เขมกร
ผมที่ยืนซุ่มดูสถานการณ์อย่างเมามันอยู่กับพวกไทยมุงในผับยามที่เห็นคนทะเลาะกัน อยู่ ๆ ร่างกายของผมก็ถูกบังคับให้เคลื่อนไหวเดินแทรกเหล่าผู้คนพุ่งเข้าไปยืนกลางวงอย่างงง ๆ พร้อมกับรับหมัดหนัก ๆ ของไอ้พระเอกที่เป็นเพื่อนของข้าวตังจนใบหน้าสุดแสนหล่อเหล่าของผมสะบัดไปตามทิศทางของแรงหมัด
"โอ๊ย!ไอ้เหี้ยเจ็บ!!!"ผมร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกับมือข้างซ้ายยกขึ้นมากุมใบหน้าข้างที่โดนชกตามสัญชาตญาณ
'ยินดีด้วยคุณได้ทำภารกิจสำเร็จ'
เสียงของระบบดังขึ้นให้ผมได้ยินทำเอาผมนั้นรู้สึกหัวเสียไม่น้อยกับประโยคที่ไอ้เหี้ยคุณระบบมันพูด อยากจะกระทืบไอ้ระบบชะมัด แหม...ยินดีด้วย ยินดีกับผีมึงสิบังคับกูมาเจ็บตัวแบบนี้มายินดีเหี้ยอะไรครับ
ด้านนายอาทิตย์ไอ้พระเอกตัวดีเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองชกเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างผมก็เบิกตากว้างตกใจไปชั่วขณะ พอได้สติกลับคืนมาก็รีบเข้ามาถามพลางต่อว่าให้ผมอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมารับหมัดแทนไอ้คุณพระรองแบบนี้
"เห้ยไอ้ตังเจ็บมากไหมวะ ทำไมมึงถึงทะเล่อทะล่าเข้ามารับหมัดแทนไอ้หน้าอ่อนนี้ฮ้ะ"
กูเองก็อยากจะตะโกนถามไอ้เหี้ยคุณระบบกลับไปเหมือนกันว่าทำไมกูถึงต้องมารับหมัดแทนไอ้พระรองแบบนี้ด้วยครับ แต่ก็นั่นแหละผมก็ได้แต่ยืนกุมแก้มน้ำตาซึมเพราะพูดออกไปไม่ได้ เพราะเดี๋ยวคนจะหาว่าผมบ้า คิดแล้วอยากจะร้องไห้เกิดเป็นไอ้เขมช่างน่าสงสารนัก ได้แต่บ่นในใจตัวเองพอเห็นไอ้พระเอกมองมาอย่างสงสัยก็ต้องจำใจตอบมันกลับไปพร้อมกับแอบด่ามันไปด้วย
"ซี๊ดดด ก็กูไม่อยากให้มึงกับน้องวันจันทร์ต้องทะเลาะกันเพิ่มอีกน่ะสิ อีกอย่างมึงก็เลิกใจร้อนสักทีเถอะอาทิตย์ เหล้าเข้าปากทีไรแม่งใจร้อนทุกที แล้วเมื่อกี้กูได้ยินว่ามึงทะเลาะกับน้องวันจันทร์ใช่ไหม มึงทะเลาะกับน้องทำไมมึงออกมาเที่ยวอีกแล้ววะ ทำไมมึงไม่อยู่กับน้องแล้วปรับความเข้าใจกัน นี่อะไรออกมาเที่ยวสังสรรค์ทำตัวเสเพล ไม่แปลกใจที่โดนเด็กมันว่า"
สวดไอ้พระเอกหน้าหล่อไปหนึ่งแมตช์ ทำให้นายอาทิตย์ที่ไม่ค่อยจะโดนเพื่อนว่าให้ยืนอ้าปากค้างมองมายังผมอย่างอึ้ง ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งน้องวันจันทร์ที่มองมายังผมด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อที่ผมจะกล้าว่าเพื่อนตัวเองแบบนี้
ก็นะ ที่ผ่านมาในความทรงจำของข้าวตังตัวละครนี้แทบไม่มีบทบาทอะไรเลย เท่าที่เห็นก็เป็นคนเงียบ ๆ พอน้องวันจันทร์โทรมาถามหาอาทิตย์ก็จะตอบแค่ว่าอยู่กับตัวเองไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจะดูแลให้ เป็นตัวละครที่เข้าข้างและช่วยเพื่อนอย่างอาทิตย์สุดขีด ดีจริง ๆ
