Share

ตอนที่ 6 ชดเชย

last update Last Updated: 2025-12-11 09:19:01

ตอนที่ 6 ชดเชย

เพียงสบตากันในเสี้ยวลมหายใจนั้น

บุรุษผู้นั้น ก็รับรู้ได้ทันทีว่า นางรู้จักเขา

มือเรียวยาวสะบัดเล็กน้อย

จากนั้น

โลกทั้งใบคล้ายหยุดเคลื่อนไหว เสียงลม เสียงน้ำ เสียงผู้คน... ล้วนเงียบหายไปหยุดห้วงเวลา

เหลือเพียงดวงตาสองคู่ที่ประสานกันกลางหมอกแดดราง ๆ

แววตาของนางเต็มไปด้วยความตกตะลึงและระแวดระวัง

ส่วนแววตาของเขา... เย็นเยียบและลึกล้ำจนยากหยั่งถึง

คล้ายรอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนมุมปาก แต่กลับทำให้บรรยากาศรอบตัวเย็นวูบลงอย่างประหลาด

บุรุษผู้นั้นก้าวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ

ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่มองไม่เห็น

เมื่อระยะห่างเหลือเพียงไม่กี่ก้าว เขาหยุดตรงหน้ามู่หว่านเหยา

“เจ้าเป็นผู้ใด... เหตุใดรู้จักข้า”  เสียงของเขาดังขึ้นต่ำและชัดเจน ราวกับเสียงสะท้อนจากก้นบึ้งแห่งหุบเหว

คำถามนั้นแฝงแรงอำนาจจนแม้เพียงลมหายใจก็คล้ายหยุดไหลเวียน

แต่ทั้งที่เอ่ยถาม ชายหนุ่มกลับไม่รอคำตอบจากนางเลย

ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาเพียงสะบัดเบา ๆ —

แรงลมอันเย็นวาบพุ่งเข้าหามู่หว่านเหยาอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่นางจะทันรู้ตัว

สติของนางดับวูบ ร่างทั้งร่างทรุดลงราวสายลมถูกสูบออกจากอก

ชายหนุ่มยื่นมือข้างหนึ่งแตะลงกลางหน้าผากนาง

แสงสีเงินสว่างวาบขึ้น  พลังวิญญาณแทรกซึมเข้าสู่กาย

ภาพมากมายพรั่งพรูเข้ามาในห้วงจิตของเขา

เมื่อภาพทั้งหมดเลือนหายไป ความจริงก็ค่อย ๆ ปรากฏ

แววตาของบุรุษผู้นั้นเย็นลงเล็กน้อย

“ไม่ใช่นาง... ไม่ใช่ผู้ที่ข้าตามหา”

น้ำเสียงนั้นแผ่วแผ่วแต่กรีดลงในอากาศอย่างเฉียบคม

เขาคลายมือออกจากหน้าผากหญิงสาว ปลายนิ้วแตะอีกครั้งส่งพลังบางเบาเข้าสู่ร่าง

ลมหายใจของมู่หว่านเหยาเริ่มกลับคืน นางกระพริบตาถี่ ๆ ราวกับเพิ่งตื่นจากความฝัน

“นี่...ท่านทำอะไรข้า...”

เสียงนางสั่นพร่า ดวงตาเบิกกว้างด้วยความมึนงง

บุรุษผู้นั้นมองมู่หว่านเหยาที่เพิ่งลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตานางยังพร่าเลือนเหมือนคนเพิ่งถูกดึงกลับจากห้วงลึกแห่งความฝัน

“ข้าเป็นผู้ทำให้เจ้าพลาดชะตาชีวิตที่ควรมีในภพเดิม...”

“เจ้าต้องการสิ่งใด ข้าจะชดเชยให้”

แสงบางอย่างแผ่วลงจากปลายนิ้วของเขา ก่อนที่ร่างสูงจะค่อย ๆ ถอยห่าง เสียงของเขาแว่วอยู่ในอากาศ  เย็นเยียบแต่ชัดเจนราวเสียงกระซิบจากสวรรค์หรือยมโลก

“จำไว้... สิ่งที่เจ้าขอ...ต้องเป็นสิ่งที่พรสวรรค์ของมนุษย์ผู้หนึ่งสามารถมีได้”

หลังถ้อยคำสุดท้ายนั้นจบลง ร่างของบุรุษผู้นั้นก็จางหายไปกลางสายหมอก เหมือนไม่เคยปรากฏอยู่ตรงนั้นมาก่อน

