หลังจากที่จางหลินซินกลับเข้าห้อง เธอคิดทบทวนว่าท้องของหลี่หลิงเจิน ดูเหมือนจะประมาณเจ็ดหรือแปดเดือนแล้ว ในชาติก่อนเมื่อเธอกลับมาบ้าน น้องชายก็โตเสียแล้วซ้ำยังไม่เคยรู้เลยว่าบิดามีลูกอีกคน ดูเหมือนว่าการเกิดใหม่ครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงเส้นเวลาไปบ้าง
จางหลินซินเดินไปที่หลังภาพวาดสีน้ำมัน จากนั้นก็ยกภาพวาดลงมา เผยให้เห็นกุญแจรหัส หลังจากใส่รหัสแล้ว กำแพงก็เลื่อนเปิดออก เผยให้เห็นห้องลับที่ซ่อนอยู่!
หลินซินไม่ได้มีแค่ห้องลับเท่านั้น เธอยังเป็นราชินีแห่งแก๊งมาเฟียอันดับหนึ่งของปักกิ่ง และได้สร้างอาณาจักรใต้ดินของตัวเอง เมื่อเดินเข้าไปในห้องนั้น บนกำแพงเต็มไปด้วยอาวุธไฮเทคหลายชนิด เช่น ปืน AK, ปืนพก NP22, ปืนพก M9, ระเบิดมือ และมีดต่อสู้ระยะประชิด
นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งที่เธอมี!
ในชาติก่อนเพราะเธอเชื่อใจครอบครัวมากเกินไป เชื่อใจน้องสาวที่ดูไม่มีพิษภัย และไม่มีเวลาเข้ายุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ภายในครอบครัว จึงทำให้ถูกหักหลังจนตาย ไม่อย่างนั้นเธอคงได้เชิญพวกนั้นมากินกระสุนไปนานแล้ว จางหลินซินนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ใส่ที่อยู่เว็บใต้ดินและเข้าไปยังหน้าเว็บหนึ่ง
ชื่อบัญชี โพธิ์ดำ A คือชื่อของนักฆ่าใต้ดินที่มีชื่อเสียงในปักกิ่ง
ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของนักฆ่าผู้นั้น รู้เพียงแค่ว่าหากโดนโพธิ์ดำ A หมายหัวจะไม่มีทางหนีรอดไปได้ ทำให้ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง ในเวลานี้ โทรศัพท์ส่วนตัวข้างๆ ดังขึ้น จางหลินซินรีบรับสายทันที
"หัวหน้า! คุณไม่ได้กลับมาที่ฐานมาสามเดือนแล้ว พวกพี่น้องเป็นห่วงคุณมาก"
"ฉันสบายดี 001"
001 เป็นคนสนิทที่สุดในฐานทัพของเธอ
" ช่วงนี้มีภารกิจอะไรเข้ามาบ้างไหม?"
"มีครับ มีชาวต่างชาติมอบหมายภารกิจให้เราหนึ่งพันล้านบาท ต้องการลูกตาฮอรัสในงานประมูล และงานประมูลนี้จัดที่บ้านประมูลปักกิ่งพอดี เวลาคือสามวันหลังจากนี้ครับหัวหน้า"
นานแล้วที่ไม่ได้ทำภารกิจ โดยเฉพาะภารกิจใหญ่ที่มีค่าตอบแทนมากกว่าหนึ่งพันล้าน จางหลินซินรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลงมือ
"รับภารกิจไหมครับหัวหน้า?"
"รับ ฉันจะไปเอง"
"ครับหัวหน้า"
001 วางสาย
เธอต้องการแก้แค้น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถปล่อยฐานทัพทิ้งไปได้ ฐานทัพกองกำลังเป็นอาวุธที่ดีในมือของเธอ หลังจากรับภารกิจแล้ว จางหลินซินก็ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการประมูล ผ่านคอมพิวเตอร์จนถึงเย็น
ก๊อกๆๆ ...
