เขมกร
หลังจากผมนั่งทนฟังคุณนายแบบชื่อดังอย่างนายธีโอร้องฮัมเพลงมาตลอดเส้นทาง ในที่สุดรถหรูก็เคลื่อนตัวมาหยุดอยู่หน้าบ้าน2ชั้นที่เป็นบ้านของข้าวตังสักที อ่อจริงสิไม่ต้องสงสัยกันนะครับว่าผมบอกทางมาบ้านของข้าวตังให้นายธีโอรู้ได้ยังไง ก็ไม่ยากเลยครับก็รู้มาจากไอ้เหี้ยคุณระบบนั่นแหละบวกกับความทรงจำเจ้าของตัวละครด้วยก็เลยรับรู้ได้
อ่ออีกอย่างที่ทุกคนเห็นว่าไอ้คุณนายแบบมันนั่งร้องฮัมเพลงมาตลอดทางแบบนี้ เป็นเพราะผมขี้เกียจจะคุยและตอบคำถามก็เลยนั่งเงียบแม่งเลย คนห่าอะไรพูดมากถามมากฉิบหาย เอะอะ ๆ ถาม เดี๋ยวก็ทำไมถึงกล้าด่าเพื่อนตัวเองเดี๋ยวก็ทำไมถึงมารับหมัดแทนเหรอ แป๊บ ๆ ก็ทำไมอย่างนู้นทำไมอย่างนี้ เป็นเจ้าหนูจำไมหรืออย่างไรก็ไม่รู้
แน่นอนเมื่อรถจอดสนิทมีหรือที่ผมจะอยู่บนรถกับคนน่ารำคาญอย่างนี้ต่อ ก็ต้องรีบเผ่นซิครับรออะไรล่ะ และยามที่รถจอดสนิทดีผมก็รีบคว้าข้าวของของตัวเองและเปิดประตูจะก้าวลงจากรถทันทีตามที่คิด แต่แล้วเท้าผมที่ยังไม่ทันได้แตะพื้นแขนของผมก็โดนมือของไอ้คุณนายแบบจับรั้งไว้ซะก่อน
"เดี๋ยวสิคุณ"
"อะไรอี้ก ก็ให้มาส่งแล้วนี่ไงจะเอาอะไรอีกวะ"ผมถามขึ้นพลางหันไปมองไอ้นายแบบหน้าหล่อด้วยสายตารำคาญเต็มพิกัด เพราะในตอนนี้ผมชักจะทนไม่ไหวกับไอ้พระรองคนนี้แล้ว เล้าหลือซะจริงคนยิงเจ็บแก้มที่โดนต่อยอยู่
แม่งหัวก็แตก ปากก็แตกและไอ้พระเอกแม่งก็เล่นใส่มาเต็มแรงด้วยไม่รู้พรุ่งนี้หน้าจะบวมจะช้ำแค่ไหน ที่สำคัญเลยไอ้คนที่ทำให้ผมได้แผลถึง2แผลนี้ก็เป็นคนคนเดียวกัน ซึ่งก็คือไอ้หน้าหล่อที่มันรั้งผมไว้ในตอนนี้ มันน่าโมโหไหมล่ะ
"คือว่าที่แวะร้านสะดวกซื้อเมื่อกี้ คือผมลงไปซื้ออุปกรณ์ทำแผลน่ะ"นายธีโออะไรนี้พูดถึงเรื่องที่ตัวเองแวะร้านสะดวกซื้อระหว่างทางมาบ้านผมเมื่อกี้ให้ฟัง
"แล้วยังไง"ผมเลิกคิ้วถามกลับไปหน้านิ่ง ซึ่งไอ้นายแบบหน้าหล่อพอโดนผมถามกลับไปอย่างนั้นก็พลันแสดงสีหน้าเลิ่กลั่ก คิ้วคมก็ขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นปม สงสัยคงไม่รู้จะพูดตอบผมกลับมายังไงล่ะมั้งและเพราะแบบนี้ผมถึงเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้ง"นี่นาย ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ปล่อยแขนด้วย จะได้ไปอาบน้ำทำแผลนอน นาฬิกาก็ใส่ไม่เห็นหรือไงว่าตอนนี้มันดึกมากแล้ว"
"ผมขอเข้าไปทำแผลให้ได้ไหม"
"ห้ะ?"
