แชร์

บทที่ 9 เทศกาลชมจันทร์

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-24 10:11:20

หลิวจินหลันกับความรักครั้งที่สอง

บทที่ 9

เทศกาลชมจันทร์

            ณ ศาลากุ้ยฮัว ภายในเขตวังหลัง

            ช่วงสายของวันหนึ่ง กู้กุ้ยเฟยจิบชาพร้อมกับชื่นชมบรรยากาศหลังจากใบไม้ในสวนเริ่มเปลี่ยนสีสัน อากาศฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ค่อนข้างหนาวเย็น คาดว่าฤดูหนาวคงมาเยือนเร็วกว่าทุกปี

            ตอนนั้นเอง จูกงกงเข้ามารายงานความเคลื่อนไหวภายในจวนของแม่ทัพกู้ หลังจากได้รับการรายงานจากพ่อบ้านกู้    

            เมื่อฟังจบ กู้กุ้ยเฟยยกมือปิดปากยิ้มๆ  

            “นับเป็นข่าวดี อิ่นมู่หลานชายข้าในที่สุดก็คว้าหัวใจองค์หญิงรองมาครองได้เสียที”

            ทว่าจูกงกงกลับแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน ทั้งยังส่งเสียงลำบากใจ

            “เอ่อ...เรื่องนี้”

            กู้กุ้ยเฟยเลิกคิ้วสงสัย “จูกงกงมีความเห็นอย่างอื่นกระนั้นรึ”

            จูกงกงลังเลเล็กน้อย ก่อนตอบ

            “พ่อบ้านกู้บอกว่าครั้งนี้เป็นองค์หญิงรองเข้าหาแม่ทัพกู้ก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

            “หือ?”

            กล่าวว่าคุณสมบัติของสนมควรเก็บอารมณ์และสีหน้าได้เก่ง ทว่าพอได้ยินเช่นนี้ กู้กุ้ยเฟยกลับเบิกตาอย่างประหลาดใจ

            แต่เดิม องค์หญิงรอง หลิวจินหลันค่อนข้างมีอคติกับกู้กุ้ยเฟย พอมีราชโองการให้แต่งงานกับกู้อิ่นมู่ซึ่งเป็นหลานชายของกู้กุ้ยเฟยด้วยแล้ว หลิวจินหลันก็ยิ่งกล่าวหาว่าตระกูลกู้หว่านพืชหวังผล คิดจะรวบอำนาจไว้แต่เพียงตระกูลกู้

            ทว่าอันที่จริง ฝ่าบาทเห็นว่ากู้อิ่นมู่เหมาะสมกับฐานะราชบุตรเขยมากกว่ารองเสนาบดีเผย กู้อิ่นมู่ไม่เพียงสร้างคุณงามความดีในสนามรบ ทั้งไม่ใช่คนมักใหญ่ใฝ่สูง หลังจากใคร่ครวญอย่างถ้วนถี่ฮ่องเต้จึงพระราชทานสมรสให้หลิวจินหลันแต่งกับกู้อิ่นมู่  

            ตลอดหนึ่งปีมานี้กู้กุ้ยเฟยเป็นกังวลหนักหนาว่าทั้งคู่จะหย่ากันสักวันหนึ่ง แต่พอได้ยินว่ากู้อิ่นมู่กับหลิวจินหลันร่วมหอกันแล้วจึงนับว่าเป็นข่าวดีอย่างมาก ทว่าที่ไม่คาดฝันคือคนที่เริ่มก่อนกลับเป็นองค์หญิงรอง

            จะว่าไปแล้ว ตอนพบเจอกับองค์หญิงรองก่อนหน้านี้ แลเห็นว่าองค์หญิงรองมีท่าทีเปลี่ยนไปนิดหน่อย จะว่าอย่างไรดีล่ะ นางดูอ่อนลง ไม่แสดงทีท่ายกตนข่มท่านเหมือนเมื่อก่อน หากเป็นหลิวจินหลันในตอนนี้ ก็น่าเชื่ออยู่หรอก

