ก็ทำความสะอาดห้องจัดเลี้ยงที่เต็มไปด้วยขยะ คุณปู่ที่พักผ่อนในคฤหาสน์ด้านหลังก็ดุซู่หรูหยุนด้วยใบหน้าซีดว่า “ลูกสาวตัวดีของเธอที่เลี้ยงดูมา! ทำให้ฉันขายขี้หน้าคนจำนวนมากอย่างไม่เหลือหลอเลย นี่สอนกันมายังไง!”

เฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดชุดใหม่ กำลังทิ้งตัวนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟาราวกับห่าฝน เธอพูดอะไรไม่ออก “คุณปู่! คุณปู่! หนู...หนูไม่ได้ตั้งใจ”

“คุณพ่อคะ! ชิงเสวี่ยก็ตกใจเช่นกัน เธอเป็นเด็กดีมาตลอด จู่จะทำอย่างนี้ได้ยังไงกันล่ะคะ?” ซู่หรูหยุนยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือลูกสาวของตนเอง

คุณปู่กระแอมออกมาด้วยความโกรธ “ปู่รู้ว่าหลานไม่ได้ตั้งใจ! แต่คนภายนอกไม่ได้สนใจว่าหลานจะตั้งใจหรือเปล่านี่”

“พรุ่งนี้คนในสังคมชั้นสูงทั้งหมดของเมืองปินไห่จะได้รู้ว่าเธอเลี้ยงลูกสาวมาดีแค่ไหน!”

“ยิ่งไปกว่านั้น! คืนนี้คนของตระกูลฮั่วก็อยู่ที่นี่ด้วย! ฉันอยากจะใช้เวลานี้ไปขึ้นเรือใหญ่ของตระกูลฮั่ว! แต่พวกเธอก็ทำเรื่องซะก่อน มันเป็นความอัปยศที่สุดของฉันแล้ว!”

ตระกูลเฉินไม่ใช่ตระกูลที่โดดเด่นดีพร้อมที่สุดในเมืองปินไห่ แต่เป็นเพียงตระกูลชนชั้นกลาง ๆ เท่านั้น

ตอนนี้เงินทุนของตระกูลเฉินไม่เพียงพอ ทำให้ดำเนินการทางธุรกิจได้ยาก คุณปู่กับเฉินลี้ซานต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อช่วยเหลือตระกูลฮั่ว จากนั้นก็หารือเกี่ยวกับโครงการกับฮั่วหยุนเซียว ซึ่งนั่นสามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัวในความน่าเกรงขามเมื่อพบเจอได้!

“นี่…นี่…ก็ให้ชิงเสวี่ยจ่ายเงินชดเชยให้ตระกูลฮั่วก็ได้ ฉันสันนิษฐานว่าคุณฮั่วก็คงไม่สนใจเรื่องตลกพวกนี้ที่เด็กสาวตัวน้อยทำไปหรอก อีกไม่กี่วันก็เป็นวันเกิดของชิงเสวี่ยแล้ว ฉันจะส่งคำเชิญไปที่บ้านของตระกูลฮั่วเป็นการส่วนตัว และจะเชิญคุณฮั่วกลับมาหาคุณปู่อย่างแน่นอน!” ซู่หรูหยุนพูดขึ้นมาในทันที

เฉินชิงเสวี่ยพยักหน้าแล้วตอบ “ใช่ ใช่แล้ว! คุณปู่ ตระกูลลู่กำลังคุยเรื่องธุรกิจกับตระกูลฮั่ว พรุ่งนี้หนูจะไปหาคุณฮั่วกับซีเจ๋อและขอโทษเขา มันจะทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อตระกูลเฉินอย่างแน่นอน!”

คุณปู่มองดูเฉินชิงเสวี่ยที่กำลังร้องไห้อยู่ ซึ่งเป็นหลานสาวของเขาเอง สุดท้ายก็ทนไม่ได้ที่จะดุต่อไป ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นพร้อมกับทิ้งท้ายประโยคไว้ว่า “หลานก็คิดหาทางออกก็แล้วกัน!”

ทันทีที่คุณปู่เดินออกไป เฉินชิงเสวี่ยก็เปลี่ยนสีหน้าทันที เธอเช็ดน้ำตา พลันลุกขึ้นจนซู่หรูหยุนรีบคว้าตัวเธอไว้ “ชิงเสวี่ย หนูคิดทำอะไร?”