"คือคุณอย่าเข้าใจผิดนะ แบบว่าที่คุณต้องมาเจ็บตัวและปากแตกแบบนี้ก็เป็นเพราะคุณเข้ามารับหมัดแทนผม ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ขอก็เถอะ แต่มันก็แบบว่าอยากจะรับผิดชอบที่คุณต้องมาเจ็บตัวเพราะผมถึงสองครั้งน่ะ"
ทำไมประโยคคำพูดของไอ้หมอนี้มันแลดูฟังไม่เข้าหูจังวะ มันพูดเพราะรู้สึกผิดที่ผมมาเจ็บตัวเพราะมันจริงไหมเนี่ย
"ขอบคุณ แต่ไม่ต้องการกรุณาปล่อยแขนผมด้วย"ผมเอ่ยตอบกลับไปด้วยสีหน้ารำคาญอีกครั้ง ส่วนไอ้คุณพระรองก็ยังคงขมวดคิ้วมองมายังผมอย่างไม่เข้าใจมือก็ยังคงจับรั้งแขนผมอยู่อย่างนั้น
"คุณเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ"
"ห้ะ?"
ประโยคคำพูดของไอ้คุณพระรองทำเอาผมหันขวับไปมองอย่างตกใจปนไม่เข้าใจในสิ่งที่คนคนนี้พูด ก็อยู่ ๆ เล่นพูดขึ้นมาแบบนี้มันก็ต้องตกใจซิวะ ในหัวของผมตอนนี้บอกเลยเต็มไปด้วยคำถามว่าไอ้พระรองมันรู้แล้วเหรอว่าผมไม่ใช่ข้าวตังหรือว่าผมทำอะไรให้นายพระรองคนนี้สงสัยอย่างนั้นเหรอนายธีโอถึงได้ถามอะไรแบบนี้ออกมา
แล้วถ้าเกิดว่าผมโดนจับได้ว่าตัวผมไม่ใช่ข้าวตังในนิยายเรื่องอาทิตย์ครองจันทร์ระบบจะลงโทษหรือส่งผมกลับไปยังโลกของผมไหม บอกเลยตอนนี้คำถามในหัวของผมนั้นรันเต็มไปหมด แต่แล้วคำถามเหล่านี้ก็มลายหายไปเมื่อไอ้พระรองมันเอ่ยพูดต่อ
"ผมนึกว่าคุณจะเป็นคนเงียบ ๆ นิ่ง ๆ ซะอีก เห็นเมื่อก่อนเวลาเจออยู่กับนายอาทิตย์จะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดจา ไม่นึกว่าจะเป็นคนพูดจาแรงและหัวร้อน"
"...."
ไม่รู้จะพูดตอบอะไรกับไอ้คุณพระรองนี้เลย ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่หมอนี้ยังไม่รู้ว่าผมไม่ใช่ข้าวตังตัวจริง แต่จะว่าไปผมก็ยังไม่รู้เลยนะว่าถ้าผมโดนคนอื่นจับได้ขึ้นมาผมจะโดนอะไรหรือจะโดนส่งกลับไปไหม อันนี้ผมก็ยังไม่รู้เพราะยังไม่ได้ถามไอ้เหี้ยคุณระบบเลย
'ถ้าเกิดกรณีที่โดนจับได้โดยคนที่รู้ไม่ใช่ตัวละครหลักตัวอย่างเช่นพระรองคนนี้ คุณก็จะโดนลงโทษโดยถูกทำให้ลืมตัวตนหรือก็คือความจำเสื่อมหนึ่งเดือน แต่ถ้าเป็นกรณีที่ถูกตัวละครหลักอย่าพระเอกหรือนายเอกจับได้ คุณก็จะถูกรีเซตและเริ่มต้นใหม่อีกครั้งและครั้งนี้คุณจะไม่เหลือความทรงจำจากโลกของคุณ หลังจากนั้นคุณก็จะได้สวมบทบาทข้าวตังที่แท้จริงจนกว่านิยายเรื่องนี้จะจบสมบูรณ์'
จู่ ๆ เสียงของไอ้เหี้ยคุณระบบก็ดังขึ้นอธิบายในสิ่งที่ผมสงสัยจนทำให้ผมกระจ่าง และแน่นอนเมื่อผมได้ยินในสิ่งที่ไอ้บ้าระบบนี้มันอธิบายผมก็อ้าปากค้างและเผลออุทานออกมาเสียงดังจนทำให้ไอ้พระรองหน้าหล่อนี้งง
