“ไม่ดีใจหรือ ซีซวนสหายรัก ข้าอุตส่าห์ตามออกมาดูเจ้า สภาพเจ้าเวลานี้แม้แต่จะหลอกพวกโจรภูเขาว่าเป็นอนุของขุนนาง ยังยากจะยอมรับ น่าสมเพชเสียจริงสหายรัก”
“เป็นฝีมือเจ้า” เหอซีซวนเบิกตากว้าง ก่อนจะยกมือขึ้นชี้หน้าหญิงสาวด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ ทั้งใช่ และไม่ใช่ คิดว่าข้าจะทำทุกอย่างทั้งหมดนี่เองหรือ” หญิงสาวยกยิ้มยั่ว ก่อนจะหันไปทางกลุ่มคนร้ายพร้อมกับส่งสัญญาณให้บุกไปยังขบวนสมบัติที่เป็นสินเดิมของเหอซีซวน
“เจ้า!!”
เหอซีซวนพูดไม่ออก ใครจะคาดคิดว่าสหายสนิทจะพาคนมาปล้นชิงทรัพย์ของเขาที่กลางป่าเช่นนี้ แม้ว่าจะมีไอ้ใบ้คอยขัดขวาง แต่มีหรือคนเพียงคนเดียวจะสู้กับคนร้ายมากมายได้ ไอ้ใบ้ยังมีลมหายใจและยืนหยัดต่อสู้ได้จนถึงตอนนี้ ก็นับว่ามีฝีมือไม่น้อยแล้ว
ดวงตาของเหอซีซวนมองภาพนั้นด้วยความปวดใจ ก่อนจะหันกลับมามองสหายรักอย่างโกรธแค้น
“อย่ามองข้าเช่นนั้นเลย เจ้าโง่เองที่เดินทางออกมาพร้อมกับทรัพย์สมบัติมหาศาลโดยไร้คนคุ้มกันที่แข็งแกร่ง หากคนของข้าไม่ชิงไป พวกโจรภูเขาย่อมต้องมาปล้นชิงไปอยู่ดี ข้าล่ะถูกใจในความไร้เดียงสาของเจ้ายิ่งนัก บิดาคงทะนุถนอมมากจนทำให้เจ้าโง่งมเช่นทุกวันนี้”
“อย่ามาเอ่ยถึงบิดาของข้า ทุกอย่างมันเป็นเพราะเจ้า เพราะความเลวของเจ้า” เหอซีซวนตะเบ็งเสียงใส่อีกฝ่ายอย่างโกรธแค้น แม้เวลานี้จะตกอยู่ในสถานะที่ต่ำกว่าแต่เขาจะไม่ยอมให้คนผู้นี้มาเหยียบย่ำเขาเด็ดขาด
เซี่ยอ้ายเหม่ยมองอีกฝ่ายด้วยสายตามืดครึ้ม ก่อนจะตอบกลับ
“จะตายอยู่แล้ว ยังปากดีอีกนะ ข้าอุตส่าห์ลดตัวไปเป็นสหายของบุตรเกอของคหบดีเสียตั้งหลายปี เจ้าควรจะขอบใจข้ามากกว่า อีกอย่าง สมบัติพวกนี้ยกให้ข้าเสียเถิด อีกหน่อยเจ้าตายไปอยู่ที่ปรโลก คงไม่ได้ใช้”
“ต่ำช้า เจ้ามันคนต่ำช้า เจ้าทำลายชีวิตข้า เหยียบย่ำศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของข้า แล้วยังกล้ามาปล้นชิงทรัพย์ข้าอีกหรือ อ้ายเหม่ย นังสารเลว”
“สหายรัก เจ้ายังไร้เดียงสาไม่เปลี่ยนเลยนะ” เซี่ยอ้ายเหม่ยย่างสามขุมเข้าไปหาสหายเกอที่นั่งตัวสั่นเทาอยู่ที่พื้น พร้อมกับฉวยดาบในมือของคนร้ายมาถือไว้อย่างมาดมั่น
“เหอซีซวนเอ๋ย เหอซีซวน เจ้ามันไร้เดียงสาแต่ก็ควรมีขอบเขตเสียบ้าง เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของข้า เจ้าเคยสงสัยหรือไม่ เจ้าแต่งงานกับพี่ตงหยางมาสามปี เหตุใดจึงไม่เคยตั้งครรภ์”
เหอซีซวนนิ่งเงียบ ทว่าสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
หวาดกลัวความจริงบางอย่าง ที่จะทำให้เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น
