นับตั้งแต่วันนั้นมา เซี่ยฟานก็ไม่ได้ไปพบหวังซีซวนอีก คอยทำหน้าที่ดูแลหวังเยี่ยนหลงอย่างดี กระนั้นก็อดเป็นห่วงคนที่อยู่เรือนต้นสนไม่ได้ คอยชะเง้อคอมองออกไปข้างนอกตลอด เวลาที่ต้องไปจัดเตรียมสำรับในห้องครัวก็คอยฟังว่ามีข่าวคราวของคุณชายห้าหรือไม่
หวังเยี่ยนหลงเองบางวันปกติ บางวันร้าย บางวันร้ายมาก เซี่ยฟานแทบต้องคอยรองรับอารมณ์ของเขาอยู่คนเดียว จากที่เคยสดใสขึ้นมาหน่อยเมื่อครั้งอยู่กับหวังซีซวน เวลานี้จิตใจเศร้าหมอง ซึมลง ใครต่อใครเห็นก็รู้สึกหดหู่ใจไปด้วย
นานเข้า หวังซีซวนไม่ได้เห็นเซี่ยฟานเกือบสองอาทิตย์ รู้สึกเป็นห่วงจึงมาดูที่เรือนใบไผ่ พอเซี่ยฟานเห็นเข้าก็รีบดึงดันจะให้เขากลับเรือนของตนเองก่อนที่หวังเยี่ยนหลงจะมาเห็น
“คุณชายไม่ต้องเป็นห่วงข้าขอรับ รีบกลับเถิด” เซี่ยฟานพยายามดันตัวเขากลับออกไป
“เซี่ยฟาน เจ้าปิดบังอะไรข้าอยู่” หวังซีซวนเริ่มจับสังเกตได้
“เปล่าขอรับ ข้าแค่ไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรกับคุณชาย รีบกลับเถิดขอรับ”
ห
นิยายเรื่องนี้เขียนจบแล้วนะคะ ตอนหลักเล่มแรก 55 ตอน เล่มสอง 49 ตอนและตอนพิเศษอีก 12 ตอนค่ะป.ล. คำเตือนยังเหมือนเดิม เรื่องนี้เหมาะสำหรับนักอ่านอายุ 18 ปีขึ้นไป ระหว่างทางมีน้ำตา พระเอกสำนึกช้า-------------------------------------------------------------------------------------ตั้งแต่วันที่หวังซีซวนมาหาเซี่ยฟาน เขาก็รีบกลับไปที่สำนักตระกูลหวัง แล้วบอกบิดาของตนว่าค้นพบหนทางที่จะกลั่นยาอมตะนิรันดร์ได้แล้ว เพียงแต่ว่าต้องตามหาส่วนผสมของยาที่กระจัดกระจายในหลายแคว้นหวังเฉิงเย่นึกสงสัยว่าเหตุใดบุตรชายที่ดึงดันไม่เคยยอมบอกข้อมูลใด ๆ กับเขาจึงเปิดปากพูดในวันนี้ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะอย่างไรเสียหวังซีซวนก็ไม่มีทางหลุดลอดไปจากเงื้อมมือเขาได้เขาได้ยินเรื่องยาอมตะนิรันดร์มาจากมารดาของหวังซีซวน จึงเคี่ยวเข็ญให้บุตรชายถอดความในตำรามาโดยตลอด นับว่าเลี้ยงไปไม่เสียข้าวสุกตัวอักษรในหนังสือที่เขาเคยพยายามถอดความเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ไม่มีความหมายใด จึงได้แต่ปล่อยหวังซีซวนให้อยู่รอดตลอดมาเพื่อรอเวลาเช่นนี้&n