"เหี้ยอะไรวะเนี่ย!!!"ผมไม่รู้เลยว่าตั้งแต่ผมโผล่มาอยู่ในนิยายเรื่องนี้ผมใช้คำว่าเหี้ยไปบ่อยแค่ไหน เพราะตั้งแต่เข้ามาอยู่ในร่างของข้าวตังคำคำนี้ก็ผลุดขึ้นมาในหัวของผมแทบจะตลอดเวลา
ก็ดูเอาเถอะ จะไม่ให้ผมใช้คำนี้บ่อยได้อย่างไรกัน ก็ตั้งแต่ถูกไอ้เหี้ยระบบนี้ดึงเข้ามาก็มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ แล้วเมื่อกี้มันคือเหี้ยอะไรกัน ถ้าถูกคนอื่นจับได้ผมจะความจำเสื่อมหนึ่งเดือน แค่นี้ก็ว่าเหี้ยพอแล้วนะที่ต้องลืมตัวตนของตัวเองเป็นเดือน ๆ แต่พอเจอไอ้ประโยคหลังที่ว่าถ้าตัวละครหลักจับได้ตัวของผมจะต้องถูกรีเซตและทำให้เป็นตัวละครข้าวตังที่แท้จริงจนกว่านิยายจะจบบริบูรณ์
ซึ่งเหี้ยมาก เพราะข้าวตังเป็นเพื่อนสนิทพระเอกอย่างอาทิตย์ มีสิทธิ์ที่อาทิตย์จะสงสัยและจับได้ง่าย ๆ เพราะแค่นิสัยของเพื่อนสนิทตัวเองเปลี่ยนไปมันก็แปลกแล้วไหมอ่ะ
เสี่ยงที่จะโดนถูกรีเซตง่าย ๆ เลยตัวกู
"อะไรของคุณเนี่ย ผมก็แค่ถามเพราะสงสัยเฉย ๆ ไม่เห็นต้องพูดคำหยาบใส่กันเลย"ไอ้พระรองมันหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อยพลางมือก็ปล่อยออกจากแขนของผมอย่างอัตโนมัติ
ส่วนผมที่พึ่งรู้ว่าตัวเองเผลออุทานออกไปก็รีบตีหน้านิ่งและกระแอมไอเบา ๆ แก้เก้อ ก่อนจะเอ่ยพูดกับไอ้พระรองหน้าหล่อเพื่อพาเปลี่ยนเรื่อง
"นายจะทำแผลให้ฉันไม่ใช่หรือไง งั้นก็รีบลงจากรถแล้วตามมาสิ อ้อแล้วอย่าลืมปิดหน้าปิดตาลงมาด้วยล่ะเดี๋ยวมีคนเห็นแล้วจำได้แอบถ่ายรูปไปทำข่าวซุบซิบขึ้นมาแล้วจะซวยเอา"ว่าจบผมก็ลงจากรถปิดประตูแล้วเดินไปเปิดประตูรัวก้าวเข้าไปในพื้นที่ของบ้าน สาวเท้าเดินตรงไปไม่นานก็ถึงประตูบานไม้ มือควานกุญแจในกระเป๋ากางไม่นานก็หยิบออกมาไขประตูบ้านที่ตอนนี้มืดสนิท ซึ่งไอ้คุณนายแบบเองก็รีบหาแมสสวมปิดบังใบหน้าพร้อมกับคว้าถุงร้านสะดวกซื้อแล้วรีบลงจากรถวิ่งตามหลังผมมาติด ๆ
ไม่นานบ้านทั้งหลังก็ถูกเปิดไฟจนสว่างจ้าด้วยฝีมือของผม อาจจะเพราะเป็นความเคยชินของตัวละครข้าวตังเลยทำให้ร่างกายของผมเคลื่อนไหวไปยังจุดเปิดไฟเองอย่างเป็นธรรมชาติ
ทันทีที่แสงไฟสว่างขึ้นผมก็เดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาว นายธีโอเองก็เดินตามมาทรุดตัวนั่งลงด้านข้างโดยเว้นระยะห่างกันเป็นคืบ หึ ทำอย่างกับผมเป็นตัวเชื้อโรค มือหนาของธีโอเอื้อมไปหยิบพวกอุปกรณ์ทำแผลออกจากถุงจนหมดและเริ่มลงมือแกะนั้นแกะนี้ พอได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นสิ่งแรก นัยน์ตาคมก็จ้องมองมายังผมที่นั่งขมวดคิ้วจ้องมองไอ้นายแบบหนุ่มหน้าหล่อนี้อยู่ก่อนสักพักแล้วพลางในหัวของผมก็คิดไปด้วย
