โกดัง, ชานเมืองจิ้งอู๋
บรรยากาศในโกดังปกคลุมด้วยกลิ่นคาวเลือดและดินปืนที่ลอยแน่นในอากาศ พื้นแตกกระจายจากการต่อสู้โดยมีนักฆ่าสิบคนนอนตายกระจัดกระจาย เลือดสีแดงสดไหลนองเต็มพื้น
สองนักฆ่าที่รอดชีวิตมองผู้หญิงที่เต็มไปด้วยบาดแผลทั่วร่าง ก้มลงสูบบุหรี่อย่างใจเย็น หลังสูบเสร็จก็โยนลงพื้นและเหยียบให้ดับ
“ให้ตายเถอะ...ผู้หญิงคนนี้มันแข็งแกร่งจริงๆ ทำยังไงก็ไม่ตาย” นักฆ่าคนหนึ่งเยาะเย้ย
“อย่าพูดเลย เรามากันยี่สิบคน เกือบโดนผู้หญิงคนนี้จัดการหมด โชคดีที่เราสองคนลอบโจมตีเธอและยิงเข่าของเธอจนพัง”
ริงงงง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในจังหวะที่ไม่เหมาะสม
“จัดการเรียบร้อยไหม?” เสียงผู้หญิงที่ไม่พอใจดังขึ้นจากปลายสาย
“คุณหนูจาง เรียบร้อยแล้ว แต่เราสูญเสียคนมากมาย คุณต้องจ่ายเงินให้เพิ่มสองเท่า”
“เรียบร้อยก็ดีแล้ว เงินฉันจะโอนให้พรุ่งนี้”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
สายถูกตัดไปทันที
สองนักฆ่ามองหน้ากัน พวกเขารับงานมามาก แต่ไม่เคยเจอผู้หญิงที่ดูไร้พิษภัยแต่ใจโหดเหี้ยมเหมือนจางเหยียนอี้แม้กระทั่งพี่สาวของตัวเองยังฆ่าได้ พวกเขาไม่ลังเลที่จะหยิบปืนจากกระเป๋า และยิงจางหลินซินที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นจนตาย เลือดไหลจากมุมปากของจางหลินซินไหลลงมาตามคอ เธอมองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่า จากนั้นลมหายใจเริ่มขาดห้วงและหัวใจหยุดเต้นในที่สุด หลังจากแน่ใจว่าจางหลินซินตายสนิท สองนักฆ่าถ่ายรูปส่งให้จางเหยียนอี้ก่อนจะรีบออกไปจากที่เกิดเหตุ
วิญญาณของจางหลินซินมองทุกอย่างได้อย่างแจ่มชัด
ตั้งแต่เธอถูกนักฆ่าล้อมและเสียเลือดจนหมดสติ วิญญาณของเธอก็แยกออกจากร่าง เห็นตัวเองถูกยิงตายด้วยอย่างอนาจ ได้ยินความจริงที่อยู่เบื้องหลังด้วยหูของตัวเอง จางหลินซินรู้ดีว่าเธอถูก ลักพาตัว โดยน้องสาวที่แสนดี จางเหยียนอี้ จ้างนักฆ่ามาสังหารเธอ คิ้วของจางหลินซินขมวดเข้าหากันแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ดวงตาแฝงความอาฆาต เธอหัวเราะเยาะตัวเอง แต่ไม่รู้จะหัวเราะให้กับเรื่องไหนก่อน ระหว่างเสียฆ่าให้กับนักฆ่า หรือเย้ยหยันโชคชะตาที่ครอบครัวใจร้ายกับเธอ
ไม่กี่นาทีต่อมา รถพอร์ชคันหนึ่งหยุดที่หน้าโกดัง ผู้ชายคนหนึ่งลงจากรถด้วยความร้อนรนและวิ่งเข้าไปในโกดังเมื่อเห็นเลือดและศพทั่วโกดัง ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย ใบหน้าซีดเผือด รู้สึกใจไม่ดี เมื่อเดินลึกเข้าไปด้านใน เขาเห็นกล่องกระดาษซ้อนกัน และตรงกลางมีกลางร่างที่คุ้นเคยดี เขารู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมา
เพราะนั่นคือภรรยาที่เขารักที่สุด เป็นดวงใจของเขา เขามาสายเกินไป!
