Share

ตอนที่ 5 ตัวแทน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-23 10:00:22

“บัดซบ!” เสียงของเซี่ยเวยอุทานขึ้นทันทีที่ลืมตา เขามองร่างของหลินซินอี๋ที่ห้อยอยู่ตรงหน้า แล้วรีบลุกขึ้นปลดผ้าผืนยาวที่พันรอบคอของนางเอาไว้ ก่อนนำตัวลงมา

“หลินซินอี๋!” เขาตะโกนเรียกนางซ้ำ ๆ สุดท้ายก็ต้องจับชีพจรของนาง สีหน้าบอกไม่ถูก ในใจสับสนคิดว่าควรจะทำเช่นไร คิ้วสองข้างขมวดเป็นปม

“หลินซินอี๋!” เซี่ยเวยเขย่าร่างไร้ลมหายใจของนางอีกครั้ง “เมื่อคืนเจ้าก็สนุกไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงทำเช่นนี้?” เซี่ยเวยดูจะเข้าใจผิดไปมากนัก คนที่สนุกมีเพียงแค่เขาผู้เดียวเท่านั้น

จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง อารมณ์สองขั้วที่สลับไปมาทำให้เขาดูเหมือนจะเป็นบ้าไปชั่วขณะ เซี่ยเวยมองหน้าของหลินซินอี๋อีกครั้ง ยื่นมือข้างหนึ่งลูบใบหน้าของนางอย่างที่เคยทำ

“เฮอะ บังอาจนัก ใครใช้ให้เจ้าตาย” เขาพึมพำกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนตะโกนเรียกทาสด้านนอกเข้ามา

“หานโจว!”

พ่อบ้านที่ดูแลเรื่องคนใช้และทาสในเรือนวิ่งหน้าตั้งเข้ามาเพราะตกใจเสียงเรียกของเขา พอเดินมาถึงด้านหน้าของเรือนนอน เขาก็เห็นอาฟานนอนขดไม่ได้สติ

“นายท่าน...” หานโจวพูดติดขัด “ข้ามาแล้วขอรับ” สายตาของเขาเห็นร่างหลินซินอี๋แล้วนึกภาวนาในใจ ไม่อยากให้เหตุการณ์ซ้ำรอย

           

“เอานางไปฝัง” เซี่ยเวยสั่งเขาไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะลุกออกไปจากห้องโดยไม่มองหน้าของนางอีก “ส่วนเด็กนี่ หายามารักษาเขา” เซี่ยเวยเหลือบมองอาฟานเพียงแวบหนึ่งแล้วเดินจากไป

           

“ขอรับ นายท่าน” หานโจวรับคำ รอให้เซี่ยเวยกลับเรือนเรียบร้อยแล้วก็เรียกทาสคนอื่น ๆ มาช่วยกันจัดการฝังศพให้หลินซินอี๋ พร้อมอุ้มร่างของอาฟานกลับเรือนแล้วแปะยาที่บาดแผล รวมถึงต้มสมุนไพรแก้ช้ำในให้เขาได้กิน

           

“หานโจว อีกแล้วหรือ” หญิงผู้หนึ่งถามเขา สายตาคอยมองรอบ ๆ กลัวว่าเซี่ยเวยจะโผล่มาทำอะไรนาง

           

“เฮ้อ ข้าจนปัญญา เจ้าช่วยข้าดูแลเขาหน่อยเถิด เจ้าเด็กคนนี้ช่างโชคร้ายซ้ำซ้อน ทั้งแม่ผู้ให้กำเนิด แม่ที่เลี้ยงดู ไม่มีใครอยู่เลยสักคน” เขาลูบหัวอาฟานด้วยความสงสาร

           

ทุกคนที่นี่บางครั้งก็ใจดีกับอาฟาน แต่บางครั้งก็ต้องเอาตัวรอดไม่ยุ่งกับเขา เพราะมีสายตาของฮูหยินคอยเฝ้ามองอยู่

