"นี่นายได้ชื่อคุณทีไหม"เขมกรเอ่ยถามนายแบบหนุ่มตรงหน้าพลางนัยน์ตาก็มองสบดวงตาคมที่มองมายังตนอยู่ก่อนแล้ว ในใจของเขมภาวนาหวังให้คนตรงหน้าตอบกลับมาว่าใช่เขาชื่อคุณที เป็นคนของโลกปัจจุบันที่บังเอิญเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่แล้วความหวังของเขมกรต้องพังทลาย เมื่อนายแบบหนุ่มอย่างธีโอขมวดคิ้วมองมายังเขมด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจพร้อมกับเอ่ยย้ำชื่อของตัวเองอย่างหนักแน่น จนเขมนั้นได้แต่จำยอมเชื่อว่าคนตรงหน้านี้เป็นตัวละครธีโอของนิยายเรื่องนี้จริง ๆ
"คุณทีอะไรของคุณ ผมชื่อธีโอคุณเองก็รู้ชื่อของผมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง หรือว่าโดนเพื่อนต่อยจนความจำเลอะเลือน"
ความรู้สึกของเขมที่ในตอนแรกเต็มไปด้วยความสงสัยเป็นต้องเปลี่ยนเป็นความรู้สึกโมโหเมื่อได้ยินคำตอบ แล้วจะไม่ให้เขมรู้สึกโมโหได้อย่างไรก็ดูประโยคคำพูดที่ไอ้หมอนี้มันพูดออกมาสิ น่าตบให้เลือดกบปากซะมัดเลย แต่ก็ได้แต่คิดในใจนั่นแหละเขมกรไม่กล้าที่จะทำให้ใบหน้าอันมีค่าของไอ้นายแบบชื่อดังนี้เป็นรอยหรอก
อีกอย่างในตอนนี้เขมขี้เกียจที่จะคิดอะไรแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เขมเข้ามาในนิยายเรื่องนี้ก็มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เขมปวดหัว ในตอนนี้เขมขอไล่ไอ้หมอนี้กลับไปเร็ว ๆ แล้วพักผ่อนเอาแรงก่อนแล้วกัน
"อืมช่างเถอะสงสัยวันนี้ผมจะเบลอจริง ๆ รีบ ๆ ทำแผลสักทีเถอะตอนนี้มันดึกมากแล้ว ง่วง"เขมกรเอ่ยพูดตัดบทพร้อมกับขยับตัวเข้าไปใกล้นายแบบหนุ่มอย่างธีโอแล้วปิดเปลือกตา เพื่อให้ทำแผลได้ถนัดขึ้น
ส่วนธีโอที่เห็นข้าวตังหรือก็คือเขมกรนั่นแหละ นั่งหลับตายื่นใบหน้าเข้ามาใกล้เล็กน้อยก็มองสำรวจใบหน้าหล่อขาวที่ในตอนนี้ใบหน้าข้างซ้ายของเจ้าตัวเริ่มจะบวมช้ำเล็กน้อย มุมปากเองก็แตกมีเลือดซึมให้ธีโอได้เห็น
มือหนาถือก้านสำลีชุ่มไปด้วยน้ำเกลือล้างแผลเอื้อมไปค่อย ๆ กดซับมุมปากของคนอายุเยอะกว่าตัวเอง2ปีอย่างเบามือเท่าที่จะเบาได้ พลางในหัวของธีโอก็นึกคิดไปด้วยว่าทำไมท่าทีของข้าวตังถึงได้ดูเปลี่ยนไปแบบนี้
เพราะเท่าที่ตัวของธีโอเคยเห็นข้าวตังเวลาอยู่กับอาทิตย์คนคนนี้จะเป็นคนเงียบ ๆ นิ่ง ๆ ไม่ค่อยจะพูดจาและออกจะดูเป็นคนเรียบร้อยพูดเพราะล่ะมั้งนะ อันนี้ธีโอก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะที่บอกว่าข้าวตังเป็นคนเรียบร้อยพูดจาไพเราะ
