공유

ตอนที่ 3 แม่ผู้มีบุญคุณ

last update 최신 업데이트: 2025-04-21 10:00:14

ค่ำคืนเดือนหนาววนมาอีกครา เสียงร้องของเด็กแรกเกิดดังก้องเรือนทาส หลินซินอี๋คลอดบุตรชายอย่างยากลำบาก ใจของนางไม่อยู่กับร่องกับรอยตั้งแต่เมื่อครั้งที่ถูกเซี่ยเวยย่ำยีนานแรมปี

หลินซินอี๋ไม่แม้แต่จะอยากมองหน้าของบุตรชายสักแวบหนึ่ง เพราะใบหน้าสักสามส่วนของบุตรชายคล้ายคนที่นางเกลียดมากนัก นางทำใจยอมรับไม่ได้จริง ๆ เสียงของเด็กน้อยที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดร้องเรียกหาความอบอุ่นอยู่เป็นเวลานาน

แต่แล้วบานประตูห้องนอนของนางก็ถูกใครบางคนเลื่อนเปิดออก หญิงสาวที่ดูอายุมากกว่านางสักสองสามปีก้าวเท้าเข้ามาในห้อง สายตาที่มองเด็กทารกนั้นดูเป็นประกาย ใบหน้าของนางเปื้อนรอยยิ้มสดใสอย่างที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว

“ชู่ ๆ อย่าร้อง อย่าร้อง” นางก้มลงข้าง ๆ เด็กทารกแล้วใช้สองมือโอบอุ้มเขาขึ้นมา ร้องเพลงกล่อมเด็กอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบให้เขาหยุดร้อง สีหน้าของนางปลื้มใจราวกับเห็นเป็นบุตรของตนเอง

“อาฟาน เจ้าอย่าร้องเลย แม่อยู่นี่” นางเผลอเรียกชื่อของคนผู้หนึ่งขึ้นมาชะรอยจะคิดว่าเด็กน้อยตรงหน้าคือบุตรของนางไปเสียแล้ว

นางมีนามว่า จางเจีย ถูกขายเข้ามาอยู่ในเรือนทาสก่อนหน้าหลินซินอี๋ไม่กี่ปีในวัยสิบแปดปี ชะตาของนางมืดมนดั่งหลินซินอี๋ไม่ผิดเพี้ยน เซี่ยเวยคนโฉดกระทำชั่วช้าเหลือเกิน ไม่รู้ว่ามีผู้ใดบ้างต้องทุกข์ทรมานจากสิ่งที่เขามอบให้

จางเจีย ตั้งท้องบุตรคนหนึ่งกับเขา นางตั้งหน้าตั้งตารอ นับวันเวลาเก้าเดือนเพื่อที่จะเจอลูกน้อย เสมือนเขาเป็นความหวังเล็ก ๆ ที่ทำให้นางยังคงรักษาลมหายใจของตนเอาไว้ แต่แล้วความหวังนั้นกลับพังทลาย ลูกที่นางรอจะได้เห็นหน้า หายลับไปอย่างไร้ร่องรอย

“ลูกของข้า ลูกข้าอยู่ที่ใด” จางเจียเดินทุลักทุเลออกมาถามทาสในเรือนทีละคน ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะผ่านวันคลอดไม่ถึงสองวัน นางสังหรณ์ใจไม่ดีที่ไม่ได้ยินเสียงของเด็กน้อยตามปกติ “ท่านป้า เห็นลูกของข้าหรือไม่ ลูกข้าอยู่ที่ใด” นางเฝ้าถามและตามหาเขาอยู่นานแต่ไร้วี่แวว

“ข้าไม่รู้”

“ข้าไม่เห็น”