เฉินชิงเสวี่ยกัดฟันพูดว่า “หนูจะไปฆ่าเฉินมู่ นังผู้หญิงแพศยาคนนั้น! ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน หนูคงไม่กลายเป็นคนโง่ในที่สาธารณะแบบนี้หรอก”

ซู่หรูหยุนไม่ได้หยุดเธอ ตอนนี้เฉินลี้ซานอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า ส่วนคุณปู่ก็กลับไปพักผ่อนแล้ว มันไม่สำคัญว่าจะจัดการกับเฉินมู่อย่างไร

เฉินชิงเสวี่ยรีบขึ้นไปชั้นบน แล้วเตะประตู เพื่อตรงเข้าไปในห้องของเฉินมู่ ฝั่งเฉินมู่ที่เพิ่งอาบน้ำสวมชุดนอนเสร็จ ก็เดินออกมาพร้อมกับเช็ดผมไปด้วย ทว่าพอได้ยินเสียงดังปัง ขาเรียวก็วิ่งไปที่ประตู ก่อนจะพบกับเฉินชิงเสวี่ย สุดท้ายเธอก็ถูกตบที่หน้าดังเพี้ยะจนทำให้มึนงงไปชั่วขณะ

“นังแพศยา! เธอกล้ามากนะที่มาทำให้ฉันหัวร้อน!” เฉินชิงเสวี่ยกัดฟันของเธอ ในใจตอนนี้อยากจะฆ่าเฉินมู่มาก

เฉินมู่ลูบใบหน้าตนเองแล้วเงยหน้าขึ้น สายตาคมประสานเข้ากับดวงตาพ่นไฟของเฉินชิงเสวี่ยที่มองดูตนโดยไม่มีความกลัว จากนั้นเฉินมู่ก็ยกมือขึ้นตบเขากลับอย่างดุเดือด พร้อมพูดเสียงเย็น “นี่สำหรับเธอ!”

“เฉินมู่! เธอ...”

“เพี้ยะ!” เสียงตบดังอีกครั้ง

คิ้วของเฉินมู่นั้นคมราวกับมีด “นี่ สำหรับคำที่เธอเรียกฉันว่านังแพศยา”

ตั้งแต่เล็กจนโตเฉินชิงเสวี่ยเป็นคุณหนูของตระกูลเฉิน ต่อมาเธอได้รับการปกป้องจากลู่ซีเจ๋อและกลุ่มเพื่อนซี้ของเธอ เธอทนต่อการถูกทุบตีเช่นนี้ได้ที่ไหนกัน

แต่วันนี้เฉินมู่เอาชนะเธอถึงสามครั้ง! และเป็นการตบหน้าทุกครั้ง!

“เฉินมู่ เธอมันนังแพศยา! เธอกล้าตบฉันเหรอ เธอ...”

“เพี้ยะ!” เสียงมือกระทบแก้มดังสนั่น

เสียงของเฉินมู่เย็นชาราวกับน้ำแข็งที่ไม่แยแส “อยากจะให้ตบสั่งสอนใช่ไหม? งั้นเธอก็ลองเรียกฉันว่านังแพศยาอีกรอบสิ”

ในอดีตฉินมู่เป็นไพ่ตายขององค์กรเคโจว และเป็นซาตานหญิงอันดับหนึ่งในรายชื่อนักฆ่าของโลก!

แม้แต่พ่อค้าอาวุธที่รู้จักกันดีเห็นเธอ เขาก็ต้องเรียกว่าคุณหนูฉินด้วยความเคารพ ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะคือเฉินมู่ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะมาอ้าปากดุด่าเธอว่าเป็นหญิงแพศยาได้!

ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยร้อนวูบวาบแสดงถึงความเจ็บปวด ตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับเฉินมู่ แม้ว่าใบหน้าของเธอจะหันไปทางท้องฟ้า แต่ดวงตาของเธอกลับไม่มีความกลัวและความอ่อนแอดั่งในอดีต!

หญิงขี้เหร่ที่ถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเธอมามากกว่าสิบปี ตอนนี้กลับมีออร่าที่แข็งแกร่งราวกับเทพแห่งการฆาตกรรม แล้วยังเย่อหยิ่งเหมือนหมาป่า!

เฉินชิงเสวี่ยไม่สงสัยเลย เธอตะโกนด่าไปหนึ่งครั้ง เฉินมู่ก็ตบกลับมาหนึ่งครั้ง

เฉินมู่เอื้อมมือออกไป บีบคางของเฉินชิงเสวี่ยพร้อมเอ่ยเสียงดุดัน “เฉินชิงเสวี่ย เธออย่าคิดว่าเมื่อก่อนเธอรังแกฉันได้ แล้วจะรังแกฉันได้ตลอดนะ

นับจากนี้ไป ถ้าได้ยินสิ่งที่สกปรกออกจากปากเธออีก ฉันจะดึงลิ้นเธอออกมาให้เป็นอาหารสุนัข!”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status