ก็ตอนที่เจอกันล่าสุดที่งานถ่ายแบบข้าวตังในวันนั้นเป็นคนนิ่ง ๆ พูดจาน่าฟัง ไม่ใช่คนแบบนี้อ่ะ บวกกับเวลาที่วันจันทร์เล่าเรื่องผู้ชายคนนี้ให้ฟัง วันจันทร์ก็มักจะบอกว่าพี่ข้าวตังเป็นคนพูดเพราะอยู่ตลอด แบบนี้เลยทำให้ธีโองงและสงสัยนิดหน่อยเวลาที่เห็นข้าวตังพูดจาแรง ๆ และมักจะชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ใส่
ตกลงแล้วนายเป็นคนยังไงกันแน่นะข้าวตัง
เขมกร
หลังจากคืนวันนั้นวันที่ผมนั่งให้ไอ้คุณพระรองทำแผลให้จนเสร็จสรรพและไล่มันกลับบ้านไป ในตอนนี้วันเวลาก็ผ่านพ้นมาแล้ว2วัน และตลอด2วันที่ผ่านมานี้ผมก็อยู่แต่บ้านพักผ่อนไม่ออกไปไหน ส่วนไอ้คุณเหี้ยระบบเองก็เงียบไม่ได้ออกมาวุ่นวายหรือพูดอะไรกับผมเลย แม้ว่าผมมีเรื่องสงสัยจะถามหรือพูดคุยด้วยไอ้คุณเหี้ยระบบก็ไม่ตอบสนองเลย
เป็นระบบที่เอาแต่ใจชะมัดอยากจะมาก็โผล่มา ไม่อยากมาก็หายหัวไปเลย
"ไอ้ระบบเฮงซวยเอ๊ย!"ผมสบถออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายพลางตาก็มองบนปากเองเบะคว่ำอย่างเอือมระอา
ตลอด2วันที่ผ่านมานี้ตัวของผมพยายามจะเค้นสมองของตัวเองนึกถึงเนื้อหานิยายเรื่องอาทิตย์ครองจันทร์ แต่สุดท้ายก็เท่านั้นเพราะไม่ว่าผมจะพยายามนึกถึง2วันผมก็ยังคงจำเนื้อหาไม่ได้ ถามหน่อยเหอะแล้วใครมันจะไปจำเนื้อหานิยายที่ตัวเองเคยอ่านแค่ครั้งเดียวเมื่อเกือบ10ปีที่แล้วได้วะ จำชื่อพระเอกนายเอกได้ก็บุญหัวแล้วไหม (ถึงแม้ว่าจะจำได้เพราะชื่อของทั้งสองตัวละครอยู่ในชื่อเรื่องก็เถอะนะ)
"ปวดหัวโว๊ย!!!"ผมร้องตะโกนออกมาพร้อมกับยกมือทั้งสองขึ้นมาขยี้หัวตัวเองจนผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด ก่อนที่ต่อมาจะทิ้งตัวนอนแผ่หลาตามความยาวของโซฟาอย่างคนหมดอาลัยตายอยากอยู่โซนรับแขกเพราะไม่รู้จะทำอะไร
บอกเลยตอนนี้ผมเบื่อเป็นอย่างมากด้วยเพราะก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามาเป็นตัวละครข้าวตัง ตัวละครของข้าวตังก็ได้รับบาดเจ็บหัวแตกระหว่างทำงาน ทางผู้จัดการของนายธีโอก็เลยเสนอให้ผมหยุดพักรักษาตัว3วัน โดยทางนายธีโอจะรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายที่ทำให้ผมต้องหยุดงานหารายได้ไม่ได้แบบนี้ นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมานอนเอ้อระเหยลอยชายอยู่อย่างนี้
"เบื่อชะมัดเลยนอกจากงานถ่ายแบบของอีตานายแบบธีโอนายข้าวตังก็ไม่ได้รับงานถ่ายแบบคนอื่นไว้เลยหรือไงกัน หรือเพราะว่านี้เป็นในนิยายกันนะก็เลยไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ หรือจะเป็นเพราะนักเขียนขี้เกียจเขียนบทให้ตัวประกอบปะเนี่ย"