            ถึงไม่รู้ว่าอะไรทำให้องค์หญิงรองเปลี่ยนไป แต่กู้กุ้ยเฟยหวังใจยิ่งว่า นับจากนี้อยากเห็นทั้งสองมีความสุขด้วยกันอย่างแท้จริง

            “ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน” กู้กุ้ยเฟยพึมพำ “นี่ก็ใกล้จะถึงเทศกาลชมจันทร์แล้วใช่หรือไม่ ขันทีจู ช่วยเตรียมสถานที่ดีๆ เพื่อให้องค์หญิงรองกับแม่ทัพกู้ได้มีเวลาชมจันทร์แสนงดงามที”

            จูกงกงเข้าใจทันที รีบก้มหน้าตอบรับ “พ่ะย่ะค่ะ” ก่อนก้าวเท้าถี่ๆ ออกจากศาลากุ้ยฮัวอย่างไม่รอช้า   

            ย้อนกลับมายังจวนแม่ทัพกู้

            หลังจากขันทีจูมาแจ้งข้อความบางอย่างกับพ่อบ้านกู้ ทางนี้ก็นำไปรายงานกู้อิ่นมู่ทันทีที่กลับมาถึงจวน

            พอฟังพ่อบ้านกู้พูดจบ ชายหนุ่มถึงกับกรอกตามองฟ้า 

            เพื่อให้กู้อิ่นมู่กับหลิวจินหลันมีสถานที่ชมจันทร์ในเทศกาลชมจันทร์ที่จะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า กู้กุ้ยเฟยลงทุนเหมาเรือสำราญแบบมีห้องส่วนตัวเอาไว้สำหรับทั้งสองโดยเฉพาะ

            สำหรับกู้อิ่นมู่แล้ว เขาไม่คิดจะเอาใจภรรยาเพราะคำสั่งของใคร คนเราหากรักกันก็ไม่อยากทำเพื่อหน้าที่หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง

            ถึงคิดอย่างนั้น แต่นานทีปีหนเมืองหลวงจะจัดงานเทศกาล กู้อิ่นมู่ก็ไม่อยากจะปล่อยโอกาสนี้หลุดมือ

            นับจากร่วมหอกับหลิวจินหลันคืนนั้น นางก็ดูแลปรนนิบัติเขาทุกค่ำคืน พอมองดูรอยยิ้มและอาการประหม่าของนางแล้ว สัญชาตญาณความเป็นผู้นำในกองทัพบอกกู้อิ่นมู่ว่าสิ่งที่นางทำนั้นหาใช่เพราะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง แต่ความรู้สึกของนางมีไว้เพื่อเขาอย่างแท้จริง

            เขาถูกนางเมินเฉยมาตลอดหนึ่งปี แต่แล้ว จู่ๆ นางก็เรียกเขาว่า ‘สามี’ ทั้งยังร่วมหลับนอน นั่นหมายความว่าหัวใจของนางมีเขาประทับอยู่ในนั้นแล้วใช่หรือไม่

            ด้วยความอยากรู้ ตอนเช้าหลังร่วมหลับนอนกับนาง กู้อิ่นมู่อดจะถามไม่ได้

            ‘ทำไมองค์หญิง จู่ๆ ก็ดีกับกระหม่อมนัก’

            ‘ร่วมเตียงกับสามีถือเป็นสิทธิ์ปฏิบัติของภรรยา ถึงฮูหยินบ้านอื่นจะยอมให้สาวใช้ทั้งปรนนิบัติทั้งปีนขึ้นเตียงสามี แต่หากสำหรับข้า ไม่อยากให้สาวใช้คนใดใกล้ชิดสามีของข้าขนาดนั้นหรอกนะ จากนี้ข้าจะปรนนิบัติท่านเอง เตรียมใจไว้เถิด แล้วก็...เรียกข้าว่าจินหลัน’