"นะ นี่มึงด่ากู?"อาทิตย์ถามขึ้นด้วยสีหน้าอย่างคนไม่อยากจะเชื่อว่าจะโดนเพื่อนอย่างข้าวตังที่วัน ๆ ไม่ค่อยพูดและไม่ค่อยแสดงสีหน้าว่าให้
"กูไม่ได้ด่ากูบอกมึง...เฮ่ออาทิตย์มึงเป็นเพื่อนกูนะกูไม่อยากให้มึงเสียคนดี ๆ อย่างน้องวันจันทร์ไป ตอนนี้มันยังทันนะที่มึงจะเปลี่ยนตัวเอง น้องวันจันทร์เขารักมึงมากนะโว้ย เพราะฉะนั้นมึงเลิกทำตัวเหี้ย ๆ กับน้องสักทีเถอะนึกถึงวันที่มึงอยากได้น้องเขาหน่อยสิวะ อย่าเหี้ยไปมากกว่านี้เลยเพื่อน พาน้องเขากลับบ้านแล้วไปปรับความเข้าใจกันเหอะ กูไปล่ะ"
ผมเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยและไม่วายที่จะลืมแอบด่าไอ้พระเอกอย่างนายอาทิตย์ ก่อนที่จะหมุนตัวเดินหนีออกมาในตอนที่อาทิตย์มันยังยืนอึ้งอยู่ ซึ่งแน่นอนน้องวันจันทร์น้องนายเอกของเราเองก็อึ้งตกใจไม่ต่างจากแฟนตัวเอง ส่วนอีตาธีโอคุณพระรองของเรื่องที่วันนี้ผมมารับหมัดแทน ผมไม่รู้หรอกว่านายคนนี้แสดงสีหน้าหรือรู้สึกอย่างไร เพราะตลอดเวลาที่ผมด่าอาทิตย์อยู่นั้นไอ้หมอนี้เล่นยืนเงียบอยู่ด้านหลังของผมตลอดเลย
"ซี๊ดไอ้แม่เย็x...หมัดหนักฉิบหายเลย ร้าวไปทั้งแก้มเลยกู"หลังจากเดินพ้นหน้าผับมาไม่ไกลนักผมก็บ่นกับตัวเองพลางมือก็ยกขึ้นมานวดแก้มข้างที่โดนต่อย ก่อนที่จะบ่นกับตัวเองอีกครั้ง"ชีวิตตัวละครมึงจะน่าสงสารเกินไปแล้วนะข้าวตัง ตื่นมาพบว่าตัวเองหัวแตกไม่พอ ตกค่ำมายังต้องมารับหมัดแทนไอ้พระรองอีก ต่อไปมึงจะเจออะไรอีกเนี่ย"
ปี๊ด ๆ
"แหก ๆ ไอ้แม่หx...แหกหมด บีบหาพ่อหาแม่มึงเหรอกูตกใจหมดไอ้เหี้ย"ผมอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อเดินอยู่ข้างถนนดี ๆ ก็มีรถที่ไหนไม่รู้มาบีบแตรใส่จนผมสะดุ้งตกใจแทบหัวใจวาย
ผมหันไปมองไอ้รถคันที่มันบีบแตรใส่ผมตาขวางพร้อมที่จะมีเรื่องกับไอ้เจ้าของรถ แม่งมีอย่างที่ไหนมาบีบแตรทำให้คนอื่นตกใจแบบนี้ เกิดผมตกใจหัวใจวายตายขึ้นมามันจะรับผิดชอบไหวไหม
เอ๊ะแต่ว่าถ้าเกิดผมตายจริง ๆ ขึ้นมาผมก็อาจจะกลับไปที่โลกของผมได้ไหมอ่ะ ไม่ได้ดิก็ตอนมาผมข้ามมาทั้งตัวจริง ๆ เลยนี่นา ถ้าเกิดมาตายที่โลกนี้งั้นตัวผมก็อาจจะตายจริง ๆ ได้น่ะสิ
เมื่อคิดได้ดังนี้ผมยิ่งโมโหไอ้เจ้าของรถมากกว่าเดิม หันไปมองรถหรูคันสีดำเงาตาไม่กะพริบ จ้องมองรถที่เคลื่อนตัวมาจอดขนาบข้างตัวด้วยแววตาที่ไม่ต้อนรับอย่างแรง ก่อนที่จะเห็นว่าไอ้เจ้าของรถมันลดกระจกข้างคนขับลงจนเห็นใบหน้าของมัน