คนใช้และทาสในเรือนต่างตอบวนไปอยู่เท่านี้

“เป็นไปได้อย่างไร ลูกข้าทั้งคน ไม่มีใครรู้เห็นเลยหรือ” น้ำตาของนางเอ่อล้น น่าสงสาร “ลูกข้า ป่านนี้แล้วจะเป็นเช่นไรหนอ เขาคงจะหิวนมแล้ว ท่านป้า ท่านเห็นลูกข้าหรือไม่” นางยังคงเฝ้าถามทุกคนอยู่อย่างนั้นจนผ่านไปอีกอาทิตย์หนึ่ง

ไม่มีใครได้ทันสังเกตเลยว่า จางเจียที่สูญเสียบุตรไปนั้น สติไม่อยู่กับตัวแล้ว วัน ๆ นางเอาแต่ร้องถามหาลูกของนางกับคนที่ผ่านไปมา

เวลานั้นเซี่ยเวยไม่รู้สึกว่าเด็กคนนั้นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา จึงไม่สืบสวนหาความกับผู้ใด คงจะเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาไปแล้ว ทาสในเรือน คนใช้ หรืออะไรก็แล้วแต่ มีค่าแค่เป็นที่ระบายอารมณ์ ความใคร่ของเขาก็เพียงเท่านั้น

ฉะนั้นแล้ว เสียงร้องของเด็กน้อยจากห้องหลินซินอี๋ จึงทำให้จางเจียเหมือนย้อนกลับมาในวันวานอีกครั้ง วันที่ลูกของนางลืมตาดูโลกเผลอเรียกชื่อที่เคยจะเอาไว้ตั้งให้ลูกของตนออกไป “อาฟาน แม่อยู่นี่แล้ว เจ้าไม่ต้องกลัวนะ” พูดจบนางก็อุ้มเขาออกจากห้องไป

นับแต่นั้นมา จางเจียก็คอยดูแลอาฟานเหมือนเป็นลูกของตนเอง นางจัดหาทุกอย่างมาให้เขา เท่าที่ทาสคนหนึ่งจะทำได้ นางรู้ว่านางไม่มีน้ำนมให้เขาดื่ม ก็เอาแต่วิ่งแจ้นไปขอคนโน้นทีคนนี้ทีจนกว่าจะได้

“อาฟาน แม่เย็บเสื้อผ้าชุดนี้ให้เจ้าแล้ว ชอบหรือไม่” นางลองสวมชุดให้เขา แล้วมองดูหน้าตาน่ารักน่าชังของเด็กน้อย พลางยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น

“อาฟาน รอแม่ก่อน เจ้าอย่าเพิ่งรีบวิ่ง” เสียงของนางตะโกนเรียก หน้าตาตื่นตระหนก กลัวเขาจะหกล้มได้แผลเหมือนวันก่อน

ช่วงเวลาสามปีที่นางเลี้ยงดูเขาเหมือนลูกนั้น เริ่มทำให้นางมีสติมากขึ้น เขาเป็นดั่งยารักษา คอยเยียวยาจิตใจของนางให้หายดี สีหน้าและสภาพร่างกายของนางจึงดีขึ้นตามลำดับ

กลับกัน ชีวิตของหลินซินอี๋ราวกับอยู่ในนรก แต่ละวันผ่านพ้นไปด้วยความยากลำบาก เซี่ยเวยไม่ปล่อยนางให้หลุดรอดสายตา ทุกค่ำคืนฉุดรั้งนางเอาไว้ไม่ให้ห่างกาย ไม่มีผู้ใดยื่นมือช่วยนางได้สักคน

นางแทบจะไม่รับรู้สิ่งอื่นอีกแล้ว บางครั้งสายตาเหลือบมองเห็นอาฟานกำลังวิ่งเล่นอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้ทำให้ใจของนางอยากจะโอบกอดเขาสักครั้ง ทุกครั้งที่เห็นหน้าของเขา ใบหน้าของเซี่ยเวยจะปรากฏทับซ้อนตลอด แม้ว่าเขาจะมีแววตาและรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนนางก็ตาม

คืนนั้น จางเจียพาอาฟานออกมานั่งดูดาวนอกเรือน ดวงจันทร์กลมโตส่องแสงทอประกาย นางกอดอาฟานเอาไว้แน่น