            นางทำหน้ากระเง้ากระงอดตอนพูดประโยคหลัง

            กู้อิ่นมู่รู้สึกว่าหลังจากที่นางยอมรับเขาเข้ามาในหัวใจ นางก็ยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆ เขาดึงนางเข้ามากอดพร้อมบอกว่า ‘เข้าใจแล้ว จินหลัน’

            นับจากนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเขาแลจะสนิทสนมมากกว่าแต่ก่อน

            “อิ่นมู่ ท่านกลับมาแล้ว”

            เสียงของหลิวจินหลันดังขึ้นตรงหน้า

            กู้อิ่นมู่ดึงสติกลับ ขณะที่พ่อบ้านกู้ปลีกตัวออกไปจากตรงนี้ไปแล้ว

            ชายหนุ่มเลื่อนสายตามองหญิงสาวที่เดินยิ้มแย้มเข้ามาหา วันนี้หลิวจิวหลันสวมชุดสีชมพู ปิ่นประดับทองรูปผีเสื้อมีพู่ห้อระย้า หากในสายตาของกู้อิ่นมู่นั้น ทั้งชุดทั้งเครื่องประดับทองหรูหราหมองลงทันทีเมื่อเทียบกับรอยยิ้มแสนงดงามของนาง   

            หลิวจินหลันหยุดยืนตรงหน้ากู้อิ่นมู่ จ้องมองเขาพร้อมยิ้มกว้างเหมือนกับมีบางอย่างอยากจะพูด     

            “มีเรื่องดีๆ อะไรเกิดขึ้นหรือ ถึงทำให้เจ้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพียงนี้”

            “แม่นมซุนบอกว่าอีกสองวันจะถึงเทศกาลชมจันทร์ ข้ากำลังคิดจะชวนท่านอยู่พอดี”

            “แล้วอย่างไร”

            “ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะชวนท่านไปเทศกาลชมจันทร์ด้วยกัน ในหัวของข้าก็มีความคิดมากมาย ล้วนเป็นความคิดที่ว่าอยากทำให้ท่านมีความสุข ข้าจึงคิดไปยิ้มไป”

            กู้อิ่นมู่อึ้งเล็กน้อย หากเพียงครู่ก็หัวเราะอย่างเบิกบาน  

            ในขณะที่เขากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้ภรรยามีความสุข ทางนั้นเองก็มีความคิดแบบเดียวกัน

            ทั้งเขาทั้งนางต่างก็ต้องการสานสัมพันธ์รักกลมเกลียวฉันท์สามีภรรยา พอคิดอย่างนั้นความอบอุ่นก็แล่นวาบเต็มอก  

            อย่างนี้สินะคือความรัก

            เห็นกู้อิ่นมู่หัวเราะ หลิวจินหลัวก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นงุนงง “ข้าพูดอะไรผิดไปหรือ”

            เขาบอก “เจ้าไม่ได้พูดอะไรผิดหรอก ความจริงข้าเองก็คิดจะชวนเจ้าไปเทศกาลชมจันทร์อยู่พอดี แล้วบังเอิญว่ากู้กุ้ยเฟยจองเรือสำราญไว้ให้ข้ากับเจ้าไว้ที่นอกเมือง จึงลังเลว่าจะชวนเจ้าดีหรือไม่”

            เพราะรู้ว่าหลิวจินหลันมีอคติกับกู้กุ้ยเฟย กู้อิ่นมู่จึงลังเลที่จะเอ่ยถึงเรื่องเรือสำราญ แต่เห็นนางอารมณ์ดีเขาจึงได้พูดออกมา

            “แบบนั้นดีแล้วไม่ใช่หรือ” นางบอก

            “หือ?”