จางหลินซินได้ยินเสียงเคาะประตูจากในห้องลับ เธอรีบออกมาจากห้องทันที เมื่อเปิดประตูพบว่าเป็นแม่บ้านหวัง เธอเลยถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่ไม่ใช่น้องอี้ ถ้าเป็นเช่นนั้นคงบุกเข้ามาแล้ว จางหลินซินยังไม่อยากฆ่าน้องสาวตอนนี้ อีกไม่กี่วันเธอต้องย้ายอาวุธในห้องลับออกไป กันไว้ก่อนจะถูกพบ
"คุณหนูใหญ่ คนรับใช้ของตระกูลเฉินมาที่นี่ บอกให้คุณลงไปข้างล่าง" แม่บ้านหวังพูดด้วยความเคารพ ในบ้านนี้ มีเพียงจางหลินซินเท่านั้น ที่เธอเคารพอย่างจริงใจ ส่วนพวกที่เหลือเป็นแค่คนไร้ค่า
จริงสิ วันนี้เป็นวันที่ตระกูลเฉินมาสู่ขอ เธอลืมไปเลย
"ขอบคุณแม่บ้านหวัง เดี๋ยวฉันเปลี่ยนชุดแล้วจะลงไป"
เฉินเค่อยืนรออยู่ในห้องโถง รอจางหลินซินออกมา จางเย่าหยางและคนอื่นๆ มาถึงนานแล้ว พยายามพูดคุยกับเขาเพราะเฉินเค่อเป็นคนสนิทของผู้เฒ่าเฉิน การพูดคุยกับเขาเท่ากับได้ประโยชน์ แต่เฉินเค่อไม่สนใจพวกเขาเลย แม้แต่น้ำชาก็ไม่รับ
"คุณลุงเฉิน ขอบคุณที่มาบ้านของเรา ลำบากคุณลุงมาก" จางหลินซินเปลี่ยนเป็นชุดเดรสยาวลายดอกไม้สีขาวมาที่ห้องโถงก็พูดกับเฉินเค่อทันที
"สวัสดีคุณหนูใหญ่ พูดเกินไปแล้ว การรับใช้คุณผู้หญิงเป็นเกียรติของผม"
"คุณลุงเฉินพูดเกินไปแล้วค่ะ"
"คุณผู้หญิง นี่คือสินสอดที่ท่านผู้เฒ่าเฉินให้ผมนำมาให้คุณ เป็นบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงิน สัญญาโอนหุ้น และทรัพย์สินของตระกูลเฉิน หวังว่าคุณจะรับไว้"
น้องอี้กัดฟันแน่นด้วยความอิจฉา เรียกคุณผู้หญิงตั้งแต่เริ่ม ใครๆ ก็รู้ว่าหลินซินจะแต่งงานกับตระกูลเฉินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปักกิ่ง! ถ้าไม่ใช่เพราะนี่เป็นการหมั้นหมาย ที่แม่ของจางหลินซินทำสัญญาไว้ตั้งแต่เด็ก น้องหยางอี้คงพยายามแย่งไปแล้ว
โกรธจริงๆ!
จางเย่าหยางไม่สนใจมากนัก เดินหน้าเข้ามาด้วยท่าทางประจบเพื่อรับของขวัญล้ำค่านี้ เพราะการแต่งงานกับตระกูลเฉินมีแต่ได้กับได้อย่างเดียว
"คุณลุงเฉิน ฉันไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้" จางหลินซินวางของที่เฉินเค่อมอบให้กลับคืนไป
"เธอทำอะไร?" จางเย่าหยางตกใจ มือที่ยื่นออกไปครึ่งหนึ่งค้างอยู่กลางอากาศอย่างน่าอาย ของพวกนี้สามารถซื้อบ้านตระกูลจางได้หลายสิบหลัง แต่หลินซินบอกไม่ต้องการ?
ลูกสาวคนนี้มันอะไรกัน?!
"สินสอดของฉัน...ฉันตัดสินใจเองไม่ได้หรือ?"
"เลี้ยงแกมาขนาดนี้ ไม่ได้ให้แกทำตามใจ แกเรียนมหาวิทยาลัยไปเพื่ออะไร ไม่รู้จักกตัญญูพ่อแม่หรือไง?" จางเย่าหยางมองหลินซินด้วยสายตาคุกคาม จางหลินซินเบ้ปาก แสดงความเกลียดชัง ยุคนี้แล้วยังจะใช้เรื่องคุณธรรมมาบังคับอีกหรือ?