"โทษทีไม่คิดว่าจะทำให้ตกใจขนาดนี้"เสียงทุ้มดังขึ้นหลังจากลดกระจกรถข้างด้านคนขับจนสุด และเมื่อผมเห็นว่าเป็นใครความโมโหของผมยิ่งพวยพุ่งขึ้นมากกว่าเดิม
ไอ้หมอนี้อีกแล้ว!!! ตั้งแต่ผมเข้ามาอยู่บทข้าวตังไอ้หมอนี้มันทำให้ผมเจ็บตัวถึง2ครั้งและเมื่อกี้ก็เกือบหัวใจวายตาย ครั้งแรกก็เดินสะดุดสายไฟจนทำให้ผมหัวแตกเข้าโรงพยาบาลครั้งที่2ก็ทำให้ผมต้องมาปากแตกเพราะรับหมัดแทนมัน แถมล่าสุดเกือบทำให้ผมหัวใจวายตายอีก
ทำไมอยู่ ๆ ผมถึงได้รู้สึกว่าเห็นหน้าไอ้หมอนี้แล้วชีวิตผมจะสั้นลงนะ
"ครั้งหน้าก็หัดคิดให้มันมาก ๆ หน่อยเถอะ"ผมตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมเตรียมจะเดินต่อ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเท้าเมื่อเสียงทุ้มของคนในรถเอ่ยรั้งไว้ซะก่อน
"เดี๋ยวสิคุณ"
"อะไรอีก"ตอบกลับไปเสียงห้วนพลางชักสีหน้าใส่บอกให้ไอ้คุณพระร้องรู้ว่าในตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีอย่างแรง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าไอ้คุณพระรองมันจะดูออกว่าผมนั้นหัวเสียเอาการ
"ไม่ได้เอารถมาเหรอ"
"แล้วเห็นไหมล่ะ"
"กวนตีน คนเขาอุตส่าห์ถามดี ๆ ตอบดี ๆ มันจะตายหรือไง ไม่ติดว่าช่วยรับหมัดแทนนะ"
ไอ้คุณพระรองมันบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่ในรถ คงคิดว่าผมไม่ได้ยินซินะ แต่ทานโทษนะกูหูดีครับ ผมยืนกอดอกจ้องมองไอ้พระรองหน้าหล่อตาเขม็ง ก่อนจะตัดสินใจพูดแทรกกลับไปอย่างหัวเสีย
"จะบ่นอีกนานไหม คิดว่าตัวเองพูดเบานักหรือไงไอ้ที่บ่นออกมากูได้ยินหมดครับ แล้วคิดว่าอยากจะรับหมัดแทนนักหรือไงใจจริงก็ไม่ได้ต้องการเจ็บตัวนักหรอก แต่ทำไงได้วะก็ตัวมันขยับไปเอง"พอได้พูดตอกกลับไปผมก็ดันระบายความในใจกับไอ้คุณพระรองออกไปซะอย่างนั้น มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่นายธีโอพูดแทรกมา
"เอ่อคือผมไม่ได้ต้องการชวนคุณทะเลาะ แต่ที่ถามเพราะอยากจะไปส่งคุณเป็นการตอบแทนที่คุณช่วยรับหมัดแทนผม"
"รับรู้แล้วแต่ไม่ต้องการ งั้นขอตัว"ตอบไปเพียงสั้น ๆ สองเท้าก็เตรียมที่จะเดินต่อแต่ไอ้พระรองที่เห็นแบบนั้นก็รีบเปิดประตูลงจากรถวิ่งมาขวางหน้าทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สวมแมสปิดบังใบหน้า
"เดี๋ยวสิคุณ ให้ผมไปส่งเป็นการขอบคุณ คุณเถอะนะ ผมไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร"
"เล้าหลือน่ารำคาญจริง เออ ๆ แค่ยอมให้ไปส่งก็จะจบใช่ไหม"ผมถามกลับไปอย่างรำคาญและเมื่อเห็นว่าไอ้หน้าหล่อนี้พยักหน้ารับน้อย ๆ ก็หมุนตัวเดินไปเปิดประตูและขึ้นไปนั่งข้างคนขับอย่างตัดรำคาญ ซึ่งพอนายธีโอเห็นอย่างนั้นก็เดินกลับมาขึ้นฝั่งคนขับและถามไถ่เส้นทางกับผม ผมก็ตอบกลับไป