หวังเยี่ยนหลงเลิกคิ้วมองดวงหน้าของเซี่ยฟานแล้วยิ้มร้าย ดึงมือของตนเองกลับมาวางตรงจุดนั้น พยายามจะล่วงล้ำเข้าเขตหวงห้าม ทั้งสองคนต่างใช้แรงของตนเองผลักดันกันไปมาแต่ก่อนที่เหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นจะบานปลายไปมากกว่าเดิม ฤทธิ์ยาที่ผสมกันกับสุราก็รุนแรงมากจนทำให้หวังเยี่ยนหลงเวียนหัวผล็อยหลับไป มือของเขาข้างนั้นจึงยังคงวางค้างอยู่เหนือท้องน้อยของเซี่ยฟานเช่นเดิม ใบหน้าของหวังเยี่ยนหลบฟุบลงที่หน้าอกของเซี่ยฟาน“คุณชาย” เซี่ยฟานลองเรียกเขาเบา ๆ พอเห็นว่าคุณชายสามไม่ขยับตัวจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ค่อย ๆ ดันตัวเขาพลิกไปอีกทางแล้วรีบกระโจนหนีไปอีกฝั่งมุมหนึ่งของห้อง ดึงเสื้อผ้าชิ้นนอกที่หลุดรุ่ยมาปกปิดร่างกายท่อนบนของตัวเองแล้วนั่งขดอยู่ในมุมมืดคืนนั้น เซี่ยฟานไม่กล้าแม้จะหลับตานอน หัวใจเต้นสั่นรัว คิดในใจว่าเขากระทำเช่นนี้คงเพราะเมาสุรารุ่งเช้าหวังเยี่ยนหลงลืมตาตื่นขึ้นมาก็ลืมเรื่องเมื่อคืนวานไปจนหมดสิ้น ในหัวของเขายังคงปั่นป่วนจนแทบจะอาเจียน“เซี่ยฟาน
หลังจากวันนั้นมา เซี่ยฟานเริ่มรู้สึกสนิทกับเขามากขึ้น เหอชิงหยางเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของเซี่ยฟาน ช่วยตักน้ำ กวาดลานบ้าน หาวัตถุดิบมาทำอาหาร ราวกับอยู่ด้วยกันอย่างไรอย่างนั้น“เซี่ยฟาน ข้าให้เจ้า” เหอชิงหยางยื่นม้วนกระดาษใบหนึ่งให้เขา พอคลี่ดูข้างในก็เห็นเป็นภาพของตัวเอง“ภาพของข้าหรือ” เซี่ยฟานไม่เข้าใจ“อื้ม เจ้าก็รู้ว่าข้าชอบวาดภาพ ข้าเลยวาดให้เจ้าใบหนึ่ง” เขายิ้มแป้น ภูมิใจในฝีมือของตนเอง ภาพวาดลงสีนั้น เหอชิงหยางตั้งใจทำอยู่สามสี่วัน เป็นภาพที่เซี่ยฟานกำลังยิ้ม“ขอบคุณ” เซี่ยฟานบอกเขา “แต่ว่าข้าไม่มีอะไรให้เจ้า”“ข้าให้เจ้าเพราะอยากให้ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เจ้าอย่าได้กังวล” เหอชิงหยางหมายความเช่นนั้นหลายวันต่อมาหวังซีซวนมาหาเซี่ยฟานที่เรือนน้อยเพื่อตามกลับบ้านเพราะเจ้าตัวสัญญาว่าจะรีบกลับทันทีที่มาส่งคุณชายสาม แต่เวลาล่วงเลยหลายเดือนแล้วกลับไม่เห็นแม้แต
เช้าวันต่อมาหวังเยี่ยนหลงกลับมาที่เรือนน้อยเพื่อพักผ่อนจากการเร่งฟื้นฟูเส้นชีพจรและพลังภายในของตนเอง“เซี่ยฟาน!” เขาตะโกนเรียกครั้นได้เห็นสภาพของเซี่ยฟานถือไม้เท้าเดินออกมาข้างนอก หวังเยี่ยนหลงก็ถอนหายใจ“คุณชายหรือขอรับ” เซี่ยฟานถามกลับเพราะมองเห็นไม่ชัด“อืม”“ทานอะไรสักหน่อยหรือไม่ขอรับ”“ไม่ต้อง” พูดจบเขาก็เดินไปนอนในห้องพลางเรียกเซี่ยฟาน “มานี่ นวดตัวให้ข้าสักหน่อย”เซี่ยฟานเดินเข้ามาใกล้ ๆ แต่ไหนแต่ไรไม่เห็นเคยต้องทำเช่นนี้ แล้วเริ่มบีบแขนบีบขาให้เขา หวังเยี่ยนหลงเพียงแค่รู้สึกว่าต้องการพักผ่อนเพราะฝึกอย่างเข้มงวดมาหนึ่งเดือนไม่หยุดเลยสักวัน ร่างกายจึงรู้สึกล้าไปบ้าง คิดจะกลับมานอนเล่นในที่ที่คุ้นเคย“คุณชายกลับมาอยู่ที่เรือนนี้แล้วหรือขอรับ” เซี่ยฟานถาม หากเป็นอย่างที่คิด เขาคงต้องเตรียมรับมือ 