“แล้วคุณมีชีวิตยืนยาวไปทำไม? เมื่อสุดท้ายแล้วก็ต้องฝังอยู่ใต้ดิน”
“การกตัญญูต่อพ่อแม่ ไม่ใช่การตอบแทนความแค้นด้วยคุณธรรม และไม่ใช่ข้ออ้างที่แกจะมาควบคุมฉัน”
จางเย่าหยางรู้สึกกระอักกระอ่วมใจ เพราะความสัมพันธ์กับลูกสาวคนโตไม่ค่อยดีนัก
แต่เฉินเค่อกลับไม่พอใจกับท่าทีเย่าหยางที่แสดงออกมา ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่เห็นแก่ตัวขนาดนี้ เอาแต่หวังผลประโยชน์จากลูกตัวเอง ยังกล้าข่มขู่เธอต่อหน้าเขาอีก เห็นทีจะไม่กลัวตาย
“คุณลุงเฉิน ฉันตั้งใจจะมอบที่ดินชานเมืองให้เป็นสินสอด และเป็นของขวัญสำหรับคุณปู่เฉิน เพราะการที่ฉันแต่งเข้าไปในตระกูลเฉิน ไม่ได้เพื่อให้ตระกูลเฉินช่วยเหลือสถานะทางการเงินของตระกูลจาง ใช่ไหมคะ คุณพ่อ?”
จางเย่าหยางกำหมัดแน่น ที่ดินชานเมืองเป็นทรัพย์สินสำคัญที่เขาหวังจะใช้ประโยชน์ ตระกูลเฉินต้องการมานานแต่เขาไม่เคยยอมให้ ตอนนี้จางหลินซินกลับให้ไปง่ายๆ ได้ยังไง?! แต่เพื่อเห็นแก่หน้าเฉินเค่อ เขาจึงต้องตอบตกลง เพราะต้องการความร่วมมือจากตระกูลเฉินในอนาคต
“คุณผู้หญิงช่างเป็นคนมีน้ำใจจริงๆ” เฉินเค่อชื่นชมว่าที่ภรรยาของเจ้านายมาก
จากนั้นจางหลินซินก็ตามเฉินเค่อออกจากบ้านไป เธอกำลังจะได้พบกับเฉินจือหาน หัวใจเต้นกระหน่ำด้วยความรู้สึกหลากหลาย
บ้านเก่าตระกูลเฉิน
บ้านตระกูลเฉินตั้งอยู่ริมเขา สภาพแวดล้อมและอากาศดีมาก ล้อมรอบด้วยสายน้ำและต้นไม้โบราณ ตัวอาคารหลักสว่างสะอาด บ้านเก่านี้มีความเป็นผสมผสานระหว่างสไตล์ตะวันออกและตะวันตก หรูหราและไม่เหมือนใคร
จางหลินซินมองสิ่งที่คุ้นเคยทั้งหมดในบ้าน รู้สึกขมขื่นในใจ ชาติก่อนเธอมาที่บ้านเก่านี้หลายครั้งเพื่ออยู่กับคุณปู่เฉิน ท่านเอ็นดูเธอมากและอยู่ข้างเธอเสมอ เมื่อเข้าไปในห้องโถง เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของเฉินจือหาน เธอหายใจไม่ออก เหมือนกับพวกเขาแยกจากกันนานแสนนาน ทั้งที่เพิ่งตายไปพร้อมกันเมื่อวานนี้เอง! คุณปู่เฉินนั่งอยู่ตรงกลางมือถือชาเผยรอยยิ้มใจดี เรียกให้เธอนั่งข้างๆ
“สวัสดีค่ะคุณปู่เฉิน”