“หาใช่ฝีมือสหายรักเช่นข้า แต่เป็นฝีมือของตระกูลถานต่างหาก ถานตงหยางไม่คิดจะมีบุตรและผูกมัดกับเกอจากตระกูลคหบดีเช่นเจ้า เขาแค่ต้องการทรัพย์สมบัติของเจ้าเพื่อหน้าที่การงาน เขาไม่เคยรักเจ้าเลย มารดาของเขาก็รังเกียจเกออย่างเจ้าแต่ต้องทนกล้ำกลืน พวกเขาวางยาเป็นหมันให้กับเจ้ามาตลอดเวลา ด้วยคิดว่าต้องมีคนที่เหมาะสมกับถานตงหยางมากกว่าบุตรของคหบดี เวลานี้บิดาของเจ้าจากไป ทรัพย์สมบัติของบ้านเดิมกลายเป็นของน้องชายต่างมารดา เจ้าไร้ทรัพย์สมบัติมาสนับสนุนสามี มีหรือท่านแม่และพี่ตงหยางจะเก็บเจ้าเอาไว้ บัดนี้บุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการเช่นข้า ย่อมเหมาะสมกับเขามากกว่าเจ้า”
“ไม่..ไม่จริง” ดวงตาคู่แดงช้ำหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสาย เหอซีซวนแทบไม่อยากเชื่อ กับความจริงจากปากของเซี่ยอ้ายเหม่ย น่าเศร้าที่เพราะเป็นสหายมานานจึงมองออกว่า ครั้งนี้อีกฝ่ายมิได้โกหกเขาแม้แต่น้อย
“ที่เจ้าต้องกลายเป็นชู้กับไอ้ใบ้ ย่อมเป็นฝีมือของคนตระกูลถาน พวกเขาวางยาเจ้าแล้วสร้างสถานการณ์เสมือนกำลังสวมหมวกเขียวใต้เท้ารองเจ้ากรมโยธา ข้าก็แค่ช่วยป่าวประกาศเล็กๆ น้อยๆ เพียงเท่านั้นเอง”
“ไม่ ข้าไม่เชื่อ”
เซี่ยอ้ายเหม่ยเห็นท่าทีสติแตกของสหายเกอก็รู้สึกสาแก่ใจ ที่ผ่านมา แม้เธอจะเป็นคุณหนูลูกสาวขุนนางชั้นผู้ใหญ่ แต่กลับไม่เคยได้ฉายแสงเมื่ออยู่เคียงข้างกับเหอซีซวน คนงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง บัดนี้ถึงเวลาของเธอแล้ว
ถึงเวลาที่เธอจะได้บดขยี้คนงามที่น่ารังเกียจผู้นี้
“ไม่ต้องห่วงทรัพย์สมบัติหรอกนะ เพราะข้าจะนำไปใช้กับพี่ตงหยางอย่างสุขสำราญ เพราะเขานั่นแหละที่เป็นผู้สั่งการให้นำคนมาปล้นทรัพย์สมบัติกลับไปยังตระกูลถาน สหายรัก เจ้าต้องขอบใจข้าให้มากนะ จดจำบุญคุณที่ข้านำความจริงมาบอกเจ้าก่อนตาย แถมยังเดินทางมาส่งเจ้าไปปรโลกด้วยตัวเองด้วย ลาก่อนสหายรัก ลาก่อนตลอดกาล”
สิ้นคำพูด เธอก็เงื้อดาบขึ้นแทงเข้าไปที่กลางอกของเหอซีซวนทันทีอย่างไม่ลังเล เหอซีซวนนั้นเบิกตากว้าง ก่อนที่ความเจ็บปวดจะแล่นปราดขึ้นมาจากกลางอก เขามองหญิงสาวด้วยสายตาเคียดแค้น ก่อนจะค่อยๆ ปิดตาลงช้าๆ
เจ็บเหลือเกิน แต่ที่เจ็บเสียยิ่งกว่าแผลที่แทงก็คือ ความเจ็บปวดจากการโดนหักหลัง เวลานี้เขาไม่เหลือใครแล้ว สามีที่ครองรักมานานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด บ่าวไพร่ตายจากไปหมด บิดาก็ไม่อยู่แล้ว
เขาไม่เหลือใครแล้วจริงๆ พอกันทีชีวิต
น่าเสียดายที่เหอซีซวนไม่มีโอกาสเดินทางไปถึงตระกูลหลิวที่เหิงเยว่ บ้านเดิมของมารดา มือเรียวกำหยกรูปหงส์แดงไว้แน่นราวกับเป็นที่ยึดเหนี่ยว ก่อนจะหมดลมหายใจ
ฉับพลัน หยกในมือก็เปล่งแสงสว่างออกมาราวกับรับรู้ถึงความเจ็บปวดก่อนสิ้นใจของผู้มีสายเลือดตระกูลหลิว
ทายาทคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ของตระกูลหลิวได้จากไปแล้ว
ห้าปีต่อมาหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในเมืองหลวงเมื่อห้าปีก่อน จวนตระกูลหลิวก็ปิดเงียบมาตลอด ฮ่องเต้เฉินเฟยหลงนั้นเหนื่อยใจไม่น้อยที่อุตส่าห์พาตัวทายาทตระกูลหลิวกลับมาอยู่ในเมืองหลวง แต่อีกฝ่ายก็ยังคงมีนิสัยเหมือนกับต้นตระกูล นั่นคือเกลียดความวุ่นวาย สิ่งที่หลิวซีซวนขอพระราชทานเป็นรางวัลจากเขาคือ การที่เขาสามารถอยู่เฉยๆ ได้ และปฏิเสธการเข้าพบคนจากราชสำนักหรือใครหน้าไหนก็ตามเขาจะต้องการอะไรอีกเล่า ในเมื่อยามนี้ได้สามีแล้ว เงินทองก็มีจนไม่รู้จะใช้ยังไงหมด ทรัพย์สมบัติในคลังสมบัติตระกูลหลิวก็ถูกเก็บไว้อย่างดีที่บ้านตระกูลหลิวที่เหิงเยว่โดยมีท่านตาตู้เฉิงเป็นผู้ดูแลด้านตู้เจาและตู้ลี่จูนั้นหลังจากเริ่มกิจการของตัวเอง ยามนี้ก็กลายเป็นร้านค้าชื่อดังที่มีหลายสาขา การงานการเงินมั่นคง ส่วนบุตรชายอย่างอาจ้านก็กำลังเตรียมสอบเข้าโรงเรียนหมอตามที่ตั้งใจไว้ หลิวซีซวนภูมิใจไม่น้อยที่คนข้างกายเขากำลังไปได้ดีกันทุกคน“กรี๊ดดดด อ๊ากกกกกกก”ยามนี้เสียงกรีดร้องกลับดังออกมาจากจวนตระกูลหลิวในเมืองหลวง บ่าวไพร่พากันวิ่งวุ่น ยามนี้สองจวนทุบกำแพงเข้าหากันจนกลายเป็นจวนขนาดใหญ่ ยิ่งเป็นการเสริมบารมีให้หลิวซีซวนแ
“เจ้ารู้ข่าวของถานตงหยางแล้วใช่หรือไม่”“ตอนนั้น ข้าเห็นเขาจากในภาพนิมิตแล้ว สุดท้ายคนผู้นั้นก็ถูกฆ่าตายอย่างไร้ค่ายิ่งนัก”“แล้วเจ้า..ไม่เสียใจหรือ” เซวียนจางหย่งนั้นเป็นบุรุษใจกว้าง เขารู้ดีว่าเขากำลังแต่งให้กับคนงามที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว เขาตระหนักอยู่เสมอว่า แม้หลิวซีซวนจะเลิกรากับอีกฝ่ายไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไร้เยื่อใย อย่างไรก็คนที่เคยอยู่กินกันมาหลายปี“ไม่หรอก เขาสมควรตายจริงๆ คนเช่นนั้นอย่างไรก็คิดไม่ได้ วันข้างหน้าย่อมต้องก่อการเลวร้ายอีกแน่ นับว่าความแค้นระหว่างข้าและเขาได้จบสิ้นในชาตินี้อย่างสมบูรณ์แล้ว” หลิวซีซวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เรียกรอยยิ้มจากบุรุษรูปงามได้ไม่น้อยตัดเวรกันได้แล้วก็ดีชายหนุ่มก้าวเข้ามา ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้าสู่อ้อมกอดแนบชิดทั้งสองร่างจากทางด้านหลัง แก้มนวลขึ้นสีเล็กน้อยทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่ผ่านมาเหอซีซวนนั้นเป็นคนซุกซนชอบเรื่องสนุกสนาน แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาก็ซึมลงไปถนัดตาจนน่าเป็นห่วง เขานึกไปว่าอีกฝ่ายเสียอกเสียใจเรื่องอดีตสามีเสียอีก แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังมีบางเรื่องรบกวนจิตใจเกอคนงามอยู่“แล้วเมื่อกี้ เจ้ากำลั
