Share

ตอนที่ 2 ทาสในเรือน

last update Huling Na-update: 2025-04-20 10:00:43

หลังจากเดินทางรอนแรมหลายเดือน ในที่สุด กลุ่มพ่อค้าทาสก็เดินทางถึงเมืองหน้าด่านของแคว้นซีเป่ย แม้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับแตกต่างจากบ้านเกิดที่ทุกคนจากมามากนัก

หลินซินอี๋ถูกล่ามโซ่แล้วขังไว้ในกรงไม้ใหญ่ รวมกับคนอื่น ๆ ผู้คนต่างผ่านไปมาพลางหยุดมองดูคนที่อยู่ด้านใน ในสายตาของพวกพ่อค้านั้นมองว่านางเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งทั่วไปเพราะความมอมแมม เปื้อนดินทรายปิดบังผิวพรรณที่แท้จริงของนางไว้

ทว่า สายตาแหลมคมของชายผู้หนึ่งวัยสามสิบจ้องมองนางไม่วางตา ราวกับเห็นในสิ่งที่คนผู้อื่นมองไม่เห็น เขาเดินแหวกฝูงชนเข้ามาถึงขอบลูกกรง นั่งลงอยู่ข้าง ๆ แล้วยื่นมือมาจับคางของนางหันมาทางเขา จากนั้นยิ้มร้ายอย่างมีแผน

“ข้าซื้อนาง” เขากล่าวกับพ่อค้าทาสอารมณ์ดี ให้อัฐไปสองถุงใหญ่ สร้างความตกตะลึงให้กับคนที่อยู่แถวนั้นอย่างมาก

ใครต่อใครที่ได้เห็นคงจะคิดว่าเขาเป็นเศรษฐีผู้ใจบุญ คอยช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก แต่นั่นก็เป็นเพียงฉากหน้าที่เขาสร้างขึ้นมาเท่านั้น ฐานะที่แท้จริงของเขาคือตระกูลเซี่ย ขุนนางระดับกลางผู้ปกครองตำบลเหลียนจู มีสิทธิ์เด็ดขาดในการตัดสินทุกสิ่งอย่างแต่เพียงผู้เดียว

“ขอบคุณใต้เท้า ขอบคุณ” พ่อค้าทาสเปิดดูในถุงยิ้มแป้น เย็นนี้คิดจะเที่ยวหอเริงรมย์ให้หนำใจ คลายความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางหลายเดือน

หลินซินอี๋เดินตามชายผู้นั้นมา ครานี้ได้นายใหม่ที่ต้องดูแลรับใช้แล้ว งานบ้านงานเรือน นางสามารถทำได้ไม่บกพร่อง เพราะได้แม่บ้านตระกูลก่อนช่วยสอนงานให้ แต่การเป็นทาสในครั้งนี้ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ทันทีที่มาถึงจวนสกุลเซี่ย ชายผู้นั้นสั่งให้แม่บ้านพาตัวนางไป จัดหาที่นอน เสื้อผ้าและอาหารให้นางอย่างที่ควรจะเป็น หลินซินอี๋ไม่ทันได้สังเกตสายตาของแม่บ้านวัยกลางคนที่กำลังมองนางด้วยความสงสารเวทนา ทั้งยังฮูหยินเอกที่เดินมาหาชายผู้นั้น ยังคงปราดตามองนางแวบเดียว ก็รู้ได้ว่าสามีของนางกำลังคิดอะไรอยู่

“ท่านพี่...” ฮูหยินเซี่ยกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ถูกสายตาของเขาตวาดกลับมาจนไม่กล้า นางมองค้อนหลินซินอี๋ก่อนเดินไปอีกทาง

หลังจากได้อาบน้ำ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ ผิวพรรณของนางที่เคยเปรอะเปื้อนก็กลับมาผุดผ่องดังเดิมสมกับเป็นคุณหนูจากตระกูลขุนนาง

วันรุ่งขึ้น เซี่ยเวยผู้นั้นก็เรียกให้นางเข้าพบ หลินซินอี๋ถือถาดอาหารเช้าเดินเข้าไปหาเขาอย่างไม่คิดอะไร ทันทีที่ได้เห็นนาง เขาจ้องมองไม่วางตา สายตาไล่เรียงพินิจดูตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ดูไม่ผิดจริง ๆ” เขาเอ่ยเบา ๆ แล้วเอื้อมมือไปจับข้อมือของนาง