จางหลินซินเห็นเฉินจือหานมาก็ตกใจเช่นกัน เขานิ่งไปไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อมองร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลของภรรยา เขารีบเข้าไปปลดเชือกที่มือของเธอ กอดร่างที่เย็นชืดไว้โดยไม่พูดอะไร เฉินจือหานน้ำตาไหลแต่ไม่ร้องไห้ เขาเพียงกอดจางหลินซินแนบแน่น เรียกชื่อเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
“อาซิน...อาซิน ขอโทษนะ ขอโทษ ฉันมาสายเกินไป...”
“อาซิน...ฉันขอร้อง ตื่นขึ้นมาได้ไหม”
“ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ...อาซิน...อา!!!”
เฉินจือหานร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดเหมือนสัตว์ร้ายที่ไร้ทางออก เสียงแหบพร่า น้ำตาไหลรินหยดลงบนใบหน้าของจางหลินซิน เธอมองเฉินจือหานกอดร่างของตัวเองอย่างรู้สึกเจ็บปวด นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเฉินจือหานหมดหนทางและเจ็บปวดขนาดนี้ หัวใจของจางหลินซินบีบแน่น รู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆ แทงเข้ามาในหัวใจ ทำให้เธอรู้สึกรวดร้าว ความขมขื่นแผ่ซ่านในปากของเธอ ทำให้เธอรู้สึกทรมานอย่างมาก
ตอนนี้เธอยอมรับแล้วว่า เธอรักเฉินจือหาน…รักมากๆ
จางหลินซินพยายามยื่นมือไปเช็ดน้ำตาของเฉินจือหาน แต่พบว่ามือของเธอทะลุผ่านร่างของเขาไป เธอตกใจ เธอลืมไปแล้วว่าเธอตายแล้ว
จากนั้นภาพก็เปลี่ยนไป วิญญาณของจางหลินซินมาอยู่ที่ห้องใต้ดินของตระกูลเฉิน เธอเห็นเฉินจือหานนั่งบนโซฟาสูบบุหรี่ ควันลอยออกจากปากของเขา ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยควันจ นมองไม่ออกว่าเขาเศร้าหรือโกรธ เมื่อเห็นก้นบุหรี่เต็มพื้น น้ำตาของจางหลินซินก็ไหลออกมา
ขณะนั้นหลิวซูเหยียนเปิดประตูเข้ามา เห็นเฉินจือหานในสภาพสิ้นหวังก็ตกใจ เขาเคยเห็นภรรยาทำให้คุณชายเจ็บปวดหลายครั้ง และเห็นคุณชายสูบบุหรี่คนเดียวบ่อยๆ แต่การที่เจ้านายสูบบุหรี่มากขนาดนี้ ทั้งยังหดหู่เช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่หลิวซูเหยียนเห็น
“คุณชาย... อย่าสูบเลยนะครับ คุณผู้หญิงจะเสียใจที่เห็นคุณเป็นแบบนี้” หลิวซูเหยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา
“การสืบเรื่องตระกูลจางไปถึงไหนแล้ว” เฉินจือหานพ่นควันบุหรี่ มองหลิวซูเหยียนอย่างเย็นชา
“สืบได้แค่นี้ครับ ว่าเป็นคำสั่งของตระกูลจางอยากให้คุณหนูตาย ตระกูลจางอยู่เบื้องหลังทั้งหมด” หลิวซูเหยียนรู้สึกสั่นกลัวในใจ แต่พูดอย่างจริงจัง
เฉินจือหานสูดลมหายใจลึก น้ำตาคลอเบ้า ตะโกนเสียงดัง “ไปเตรียมคน กำจัดตระกูลจางให้หมด!!! ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครมีชีวิตรอดแม้แต่คนเดียว!”