หวังเยี่ยนหลงมองหน้าหลิงซีคาดคั้นเอาคำตอบ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”“เรื่องนั้นข้าเพียงคาดเดา ไม่อาจรู้ได้หรอกว่าความจริงเป็นเช่นไร” หลิงซีส่ายหน้าถอนหายใจ “บิดาของเจ้าเคยเล่าเรื่องนางให้ฟังบ้างหรือไม่” นางมองหวังเยี่ยนหลง เอ่ยต่อ “คงไม่สินะ”“เจ้าบอกว่าจะช่วยข้า มีวิธีแล้วหรือ” หวังเยี่ยนหลงถามขึ้น“แน่นอนว่ามี เพียงแต่ว่าเจ้าจะอดทนทำมันได้หรือไม่ก็เท่านั้น”“รีบบอกข้ามา”หลิงซียื่นตำราเล่มหนึ่งให้เขา หน้าปกเก่าจนแทบขาดหลุดลุ่ย พอพลิกเปิดดูด้านในจะเห็นตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือฉวัดเฉวียนกับรูปภาพเล็ก ๆ และข้อความสีแดงกำกับอยู่“คุณชายควรจะรักษาตัว ฝึกฟื้นฟูพลังปราณที่นี่จะดีกว่า อย่างไรเสียคนในสำนักจะได้ไม่สงสัย” หลิงซีกล่าวขึ้น แผนการของนางจะต้องสำเร็จลุล่วง กว่าจะถึงวันนั้น ทุกอย่างต้องเป็นความลับ“ไม่ต้องบอกข้าก็รู้”
เซี่ยฟานพยุงร่างของหวังเยี่ยนหลงเดินทางมาเรื่อย ๆ ผ่านป่าทึบ ข้ามแม่น้ำ ลานทุ่งหญ้าใหญ่จนมาถึงหมู่บ้านอันหนิงท้ายหมู่บ้านมีเรือนหลังเล็กของสำนักตระกูลหวังตั้งอยู่เดิมทีเป็นบ้านของศิษย์ที่เอาไว้ใช้อาศัยยามต้องออกมาทำงานให้สำนัก แต่เวลานี้กลายเป็นที่พักพิงถาวรของหวังเยี่ยน หลงเซี่ยฟานเตรียมยาหลายชุดวางไว้บนโต๊ะ เตรียมจะกลับสำนักอย่างที่หวังซีซวนบอก“คุณชาย ข้ากลับก่อนนะขอรับ” เซี่ยฟานบอกลาเขา “ยาตรงนั้น กินสามเวลาหลังอาหาร ร่างกายคุณชายจะค่อย ๆ ดีขึ้น” เขาชี้ไปที่โต๊ะกลมใกล้ ๆ กัน“อยากกลับไปนักก็รีบไป อย่ามัวแต่อ้อยอิ่งให้ข้ารำคาญ” หวังเยี่ยนหลงชักสีหน้าไม่พอใจ“ขอรับ” เซี่ยฟานพูดดังนั้นก็หันหลังกลับ เอื้อมมือเปิดประตู พลันได้ยินเสียง ตุ้บ!หวังเยี่ยนหลงหล่นจากเตียงเพราะพยายามเอื้อมมือไปหยิบยาที่อยู่บนโต๊ะ“คุณชาย!” เซี่ยฟานเห็นหวังเยี่ยนหลงสลบอยู่บนพื้นจึงรีบวิ่งกลับมา สุดท้ายเซี่ยฟานก็ต้องคอยอยู่ดูแลเขาสาม
“บังอาจนัก เจ้ายังเป็นลูกผู้ชายหรือไม่ หลักฐานก็มีอยู่ทนโท่ ยังจะปฏิเสธ” คุณชายใหญ่เริ่มควบคุมตนเองไม่ได้“ข้าเปล่า ข้าไม่ได้ทำอะไรนาง” หวังเยี่ยนหลงทุบหัวตัวเอง พยายามนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างก่อนหน้าที่จะเข้ามาในเรือน เขาจำได้เพียงความรู้สึกทางกายที่มีกับคนผู้นั้นสุดท้ายแล้วคุณชายใหญ่ก็ไม่อาจทนฟังคำแก้ตัวใด ๆ ได้อีก อัดพลังปราณใส่หวังเยี่ยนหลงถี่ ๆ ในพริบตาเดียว อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งรับโดนพลังนั้นซัดเข้าร่างกายกระทบถึงเส้นชีพจรอยู่หลายส่วนฉับพลัน