ผมสบถบ่นออกมาอีกครั้งและไม่วายที่จะลืมบ่นให้กับนักเขียนที่เขียนนิยายเรื่องนี้ เพราะพอมานึกดูดี ๆ ผมไม่ยักจะเห็นว่าข้าวตังมีครอบครัวเลย ตั้งแต่เข้ามาเป็นตัวละครข้าวตังผมก็ไม่เห็นว่าครอบครัวของข้าวตังจะติดต่อมาเลยทั้งที่ข้าวตังบาดเจ็บนอนโรงพยาบาลขนาดนี้ โทรศัพท์เองก็ไม่เห็นจะมีเบอร์ใครนอกจากเบอร์นายอาทิตย์ที่เป็นเพื่อนสนิทและน้องวันจันทร์เมียเพื่อน และสุดท้ายก็เป็นเบอร์ของคนที่เกี่ยวกับงานทั้งนั้น
ส่วนงานช่างภาพของข้าวตังเองก็แทบจะไม่ค่อยมี เดือน ๆ หนึ่งมีงานถ่ายแบบเพียงไม่กี่งานเอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังดีที่ฐานะทางการเงินของตัวละครนี้ไม่ค่อยแย่เรียกว่าอยู่ในระดับดีเลยล่ะ ก็ยังดีที่นักเขียนยังเขียนให้เพื่อนพระเอกมันมีอันจะกินอะนะ ไม่งั้นผมได้ด่าสาปนักเขียนแน่
แต่ว่าก็เหงาอยู่ดีอ่ะ จะเป็นอะไรไหมวะถ้าระหว่างที่ผมไม่มีบทบาทในนิยายผมจะหางานเพิ่มระหว่างรอภารกิจจากระบบ ก็ปกติเวลาอยู่ที่โลกจริงเดือนหนึ่งผมรับงานไม่ต่ำกว่า20งาน บางเดือนผมแทบจะถ่ายงานทุกวันเลย เรียกได้ว่าผมเป็นช่างภาพมือทองเลยแหละ พอมาตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ค่อยจะมีงานแบบนี้มันเลยดูแปลก ๆ
'ติ๊ง! ภารกิจใหม่'
"เชี่ยตกใจหมด ทำไมถึงชอบมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้วะเกิดหัวใจวายตายไปจะทำยังไงห้ะ"
ผมที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ เป็นต้องตกใจเมื่ออยู่ ๆ ไอ้ระบบบ้านี้ก็ดังขึ้นมาพร้อมหน้าจอปรากฏขึ้นตรงหน้าให้ผมได้เห็น แต่ถึงแม้ว่าผมจะบ่นให้ไอ้ระบบเหี้ยนี้ที่มันทำผมตกใจไปก็เท่านั้น เพราะมันก็ยังคงทำเฉไฉไม่สนใจผมเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังเมินและพูดเกี่ยวกับภารกิจของมันต่อ
'ในวันพรุ่งนี้อาทิตย์ที่ได้รับชัยชนะในการแข่งรถจะทำการนัดปาร์ตี้ฉลองกับทีมและเพื่อนนักแข่งของเขาหลายคนในช่วงค่ำ และการไปฉลองชัยชนะครั้งนี้อาทิตย์จะพาวันจันทร์ไปด้วย รวมถึงได้โทรมาชักชวนข้าวตังที่เป็นเพื่อนสนิทอย่างคุณไปร่วมฉลองยินดีกับตัวเขา ซึ่งแน่นอนว่าชัยชนะการแข่งรถของอาทิตย์มีคนที่ยินดีกับเขาอยู่มาก แต่ก็มีคนที่อิจฉาไม่ชอบความเก่งกาจและโดดเด่นของอาทิตย์อยู่ไม่น้อย ทำให้ปาร์ตี้ฉลองชัยชนะมีคนไม่หวังดีลอบที่จะทำลายชื่อเสียงของอาทิตย์โดยการ....'