เหลือเพียงลมเย็นวูบหนึ่งที่พัดเอาเส้นผมของมู่หว่านเหยาให้ปลิวไหว

นางยกมือแตะขมับ พลันรู้สึกเวียนศีรษะราวกับโลกทั้งใบหมุนช้า ๆ เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างหลัง

“หว่านเหยา เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

หานเจ๋อรีบก้าวเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความห่วงใย

มู่หว่านเหยาพยายามฝืนยิ้มบาง ๆ

“ข้า... คงใช้แรงมากไป รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย”

ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนจะยื่นมือมาพยุงนางขึ้นอย่างแผ่วเบา

“เช่นนั้น... กลับกันเถอะ อย่าฝืนเลย”

นางพยักหน้าช้า ๆ พยายามไม่แสดงอาการผิดปกติ

แต่ในใจกลับยังคงได้ยินเสียงนั้นสะท้อนอยู่ในหู

“สิ่งที่เจ้าขอ... ต้องเป็นสิ่งที่มนุษย์ผู้หนึ่งสามารถมีได้”

คำพูดนั้นคล้ายฝังลงในห้วงจิตของนาง ราวกับเป็นตราประทับแห่งชะตาที่เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

พอทั้งคู่กลับมาถึงเรือน หานเจ๋อเห็นสีหน้าของมู่หว่านเหยาไม่สู้ดี ก็รีบเอ่ยอย่างร้อนรนเต็มไปด้วยความห่วงใย  “เจ้าเข้าไปพักผ่อนในเรือนเถอะ ข้าจะเตรียมทำกับข้าวเอง”

หว่านเหยาเพียงพยักหน้าเบา ๆ ก่อนเดินเข้าไปในเรือนด้วยก้าวที่แผ่วช้า  ดวงตาของนางล่องลอย คล้ายยังถูกตรึงอยู่กับเหตุการณ์ที่ริมลำคลอง

เมื่อปิดประตูเรือนลง ความเงียบก็โอบล้อมรอบตัว

นางนั่งลงบนตั่งไม้ สูดลมหายใจลึก ๆ

พยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดอีกครั้ง

บุรุษผู้นั้น…

พลังของเขาไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้

และคำพูดสุดท้ายยังดังก้องอยู่ในหู  “สิ่งที่เจ้าขอ ต้องเป็นสิ่งที่พรสวรรค์มนุษย์ผู้หนึ่งสามารถมีได้”

หากเขามีพลังมากถึงเพียงนั้น นางจะขออะไรดีเล่า?

นางตั้งใจแต่แรกว่าจะใช้ความรู้จากโลกเดิมทำมาหากิน

อย่างน้อยสติปัญญาที่ติดตัวมาก็คงช่วยให้ไม่อดตาย

แต่เมื่อมี “โอกาส” อยู่เบื้องหน้า

เช่นนี้แล้ว… จะปล่อยผ่านได้อย่างไร?

นิ้วเรียวแตะคางเบา ๆ นางเริ่มไล่เรียงความคิดทีละข้อ

“ความฉลาด?..ชาติก่อนอย่างน้อยนางก็นับเป็นบุคลากรทางการแพทย์  ชาตินี้ไปเป็นหมอเทวดาดีกว่า” 

แต่เพราะนางเป็นสตรี ในยุคโบราณ หนทางลำบากเกินไป

“ความโชคดี?” นางชะงักไปเล็กน้อย  อันนี้…ฟังดูดี

โชคดีทำอะไรก็ราบรื่น เสี่ยงอะไรน้อยก็ได้ผลมาก

เปิดแปลงผักก็เติบโตดี ขายของก็คล่องตัว

แม้ถูกใส่ร้ายยังอาจพลิกกลับมาดีได้

“พละกำลัง?...แล้วไปเป็นแม่ทัพหญิงยิ่งใหญ่” 

นางส่ายหน้าในทันที

“ไม่เอา…เหนื่อย”  นางเกิดใหม่แล้ว ไม่คิดใช้ชีวิตให้หลังขดหลังแข็งเช่นผู้ขายแรงงานแน่

มู่หว่านเหยานั่งนิ่งอยู่บนตั่งไม้

ความคิดในหัวพรั่งพรูไปมาไม่หยุด

แสงเย็นยามเย็นลอดผ่านช่องหน้าต่างสาดลงบนพื้นเรือน เงาสั่นไหวของเปลวไฟจากเตาในครัวด้านนอกดังเป็นจังหวะเบา ๆ

นางค่อย ๆ สูดลมหายใจอย่างช้า ๆ

“จะขอพรสิ่งใด… เพื่อให้ชีวิตข้าในภพนี้ไม่ต้องลำบาก”