หวังเยี่ยนหลงก็กระอักเลือดออกมากองใหญ่ รู้สึกไร้เรี่ยวแรง พลังที่เคยไหลเวียนในร่างกายเหมือนหายไป ดวงตาเขาเบิกโพลงมองหน้าคนเป็นพี่ชายก่อนที่คุณชายใหญ่จะอัดพลังปราณเข้าไปซ้ำอีกรอบ ลูกศิษย์คนอื่นก็เข้ามาห้ามไว้ เกรงว่าลงมือต่อจะทำให้หวังเยี่ยนหลงถึงตายได้“คุณชายใหญ่ หยุดก่อนเถิดขอรับ” เสียงแต่ละคนที่ดึงแขนดึงขาของเขาเอาไว้ห้ามปราม “ถ้าเขาตายขึ้นมา เรื่องจะบานปลาย รู้เข้าถึงหูเจ้าสำนัก”
นับตั้งแต่วันนั้นมา เซี่ยฟานก็ไม่ได้ไปพบหวังซีซวนอีก คอยทำหน้าที่ดูแลหวังเยี่ยนหลงอย่างดี กระนั้นก็อดเป็นห่วงคนที่อยู่เรือนต้นสนไม่ได้ คอยชะเง้อคอมองออกไปข้างนอกตลอด เวลาที่ต้องไปจัดเตรียมสำรับในห้องครัวก็คอยฟังว่ามีข่าวคราวของคุณชายห้าหรือไม่หวังเยี่ยนหลงเองบางวันปกติ บางวันร้าย บางวันร้ายมาก เซี่ยฟานแทบต้องคอยรองรับอารมณ์ของเขาอยู่คนเดียว จากที่เคยสดใสขึ้นมาหน่อยเมื่อครั้งอยู่กับหวังซีซวน เวลานี้จิตใจเศร้าหมอง ซึมลง ใครต่อใครเห็นก็รู้สึกหดหู่ใจไปด้วยนานเข้า หวังซีซวนไม่ได้เห็นเซี่ยฟานเกือบสองอาทิตย์ รู้สึกเป็นห่วงจึงมาดูที่เรือนใบไผ่ พอเซี่ยฟานเห็นเข้าก็รีบดึงดันจะให้เขากลับเรือนของตนเองก่อนที่หวังเยี่ยนหลงจะมาเห็น“คุณชายไม่ต้องเป็นห่วงข้าขอรับ รีบกลับเถิด” เซี่ยฟานพยายามดันตัวเขากลับออกไป“เซี่ยฟาน เจ้าปิดบังอะไรข้าอยู่” หวังซีซวนเริ่มจับสังเกตได้“เปล่าขอรับ ข้าแค่ไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรกับคุณชาย รีบกลับเถิดขอรับ”ห
“กลับเรือนเดี๋ยวนี้!” หวังเยี่ยนหลงตวาดสั่งเซี่ยฟาน พอเห็นคนตรงหน้ามัวแต่ลังเลก็ปรี่เข้าไปฉุดแขนลากกลับเรือน“คุณชายห้า ไม่ต้องห่วงข้าขอรับ” เซี่ยฟานตะโกนบอกเขา ไม่อยากให้ตามมากลัวว่าหวังเยี่ยนหลงจะอารมณ์ไม่ดีทำร้ายหวังซีซวนครั้นมาถึงเรือนใบไผ่ หวังเยี่ยนหลงก็เหวี่ยงร่างบางของเซี่ยฟานเข้าไปข้างในห้อง ทำให้ยาขวดเล็ก ๆ หล่นออกมาจากเสื้อของเซี่ยฟาน เขาก้มลงเก็บทีละขวดแต่ไม่วายโดนหวังเยี่ยนหลงเตะทิ้ง“คุณชาย นั่นยารักษานะขอรับ” เซี่ยฟานขึ้นเสียงกับเขาเพราะยาพวกนั่น หวังซีซวนตั้งใจกลั่นให้อย่างยากเย็น รอคอยอยู่ตั้งหลายวันกว่าจะได้ยาหนึ่งเม็ด แต่หวังเยี่ยนหลงดันไม่รู้คุณค่าไม่ว่ารู้โมโหหิวหรือโมโหอะไร หวังเยี่ยนหลงบีบข้อมือของเซี่ยฟานจนเขาเบ้หน้า มืออีกข้างพยายามแกะมือของเขาให้ปล่อยแต่ก็ไร้ผลจังหวะนั้น หวังเยี่ยนหลงอ่านความคิดและความทรงจำของเซี่ยฟาน จึงได้รู้ว่าที่ผ่านมาเซี่ยฟานโกหกเขามาโดยตลอด คนที่เขาคิดว่าเหมือนลูกไก่ในกำมือ บีบเมื่อไหร่ก็ตายนั้นกล้าเล่นละคร