           

นับตั้งแต่นั้นมา เซี่ยเวยก็หาที่ลงกับทาสสาวที่เพิ่งซื้อตัวมาใหม่ แต่พอเหล้าเข้าปากทีไรก็มักจะเดินมาหาหลินซินอี๋ที่เรือนอยู่เสมอ ราวกับคิดว่าจะได้เจอนาง สุดท้ายพอไม่เจอใครก็อาละวาดทำลายข้าวของอยู่ทั้งคืน ส่งเสียงร้องลั่น บ้าคลั่งจนผู้คนในจวนไม่ได้หลับนอน

           

ครั้นรุ่งเข้ามาถึงก็ลำบากพวกเขาคอยจัดเก็บ ซ่อมแซมทุกสิ่งอย่างให้เข้าที่เข้าทาง

           

อาฟานรักษาตัวได้สองสามวันก็เริ่มอาการดีขึ้น เขาเดินมาที่เรือนของหลินซินอี๋เพราะอยากเข้าไปหานางตามสัญชาตญาณ แต่กลับเจอเพียงห้องโล่งว่างเปล่าไร้ชีวิต

           

“ท่านแม่... ท่านแม่...” เสียงเล็กของเขาเรียกผู้เป็นมารดา

           

หานโจวเดินมาหาเขาแล้วเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ ให้ฟัง เขาเองก็กลัวว่าอาฟานจะรับไม่ไหว แต่เวลานี้จิตใจของอาฟานก็แทบจะไร้ความรู้สึกไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดล้วนจากเขาไปทั้งนั้น

อาฟานเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง ไร้เดียงสา แทนที่จะได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างสนุกสนาน กลับต้องอยู่อย่างเลื่อนลอย ไร้จุดหมาย

เซี่ยเวยเหมือนจะไม่สามารถข้ามผ่านเรื่องของหลินซินอี๋ไปได้ เขามักจะเดินมาที่ห้องของนางแล้วพักอยู่ข้างใน รำลึกถึงคืนวันที่ผ่านมา

“หานโจว” จู่ ๆ เขาก็ตะโกนเรียกพ่อบ้าน

“ขอรับนายท่าน”

“ไปตามอาฟานมาที่นี่”

หานโจวคิ้วขมวด เหงื่อตก ไม่อยากทำตามคำสั่ง เพราะรู้ดีว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

“ไม่ได้ยินรึ” เซี่ยเวยเริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าหานโจวยังคงยืนอยู่ที่เดิม

“ให้อาฟานมาที่นี่ทำไมหรือขอรับ” เขารู้ว่าคำตอบคืออะไร แต่ก็ยังต้องการถ่วงเวลา สักนิดก็ยังดี

เซี่ยเวยไม่ชอบให้ใครขัดใจ เขาลุกขึ้นยืนทำหน้าตาถมึงทึงใส่หานโจว ง้างมือข้างหนึ่งตบหน้าของเขาอย่างแรง รอยฝ่ามือแดงเป็นปื้นนูนขึ้นมา เลือดกบปากของหานโจวอย่างง่ายดาย

“ไปตามอาฟานมาที่นี่” เขาพูดกระแทกเสียง เน้นย้ำทุกคำ

“แต่ว่า...” หานโจวอยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่เซี่ยเวยไม่รอ จังหวะนั้น เขากำหมัดขวาแน่นแล้วต่อยไปที่ท้องของหานโจว

“ไม่รักตัวกลัวตายแล้วรึ กล้าไม่ฟังคำของข้า” เซี่ยเวยตะบี้ตะบันหมัดแกร่งใส่ร่างของหานโจว

“ท่านลุง” เสียงเล็กเอ่ยเรียกหานโจวที่หน้าประตู

“รู้หน้าที่ดีนี่ อาฟาน” เซี่ยเวยยิ้มมุมปาก

เขาเอื้อมมือมาแตะที่ใบหน้าอาฟาน แล้วบอกให้ตามเขากลับไปที่เรือน สีหน้าเริ่มกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง

“อาฟาน เจ้ากินสิ ขนมพวกนี้ ของโปรดข้าทั้งนั้น” เซี่ยเวยหยิบขนมชิ้นหนึ่งยื่นให้ แต่เขายังคงนั่งนิ่ง ไม่เข้าใจการกระทำของเซี่ยเวย

“อร่อยนะ ลองชิมดูสิ” เซี่ยเวยหยิบขนมชิ้นนั้นเข้าปากตัวเอง แล้วลองยื่นชิ้นใหม่ให้อาฟาน

ดูเหมือนว่า นี่จะเป็นครั้งแรกที่อาฟานไม่ถูกเซี่ยเวยทำร้ายร่างกาย ทว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งสองนั้นยากที่จะมีใครคาดเดาได้ วันดีคืนดีเขาก็รับอาฟานเป็นลูก ให้ผู้อื่นได้รู้ว่าบุตรชายเพียงคนเดียวของเขาคือเซี่ยฟาน แต่ผ่านไปสองสามวัน จู่ ๆ ก็ลงไม้ลงมือทำร้ายอาฟานอีกครั้งจนน่วมไปทั้งตัว

“อาฟาน เจ้าหน้าเหมือนแม่ของเจ้านัก หลินซินอี๋ นางกล้าทิ้งข้าไปได้อย่างไร” เซี่ยเวยอยู่ในอาการมึนเมา บ่นพร่ำเพ้อต่อหน้าของอาฟาน

สิ่งที่เซี่ยเวยปฏิบัติต่ออาฟานนั้น ทำให้ฮูหยินเซี่ยยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า สามีของนางนั้นคิดกับหลินซินอี๋เช่นไร จึงทำให้นางเกลียดอาฟานมากยิ่งขึ้น สั่งไม่ให้คนในเรือนคบหาอาฟาน

แต่คำสั่งของนางขัดกับความต้องการของเซี่ยเวย แม้เขาจะทำร้ายอาฟานอยู่เป็นประจำ แต่กระนั้นก็ยังเลือกที่จะให้คนมาคอยรักษาบาดแผลให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เขาทำเช่นนี้ คงเพราะว่าเห็นหน้าของอาฟานแล้วคิดถึงหลินซินอี๋ คิดถึงแต่ก็โมโห โกรธนางมากเช่นกัน

ดังนั้น อาฟานจึงเป็นเหมือนภาชนะที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ของเซี่ยเวยอย่างไม่รู้ตัว

เหตุการณ์เช่นนี้ยังคงดำเนินต่อมาหลายปี จนกระทั่งอาฟานอายุได้เจ็ดขวบ เขาเติบโตและได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ไม่มีผู้ใดคอยสอนเขาแต่อาฟานรับรู้ได้จากสิ่งที่อยู่รอบตัว

เขาบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจตลอดเวลาจนแวบหนึ่งนึกอยากหาทางออกไปจากที่นี่ อาฟานเดินไปที่กำแพง มองผ่านรูเล็ก ๆ ได้เห็นชีวิตผู้คนภายนอก เห็นความแตกต่างที่เทียบไม่ได้กับชีวิตของเขา ในใจเริ่มนึกถึงวันที่เขาจะได้อยู่ข้างนอกนั้น

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 12 เกิดใหม่อีกกี่ครา วานวาสนาผูกกันไม่เสื่อมคลาย (จบ)