“การตายของคุณผู้หญิงเกี่ยวข้องกับจางเย่าหยาง เขากลัวว่าคุณผู้หญิงจะกระทบตำแหน่งของลูกชาย เลยจ้างมือปืน จางเหยียนอี้ก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เธอหลอกคุณผู้หญิงว่าตัวเองถูกลักพาตัว ทำให้คุณผู้หญิงต้องช่วยแล้วจึงถูกจับตัวไป”
เมื่อฟังจบเฉินจือหานมองหลิวซูเหยียนด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงเล็กกระจายไปทั่ว สีหน้าน่ากลัวขึ้นไปอีก เขาบีบแก้วเหล้าในมือจนแตก ไวน์แดงและเลือดหยดลงบนฝ่ามือ หลิวซูเหยียนมองคุณชายของเขาในสภาพนี้ รู้ทันทีว่าเจ้านายต้องการกำจัดพวกตระกูลจางทั้งหมด
จางหลินซินเองก็ได้ยินเรื่องเหล่านี้ นึกถึงอดีต จางเหยียนอี้เป็นลูกติดและจางหลินซินรู้สึกสงสาร เห็นเธอเป็นน้องสาวมาตลอด พ่อของเธอลำเอียง รักแต่แม่เลี้ยงกับจางเหยียนอี้ แต่จางหลินซินไม่เคยโกรธพ่อ เธอทนมาตลอดหลายปี
เพราะเธอเชื่อใจครอบครัว ถูกจางเย่าหยางยั่วยุ จนเกิดความขัดแย้งกับคนที่เธอรักที่สุด ที่จริงแล้วเป็นจางเย่าหยางที่หาคนมาวางยาเธอ แต่กลับถูกบิดาบอกว่าเป็นฝีมือของเฉินจือหาน ทำให้เธอเข้าใจผิด หลังจากนั้นเธอยังถูกจางเย่าหยางผลักไสไม่รับผิดชอบใดๆ ตอนนี้คนเลวนั้นทำเพื่อผู้หญิงที่ท้องลูกของเขา เพื่อครอบครองทรัพย์สินตระกูลจาง ร่วมมือกับจางเหยียนอี้จ้างมือปืนฆ่าเธอ
ช่างเป็นพ่อที่ดีจริงๆ!!
จางหลินซินหน้าตึง ไม่คาดคิดว่าก่อนตาย จะได้เห็นความจริงของพ่อกับลูกสาวที่ชั่วร้ายขนาดนี้ โทษตัวเองที่อยู่ในครอบครัวไม่ดีและเชื่อใจคนผิด
เฉินจือหานลุกขึ้น เดินไปยังคุกใต้ดินด้านในสุด ในคุกมืดมีเพียงเสียงฝีเท้าของเฉินจือหานที่ดังชัด แม้แต่มือปืนที่เดินตามยังต้องระวังลมหายใจ วันนี้คุณเฉินเหมือนมัจจุราชจริงๆ ในคุกใต้ดินมีสามคนถูกมัดไว้บนไม้กางเขน เปื้อนเลือดไปทั่ว ทั้งสามตัวสั่นด้วยความเจ็บปวด หน้าอกเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน เหลือเพียงเสียงหายใจแผ่วเบา
สามคนนี้คือ จางเย่าหยาง จางเหยียนอี้ และหลี่หลิงเจิน
จางหลินซินตกใจ หลี่หลิงเจิน?! เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
หลี่หลิงเจินเป็นเพื่อนสนิทของจางหลินซิน ทั้งคู่สนิทกันมาก เธอเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ยังไง? จางหลินซินหัวใจเต้นแรง คิดถึงความเป็นไปได้ที่ไม่คาดคิด หรือว่าแม่เลี้ยงของจางเย่าหยางคือหลี่หลิงเจิน?! ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้หลี่หลิงเจินท้องโดยไม่บอกว่าใครเป็นพ่อ จางหลินซินพยายามเกลี้ยกล่อมให้หลี่หลิงเจินทำแท้ง แต่เธอไม่ยอม
ไม่คิดเลยว่าลูกในท้องจะเป็นของจางเย่าหยาง ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าทั้งคู่จะเลวเช่นนี้
ทั้งสามคนถูกทรมานจนใบหน้าเละเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดสกปรก เมื่อจางเย่าหยางเห็นเฉินจือหาน เขาร้องขอความเมตตา หวังว่าเฉินจือหานจะปล่อยเขาไป
“ขอร้องล่ะ...คุณเฉิน...ปล่อยฉันไปเถอะ ฉัน...ฉันยังเป็นพ่อของจางหลินซินนะ คุณฆ่าฉันไม่ได้...”