            “ในเมื่อกู้กุ้ยเฟยจัดการสถานที่ชมจันทร์ไว้ให้ท่านกับข้าย่อมสะดวกกว่า เพราะข้าจะได้ไม่ต้องเค้นสมองคิดว่าจะชวนท่านไปรับลมชมจันทร์ที่ไหนดี”

            “ถ้าเจ้าไม่ติดปัญหาอะไร ข้าก็เห็นด้วย”

            “ย่อมไม่ติดปัญหาอยู่แล้ว”

            เห็นนางยังยิ้มร่าเริง ชายหนุ่มก็รู้ทันทีว่านางพูดออกมาจากใจจริง เขายิ้มน้อยๆ พร้อมกับยื่นมือมาบีบจมูกภรรยาด้วยความเอ็นดู

            “เจ้านี่นะ เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้”  

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 38 บทพิเศษ

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 38บทพิเศษ วันเวลาล่วงเลยมาอีกเล็กน้อย แม้บาดแผลบนเอวของมู่ฉีหลินยังไม่หายสนิท ทว่าเวลาขยับตัวก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดแล้ว นับตั้งแต่วันที่สุ่ยเซียนพูดความในใจออกมา การใช้ชีวิตของพวกเขายังคงดำเนินไปอย่างปกติ เหมือนการสารภาพครั้งนั้นไม่เคยเกิดขึ้น นั่นทำให้มู่ฉีหลินเกิดความกังวล กลัวว่าความหวานล้ำในวันนั้นอาจจะเป็นแค่ความฝัน และเป็นเขาเองที่ละเหม่อมเพ้อไปฝ่ายเดียว หลังมื้อเย็นของวันนี้ มู่ฉีหลินเดินออกมานอกจวน ภายนอกอาจดูเหมือนแม่ทัพอยู่ในอารมณ์สุนทรีย์ ออกมารับลมกลางคืน แต่แท้จริงชายหนุ่มกำลังคิดไม่ตก ไม่รู้ว่าจะเริ่มสานสัมพันธ์กับฮูหยินของตนอย่างไร อากาศกลางคืนยิ่งดึกยิ่งหนาวเย็น มู่ฉีหลินหมุนปลายเท้า เดินกลับเข้าจวน ภายในห้องนอนของฮูหยินท่านแม่ทัพ สุ่ยเซียนนั่งอ่านหนังสือประโลมโลกตรงโต๊ะกลางห้อง แม้ว่าสายตาของนางจะจดจ่ออยู่บนตัวหนังสือ แต่จิตใจกลับคิดไปเรื่องอื่น หลังจากวันนั้น สุ่ยเซียนกับมู่ฉีหลินก็ยังแยกห้องนอนเหมือนเดิม ไม่มีอะไรต่างออกไป ทั้งที่พวก

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 37 บทส่งท้าย

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 37บทส่งท้าย “ม...มู่ฉีหลิน!?” ไม่เพียงถูกโอบกอดด้วยวงแขนอบอุ่น คำสารภาพครั้งที่สองทั้งหนักแน่นทั้งทรงพลัง ทำเอาสุ่ยเซียนถึงกับใจเต้นโครมคราม ตั้งแต่ที่มู่ฉีหลินกลับจวนมา ดูเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย แม้ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย และถึงจะเข้าใจยาก แต่พอทุกอย่างดำเนินมาถึงตรงนี้ สุ่ยเซียนถึงเพิ่งเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร สุ่ยเซียนยกมือขึ้นผลักอกมู่ฉีหลิน เขาส่งเสียง “อึก!” พร้อมกับสีหน้าเจ็บปวดเล็กน้อย เมื่อเห็นอย่างนั้น สุ่ยเซียนรีบกล่าวขอโทษขอโพย ด้วยเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามู่ฉีหลินยังบาดเจ็บอยู่ “ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” “ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้เจ็บหนักขนาดนั้น อีกอย่าง เป็นข้าต่างหากที่ต้องขอโทษเจ้า...สุ่ยเซียน ข้าขอโทษที่หลอกลวงเจ้า แต่บาดแผลนี้ได้มาจากการปะทะกับกลุ่มโจรพวกนั้นเป็นเรื่องจริง” สุ่ยเซียนไม่ได้ถือสาที่ถูกหลอกลวง ขอแค่เขาไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว กระนั้น ก็ไม่วายถามด้วยความเป็นห่วง “ท่านเจ็บหรือไม่” มู่ฉีหลินส่ายหน้าตอบ