    สามเดือนต่อมาเช้าวันหนึ่งเสี่ยวหยุนมองเหลียนเฟินที่กำลังนอนหลับใหลในอ้อมกอดของเขา สายตาเต็มไปด้วยความรักท่วมท้นในใจก่อนจะพึมพำร่ายอาคมอย่างหนึ่งขึ้นมาพลันกรีดปลายนิ้วจนได้เลือดหยดหนึ่งหลอมรวมกับลูกกลมสีฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แม้เป็นวิชาที่เขาเพิ่งคิดค้นขึ้นมาได้แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกเสี่ยวหยุนตั้งชื่ออาคมนั้นว่า “พันธะวิญญาณ” อาคมที่สามารถผูกวิญญาณของพวกเขาทั้งสองไว้ด้วยกันในทุก ๆ ชาติ ไม่ว่าเหลียนเฟินจะเกิดเป็นผู้ใด อยู่ที่ไหน เขาจะรู้ได้ในทันที นับต่อจากนี้ไม่มีพรากจากลมหายใจของร่างบางในอ้อมกอดสัมผัสแผ่นอกกว้างของเขาเตือนสติให้รู้ตัว ล้มเลิกความคิดเช่นนั้น เสี่ยวหยุนยิ้มมุมปากพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วบีบอาคมนั้นให้แตกสลายไปริมฝีปากจุมพิตหน้าผากเรียกเหลียนเฟินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฟูเหรินของข้า”“อืม…” เหลียนเฟินยังคงงัวเงียพลันได้รับจุมพิตที่แก้ม โลมเลียลงลำคอ สัมผัสเรียวลิ้นร้อนชื้นดูดเม้มก่อนจะถูกใครบางคนคร่อมร่างกายท่อนบนเอาไว้“ฟูเหริน ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 11 ความรู้สึกที่โหยหา(NC)

    เหลียนเฟินนอนนิ่งบนแผ่นอกของเขา ส่วนล่างกระตุกบีบแก่นกายที่ค้างอยู่ราวกับเชิญชวนจึงถูกพลิกตัวเป็นฝ่ายนอนใต้ร่างพลางโดนเสี่ยวหยุนจับขาสองข้างยกขึ้นแล้วขย่มสะโพกเป็นจังหวะ“ข้าเพิ่งจะ…อ๊ะ...” เหลียนเฟินไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องเม้มปากตัวเองอีกครั้ง มือสองข้างจับหมอนที่วางอยู่ ขยำจนผ้ายับยู่ยี่ ลมหายใจร้อนหอบถี่ ฟังแล้วยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายเกิดความต้องการอย่างยิ่งยวดแก่นกายที่ครูดเข้าออกเร่งขึ้นอย่างเร่าร้อนจนน้ำที่ปล่อยเอาไว้เมื่อครู่กระเซ็นเปรอะเปื้อน คนกระทำยิ้มมุมปากชอบใจยิ่งนักที่ได้เห็นร่องรอยของเขาบนตัวคนรักเมื่อโพรงเนื้อโอบรอบจนมิดแน่นขนัดยิ่งเสียวซ่านจนตาเหลือกลอย “อือ… เหลียนเฟิน” ในใจวนเวียนแต่คำว่า อีกนิด ข้าขออีกนิดในขณะที่คนใต้ร่างแทบคุมสติตัวเองไม่อยู่ พึมพำแผ่วเบา “ข้าไม่ไหวแล้ว… อย่าเพิ่งขยับ”“จะให้ข้าหยุดจริงหรือ” เขาเอ่ยถามแต่ส่วนลับยังคงกระทุ้งเข้า ๆ ออก ๆ บดเบียดภายใน หยอกล้อเหลียนเฟินเพราะอยากเห็นสีหน้าแดงระเรื่อ สุขสม พลันวางขาทั้งสองข้างลงแล้วพลิกตัวเหลียนเฟินให้นอนคว่ำในพริบตาก่อนจะยกส

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 10 ความรักเอ่อล้น (NC)