“คุณยังกล้าพูดอีกเหรอ? จางเย่าหยาง!” เฉินจือหานพูดพลางพันผ้าพันแผลที่มือ แล้วต่อยหน้าของจางเย่าหยาง “คุณไม่สมควรเป็นพ่อจริงๆ วันนี้ฉันจะจัดการพวกคุณเพื่อจางหลินซิน!”
“อ๊าก!” จางเย่าหยางร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
ตอนนี้เฉินจือหานเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ทำให้จางเย่าหยางตัวสั่นด้วยความกลัวใบหน้าซีดเผือด เฉินจือหานใช้มีดแทงหน้าอกจางเย่าหยาง เลือดพุ่งออกมาทำให้ผ้าเช็ดหน้าของเขาเปื้อนเลือด สุดท้ายจางเย่าหยางถูกแทงตาย มีบาดแผลนับไม่ถ้วนที่หน้าอก
“พ่อ!”
“เย่าหยาง!”
จางเหยียนอี้และหลี่หลิงเจินตกใจ ไม่คิดว่าเฉินจือหานจะกล้าฆ่าจางเย่าหยางต่อหน้าพวกเขา
เฉินจือหานเดินมาหาพวกเขา เช็ดเลือดบนมีด พูดอย่างช้าๆ “พวกคุณมันคนใจหยาบ ตายกี่ครั้งก็ไม่พอ”
“ไม่...ไม่...”
“การตายของจางหลินซินไม่เกี่ยวกับพวกเรา...เป็นจางเย่าหยางที่วางแผนทั้งหมด”
ทั้งสองพยายามผลักดันความรับผิดชอบ หวังว่าเฉินจือหานจะปล่อยพวกเขาไป ใครจะไม่อยากมีชีวิตอยู่? เฉินจือหานไม่ฟัง ใช้ปืนยิงแขนซ้ายของทั้งสอง ทำให้พวกเขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเต็มไปด้วยความทรมานและเปื้อนเลือดดูน่ากลัวมากขึ้น
เฉินจือหานยังยิงพวกเขาต่อหน้าเธอ ทำให้หลี่หลิงเจินเสียสติทันที ทั้งสองมีจุดจบเหมือนจางเย่าหยาง
หรืออาจจะแย่กว่านั้น
“จางหลินซินตายแล้ว พวกคุณต้องตามไปด้วย!” เฉินจือหานพูดด้วยความเย็นชา มองไปที่ศพทั้งสามบนไม้กางเขน
กรรมตามสนอง!