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 36 ความดีของมู่ฉีหลิน ได้รับการตอบแทนแล้ว

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 36ความดีของมู่ฉีหลิน ได้รับการตอบแทนแล้ว เป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่มู่ฉีหลินเดินทางลงใต้ ปราบโจรชั่ว และใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวง การปราบปรามโจรไม่ได้ลำบากด้านฝีมือ แต่เสียเวลากับการเดินทาง และยังยุ่งยากกับการหาที่ซ่อนตัวของพวกมัน สรุปแล้ว มู่ฉีหลินจัดการกลุ่มโจรชั่วได้อย่างเสร็จสรรพ และเป็นไปตามกำหนดการที่วางเอาไว้ ทว่า...ถ้าจะพูดถึงปัญหาคงติดอยู่เรื่องเดียว นั่นคือการได้รับบาดเจ็บระหว่างต่อสู้กับกลุ่มโจรพวกนั้น และเพราะเรื่องนี้เอง ทำให้การกลับเข้าเมืองหลวงครั้งนี้ มู่ฉีหลินไม่ได้นั่งบนหลังอาชาศึกด้วยท่วงท่างามสง่า แต่ได้นั่งๆ นอนๆ อยู่ในรถม้า ทั้งร่างกายและบนใบหน้ายังถูกพันด้วยผ้าพันแผลเต็มไปหมด “แปลกเสียจริง เหตุใดถึงไม่เห็นแม่ทัพอสูรเล่า” “จริงด้วย” “ที่ว่ากันว่า โจรชั่วพวกนั้นเป็นยอดฝีมือในยุทธภพเห็นจะเป็นเรื่องจริง” “ทำไมรึ” “ก็ถ้าไม่เห็นแม่ทัพอสูรนั่งอยู่บนหลังม้าหน้าขบวนอย่างทุกที อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะถูกโ

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 35 นั่นเรียกว่าความคะนึงหา

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 35นั่นเรียกว่าความคะนึงหา ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น ณ คฤหาสน์ตระกูลมู่ ปัง! เสียงทุบโต๊ะดังขึ้น ก่อนที่เสียงโกรธเกรี้ยวของมู่ฮูหยินจะดังตามมาทีหลัง “ทั้งที่เพิ่งแต่งภรรยาไม่นาน ฉีหลินเสนอตัวออกไปปรามโจรชั่ว เดินทางแต่ละครั้งใช้เวลาเป็นเดือนๆ ต่อให้มีปัญหากัน แต่ทำเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยรึ” ในช่วงบ่ายแก่ๆ ทันทีที่มู่ซื่อจื่อผู้เป็นสามีกลับมาถึงคฤหาสน์ บอกกล่าวเรื่องของมู่ฉีหลินบุตรชายคนรอง ซึ่งอาสาออกไปปราบกองโจรที่กำลังเป็นปัญหาในเมืองทางใต้ตอนนี้ให้ภรรยาฟัง มู่ฮูหยินก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทุบโต๊ะอย่างไม่ยั้งกำลัง ทำให้โต๊ะไม้จื่อถานสีดำที่มีความหนาเกิดรอยร้าวเล็กน้อย “ข้าเองก็กังวลใจไม่แพ้ฮูหยิน อัดอั้นอยากรีบกลับมาบอกโดยเร็ว แต่ที่กรมก็มีงานให้สะสางมากมาย อีกอย่าง ดูจากท่าทาง เหมือนฉีหลินต้องการเร่งออกเดินทางเร็วๆ พวกเราควรทำเช่นไรดี” มู่จื่อซื่อบอกและถามภรรยาในประโยคเดียวกัน “ข้าจะไปถามฉีหลินให้รู้เรื่อง” มู่ฮูหยินลุกพรวด “ช้าก่อนท่านแม่”