ก็ว่าสิว่าทำไมผมถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าไอ้พระรองคนนี้นัก ที่แท้หน้าตาของไอ้นายแบบพระรองคนนี้เหมือนกับนายแบบที่กำลังมาแรงในโลกจริงอย่าง คุณที ที่ผมพึ่งจะไปถ่ายแบบไม่กี่วันก่อน ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้
แม่งเหมือนกันอย่างกับแฝดเลย หรือไอ้หมอนี้จะถูกดึงเข้ามาในนิยายเรื่องนี้อย่างไม่ได้ตั้งใจเหมือนกันกับผมวะ
"นี่นายได้ชื่อคุณทีไหม"
"นี่นายได้ชื่อคุณทีไหม"เขมกรเอ่ยถามนายแบบหนุ่มตรงหน้าพลางนัยน์ตาก็มองสบดวงตาคมที่มองมายังตนอยู่ก่อนแล้ว ในใจของเขมภาวนาหวังให้คนตรงหน้าตอบกลับมาว่าใช่เขาชื่อคุณที เป็นคนของโลกปัจจุบันที่บังเอิญเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เหมือนกันแต่แล้วความหวังของเขมกรต้องพังทลาย เมื่อนายแบบหนุ่มอย่างธีโอขมวดคิ้วมองมายังเขมด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจพร้อมกับเอ่ยย้ำชื่อของตัวเองอย่างหนักแน่น จนเขมนั้นได้แต่จำยอมเชื่อว่าคนตรงหน้านี้เป็นตัวละครธีโอของนิยายเรื่องนี้จริง ๆ"คุณทีอะไรของคุณ ผมชื่อธีโอคุณเองก็รู้ชื่อของผมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง หรือว่าโดนเพื่อนต่อยจนความจำเลอะเลือน"ความรู้สึกของเขมที่ในตอนแรกเต็มไปด้วยความสงสัยเป็นต้องเปลี่ยนเป็นความรู้สึกโมโหเมื่อได้ยินคำตอบ แล้วจะไม่ให้เขมรู้สึกโมโหได้อย่างไรก็ดูประโยคคำพูดที่ไอ้หมอนี้มันพูดออกมาสิ น่าตบให้เลือดกบปากซะมัดเลย แต่ก็ได้แต่คิดในใจนั่นแหละเขมกรไม่กล้าที่จะทำให้ใบหน้าอันมีค่าของไอ้นายแบบชื่อดัง
เขมกรหลังจากผมนั่งทนฟังคุณนายแบบชื่อดังอย่างนายธีโอร้องฮัมเพลงมาตลอดเส้นทาง ในที่สุดรถหรูก็เคลื่อนตัวมาหยุดอยู่หน้าบ้าน2ชั้นที่เป็นบ้านของข้าวตังสักที อ่อจริงสิไม่ต้องสงสัยกันนะครับว่าผมบอกทางมาบ้านของข้าวตังให้นายธีโอรู้ได้ยังไง ก็ไม่ยากเลยครับก็รู้มาจากไอ้เหี้ยคุณระบบนั่นแหละบวกกับความทรงจำเจ้าของตัวละครด้วยก็เลยรับรู้ได้อ่ออีกอย่างที่ทุกคนเห็นว่าไอ้คุณนายแบบมันนั่งร้องฮัมเพลงมาตลอดทางแบบนี้ เป็นเพราะผมขี้เกียจจะคุยและตอบคำถามก็เลยนั่งเงียบแม่งเลย คนห่าอะไรพูดมากถามมากฉิบหาย เอะอะ ๆ ถาม เดี๋ยวก็ทำไมถึงกล้าด่าเพื่อนตัวเองเดี๋ยวก็ทำไมถึงมารับหมัดแทนเหรอ แป๊บ ๆ ก็ทำไมอย่างนู้นทำไมอย่างนี้ เป็นเจ้าหนูจำไมหรืออย่างไรก็ไม่รู้แน่นอนเมื่อรถจอดสนิทมีหรือที่ผมจะอยู่บนรถกับคนน่ารำคาญอย่างนี้ต่อ ก็ต้องรีบเผ่นซิครับรออะไรล่ะ และยามที่รถจอดสนิทดีผมก็รีบคว้าข้าวของของตัวเองและเปิดประตูจะก้าวลงจากรถทันทีตามที่คิด แต่แล้วเท้าผ