ผมที่ฟังไอ้บ้าระบบนี้สาธยายมาแปดร้อยพันหน้าจนถึงตรงนี้ก็ชักเริ่มรู้สึกตงิดใจ กลัวเหลือเกินว่าภารกิจที่ไอ้เหี้ยระบบนี้มันจะมอบหมายให้ผมทำมันจะเป็นภารกิจแปลก ๆ เพราะเท่าที่ระบบมันสาธยายก่อนจะเข้าภารกิจนี่มันชักไม่ชอบมาพากล
'โดยการวางยาปลุกอารมณ์ขนาดแรงเพื่อหวังให้อาทิตย์เสียสติควบคุมตัวเองไม่ได้ จนกระทำไม่ดีกับวันจันทร์ต่อหน้าพวกนั้น ภารกิจ: คุณต้องไปร่วมปาร์ตี้ฉลองชัยชนะในครั้งนี้และช่วยพระเอกอย่างอาทิตย์ให้พ้นวิกฤติจากการโดนวางยาจากศัตรูผู้ไม่หวังดี'
เฮ่อ...สุดท้ายไอ้คุณเหี้ยระบบก็ยังคงบังคับให้ผมไปเสี่ยงในที่อันตรายเหมือนเดิมอยู่ดี ภารกิจแต่ล่ะอันมีแต่ดี ๆ ทั้งนั้น
"นี่มัน..."ทันทีที่รถคันหรูจอดเทียบข้างรั้วบ้าน2ชั้นแถบชานเมือง ดวงตาของเขมกรก็จ้องมองอย่างตกตะลึงพลางริมฝีปากก็สบถออกมาเสียงเบา ก่อนจะเงียบไปไม่ได้เอ่ยความคิดในหัวออกมา นี่มันเหมือนกับบ้านของข้าวตังในโลกนิยายเปี๊ยบเลยนัยน์ตากลมทอดมองออกไปนอกกระจกรถ คิ้วเรียงสวยทั้งสองขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างนึกสงสัยว่าทำไมบ้านหลังนี้ถึงได้เหมือนบ้านของข้าวตังตัวประกอบในนิยายได้ขนาดนี้ แล้วคุณทีรู้จักบ้านหลังนี้ได้อย่างไรแล้วทำไมถึงได้พาเขามาที่นี่กัน หรือว่าคุณทีจะจำเรื่องทุกอย่างได้แล้วจริง ๆในหัวของเขมกรเกิดคำถามขึ้นมามากมายพลางความทรงของเขากับธีโอที่เคยใช้ชีวิตในบ้านของข้าวตังตอนอยู่ในโลกนิยายก็ผลุดแล่นขึ้นมาในหัวไม่หยุดหย่อน ยามเมื่อสอดสายตามองเข้าไปในบ้านหลังนี้ที่คล้ายคลึงกับบ้านในนิยายเหลือเกิน"เข้าไปดูข้างในบ้านกันเถอะครับ"เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นเรียกสติให้เขมกรหลุดจากภวั
ภายในร้านคาเฟ่อาทิตย์ครองจันทร์เขมกรนั่งเหม่อลอยทอดสายตามองออกไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย ในหัวก็คิดถึงเรื่องที่รับรู้แน่ชัดแล้วว่าคุณทีและธีโอนั้นเป็นคนเดียวกัน เพราะเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้าอเดลได้เล่าให้เขาฟังว่าคุณทีเองก็ได้เข้าไปสวมบทบาทเป็นธีโอในนิยายอย่างที่เขาสงสัยแต่ทว่ากรณีของคุณทีเป็นเพียงเหมือนการโดนดึงจิตเข้าไปสวมบทเป็นตัวตนนั้นจริง ๆ ไม่เหมือนกับเขาที่โดนดึงเข้าไปทั้งตัวตน จึงทำให้เมื่อนิยายจบบริบูรณ์เจ้าตัวจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโลกนิยาย จะจำเรื่องราวได้เพียงเลือนรางเหมือนกับว่าตัวเองนอนแล้วฝันไป ต่างกับตัวเขาที่จำได้แล้วก็รับรู้หมดทุกอย่าง"เฮ่อ..."