หลังจากนั้นตลอดเส้นทางผมก็หวังว่าจะเต็มไปด้วยความเงียบเพราะผมเลือกที่จะก้มหน้าเล่นมือถือหนีจากสายตาของไอ้คุณนายแบบที่มองมายังผมเป็นระยะ ๆ แต่กระนั้นไอ้นายแบบก็ยังชวนผมพูดและขอแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของ ซึ่งผมก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง และตลอดระยะทางตรงไปบ้านของผมไอ้หมอนี้ก็ยังคงพยายามชวนผมคุย
ผมบอกเลยนะไอ้หมอนี้เป็นผู้ชายที่แม่งโคตรน่ารำคาญเลย
"นี่นายได้ชื่อคุณทีไหม"เขมกรเอ่ยถามนายแบบหนุ่มตรงหน้าพลางนัยน์ตาก็มองสบดวงตาคมที่มองมายังตนอยู่ก่อนแล้ว ในใจของเขมภาวนาหวังให้คนตรงหน้าตอบกลับมาว่าใช่เขาชื่อคุณที เป็นคนของโลกปัจจุบันที่บังเอิญเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เหมือนกันแต่แล้วความหวังของเขมกรต้องพังทลาย เมื่อนายแบบหนุ่มอย่างธีโอขมวดคิ้วมองมายังเขมด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจพร้อมกับเอ่ยย้ำชื่อของตัวเองอย่างหนักแน่น จนเขมนั้นได้แต่จำยอมเชื่อว่าคนตรงหน้านี้เป็นตัวละครธีโอของนิยายเรื่องนี้จริง ๆ"คุณทีอะไรของคุณ ผมชื่อธีโอคุณเองก็รู้ชื่อของผมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง หรือว่าโดนเพื่อนต่อยจนความจำเลอะเลือน"ความรู้สึกของเขมที่ในตอนแรกเต็มไปด้วยความสงสัยเป็นต้องเปลี่ยนเป็นความรู้สึกโมโหเมื่อได้ยินคำตอบ แล้วจะไม่ให้เขมรู้สึกโมโหได้อย่างไรก็ดูประโยคคำพูดที่ไอ้หมอนี้มันพูดออกมาสิ น่าตบให้เลือดกบปากซะมัดเลย แต่ก็ได้แต่คิดในใจนั่นแหละเขมกรไม่กล้าที่จะทำให้ใบหน้าอันมีค่าของไอ้นายแบบชื่อดัง
เขมกรหลังจากผมนั่งทนฟังคุณนายแบบชื่อดังอย่างนายธีโอร้องฮัมเพลงมาตลอดเส้นทาง ในที่สุดรถหรูก็เคลื่อนตัวมาหยุดอยู่หน้าบ้าน2ชั้นที่เป็นบ้านของข้าวตังสักที อ่อจริงสิไม่ต้องสงสัยกันนะครับว่าผมบอกทางมาบ้านของข้าวตังให้นายธีโอรู้ได้ยังไง ก็ไม่ยากเลยครับก็รู้มาจากไอ้เหี้ยคุณระบบนั่นแหละบวกกับความทรงจำเจ้าของตัวละครด้วยก็เลยรับรู้ได้อ่ออีกอย่างที่ทุกคนเห็นว่าไอ้คุณนายแบบมันนั่งร้องฮัมเพลงมาตลอดทางแบบนี้ เป็นเพราะผมขี้เกียจจะคุยและตอบคำถามก็เลยนั่งเงียบแม่งเลย คนห่าอะไรพูดมากถามมากฉิบหาย เอะอะ ๆ ถาม เดี๋ยวก็ทำไมถึงกล้าด่าเพื่อนตัวเองเดี๋ยวก็ทำไมถึงมารับหมัดแทนเหรอ แป๊บ ๆ ก็ทำไมอย่างนู้นทำไมอย่างนี้ เป็นเจ้าหนูจำไมหรืออย่างไรก็ไม่รู้แน่นอนเมื่อรถจอดสนิทมีหรือที่ผมจะอยู่บนรถกับคนน่ารำคาญอย่างนี้ต่อ ก็ต้องรีบเผ่นซิครับรออะไรล่ะ และยามที่รถจอดสนิทดีผมก็รีบคว้าข้าวของของตัวเองและเปิดประตูจะก้าวลงจากรถทันทีตามที่คิด แต่แล้วเท้าผ