เป็นคืนที่วุ่นวายที่สุดในเมืองหลวง ถนนหลายสายถูกปิดกั้น รถติดเป็นทางยาว และท้องฟ้ายามค่ำคืนมีเครื่องบินส่วนตัวหลายลำบินผ่านไปมา ชาวเมืองคิดว่าเป็นการซ้อมรบทางทหาร จึงพากันซุบซิบหลินซินกับทีมที่เจ็ดที่อยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ถูกโจมตีจากหน่วยคอมมาโดต่างชาติอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเริ่มเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ แต่กระนั้นก็ยังคงยิงได้แม่นยำ แต่การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง ลูกกระสุนที่บรรจุก็ไม่ราบรื่นเหมือนตอนแรก ดูเหมือนว่าศัตรูจะไม่มีวันหมดสิ้น ฆ่าหนึ่งคนก็มีคนใหม่เข้ามาแทนหลินซินเหงื่อแตกพลั่ก ทั้งเหนื่อยและหงุดหงิด"ใช้ยุทธวิธีฝูงชน น่ารำคาญจริงๆ" เธอยิงศัตรูที่กำลังวิ่งเข้ามา ยิงได้แม่นยำและฆ่ามันได้ทันที"หัวหน้า ศัตรูเยอะเกินไป เราไม่มีทางชนะ พวกเราจะถูกพวกมันฆ่าหมดถ้ายังสู้แบบนี้" 001 เปลี่ยนกระสุนซุ่มยิง"ฉันรู้!" หลินซินขมวดคิ้ว ในขณะที่เธอกำลังคิดหาวิธีแก้ไข ทีมที่เจ็ดที่อยู่ในห้องฉุกเฉินก็มาวิ่งมาหา ในแววตาแสดงถึงความหวัง"หัวหน้า! ทีมฉุกเฉินย้ายผู้ป่วยสำเร็จแล้ว พวกเขาให้เรามาแจ้งข่าว"ขอบคุณพระเจ้า!หากการผ่าตัดล้มเหลวหรือยืดเยื้อไปกว่านี้ พวกเขาทั้งหมดอาจต้องสังเวยชีวิต เธอไม
เงียบเกินไป เงียบจนหน้ากลัว ในขณะนี้ เธอได้ยินเพียงเสียงคลื่นทะเลตึก...ตึก...ตึก...บอดี้การ์ดคนหนึ่งเอามือกุมบาดแผลที่หน้าอก เดินขากะเผลกเข้ามาหาหลินซิน ด้วยความเจ็บปวดเขาคุกเข่าลงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "นายหญิงหนีไปเถอะ...คุณชายมีอาการกำเริบ ครั้งนี้น่ากลัวมากไม่สามารถระงับได้ ผู้ช่วยเฉินให้ผมมาบอก คุณรีบออกจากเกาะตอนนี้เลย"หลินซินตัวเย็นเหงื่อท่วม เธอโยนของทุกอย่างในมือทิ้ง จับเสื้อของบอดี้การ์ดถามอย่างเร่งรีบ "ว่าอะไรนะ?! จือหานมีอาการกำเริบงั้นเหรอ ทำไมไม่แจ้งฉันเร็วกว่านี้!""นายหญิง เกาะที่คุณไปไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ข้อความจึงส่งไปไม่ถึง" บอดี้การ์ดไอเป็นเลือดในขณะนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของหลินซินส่งเสียงเตือน เธอดึงออกมาดูพบว่ามีสายเรียกเข้าและข้อความแจ้งเตือนมากมาย"แย่แล้ว!"หลินซินทิ้งโทรศัพท์วิ่งตรงไปยังบ้านพัก ศพของสาวใช้และบอดี้การ์ดนอนเกลื่อนกลาด เลือดท่วมเต็มห้องนั่งเล่น มีโทรศัพท์ตกอยู่ข้างโซฟา เฉินอวี้พยายามยื่นมือไปหยิบเพื่อเรียกความช่วยเหลือ แต่ในวินาทีต่อมา เฉินจือหานเห็นการกระทำของเขา ยิงปืนจนโทรศัพท์แตกเป็นเสี่ยงๆจือหานเดินมาหาเฉินอวี้ใช้ปืนจ่อที่หัวเขา ริมฝีป