“อาฟาน แม่รักเจ้ามากนะ” เสียงอ่อนโยนของนาง ทำให้อาฟานผงกหัว

“อือ” เขาส่งเสียงอู้อี้ อาฟานยังคงพูดไม่ได้แม้ว่าจะอายุเข้าสู่ปีที่สามแล้ว แต่กระนั้น เขาก็เข้าใจสิ่งที่มารดาพร่ำบอกเขา อาจเป็นเพราะสามารถรับรู้ความรู้สึกอบอุ่นจากนางได้

ขณะที่ทั้งสองนั่งเล่นอยู่นอกชานอย่างมีความสุข เสียงฝีเท้าคนร่างใหญ่เดินกระแทกส้นเท้าดังขึ้นเรื่อย ๆ ค่อย ๆ มาทางที่พวกเขานั่งอยู่ แล้วจางเจียก็โดนกระชากแขนให้ลุกขึ้น

“โอ๊ย!” นางร้องเสียงหลง ร่างบางถูกยกขึ้นตามแรงของใครบางคน

“จางเจีย...” เซี่ยเวยเรียกนางเสียงยานคาง กลิ่นเหล้าหึ่งจากตัวและเสื้อผ้าของเขา จมูกโด่งนั้นพยายามซุกไซ้เข้ามาใกล้ลำคอและใบหน้าของนาง

จางเจียใจเสีย สีหน้าที่เมื่อครู่ยิ้มแย้มพลันแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว นางไม่ได้เจอเรื่องแบบนี้มานานหลายปีแล้ว นานจนแทบจะลืมไปว่าเคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น

ตุบ ตุบ ตุบ เสียงมือน้อย ๆ สองข้างของอาฟานกำลังทุบที่ต้นขาของเซี่ยเวยอย่างไร้เดียงสา ไม่ได้รู้เลยว่าคนตรงหน้าโหดเหี้ยมปานใด

“อาฟาน อาฟาน” นางร้องเรียกเขา พลางสะบัดตัวให้พ้นจากเซี่ยเวยแล้วกอดลูกของนางเอาไว้ จิตใจหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทา แต่มือสองข้างยังคงโอบกอดอาฟานเอาไว้

เซี่ยเวยกำลังเมาได้ที่เห็นแล้วขัดตา ทั้งยังรู้สึกว่าไม่ได้เล่นสนุกกับจางเจียมานานมากแล้ว นางเคยเป็นคนที่เขาโปรดปรานมากที่สุด นับตั้งแต่ที่สติหลุดเป็นบ้าเพราะลูกหายก็ไม่ได้ยุ่งกับนางอีกเลย

ไม่ใช่ว่าเห็นใจหรืออะไรเทือกนั้น แต่เพราะนางในตอนนั้น เล่นด้วยไม่สนุกเสียเลย ดั้งนั้น เวลานี้เขาจึงมองนางไม่วางตา เพราะสังเกตมาได้พักหนึ่งแล้วว่า จางเจียคนเดิมกลับมาแล้ว

“อาเจีย เจ้าหายแล้วนี่” เซี่ยเวยนั่งลง เอามือจับคางของนางให้เงยขึ้น เขายิ้มร้ายอย่างเคย

“ไม่ ไม่ อย่าทำข้า” ภาพในอดีตกำลังถาโถมเข้ามาในหัวของจางเจีย น้ำตาของนางคลอเบ้า

อาฟานเห็นเช่นนั้น จึงใช้แขนเสื้อของเขาค่อย ๆ ซับน้ำตาให้นาง เหมือนที่จางเจียเคยเช็ดน้ำตาให้เขา ทั้งสองกอดกันกลมต่อหน้าของเซี่ยเวย