นางค่อย ๆ ไล่ความคิดทีละข้อ 

ความฉลาด…ความโชคดี…ความจำ…แต่ล้วนมีข้อจำกัดของมันเอง   

จวบจนท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิทราวถูกหมึกทาลงบนผืนผ้าไหม

เงาดาวอ่อน ๆ เริ่มปรากฏ

ทว่าความคิดในหัวของมู่หว่านเหยา…ยังไม่หยุดลงแม้แต่น้อย

“พรหนึ่งข้อ…ที่ต้องคุ้มค่าที่สุดในชีวิต…”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาโฉมงามของชาวนา   ตอนที่ 8 เสียศักดิ์ศรีไม่ได้

    ตอนที่ 8 เสียศักดิ์ศรีไม่ได้ บรรยากาศหลังมื้อค่ำยังอุ่นอบอวลด้วยกลิ่นไม้สดจากกองฟืนที่หานเจ๋อกำลังผ่าดัง พั่ก…พั่ก เป็นจังหวะสม่ำเสมอมู่หว่านเหยานั่งอยู่บนตั๋งเล็ก ๆ มือรองคางสายตาของนางจับจ้องไปยัง กล้ามอกกว้างที่ขยับตามแรงฟันฟืนแผ่นหลังแข็งแรงกำยำลำแขนที่เต็มไปด้วยพลังจากการทำงานหนักทั้งวันสายตาของนางไล่ลงต่ำอย่างเผลอตัวหยุดอยู่ตรง “ช่วงท้องแข็งแกร่ง” ที่โผล่พ้นสาบเสื้อออกมานิด ๆแน่น…และคงหนักหน่วงไม่น้อยเวลาถูกกอดรัดความคิดนั้นแล่นวาบขึ้นมาจนลำคอหว่านเหยาร้อนผ่าวนางต้องลอบกลืนน้ำลายเบา ๆปลายหูแดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัวบุรุษผู้นี้ไม่เพียงหน้าตาดียังซื่อสัตย์ อ่อนโยน รักมั่น…บุรุษดีถึงเพียงนี้ มันควรต้องได้ครอบครองเขาไว้กับตัวและพอนางได้พรข้อนั้น นางจะเลี้ยงดูเขาเองเขาจะต้องกลายเป็นของนาง อ่า...แต่จะให้โถมใส่ตรง ๆ ก็ดูไม่งามสำหรับสตรีเสียศักดิ์ศรีแย่มู่หว่านเหยากัดริมฝีปากเบา ๆสายตาหรี่ลงอย่างนึกหาวิธี“จะเริ่มอย่างไรดีนะ…”นางเอียงศีรษะเล็กน้อยราวกับคิดแผนร้ายที่หอมหวานรอยยิ้มจาง ๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปากยิ้มแบบสตรีที่ตั้งใจจะ “ล่อลวง”สามีของตนเองให้หลงจนหมด

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาโฉมงามของชาวนา   ตอนที่ 7 ญาณพิเศษ

    ตอนที่ 7 ญาณพิเศษ หานเจ๋อวางถาดอาหารลงบนโต๊ะไม้เก่าอย่างเบามือ แต่หญิงสาวบนตั่งกลับยังมองออกไปนอกหน้าต่างราวสติล่องลอยอยู่ที่อื่นเขาจึงเอ่ยเสียงทุ้มอ่อน“คิดอะไรอยู่หรือ”มู่หว่านเหยากระพริบตา ดึงความคิดกลับมาจากห้วงลึกนางหันไปมองเขาเล็กน้อยก่อนตอบอย่างเก้อเขิน “คิดเพลินไปหน่อย…ท่านทำมื้อเย็นเสร็จแล้วหรือ ข้าแย่จริง ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”หานเจ๋อส่ายหน้าเบา ๆน้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใยจนอบอุ่นคล้ายผ้าห่มในฤดูหนาว “ไม่เป็นไรหรอก เรื่องเท่านี้ข้าทำได้ เจ้าพึ่งหายป่วย ออกไปตลาดทั้งวันแล้วยังช่วยเด็กคนนั้นอีก”เขาหยุดเล็กน้อย ก่อนเอ่ยช้า ๆ เน้นทุกคำด้วยความใส่ใจ“เจ้าควรพัก…พักให้มาก ๆ ด้วยซ้ำ”เขาผลักถ้วยอาหารเข้าหานาง “มากินข้าวเถอะ จะได้รีบพักผ่อน” คำพูดเรียบง่ายแต่แฝงความอ่อนโยนของหานเจ๋อทำให้มู่หว่านเหยาหลุบตาลงความวุ่นวายทั้งวันที่พัดพาเข้ามาเหมือนลมแรง ค่อย ๆ สงบลงราวกับถูกมืออบอุ่นปลอบประโลมให้เงียบเสียงอนาคตของนางกับบุรุษผู้นี้…จะเป็นเช่นไรนะความคิดผุดวาบขึ้นมาราวควันบาง ตีวงในอกนางเบา ๆพลันความทรงจำจากชาติเดิมก็แล่นเข้ามาหากเป็นเมื่อก่อน…นางคงโทรหามินตริตา ชวนก