หลินซินอี๋ตกใจ ดึงมือตนเองกลับอย่างรวดเร็ว ปัดชนถ้วยน้ำแกงที่วางอยู่บนโต๊ะจนกระเด็นใส่เสื้อผ้าของเซี่ยเวย แต่เขากลับยิ้มมุมปากแล้วพูดกับนางเสียงราบเรียบ

“เจ้าทำเสื้อผ้าข้าเลอะหมดแล้ว สมควรโดนโบยหรือไม่” เซี่ยเวยถามนาง พยายามให้ข้อเสนอ

“นายท่านโบยข้าได้ตามสมควรเลยเจ้าค่ะ” หลินซินอี๋ตอบเขาไม่สะทกสะท้าน โดนโบยจะเจ็บสักเท่าใดกัน นางเคยโดนพวกพ่อค้าทาสทุบตียังผ่านมาได้

ทว่า คนแซ่เซี่ยผู้นี้ได้ยินคำตอบของนางนั้นเกิดไม่พอใจ เขากระตุกคิ้ว แล้วคว้าเอวร่างบางของนางเข้ามาใกล้ สตรีตรงหน้าคงไม่ใช่คนที่จะยอมโอนอ่อนต่อความต้องการของเขาอย่างง่ายดายเสียแล้ว และสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดคือการบีบบังคับผู้อื่น โดยเฉพาะเหล่าทาสในเรือน

“นายท่าน ปล่อยข้า!” นางพยายามใช้มือสองข้างผลักหน้าอกของเขา แต่แรงของนางกลับสู้ไม่ได้

“เฮอะ... เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ข้า” เขายิ้มเยาะนาง แล้วปล่อยให้เป็นอิสระ

หลินซินอี๋ รีบถอยให้ห่างจากเขาแล้วหยิบเสื้อผ้าตัวใหม่มาให้ ก่อนจะถอยหลังไปที่ประตู เตรียมจะเผ่นหนีจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจ

“ขยับอีกก้าวเดียว คืนนี้ ข้าจะ...” นางไม่กล้าก้าวเท้า ร่างกายนิ่งงันไปชั่วครู่ คิดทบทวนสิ่งที่เขาพูดอีกครั้ง “เจ้าทำเสื้อผ้าข้าเลอะ เช่นนั้น เจ้าควรจะรับผิดชอบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้าก่อนไม่ใช่หรือ” เซี่ยเวยลุกขึ้นยืน กางแขนสองข้างออก รอนางหันกลับไปหา

หลินซินอี๋ยังคงยืนอยู่ที่เดิม สายตาเหลือบมองซ้ายทีขวาที ในใจนึกว่าจะทำอย่างไรเพื่อหนี บ้านเดิมที่นางเคยอยู่ แม้จะฐานะทาส ก็ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้

เซี่ยเวยไม่รอให้นางได้คิดอะไรมากมาย เขาค่อย ๆ เดินมาใกล้แล้วก้มลงพูดข้างหูของนาง “เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้า เดี๋ยวนี้!”

นางได้แต่ยอมหันกลับมาทำตามคำสั่งของเขาแต่โดยดี ระหว่างที่เปลี่ยนเสื้อผ้า สายตาของเขายังคงโลมเลียนางไม่หยุด หากเป็นแต่ก่อนที่พี่ชายของนางยังอยู่ คนตรงหน้าต้องมีเลือดตกยางออกไปบ้างแล้ว นึกเช่นนั้น นางได้แต่เศร้าสร้อยในใจ แววตาวูบไหว

ราวกับว่าวันนี้ เซี่ยเวยเล่นกับใจของนางจนอิ่มหนำแล้ว เขาจึงปล่อยให้นางได้อยู่อย่างสงบสุขอีกคืน แต่มีหรือ จะยอมให้เวลาร่วงโรยนานไปมากกว่านั้น ในเมื่อใจนางไม่ยอมเขาก็พร้อมจะข่มเหง

คืนวันต่อมา เซี่ยเวยเรียกนางไปหาที่ห้อง บอกแต่เพียงว่าให้ช่วยระวังไฟในเตามอด คอยเติมถ่านในค่ำคืนแสนเหน็บหนาว

ระหว่างทางไปเรือนของเขา ทุกอย่างดูปกติเสียจนไม่ทันได้เอะใจ ทันทีที่นางก้าวเท้าเข้าไปในห้องของเขา ทาสและคนรับใช้อื่น ๆ ต่างพากันกุลีกุจอกลับที่พักของตนเองอย่างรู้งาน