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นเมืองหลวง ก็ถึงเวลาแห่งการฟื้นฟู โชคดีที่นอกจากจัตุรัสกลางเมืองแล้ว ไม่มีสิ่งใดพังทลาย ทว่าก็มีชาวบ้านโดนลูกหลงจนบาดเจ็บเป็นจำนวนไม่น้อย จนฮ่องเต้ต้องประกาศเรียกตัวหมอตามเมืองต่างๆ ให้เร่งเข้ามาช่วยรักษาอาการให้ปลอดภัยสิ่งที่ทำให้ผู้คนนึกทึ่งในช่วงเวลาวิกฤตก็คือ องค์ชายห้าจอมเสเพลนั้น แท้จริงแล้วเป็นเจ้าของที่แท้จริงของห้องอาหารส่องดาว พระองค์นำอาหารจากห้องอาหารมาเปิดโรงทานแจกจ่ายให้กับผู้คนอย่างไม่รอช้า เหล่าองค์ชายคนอื่นก็ไม่น้อยหน้า เมื่อได้เวลาแสดงความสามารถก็ต่างพากันช่วยฟื้นฟูบ้านเมืองกันอย่างเต็มกำลังสถานการณ์ในเมืองจึงกลับมาสู่สภาพปกติดังเดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือกลุ่มขุนนางชั่ว งานนี้ความผิดประจักษ์เห็นต่อหน้า จวิ้นอ๋องกำเริบเสิบสาน ตั้งใจชิงบัลลังก์ถึงขั้นกล้าลงมือกับประชาชนโดยมีขุนนางหลายคนหนุนหลัง ฮ่องเต้แต่ไหนแต่ไรประนีประนอม ใจอ่อนให้จวิ้นอ๋องที่มีอำนาจฝั่งมารดาถ่วงดุลอยู่ไม่น้อย แต่เมื่ออีกฝ่ายตายไปแล้ว เขาก็ไม่คิดจะยั้งมือกับพวกขุนนางทั้งหมดที่ร่วมก่อการในครั้งนี้หนึ่งในนั้นก็คือ เสนาบดีเซี่ยโม่โฉว วันนั้นเลี่ยงชิงและเลี่ยงหรงใ
“หลานรัก” เสียงเพรียกดังขึ้นมาแต่ไกล เขาหลับตาลง ก่อนจะพบว่าตนเองมาโผล่อยู่ในมิติส่วนตัวของตนอีกครั้งในที่นี้นั้นสงบเงียบและปลอดโปร่ง ต่างจากโลกแห่งความจริงที่เขากำลังเผชิญ ท่านตาหลิวหงชิงกำลังจิบชาร้อนด้วยท่าทางผ่อนคลาย ก่อนจะหันมายิ้มให้เขา“ท่านตา เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”“ข้ารู้แล้ว เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหา”“แต่ท่านตา ผู้คนกำลังจะตาย ข้าเองก็จะไม่ไหวแล้ว”“ชู่ หลานรัก ทำใจให้สบาย ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่า วันนี้เจ้าต้องมีสติให้มาก” หลิวหงชิงยกยิ้มอ่อนโยนให้กับหลานคนเดียว ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้“ข้าพยายามเต็มที่แล้ว ท่านตา แต่ข้าจัดการพวกมันไม่ได้ ข้าช่วยใครไม่ได้เลย”“ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าทำดีแล้ว เด็กดี ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพื่อให้มีชีวิตที่ดี ได้สร้างครอบครัวดั่งที่ใจปรารถนา ข้าไม่ได้ตั้งใจจะให้เจ้าต้องรับศึกหนักเช่นนี้” ชายชราปลอบหลานชาย ก่อนจะเอ่ยต่อ“เวลาที่ผ่านมา ข้าติดอยู่ในมิติส่วนตัวนี้มานานเกินไปเหลือเกิน ยามนี้เหอซีซวนได้รับการปลดปล่อยแล้ว ตัวข้าที่เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยววิญญาณก็ควรถึงเวลาต้องไปแล้วเช่นกัน”“ท่านตา ท่านจะไปไหน ท่านไปแล้ว ข้าจะอยู่กับใคร” “เจ้าก็อยู่กับสามี