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาโฉมงามของชาวนา   ตอนที่ 6 ชดเชย

    ตอนที่ 6 ชดเชยเพียงสบตากันในเสี้ยวลมหายใจนั้นบุรุษผู้นั้น ก็รับรู้ได้ทันทีว่า นางรู้จักเขามือเรียวยาวสะบัดเล็กน้อยจากนั้นโลกทั้งใบคล้ายหยุดเคลื่อนไหว เสียงลม เสียงน้ำ เสียงผู้คน... ล้วนเงียบหายไปหยุดห้วงเวลาเหลือเพียงดวงตาสองคู่ที่ประสานกันกลางหมอกแดดราง ๆแววตาของนางเต็มไปด้วยความตกตะลึงและระแวดระวังส่วนแววตาของเขา... เย็นเยียบและลึกล้ำจนยากหยั่งถึงคล้ายรอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนมุมปาก แต่กลับทำให้บรรยากาศรอบตัวเย็นวูบลงอย่างประหลาดบุรุษผู้นั้นก้าวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่มองไม่เห็นเมื่อระยะห่างเหลือเพียงไม่กี่ก้าว เขาหยุดตรงหน้ามู่หว่านเหยา“เจ้าเป็นผู้ใด... เหตุใดรู้จักข้า” เสียงของเขาดังขึ้นต่ำและชัดเจน ราวกับเสียงสะท้อนจากก้นบึ้งแห่งหุบเหวคำถามนั้นแฝงแรงอำนาจจนแม้เพียงลมหายใจก็คล้ายหยุดไหลเวียนแต่ทั้งที่เอ่ยถาม ชายหนุ่มกลับไม่รอคำตอบจากนางเลยปลายนิ้วเรียวยาวของเขาเพียงสะบัดเบา ๆ —แรงลมอันเย็นวาบพุ่งเข้าหามู่หว่านเหยาอย่างรวดเร็วก่อนที่นางจะทันรู้ตัวสติของนางดับวูบ ร่างทั้งร่างทรุดลงราวสายลมถูกสูบออกจากอกชายหนุ่มยื่นมือข้างหนึ่งแตะลงกล

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาโฉมงามของชาวนา   ตอนที่ 5 นินทา

    ตอนที่ 5 นินทารุ่งเช้าแสงแดดยังอ่อนจัดจ้าผ่านม่านหมอกบาง ๆ ที่คลี่คลุมท้องนาเสียงไก่ขันแว่วจากเรือนใกล้ ๆ ตามด้วยเสียงควายลากไถจากทางหมู่บ้าน มู่หว่านเหยาเก็บตะกร้าหวายใบเล็กใส่เหรียญเงินที่หานเจ๋อมอบให้เมื่อคืน แล้วคลุมผ้าบางสีอ่อนคล้ายแพรทอมือเมื่อออกมาหน้าเรือน หานเจ๋อก็ยืนรออยู่ก่อนแล้วเขายิ้มบาง ๆ หว่านเหยายิ้มตอบกล่าว “ไปกันเถอะ”น้ำเสียงของนางนุ่มนวลขึ้นกว่าทุกวันจนหานเจ๋อสติแทบจะล่องลอยทั้งสองเดินเคียงกันไปตามทางดินเลียบคันนาหยาดน้ำค้างเกาะบนยอดหญ้าเป็นประกาย สายลมเช้าเย็นสบายจนผมของหญิงสาวปลิวระเริง เสียงล้อเกวียนจากระยะไกลดังเอื่อย ๆ ประสานกับเสียงพูดคุยของชาวบ้านที่พากันมุ่งหน้าไปตลาดเช่นเดียวกันตลาดหมู่บ้านตั้งอยู่กลางลานกว้าง มีทั้งแม่ค้าขายผัก ผลไม้ ไข่เป็ดไข่ไก่ รวมถึงเครื่องปั้นดินเผาและผ้าทอมือกลิ่นขนมถั่วบดและแป้งทอดลอยคลุ้งชวนให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้านแม้ มู่หว่านเหยา จะแต่งกายเรียบง่าย ผ้าฝ้ายสีอ่อนทอด้วยมือ ผมถักเปียม้วนขึ้นอย่างเรียบร้อย ทว่ากิริยาท่าทางของนางกลับแฝงความอ่อนช้อยสง่างามอย่างยากจะปิดบังได้แต่ละก้าวเดินของนางมีระเบียบ เรียบละเมียด เป็น