หลินซินอี๋ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเซี่ยเวยผู้นี้ ตกหลุมพรางในทันที นางพยายามจะวิ่งหนีมาข้างนอก แต่ถูกเขาเอื้อมมือมาดึงปลายผมเอาไว้ พลันกระชากให้นางถอยกลับมาด้านใน

“นายท่าน ปล่อยข้าไปเถิด” นางอ้อนวอนเสียงสั่นเครือ คิดขอร้องเขาเผื่อคนผู้นี้จะมีเมตตาธรรมในใจอยู่บ้าง

“ปล่อยอย่างนั้นหรือ ข้าช่วยเจ้าจากพวกค้าทาส ให้เจ้าได้มีที่ซุกหัวนอน ไม่คิดจะตอบแทนข้าบ้างหรือ” เขาพูดกับนางราวกับว่าเป็นผู้มีพระคุณ เมื่อดึงตัวนางมาใกล้แล้ว เขาเอื้อมมือโอบเอวของนางเอาไว้ มืออีกข้างยังคงขยุ้มที่หัวของนาง บังคับให้อยู่นิ่ง ๆ

“นายท่าน ข้าขอร้อง” เสียงของนางไม่ได้ทำให้ม่านศีลธรรมของเขาสะทกสะท้านใด ๆ

เซี่ยเวยก้มลงจูบนาง แต่หลินซินอี๋พยายามปกป้องตัวเอง นางกัดริมฝีปากของเขาจนเลือดไหล เขาจึงบีบคอของนาง แล้ววาดฝ่ามือตบใบหน้าน้อย ๆ หลินซินอี๋ทรุดตัวล้มลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

คนตรงหน้ากลับแสยะยิ้มให้นาง เหมือนได้เจอสิ่งที่ทำให้หัวใจนั้นชุ่มฉ่ำ ไม่ว่านางจะต่อต้านเขามากเท่าใด เซี่ยเวยผู้นี้ก็ยิ่งชอบใจมากขึ้น แล้วคืนนั้น หลินซินอี๋ก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือราคะของเขา

รุ่งเช้าวันต่อมา

หลินซินอี๋ยังคงนอนอยู่บนฟูกหนาที่เรือนของเซี่ยเวย ร่างกายไร้เรี่ยวแรงจะลุกเดิน เนื้อตัวมีแต่รอยช้ำและรอยแสดงความเป็นเจ้าของ ใบหน้าของนางมีคราบน้ำตาไหลเปรอะเปื้อน สายตาเหม่อลอยไม่มีที่สิ้นสุด

“เจ้าตอบแทนบุญคุณได้ดีทีเดียว ซินอี๋” เซี่ยเวยกระซิบข้างหูของนาง เสียงหัวเราะในลำคอเด่นชัดว่าเขากำลังสนุกสนาน ในหัวมีแต่เรื่องอย่างว่าวนเวียน

ทุกคนในเรือนต่างรู้กันดีว่า หัวหน้าสกุลเซี่ยนั้นป่าเถื่อน โหดร้าย ไม่มีผู้ใดกล้ามีปากเสียงกับเขา เลี่ยงได้จำต้องเลี่ยง อะไรที่ไม่เกี่ยวกับตนก็อย่าได้เข้าไปยุ่ง มิเช่นนั้นแล้ว ชีวิตก็ไม่อาจรักษาไว้ได้

ทว่า สิ่งเหล่านี้มิอาจเล็ดลอดไปสู่สายตาชาวบ้านนอกรั้วกำแพงได้ ผู้คนภายนอกต่างเห็นภาพเซี่ยเวยที่อารมณ์ดี สุขุม และมีไมตรีต่อทุกคน ฉากหน้าและเบื้องหลังต่างกันราวฟ้ากับเหวสุดพรรณนา