หลินซินตื่นเพราะเสียงคลื่นทะเล และถูกปลุกด้วยการถูกใบไม้เกามือ เมื่อเธอลืมตาใบหน้าหล่อเหลาของเฉินจือหานก็ปรากฏตรงหน้า เขาหนุนศีรษะด้วยมือข้างหนึ่งและใช้ใบไม้ด้วยมืออีกข้างเกาเธอเล่น"ถ้าเธอไม่ตื่น ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ""…"เป็นเพราะถูกเกาจนตื่นต่างหาก! เฉินจือหานถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่ก็ไม่สนใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน หลินซินนั่งขึ้นด้วยความโกรธ แต่ด้วยแรงที่มากไป ผ้าห่มที่คลุมอกเธอก็เลื่อนลงมา เผยให้เห็นเรือนร่างเธอรีบคลุมผ้าห่มขึ้นกลิ่นของทะเลโชยเข้ามาในลำคอทำให้เธอรู้สึกแห้งผาก เมื่อมองไปรอบๆ ต้นมะพร้าวขนาดใหญ่บังแสงอาทิตย์ไว้ ปล่อยให้มีพื้นที่ร่มรื่น ที่นั่งของพวกเขามีผ้าพื้นเมืองสีสันสดใสรองไว้กันทราย"พวกเราเมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านเหรอ" สายลมทะเลพัดผมที่ต้นคอของหลินซินเบาๆ"ใช่ เห็นเธอนอนหลับสบายเกินไป ฉันไม่อยากปลุก เลยสั่งให้เฉินอวี้เอาผ้าห่มมาให้ เรานอนที่นี่ทั้งคืน""อย่างนี้ก็แปลว่า..."เฉินอวี้เห็นพวกเราหมดแล้วสิ! หลินซินหน้าแดงจัด เฉินจือหานหัวเราะในลำคอ ความอบอุ่นซ่านในใจ เขาคิดว่าเธอน่ารักเหลือเกิน"ยังจะหัวเราะอีก!" หลินซินขว้างหมอนอิงใส่สามีด้วยความโกรธ
คลื่นทะเลซัดสาดเข้าหาชายหาดราวกับจิตใจที่ปั่นป่วนของหลินซิน ดวงตาเธอแดงขึ้นเมื่อไรก็ไม่รู้ ใจเกิดความรู้สึกหวั่นไหวจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมา"ฉันก็รักคุณค่ะ จือหาน ชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหน ฉันก็จะรักคุณ"เฉินจือหานสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางของหลินซิน และจูบที่หลังมือเธอราวกับเป็นการสาบาน ทั้งสองนั่งที่โต๊ะ เขารินไวน์แดงให้เธอ"นี่คือ นี่คือน้ำแห่งความรักของเรา ดื่มเพื่อฉลอง""ดื่มเพื่อฉลอง"แก้วไวน์ชนกัน หลังจากดื่มไวน์แดงไปหลายแก้ว แก้มของหลินซินเริ่มแดง ตาเธอพร่ามัว และมีอาการเมา เฉินจือหานเข้ามาใกล้อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ลมหายใจร้อนของเขาพ่นลงบนลำคอ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ประคองใบหน้าของสามีและจูบเขา ทั้งสองแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม"ที่รัก เธอทำแบบนี้ ฉันก็แย่สิ…" เฉินจือหานพูดเสียงแหบมีนัยยั่วยวนหลินซินยกมือขึ้นไปแตะเป้ากางเกงของเขา ทำให้ชายหนุ่มมีปฏิกิริยาตื่นตัว เธออายจนก้มหน้าลง เฉินจือหานอุ้มภรรยามาที่ใต้ต้นมะพร้าว เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก วางรองหลังเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ทรายบาดผิว"จะทำที่นี่เหรอ..." หลินซินกัดริมฝีปาก มองไปรอบๆ สถานที่นี้ดีมาก มีป่ามะพร้าวใหญ่บังสายตาได้อย่างดี เป