“อ้าว สวัสดี จางหลินซินโตขึ้นมากนะ ปู่ไม่ได้เจอเธอมาสิบกว่าปีแล้ว เด็กหญิงโตเป็นสาววัยสิบแปด เปลี่ยนไปจริงๆ ฮ่าๆ” คุณปู่เฉินหัวเราะหน้าบาน ท่านชอบหลานสะใภ้คนนี้มากยิ่งมองยิ่งชอบ
“คุณปู่พูดเกินไปแล้วค่ะ ร่างกายของคุณปู่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะ” จางหลินซินมองคุณปู่ที่สวมชุดถังจวงอย่างสง่างาม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่นและผมสีดอกเลา แต่ดวงตาสดใสเปล่งประกาย บ่งบอกถึงความมีชีวิตชีวา ความสง่างามและใจดี
ในชาติก่อนคุณปู่เฉินพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอกับเฉินจือหานคืนดีกัน ระหว่างทางท่านประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เมื่อรู้ข่าวร้ายเธอล้มป่วยไปครั้งใหญ่ และรู้สึกผิดกับคุณปู่ตลอดมา
“หลินซิน ได้ยินว่าเธอจะมอบที่ดินชานเมืองให้ตระกูลเฉิน และไม่ยอมรับสินสอดที่ปู่เตรียมให้ เธอควรรับไว้นะ ตระกูลเฉินมีทุกอย่างไม่ขาดอะไร”
“คุณปู่เฉิน นี่เป็นความตั้งใจของฉัน คุณปู่ต้องรับไว้ค่ะ จางหลินซินแต่งเข้าตระกูลเฉินไม่ใช่เพราะสินสอด”
“แล้วเธอทำเพื่ออะไรล่ะ?”
“เพื่อเฉินจือหานค่ะ”
ทันทีที่พูดออกไป ไม่เพียงแต่คุณปู่เฉินจะนิ่งอึ้ง เฉินจือหานที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็อึ้งไปด้วยแต่ไม่นานเขาก็กลับมาปกติ ไม่มีความรู้สึกใดๆ การแต่งงานทางครอบครัวเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับลูกชายคนโตของตระกูลเฉินเช่นเขา แต่ตอนนี้เขากลับสนใจผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ฮ่าๆๆ ดี ดีจริงๆ” คุณปู่เฉินหัวเราะอย่างมีความสุข
“จือหาน ไปเดินเล่นในสวนกับหลินซินเถอะ ปู่จะไปพักผ่อน”
ท่านพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไป เฉินเค่อและคนอื่นๆ เห็นได้ชัดว่าคุณปู่ต้องการให้ทั้งสองใกล้ชิดกัน
สวนตระกูลเฉิน
จางหลินซินยืนอยู่หน้าสวนดอกไม้ที่ว่างเปล่า ซึ่งพื้นที่ว่างนี้ควรเป็นสวนกุหลาบในชาติก่อน เพราะจางหลินซินชอบกุหลาบ เฉินจือหานจึงสั่งให้คนปลูกกุหลาบทั้งสวน เขามองจางหลินซินที่หยุดเดิน มองตามเธอไปเห็นสวนที่ว่างเปล่า
สวนที่ว่างเปล่ามีอะไรน่าดู? เฉินจือหานไม่เข้าใจ
“คุณดูอะไรอยู่?”