เขมกรผมที่ยืนซุ่มดูสถานการณ์อย่างเมามันอยู่กับพวกไทยมุงในผับยามที่เห็นคนทะเลาะกัน อยู่ ๆ ร่างกายของผมก็ถูกบังคับให้เคลื่อนไหวเดินแทรกเหล่าผู้คนพุ่งเข้าไปยืนกลางวงอย่างงง ๆ พร้อมกับรับหมัดหนัก ๆ ของไอ้พระเอกที่เป็นเพื่อนของข้าวตังจนใบหน้าสุดแสนหล่อเหล่าของผมสะบัดไปตามทิศทางของแรงหมัด"โอ๊ย!ไอ้เหี้ยเจ็บ!!!"ผมร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกับมือข้างซ้ายยกขึ้นมากุมใบหน้าข้างที่โดนชกตามสัญชาตญาณ'ยินดีด้วยคุณได้ทำภารกิจสำเร็จ'เสียงของระบบดังขึ้นให้ผมได้ยินทำเอาผมนั้นรู้สึกหัวเสียไม่น้อยกับประโยคที่ไอ้เหี้ยคุณระบบมันพูด อยากจะกระทืบไอ้ระบบชะมัด แหม...ยินดีด้วย ยินดีกับผีมึงสิบังคับกูมาเจ็บตัวแบบนี้มายินดีเหี้ยอะไรครับด้านนายอาทิตย์ไอ้พระเอกตัวดีเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองชกเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างผมก็เบิกตากว้างตกใจไปชั่วขณะ พอ
ณ ผับแห่งหนึ่งฉันมาทำอะไรที่นี่? คำถามนี้ดังขึ้นมาในหัวของเขมกร เขมหรือในตอนนี้ก็คือข้าวตัังยืนถอนหายใจอย่างคนหมดอาลัยตายอยากอยู่หน้าทางเข้าผับ จะไม่ให้เขาแสดงสีหน้าหมดอาลัยตายอยากได้อย่างไรกัน แทนที่ตอนนี้เขาจะต้องนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลแต่เขาต้องขอคุณหมอออกมาก่อนด้วยให้เหตุผลว่าเขามีเหตุจำเป็นต้องไปทำและรีบถ่อสังขารทั้งที่บนหัวยังมีผ้าปิดแผลมาที่นี่ เพื่อจะมาทำภารกิจบ้าบออะไรก็ไม่รู้ที่ไอ้ระบบหน้าหมามันมอบหมายให้เขาทำ"ไม่ทำได้ไหมวะไอ้ภารกิจบ้า ๆ เนี่ย"เขมสบถพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แต่ดูเหมือนว่าไอ้ระบบมันกลัวว่าเขมจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ มันถึงได้รีบสวนขึ้นมาทันที'ไม่ได้ค่ะ ถ้าคุณไม่ทำภารกิจที่ทางเราให้ คุณจะได้รับบทลงโทษ'"เหี้ยอะไรเนี่ย นี่มันบังคับกันชัด ๆ นี่!"เขมหันขวับไปมองหน้าจอระบบตาเขม็งพร้อมกับพูดขึ้นเสียงดัง จนทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองด้วยสีหน้าสงสัย ส่วนเขมที่เริ่มรู้สึกถึงสายตาหลายคู่มองมายังตัวเองก็แกล้งยกมือถือในมือขึ้นมาแนบหูทำเหมือนว่าตัวเองกำลังคุยโทรศัพท์อยู่นะ ซึ่งมันก็ได้ผลเมื่อเหล่าคนที่หยุดมองเห็นเขมยกมือถือขึ้นแนบหูก็คลายความสงสัยลงและเ