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 3 ลอบทำร้ายประมุข

    รุ่งเช้าวันต่อมา สีหน้าเรียบเฉยของคนผู้หนึ่งยืนดูเหตุการณ์ชุลมุนอยู่ข้างบนระเบียงชั้นสองของโรงเตี๊ยม เขาไม่มีทีท่าสะทกสะท้านหวาดกลัวเฉกเช่นคนทั่วไป พลันรอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นเพราะแน่ใจแล้วว่าผู้ที่สร้างเรื่องทั้งหมดหวังสิ่งใด “ตามตัวได้หรือไม่” เสียงเย็นชาถามลูกน้องคนสนิท มือข้างหนึ่งถือถ้วยชายกดื่มสบายอารมณ์ “ยังไม่พบขอรับนายท่าน” เขารายงานตามความจริง นับตั้งแต่รับคำสั่งจากหวังเยี่ยนหลง เขาออกเดินทางสืบเสาะไปทั่วแคว้นซีเป่ย ในที่สุดก็พบว่าคนผู้นี้แอบหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองเฟิง ใช้วิชาของตนเองหลบหนียามเมื่อถึงคราวจวนตัว เพียงแต่ครานี้ เขากลับทิ้งร่องรอยไว้ชัดเจนมากเกินไปจนผิดสังเกต “นายท่าน กำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ” ชายอีกคนเอ่ยปาก “เห็นหรือไม่ว่าเจ้านั่นตั้งใจทิ้งร่องรอยของปราณมารเอาไว้” เขาชี้ไปยังข้างล่างที่มีทหารสี่ห้านายกำลังเก็บศพของชายขอทาน “วิชาของหลินหลีเหว่ยไม่เคยมีร่องรอยเช่นนั้น” “เพราะเหตุใดเล่าขอรับ” ลูกน้องทั้งสองคนยังคงไม่เข้าใจ แต่เจ้านายของพวกเขากลับคาดการณ์แผนทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 2 เหตุการณ์แปลกต่างเมือง

    สุดท้ายแล้ววันนั้นเหลียนเฟินก็ผ่านการสอบมาได้ กลายเป็นศิษย์ที่เหล่าอาจารย์และเพื่อนพ้องร่วมสำนักภาคภูมิใจ อาจารย์อาจึงตกรางวัลเขาด้วยวันหยุดพักผ่อนห้าวันพร้อมอัฐอีกหนึ่งถุงใหญ่เอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว กระนั้นความฝันที่จะได้นอนเล่นอยู่เงียบ ๆ ก็สลายไปเมื่อศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา สีหน้าตื่นเต้นเหมือนจะได้ออกไปนอกสำนัก “เหลียนเฟินนนน” นางเรียกศิษย์น้องพร้อมรอยยิ้มเลศนัย เหลียนเฟินจึงรีบหันหน้าไปอีกทางเตรียมวิ่งหนีเพราะรู้ดีว่าสีหน้าเช่นนั้นหมายความว่าอะไร “เหลียนเฟิน ถ้าเจ้าหนี ข้าจะฟ้องอาจารย์ว่าเจ้าไม่ดูแลข้า” หลวนเล่ออ้างคำสั่งของหมิงฮวาที่ฝากฝังเอาไว้ เขาจึงถอนหายใจรอรับฟังสิ่งที่นางจะเอ่ย “ข้าเดาว่า ข้าต้องช่วยทำอะไรสักอย่างใช่หรือไม่” เหลียนเฟินถาม ในใจภาวนาว่าอย่าให้ตรงกับวันว่างของเขาเลย “อาจารย์อาสั่งให้ข้าไปตรวจหาสาเหตุการตายของชาวบ้านที่เมืองเฟิง ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองไม่อยู่ ศิษย์พี่ซีหลิวมีงานรัดตัว ข้าเลยขอพาเจ้าไปด้วย อาจารย์อาอนุญาตแล้ว” หลวนเล่อร่ายยาวเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ นางรู้ดีว่า