“ความทรงจำ”
เฉินจือหานคิดจะถามอีก แต่จางหลินซินเดินเข้ามาข้างใน เขาจึงไม่ถามต่อ ชายหนุ่มจัดห้องนอนข้างๆ ห้องของเขาให้หญิงสาว หลังจากจัดเรียบร้อยเขาก็กลับห้องไปนอน
มองดูเฉินจือหานที่เย็นชา จางหลินซินถอนหายใจ เธอไม่รู้ว่าเขาในชาติก่อนตกหลุมรักเธอเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ในใจและในสายตาของเขาไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อเธอ จางหลินซินรู้ดีว่านี่คือการแสดงออกของการไม่รัก
“จือหาน ไม่ว่าชาตินี้คุณจะรักฉันหรือไม่ ฉันจะใช้ทุกอย่างที่ฉันมีเพื่อรักและปกป้องคุณ ฉันจะรักคุณให้ดี”
จางหลินซินลูบประตูห้องของเฉินจือหาน พึมพำเบาๆ
จือหานยังมั่นคงต่อหงลินซินไหมน้าาาา
เป็นคืนที่วุ่นวายที่สุดในเมืองหลวง ถนนหลายสายถูกปิดกั้น รถติดเป็นทางยาว และท้องฟ้ายามค่ำคืนมีเครื่องบินส่วนตัวหลายลำบินผ่านไปมา ชาวเมืองคิดว่าเป็นการซ้อมรบทางทหาร จึงพากันซุบซิบหลินซินกับทีมที่เจ็ดที่อยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ถูกโจมตีจากหน่วยคอมมาโดต่างชาติอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเริ่มเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ แต่กระนั้นก็ยังคงยิงได้แม่นยำ แต่การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง ลูกกระสุนที่บรรจุก็ไม่ราบรื่นเหมือนตอนแรก ดูเหมือนว่าศัตรูจะไม่มีวันหมดสิ้น ฆ่าหนึ่งคนก็มีคนใหม่เข้ามาแทนหลินซินเหงื่อแตกพลั่ก ทั้งเหนื่อยและหงุดหงิด"ใช้ยุทธวิธีฝูงชน น่ารำคาญจริงๆ" เธอยิงศัตรูที่กำลังวิ่งเข้ามา ยิงได้แม่นยำและฆ่ามันได้ทันที"หัวหน้า ศัตรูเยอะเกินไป เราไม่มีทางชนะ พวกเราจะถูกพวกมันฆ่าหมดถ้ายังสู้แบบนี้" 001 เปลี่ยนกระสุนซุ่มยิง"ฉันรู้!" หลินซินขมวดคิ้ว ในขณะที่เธอกำลังคิดหาวิธีแก้ไข ทีมที่เจ็ดที่อยู่ในห้องฉุกเฉินก็มาวิ่งมาหา ในแววตาแสดงถึงความหวัง"หัวหน้า! ทีมฉุกเฉินย้ายผู้ป่วยสำเร็จแล้ว พวกเขาให้เรามาแจ้งข่าว"ขอบคุณพระเจ้า!หากการผ่าตัดล้มเหลวหรือยืดเยื้อไปกว่านี้ พวกเขาทั้งหมดอาจต้องสังเวยชีวิต เธอไม
เงียบเกินไป เงียบจนหน้ากลัว ในขณะนี้ เธอได้ยินเพียงเสียงคลื่นทะเลตึก...ตึก...ตึก...บอดี้การ์ดคนหนึ่งเอามือกุมบาดแผลที่หน้าอก เดินขากะเผลกเข้ามาหาหลินซิน ด้วยความเจ็บปวดเขาคุกเข่าลงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "นายหญิงหนีไปเถอะ...คุณชายมีอาการกำเริบ ครั้งนี้น่ากลัวมากไม่สามารถระงับได้ ผู้ช่วยเฉินให้ผมมาบอก คุณรีบออกจากเกาะตอนนี้เลย"หลินซินตัวเย็นเหงื่อท่วม เธอโยนของทุกอย่างในมือทิ้ง จับเสื้อของบอดี้การ์ดถามอย่างเร่งรีบ "ว่าอะไรนะ?! จือหานมีอาการกำเริบงั้นเหรอ ทำไมไม่แจ้งฉันเร็วกว่านี้!""นายหญิง เกาะที่คุณไปไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ข้อความจึงส่งไปไม่ถึง" บอดี้การ์ดไอเป็นเลือดในขณะนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของหลินซินส่งเสียงเตือน เธอดึงออกมาดูพบว่ามีสายเรียกเข้าและข้อความแจ้งเตือนมากมาย"แย่แล้ว!"หลินซินทิ้งโทรศัพท์วิ่งตรงไปยังบ้านพัก ศพของสาวใช้และบอดี้การ์ดนอนเกลื่อนกลาด เลือดท่วมเต็มห้องนั่งเล่น มีโทรศัพท์ตกอยู่ข้างโซฟา เฉินอวี้พยายามยื่นมือไปหยิบเพื่อเรียกความช่วยเหลือ แต่ในวินาทีต่อมา เฉินจือหานเห็นการกระทำของเขา ยิงปืนจนโทรศัพท์แตกเป็นเสี่ยงๆจือหานเดินมาหาเฉินอวี้ใช้ปืนจ่อที่หัวเขา ริมฝีป