เขาดึงอาฟานจากอ้อมกอดของจางเจีย เหวี่ยงไปที่พื้นด้านนอก ทำให้ข้อมือของอาฟานกระแทกพื้น เขากำลังเบะปากร้องไห้เพราะความเจ็บและตกใจ จางเจียเห็นดังนั้นจึงผลักเซี่ยเวยออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มีจนเขาหงายหลัง หัวไปชนกับเสาเรือน สร่างเมาไปชั่วแวบหนึ่ง

จังหวะที่จางเจียวิ่งมาดูอาฟานข้างล่าง เซี่ยเวยกระโดดลงมาจากนอกชานอย่างรวดเร็ว ตัดหน้าจางเจียไม่ถึงหนึ่งจั้ง เขากำข้อมือของอาฟานข้างที่บาดเจ็บขึ้นมาดู ยิ้มเหี้ยมเกรียมแล้วบีบกดลงไปบนพื้น

เซี่ยเวยผู้นี้ของขึ้นได้ง่าย หากมีคนทำอะไรขัดหูขัดตาเขา ยามเป็นผู้ใจบุญนอกจวน มักจะเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ แล้วมาลงกับคนในปกครองเป็นประจำ

จางเจียเห็นเขาทำร้ายอาฟานก็คิดหาวิธีจะช่วยลูกของนาง พอรู้ว่าตัวเองไม่อาจสู้แรงของเขาได้ จึงหยิบหินก้อนใหญ่ที่อยู่แถวนั้น ทุบลงไปที่หัวของเขาในทันที

“โอ๊ย!” เขาร้องเสียงหลงเพราะความเจ็บ ไม่เคยมีผู้ใดทำร้ายเขามาก่อน “บังอาจนัก!” เขาตวาดนางเสียงดัง กระนั้น ไม่มีผู้คนในเรือนกล้าโผล่หน้ามาดูเหตุการณ์ข้างนอกแม้แต่คนเดียว

“อย่าทำลูกข้า อย่าทำร้ายเขา” นางพร่ำพูดซ้ำ ๆ จากจิตใต้สำนึก พลางโอบกอดอาฟานไว้แน่น

ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เซี่ยเวยโกรธจนเลือดขึ้นหน้า จิกผมของจางเจียไว้แล้วลากเข้าไปในห้องพร้อมอาฟาน เสียงทุบตีเริ่มขึ้นภายในความเงียบงันยามค่ำคืน จางเจียยังคงโอบกอดอาฟานไว้ คอยป้องกันเขาจากเงื้อมมือเซี่ยเวย

“อาฟาน...” เสียงเรียกบุตรชายนั้นแผ่วลงไปพร้อมกับลมหายใจ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 3 ลอบทำร้ายประมุข

    รุ่งเช้าวันต่อมา สีหน้าเรียบเฉยของคนผู้หนึ่งยืนดูเหตุการณ์ชุลมุนอยู่ข้างบนระเบียงชั้นสองของโรงเตี๊ยม เขาไม่มีทีท่าสะทกสะท้านหวาดกลัวเฉกเช่นคนทั่วไป พลันรอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นเพราะแน่ใจแล้วว่าผู้ที่สร้างเรื่องทั้งหมดหวังสิ่งใด “ตามตัวได้หรือไม่” เสียงเย็นชาถามลูกน้องคนสนิท มือข้างหนึ่งถือถ้วยชายกดื่มสบายอารมณ์ “ยังไม่พบขอรับนายท่าน” เขารายงานตามความจริง นับตั้งแต่รับคำสั่งจากหวังเยี่ยนหลง เขาออกเดินทางสืบเสาะไปทั่วแคว้นซีเป่ย ในที่สุดก็พบว่าคนผู้นี้แอบหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองเฟิง ใช้วิชาของตนเองหลบหนียามเมื่อถึงคราวจวนตัว เพียงแต่ครานี้ เขากลับทิ้งร่องรอยไว้ชัดเจนมากเกินไปจนผิดสังเกต “นายท่าน กำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ” ชายอีกคนเอ่ยปาก “เห็นหรือไม่ว่าเจ้านั่นตั้งใจทิ้งร่องรอยของปราณมารเอาไว้” เขาชี้ไปยังข้างล่างที่มีทหารสี่ห้านายกำลังเก็บศพของชายขอทาน “วิชาของหลินหลีเหว่ยไม่เคยมีร่องรอยเช่นนั้น” “เพราะเหตุใดเล่าขอรับ” ลูกน้องทั้งสองคนยังคงไม่เข้าใจ แต่เจ้านายของพวกเขากลับคาดการณ์แผนทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 2 เหตุการณ์แปลกต่างเมือง