เขมกรผมที่ยืนซุ่มดูสถานการณ์อย่างเมามันอยู่กับพวกไทยมุงในผับยามที่เห็นคนทะเลาะกัน อยู่ ๆ ร่างกายของผมก็ถูกบังคับให้เคลื่อนไหวเดินแทรกเหล่าผู้คนพุ่งเข้าไปยืนกลางวงอย่างงง ๆ พร้อมกับรับหมัดหนัก ๆ ของไอ้พระเอกที่เป็นเพื่อนของข้าวตังจนใบหน้าสุดแสนหล่อเหล่าของผมสะบัดไปตามทิศทางของแรงหมัด"โอ๊ย!ไอ้เหี้ยเจ็บ!!!"ผมร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกับมือข้างซ้ายยกขึ้นมากุมใบหน้าข้างที่โดนชกตามสัญชาตญาณ'ยินดีด้วยคุณได้ทำภารกิจสำเร็จ'เสียงของระบบดังขึ้นให้ผมได้ยินทำเอาผมนั้นรู้สึกหัวเสียไม่น้อยกับประโยคที่ไอ้เหี้ยคุณระบบมันพูด อยากจะกระทืบไอ้ระบบชะมัด แหม...ยินดีด้วย ยินดีกับผีมึงสิบังคับกูมาเจ็บตัวแบบนี้มายินดีเหี้ยอะไรครับด้านนายอาทิตย์ไอ้พระเอกตัวดีเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองชกเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างผมก็เบิกตากว้างตกใจไปชั่วขณะ พอ
ณ ผับแห่งหนึ่งฉันมาทำอะไรที่นี่? คำถามนี้ดังขึ้นมาในหัวของเขมกร เขมหรือในตอนนี้ก็คือข้าวตัังยืนถอนหายใจอย่างคนหมดอาลัยตายอยากอยู่หน้าทางเข้าผับ จะไม่ให้เขาแสดงสีหน้าหมดอาลัยตายอยากได้อย่างไรกัน แทนที่ตอนนี้เขาจะต้องนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลแต่เขาต้องขอคุณหมอออกมาก่อนด้วยให้เหตุผลว่าเขามีเหตุจำเป็นต้องไปทำและรีบถ่อสังขารทั้งที่บนหัวยังมีผ้าปิดแผลมาที่นี่ เพื่อจะมาทำภารกิจบ้าบออะไรก็ไม่รู้ที่ไอ้ระบบหน้าหมามันมอบหมายให้เขาทำ"ไม่ทำได้ไหมวะไอ้ภารกิจบ้า ๆ เนี่ย"เขมสบถพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แต่ดูเหมือนว่าไอ้ระบบมันกลัวว่าเขมจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ มันถึงได้รีบสวนขึ้นมาทันที'ไม่ได้ค่ะ ถ้าคุณไม่ทำภารกิจที่ทางเราให้ คุณจะได้รับบทลงโทษ'"เหี้ยอะไรเนี่ย นี่มันบังคับกันชัด ๆ นี่!"เขมหันขวับไปมองหน้าจอระบบตาเขม็งพร้อมกับพูดขึ้นเสียงดัง จนทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองด้วยสีหน้าสงสัย ส่วนเขมที่เริ่มรู้สึกถึงสายตาหลายคู่มองมายังตัวเองก็แกล้งยกมือถือในมือขึ้นมาแนบหูทำเหมือนว่าตัวเองกำลังคุยโทรศัพท์อยู่นะ ซึ่งมันก็ได้ผลเมื่อเหล่าคนที่หยุดมองเห็นเขมยกมือถือขึ้นแนบหูก็คลายความสงสัยลงและเ