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 1 ชีวิตใหม่

    สิบแปดปีต่อมา ยามนี้หิมะแรกตกโปรยปรายราวกับละอองฝนไปทั่วทั้งแคว้นฉิน ทำให้ผู้คนที่ออกมาเที่ยวเดินชมงานรื่นเริงประจำปีต่างรู้สึกเบิกบานใจ บ้างอธิษฐานขอให้พบแต่ความสงบสุข บ้างขอให้ได้เจอคนรักในเร็ววัน มีไม่น้อยที่มัวแต่เล่นสนุกสนานอยู่บนลานน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย “ศิษย์พี่รอข้าด้วย!” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กอายุเจ็ดขวบดังขึ้นเพราะไสลากเลื่อนตามศิษย์พี่ของเขาไม่ทัน “ซิ่นเฉิง ข้าจะไปรอเจ้าที่เส้นชัย รีบ ๆ ตามมาเล่า” หญิงสาวผู้หนึ่งตอบกลับ “ศิษย์พี่หลวนเล่อ แบบนั้นไม่เรียกว่ารอแล้วขอรับ คราวนี้ท่านยอมข้าหน่อยไม่ได้หรือ” ซิ่นเฉิงรีบไสลากเลื่อนให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นว่านางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว สีหน้าของเขาดูจริงจังเสียจนศิษย์อีกสองคนที่ยืนดูรู้สึกเอ็นดู “หลวนเล่อ เจ้าโตจนป่านนี้แล้วยังชอบแกล้งเขาอยู่เรื่อย เพลา ๆ บ้างเถิด” น้ำเสียงหวานละมุนเอ่ยปากห้ามปราม “ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ฟังที่ศิษย์พี่พูดเลยนะขอรับ” ศิษย์น้องของนางชี้ให้ดูคนทั้งสองที่ตั้งหน้าตั้งตาไสลากเลื่อนอย่างสุดกำลัง “เฮ้อ! ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมอาจารย์

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 55 คลุ้มคลั่ง

    รุ่งเช้าของอีกวัน หวังเฉิงเย่พร้อมบุตรชายเดินทางกลับจากถ้ำที่อยู่อีกฝั่งของป่า ไม่ทันจะได้เข้าใกล้สำนักกลับได้กลิ่นเลือดโชยมาจากทุกทิศทาง บรรยากาศอึมครึมหมองหม่น เยือกเย็น ทั้งสองคนก้าวเข้ามาด้านในสำนักด้วยความระมัดระวัง สิ่งที่ปรากฏต่อหน้ามีเพียงซากศพของบรรดาคนในสำนัก ทั้งศิษย์สำนัก อาจารย์ ทาสรับใช้ “เจ้าไปดูทางโน้น” หวังเฉิงเย่สั่งการบุตรชาย เขาเดินไปเรือนของตนเองเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตมาถามไถ่เรื่องราว “ขอรับ” หวังซีซวนเห็นภาพที่เกิดขึ้นจึงรีบตรงดิ่งไปที่เรือนใบไผ่ก่อนอันดับแรก เพราะหางตาเหลือบเห็นร่องรอยของปราณมาร&

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 54 จากลา

    ราวกับหวังเยี่ยนหลงกำลังตกอยู่ในภวังค์จึงไม่ได้ยินสิ่งที่เซี่ยฟานพูด เขาเสพสมกามารมณ์หลายท่วงท่าตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้า โอบกอดร่างบางของเซี่ยฟานแล้วนอนหลับด้วยความอ่อนเพลีย ช่วงสายของวัน เขาลืมตาตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงนกร้องอยู่ริมหน้าต่าง แสงแดดบาง ๆ ส่องมาที่เตียงนอน หวังเยี่ยนหลงยังคงกอดเซี่ยฟานไว้อย่างเช่นเคย พลันรู้สึกได้ว่าร่างกายของเซี่ยฟานเริ่มเย็น สีหน้าตระหนกปรากฏขึ้น เขาตรวจเส้นชีพจรของคนที่ยังนอนหลับใหล “เซี่ยฟาน” คนที่ถูกเรียกไม่ขานตอบ เขาจึงนำยาที่อยู่ในขวดมาให้เซี่ยฟานดื่มแล้วนั่งเฝ้าไม่ห่าง&nbs

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 53 ใจสลาย

    สามเดือนผ่านไป หวังเยี่ยนหลงเริ่มหลอมรวมปราณมารที่อยู่ในศิลาหินให้เป็นหนึ่งเดียวกับตนเองได้บ้างแล้ว จึงออกมาจากถ้ำแห่งนั้น โดยไม่รู้เลยว่ากาลเวลาผ่านไปนานเท่าใด ครั้นข่ายอาคมที่ศิลาหินสร้างขึ้นหายไป ป่าวิญญาณจึงกลายเป็นเพียงป่าทึบทั่วไปที่มีสัตว์ดุร้ายกับปีศาจอาฆาตแค้นก็เท่านั้น หมอกพรางตาที่คอยล่อลวงผู้คนได้สลายไปเพราะไม่มีพลังจากศิลาหินคอยควบคุม เขากลับมาที่เรือนใบไผ่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วกว่าเดิมจนไม่มีใครจับตาทัน บรรยากาศภายในสำนักตระกูลหวังจึงยังคงความสงบเงียบได้อยู่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status