    เหลียนเฟินโอบแขนรอบคอของเสี่ยวหยุนกดแรงโน้มตัวเขาลงมาหา จ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตาพลันยิ้มอ่อนโยน เอ่ยกระซิบยืนยันความรู้สึกของตัวเอง “ข้ารักเจ้า”คนได้ฟังคำรักน้ำตาไหลเอ่อไม่อาจกั้นด้วยความรู้สึกผิดระคนกับความรู้สึกอื่น ๆ ในใจ แม้รู้ตัวว่าไม่สมควรมายืนอยู่ข้างเขาแต่เวลานี้ก็ไม่อาจขยับกายหรือเบือนหน้าหนีอีกฝ่ายได้เลยเขารักเหลียนเฟิน ผู้เป็นฟูเหรินของเขาและไม่อยากถูกพรากจากอีกแล้ว ทั้งยังดีใจเพราะใบหน้าที่มองเขาในเวลานี้ไม่ใช่ใบหน้าของคนที่เกลียดชังเขาจนต้องจ่อปลายกระบี่เข้าหาราวกับแค้นเคืองกันมาเนิ่นนาน“เสี่ยวหยุน” เสียงเรียกหาอ่อนหวานจับใจ “ยังคงจำได้อยู่ใช่หรือไม่ว่าเวลานี้เจ้าคือฟูจวินของข้า”“…” เขาพยักหน้าเล็กน้อย เม้มปากแน่นแล้วกอดเหลียนเฟินเอาไว้ครั้นสะสางความหลัง ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างพลันคลี่คลาย ไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีกต่อไปหวังซีซวนและพรรคพวกแวะมาหาพวกเขาเหมือนอย่างเคย สังเกตได้ว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาทั้งสองคนดูอึมครึมเล็กน้อย ดวงตาเสี่ยวหยุนบวมช้ำปรากฏเด่นชัดจนอดถามไม่ได้“

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 9 ความทรงจำหวนคืน

    ครั้นเรื่องราววุ่นวายที่ใจกลางตลาดจบลงไปได้ด้วยดี เหลียนเฟินจึงพาเสี่ยวหยุนกลับมาพักฟื้นร่างกายที่บ้านหลังน้อย พลางขอให้หวังซีซวนช่วยกลั่นยาสมุนไพรให้เขาจนกว่าจะหายดีเขาหลับลึกอยู่หลายวันเพราะใช้เรี่ยวแรงร่ายวิชาอาคมโดยไม่สนขีดจำกัดของตัวเองเพียงเพราะเป็นห่วงเหลียนเฟินและไม่อยากให้สถานการณ์ยืดเยื้อใบหน้าสงบนิ่งยามหลับใหลทำให้เหลียนเฟินโล่งใจได้บ้างว่าเขาคงไม่ได้ฝันร้ายเหมือนที่ผ่านมาจึงปล่อยให้คนตรงหน้าพักผ่อนให้เต็มที่“ท่านเซียน เขาเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” หลี่จิ้นหลิงแวะมาเยี่ยมเพราะได้ข่าวว่าเสี่ยวหยุนยังไม่ฟื้น“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาเพียงแค่ต้องนอนให้เยอะ ๆ ก็เท่านั้น” เหลียนเฟินยิ้มให้อีกฝ่ายนึกขอบคุณที่เขาช่วยหาตำราต้องห้ามจนพบ“หากท่านเซียนต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องใด อย่าได้ลังเลใจที่จะบอกข้านะขอรับ” หลี่จิ้นหลิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องฟื้นฟูพลังชีวิตของท่าน ถ้าตำราต้องห้ามไม่ได้ผล ข้ายินดีหาหนทางอื่น”เหลียนเฟินส่ายหน้าเข้าใจดีว่าทุกคนเป็นห่วงแต่ว่าเขาเตรียมใจเอาไว้แล้ว ไม่ว่าผลที่ได้จะออกมาเป็น