เขาจะทำอะไรได้ ยามนี้แค่ทรงตัวยืนอยู่ แล้วตั้งรับดาบที่เข้ามารอบทิศก็ลำบากมากแล้ว และก่อนที่เขาพลาดท่าก็มีใครบางคน ปรี่มาช่วยเขาเสียก่อน“คุณชายหลี่” ใช่แล้ว คือพ่อหนุ่มดวงมหาโชคคนดีคนเดิมนั่นเอง ดูจากฝีไม้ลายมือ เขาก็พอจะดูออกว่าคนผู้นี้นั้นไม่สันทัดเรื่องการใช้กำลังเท่าไหร่นัก ไม่แปลกใจที่ได้ทำงานสายผู้ตรวจการมากกว่าจะไปทางทหาร แบบเซวียนจางหย่ง“หลิวซีซวน เจ้าระวังตัวด้วย”“สามีข้าเป็นอย่างไรบ้าง”หลี่เฉียงฮุยถึงกับหันกลับมามองเขา ด้วยสายตาเหลือเชื่อ“เจ้าห่วงชีวิตสหายข้ามากกว่าชีวิตตนเองอีกหรือ รีบเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ข้าเองก็ไม่รู้จะช่วยเจ้าต้านไว้ได้มากเพียงใด”“คุณชายหลี่ ท่านช่วยหยุดโจวเฟิง มันจะจุดเทียนอีกครั้ง ค่ายกลชิงดวงจะกลับมาทำงานได้ใหม่” หลี่เฉียงฮุยมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที เขาสองคนถูกรุมล้อมรอบด้าน จนแทบจะเอาตัวไม่รอดเช่นนี้ จะทำอะไรได้“งั้นเอาเช่นนี้ก็แล้วกัน” หลี่เฉียงฮุยถือคติว่า อะไรทำได้ก็ให้ทำไปก่อน เขาดึงมีดสั้นที่ซ่อนอยู่ออกมา ก่อนจะปาไปทางโจวเฟิงหวังปลิดชีพถึงจะปลิดชีพไม่ได้ แต่ทำลายสมาธิมันได้ก็ยังดีแต่ใครจะไปคาดคิดในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมีดสั้นพ
หลิวซีซวนค่อยๆ ลุกขึ้นมาช้าๆ ด้วยแรงแค้นที่แน่นอก หากคนตกใจสามารถยกโอ่งหนีไฟไหม้ได้ คนที่กำลังโกรธก็น่าจะยกภูเขาได้ไม่ต่างกัน โดยที่ไม่มีใครคาดฝัน เกอคนงามร่างบางที่เมื่อครู่ยังซวนเซ กลับเดินไปยกแท่นพิธีที่หักครึ่งแล้วทุ่มไปทางโจวเฟิงอย่างไม่ออมมือตู้ม!!!โจวเฟิงนั้นแม้บาดเจ็บอยู่ แต่ประสาทสัมผัสยังคงเฉียบคม เขาจึงกระโดดหลบแท่นหินขนาดใหญ่ได้อย่างหวุดหวิด“นี่เจ้า”“หมาลอบกัด เจ้าแอบซ่อนอยู่ข้างกายข้าและจางหย่งมาตลอด” หลิวซีซวนตวาดดังลั่น เสียงสั่นด้วยความโมโห“แล้วอย่างไร บุรุษผู้นี้มันโง่เอง มันกล้าบุกเข้ามาสอบสวนข้าเพียงลำพัง ทั้งที่รู้ว่าข้านั้นเป็นหลวงจีนที่มีวิชาอาคม สุดท้ายมันก็ถูกข้าใช้วิชาสับเปลี่ยนวิญญาณ และปล่อยให้มันตายไปกับร่างเดิมของข้าในคุก ฮ่าๆๆ”“เจ้ามันสารเลว เพราะเจ้า ผู้คนถึงได้เดือดร้อน เจ้าไม่ได้ต้องการช่วยจวิ้นอ๋องให้ครองบัลลังก์ เจ้าก็แค่ต้องการละเลงเลือดทาแผ่นดินก็เท่านั้น เจ้ามันปีศาจชัดๆ ไม่ต้องพูดมาก เจ้าจะเป็นใครก็ช่าง ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดไปได้แน่ กล้าทำร้ายคนของข้า เช่นนั้นเจ้าก็จงรับผลกรรม” หลิวซีซวนหยิบดาบขึ้นมาถือไว้พร้อมกับกระชับไว้แน่น พร้อมที่จะโ