    สุดท้ายแล้ววันนั้นเหลียนเฟินก็ผ่านการสอบมาได้ กลายเป็นศิษย์ที่เหล่าอาจารย์และเพื่อนพ้องร่วมสำนักภาคภูมิใจ อาจารย์อาจึงตกรางวัลเขาด้วยวันหยุดพักผ่อนห้าวันพร้อมอัฐอีกหนึ่งถุงใหญ่เอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว กระนั้นความฝันที่จะได้นอนเล่นอยู่เงียบ ๆ ก็สลายไปเมื่อศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา สีหน้าตื่นเต้นเหมือนจะได้ออกไปนอกสำนัก “เหลียนเฟินนนน” นางเรียกศิษย์น้องพร้อมรอยยิ้มเลศนัย เหลียนเฟินจึงรีบหันหน้าไปอีกทางเตรียมวิ่งหนีเพราะรู้ดีว่าสีหน้าเช่นนั้นหมายความว่าอะไร “เหลียนเฟิน ถ้าเจ้าหนี ข้าจะฟ้องอาจารย์ว่าเจ้าไม่ดูแลข้า” หลวนเล่ออ้างคำสั่งของหมิงฮวาที่ฝากฝังเอาไว้ เขาจึงถอนหายใจรอรับฟังสิ่งที่นางจะเอ่ย “ข้าเดาว่า ข้าต้องช่วยทำอะไรสักอย่างใช่หรือไม่” เหลียนเฟินถาม ในใจภาวนาว่าอย่าให้ตรงกับวันว่างของเขาเลย “อาจารย์อาสั่งให้ข้าไปตรวจหาสาเหตุการตายของชาวบ้านที่เมืองเฟิง ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองไม่อยู่ ศิษย์พี่ซีหลิวมีงานรัดตัว ข้าเลยขอพาเจ้าไปด้วย อาจารย์อาอนุญาตแล้ว” หลวนเล่อร่ายยาวเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ นางรู้ดีว่า

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 1 ชีวิตใหม่

    สิบแปดปีต่อมา ยามนี้หิมะแรกตกโปรยปรายราวกับละอองฝนไปทั่วทั้งแคว้นฉิน ทำให้ผู้คนที่ออกมาเที่ยวเดินชมงานรื่นเริงประจำปีต่างรู้สึกเบิกบานใจ บ้างอธิษฐานขอให้พบแต่ความสงบสุข บ้างขอให้ได้เจอคนรักในเร็ววัน มีไม่น้อยที่มัวแต่เล่นสนุกสนานอยู่บนลานน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย “ศิษย์พี่รอข้าด้วย!” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กอายุเจ็ดขวบดังขึ้นเพราะไสลากเลื่อนตามศิษย์พี่ของเขาไม่ทัน “ซิ่นเฉิง ข้าจะไปรอเจ้าที่เส้นชัย รีบ ๆ ตามมาเล่า” หญิงสาวผู้หนึ่งตอบกลับ “ศิษย์พี่หลวนเล่อ แบบนั้นไม่เรียกว่ารอแล้วขอรับ คราวนี้ท่านยอมข้าหน่อยไม่ได้หรือ” ซิ่นเฉิงรีบไสลากเลื่อนให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นว่านางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว สีหน้าของเขาดูจริงจังเสียจนศิษย์อีกสองคนที่ยืนดูรู้สึกเอ็นดู “หลวนเล่อ เจ้าโตจนป่านนี้แล้วยังชอบแกล้งเขาอยู่เรื่อย เพลา ๆ บ้างเถิด” น้ำเสียงหวานละมุนเอ่ยปากห้ามปราม “ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ฟังที่ศิษย์พี่พูดเลยนะขอรับ” ศิษย์น้องของนางชี้ให้ดูคนทั้งสองที่ตั้งหน้าตั้งตาไสลากเลื่อนอย่างสุดกำลัง “เฮ้อ! ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมอาจารย์