เขมกรถอนหายใจเฮือกใหญ่ในหัวก็ยังคิดไม่ตกกับเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเรื่องเจ้าของร้านคาเฟ่แห่งนี้ ที่ในตอนนี้ยังคงทำตัวเฉยเมยอย่างกับเรื่องที่ตัวเองต้องพบเจอเป็นเพียงเรื่องธรรมดาทั่วไป ทั้งที่เรื่องที่ตัวเองต้องกลายเป็นมนุษย์นั้นมันเรื่องใหญ่ฉิบหายเขมกรหันมามองอเดลที่เก็
กรุ๊ง กริ๊งเสียงกระดิ่งประตูร้านคาเฟ่ดังขึ้นในช่วงหัวค่ำ เป็นสัญญาณให้เจ้าของร้านรับรู้ได้ว่ามีบุคคลใหม่มาเยือน อเดลวางเศษเสี้ยวของบางสิ่งบางอย่างในมือลงบนโต๊ะแล้วยืนหลังตรงหันหน้าไปมองชายร่างโปร่งผมยาวมีดวงตาและผมสีม่วงเช่นเดียวกับเขาในเมื่อก่อนใช่อ่านไม่ผิดหรอกในตอนนี้สีผมและดวงตาของอเดลได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เปลี่ยนไปเกือบจะเหมือนมนุษย์โลกทั่ว ๆ ไป นัยน์ตาสีดำอมม่วงเล็กน้อยทอดมองเพื่อน? เรียกว่าเพื่อนได้ไหมนะ เพราะที่โลกระบบของพวกเขานั้นต่างก็พากันไร้ความรู้สึกนึกคิด ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับอะไรเลยแม้แต่น้อย จะให้มามีความผูกพันฉันมิตรก็ยิ่งแล้วใหญ่ 10ปี100ปีนี่พูดคุยกันแทบจะครั้งสองครั้งเองแต่ว่ากับ ชินะ รวม ๆ เกือบ50ปีมานี้อเดลได้พูดคุยกับเขาเกือบสิบครั้งได้ ด้วยชินะนั้นเป็นน้องใหม่ที่พึ่งกำเนิดตัวตนขึ้นมาได้ไม่ถึง50ปีดีด้วยซ้ำ ชินะก็เลยมาถามไถ่ปรึกษาเรื่องระบบกับอเดลอยู่บ่อยครั้ง (บ่อย?) ก็เลยทำให้เขาจำหน้าค่าตาชินะได้ และที
กลับมายังปัจจุบันเขมกรยืนหอบหายใจแรงภายในหัวก็ยังคงงงงวยกับสถานการณ์ที่พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อกี้ เขมยังงงกับตัวเองว่าทำไมตัวเขาถึงได้ตอบตกลงให้คนตัวสูงที่ในตอนนี้ยืนทิ้งหัวพิงอยู่กับลาดไหล่ของเขาได้จูบแลกลิ้นกันแบบนี้นะ และยิ่งไม่เข้าใจกว่าคือทำไมอยู่ ๆ ทีปกรถึงมาขอจูบเขาทั้งที่ในโลกแห่งนี้เราพึ่งรู้จักกันได้ไม่นานและไม่ได้สนิทสนมกันเลยแท้ ๆหรือเป็นเพราะเจ้าตัวเมาหรือเปล่านะ แต่ว่าถึงจะเมามากยังไงก็ไม่ควรจะขอจูบกับใครมั่ว ๆ แบบนี้ไหมวะ ตัวเองเป็นถึงนายแบบชื่อดังมีชื่อเสียงทั่วทั้งประเทศ เกิดว่าคนที่ขอจูบไม่ใช่ตัวเขาแต่เป็นคนไม่ดี คนคนนั้นจะไม่ฉวยโอกาสเอาเรื่องนี้มาแบล็กเมล์รีดไถตังค์หรือขู่จะเอาไปแพร่ข่าวให้ชื่อเสียงเสียหายหรือไง ทำไมถึงไม่ระวังตัวเอาซะเลย"อ่ะ! คุณทีทำอะไร?"เขมกรที่กำลังง่วนอยู่ในภวังค์ความคิดเป็นต้องสะดุ้งถามคนตัวสูงกว่าอย่างตกใจ เมื่ออยู่ ๆ คนที่ยืนนิ่งพิงหัวไว้ยังลาดไหล่