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 8 ปกป้องคนรัก

    “ปล่อยคุณหนูหลี่” เหลียนเฟินพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเห็นอีกฝ่ายเคลื่อนไหวรวดเร็ว เขากำกระบี่ในมือไว้แน่นพลันยกขึ้นมากันท่าไม่ให้เสิ่นหยางพุ่งตัวเข้าใกล้ระยะประชิดก่อนจะม้วนตัวแล้วถีบคนตรงหน้ากระเด็นไปอีกทางด้วยแรงที่ออมไว้สามส่วน“ฝีเท้าหนักใช่เล่น” เขาเอ่ยชม รอยยิ้มกวนประสาทราวกับถูกใจอย่างยิ่งยวด “อย่าขัดขืนนักเลย เมื่อครู่ข้าเพียงยั้งมือเอาไว้เท่านั้นเพราะไม่อยากทำให้ร่างกายของท่านเซียนมีบาดแผล”เสิ่นเหยา แฝดผู้พี่ที่จับตัวหลี่ฮวาเอาไว้ลูบปลายจมูกตัวเอง “หากท่านเซียนยินยอมมากับพวกข้า ข้าจะคืนสตรีนางนี้เป็นการแลกเปลี่ยน”“เช่นนั้นปล่อยนางก่อน” เหลียนเฟินไม่ตกลงง่าย ๆ และเป็นห่วงความปลอดภัยหลี่ฮวาที่เวลานี้กำลังกลั้นน้ำตาไม่ร้องไห้เสียงดังด้วยความหวาดกลัว“ท่านเซียนคงไม่รู้ว่าข้าเป็นผู้ใดจึงพยายามเล่นแง่ยืดเวลาออกไปใช่หรือไม่ แต่ข้ายืนยันได้เลยว่าสองชั่วยามต่อจากนี้ไม่มีผู้ใดเข้ามาก้าวก่ายที่แห่งนี้ได้อย่างแน่นอนและหากทุกสิ่งไม่เป็นอย่างที่ข้าต้องการ ข้าจะทำลายหมู่บ้านให้ราบคาบ” เสิ่นหยางประกาศก้อง คำพูดของเขาทำให้ชาวบ้านขวัญ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 7 พรรคมารก่อความวุ่นวาย

    ครั้นพูดคุยเรื่องตำราต้องห้ามเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็กลับมายังบ้านหลังน้อยจึงได้เห็นว่าหลี่จิ้นหลิงกำลังนั่งเล่นอยู่ตั่งไม้กับเหลียนเฟินแววตาเสี่ยวหยุนเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”“ข้าเห็นว่าท่านเซียนเมาหลับไป วันนี้จึงอยากมาดูให้แน่ใจว่ามีอาการใดหรือไม่” เขายักไหล่พูดด้วยสีหน้าสบายอารมณ์หากแต่เสี่ยวหยุนอารมณ์ดีจึงไม่ใส่ใจแล้วเดินไปนั่งข้างเหลียนเฟิน เอ่ยกับเขาว่า “ข้าต้องไปหอสมุดวังหลวง คุณชายหวังซีซวนบอกว่าที่นั่นมีตำราเก็บไว้อยู่ อาจช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของท่านได้”“เขาไม่ได้บอกหรือว่าที่แห่งนั้นห้ามให้คนนอกเข้าไป” เหลียนเฟินหรี่ตามองคนตรงหน้าที่ทำท่าเหมือนรู้ทุกอย่าง “หากคิดไปขโมยตำรามาก็หยุดแต่เพียงเท่านั้นเถิด พลังชีวิตของข้ามีแค่ครึ่งเดียวแล้วอย่างไร ไม่เห็นหรือว่าข้ายังแข็งแรงดี”“ไม่อยากอยู่กับข้านานกว่านี้หรือ” สีหน้าของเขาเศร้าสร้อยหากต้องล้มเลิกความตั้งใจ รู้ว่าบำเพ็ญคู่จะสามารถยืดอายุขัยออกไปได้ แต่หากพลังชีวิตของเขากลับมาเหมือนเดิม ย่อมมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันนานมากขึ้นไปอีกเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status