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 55 คลุ้มคลั่ง

    รุ่งเช้าของอีกวัน หวังเฉิงเย่พร้อมบุตรชายเดินทางกลับจากถ้ำที่อยู่อีกฝั่งของป่า ไม่ทันจะได้เข้าใกล้สำนักกลับได้กลิ่นเลือดโชยมาจากทุกทิศทาง บรรยากาศอึมครึมหมองหม่น เยือกเย็น ทั้งสองคนก้าวเข้ามาด้านในสำนักด้วยความระมัดระวัง สิ่งที่ปรากฏต่อหน้ามีเพียงซากศพของบรรดาคนในสำนัก ทั้งศิษย์สำนัก อาจารย์ ทาสรับใช้ “เจ้าไปดูทางโน้น” หวังเฉิงเย่สั่งการบุตรชาย เขาเดินไปเรือนของตนเองเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตมาถามไถ่เรื่องราว “ขอรับ” หวังซีซวนเห็นภาพที่เกิดขึ้นจึงรีบตรงดิ่งไปที่เรือนใบไผ่ก่อนอันดับแรก เพราะหางตาเหลือบเห็นร่องรอยของปราณมาร&

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 54 จากลา

    ราวกับหวังเยี่ยนหลงกำลังตกอยู่ในภวังค์จึงไม่ได้ยินสิ่งที่เซี่ยฟานพูด เขาเสพสมกามารมณ์หลายท่วงท่าตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้า โอบกอดร่างบางของเซี่ยฟานแล้วนอนหลับด้วยความอ่อนเพลีย ช่วงสายของวัน เขาลืมตาตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงนกร้องอยู่ริมหน้าต่าง แสงแดดบาง ๆ ส่องมาที่เตียงนอน หวังเยี่ยนหลงยังคงกอดเซี่ยฟานไว้อย่างเช่นเคย พลันรู้สึกได้ว่าร่างกายของเซี่ยฟานเริ่มเย็น สีหน้าตระหนกปรากฏขึ้น เขาตรวจเส้นชีพจรของคนที่ยังนอนหลับใหล “เซี่ยฟาน” คนที่ถูกเรียกไม่ขานตอบ เขาจึงนำยาที่อยู่ในขวดมาให้เซี่ยฟานดื่มแล้วนั่งเฝ้าไม่ห่าง&nbs

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 53 ใจสลาย

    สามเดือนผ่านไป หวังเยี่ยนหลงเริ่มหลอมรวมปราณมารที่อยู่ในศิลาหินให้เป็นหนึ่งเดียวกับตนเองได้บ้างแล้ว จึงออกมาจากถ้ำแห่งนั้น โดยไม่รู้เลยว่ากาลเวลาผ่านไปนานเท่าใด ครั้นข่ายอาคมที่ศิลาหินสร้างขึ้นหายไป ป่าวิญญาณจึงกลายเป็นเพียงป่าทึบทั่วไปที่มีสัตว์ดุร้ายกับปีศาจอาฆาตแค้นก็เท่านั้น หมอกพรางตาที่คอยล่อลวงผู้คนได้สลายไปเพราะไม่มีพลังจากศิลาหินคอยควบคุม เขากลับมาที่เรือนใบไผ่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วกว่าเดิมจนไม่มีใครจับตาทัน บรรยากาศภายในสำนักตระกูลหวังจึงยังคงความสงบเงียบได้อยู่

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status