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 34 หวั่นไหว และ อาการของความเสียใจ

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 34หวั่นไหว และ อาการของความเสียใจ สุ่ยเซียนรู้สึกว่ากำลังถูกมู่ฉีหลินหลบหน้าอยู่? ตั้งแต่วันที่เซี่ยงจวิ้นมาเพื่อตัดความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิง ในตอนนั้นมู่ฉีหลินยื่นมือออกมาทำท่าจะคว้าสุ่ยเซียน สายตาสื่อคล้ายต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง สุ่ยเซียนตั้งใจว่าหลังกลับเข้าจวนจะถามมู่ฉีหลินให้รู้ความ รวมถึงบอกกล่าวความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซี่ยงจวิ้นที่คลี่คลายแล้ว การพูดคุยกันอย่างเปิดอก บอกกล่าวเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมา เป็นการแสดงออกอย่างบริสุทธิ์ใจในแบบของนาง ทว่า มู่ฉีหลินกลับหนีออกจากจวนไปดื้อๆ หลังจากนั้นก็เหมือนว่าจะคาดกันตลอด มู่ฉีหลินตื่นเช้ากว่าปกติ และออกจากจวนไปก่อนที่นางจะออกจากห้อง หากเช้าวันไหนบังเอิญเจอกันกลางห้องโถง เขาเพียงแค่ทักทายนางด้วยการพยักศีรษะพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ในช่วงเย็น มู่ฉีหลินจะกลับเย็นกว่าปกติ ซ้ำยังบอกว่ากินมื้อเย็นมาจากบ้านเฉินเจี๋ยซูแล้วเนื่องจากมีเรื่องสำคัญต้องปรึกษา สำหรับสุ่ยเซียน ดูอย่างไรเขาก็ตั้งใจหลบหน้านางไม่ใช่หรือ จากความสงสัยเริ่มกลายเป็

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 33 แผนของเฉินเจี๋ยซู

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 33แผนของเฉินเจี๋ยซู แม้ไม่อยากคิด แต่ก็เคยสงสัยว่าหากสุ่ยเซียนกับเซี่ยงจวิ้นตกลงปลงใจด้วยกันจริงๆ ตนจะยอมรับเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ถึงสุ่ยเซียนไม่เคยบอกว่าเลือกทางนั้น ลำพังแค่เพียงเรื่องเข้าใจผิดระหว่างมู่ฉีหลินกับนาง เหมารวมเอาความใส่ใจที่นางมอบให้มาคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นความรัก นั่นก็เพียงพอทำให้มู่ฉีหลินรู้ว่าตนเองไม่ได้เข้มแข็งเลยสักนิด ความรู้สึกที่มาไกลทำให้มู่ฉีหลินเจ็บปวดและอับอายทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับสุ่ยเซียน ยิ่งต้องมาทนเห็นนางออกไปพบเซี่ยงจวิ้นก็ยิ่งยอมรับไม่ได้ จึงเป็นฝ่ายหนีออกจากจวนทางประตูหลังเพื่อหลบไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง รู้ตัวอีกที มู่ฉีหลินก็มาหยุดอยู่หน้าบ้านของเฉินเจี๋ยซูเสียแล้ว ตั้งแต่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มั่นคง เฉินเจี๋ยซูก็ย้ายออกจากตระกูลใหญ่เพื่อมาอยู่คนเดียว ด้วยการซื้อบ้านหลังเล็กในตรอกที่เงียบสงบ ถึงกระนั้น ชายหนุ่มตัวคนเดียวและรักสันโดษอย่างเฉินเจี๋ยซูหาได้ขาดตกบกพร่องเรื่องอาหารการกินแต่อย่างใด เพราะมารดาของเขามักจะทำอาหารและส่งมาให้ลูกชายอยู่เ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status