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาโฉมงามของชาวนา   ตอนที่ 4 รับไมตรี

    ตอนที่ 4 รับไมตรีหานเจ๋อกลับมาถึงเรือนยามเย็นพอเห็นมู่หว่านเหยากำลังขุดแปลงดินอยู่ด้านหลัง ก็รีบวางของในมือลงแล้วก้าวเข้าไปหา“เจ้าทำอะไรน่ะ ทำไมไม่รอข้า”เขาเอ่ยเสียงเต็มไปด้วยความตกใจและเป็นห่วงมู่หว่านเหยาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก พลางยิ้มบาง “ข้าแค่อยากเตรียมแปลงไว้ก่อน จะได้ปลูกพืชทันฝนหน้า”นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเบา ๆ “แต่ตอนนี้...ข้ายังไม่มีเมล็ดพันธุ์ หากท่านพอมีเงินสักเล็กน้อย ข้าขอไว้ซื้อหรือแลกเมล็ดปลูกได้หรือไม่”หานเจ๋อชะงักไปทันที ดวงตาเบิกเล็กน้อย ราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้“ข้าไม่รอบคอบเอง...”เขาพูดพลางรีบเดินเข้าเรือน ไม่นานก็กลับออกมาพร้อมถุงผ้าขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในช่องไม้ตรงมุมผนังเขาวางมันลงบนมือของนางอย่างไม่ลังเล“นี่คือเงินทั้งหมดที่ข้ามี เจ้าอยากใช้ทำสิ่งใดก็แล้วแต่ใจจะซื้อเมล็ดพันธุ์หรือของจำเป็นอื่น ๆ ก็ได้ทั้งนั้น ข้าเชื่อเจ้า”มู่หว่านเหยาชะงักไปเล็กน้อย มองถุงเงินในมืออยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกบางอย่างแผ่วผ่านในอก ทั้งซาบซึ้งทั้งเกรงใจหานเจ๋อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปจึงเอ่ยเสียงนุ่ม“เจ้าไปนั่งพักเถอะ ตรงนี้ข้าจะทำต่อเอง”น้ำเสียงนั้นเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอ

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาโฉมงามของชาวนา   ตอนที่ 3 โชคชะตานำพา

    ตอนที่ 3 โชคชะตานำพานางจ้องมองใบหน้าเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่สั่นจากความรู้สึกที่บอกไม่ถูก“เหตุใด...เหตุใดเจ้าจึงต้องดีกับข้าเพียงนี้...”คำถามนั้นมิใช่เพียงการสงสัยในความหวังดีของเขาหากแต่เป็นการถามถึงโชคชะตาที่ทำให้นางได้พบคนอย่างหานเจ๋อหานเจ๋อชะงัก เขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะเอ่ยถามเขาหลบสายตาหญิงสาว แล้วเอ่ย“เจ้าคงจำข้าไม่ได้...เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ข้าประมาณแปดขวบ เกือบถูกรถม้าของเจ้าชน..คนขับรถตำหนิที่ข้าไม่ดูทางให้ดี เป็นเจ้าที่ออกปากปกป้องแล้วยังแบ่งขนมจากหอชิวอี้ให้ข้า” หว่านเหยาเริ่มจำได้ลาง ๆ ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เหตุการณ์นั้นมีอยู่จริงภาพเด็กชายตัวเล็กที่ล้มอยู่กลางถนน เสียงรถม้าที่หยุดกระทันหัน และขนมที่ถูกยื่นให้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน... ล้วนผุดขึ้นมาในใจอย่างช้า ๆนางเข้าใจในทันทีสำหรับเขา เด็กชายในวันนั้น คงเป็นครั้งแรกที่หัวใจสั่นไหว“รักแรกพบ...” นางพึมพำในใจอย่างแผ่วเบานับแต่นั้น หานเจ๋อคงเฝ้ามองนางมาโดยตลอด แม้ระยะทางระหว่างชนชั้นจะไกลเพียงใด เขาก็ยังเก็บภาพนั้นไว้ในใจ...ไม่เคยลืมเลยแม้เพียงวันเดียวเป็นรักที่อบอุ่นจริงๆ เสียดายสตรีผู้น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status