เขมกรยังไม่ทันได้ตั้งตัวหรือเอ่ยตกลงอะไรกับระบบเลยแม้แต่น้อย หลังจากสิ้นเสียงระบบร่างของเขมกรก็โดนกระชากอย่างแรงอีกครั้งและสติก็ค่อย ๆ ดับไป แต่ทว่าก่อนที่เขมจะหมดสติไปเขาก็ได้ยินเสียงของระบบพูดทิ้งท้ายกับเขาว่า'ทุกอย่างที่พบเจอล้วนเป็นโชคชะตากำหนด' โอ้โห...ทันทีที่เขมกรได้ยินในสิ่งที่ไอ้ระบบเฮงซวยนี้พูด เขาละอยากจะตอกหน้ามันกลับไปจริง ๆ โชคชะตากำหนดบ้านบิดามารดามึงสิครับ กำหมดได้หัวควายสัตว์ ๆ เลยไอ้แม่เย็x.. แต่ก็นั่นแหละบ่นไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะทันทีที่เขมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีตัวของเขาก็ได้ฟื้นมาอยู่ในร่างของข้าวตังซะแล้ว มิหนำซ้ำยังตื่นขึ้นมาอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลพร้อมกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวอีกด้วย "โอ๊ยยยปวดหัวเหี้ย ๆ เลย ก่อนที่กูจะมาเข้าร่างไอ้เจ้าของร่างนี้มันไปทำอะไรมาวะถึงได้มานอนหัวแตกอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้" เขมกรดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเลมือข้างถนัดก็ยกขึ้นมาแตะหัวบริเวรที่เจ็บซึ่งปรากฏว่ามีผ้าก๊อซปิดอยู่พลางปากก็ไม่วายบ่นให้เจ้าของร่างไปด้วย แต่ทว่านั่งบ่นให้เจ้าของร่างเดิมได้ไม่นานเขมกรก็ต้องหันไปมองยังประตูห้อง เมื่อได้ยินเสียงว่ามีใครบางคนกำลังเป
ซ่าาาาา ซ่าาาาาเสียงของสายฝนเทกระหน่ำร่วงหล่นลงจากฟ้าสู่พื้นดินที่แห้งให้เปียกชื้น ท้องฟ้าที่เคยโปร่งแสงบัดนี้เต็มไปด้วยเมฆหนาครึ้มเคลื่อนตัวมาบดบังพระอาทิตย์จนไม่เห็นแสง ทั้งไหนจะสายลมเย็นที่สงบอยู่ ๆ ก็พัดกรรโชกเหล่าต้นไม้ให้ไหวเอนไปตามทิศทางของแรงลม เหล่าผู้คนที่เดินพลุ่งพล่านก็ต่างพากันสาวเท้าออกวิ่งหาที่หลบสายฝนจ้าละหวั่นซึ่งหนึ่งในคนที่กำลังวิ่งหาที่หลบสายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างกับฟ้ารั่วก็มีช่างภาพหนุ่มวัย30อย่าง เขม หรือ เขมกร ก้องวัฒนะกุล ที่พึ่งจบงานถ่ายภาพนายแบบชื่อดังอย่าง คุณที ก็กำลังวิ่งเหลียวหาที่หลบฝนเช่นกัน ด้วยกลัวว่ากล้องราคาแพงที่เขาแบกใส่กระเป๋ามาด้วยจะเปียกเอา "จะมาตกทำห่าอะไรตอนนี้วะ...แม่งเอ๊ยยยให้กูถึงบ้านก่อนก็ไม่ได้ ตาย ๆ กล้องกูจะเปียกไหมเนี่ยยย"เขมหรือเขมกรสบถบ่นออกมาอย่างหัวเสียสายตาก็สอดส่องมองหาพื้นที่ที่พอจะบังฝนให้เขาได้ แต่ถึงกระนั้นเขมมองหาจนทั่วแล้วก็ไม่มีตรงไหนเลยที่พอจะเป็นที่หลบฝนให้เขาได้ แต่ทว่าเขมที่กำลังหัวเสียที่หาพื้นที่หลบฝนไม่ได้ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เขาไม่คุ้นตาเอาซะเลยตั้งอยู่ไม่ไกลจากตรงที่เขายืนอยู่"มาเปิดตอ