เขมกรยังไม่ทันได้ตั้งตัวหรือเอ่ยตกลงอะไรกับระบบเลยแม้แต่น้อย หลังจากสิ้นเสียงระบบร่างของเขมกรก็โดนกระชากอย่างแรงอีกครั้งและสติก็ค่อย ๆ ดับไป แต่ทว่าก่อนที่เขมจะหมดสติไปเขาก็ได้ยินเสียงของระบบพูดทิ้งท้ายกับเขาว่า'ทุกอย่างที่พบเจอล้วนเป็นโชคชะตากำหนด' โอ้โห...ทันทีที่เขมกรได้ยินในสิ่งที่ไอ้ระบบเฮงซวยนี้พูด เขาละอยากจะตอกหน้ามันกลับไปจริง ๆ โชคชะตากำหนดบ้านบิดามารดามึงสิครับ กำหมดได้หัวควายสัตว์ ๆ เลยไอ้แม่เย็x.. แต่ก็นั่นแหละบ่นไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะทันทีที่เขมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีตัวของเขาก็ได้ฟื้นมาอยู่ในร่างของข้าวตังซะแล้ว มิหนำซ้ำยังตื่นขึ้นมาอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลพร้อมกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวอีกด้วย "โอ๊ยยยปวดหัวเหี้ย ๆ เลย ก่อนที่กูจะมาเข้าร่างไอ้เจ้าของร่างนี้มันไปทำอะไรมาวะถึงได้มานอนหัวแตกอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้" เขมกรดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเลมือข้างถนัดก็ยกขึ้นมาแตะหัวบริเวรที่เจ็บซึ่งปรากฏว่ามีผ้าก๊อซปิดอยู่พลางปากก็ไม่วายบ่นให้เจ้าของร่างไปด้วย แต่ทว่านั่งบ่นให้เจ้าของร่างเดิมได้ไม่นานเขมกรก็ต้องหันไปมองยังประตูห้อง เมื่อได้ยินเสียงว่ามีใครบางคนกำลังเป
ซ่าาาาา ซ่าาาาาเสียงของสายฝนเทกระหน่ำร่วงหล่นลงจากฟ้าสู่พื้นดินที่แห้งให้เปียกชื้น ท้องฟ้าที่เคยโปร่งแสงบัดนี้เต็มไปด้วยเมฆหนาครึ้มเคลื่อนตัวมาบดบังพระอาทิตย์จนไม่เห็นแสง ทั้งไหนจะสายลมเย็นที่สงบอยู่ ๆ ก็พัดกรรโชกเหล่าต้นไม้ให้ไหวเอนไปตามทิศทางของแรงลม เหล่าผู้คนที่เดินพลุ่งพล่านก็ต่างพากันสาวเท้าออกวิ่งหาที่หลบสายฝนจ้าละหวั่นซึ่งหนึ่งในคนที่กำลังวิ่งหาที่หลบสายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างกับฟ้ารั่วก็มีช่างภาพหนุ่มวัย30อย่าง เขม หรือ เขมกร ก้องวัฒนะกุล ที่พึ่งจบงานถ่ายภาพนายแบบชื่อดังอย่าง คุณที ก็กำลังวิ่งเหลียวหาที่หลบฝนเช่นกัน ด้วยกลัวว่ากล้องราคาแพงที่เขาแบกใส่กระเป๋ามาด้วยจะเปียกเอา "จะมาตกทำห่าอะไรตอนนี้วะ...แม่งเอ๊ยยยให้กูถึงบ้านก่อนก็ไม่ได้ ตาย ๆ กล้องกูจะเปียกไหมเนี่ยยย"เขมหรือเขมกรสบถบ่นออกมาอย่างหัวเสียสายตาก็สอดส่องมองหาพื้นที่ที่พอจะบังฝนให้เขาได้ แต่ถึงกระนั้นเขมมองหาจนทั่วแล้วก็ไม่มีตรงไหนเลยที่พอจะเป็นที่หลบฝนให้เขาได้ แต่ทว่าเขมที่กำลังหัวเสียที่หาพื้นที่หลบฝนไม่ได้ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เขาไม่คุ้นตาเอาซะเลยตั้งอยู่ไม่ไกลจากตรงที่เขายืนอยู่"มาเปิดตอ