หลินซินตื่นเพราะเสียงคลื่นทะเล และถูกปลุกด้วยการถูกใบไม้เกามือ เมื่อเธอลืมตาใบหน้าหล่อเหลาของเฉินจือหานก็ปรากฏตรงหน้า เขาหนุนศีรษะด้วยมือข้างหนึ่งและใช้ใบไม้ด้วยมืออีกข้างเกาเธอเล่น"ถ้าเธอไม่ตื่น ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ""…"เป็นเพราะถูกเกาจนตื่นต่างหาก! เฉินจือหานถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่ก็ไม่สนใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน หลินซินนั่งขึ้นด้วยความโกรธ แต่ด้วยแรงที่มากไป ผ้าห่มที่คลุมอกเธอก็เลื่อนลงมา เผยให้เห็นเรือนร่างเธอรีบคลุมผ้าห่มขึ้นกลิ่นของทะเลโชยเข้ามาในลำคอทำให้เธอรู้สึกแห้งผาก เมื่อมองไปรอบๆ ต้นมะพร้าวขนาดใหญ่บังแสงอาทิตย์ไว้ ปล่อยให้มีพื้นที่ร่มรื่น ที่นั่งของพวกเขามีผ้าพื้นเมืองสีสันสดใสรองไว้กันทราย"พวกเราเมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านเหรอ" สายลมทะเลพัดผมที่ต้นคอของหลินซินเบาๆ"ใช่ เห็นเธอนอนหลับสบายเกินไป ฉันไม่อยากปลุก เลยสั่งให้เฉินอวี้เอาผ้าห่มมาให้ เรานอนที่นี่ทั้งคืน""อย่างนี้ก็แปลว่า..."เฉินอวี้เห็นพวกเราหมดแล้วสิ! หลินซินหน้าแดงจัด เฉินจือหานหัวเราะในลำคอ ความอบอุ่นซ่านในใจ เขาคิดว่าเธอน่ารักเหลือเกิน"ยังจะหัวเราะอีก!" หลินซินขว้างหมอนอิงใส่สามีด้วยความโกรธ
คลื่นทะเลซัดสาดเข้าหาชายหาดราวกับจิตใจที่ปั่นป่วนของหลินซิน ดวงตาเธอแดงขึ้นเมื่อไรก็ไม่รู้ ใจเกิดความรู้สึกหวั่นไหวจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมา"ฉันก็รักคุณค่ะ จือหาน ชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหน ฉันก็จะรักคุณ"เฉินจือหานสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางของหลินซิน และจูบที่หลังมือเธอราวกับเป็นการสาบาน ทั้งสองนั่งที่โต๊ะ เขารินไวน์แดงให้เธอ"นี่คือ นี่คือน้ำแห่งความรักของเรา ดื่มเพื่อฉลอง""ดื่มเพื่อฉลอง"แก้วไวน์ชนกัน หลังจากดื่มไวน์แดงไปหลายแก้ว แก้มของหลินซินเริ่มแดง ตาเธอพร่ามัว และมีอาการเมา เฉินจือหานเข้ามาใกล้อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ลมหายใจร้อนของเขาพ่นลงบนลำคอ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ประคองใบหน้าของสามีและจูบเขา ทั้งสองแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม"ที่รัก เธอทำแบบนี้ ฉันก็แย่สิ…" เฉินจือหานพูดเสียงแหบมีนัยยั่วยวนหลินซินยกมือขึ้นไปแตะเป้ากางเกงของเขา ทำให้ชายหนุ่มมีปฏิกิริยาตื่นตัว เธออายจนก้มหน้าลง เฉินจือหานอุ้มภรรยามาที่ใต้ต้นมะพร้าว เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก วางรองหลังเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ทรายบาดผิว"จะทำที่นี่เหรอ..." หลินซินกัดริมฝีปาก มองไปรอบๆ สถานที่นี้ดีมาก มีป่ามะพร้าวใหญ่บังสายตาได้อย่างดี เป