ทีปกรไม่รู้เวลาผ่านไปกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมงแล้วที่ตัวของผมยืนอารมณ์เสียไม่ขยับไปจากมุมเดิมที่ตรงนี้ และผมก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกหงุดหงิดเวลาเห็นเขาคนนั้นเดินเข้างานมาพร้อมกับผู้ชายคนอื่น จนทำให้ผู้คนในงานต่างก็พูดว่าพวกเขาสองคนนั้นกำลังศึกษาดูใจกัน ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าพวกนักข่าวหน้างานต้องไม่พลาดโอกาสที่จะเอาเรื่องสองคนนี้ไปเล่นข่าวลงหน้าเพจพรุ่งนี้แน่ ๆเหอะ! อยากจะหัวเราะให้ฟังหัก ศึกษาดูใจกันอย่างนั้นเหรอ ทั้งที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาไอ้บ้านั้นมันตามจีบพี่ชายเขาแท้ ๆ แต่มาวันนี้กับทำให้ผู้คนต่างพูดว่ามันกำลังศึกษาดูใจกับอีกคน แถมรู้ทั้งรู้ว่าถ้าเดินเข้างานมากับคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวตัวเองต้องโดนเล่นข่าวแน่ ๆ แต่ก็ยังกล้าควงคนอื่นเข้างานให้เป็นข่าวไอ้คนปลิ้นปล้อนเอ๊ยยยย ปากบอกว่าชอบพี่วันจันทร์ แต่ที่ผ่านมาหลายเดือนผมกับเห็นมันตามติดช่างภาพอย่างเขมกร ไหนจะตอนที่อยู่ทะเลไหนจะตอนอื่น ๆ ที่ผมเห็นมันเอาแต่ไปขลุ
ร่างของเขมกรถูกดันถอยหลังติดกำแพงทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องพักชั้นบนของโรงแรมที่ใช้จัดงานฉลองวันเกิดของนายนิรุตติ์เจ้าของค้ายดัง เขมกรยังไม่ทันได้ปริปากพูดโต้แย้งอะไร เจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรก็กรู่เข้ามาประกบริมฝีปากจูบปิดปากเขาในทันทีริมฝีปากเปียกชุ่มขยับบดเบียดเข้าหาปากอิ่ม ลิ้นร้อนค่อย ๆ แลบเลียตามแนวปากนุ่มอย่างรีบร้อน ก่อนจะสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากไล่เกี่ยวตวัดแลกลิ้นหยอกล้อกับเขมกร นัยน์ตาสีน้ำตาลหยาดเยิ้มจ้องมองอีกฝ่ายเหมือนจะกลืนกินจูบแลกลิ้นกันอยู่นานนายแบบตัวสูงก็ปล่อยริมฝีปากของเขมกรให้เป็นอิสระพลางใบหน้าหล่อที่แก้มทั้งสองขึ้นสีแดงระเรื่อชัดเจนก็ค่อย ๆ โน้มเข้ามาใกล้ใช้หน้าผากตัวเองแตะหน้าผากมนของเขมเบา ๆ ครั้นเมื่อระยะห่างของใบหน้าทั้งสองนั้นน้อยนิดทำให้เขมกรที่ถูกกักอยู่ในอ้อมแขนรับรู้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดถูกใบหน้าของตัวเองจนได้กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พลันในหัวก็งงงวยกับสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างมากเขมกรไม่เข้