หลังสถานการณ์สงบลงมีเสียงปิดประตูดังขึ้น เฉินอวี้ออกไปแล้ว เหลือเพียงเฉินจือหานนั่งดื่มเหล้าอยู่ในห้องทำงาน หนึ่งแก้ว…แล้วอีกแก้ว ดูเหมือนจะไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นเตรียมจะไปที่ระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ หลินซินก็รีบกลับไปที่ระเบียงของห้องนอนเมื่อกลับมาถึงห้อง หลินซินรู้สึกไม่สบายใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจร้อน แต่เรื่องที่เฉินจือหานถูกพิษ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก ตราบใดที่มาดามหมิงยังอยู่ที่บ้านตระกูลเฉิน การที่จือหานต้องอยู่ภายใต้การข่มขู่ของเธอเป็นเวลาหนึ่งวัน ทำให้มาดามหมิงเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นจุดอ่อนของลูกชาย การฆ่าคนง่าย แต่การฆ่าคนที่สามารถจับจุดอ่อนของตนได้มันยากมากหลินซินหยิบโทรศัพท์พิเศษออกมา และโทรหาหมายเลข 001“ไปตรวจสอบบุคคลที่ชื่อว่า หมิงฉวน ฉันต้องการให้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของหล่อนอย่างละเอียด ใช่, มันสำคัญมาก”สั่งเสร็จก็วางโทรศัพท์ลง เธอกลับไปนอนบนเตียงและห่มผ้าห่ม…แต่ลืมตาตื่นตลอดทั้งคืนเช้าวันถัดมาหลินซินตื่นขึ้นและพบว่า ฉินจือหานไม่ได้กลับมาที่ห้องนอน เขาอยู่ที่ห้องทำงาน ซึ่งเต็มไปด้วยขวดเหล้า จึงสั่งให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาด หลายวันผ่านไปหลินซินไม
“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงชายหนุ่มที่เย็นเยียบดังขึ้นมาดามหมิงหยุดมือ ซ่อนเจตนาฆ่าที่เพิ่งแสดงออกเมื่อสักครู่ กลับมามีท่าทางใจดีอีกครั้งเมื่อมองลูกชาย เขาเดินมาจากสวนไกลๆ เห็นหลินซินถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่บนสนามหญ้า ลมหนาวพัดผ่านผมของเธอ เขาโกรธสุดขีด ผู้หญิงของเขาไม่เคยต้องทนความอับอายแบบนี้!ปัง!เฉินจือหานหยิบปืนออกมา ยิงบอดี้การ์ดชาวต่างชาติสองคนที่กักขังหลินซินทันที ทั้งสองมีรูเลือดดำทมึนที่หัวล้มลงกับพื้นทันที หลินซินไม่มีที่พึ่งก็ล้มลงบนสนามหญ้า เฉินจือหานเดินมาอย่างรวดเร็วแล้วกอดภรรยาไว้ ใส่เสื้อคลุมให้เธอเมื่อเห็นเศษแก้วบนขาของหลินซินแ ละมือที่แดงจากการถูกน้ำร้อนลวก เฉินจือหานก็แทบเป็นบ้า ดวงตาสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยความโกรธรุนแรงพุ่งเป้ามองไปที่คุณนายหมิง “คุณกล้าแอบทำร้ายผู้หญิงของผม! หมิงฉวน!” ปลายกระบอกปืนจ่อที่หน้าผากมาดามหมิง หล่อนไม่หลบไม่หนี ยังคงมีท่าทางใจดีเหมือนเดิม“อาจือ ทำแบบนี้แม่จะเสียใจนะ” แกล้งร้องไห้และปล่อยน้ำตาหยดสองหยด“มันสมควรแล้วไหม แต่เดิมคุณซ่อนตัวอยู่ต่างประเทศ อยู่ไปจนตายก็ไม่มีใครสน แต่เมื่อกลับมาผมจะส่งคุณลงนรก ผลของการทำร้ายผู้หญิงของผมคือความตาย