หลังสถานการณ์สงบลงมีเสียงปิดประตูดังขึ้น เฉินอวี้ออกไปแล้ว เหลือเพียงเฉินจือหานนั่งดื่มเหล้าอยู่ในห้องทำงาน หนึ่งแก้ว…แล้วอีกแก้ว ดูเหมือนจะไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นเตรียมจะไปที่ระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ หลินซินก็รีบกลับไปที่ระเบียงของห้องนอนเมื่อกลับมาถึงห้อง หลินซินรู้สึกไม่สบายใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจร้อน แต่เรื่องที่เฉินจือหานถูกพิษ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก ตราบใดที่มาดามหมิงยังอยู่ที่บ้านตระกูลเฉิน การที่จือหานต้องอยู่ภายใต้การข่มขู่ของเธอเป็นเวลาหนึ่งวัน ทำให้มาดามหมิงเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นจุดอ่อนของลูกชาย การฆ่าคนง่าย แต่การฆ่าคนที่สามารถจับจุดอ่อนของตนได้มันยากมากหลินซินหยิบโทรศัพท์พิเศษออกมา และโทรหาหมายเลข 001“ไปตรวจสอบบุคคลที่ชื่อว่า หมิงฉวน ฉันต้องการให้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของหล่อนอย่างละเอียด ใช่, มันสำคัญมาก”สั่งเสร็จก็วางโทรศัพท์ลง เธอกลับไปนอนบนเตียงและห่มผ้าห่ม…แต่ลืมตาตื่นตลอดทั้งคืนเช้าวันถัดมาหลินซินตื่นขึ้นและพบว่า ฉินจือหานไม่ได้กลับมาที่ห้องนอน เขาอยู่ที่ห้องทำงาน ซึ่งเต็มไปด้วยขวดเหล้า จึงสั่งให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาด หลายวันผ่านไปหลินซินไม
“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงชายหนุ่มที่เย็นเยียบดังขึ้นมาดามหมิงหยุดมือ ซ่อนเจตนาฆ่าที่เพิ่งแสดงออกเมื่อสักครู่ กลับมามีท่าทางใจดีอีกครั้งเมื่อมองลูกชาย เขาเดินมาจากสวนไกลๆ เห็นหลินซินถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่บนสนามหญ้า ลมหนาวพัดผ่านผมของเธอ เขาโกรธสุดขีด ผู้หญิงของเขาไม่เคยต้องทนความอับอายแบบนี้!ปัง!เฉินจือหานหยิบปืนออกมา ยิงบอดี้การ์ดชาวต่างชาติสองคนที่กักขังหลินซินทันที ทั้งสองมีรูเลือดดำทมึนที่หัวล้มลงกับพื้นทันที หลินซินไม่มีที่พึ่งก็ล้มลงบนสนามหญ้า เฉินจือหานเดินมาอย่างรวดเร็วแล้วกอดภรรยาไว้ ใส่เสื้อคลุมให้เธอเมื่อเห็นเศษแก้วบนขาของหลินซินแ ละมือที่แดงจากการถูกน้ำร้อนลวก เฉินจือหานก็แทบเป็นบ้า ดวงตาสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยความโกรธรุนแรงพุ่งเป้ามองไปที่คุณนายหมิง “คุณกล้าแอบทำร้ายผู้หญิงของผม! หมิงฉวน!” ปลายกระบอกปืนจ่อที่หน้าผากมาดามหมิง หล่อนไม่หลบไม่หนี ยังคงมีท่าทางใจดีเหมือนเดิม“อาจือ ทำแบบนี้แม่จะเสียใจนะ” แกล้งร้องไห้และปล่อยน้ำตาหยดสองหยด“มันสมควรแล้วไหม แต่เดิมคุณซ่อนตัวอยู่ต่างประเทศ อยู่ไปจนตายก็ไม่มีใครสน แต่เมื่อกลับมาผมจะส่งคุณลงนรก ผลของการทำร้ายผู้หญิงของผมคือความตาย